ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {SS2} [EXO] My Baby พี่รหัสของผม | HUNBAEK

    ลำดับตอนที่ #6 : chapter 4 : Let's me to know you more (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.51K
      21
      31 ม.ค. 62


    Chapter 4 :  Let's me to know you more

     

    \
    CR.SQW
     

     

     

     

    งืมๆๆๆ

     

    เปลือกตาบางขยับเล็กน้อยเพราะถูกแสงจากหน้าต่างกระทบเข้ามา ดวงตาเรียวค่อยๆลืมขึ้นก่อนจะปิดลงอีกครั้งเพราะสู้แสงจ้าไม่ไหว

     

    ที่นี่ที่ไหน?

     

    คำถามแรกผุดขึ้นมาในหัวหลังจากที่ลืมตาขึ้นมาสายตาเรียวมองไปรอบๆห้องที่ไม่ค่อยคุ้นตา ก่อนที่สมองจะเรียบเรียงเหตุการณ์ต่างๆได้ ใช่แล้ว เขามาอยู่ห้องน้องรหัส

     

    แบคฮยอนดันตัวขึ้นจากโต๊ะก่อนที่เสื้อแจ็คเก็ตสีดำจะหล่นออกจากไหล่ของเขาไปกองอยู่ที่พื้น มือเล็กหยิบแจ็คเก็ตสีดำขึ้นมาแล้วกวาดตามองรอบห้องเพื่อมองหาเจ้าของของมัน แต่ไม่พบอะไรเลยนอกจากความว่างเปล่า คนตัวเล็กขยี้ตาเพื่อให้สร่างจากความง่วงก่อนจะเหลือบไปเห็นกระดาษโพสอิทที่แปะเอาไว้ที่โน๊ตบุ๊คพร้อมกับข้อความในนั้น

     

    ผมออกไปเรียนแล้วนะ ถ้าพี่ตื่นมาแล้วหิวมีแซนวิชกับนมอยู่บนโต๊ะ เอานมไปอุ่นได้ กินเสร็จก็ล้างจานให้ผมด้วย อาบน้ำได้แต่ซักผ้าขนหนูไว้ให้ผมด้วย ตากด้วยนะครับ แล้วก็ถ้าจะออกไปก็ล็อคห้องด้วย ถ้าของในห้องผมหายผมจะโทษพี่คนเดียว

     

    เหอะพออ่านมาถึงตรงนี้คนตัวเล็กก็เค้นหัวเราะออกมา เขาถ่างตาทำงานให้ทั้งคืนเพื่อตื่นมาอ่านข้อความพวกนี้เหรอ?

     

    อ้อ แล้วก็ขอบคุณสำหรับงานนะครับ

     

    เด็กบ้าแบคฮยอนพึมพำเบาๆหลังจากที่อ่านข้อความในโน้ตจบ ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรกับประโยคสุดท้ายที่เหมือนจะดีแต่ข้อความก่อนหน้าแย่มาก เหมือนโดนตบหัวแล้วลูบหลัง ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้แบคฮยอนกำลังยิ้มอยู่ ตอนนี้เขาได้เห็นน้องรหัสของเขาในอีกหลายๆมุม ไม่ใช่แค่ทำหน้าเบื่อโลกไปวันๆ

     

    ขาเรียวย้ายตัวเองไปยังโต๊ะกินข้าว เปิดจานที่ปิดอยู่ออกก่อนจะพบแซนวิชกับนมหนึ่งแก้ว แซนวิชนี้เหมือนไม่ได้ซื้อสำเร็จรูปด้วย แต่เหมือนคนตัวสูงเป็นคนทำมันเอง ถึงหน้าตาจะไม่ได้สวยมาก แต่ก็น่ากินไม่น้อยเลย แบคฮยอนหยิบมันขึ้นมาก่อนจะกัดไปหนึ่งคำพลางนึกถึงใบหน้านิ่งๆของอีกคนตอนประกบแซนวิชด้วยความตั้งใจ แทบจะนึกภาพไม่ออกเลยจริงๆว่ามันเป็นยังไง

     

     

     

     




     

     

     



     

    (ขอโทษจริงๆนะเว้ย เมื่อวานมันกะทันหันมากอ่ะ)

     

    น่าเห็นใจก็จริงแต่มึงก็ต้องสำนึกด้วยนะว่ามึงผิด

     

    (กูรู้ว่าทำให้พวกมึงวุ่นวายกันไปหมด ก็ขอโทษแล้วนี่ไง เดี๋ยวงานหน้ากูรับผิดชอบทำงานทั้งหมดเอง)

     

    เออไม่ต้องอ่ะ แค่นี้มึงยังเอาตัวเองไม่รอดเลย ขืนมอบหมายงานทั้งหมดไว้กับมึง มีหวังได้พังพินาศกันพอดี

     

    (เกินไป…)

     

    แล้วแม่มึงเป็นไงบ้าง?”

     

    (ดีขึ้นแล้ว กูว่าจะอยู่ดูอาการแม่อีกซักสองสามวันแล้วจะกลับไปอ่ะ)

     

    เออๆ ขอให้แม่หายไวๆนะ

     

    เออ ขอบใจเว้ย แค่นี้ก่อนนะ กูไปดูแม่ก่อนจงอินวางสายโทรศัพท์แฝดผิวขาว หลังจากการพรีเซนผ่านไปได้ด้วยดีโดยไม่มีแทมิน ในส่วนการพรีเซนของแทมิน เซฮุนก็เป็นคนพูดแทนทั้งหมด ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังนั่งพักอยู่ที่ม้าหินใต้คณะหลังจากเรียนคาบเช้าเสร็จ จงอินเลยโทรหาแทมินเพื่อถามไถ่ตัวมันกับอาการแม่ด้วย

     

    มันว่าไงบ้าง?” เซฮุนหันไปถามจงอิน

     

    จะดูอาการแม่สองสามวันค่อยกลับอ่ะ

     

    อืมเซฮุนตอบรับ ก่อนที่จงอินจะสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเพื่อนตัวเอง

     

    มึงเป็นอะไรวะ ดูเหม่อๆจงอินถามเพราะเห็นว่าคนตัวสูงนั่งเงียบๆเหมือนคิดอะไรมานาน

     

    เปล๊า

     

    เสียงสูงเชียวนะมึง

     

    ถึงจะตอบไปแบบนั้น แต่เซฮุนก็ปฏิเสธตัวเองไม่ได้ว่ากำลังนึกถึงคนที่นอนอยู่ที่ห้องตัวเอง ป่านนี้จะตื่นหรือยัง แล้วตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่

     

     

    ที่นึกถึงเพราะเป็นห่วงที่ห้องหรอกนะ กลัวว่าจะทำอะไรป่วนๆอีก...

     

     

    สวัสดีจ้าาา เจ๊ชื่อซูซี่นะจ๊ะ น้องสุดหล่อสนใจจะลงประกวดเดือนคณะมั้ยเอ่ยเสียงแป๋นแหลนของสาวประเภทสองคนหนึ่งดังขึ้น เจ้าหล่อนตั้งใจเดินตรงเข้ามาจู่โจ่มเด็กหนุ่มทั้งสองแบบประชิดตัว ทั้งเซฮุนและจงอินตกใจเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองหน้ากัน

     

    เจ๊หมายถึงผมหรือเขาอ่ะจงอินถามรุ่นพี่ด้วยท่าทางงงๆ

     

    หมายถึงทั้งสองคนแหละจ้า สนใจมั้ยล่ะ? ถ้าชนะ เจ๊จะให้รางวัลอย่างดีเลยเจ๊ซูซี่เดินเข้ามาเกาะไหล่เด็กหนุ่มทั้งสองคน ก่อนจะใช้มือลูบๆที่แผงอกของทั้งคู่

     

    อ๋อ ไม่ล่ะครับ ผมขอตัวนะครับ

     

    เอ้า จะรีบไปไหนล่ะ กลับมานี่ก่อน โอ้ยยยเซฮุนรีบคว้าจงอินวิ่งออกมาจากตรงนั้น หนีมาไกลพอสมควรก่อนจะมานั่งพักเหนื่อยตรงใต้ต้นไม้ใหญ่อีกฝั่งหนึ่งของคณะ

     

    โอ้ย เหนื่อยเว้ย วิ่งช้าๆหน่อยก็ได้จงอินพูดพลางหอบหายใจหนัก หลังจากที่วิ่งหนีออกมาด้วยความเร็วระดับสี่จี

     

    ไม่ได้หรอก ขืนยังอยู่ตรงนั้นถูกคะยันคะยอแน่ๆอ่ะ

     

    แล้วมึงไม่สนใจเหรอวะ? เดือนคณะเลยนะเว้ย

     

    มึงก็ไปเองสิ กูไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก

     

    เหอะ ไม่เอาหรอก เดี๋ยวโดนเจ๊จับกินเด็กหนุ่มผิวเข้มไหวไหล่เมื่อนึกถึงเจ๊คนเมื่อกี้ที่จู่โจมแบบถึงเนื้อถึงตัว ถ้าเจ๊แกมาแบบดีๆ พวกเขาอาจจะไม่ตกใจขนาดนี้ก็ได้

     

     

     

     




     

     

     



     

    ขอต้อนรับนักศึกษาทุกคนเข้าสู่งานเปิดโลกชมรมนะครับ ใครสนใจชมรมไหนก็สมัครเข้าเป็นสมาชิกได้เลยนะครับ รับประกันความสนุกทุกชมรมเลยครับ

     

    เสียงตามสายของมหาวิทยาลัยดังขึ้น ในวันนี้เป็นวันเปิดโลกชมรม นักศึกษาปีหนึ่งหลายๆคนก็ให้ความสนใจกับงานนี้ รวมถึงเด็กหนุ่มทั้งสองคน เอาจริงๆแล้วเซฮุนก็ไม่ได้สนใจอะไรขนาดนั้น เพียงแต่มาเป็นเพื่อนจงอิน เพราะไอ้ดำมันตื๊อไม่เลิก

     

    มึงสนใจชมรมไหนเป็นพิเศษป่ะ?” จงอินหันมาถามเซฮุนที่เดินอยู่ข้างๆ

     

    ไม่อ่ะ ตามใจมึง กูมาเป็นเพื่อนเฉยๆ

     

    ตามใจกูแน่นะ?”

     

    อืม

     

    กูอยากเข้าชมรมฟุตบอล มึงโอเคป่ะ?”

     

    กูโอเค

     

    ดี งั้นไปกันเถอะจงอินลากเซฮุนมุ่งหน้าไปยังสนามฟุตบอล คนตัวสูงก็แค่เดินตามไป เพื่อนไปที่ไหนเขาก็ไปด้วย

     

     



     

     


     

     



     

     

    ไงมึง ได้ข่าวว่าเมื่อคืนทำน้องเกือบตายจงแดเดินเข้ามาทักพร้อมตบบ่าคนตัวเล็ก

     

    เรื่องตลกเหรอ?” แบคฮยอนหันมองจงแดตาขวาง เขารู้สึกไม่ค่อยดีอยู่ ยังจะมาตอกย้ำกันอีก

     

    ขอโทษ ล้อเล่นเองจงแดยอมขอโทษเพราะเห็นว่าแบคฮยอนดูจริงจังมากกว่าทุกที

     

    พูดมากนะมึงอ่ะ กลับไปชมรมมึงไปหาพี่มินซอกอะไรนั้นไป๊คยองซูเขกกะโหลกจงแดไปหนึ่งทีโทษฐานพูดจาไม่คิด ก่อนจะไล่ให้กลับชมรมตัวเอง มาเผือกชมรมคนอื่นยังพูดจาไม่ดีอีก

     

    ไม่เป็นไรนะมึง ไอ้จงแดมันก็เป็นอย่างนี้ พูดไม่คิด

     

    อืออ

     

    ไปช่วยเพื่อนที่โต๊ะสมัครกันเถอะ น้องเริ่มทยอยมาล่ะคยองซูดันไหล่แบคฮยอนแล้วกอดคอเดินไป

     

    พอเดินออกไปที่หน้าสนามสายตาเรียวก็เหลือบไปเห็นชานยอลที่กำลังยุ่งวุ่นวายกับการเตรียมการและเตรียมอุปกรณ์ต่างๆสำหรับการเปิดชมรมในวันนี้ แบคฮยอนจึงเดินตรงเข้าไปหาชานยอล

     

    พี่ชานยอลมีอะไรให้แบคช่วยมั้ย?” แบคฮยอนถามขึ้น เพื่อว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้าง

     

    ช่วยเป็นกำลังใจให้พี่ก็พอครับเอาอีกแล้ว หน้าแดงอีกแล้ว แบคฮยอนปั้นหน้านิ่งทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร ก่อนหันหน้าหนีเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นหน้าแดงของเขา

     

    ชานยอลยิ้มกว้างเมื่อเห็นอีกคนทำท่าทางตลกๆ เขารู้ว่าแบคฮยอนกำลังกลบเกลื้อนความเขิน เขารู้ว่าแก้มกลมๆที่ขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อนั่นเกิดขึ้นเพราะเขา ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชัดเจน สิ่งที่เขาทำและคำพูดของเขามันชัดเจนมากพออยู่แล้วที่จะทำให้ใครๆหรือแม้แต่แบคฮยอนรู้ ว่าเขาชอบคนตัวเล็กเอามากๆ เขาคิดว่าแบคฮยอนก็คงรู้ตัวว่าเขาชอบ และแน่นอนว่าแบคฮยอนก็ชอบเขา เพียงแต่เขาอยากให้ทุกอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไป อยากให้เราทั้งสองมั่นใจซึ่งกันและกันก่อน เขากำลังรอคอยเวลาที่เหมาะสม เวลาที่เขาจะบอกกับทุกคนบนโลกใบนี้ว่า เขารักแบคฮยอน

     

     

     

     




     

     

     

     



    น้องๆที่เขียนใบสมัครเสร็จแล้ว เข้าไปนั่งต่อแถวให้เรียบร้อยข้างในสนามเลยค่ะ ส่วนคนที่เพิ่งมาถึงมารับใบสมัครก่อนนะคะ

     

    เด็กหนุ่มสองคนยืนอยู่บริเวณหน้าสนามฟุตบอลหลังจากกรอกใบสมัครเสร็จเรียบร้อย ทจงอินกำลังตื่นตาตื่นใจกับสนามฟุตบอลที่พอมืดลงก็เปิดไฟรอบสนามเพื่อเพิ่มแสงสว่างก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นบุคคลที่เฝ้าตามหามาตลอด เจอแล้ว เขาเจอนางฟ้าม้าเต่อของเขาแล้ว

     

    เห้ยมึง เดี๋ยวกูมานะจงอินหันไปบอกคนตัวสูงก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปยังจุดหมายอย่างไม่ละสายตา คราวนี้เขาจะไม่ปล่อยให้นางฟ้าคนสวยหายเข้ากลีบเมฆไปอีกเป็นครั้งที่สองแน่

     

    สวัสดีครับ จำผมได้หรือเปล่า?” จงอินเอ่ยทักทายก่อนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

     

    พูดกับฉันเหรอ?” คยองซูชี้หน้าตัวเองพลางทำหน้างงๆที่จู่ๆก็มีคนแปลกหน้าเข้ามาทัก จำไม่ได้หรอก นายเป็นใครอ่ะ?”

     

    เราชนกันที่ห้องน้ำในผับวันก่อนไงครับ จำได้มั้ย?” จงอินพยายามรื้อฟื้นความจำให้นางฟ้าของเขา

     

    อ๋ออ จำได้ล่ะ

     

    อยู่ปีไหนเหรอครับ?”

     

    ปีสอง

     

    ชื่ออะไรเหรอครับ? ผมชื่อคิมจงอิน อยู่ปีหนึ่งภาคเครื่องกลครับ

     

    ขอโทษนะ จะมาจีบฉันใช่มะ? บอกตรงๆเลยนะว่าให้ตัดใจซะตั้งแต่ตอนนี้คยองซูทำท่าจะเดินหนี แต่ถูกอีกคนวิ่งมาดักหน้าก่อน

     

    ผมแค่อยากรู้จักน่ะครับ

     

    ฟังให้ดีนะ ฉัน ไม่ ชอบ ของ ดำอึ้งแดกสิครับงานนี้ เห็นน่ารักๆแบบนี้แต่ด่าทีแม่งเจ็บชิบหาย คยองซูเดินหนีออกมาอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้คนผิวเข้มยืนไปไม่เป็นอยู่ตรงนั้น

     

     



     

     


     

     



     

     

    คนตัวสูงยังคงยืนรอเพื่อนสนิทอยู่ตรงนั้น ตอนนี้เขาเริ่มหงุดหงิดนิดๆแล้ว ไอ้ดำมันมัวไปทำบ้าอะไรอยู่ไม่มาซักที

     

    เซฮุน

     

    เสียงเรียกที่คุ้นหูดังขึ้นก่อนที่คนตัวสูงจะหันไปตามเสียงเรียกแล้วพบกับบุคคลที่ช่วงนี้ชอบนึกถึงอยู่บ่อยๆแต่ไม่ค่อยอยากเจอซักเท่าไหร่

     

    ทำชีวิตเขาวุ่นวายไปหมด

     

    นายมาอยู่นี่ได้ไง? มาอยู่ชมรมนี้เหรอ?” แบคฮยอนถาม

     

    ครับ แล้วพี่ล่ะ อยู่ชมรมนี้เหมือนกันเหรอ?” เซฮุนถามกลับด้วยสายตาไม่เชื่อ อย่างแบคฮยอนน่ะเหรอจะมาเล่นเตะฟุตบอล มันดูไม่ใช่อ่ะ

     

    ใช่แล้ว

     

    งั้นผมเปลี่ยนชมรมทันป่ะ ไม่อยากอยู่แล้วอ่ะปากก็พูดไปอย่างนั้น แต่จริงๆแล้วคนตัวสูงแค่อยากพูดจากวนๆดูการตอบสนองตลกๆของอีกฝ่ายเท่านั้น

     

    ได้ไงอ่ะ สมัครแล้วห้ามเปลี่ยนใจนะ มานี่เลย เข้าไปข้างในได้แล้ว พี่ๆจะเริ่มชี้แจ้งเกี่ยวกับชมรมแล้ว

     

    เดี๋ยวสิ เพื่อนผมยังไม่มาเลยเซฮุนรั้งตัวเองไว้เมื่อถูกคนตัวเล็กดึงให้เดินไป

     

    อ่าว แล้วเพื่อนนายไปไหนล่ะ?” แบคฮยอนหันมองไปรอบๆก่อนจะพบเด็กหนุ่มผิวเข้มกำลังเดินสะเงาะสะแงะมาทางนี้ นั่นเพื่อนนายหรือเปล่า?”

     

    ใช่ครับเซฮุนตอบก่อนจะกวักมือเรียกจงอินให้เดินมาเร็วๆ

     

    ไปข้างในกันเถอะแบคฮยอนเดินนำเด็กหนุ่มสองคนเข้าไปในสนามฟุตบอล เมื่อเดินเข้าไปก็เห็นเด็กปีหนึ่งนั่งเรียงกันเป็นแถวโดยมีรุ่นพี่ยืนอยู่ด้านหน้า เซฮุนและจงอินเดินไปนั่ง ก่อนที่แบคฮยอนจะเดินไปอยู่ด้านหน้าข้างๆคยองซู

     

    น้องๆมากันเยอะแล้วใช่มั้ยครับ งั้นพี่จะเริ่มพูดเลยนะชานยอลผู้เป็นประธานชมรมพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มต่างจากวันปฐมนิเทศนักศึกษาที่ดูน่าเกรงขาม

     

    สวัสดีน้องๆทุกคนนะครับ พี่ชื่อปาร์คชานยอล เป็นประธานชมรมนี้ ขอต้อนรับน้องๆทุกคนเข้าสู่ครอบครัวชมรมฟุตบอลนะครับทุกคนส่งเสียงร้องและปรบมือดังสนั่นไปทั่วสนามฟุตบอล แน่นอนว่าสมาชิกชมรมส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายเพราะพวกผู้หญิงไม่ค่อยนิยมเล่นฟุตบอล ส่วนใหญ่ก็จะเข้าชมรมงานประดิษฐ์ ชมรมดนตรี หรือทำอาหาร

     

    ชมรมของเราอยู่กันเป็นครอบครัว และพวกเราต้อนรับทุกๆคนไม่ว่าจะเล่นฟุตบอลเป็นหรือไม่เป็น เพราะฉะนั้นใครที่เล่นไม่เป็นหรือไม่เก่ง ไม่ต้องกังวลนะครับชานยอลกวาดสายตามองน้องๆก่อนจะยิ้มบางๆ

     

    ชมรมของเรามีการแข่งขันด้วยนะ เป็นการแข่งประจำปีกับมหาวิทยาลัยอื่น พี่ไม่อยากจะคุยว่าทีมเราเป็นแชมป์มาสองปีซ้อนแล้วล่ะครับไม่อยากจะคุยแต่ก็โอ้อวดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจเป็นนัยๆว่าชมรมเป็นแชมป์สองสมัยตั้งแต่เขาเข้ามาอยู่ชมรมนี้

     

    ดังนั้นถ้าใครอยากจะมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมเรา ลงชื่อไว้เอาไว้เลยนะครับ เราจะฝึกซ้อมกันตั้งแต่ทักษะเบื้องต้นก่อนที่จะคัดสมาชิก เพราะฉะนั้นคนที่เล่นไม่เป็นแต่อยากจะเข้าร่วมทีมก็อาจจะมีโอกาสได้เป็นหนึ่งในสมาชิกนะครับชานยอลพยายามพูดเชิญชวนน้องๆให้เข้าร่วมทีมด้วยคำพูดที่น่าตื่นเต้น มีหลายๆคนที่สนใจอยากเข้าร่วมทีมแข่งขัน รวมถึงเซฮุนที่ก็สนใจอยู่ไม่น้อย

     

    มึงจะเข้าร่วมทีมมั้ย?” เซฮุนหันไปถามจงอินที่นั่งอยู่ข้างๆ ตอนนี้เขาดูสนอกสนใจมากกว่าไอ้คนที่ชวนเขามาที่นี่ซะอีก

     

    “….”

     

    เห้ย จงอินเซฮุนเรียกเพื่อนผิวเข้มอีกรอบเมื่อเห็นว่าเพื่อนไม่ได้ยินที่พูด

     

    ห๊ะ มึงว่าอะไรนะ?” จงอินสะดุดหลุดออกจากภวังค์ความคิดแล้วหันไปทวนคำถามเพื่อนสนิทอีกรอบ

     

    กูถามว่า มึงสนจะเข้าร่วมทีมแข่งมั้ย? น่าสนุกดีนะ

     

    หืมม ก็เอาสิ

     

    งั้นเดี๋ยวลงชื่อเลยนะจงอินพยักหน้าให้เซฮุนก่อนจะเข้าสู่โหมดห่อเหี่ยวอีกครั้ง

     

    นี่มึงเป็นอะไรเนี่ย ตาลอยเชียวเซฮุนถามเพราะเห็นเพื่อนนั่งเหมือนคนจิตหลุดมานาน

     

    กูไม่เป็นไร กูสบายดีตอบไปทั้งๆทีสภาพจิตใจย่ำแย่เอามากๆ จงอินมองคนตาโตที่ยืนอยู่ข้างหน้าด้วยแววตาละห้อย เขารอมาเนินนานกว่าจะได้พบเจอกันอีกครั้ง แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่หวังไว้

     

     

     

     




     

     

     



     

    มาแล้วครับๆๆ

     

    หายไปไหนมา?”

     

    ไปหาเพื่อนมาครับ

     

    หึมินซอกเค้นหัวเราะใส่คนที่วิ่งหน้าแป้นเข้ามาในห้องชมรม

     

    อย่ามองแบบนี้สิครับ ผมไม่ได้ไปเหล่สาวที่ไหนซักหน่อยน้าาาจงแดยื่นหน้าเข้าไปใกล้พร้อมทำหน้าตาน่ารักใส่อีกคน

     

    ก็ลองไปเหล่ดูสิ พี่จะหักคะแนนจิตพิสัยนายให้หมดเลยค่อยดูมินซอกทำหน้าดุใส่จงแด

     

    โอ้ยย อย่าหักคะแนนผมเลยนะ ผมไปหาเพื่อนมาจริงๆไม่เชื่อโทรไปถามไอ้แบคฮยอนกับคยองซูได้เลย

     

    ไม่ได้โกรธเรื่องนั้นซักหน่อย

     

    แล้วโกรธเรื่องไหนล่ะครับ?”

     

    นายหายไปไม่อยู่ช่วยพี่นะสิ เมื่อกี้เกือบเอาน้องๆไม่อยู่แน่ะมินซอกเขกหน้าผากกว้างเบาๆโทษฐานไม่อยู่ช่วยงานช่วงที่ยุ่งๆ เพราะวันนี้ชมรมแบ่งเป็นซุ้มๆให้น้องๆเดินดูสาธิตวิธีการทำอาหารต่างๆแล้วก็ทำแจกให้ทดลองชิมด้วย มินซอกกับเพื่อนอีกคนมือเป็นระวิง ในขณะที่อีกคนหายไปไหนก็ไม่รู้

     

    ขอโทษค้าบบบ ผมผิดไปแล้วววจงแดลากเสียงยาวพร้อมทำหน้าอ้อนเป็นลูกแมว

     

    พอได้แล้วน่า น่าเบื่อจังมินซอกหันหน้าหนีเจ้าของรอยยิ้มสดใส จงแดก็เป็นอย่างนี้ทุกที อ้อนน่ารักแบบนี้ใครมันจะไปโกรธลงกัน

     

     



     

     


     

     



     

     

    ตอนนี้เป็นช่วงที่ปล่อยให้ทุกคนเล่นกันตามอัธยาศัย บางคนก็เตะฟุตบอล บางคนก็นั่งคุยเล่น เช่นเดียวกันเซฮุนที่ไปลองเดาะฟุตบอลเล่นคนเดียวเพราะชวนไอ้ดำแล้วแต่มันบอก มึงไปเถอะ กูขอนั่งอยู่ตรงนี้เขาถึงต้องมาเล่นอยู่คนเดียวแบบนี้ เซฮุนหยุดเดาะลูกบอล ก่อนจะเดินไปนั่งพักที่ขอบสนามฝั่งตรงข้ามเพื่อนสนิท เขามองเพื่อนที่นั่งซึมเป็นหมางอย ได้แต่งงแต่ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรถึงได้แปลกๆไป

     

    ‘!!!’

     

    คนตัวสูงสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อความเย็นกระทบลงบนใบหน้าก่อนจะเงยขึ้นไปมองพี่รหัสสุดจุ้นที่ยื่นขวดน้ำเย็นๆมาให้เขา เซฮุนรับน้ำมาก่อนที่คนตัวเล็กจะนั่งลงข้างๆ

     

    ทำไมมาอยู่คนเดียว เพื่อนล่ะ?” เซฮุนชี้ไปยังสนามอีกฝั่งหนึ่งซึ่งสามารถมองเห็นเพื่อนผิวเข้มของเขาได้อย่างชัดเจน

     

    งานที่พี่ทำให้เป็นยังไงบ้าง?”

     

    ก็พอใช้ได้เซฮุนยกน้ำขึ้นดื่มพร้อมไหวไหล่เล็กน้อย เขาต้องทำท่าทางให้เหมือนกับว่าพาวเวอพอยนั่นไม่ได้ดีอะไรมากมายขนาดนั้น แบคฮยอนเห็นท่าทางของน้องรหัสก็หัวเราะออกมาเบาๆ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเด็กนี่ก็แค่แกล้งขี้เก๊กไปอย่างนั้น จริงๆไม่ได้คิดอย่างที่พูดเลยซักนิด

     

    นายเป็นยังไงบ้าง? ไม่ได้ลืมกินยาใช่มั้ย?”

     

    ไม่ลืมหรอกน่า

     

    ดีแล้ว กินให้ครบตามที่หมอสั่งนะ แล้วก็กินให้หมดด้วย ไม่ใช่หายแล้วก็เลิกกิน

     

    รู้แล้วบอกตรงๆว่าจนถึงตอนนี้แบคฮยอนก็ยังรู้สึกผิดกับเรื่องเมื่อวานอยู่ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องสุดวิสัยแต่เขาก็ยังไม่รู้สึกดีขึ้นเลย

     

    ขอโทษจริงๆนะเขาอยากจะพูดคำว่าขอโทษอีกซักร้อยพันครั้งเพื่อลบความรู้สึกผิดภายในใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าคนตัวสูงจะอยากรับฟังมันมั้ย แต่ถึงยังไงเขาก็ยังอยากจะพูดมัน

     

    พี่น่ะ...”

     

    “….”

     

    คือพี่…”

     

    “….”

     

    พี่--”

     

    พอเถอะคนตัวสูงที่นั่งเงียบรอฟังคำพูดอยู่นานเอ่ยขึ้น แบคฮยอนหยุดแล้วนิ่งไป จริงๆเขาน่าจะรู้อยู่แล้วว่าคนตัวสูงคนยังรู้สึกไม่ดีกับเขาอยู่ ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรง อึดอัดจนรู้สึกได้ว่าตัวเองหายใจได้ไม่ทั่วท้อง

     

    "ไม่ต้องโทษตัวเองแล้ว"

     

    "...."

     

    "ผมรู้ว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจ" แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมองคนข้างๆที่เอาแต่มองตรงไปข้างหน้าด้วยใบหน้านิ่งๆที่ไม่สามารถคาดเดาความคิดภายในใจได้

     

    "ผมไม่อยากฟังคำขอโทษแล้ว"

     

    "...."

     

    "ผมรำคาญ"

     

    แบคฮยอนอยากจะอ่านใจคนได้จริงๆ เขาอยากรู้ความคิดของคนที่เอาแต่ทำใบหน้านิ่งเพื่อกลบเกลื้อนความรู้สึกของตัวเอง

     

    "เพราะฉะนั้นไม่ต้องขอโทษแล้วนะ"

     

    "...."

     

    "ไม่อยากฟังแล้ว" คำพูดที่เหมือนจะไม่ค่อยดี แต่ฟังแล้วรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก คนปากไม่ตรงกับใจยังคงตีหน้านิ่งอยู่อย่างนั้นโดยไม่หันไปมองใบหน้าน่ารัก

     

    "ไม่โกรธแล้วจริงนะ"

     

    "อืม"

     

    "จริงๆนะ" เซฮุนเหลือบตามองคนตัวเล็กเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

     

    "น่ารักที่สุดดด" คนตัวเล็กดึงแก้มของอีกคนจนย้วยติดมือออกมา เซฮุนปัดมือพี่รหัสออกพร้อมทำสีหน้ารำคาญ แบคฮยอนยิ้มกว้างสุดจนปากจะฉีกถึงรูหู ตอนนี้เขาสบายใจขึ้นแล้ว ไม่มีอะไรที่ค้างคาอีกต่อไป

     

     

     

     




     

     

     



     

    ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่ทุกคนเข้ามาฝึกซ้อมที่ชมรมเพื่อจะได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมฟุตบอล เช่นเดียวกับเซฮุนและจงอินที่มาฝึกซ้อมหลังเลิกเรียนทุกวัน ในขณะที่กำลังวิ่งเรียงเป็นแถวเพื่อวอร์มร่างกายไปตามขอบสนาม สายตาคมก็เหลือบไปเห็นอะไรที่ไม่อยากเห็นซักเท่าไหร่ ทุกครั้งที่มาซ้อมเขาจะต้องมาเจอฉากหวานแหววจนมดขึ้นของพี่รหัสกับประธานชมรมนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งส่งสายตา ส่งรอยยิ้ม โบกพัด ซับเหงื่อ หวานจนเลี่ยนไปหมด

     

    เด็กหนุ่มผ่อนลมหายใจอย่างหนัก เขาค่อนข้างรำคาญเล็กน้อยถึงปานกลางที่ต้องมาเห็นอะไรแบบนี้ทุกๆวัน น่าหงุดหงิดจริงๆ

     

    โอ้ยย มึงหยุดทำไมเนี่ย?” จงอินที่วิ่งอยู่ด้านหลังบ่นอุบอิบหลังจากที่อยู่ดีๆไอ้เพื่อนเวรก็หยุดวิ่งทำให้เขาที่วิ่งตามมาชนเข้าเต็มๆเล่นเอาจุกไปหมด

     

    โทษทีเซฮุนหันไปมองหน้าเพื่อนผิวเข้มก่อนจะหันกลับไปมองต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องหยุดวิ่ง

     

     

    หงุดหงิด....

     

    คนตัวสูงถอนหายใจหนักๆอีกหนึ่งรอบก่อนจะวิ่งต่อไป ทำเอาจงอินถึงกับงงกับท่าทางแปลกของเพื่อนสนิท

     

    อะไรของมันวะ?” จงอินส่ายหน้าแล้วบ่นเบาๆกับตัวเองก่อนที่จะออกตัววิ่งตามเพื่อนไป

     

     

     



     


     



     

     

     

    น้ำครับ

     

    แบคฮยอนส่งขวดน้ำให้พี่ชานยอลหลังจากที่พี่ชานยอลเพิ่งจะสาธิตและสอนน้องๆเรื่องการวิ่งหลบหลีกฝ่ายตรงข้าม

     ขอบคุณนะชานยอลส่งยิ้มบางๆให้คนตัวเล็กก่อนจะเปิดขวดน้ำดื่ม การสอนน้องๆตั้งแต่พื้นฐานมันเหนื่อยก็จริงอยู่ แต่ทั้งหมดนี้ชานยอลทำไปด้วยความเต็มใจ เขารักฟุตบอล มันทำให้เขามีแรงที่จะทำสิ่งต่างๆได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และอีกหนึ่งกำลังใจก็คงจะเป็นใครบางคนที่ยืนอยู่ข้างๆเขาในตอนนี้ด้วย ตอนนั้นเขาชวนแบคฮยอนเข้าชมรมมาเพราะอยากจะได้เห็นและใกล้ชิดกันมากกว่านี้ ตอนแรกแบคฮยอนจะไม่ตกลง เพราะเขาเล่นฟุตบอลไม่เป็น ชานยอลจึงเสนอให้แบคฮยอนเป็นผู้จัดการทีมและให้คยองซูเป็นหัวหน้าฝ่ายสวัสดิการ แบคฮยอนจึงยอมมาอยู่ชมรมนี้ แต่แบคฮยอนก็เหมือนจะเป็นผู้จัดการส่วนตัวของชานยอลมากกว่าที่จะเป็นผู้จัดการทีม

     

    สวัสดีจ้าเด็กๆ

     

    อ้าว เจ๊มาได้ไง? ลมอะไรหอบมาถึงที่นี่ได้เนี่ย?” แบคฮยอนหันไปทักทายผู้มาใหม่ที่เสียงแป๋นแหลนดังมาก่อนตัวจะถึงเสียอีก ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนคือเจ๊ซูซี่คนเดิมนั่นเอง

     

    ลมร้อนนะสิ ตอนนี้เจ๊หัวร้อนมากเลย อีกสองอาทิตย์ก็จะมีประกวดดาวเดือนคณะแล้ว ป่านนี้เจ๊ยังหาเด็กในสังกัดไม่ได้เลยเจ๊แกเป็นเหมือนแมวมองดาวเดือนคณะที่จะค่อยไปทาบทามคนนู้นคนนี้ให้มาประกวดถ้าหาเด็กไม่ใด้เจ๊เสียชื่อแน่ๆ

     

    ที่มานี่คือมาส่องเด็กใช่มั้ยเจ๊คยองซูถามเจ๊ซูซี่ในขณะที่เจ๊กำลังชะโงกหน้ามองหาเด็กในสังกัด

     

    แน่นอน ชมรมนี้มีแต่ของดีๆทั้งนั้นเจ๊จะพลาดได้ไงล่ะ จริงมั้ยจ๊ะชานยอล?” เจ๊ซูซี่หันไปสบตากับชานยอลแล้วยิ้มอย่างรู้กัน ตั้งแต่เจ๊แกเริ่มทำอาชีพแมวมอง เจ๊ก็มุ่งหน้ามาที่ชมรมฟุตบอลเป็นหลักเพื่อหาเด็กหน้าตาดีๆ แล้วเด็กที่เจ๊หามาประกวดในปีแรกก็ชนะแล้วเป็นที่ฮือฮาอยู่นาน คนๆนั้นก็คือปาร์คชานยอลนั่นเอง ปีนี้ก็เช่นกัน เจ้าหล่อนเชื่อว่าชมรมนี้ต้องมีของเด็ดแน่ๆ

     

    อุ้ยนั่น เด็กคนนั้นนี่นาเจ๊ซูซี่ปรบมืออย่างตื่นเต้นก่อนจะรีบวิ่งตรงเข้าไปหาเด็กหนุ่มร่างสูงที่เคยเจอเมื่อวันก่อน แบคฮยอน ชานยอล และคยองซูเดินตามเจ๊ไปเพื่อดูโฉมหน้าว่าที่เด็กเจ๊

     

    คนนี้แหละคนนี้ เจ๊จะเอาเจ๊ซูซี่เดินวนรอบตัวเซฮุนก่อนจะจับหันซ้ายหันขวาเพื่อดูทรง ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างหยุดกิจกรรมของตัวเองแล้วหันมาให้ความสนใจที่โอเซฮุน คนตัวสูงดูงงๆที่อยู่ๆก็มีคนเดินมาหาเขาเต็มไปหมด

     

    เจ๊ นี่น้องรหัสผมเองแบคฮยอนสะกิดบอกเจ๊ซูซี่

     

    ตายแล้ว นี่น้องแกเหรอ? ไม่เบานะเนี่ย มีน้องหล่อไม่เห็นบอกเจ๊บ้าง ใจคอจะเก็บคนหล่อๆไว้กินคนเดียวหมดเลยหรือไง?”

     

    เจ๊!! พูดไรอ่ะ?” แบคฮยอนขมวดคิ้วใส่เจ๊ที่พูดแซวไปเรื่อย

     

    ชื่ออะไรจ๊ะ?”

     

    เอ่อโอเซฮุนครับ

     

    โอเซฮุนมาเป็นเด็กเจ๊นะ

     

    อะไรกันครับเนี่ย?” เซฮุนถามด้วยความงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วจนไม่ทันตั้งตัว

     

    ก็มาเป็นเด็กในสังกัดเจ๊ไง ประกวดเดือนคณะ รับรองว่าถ้าอยู่กับเจ๊ชนะแน่นอน เชื่อมือเจ๊เจ๊ซูซี่พยายามพูดเกลี่ยกล่อมคนตัวสูงหลังจากที่เคยนกโดนเด็กวิ่งหนีไปคราวก่อน แต่คราวนี้เจ๊จะไม่ปล่อยให้โอเซฮุนหลุดมือไปได้อีก

     

    ขอโทษนะครับ ผมไม่สนใจเรื่องแบบนี้หรอกครับเซฮุนพูดดับฝันใครหลายๆคนที่กำลังลุ้นให้เขาตอบตกลง ที่สำคัญคือดับฝันของเจ๊ด้วย

     

    เดี๋ยวก่อน เจ๊อยากให้เราคิดดีๆก่อน เอากลับไปคิดซักสองสามวันค่อยมาตอบเจ๊ก็ได้นะ

     

    ไม่ล่ะครับ ผมคิดดีแล้วผู้คนตรงนั้นเงียบกริบ เช่นเดียวกับเจ๊ที่ยืนอ้าปากไปไม่เป็นอยู่ตรงนั้น ตั้งแต่เจ๊เป็นแมวมองมาสองปี ไม่เคยมีใครปฏิเสธเจ๊เลยซักครั้ง เพราะมีแต่คนอยากจะเป็นเด็กเจ๊ แต่โอเซฮุนไม่ต้องการ

     

    ทำไมไม่ลงประกวดล่ะ ลองดูสิแบคฮยอนลองเกลี่ยกล่อมน้องรหัสของเขาด้วยอีกคนเผื่อว่าเซฮุนอาจจะเปลี่ยนใจ เขาเองก็อยากจะมีน้องรหัสเป็นเดือนคณะเหมือนกัน

     

    ไม่ดีกว่าครับคนตัวสูงยังคงยืนยันคำเดิมและไม่มีท่าทีว่าจะเปลี่ยนใจง่ายๆ

     

    ลองดูหน่อยมั้ยมึง ครั้งหนึ่งในชีวิตนะเว้ยจงอินช่วยเป่าหูเพื่อนอีกแรง แต่ก็ได้การตอบรับแค่การส่ายศีรษะเบาๆกลับมา

     

    พี่อย่าไปเซ้าซี้น้องเลยครับ ถ้าน้องไม่อยากประกวดก็อยากทำให้น้องลำบากใจเลยชานยอลพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ ทุกคนรอบๆต่างกำลังลุ้นว่าสุดท้ายแล้วคนตัวสูงจะตอบตกลงมั้ย

     

    น้องเขาอาจจะไม่พร้อม ไม่มั่นใจในตัวเอง

     

    “….”

     

    หรืออาจจะไม่มีความสามารถก็ได้ครับ เขาเลยไม่กล้าที่จะลงประกวดคำพูดนิ่มๆน้ำเสียงนิ่งๆที่ดูเหมือนจะช่วยไกล่เกลี่ยปัญหาที่เกิดขึ้น แต่โอเซฮุนไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น เขารู้สึกเหมือนกำลังโดนดูถูก

     

    พี่กลับไปก่อนเถอะครับ น้องเขาคงไม่ตอบตกลงพี่แล้วล่ะชานยอลหันไปบอกเจ๊ซูซี่ที่ยังคงยืนอึ้งกิมกี่อยู่ เจ้าหล่อนพยักหน้าเบาๆถอนหายใจยาวๆเฮือกหนึ่งก่อนจะหันหลังเดินออกไป

     

    เดี๋ยวครับ!!”

     

    “….” ทุกคนหันไปมองที่เด็กหนุ่มร่างสูงเป็นตาเดียว ทุกคนเงียบกริบเพื่อรอฟังคำพูดของเซฮุน

     

    ตกลงผมจะประกวดครับ

     

     

     


     

     

    เฮ่นโหลววทุกคน แอมคัมแบคคคค55555555 ขอโทษผิดสัญญานะคะ เราบอกไว้ว่าจะอัพอาทิตย์ก่อนนู้นก็ไม่ได้อัพ ขอโทษจริงๆค่า มาต่อให้แล้วน้า ถ้าอยากอ่านอีกก็คอมเม้นกันเยอะๆน้า ^^

    ปล.ขอบคุณที่รอไรท์นะคะ รักจังเลยย :)



     


    @Auaum_CB

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×