คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 : วันยุ่งๆ
วันยุ่งๆ
บ้านเรือนของพวกมนุษย์โลก นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่ได้กลับมาบ้าน ใช้ชีวิตอยู่แต่บนปราสาทลอยฟ้าไปวันๆ
ผมเงยหน้าขึ้นมองตัวบ้านตระกูลอินาโฮะอย่างเต็มตา หึ บ้านเล็กกว่าห้องนอนผมบนยานซะอีก
“จะเข้าบ้านไหม ”ผมหันไปมองไอ้คนพูดจนตาขวาง ไม่ต้องบอกก็รู้นะครับว่าไอ้คนที่ผมหันไปมองมันคือใคร มันคือไอ้เจ้าส้ม ที่ทำให้หุ่นรบหลายตัวของกองทัพพ่ายแพ้ และที่สำคัญ มันยังเป็นคนที่แย่งหัวใจขององค์หญิงที่ผมรักไป
ชาตินี้อย่าหวังเลย ว่าคนอย่างสเลนนี่ จะญาติดีกับมัน
“อยากเข้าตายล่ะ ไอ้เจ้าส้ม ”นี่ถ้าติดต่อกลับดาวอังคารได้เมื่อไหร่ ผมคงต้องรีบบอกองค์หญิงว่าไอ้เจ้าส้ม เอ้ย ไอ้อินาโฮะอะไรนั่น มันร้ายกาจขนาดไหน แล้วองค์หญิงก็จะได้ตัดใจจากมันซะที หึหึ
“ยิ้มชั่วร้ายอะไร เจ้าค้างคาว ”หึ ไม่ใช่ผมคนเดียวสินะ ที่จำมันได้น่ะ ดีเหมือนกัน ผมจะได้ชำระความแค้นกับมันถูก
“เจ้าส้ม ผมชื่อสเลน โทรยาร์ค ไม่ใช่ค้างคาว” ผมบอกมันไปด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“อืม แล้ว? ”ไอ้อินาโฮะทำหน้าหมางงถามผมต่อ
แล้วจะอะไรล่ะ
“นายต้องเรียกผมว่า สเลน ไม่ใช่ค้างคาวอะไรนั่น”
“อืม อินาโฮะ ”หืมมม อะไรของมัน
ผมมองหน้ามันอย่างสงสัย ไม่กระจ่างกับประโยคพูดลอยๆของมัน
“ชื่อผม อินาโฮะ เรียกซะด้วย”
“ห๊ะ แล้วทำไมผมต้องเรียกนายแบบนั้น สิทธิ์ของผมนิ ที่จะเรียกนายว่าเจ้าส้ม”
ไอ้เด็กนั่นผงกหัวเล็กน้อย และหันหลังเตรียมจะเดินเข้าบ้าน
“งั้นก็สิทธิ์ของผมเหมือนกัน เจ้าค้างคาว”
ผ…ผมชักปืนมายิงไอ้ตัวร้ายกาจนี่ได้ไหม ไอ้น้ำแข็งแห้งเดินได้กับหน้าตาเฉยชานั่นน่ะ
อารมณ์เสียเป็นบ้า
ผมเดินเข้าบ้านของไอ้เจ้าตัวสีส้มไปด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะมีชายและหญิงวัยกลางคนเดินออกมาต้อนรับ
คาดว่าน่าจะเป็น คุณพ่อ คุณแม่
“สวัสดีจ้า หนูสเลน”หญิงสาวคนนั้นยิ้มอย่างเป็นมิตร และเข้ามาจับลูบตัวผม “คุณคะ ชาวดาวอังคารนี่เหมือนๆกับพวกเราชาวโลกเลยนะคะ” ผู้ชายอีกคนพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย เอ่อออ ผมจะบอกยังไงดีล่ะ ผมก็เป็นชาวโลกเหมือนๆกัน แต่แค่ไปอยู่บนดาวอังคาร
“ส…สวัสดีครับ ”ผมยิ้มให้กับชายหญิงสองคนนั้นอย่างเป็นมิตร แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมา เห็นไอ้เจ้าส้มกำลังมองหน้าผมอยู่
ใจที่สงบอยู่แล้ว ก็คุกกรุ่นขึ้นมา
มันมองอะไรผม
“นาจังลูก พาพี่เขาไปห้องพักสิ ”คนเป็นแม่หันไปคุยกับไอ้เจ้าส้มที่ยืนมองผมอยู่
พรืดดด ผมกลั้นขำเต็มที่อะ
นาจัง แบ๊วไปไหม
“แม่ อย่าเรียกผมแบบนั้น” ไอ้เจ้าส้มหันไปบอกแม่อย่างไม่ชอบใจ และหันมามองผม “นายก็ด้วย จะหัวเราะหรือจะตามผมมา”
อ่าว ไอ้หนิ
หงุดหงิดแล้วมาลงที่คนหล่อๆอย่างผมซะงั้น
ผมเดินทำหน้าหงิมๆ เป็นแขกที่ดี
ใช่ที่ไหนล่ะ
ผมจะทำดีกับทุกคน ยกเว้นก็แต่กับน้องนาจังนั่น
ฮ่าๆๆ ขำว่ะ ชื่อแม่ม
“ถ้ายังไม่หยุดหัวเราะชื่อผมนะ… ”
แหม่ รู้ด้วยเหรอ
ไหนๆละ แกล้งซะหน่อย
“ถ้าผมไม่หยุดหัวเราะ นาจัง จะทำอะไรครับ” ไอ้เจ้าส้มหันมามองผมอย่างโกรธๆ หึหึ ก็ได้แค่มองล่ะ ตอนนี้ผมเป็นแขกของโลกนี้ ถ้ามันทำอะไรผม ก็เท่ากับประกาศสงคราม
ผมเป็นคนดีนะ
“นอนพื้น ”มันไม่พูดเปล่า พร้อมกับใช้เท้าแตะๆลงบนพื้นไม้แข็งๆ
มันหมายถึง….
“นายจะนอนพื้นสินะ ขอบคุณมาก เป็นคนดีกว่าที่คิดนะ ”ผมกล่าวจบพลางทิ้งตัวลงนอนบนเตียงสีขาวอย่างสุขกายสบายใจ นานๆทีจะเห็นมันเป็นคนดีเหมือนกันแห๊ะ
ไม่ทันที่ผมจะได้นอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง
มือของไอ้เจ้าส้มก็มาดึงคอเสื้อผม ให้หันหน้ามา
“อะไรของนาย ”ผมบอกมันอย่างหงุดหงิด
“นั่นน่ะเตียงผม ของนายน่ะ พื้นนี่”
ว…ว่าไงนะ!!
“พ…พื้น?” ผมถามมันอีกรอบให้แน่ใจ
“อือ ”
น….นี่ผมเป็นแขกนะ!!
มันกล้าพูดคำว่าพื้น ด้วยสีหน้าเฉยๆนี่นะ!
บ้าเหอะ
ให้ตายผมก็ไม่นอนพื้นอะ
“นายแหล่ะนอนพื้น ผมเป็นแขกของโลกนะ”
“แล้ว…ไง ”ไอ้เจ้าส้มถามด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อน
อารมณ์ขึ้นครับ
“แล้วไงอะไร ถ้านายปฏิบัติต่อผมแบบนี้ ผมจะเอาไปฟ้ององค์หญิง ให้ประกาศสงครามกับนาย”
หึหึ เหตุผลนี้ มันคงไม่กล้าปฏิเสธ
ผมจ้องหน้ามันให้มันรู้ว่าที่ผมพูดไปนั้น ไม่ใช่แค่คำขู่ใดๆ
มันเงียบไปสักพัก ราวกับใช้ความคิด
“งั้นนอนด้วยกัน”
“ห๊ะ ”
“คราวนี้ไม่พอใจอะไรอีก ”ไอ้เจ้าส้มถามผมอีกรอบ
นี่มันเดาไม่ออกเหรอ ว่าผมไม่พอใจอะไร
“ก็ผู้ชายเหมือนๆกัน”
ปากที่ผมกำลังจะกร่นด่ามัน กลืนเข้าลำคอ
เออว่ะ ก็ผู้ชายเหมือนๆกัน
แล้วผมจะ ช็อก อะไรวะ
“หรือว่านายชอบผม ”
ไม่ให้มันได้อ้าปากเอ่ยคำใดๆออกมา ผมก็จัดการขว้างหมอนใบใหญ่ที่ใช้หนุนหัวใส่มันเต็มแรง
“เออ ชอบมาก ชอบจนอยากเอาลูกปืนให้เป็นของขวัญเลย” ผมมองหน้ามันอย่างโกรธแค้น
เอะอะก็พูดว่า ชอบผมเหรอๆ เหอะ!
“มองอะไร! ”ผมถามมัน
หน้าผมไม่ใช่กระจกนะ ถึงจะมาส่องมามองบ่อยๆ
“เปล่า แค่หน้านายมันแดงๆ” ไม่รอให้มันได้พูดจบ ผมรีบลุกเข้าห้องน้ำไปส่องหน้าตัวเองทันที
เห้ยยยยยย แล้วผมจะเชื่อมันทำไมว่าหน้าตัวเองกำลังแดง
“ไอ้ ไอ้.....! ”
คุณไม่เชื่อผมหรอก ว่าผมเห็นอะไร
ผมเห็นรอยยิ้มมุมปากที่แสนจะชั่วร้ายของไอ้เจ้าส้มนั่น
รอยยิ้มที่
กวน ตี-
ผมกินข้าวเสร็จในเวลาไม่นานนัก อาหารจากโลกถือว่าดีกว่าดาวอังคารหลายขุม ถ้าได้กินอาหารอร่อยๆแบบนี้หลายมื้อ ผมว่าผมคงอ้วนแน่ๆ
“สเลนจ๊ะ ที่นอนนอนได้ไหม”คุณแม่ของไอ้เจ้าส้มหันมาถามผมขณะที่ท่านกำลังล้างจานอยู่
“โอเคครับ ”ผมกัดฟันตอบไป โอเคอะไรล่ะ คนอย่างผมนี่นะ ทำไมต้องนอนเตียงเดียวกับคนที่เกลียดด้วย
ไอ้อินาโฮะหันมามองผมนิดๆ และทำเป็นไม่สนใจเดินขึ้นห้องนอนไป
บ้าแล้ว
แล้วผมจะมองตามมันขึ้นไปทำไมวะ
“สเลนตอนเช้าไปโรงเรียนพร้อมกับเราไหม” ยูกิหันมาถามผม ผมส่ายหน้าให้เป็นคำตอบ “ไม่เป็นไรครับ ผมพอจำทางได้”
ไม่ใช่อะไรนะ แต่ผมไม่อยากติดหนี้บุญคุณของชาวโลก
“ผมขอตัวขึ้นนอนก่อนนะครับ”ผมยิ้มให้กับทุกคน วันนี้ผมเหนื่อยจริงๆ วันแรกบนโลก ผมว่าผมยังไม่ชินกับมันเท่าไหร่
ผมเปิดประตูไม้บานสีขาวเข้าห้องนอนไปด้วยใจที่เคยสงบ
ใช่ เคยสงบ ตอนนี้ถ้าคุณเป็นผมคุณจะทำยังไงเมื่อเห็นคนที่ตัวเองไม่ชอบกำลังนอนแผ่อ่านหนังสืออยู่บนเตียง มันนอนเกินครึ่งเตียงเลยเหอะ
“นี่ เขยิบไปดิ๊” มันหันมามองผมนิดๆ และก็พลิกหน้าหนังสืออ่านต่อ
นี่มันจะกวนผมไปไหน
“ไอ้เจ้าส้ม ผมจะนอน” มันหยิบหูฟังขึ้นมาเสียบ และไม่สนใจคนหน้าหล่อๆอย่างผมที่ยืนมองมันอยู่
ผมง่วงนะเว้ยเฮ้ย
“ไอ้ ไอ้….!” ปากที่กำลังจะเอ่ยคำแสลงหูออกไปชะงักทันที เมื่อสายตาของมันมองมาทางผม
“นายยังไม่ได้อาบน้ำ” ผมหันไปมองกับประโยคนั้นอย่างงงๆ
อาบน้ำ ทำไมผมต้องอาบวะ
ตอนผมอยู่บนยานนั้นยังไม่เห็นต้องอาบเลย
“ตอนเที่ยงนายเล่นบาสนิ” ไอ้ส้มเอ่ยเหตุผลมาอีกข้อ เออ ผมลืมไปว่าตอนนั้นผมเล่นบาสกลางแดดจนเหงื่อไหลออกมาเป็นน้ำขนาดนั้น
ว่าแต่ มันเห็นผมเล่นบาสเหรอ
ไม่น่าจะใช่ แต่ถ้าผมไม่อาบ ไอ้ส้มมันคงไม่กล้านอนกับผมใช่ไหม
เมื่อผมหาข้อสรุปได้ ผมก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าซะตรงนั้น ไอ้ส้มหันมามองผมอย่างอึ้งๆ หึ หุ่นผมดีสินะ ผมรู้ตัวหรอก
ผมใส่เสื้อใส่กางเกงตัวใหม่ ก็กระโดดขึ้นเตียงไปยังที่นอนว่างๆนั้น
“น….นาย ”ไอ้ส้มลุกขึ้นนั่งมามองผมอย่างอึ้งๆ ก่อนจะบ่นออกมาอย่างอารมณ์เสีย “นอนไปเลย”
ผมแสยะยิ้มเล็กๆเมื่อเห็นมันหอบผ้าผ่อนบางส่วนลงไปนอนบนพื้นแข็งๆด้านล่าง
หึ ถ้ารู้ว่ามันรักสะอาดขนาดนี้ ผมคงทำแบบนี้ไปนานละ
ความคิดเห็น