คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เริ่มปมฆาตกรรม2
เฮอร์คูล ปัวโรท์ นั่งอยู่หลังโต๊ะเขียนหนังสือ ในตอนเข้าเดือนพฤษภาคมอันสดใส เมื่อ จอร์จ คนรับใช้เข้ามารายงานอย่างนอบน้อม
"มีสุภาพสตรีมาขอพบท่านครับ"
"สุภาพสตรีแบบไหน หืม?" ปัวโรท์ถามอย่างรอบคอบ
เขาชอบฟังความคิดเห็นของจอร์จ ที่มักจะอธิบายอย่างละเอียดถี่ถ้วน
"อายุของเธอราวๆสี่สิบถึงห้าสิบ ครับ แต่งตัวมากแต่ไม่ค่อยเรียบร้อย สวมรองเท้าหุ้มส้นชั้นดี เสื้อโค้ชขนสัตว์ และกระโปรง ข้างในเป็นเสื้อลูกไม้ สวมลูกปัดแบบอียิปต์และผ้าพันคอสีน้ำเงิน เนื้อผ้าชีฟอง ครับ"
ปัวโรท์ยักไหล่เล็กน้อย
"คิดไม่ถึงเลย" เขากล่าว "ฉันไม่อยากพบหล่อน"
"จะให้ผมบอกกับหล่อนว่า ท่านไม่ว่างมั้ยครับ"
ปัวโรท์มองจอร์จอย่างครุ่นคิด
"นี่แกบอกหล่อนไปแล้วใช่ไหมว่า ฉันกำลังยุ่งและห้ามรบกวน"
จอร์จกระแอมเบาๆ
"หล่อนบอกว่ามาจากต่างจังหวัด ขอรอจนกว่าจะได้พบครับ นานเท่าไหร่ก็จะรอ"
ปัวโรท์ถอนใจ
"อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดขึ้นจนได้" เขากล่าว "ถ้าสุภาพสตีผู้นี้อุตส่าห์ลำบากลำบน ถ่อสังขารจากแดนไกล มีจุดมุ่งหมายเพื่อมาพบ เฮอร์คูล ปัวโรท์ นักสืบมือเยี่ยมผู้นี้ ก็ยากที่จะบ่ายเบี่ยงได้ ไงเสีย หล่อนก็ต้องนั่งรออยู่จนกว่าจะได้พบอยู่ดี พาหล่อนเข้ามาได้จอร์จ"
จอร์จถอยหลังออกไป ไม่นานนักก็กลับเข้ามา
"มิสซิสโคลด มาแล้วครับ"
ร่างซึ่งอยู่ภายใต้ชุดขนสัตว์เก่าๆและผ้าพันคอฟู เดินเข้ามาพร้อมด้วยรอยยิ้มเกลื่อนใบหน้า เธอยื่อนมือออกมาสัมผัสทักทาย ลูกปัดกระทบกันดังกรุ๋งกริ๋งบนลำคอ
"คุณปัวโรท์" เธอกล่าว "ฉันมาพบคุณตามคำแนะนำของวิญญาณค่ะ"
ปัวโรท์กระพริบตาปริบๆ
"เชิญครับ มาดาม เชิญนั่งลงก่อน แล้วค่อยเล่าให้ผมฟัง...."
สิ้นเสียงเขาไม่นาน สุภาพสตรีนางนั้นก็กล่าวขึ้น
"เอ่อ คืองี้ค่ะ เมื่อคืนวานซืนนี้ มาดามเอลวารี่ (ผู้หญิงมหัศจรรย์) และฉันเล่นผีถ้วยแก้วกัน เราทั้งคู่ต่างก็ได้ตัวอักษรซ้ำกันครั้งแล้วครั้งเล่า ตัวเอช พี ค่ะ ทีแรก ฉันก็ไม่ทราบความหมายของมัน พยายามคิด ฉันเข้าใจว่ามันต้องเกี่ยวกับการติดต่อวิญญาณครั้งก่อน....ต้องเป็นเรื่องที่หน้าสนใจแน่นอน มันเป็นเช่นนั้นอยู่สองสามครั้งก่อนที่ฉันจะเข้าใจ ต่อจากนั้นจึงไปซื้อหนังสือพิคเจอร์ โพสต์ มาเล่มนึง นั่นแหละจึงได้เห็นคุณ เห็นภาพคุณ คำอธิบายและความสามารถของคุณ น่าทึ่งชะมัด คุณไม่คิดหรือคะว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามความคาดหมายอย่างแน่นอน ฉันมั่นใจเต็มเปี่ยม คุณเป็นบุคคลที่จะมาคลี่คลายเรื่องราวเหล่านี้"
ปัวโรท์จ้องมองเธออย่างครุ่นคิด ดวงตาสีฟ้าอ่อนฉายแววเฉลียฉลาดรอบรู้คู่นั้นสะดุดตาปัวโรท์ยิ่งนัก
"และอะไรเอ่ย คุณ...มิสซิสโคลด...ถูกไหมครับ?" เขาขมวดคิ้ว "ผมรู้สึกว่าผมเคยได้ยินนามนี้มาก่อน..."
เธอผงกศีรษะอย่างหนักแน่น
"พี่เขยผู้น่าสงสารของฉัน...การ์ดอน เป็นคนร่ำรวยมหาศาล ข่าวคราวของเขาปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยๆ เขาถูกระเบิดเสียชีวิตไปเมื่อปีกว่านี้เอง ยังความโศกเศร้าเสียใจแก่พวกเราทุกคน สามีของฉันเป็นน้องชายของเขา เขาเป็นหมอชื่อ ลีโอเนล โคลด..."
"เขาไม่รู้ว่าฉันมาพบกับคุณ ถ้ารู้เขาก็คงไม่เห็นด้วย พวกหมอสมัยใหม่น่ะ ไม่เชื่อเรื่องผีสางกันเลย เชื่อการทดลอง เชื่อวิทยาศาสตร์...แต่อะไรที่ฉันพูดถึง...วิทยาศาสตร์คืออะไร มันช่วยอะไรได้บ้าง?"
เฮอร์คูล ปัวโรท์ นิ่งเงียบไม่ได้กล่าวตอบแต่อย่างไร ถ้าจะตอบก็คงต้องร่ายยาวถึงความสำเร็จ อันเกิดจากความพากเพียรของปาสเตอร์ลิสเตอร์ ตลอดจนความสว่างไสวของไฟฟ้าหัวคิดของ ฮัมฟรี่ย์เดวี่ แต่สิ่งเหล่านั้นแน่นอนย่อมไม่ใช่คำตอบที่มิสซิสโคลดต้องการ ตามเนื้อแท้ของคำถามของเธอ ไม่ใช่คำถามที่ถูกต้องเสียทั้งหมด มันควรจะเป็นเขาต่างหากที่น่าจะเป็นฝ่ายตั้งปัญหาถาม
เฮอร์คูล ปัวโรท์ คิดว่า ควรจะถามเอง
"ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณคิดว่าผมจะช่วยอะไรคุณได้หรือ?"
"คุณเชื่อในเรื่องโลกวิญญาณหรือเปล่าคะคุณปัวโรท์?"
"ผมเป็นชาวคาทอลิก ที่เชื่อมั่นในคำสอนมากคับ" ปัวโรท์กล่าวอย่างระมัดระวังคำพูด
มิสซิสโคลด โบกไม้โบกมือแสดงว่าไม่ยอมเชื่อในเรื่องศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก พร้อมกับรอยยิ้มเยาะหยัน
"งมงาย! คร่ำครึ! ศาสนาน่ะเป็นเรื่องคร่ำครึ งมงาย อคติ โง่งม ไม่ยอมรับความถูกต้องเป็นจริง ว่าความสวยงามของโลกนั้นซ่อนความโกหกหลอกลวงไว้เบื้องหลัง"
"เอ่อ ตอนเที่ยงนี้" ปัวโรท์ กล่าวชัด "ผมมีนัดสำคัญครับ"
มันเป็นจังหวะเดียวกันกับที่มิสซิสโคลดชะโงกกายเข้ามา
"ฉันเห็นจะต้องเข้าเรื่องซะที มันจะเป็นไปได้ไหม สำหรับคุณปัวโรท์ กับการค้นหาบุคคลที่หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย?"
ปัวโรท์ เลิกคิ้วขึ้น
"มันอาจจะเป็นไปได้....ใช่ครับ" เขากล่าวตอบอย่างรอบคอบ "แต่ตำรวจ คุณโคลดที่รัก ผมคิดว่าตำรวจทำได้ดีกว่าผมนะ หากเขามีเครื่อมือเครื่องไม้ครบถ้วน"
มิสซิสโคลดโบกไม้โบกมือ ไม่ยอมรับเรื่องตำรวจเช่นเดียวกันกับที่ไม่ยอมรับในเรื่องศาสนาคาทอลิก
"ไม่มีทางหรอกค่ะ คุณปัวโรท์....ฉันมาพบคุณตามคำชักนำของวิญญาณ....ฟังนะคะ พี่ชายของการ์ดอนแต่งงานได้ไม่กี่อาทิตย์ก็ถึงแก่กรรม ภรรยาม่ายสาวของเขาคือ มิสซิสอันเดอร์เฮย์ สามีคนแรกของเธอถูกรายงานว่า เสียชีวิตในอัฟริกา ประเทศลึกลับ....อัฟริกา"
"อัฟริกา.....ทวิปลึกลับ" ปัวโรท์แก้คำกล่าวของเธอให้ถูกต้อง "อาจจะมีทางเป็นไปได้ ส่วนไหนของอัฟริกาล่ะ?"
เธอขยับตัว
"อัฟริกากลาง ดินแดนของพวก วูดู และ ซอมบี้..."
"ซอมบี้ อยู่ใน เวสท์ อินดีส"
มิสซิสโคลดขยับตัวอีก
"...ดินแดนแห่งมนต์ดำ แม่มด หมอผี ตลอดจนเวทมนต์คาถา เป็นดินแดนที่ใครต่อใครที่พลัดหลงเข้าไปแล้ว หายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอย"
"อาจจะมีทางเป็นไปได้" ปัวโรท์กล่าว "ที่พิคคาดิลลี่เซอร์คัสก็เหมือนกัน"
มิสซิสโคลด ไม่ใส่ใจกับพิคคาลี่เซอร์คัส
"ครั้งที่สอง ล่าสุดนี้ คุณปัวโรท์ เราได้รับการติดต่อจากวิญญาณซึ่งบอกนามแก่พวกเราว่าชื่อ โรเบิร์ต ข้อมูลที่ได้เหมือนครั้งอื่นๆ ไม่ตาย..... เราเองต่างก็งุนงงเพราะไม่เคยรู้จักกับบุคคลเจ้าของนามนี้ เราไม่รู้จักโรเบิร์ต เราทำการสอบถามต่อ และก็ได้รับสิ่งนี้ อาร์ยู อาร์ยู อาร์ยู...... จากนั้นก็ บอกอาร์ บอกอาร์ บอกโรเบิร์ตรึ? เราถาม ไม่ใช่จากโรเบิร์ต อาร์ยู ยูหมายถึงอะไร? คำตอบที่เราได้รับคือ ลิตเติ้ล บอย บลู......... คุณเข้าใจไหม?"
"ไม่เลย" ปัวโรท์กล่าว "ไม่เข้าใจเลย"
เธอจ้องมองเขาด้วยแววตาสงสาร
"เพลงกล่อมเด็ก ลิตเติ้ล บอย บลู มีอยู่ตอนหนึ่งกล่าวไว้ว่า อันเดอร์ เดอะ เฮย์ ควคฟาสท์ แอสลีพ ความหมายของมันก็คือ...อันเดอร์เฮย์.... เข้าใจไหม?"
ปัวโรท์ผงกศีรษะ นึกอยากถามตงิดๆ ถ้าชื่อโรเบิร์ตถูกระบุออกมาแล้ว ทำไมชื่ออันเดอร์เฮย์จึงไม่สามารถระบุได้ และทำไมต้องทำให้ยุ่งยากโดยการซ่อนความหมายไว้ในบทเพลงกล่อมเด็กด้วย
"และพี่สะใภ้ของฉันชื่อ โรซาลีน" มิสซิสโคลดกล่าวอย่างน่าภาคภูมิใจที่สุด "เข้าใจขึ้นบ้างหรือยังคะ" ความหมายของมันก็คือ บอกโรซาลีนด้วยว่า โรเบิร์ต อันเดอร์เฮย์ ยังไม่ตาย"
"อืม...แล้วคุณบอกหล่อนหรือยัง?"
มิสซิสโคลดสะดุ้งเล็กน้อย
"เออ...จริงสินะ...ยังเลย คุณเองก็พอจะเข้าใจนี่ ฉันหมายความว่า...มนุษย์เรามักขี้สงสัย โรซาลีนก็คงจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ฉันค่อนข้างแน่ใจ และอีกอย่างหนึ่ง เจ้าหนูที่น่าสงสาร มันอาจรบกวนจิตใจของเธอ...กังวล สงสัยว่าเขาอยู่ที่ไหน...และเขากำลังทำอะไร"
"นอกจากนี้แล้วข่าวคราวของเขา ยังผ่านมาจากสิ่งใดสิ่งนึงหรือ? เป็นอย่างนั้นทีเดียว นับว่าแปลกมาก แถมยังบอกว่าเขายังปลอดภัยอีกด้วย"
"อา คุณปัวโรท์ คุณน่ะไม่จินตนาการเอาเสียเลย เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเหตุการ์จะดำเนินไปในรูปใด ร้อยเอกอันเดอร์เฮย์ผู้น่าสงสาร อาจจะถูกจับตัวเป็นนักโทษอยู่ที่ใดที่หนึ่ง ในใจกลางอัฟริกาอันลึกลับ แต่ถ้าเกิดค้นพบเขา คุณปัวโรท์ ถ้าเขาถูกนำตัวกลับมาสู่อ้อมอกของโรซาลีนอันเป็นที่รักได้ ลองคิดดูสิ! เธอจะมีความสุขพียงใด! โอ คุณปัวโรท์ ฉันน่ะถูกส่งมาหาคุณ คุณจะใจดำปฏิเสธความปราถนาของวิญญาณได้เชียวหรือคะ"
ปัวโรท์ มองมาทางเธออย่างครุ่นคิด
"ค่าป่วยการของผม..." เขากล่าวอย่างแผ่วเบา "แพงมากนะครับ...ผมอาจจะบอกได้ว่าแพงมากกว่างานอื่นๆที่ผมเคยทำมา! และไอ้งานที่คุณนำมาเสนอต่อผมนี่ มันไม่ง่ายนัก"
"โอแย่จัง...แย่ชะมัด...โชคร้ายจริงๆ ตอนนี้ทั้งฉันและสามีกำลังกรอบ...โดยเฉพาะฉันยิ่งแย่หนัก ยอบแยบกว่าสามีฉันอีก ฉันเอาเงินไปซื้อหุ้น...ตามคำแนะนำของวิญญาณ...นี่ก็นานแล้วที่ยังไม่ได้ผลตอบแทนใดๆทำท่าว่าจะแย่เสียด้วย ฉันคาดว่าคงจะขายได้ลำบาก"
ดวงตาสีฟ้าอ่อนมองเขาด้วยแววตาละห้อย
"ฉันไม่กล้าบอกสามี แต่เปิดเผยให้คุณรู้อย่างตรงไปตรงมาว่าฉันอยู่ในฐานะเช่นไร แน่นอน ไอ้การที่ทำให้สามี ภรรยาที่พลัดพรากจากกันได้กลับมาพบกัน...นับว่าเป็นกุศลมหาศาลนะคะ"
"นี่ มาดาม ผมจะบอกอะไรให้ฟังนะ ไอ้ค่ารถ ค่าเรือ ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าเครื่องบิน ค่าอะไรต่ออะไรอีกจิปาถะ มันใช้บุญกุศลจ่ายแทนเงินไม่ได้หรอกคับ"
"แต่ถ้าเราหาตัวเขาพบ...ถ้าร้อยเอก อันเดอร์เฮย์ ยังมีชีวิตอยู่ ถ้าเป็นไปตามนั้น...เอ้อ...คงจะไม่มีอะไรติดขัด ในกรณีที่จะจ่ายค่าป่วยการให้คุณ"
"อา ผู้กองอันเดอร์เฮย์ คนนี้ร่ำรวยมากหรือไงครับ?"
"ไม่ ไม่ถึงกับร่ำรวยหรอกค่ะ...ฉันกล้าให้สัญญา...เรื่องนั้น...ฉันหมายถึงเรื่องการเงิน ขอรับรองว่าจะไม่มีปัญหา"
ปัวโรท์ สั่นศีรษะอย่างช้าๆ
"ผมเสียใจมาดาม คำตอบก็คือ ไม่ตกลงครับ"
เขายุ่งยากใจพอควร ในการที่จะทำให้เธอยอมรับคำตอบนั้น
ในที่สุดเธอก็จากไป เขายืนใช้ความคิดอยู่คนเดียว เพิ่งจะนึกออกในตอนนี้ว่าทำไมชื่อโคลด จึงคุ้นหู มีควมหมายต่อเขา ถ้อยคำการสนทนาในคลับช่วงที่ทีการโจมตีทางอากาศหวนกลับมาสู่ความคิดคำนึงของเขาอีกครั้ง น้ำเสียงที่น่าเบื่อหน่ายของผู้พันพอร์ทเตอร์ขณะพล่ามน้ำลายแตกฟองอยู่คนเดียว โดยปราศจากคนสนใจ
แต่อะไรที่ทำให้เขารู้สึกกังวล กับการพยายามทำใจ ให้ลืมเรื่องของหญิงวัยกลางคนที่เพิ่งจากไป ท่าทางของเธอเชื่อถือเรื่องไสยศาสตร์มาก แต่งคัวประหลาดชอบกล แต่แววตานั้นฉายแววฉลาดปราดเปรื่อง
"ทำไมเจ้าหล่อนจึงคิดมาหาเรานะ?" เขาพึมพำกับตนเอง "และอะไรกำลังจะดำเนินต่อไป"...เขาก้มมองนามบัตรบนโต๊ะทำงานส่วนตัว...วอร์มสลี่ เวล
ห้าวันให้หลัง เขาพบข้อความเล็กๆในหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับเย็น...มันเป็นข่างการตายของผู้ชายคนหนึ่ง ชื่ออีนอค เฮอร์คูล ปัวโรท์ รำพึงรำพันกับตัวเองเบาๆ
"ชักจะสงสัยเสียแล้วสิ มีอะไรเกิดขึ้นที่วอร์มสลี่ เวล นะ?"
อาร์เดน...ที่วอร์มสลี่ เวล หมู่บ้านแบบเก่าเล็กๆห่างจากสนามกอล์ฟ วอร์มสลี่ ฮีท ราวสามไมล์
เฮอร์คูล ปัวโรท์ นั่งอยู่หลังโต๊ะเขียนหนังสือ ในตอนเข้าเดือนพฤษภาคมอันสดใส เมื่อ จอร์จ คนรับใช้เข้ามารายงานอย่างนอบน้อม
"มีสุภาพสตรีมาขอพบท่านครับ"
"สุภาพสตรีแบบไหน หืม?" ปัวโรท์ถามอย่างรอบคอบ
เขาชอบฟังความคิดเห็นของจอร์จ ที่มักจะอธิบายอย่างละเอียดถี่ถ้วน
"อายุของเธอราวๆสี่สิบถึงห้าสิบ ครับ แต่งตัวมากแต่ไม่ค่อยเรียบร้อย สวมรองเท้าหุ้มส้นชั้นดี เสื้อโค้ชขนสัตว์ และกระโปรง ข้างในเป็นเสื้อลูกไม้ สวมลูกปัดแบบอียิปต์และผ้าพันคอสีน้ำเงิน เนื้อผ้าชีฟอง ครับ"
ปัวโรท์ยักไหล่เล็กน้อย
"คิดไม่ถึงเลย" เขากล่าว "ฉันไม่อยากพบหล่อน"
"จะให้ผมบอกกับหล่อนว่า ท่านไม่ว่างมั้ยครับ"
ปัวโรท์มองจอร์จอย่างครุ่นคิด
"นี่แกบอกหล่อนไปแล้วใช่ไหมว่า ฉันกำลังยุ่งและห้ามรบกวน"
จอร์จกระแอมเบาๆ
"หล่อนบอกว่ามาจากต่างจังหวัด ขอรอจนกว่าจะได้พบครับ นานเท่าไหร่ก็จะรอ"
ปัวโรท์ถอนใจ
"อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดขึ้นจนได้" เขากล่าว "ถ้าสุภาพสตีผู้นี้อุตส่าห์ลำบากลำบน ถ่อสังขารจากแดนไกล มีจุดมุ่งหมายเพื่อมาพบ เฮอร์คูล ปัวโรท์ นักสืบมือเยี่ยมผู้นี้ ก็ยากที่จะบ่ายเบี่ยงได้ ไงเสีย หล่อนก็ต้องนั่งรออยู่จนกว่าจะได้พบอยู่ดี พาหล่อนเข้ามาได้จอร์จ"
จอร์จถอยหลังออกไป ไม่นานนักก็กลับเข้ามา
"มิสซิสโคลด มาแล้วครับ"
ร่างซึ่งอยู่ภายใต้ชุดขนสัตว์เก่าๆและผ้าพันคอฟู เดินเข้ามาพร้อมด้วยรอยยิ้มเกลื่อนใบหน้า เธอยื่อนมือออกมาสัมผัสทักทาย ลูกปัดกระทบกันดังกรุ๋งกริ๋งบนลำคอ
"คุณปัวโรท์" เธอกล่าว "ฉันมาพบคุณตามคำแนะนำของวิญญาณค่ะ"
ปัวโรท์กระพริบตาปริบๆ
"เชิญครับ มาดาม เชิญนั่งลงก่อน แล้วค่อยเล่าให้ผมฟัง...."
สิ้นเสียงเขาไม่นาน สุภาพสตรีนางนั้นก็กล่าวขึ้น
"เอ่อ คืองี้ค่ะ เมื่อคืนวานซืนนี้ มาดามเอลวารี่ (ผู้หญิงมหัศจรรย์) และฉันเล่นผีถ้วยแก้วกัน เราทั้งคู่ต่างก็ได้ตัวอักษรซ้ำกันครั้งแล้วครั้งเล่า ตัวเอช พี ค่ะ ทีแรก ฉันก็ไม่ทราบความหมายของมัน พยายามคิด ฉันเข้าใจว่ามันต้องเกี่ยวกับการติดต่อวิญญาณครั้งก่อน....ต้องเป็นเรื่องที่หน้าสนใจแน่นอน มันเป็นเช่นนั้นอยู่สองสามครั้งก่อนที่ฉันจะเข้าใจ ต่อจากนั้นจึงไปซื้อหนังสือพิคเจอร์ โพสต์ มาเล่มนึง นั่นแหละจึงได้เห็นคุณ เห็นภาพคุณ คำอธิบายและความสามารถของคุณ น่าทึ่งชะมัด คุณไม่คิดหรือคะว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามความคาดหมายอย่างแน่นอน ฉันมั่นใจเต็มเปี่ยม คุณเป็นบุคคลที่จะมาคลี่คลายเรื่องราวเหล่านี้"
ปัวโรท์จ้องมองเธออย่างครุ่นคิด ดวงตาสีฟ้าอ่อนฉายแววเฉลียฉลาดรอบรู้คู่นั้นสะดุดตาปัวโรท์ยิ่งนัก
"และอะไรเอ่ย คุณ...มิสซิสโคลด...ถูกไหมครับ?" เขาขมวดคิ้ว "ผมรู้สึกว่าผมเคยได้ยินนามนี้มาก่อน..."
เธอผงกศีรษะอย่างหนักแน่น
"พี่เขยผู้น่าสงสารของฉัน...การ์ดอน เป็นคนร่ำรวยมหาศาล ข่าวคราวของเขาปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยๆ เขาถูกระเบิดเสียชีวิตไปเมื่อปีกว่านี้เอง ยังความโศกเศร้าเสียใจแก่พวกเราทุกคน สามีของฉันเป็นน้องชายของเขา เขาเป็นหมอชื่อ ลีโอเนล โคลด..."
"เขาไม่รู้ว่าฉันมาพบกับคุณ ถ้ารู้เขาก็คงไม่เห็นด้วย พวกหมอสมัยใหม่น่ะ ไม่เชื่อเรื่องผีสางกันเลย เชื่อการทดลอง เชื่อวิทยาศาสตร์...แต่อะไรที่ฉันพูดถึง...วิทยาศาสตร์คืออะไร มันช่วยอะไรได้บ้าง?"
เฮอร์คูล ปัวโรท์ นิ่งเงียบไม่ได้กล่าวตอบแต่อย่างไร ถ้าจะตอบก็คงต้องร่ายยาวถึงความสำเร็จ อันเกิดจากความพากเพียรของปาสเตอร์ลิสเตอร์ ตลอดจนความสว่างไสวของไฟฟ้าหัวคิดของ ฮัมฟรี่ย์เดวี่ แต่สิ่งเหล่านั้นแน่นอนย่อมไม่ใช่คำตอบที่มิสซิสโคลดต้องการ ตามเนื้อแท้ของคำถามของเธอ ไม่ใช่คำถามที่ถูกต้องเสียทั้งหมด มันควรจะเป็นเขาต่างหากที่น่าจะเป็นฝ่ายตั้งปัญหาถาม
เฮอร์คูล ปัวโรท์ คิดว่า ควรจะถามเอง
"ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณคิดว่าผมจะช่วยอะไรคุณได้หรือ?"
"คุณเชื่อในเรื่องโลกวิญญาณหรือเปล่าคะคุณปัวโรท์?"
"ผมเป็นชาวคาทอลิก ที่เชื่อมั่นในคำสอนมากคับ" ปัวโรท์กล่าวอย่างระมัดระวังคำพูด
มิสซิสโคลด โบกไม้โบกมือแสดงว่าไม่ยอมเชื่อในเรื่องศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก พร้อมกับรอยยิ้มเยาะหยัน
"งมงาย! คร่ำครึ! ศาสนาน่ะเป็นเรื่องคร่ำครึ งมงาย อคติ โง่งม ไม่ยอมรับความถูกต้องเป็นจริง ว่าความสวยงามของโลกนั้นซ่อนความโกหกหลอกลวงไว้เบื้องหลัง"
"เอ่อ ตอนเที่ยงนี้" ปัวโรท์ กล่าวชัด "ผมมีนัดสำคัญครับ"
มันเป็นจังหวะเดียวกันกับที่มิสซิสโคลดชะโงกกายเข้ามา
"ฉันเห็นจะต้องเข้าเรื่องซะที มันจะเป็นไปได้ไหม สำหรับคุณปัวโรท์ กับการค้นหาบุคคลที่หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย?"
ปัวโรท์ เลิกคิ้วขึ้น
"มันอาจจะเป็นไปได้....ใช่ครับ" เขากล่าวตอบอย่างรอบคอบ "แต่ตำรวจ คุณโคลดที่รัก ผมคิดว่าตำรวจทำได้ดีกว่าผมนะ หากเขามีเครื่อมือเครื่องไม้ครบถ้วน"
มิสซิสโคลดโบกไม้โบกมือ ไม่ยอมรับเรื่องตำรวจเช่นเดียวกันกับที่ไม่ยอมรับในเรื่องศาสนาคาทอลิก
"ไม่มีทางหรอกค่ะ คุณปัวโรท์....ฉันมาพบคุณตามคำชักนำของวิญญาณ....ฟังนะคะ พี่ชายของการ์ดอนแต่งงานได้ไม่กี่อาทิตย์ก็ถึงแก่กรรม ภรรยาม่ายสาวของเขาคือ มิสซิสอันเดอร์เฮย์ สามีคนแรกของเธอถูกรายงานว่า เสียชีวิตในอัฟริกา ประเทศลึกลับ....อัฟริกา"
"อัฟริกา.....ทวิปลึกลับ" ปัวโรท์แก้คำกล่าวของเธอให้ถูกต้อง "อาจจะมีทางเป็นไปได้ ส่วนไหนของอัฟริกาล่ะ?"
เธอขยับตัว
"อัฟริกากลาง ดินแดนของพวก วูดู และ ซอมบี้..."
"ซอมบี้ อยู่ใน เวสท์ อินดีส"
มิสซิสโคลดขยับตัวอีก
"...ดินแดนแห่งมนต์ดำ แม่มด หมอผี ตลอดจนเวทมนต์คาถา เป็นดินแดนที่ใครต่อใครที่พลัดหลงเข้าไปแล้ว หายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอย"
"อาจจะมีทางเป็นไปได้" ปัวโรท์กล่าว "ที่พิคคาดิลลี่เซอร์คัสก็เหมือนกัน"
มิสซิสโคลด ไม่ใส่ใจกับพิคคาลี่เซอร์คัส
"ครั้งที่สอง ล่าสุดนี้ คุณปัวโรท์ เราได้รับการติดต่อจากวิญญาณซึ่งบอกนามแก่พวกเราว่าชื่อ โรเบิร์ต ข้อมูลที่ได้เหมือนครั้งอื่นๆ ไม่ตาย..... เราเองต่างก็งุนงงเพราะไม่เคยรู้จักกับบุคคลเจ้าของนามนี้ เราไม่รู้จักโรเบิร์ต เราทำการสอบถามต่อ และก็ได้รับสิ่งนี้ อาร์ยู อาร์ยู อาร์ยู...... จากนั้นก็ บอกอาร์ บอกอาร์ บอกโรเบิร์ตรึ? เราถาม ไม่ใช่จากโรเบิร์ต อาร์ยู ยูหมายถึงอะไร? คำตอบที่เราได้รับคือ ลิตเติ้ล บอย บลู......... คุณเข้าใจไหม?"
"ไม่เลย" ปัวโรท์กล่าว "ไม่เข้าใจเลย"
เธอจ้องมองเขาด้วยแววตาสงสาร
"เพลงกล่อมเด็ก ลิตเติ้ล บอย บลู มีอยู่ตอนหนึ่งกล่าวไว้ว่า อันเดอร์ เดอะ เฮย์ ควคฟาสท์ แอสลีพ ความหมายของมันก็คือ...อันเดอร์เฮย์.... เข้าใจไหม?"
ปัวโรท์ผงกศีรษะ นึกอยากถามตงิดๆ ถ้าชื่อโรเบิร์ตถูกระบุออกมาแล้ว ทำไมชื่ออันเดอร์เฮย์จึงไม่สามารถระบุได้ และทำไมต้องทำให้ยุ่งยากโดยการซ่อนความหมายไว้ในบทเพลงกล่อมเด็กด้วย
"และพี่สะใภ้ของฉันชื่อ โรซาลีน" มิสซิสโคลดกล่าวอย่างน่าภาคภูมิใจที่สุด "เข้าใจขึ้นบ้างหรือยังคะ" ความหมายของมันก็คือ บอกโรซาลีนด้วยว่า โรเบิร์ต อันเดอร์เฮย์ ยังไม่ตาย"
"อืม...แล้วคุณบอกหล่อนหรือยัง?"
มิสซิสโคลดสะดุ้งเล็กน้อย
"เออ...จริงสินะ...ยังเลย คุณเองก็พอจะเข้าใจนี่ ฉันหมายความว่า...มนุษย์เรามักขี้สงสัย โรซาลีนก็คงจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ฉันค่อนข้างแน่ใจ และอีกอย่างหนึ่ง เจ้าหนูที่น่าสงสาร มันอาจรบกวนจิตใจของเธอ...กังวล สงสัยว่าเขาอยู่ที่ไหน...และเขากำลังทำอะไร"
"นอกจากนี้แล้วข่าวคราวของเขา ยังผ่านมาจากสิ่งใดสิ่งนึงหรือ? เป็นอย่างนั้นทีเดียว นับว่าแปลกมาก แถมยังบอกว่าเขายังปลอดภัยอีกด้วย"
"อา คุณปัวโรท์ คุณน่ะไม่จินตนาการเอาเสียเลย เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเหตุการ์จะดำเนินไปในรูปใด ร้อยเอกอันเดอร์เฮย์ผู้น่าสงสาร อาจจะถูกจับตัวเป็นนักโทษอยู่ที่ใดที่หนึ่ง ในใจกลางอัฟริกาอันลึกลับ แต่ถ้าเกิดค้นพบเขา คุณปัวโรท์ ถ้าเขาถูกนำตัวกลับมาสู่อ้อมอกของโรซาลีนอันเป็นที่รักได้ ลองคิดดูสิ! เธอจะมีความสุขพียงใด! โอ คุณปัวโรท์ ฉันน่ะถูกส่งมาหาคุณ คุณจะใจดำปฏิเสธความปราถนาของวิญญาณได้เชียวหรือคะ"
ปัวโรท์ มองมาทางเธออย่างครุ่นคิด
"ค่าป่วยการของผม..." เขากล่าวอย่างแผ่วเบา "แพงมากนะครับ...ผมอาจจะบอกได้ว่าแพงมากกว่างานอื่นๆที่ผมเคยทำมา! และไอ้งานที่คุณนำมาเสนอต่อผมนี่ มันไม่ง่ายนัก"
"โอแย่จัง...แย่ชะมัด...โชคร้ายจริงๆ ตอนนี้ทั้งฉันและสามีกำลังกรอบ...โดยเฉพาะฉันยิ่งแย่หนัก ยอบแยบกว่าสามีฉันอีก ฉันเอาเงินไปซื้อหุ้น...ตามคำแนะนำของวิญญาณ...นี่ก็นานแล้วที่ยังไม่ได้ผลตอบแทนใดๆทำท่าว่าจะแย่เสียด้วย ฉันคาดว่าคงจะขายได้ลำบาก"
ดวงตาสีฟ้าอ่อนมองเขาด้วยแววตาละห้อย
"ฉันไม่กล้าบอกสามี แต่เปิดเผยให้คุณรู้อย่างตรงไปตรงมาว่าฉันอยู่ในฐานะเช่นไร แน่นอน ไอ้การที่ทำให้สามี ภรรยาที่พลัดพรากจากกันได้กลับมาพบกัน...นับว่าเป็นกุศลมหาศาลนะคะ"
"นี่ มาดาม ผมจะบอกอะไรให้ฟังนะ ไอ้ค่ารถ ค่าเรือ ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าเครื่องบิน ค่าอะไรต่ออะไรอีกจิปาถะ มันใช้บุญกุศลจ่ายแทนเงินไม่ได้หรอกคับ"
"แต่ถ้าเราหาตัวเขาพบ...ถ้าร้อยเอก อันเดอร์เฮย์ ยังมีชีวิตอยู่ ถ้าเป็นไปตามนั้น...เอ้อ...คงจะไม่มีอะไรติดขัด ในกรณีที่จะจ่ายค่าป่วยการให้คุณ"
"อา ผู้กองอันเดอร์เฮย์ คนนี้ร่ำรวยมากหรือไงครับ?"
"ไม่ ไม่ถึงกับร่ำรวยหรอกค่ะ...ฉันกล้าให้สัญญา...เรื่องนั้น...ฉันหมายถึงเรื่องการเงิน ขอรับรองว่าจะไม่มีปัญหา"
ปัวโรท์ สั่นศีรษะอย่างช้าๆ
"ผมเสียใจมาดาม คำตอบก็คือ ไม่ตกลงครับ"
เขายุ่งยากใจพอควร ในการที่จะทำให้เธอยอมรับคำตอบนั้น
ในที่สุดเธอก็จากไป เขายืนใช้ความคิดอยู่คนเดียว เพิ่งจะนึกออกในตอนนี้ว่าทำไมชื่อโคลด จึงคุ้นหู มีควมหมายต่อเขา ถ้อยคำการสนทนาในคลับช่วงที่ทีการโจมตีทางอากาศหวนกลับมาสู่ความคิดคำนึงของเขาอีกครั้ง น้ำเสียงที่น่าเบื่อหน่ายของผู้พันพอร์ทเตอร์ขณะพล่ามน้ำลายแตกฟองอยู่คนเดียว โดยปราศจากคนสนใจ
แต่อะไรที่ทำให้เขารู้สึกกังวล กับการพยายามทำใจ ให้ลืมเรื่องของหญิงวัยกลางคนที่เพิ่งจากไป ท่าทางของเธอเชื่อถือเรื่องไสยศาสตร์มาก แต่งคัวประหลาดชอบกล แต่แววตานั้นฉายแววฉลาดปราดเปรื่อง
"ทำไมเจ้าหล่อนจึงคิดมาหาเรานะ?" เขาพึมพำกับตนเอง "และอะไรกำลังจะดำเนินต่อไป"...เขาก้มมองนามบัตรบนโต๊ะทำงานส่วนตัว...วอร์มสลี่ เวล
ห้าวันให้หลัง เขาพบข้อความเล็กๆในหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับเย็น...มันเป็นข่างการตายของผู้ชายคนหนึ่ง ชื่ออีนอค
อาร์เดน...ที่วอร์มสลี่ เวล หมู่บ้านแบบเก่าเล็กๆห่างจากสนามกอล์ฟ วอร์มสลี่ ฮีท ราวสามไมล์
เฮอร์คูล ปัวโรท์ รำพึงรำพันกับตัวเองเบาๆ
"ชักจะสงสัยเสียแล้วสิ มีอะไรเกิดขึ้นที่วอร์มสลี่ เวล นะ?"
เฮอร์คูล ปัวโรท์ นั่งอยู่หลังโต๊ะเขียนหนังสือ ในตอนเข้าเดือนพฤษภาคมอันสดใส เมื่อ จอร์จ คนรับใช้เข้ามารายงานอย่างนอบน้อม
"มีสุภาพสตรีมาขอพบท่านครับ"
"สุภาพสตรีแบบไหน หืม?" ปัวโรท์ถามอย่างรอบคอบ
เขาชอบฟังความคิดเห็นของจอร์จ ที่มักจะอธิบายอย่างละเอียดถี่ถ้วน
"อายุของเธอราวๆสี่สิบถึงห้าสิบ ครับ แต่งตัวมากแต่ไม่ค่อยเรียบร้อย สวมรองเท้าหุ้มส้นชั้นดี เสื้อโค้ชขนสัตว์ และกระโปรง ข้างในเป็นเสื้อลูกไม้ สวมลูกปัดแบบอียิปต์และผ้าพันคอสีน้ำเงิน เนื้อผ้าชีฟอง ครับ"
ปัวโรท์ยักไหล่เล็กน้อย
"คิดไม่ถึงเลย" เขากล่าว "ฉันไม่อยากพบหล่อน"
"จะให้ผมบอกกับหล่อนว่า ท่านไม่ว่างมั้ยครับ"
ปัวโรท์มองจอร์จอย่างครุ่นคิด
"นี่แกบอกหล่อนไปแล้วใช่ไหมว่า ฉันกำลังยุ่งและห้ามรบกวน"
จอร์จกระแอมเบาๆ
"หล่อนบอกว่ามาจากต่างจังหวัด ขอรอจนกว่าจะได้พบครับ นานเท่าไหร่ก็จะรอ"
ปัวโรท์ถอนใจ
"อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดขึ้นจนได้" เขากล่าว "ถ้าสุภาพสตีผู้นี้อุตส่าห์ลำบากลำบน ถ่อสังขารจากแดนไกล มีจุดมุ่งหมายเพื่อมาพบ เฮอร์คูล ปัวโรท์ นักสืบมือเยี่ยมผู้นี้ ก็ยากที่จะบ่ายเบี่ยงได้ ไงเสีย หล่อนก็ต้องนั่งรออยู่จนกว่าจะได้พบอยู่ดี พาหล่อนเข้ามาได้จอร์จ"
จอร์จถอยหลังออกไป ไม่นานนักก็กลับเข้ามา
"มิสซิสโคลด มาแล้วครับ"
ร่างซึ่งอยู่ภายใต้ชุดขนสัตว์เก่าๆและผ้าพันคอฟู เดินเข้ามาพร้อมด้วยรอยยิ้มเกลื่อนใบหน้า เธอยื่อนมือออกมาสัมผัสทักทาย ลูกปัดกระทบกันดังกรุ๋งกริ๋งบนลำคอ
"คุณปัวโรท์" เธอกล่าว "ฉันมาพบคุณตามคำแนะนำของวิญญาณค่ะ"
ปัวโรท์กระพริบตาปริบๆ
"เชิญครับ มาดาม เชิญนั่งลงก่อน แล้วค่อยเล่าให้ผมฟัง...."
สิ้นเสียงเขาไม่นาน สุภาพสตรีนางนั้นก็กล่าวขึ้น
"เอ่อ คืองี้ค่ะ เมื่อคืนวานซืนนี้ มาดามเอลวารี่ (ผู้หญิงมหัศจรรย์) และฉันเล่นผีถ้วยแก้วกัน เราทั้งคู่ต่างก็ได้ตัวอักษรซ้ำกันครั้งแล้วครั้งเล่า ตัวเอช พี ค่ะ ทีแรก ฉันก็ไม่ทราบความหมายของมัน พยายามคิด ฉันเข้าใจว่ามันต้องเกี่ยวกับการติดต่อวิญญาณครั้งก่อน....ต้องเป็นเรื่องที่หน้าสนใจแน่นอน มันเป็นเช่นนั้นอยู่สองสามครั้งก่อนที่ฉันจะเข้าใจ ต่อจากนั้นจึงไปซื้อหนังสือพิคเจอร์ โพสต์ มาเล่มนึง นั่นแหละจึงได้เห็นคุณ เห็นภาพคุณ คำอธิบายและความสามารถของคุณ น่าทึ่งชะมัด คุณไม่คิดหรือคะว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามความคาดหมายอย่างแน่นอน ฉันมั่นใจเต็มเปี่ยม คุณเป็นบุคคลที่จะมาคลี่คลายเรื่องราวเหล่านี้"
ปัวโรท์จ้องมองเธออย่างครุ่นคิด ดวงตาสีฟ้าอ่อนฉายแววเฉลียฉลาดรอบรู้คู่นั้นสะดุดตาปัวโรท์ยิ่งนัก
"และอะไรเอ่ย คุณ...มิสซิสโคลด...ถูกไหมครับ?" เขาขมวดคิ้ว "ผมรู้สึกว่าผมเคยได้ยินนามนี้มาก่อน..."
เธอผงกศีรษะอย่างหนักแน่น
"พี่เขยผู้น่าสงสารของฉัน...การ์ดอน เป็นคนร่ำรวยมหาศาล ข่าวคราวของเขาปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยๆ เขาถูกระเบิดเสียชีวิตไปเมื่อปีกว่านี้เอง ยังควมโศกเศร้าเสียใจแก่พวกเราทุกคน สามีของฉันเป็นน้องชายของเขา เขาเป็นหมอชื่อ ลีโอเนล โคลด..."
"เขาไม่รู้ว่าฉันมาพบกับคุณ ถ้ารู้เขาก็คงไม่เห็นด้วย พวกหมอสมัยใหม่น่ะ ไม่เชื่อเรื่องผีสางกันเลย เชื่อการทดลอง เชื่อวิทยาศาสตร์...แต่อะไรที่ฉันพูดถึง...วิทยาศาสตร์คืออะไร มันช่วยอะไรได้บ้าง?"
เฮอร์คูล ปัวโรท์ นิ่งเงียบไม่ได้กล่าวตอบแต่อย่างไร ถ้าจะตอบก็คงต้องร่ายยาวถึงความสำเร็จ อันเกิดจากความพากเพียรของปาสเตอร์ลิสเตอร์ ตลอดจนความสว่างไสวของไฟฟ้าหัวคิดของ ฮัมฟรี่ย์เดวี่ แต่สิ่งเหล่านั้นแน่นอนย่อมไม่ใช่คำตอบที่มิสซิสโคลดต้องการ ตามเนื้อแท้ของคำถามของเธอ ไม่ใช่คำถามที่ถูกต้องเสียทั้งหมด มันควรจะเป็นเขาต่างหากที่น่าจะเป็นฝ่ายตั้งปัญหาถาม
เฮอร์คูล ปัวโรท์ คิดว่า ควรจะถามเอง
"ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณคิดว่าผมจะช่วยอะไรคุณได้หรือ?"
"คุณเชื่อในเรื่องโลกวิญญาณหรือเปล่าคะคุณปัวโรท์?"
"ผมเป็นชาวคาทอลิก ที่เชื่อมั่นในคำสอนมากคับ" ปัวโรท์กล่าวอย่างระมัดระวังคำพูด
มิสซิสโคลด โบกไม้โบกมือแสดงว่าไม่ยอมเชื่อในเรื่องศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก พร้อมกับรอยยิ้มเยาะหยัน
"งมงาย! คร่ำครึ! ศาสนาน่ะเป็นเรื่องคร่ำครึ งมงาย อคติ โง่งม ไม่ยอมรับความถูกต้องเป็นจริง ว่าความสวยงามของโลกนั้นซ่อนความโกหกหลอกลวงไว้เบื้องหลัง"
"เอ่อ ตอนเที่ยงนี้" ปัวโรท์ กล่าวชัด "ผมมีนัดสำคัญครับ"
มันเป็นจังหวะเดียวกันกับที่มิสซิสโคลดชะโงกกายเข้ามา
"ฉันเห็นจะต้องเข้าเรื่องซะที มันจะเป็นไปได้ไหม สำหรับคุณปัวโรท์ กับการค้นหาบุคคลที่หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย?"
ปัวโรท์ เลิกคิ้วขึ้น
"มันอาจจะเป็นไปได้....ใช่ครับ" เขากล่าวตอบอย่างรอบคอบ "แต่ตำรวจ คุณโคลดที่รัก ผมคิดว่าตำรวจทำได้ดีกว่าผมนะ หากเขามีเครื่อมือเครื่องไม้ครบถ้วน"
มิสซิสโคลดโบกไม้โบกมือ ไม่ยอมรับเรื่องตำรวจเช่นเดียวกันกับที่ไม่ยอมรับในเรื่องศาสนาคาทอลิก
"ไม่มีทางหรอกค่ คุณปัวโรท์....ฉันมาพบคุณตามคำชักนำของวิญญาณ....ฟังนะคะ พี่ชายของการ์ดอนแต่งงานได้ไม่กี่อาทิตย์ก็ถึงแก่กรรม ภรรยาม่ายสาวของเขาคือ มิสซิสอันเดอร์เฮย์ สามีคนแรกของเธอถูกรายงานว่า เสียชีวิตในอัฟริกา ประเทศลึกลับ....อัฟริกา"
"อัฟริกา.....ทวิปลึกลับ" ปัวโรท์แก้คำกล่าวของเธอให้ถูกต้อง "อาจจะมีทางเป็นไปได้ ส่วนไหนของอัฟริกาล่ะ?"
เธอขยับตัว
"อัฟริกากลาง ดินแดนของพวก วูดู และ ซอมบี้..."
"ซอมบี้ อยู่ใน เวสท์ อินดีส"
มิสซิสโคลดขยับตัวอีก
"...ดินแดนแห่งมนต์ดำ แม่มด หมอผี ตลอดจนเวทมนต์คาถา เป็นดินแดนที่ใครต่อใครที่พลัดหลงเข้าไปแล้ว หายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอย"
"อาจจะมีทางเป็นไปได้" ปัวโรท์กล่าว "ที่พิคคาดิลลี่เซอร์คัสก็เหมือนกัน"
มิสซิสโคลด ไม่ใส่ใจกับพิคคาลี่เซอร์คัส
"ครั้งที่สอง ล่าสุดนี้ คุณปัวโรท์ เราได้รับการติดต่อจากวิญญาณซึ่งบอกนามแก่พวกเราว่าชื่อ โรเบิร์ต ข้อมูลที่ได้เหมือนครั้งอื่นๆ ไม่ตาย..... เราเองต่างก็งุนงงเพราะไม่เคยรู้จักกับบุคคลเจ้าของนามนี้ เราไม่รู้จักโรเบิร์ต เราทำการสอบถามต่อ และก็ได้รับสิ่งนี้ อาร์ยู อาร์ยู อาร์ยู...... จากนั้นก็ บอกอาร์ บอกอาร์ บอกโรเบิร์ตรึ? เราถาม ไม่ใช่จากโรเบิร์ต อาร์ยู ยูหมายถึงอะไร? คำตอบที่เราได้รับคือ ลิตเติ้ล บอย บลู......... คุณเข้าใจไหม?"
"ไม่เลย" ปัวโรท์กล่าว "ไม่เข้าใจเลย"
เธอจ้องมองเขาด้วยแววตาสงสาร
"เพลงกล่อมเด็ก ลิตเติ้ล บอย บลู มีอยู่ตอนหนึ่งกล่าวไว้ว่า อันเดอร์ เดอะ เฮย์ ควคฟาสท์ แอสลีพ ความหมายของมันก็คือ...อันเดอร์เฮย์.... เข้าใจไหม?"
ปัวโรท์ผงกศีรษะ นึกอยากถามตงิดๆ ถ้าชื่อโรเบิร์ตถูกระบุออกมาแล้ว ทำไมชื่ออันเดอร์เฮย์จึงม่สามารถระบุได้ และทำไมต้องทำให้ยุ่งยากโดยการซ่อนความหมายไว้ในบทเพลงกล่อมเด็กด้วย
"และพี่สะใภ้ของฉันชื่อ โรซาลีน" มิสซิสโคลดกล่าวอย่างน่าภาคภูมิใจที่สุด "เข้าใจขึ้นบ้างหรือยังคะ" ความหมายของมันก็คือ บอกโรซาลีนด้วยว่า โรเบิร์ต อันเดอร์เฮย์ ยังไม่ตาย"
"อืม...แล้วคุณบอกหล่อนหรือยัง?"
มิสซิสโคลดสะดุ้งเล็กน้อย
"เออ...จริงสินะ...ยังเลย คุณเองก็พอจะเข้าใจนี่ ฉันหมายความว่า...มนุษย์เรามักขี้สงสัย โรซาลีนก็คงจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ฉันค่อนข้างแน่ใจ และอีกอย่างหนึ่ง เจ้าหนูที่น่าสงสาร มันอาจรบกวนจิตใจของเธอ...กังวล สงสัยว่าเขาอยู่ที่ไหน...และเขากำลังทำอะไร"
"นอกจากนี้แล้วข่าวคราวของเขา ยังผ่านมาจากสิ่งใดสิ่งนึงหรือ? เป็นอย่างนั้นนทีเดียว นับว่าแปลกมาก แถมยังบอกว่าเขายังปลอดภัยอีกด้วย"
"อา คุณปัวโรท์ คุณน่ะไม่จินตนาการเอาเสียเลย เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเหตุการ์จะดำเนินไปในรูปใด ร้อยเอกอันเดอร์เฮย์ผู้น่าสงสาร อาจจะถูกจับตัวเป็นนักโทษอยู่ที่ใดที่หนึ่ง ในใจกลางอัฟริกาอันลึกลับ แต่ถ้าเกิดค้นพบเขา คุณปัวโรท์ ถ้าเขาถูกนำตัวกลับมาสู่อ้อมอกของโรซาลีนอันเป็นที่รักได้ ลองคิดดูสิ! เธอจะมีความสุขพียงใด! โอ คุณปัวโรท์ ฉันน่ะถูกส่งมาหาคุณ คุณจะใจดำปฏิเสธความปราถนาของวิญญาณได้เชียวหรือคะ"
ปัวโรท์ มองมาทางเธออย่างครุ่นคิด
"ค่าป่วยการของผม..." เขากล่าวอย่างแผ่วเบา "แพงมากนะครับ...ผมอาจจะบอกได้ว่าแพงมากกว่างานอื่นๆที่ผมเคยทำมา! และไอ้งานที่คุณนำมาเสนอต่อผมนี่ มันไม่ง่ายนัก"
"โอแย่จัง...แย่ชะมัด...โชคร้ายจริงๆ ตอนนี้ทั้งฉันและสามีกำลังกรอบ...โดยเฉพาะฉันยิ่งแย่หนัก ยอบแยบกว่าสามีฉันอีก ฉันเอาเงินไปซื้อหุ้น...ตามคำแนะนำของวิญญาณ...นี่ก็นานแล้วที่ยังไม่ได้ผลตอบแทนใดๆทำท่าว่าจะแย่เสียด้วย ฉันคาดว่าคงจะขายได้ลำบาก"
ดวงตาสีฟ้าอ่อนมองเขาด้วยแววตาละห้อย
"ฉันไม่กล้าบอกสามี แต่เปิดเผยให้คุณรู้อย่างตรงไปตรงมาว่าฉันอยู่ในฐานะเช่นไร แน่นอน ไอ้การที่ทำให้สามี ภรรยาที่พลัดพรากจากกันได้กลับมาพบกัน...นับว่าเป็นกุศลมหาศาลนะคะ"
"นี่ มาดาม ผมจะบอกอะไรให้ฟังนะ ไอ้ค่ารถ ค่าเรือ ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าเครื่องบิน ค่าอะไรต่ออะไรอีกจิปาถะ มันใช้บุญกุศลจ่ายแทนเงินไม่ได้หรอกคับ"
"แต่ถ้าเราหาตัวเขาพบ...ถ้าร้อยเอก อันเดอร์เฮย์ ยังมีชีวิตอยู่ ถ้าเป็นไปตามนั้น...เอ้อ...คงจะไม่มีอะไรติดขัด ในกรณีที่จะจ่ายค่าป่วยการให้คุณ"
"อา ผู้กองอันเดอร์เฮย์ คนนี้ร่ำรวยมากหรือไงครับ?"
"ไม่ ไม่ถึงกับร่ำรวยหรอกค่ะ...ฉันกล้าให้สัญญา...เรื่องนั้น...ฉันหมายถึงเรื่องการเงิน ขอรับรองว่าจะไม่มีปัญหา"
ปัวโรท์ สั่นศีรษะอย่างช้าๆ
"ผมเสียใจมาดาม คำตอบก็คือ ไม่ตกลงครับ"
เขายุ่งยากใจพอควร ในการที่จะทำให้เธอยอมรับคำตอบนั้น
ในที่สุดเธอก็จากไป เขายืนใช้ความคิดอยู่คนเดียว เพิ่งจะนึกออกในตอนนี้ว่าทำไมชื่อโคลด จึงคุ้นหู มีควมหมายต่อเขา ถ้อยคำการสนทนาในคลับช่วงที่ทีการโจมตีทางอากาศหวนกลับมาสู่ความคิดคำนึงของเขาอีกครั้ง น้ำเสียงที่น่าเบื่อหน่ายของผู้พันพอร์ทเตอร์ขณะพล่ามน้ำลายแตกฟองอยู่คนเดียว โดยปราศจากคนสนใจ
แต่อะไรที่ทำให้เขารู้สึกกังวล กับการพยายามทำใจ ให้ลืมเรื่องของหญิงวัยกลางคนที่เพิ่งจากไป ท่าทางของเธอเชื่อถือเรื่องไสยศาสตร์มาก แต่งคัวประหลาดชอบกล แต่แววตานั้นฉายแววฉลาดปราดเปรื่อง
"ทำไมเจ้าหล่อนจึงคิดมาหาเรานะ?" เขาพึมพำกับตนเอง "และอะไรกำลังจะดำเนินต่อไป"...เขาก้มมองนามบัตรบนโต๊ะทำงานส่วนตัว...วอร์มสลี่ เวล
ห้าวันให้หลัง เขาพบข้อความเล็กๆในหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับเย็น...มันเป็นข่างการตายของผู้ชายคนหนึ่ง ชื่ออีนอค
อาร์เดน...ที่วอร์มสลี่ เวล หมู่บ้านแบบเก่าเล็กๆห่างจากสนามกอล์ฟ วอร์มสลี่ ฮีท ราวสามไมล์
เฮอร์คูล ปัวโรท์ รำพึงรำพันกับตัวเองเบาๆ
"ชักจะสงสัยเสียแล้วสิ มีอะไรเกิดขึ้นที่วอร์มสลี่ เวล นะ?"
ความคิดเห็น