คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : วัยเด็กกับความทรงจำในโรงพยาบาล
เชื่อว่าหลายๆคนก็มีความทรงจำหลากหลายเกี่ยวกับโรงพยาบาล
มีทั้งความทรงจำที่ดีและความทรงจำที่แย่(เว้นเสียแต่คุณไม่เคยเข้าโรงพยาบาล)
ข้าน้อยก็เป็นคนหนึ่งที่เข้า-ออกโรงพยาบาลบ่อยเป็นว่าเล่น
แต่ว่าไม่ใช่เพราะป่วยบ่อย
ส่วนใหญ่มักจะเข้าไปช่วยแม่ทำงานหรือไม่ก็ไปรับแม่
และเป็นที่ที่ทำให้ข้าน้อยได้เก็บภาพหนึ่งไว้ในความทรงจำ ที่แม้ไม่ใช่ภาพที่สยดสยองหรือซึ้งกินใจ
แต่มันก็ยังคงอยู่ในความทรงจำจนถึงขณะนี้
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อข้าน้อยอายุประมาณ10ขวบ
เนื่องจากว่าบ้านอยู่ไกลจากโรงเรียนและการเดินทางที่ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่
ตอน 6โมงครึ่งจึงต้องออกจากบ้านพร้อมกัน
พ่อไปส่งแม่ที่โรงพยาบาล(ที่ทำงาน)ส่วนตัวข้าน้อยอยู่กับแม่ที่ชั้น3ที่เป็นห้องเด็ก(หน่วยบริบาลทารกแรกเกิด)
เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเข้าเรียนซัมเมอร์ที่เข้าช้ากว่าวันธรรมดาเกือบ 1ชั่วโมง(เข้าเรียนประมาณ9โมงเช้า)
ระหว่างที่รอเวลานี้ข้าน้อยก็จะช่วยงานแม่ไปด้วย
แต่งานหลักๆคือ พับเสื้อผ้า ผ้าอ้อมที่ซักและอบเรียบร้อยแล้ว กองผ้าจะค่อนข้างอุ่น บางครั้งถึงกับร้อน
พอถึงเวลาก็ไปเข้าเรียน
พอถึงเวลาเลิกเรียนตอนเที่ยงก็กลับมาที่โรงพยาบาล(อีกครั้ง)เพื่อรอกลับบ้านพร้อมแม่
แล้วก็พับผ้ากองโตอีกเช่นเคย
แต่ในวันที่ไม่ได้พับผ้าแม่ก็จะให้ไปนั่งเล่นอยู่ในห้องเด็ก บางครั้งก็ดูละครตอนบ่ายกับพวกคุณพยาบาล(ตอนนั้นก็สงสัยเหมือนกันว่าเด็กทารกนี่ดูทีวีรู้เรื่องด้วยเหรอเนี่ย)แล้วก็พับผ้าเช็ดมือไปด้วย
บางครั้งก็ช่วยพยาบาลดูแลเด็ก(แต่ไม่ได้อุ้มเด็ก)
จากการที่ได้เข้าไปถึงข้างในห้องเด็กที่คนส่วนมากได้แต่มองผ่านกระจกเข้าไปนี้
ทำให้ข้าน้อยได้พบเห็นอะไรหลายอย่างรวมทั้งภาพของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในเปลเด็กอ่อน
ข้าน้อยยังจำได้แม้ภาพของเธออาจเลือนรางไปบ้าง
เด็กผู้หญิงคนนั้นจัดว่าเป็นเด็กที่น่ารัก ผิวขาว ผมดำ ตากลมโต ปากนิด จมูกหน่อย ไม่มีความผิดปกติทางร่างกาย
เธอจับนิ้วของข้าน้อยที่ยื่นเข้าไปใกล้และยังยิ้มด้วย
แต่ที่เปลที่เธอนอนอยู่ข้าน้อยกลับเห็นสิ่งที่แตกต่างจากเปลเด็กอื่น
เปลของเธอไม่มีป้ายชื่อพ่อ-แม่ หรือแม้แต่ชื่อของเธอเอง
ข้าน้อยจึงถามแม่ว่า" น้องเขาชื่ออะไรเหรอ" "น้องจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่"
แม่ตอบว่า" น้องไม่มีชื่อหรอก น้องเขาถูกทิ้งน่ะ เดี๋ยวก็จะต้องส่งไปสถานสงเคราะห์"
คำถามง่ายๆที่ข้าน้อยถาม แต่คำตอบของแม่กลับสร้างความสงสัยให้กับข้าน้อย
แต่ความสงสัยนั้นไม่ได้มาจากคำตอบของแม่
หากแต่เกิดจากความคิดของข้าน้อยเอง
เธอไม่น่ารักเหรอ
ทำไมพ่อแม่ถึงไม่ต้องการเธอ
เด็กคนนี้ทำผิดอะไรจึงต้องถูกทอดทิ้ง
แต่เวลาอนุญาตให้ข้าน้อยจมอยู่ในห้วงความคิดไม่นาน
ก็ต้องลาจากเด็กคนนั้นไป โดยที่ห้วงสมองยังประทับภาพของเด็กคนนั้นกับแววตาที่ไร้เดียงสา
ที่ไม่รู้ถึงชะตาชีวิตของตนแม้ต่น้อย
หลังจากนั้นข้าน้อยก็ไม่ได้เข้าไปที่ห้องเด็กบ่อยนัก
และไม่ได้พบหน้าเด็กคนนั้นอีก
ข้าน้อยแม้ไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นเป็นใคร
มาจากที่ไหนและจะไปอยู่ที่ใด
ตอนนี้จะเป็นอย่างไร
แต่ที่ในใจตอนนี้ ขอแค่ให้เธอเติบโตขึ้นมาเป็นคนดี
และขอให้เด็กที่ต้องเผชิญชะตากรรมถูกทอดทิ้งเช่นนี้
ลดลงบ้างสักคนก็ยังดี
ความคิดเห็น