ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ฉบับที่ 4 : บนทางเดิน...
          มือเรียวสวยจับที่ลูกบิดประตู บานประตูถูกดันเปิดออก และ...
          แมรี่เดินออกมาจากห้อง ปิดประตูตามหลังก่อนจะล็อคกุญแจอย่างระมัดระวัง หญิงสาวเริ่มออกเดินไปตามทางเดินอันเงียบสงัด บรรยากาศแบบนี้ยิ่งช่วยส่งเสริมความกลัวของเธอ ทำเอาเธอแทบบ้าตาย
          ขาทั้งสองข้างค่อยๆก้าวเร็วขึ้นเรื่อยๆ หัวเลี้ยวกำลังค่อยๆใกล้เข้ามา แต่แล้วประสาทหูของแมรี่ก็รับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง...
          เสียงฝีเท้าไม่ได้มีแค่เธอเพียงคนเดียว
          หญิงสาวมั่นใจว่าหูไม่ได้ฝาด ยิ่งเมื่อลองเงี่ยหูฟังดูดีๆแล้วเธอยิ่งรู้สึกมั่นใจ
          ว่ามีใครบางคนเดินตามเธอมา
          ความรู้สึกขนลุกซู่ผลักดันขาทั้งสองข้างให้เร่งความเร็วหนักขึ้นไปอีก แม้แมรี่จะเชื่อว่ามีบางคนหรือบางอย่างตามหลังเธอมา แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะเหลียวกลับไปมอง
          หญิงสาวภาวนาขอให้ลิฟต์หยุดอยู่ที่ชั้นของเธอ...
          ทว่า เธอเดินติดต่อกันมานานแสนนาน หัวเลี้ยวนั้นก็ดูเหมือนจะไม่ใกล้เข้ามาเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่า... มันกำลังขยับหนีออกไปพร้อมๆกับย่างก้าวของเธอ
          ทันใดนั้นเอง ไฟบนโถงทางเดินก็พลันดับวูบ!
          แมรี่สะดุ้งสุดตัว ความมืดเข้ากลืนกินทั่วทั้งแนวทางเดิน ทำเอาเธอมองไม่เห็นเส้นทางเบื้องหน้า โชคยังดีที่บริเวณนี้เป็นทางตรงตลอด แมรี่จึงยังเดินต่อไปได้ไม่จำเป็นต้องหยุด
          แต่สิ่งหนึ่งที่สะดุดใจหญิงสาว คือแสงสว่างที่ดูเหมือนจะปรากฏวูบวาบอยู่ด้านหลังของเธอ...
       
          แมรี่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ พยายามใช้เรียวขาที่เริ่มสั่นระริกนำพาร่างของตนให้ไปถึงลิฟต์โดยเร็วที่สุด แต่ทุกอย่างก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม... ดูเหมือนลิฟต์กำลังขยับหนีเธอออกไปเรื่อยๆ
          มันเป็นการเดินที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของเธอ ยิ่งเวลาผ่านไปนานมากเท่าไหร่ ความกระสับกระส่ายก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นข้างหลังเธอยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆกับแสงไฟวูบวาบอย่างกับหลอดไฟเสียที่กำลังกระพริบติดๆดับๆ
          ดูเหมือนเธอจะไม่มีวันหนีออกจากวังวนแห่งความกลัวนี้ได้พ้น นอกเสียจากจะหันไปเผชิญหน้ากับความกลัวเสียเลย... แมรี่เองก็ตระหนักได้เช่นนี้ จึงพยายามรวบรวมความกล้า สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด เตรียมตัวจะกลับหลังหันไปดูที่มาของเสียงฝีเท้า ไม่ว่ามันจะเป็นมนุษย์หรือสิ่งใดก็ตาม เธอก็ไม่มีทางเลือกแล้ว!
          หญิงสาวขบริมฝีปากแน่น สะบัดร่างหมุนร้อยแปดสิบองศาชนิดไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ทันตั้งตัว!
          บนทางเดินมีแต่ความมืด...
          แมรี่สอดส่องสายตาไปทั่วพยายามเพ่งมองหาสิ่งผิดปกติ แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดแปลกไปเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็เป็นหมือนทางเดินธรรมดาๆที่ขาดแสงไฟเท่านั้นเอง
          เธอมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนจะแอบผ่อนลมหายใจค่อยๆหันกลับมาด้วยความโล่งอก... แต่ทันใดนั้นเอง
          ดวงไฟที่อยู่ตรงหน้าเธอก็พลันสว่างโร่ขึ้นมาอย่างกะทันหัน
          แสงสว่างปรากฏขึ้นพร้อมๆกับร่างของชายคนหนึ่งที่เธอรู้จักดี... แดเนียล!
          ชายหนุ่มส่งเสียงร้องโอดครวญชวนสยอง ใบหน้าที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดของเขาบิดเบี้ยวราวกับกะโหลกภายในถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด นัยน์ตาเศร้าหมองที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวของเขามองตรงมายังแมรี่ ทำเอาเธอต้องขนลุกซู่ไปทั้งตัว
          เลือดสีแดงคล้ำไหลลงมาตามเส้นผมของเขา กลายเป็นหยาดหยดอยู่กลางอากาศ... และทันทีที่มันลงไปถึงพื้น
          แดเนียลก็กรีดเสียงร้องดังลั่น!
          ขาที่ถูกบิดจนกลับหน้ากลับหลังเริ่มก้าวขยับ วินาทีนั้นราวกับมีอะไรมากระตุ้นหัวใจของแมรี่ให้เต้นรัวเร็วจนผิดปกติ เธอหายใจเป็นจังหวะระส่ำ ผงะถอยเตรียมออกวิ่งด้วยเรียวขาที่มีกำลังวังชาขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจ
          “ไม่... ไม่... แดเนียล!”
          แมรี่ตะโกนก้องพลางจ้ำพรวดอย่างไม่คิดชีวิต ทิศทางที่เธอกำลังไปนั้นอยู่ตรงข้ามกับลิฟต์ แต่ที่สุดทางเดินก็มีบันไดข้างตึกที่สามารถใช้ลงไปข้างล่างได้เช่นกัน เวลานี้หญิงสาวไม่สนใจวิธีการอีกต่อไปแล้ว แค่ขอให้ออกไปจากที่นี่ได้เป็นพอ!
          ความเหนื่อยล้าถูกกลืนหายไปกับความหวาดผวา แมรี่ไม่คิดแม้แต่จะเหลียวกลับไปมอง เสียงร้องของแดเนียลที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องบ่งบอกได้อย่างดีว่าเกิดอะไรขึ้น ขาของเธอบัดนี้อาจเทียบได้กับนักวิ่งทีมชาติ นี่คงเป็นผลจากสารอะดรีนาลีนที่หลั่งออกมาตามสัญชาตญาณในเวลาคับขันนั่นเอง!
          แมรี่วิ่งมาจนถึงประตูที่สุดทางเดิน แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเธอ... เพราะมันล็อค! หญิงสาวพยายามบิดลูกบิดกระโดดกระแทกประตูหลายครั้งแต่มันก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะขยับ สถานการณ์ที่กดดันทำให้เธอเผลอเบือนหน้ากลับไปมองแดเนียล
          เขากำลังเดินตรงเข้ามา เมื่อแสงไฟกระพริบสว่างขึ้นร่างของเขาก็ปรากฏชัดเจน แต่เมื่อแสงไฟดับวูบลงร่างของเขาก็หายไปราวกับไม่เคยอยู่ที่นั่น สภาพผลุบๆโผล่ๆของเขาแบบนี้ยิ่งทำให้แมรี่หวาดกลัวเสียจนทำอะไรไม่ถูก
          หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งขดตัวสั่นระริกอยู่ที่มุมกำแพง เปลือกตาทั้งสองข้างปิดแน่นเพราะไม่ต้องการเห็นภาพตรงหน้า เสียงกรีดร้องของแดเนียลยังคงดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ... ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ใกล้จนเธอรู้สึกได้ว่าเขามายืนอยู่ในระยะประชิด
          ใบหน้าบิดเบี้ยวของแดเนียลปรากฎขึ้นในหัวของแมรี่อีกครั้ง เขากรีดร้องดังลั่นทำเอาหญิงสาวแทบประสาทกิน เธอสะบัดหัวไปมาอย่างบ้าคลั่ง ส่งเสียงร้องโวยวายมั่วซั่วฟังไม่ได้ศัพท์ แต่แล้วภาพนั้นก็เลือนหายไปเอง เหลือเพียงภาพติดตาที่แมรี่คงจะไม่มีวันลืมลง
          เมื่อเสียงสงบลง หญิงสาวก็ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นทั้งๆที่ร่างกายยังสั่นไม่หยุด เธอมองผ่านง่ามนิ้วออกไปมองทัศนียภาพเบื้องหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆ
          ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
          ดวงไฟกลับมาทำงานเหมือนเดิมอีกครั้ง บนโถงทางเดินโล่งกว้างเงียบสงัดดั่งเช่นเคย แมรี่กวาดตามองไปรอบๆก็ไม่เห็นอะไรที่ผิดแปลกไปแม้แต่น้อย จะมีแต่ตัวเธอเองนั่นแหละที่ดูแปลกที่สุด เพราะเธอนั่งแผ่หมดเรี่ยวหมดแรงอยู่ที่มุมกำแพง หายใจรัวเร็วเป็นจังหวะเดียวกับหัวใจที่ถูกความกลัวบีบรัด
          แม้จะสงบสุขเพียงใด แต่เหตุการณ์เมื่อครู่ก็ไม่อาจทำให้เธอสบายใจได้อีกต่อไปแล้ว
          แมรี่รวบรวมกำลังทั้งหมดที่เหลืออยู่พยุงตัวลุกขึ้น ลองเปิดประตูเข้าสู่บันไดอีกครั้ง ทว่าในครั้งนี้บานประตูนั้นกลับไม่ได้ล็อค ยิ่งคิดหญิงสาวก็ยิ่งขนลุกซู่ไปทั้งตัว แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกแล้ว
          เธอจะไม่มีวันเดินกลับไปบนทางเดินนั้นอีกเป็นอันขาด
          เสียงรองเท้าของเธอกระทบกับบันไดแต่ละขั้นดังรัวเร็วอย่างเร่งรีบ แมรี่ไม่รู้สึกอยากมองไปข้างหลัง ไม่อยากแม้แต่จะเงี่ยหูฟังเสียงใดๆ บัดนี้เธอจดจ่ออยู่กับการวิ่งลงบันได ด้วยความหวาดกลัวว่าจะมีบางสิ่งบางอย่างติดตามเธอมา
          ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งเธอเดินลงมาถึงชั้นล่างสุด บานประตูออกสู่ลานจอดรถอยู่เพียงเบื้องหน้า ห่างจากเธอไปไม่กี่เมตร แต่แล้ว...
          แสงไฟก็พลันดับวูบลงอีกครั้ง
          ดวงไฟเริ่มกระพริบติดๆดับ... แมรี่หยุดยืนนิ่งอยู่กับที่สอดส่ายสายตาไปมาทั้งซ้ายทั้งขวา บัดนี้เธอไม่ได้รู้สึกกลัวเพียงอย่างเดียว แต่เธอรู้สึกหงุดหงิดอยากจะบ้าตาย และต้องการระบายอารมณ์ฉุนเฉียวออกมาโดยเร็วที่สุด!
          ร่างของแดเนียลปรากฎขึ้นพร้อมๆกับแสงไฟ สภาพของเขายังคงเหมือนเดิม... เละจนดูไม่ได้ ริมฝีปากที่ฉีกขาดเผยอเปิดส่งเสียงครวญครางเบาๆ ก่อนจะกรีดเสียงร้องดังลั่นตามออกมา
          หัวคิ้วของหญิงสาวยับย่นเข้าหากัน ความหงุดหงิดที่ปะทุขึ้นบัดนี้เอาชนะความกลัวได้อย่างหมดจด เธอกัดฟันกรอดหายใจฟึดฟัดด้วยความเกรี้ยวกราด จนกระทั่งตัดสินใจตะคอกกลับไปด้วยเสียงที่ดังยิ่งกว่า!
          “จะเอายังไงกับฉันกันแน่!”
          สิ้นเสียง แดเนียลก็เริ่มก้าวเดิน... เร็วขึ้น... เร็วขึ้นเรื่อยๆ... จนกระทั่งกลายเป็นการวิ่ง! เขากำลังวิ่งตรงมาหาเธอพร้อมกรีดร้องด้วยท่าทางชวนขนลุกขนพอง! หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวเผลอหลับตาปี๋ไปโดยไม่รู้ตัว
          “แมรี่!”
          แมรี่เดินออกมาจากห้อง ปิดประตูตามหลังก่อนจะล็อคกุญแจอย่างระมัดระวัง หญิงสาวเริ่มออกเดินไปตามทางเดินอันเงียบสงัด บรรยากาศแบบนี้ยิ่งช่วยส่งเสริมความกลัวของเธอ ทำเอาเธอแทบบ้าตาย
          ขาทั้งสองข้างค่อยๆก้าวเร็วขึ้นเรื่อยๆ หัวเลี้ยวกำลังค่อยๆใกล้เข้ามา แต่แล้วประสาทหูของแมรี่ก็รับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง...
          เสียงฝีเท้าไม่ได้มีแค่เธอเพียงคนเดียว
          หญิงสาวมั่นใจว่าหูไม่ได้ฝาด ยิ่งเมื่อลองเงี่ยหูฟังดูดีๆแล้วเธอยิ่งรู้สึกมั่นใจ
          ว่ามีใครบางคนเดินตามเธอมา
          ความรู้สึกขนลุกซู่ผลักดันขาทั้งสองข้างให้เร่งความเร็วหนักขึ้นไปอีก แม้แมรี่จะเชื่อว่ามีบางคนหรือบางอย่างตามหลังเธอมา แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะเหลียวกลับไปมอง
          หญิงสาวภาวนาขอให้ลิฟต์หยุดอยู่ที่ชั้นของเธอ...
          ทว่า เธอเดินติดต่อกันมานานแสนนาน หัวเลี้ยวนั้นก็ดูเหมือนจะไม่ใกล้เข้ามาเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่า... มันกำลังขยับหนีออกไปพร้อมๆกับย่างก้าวของเธอ
          ทันใดนั้นเอง ไฟบนโถงทางเดินก็พลันดับวูบ!
          แมรี่สะดุ้งสุดตัว ความมืดเข้ากลืนกินทั่วทั้งแนวทางเดิน ทำเอาเธอมองไม่เห็นเส้นทางเบื้องหน้า โชคยังดีที่บริเวณนี้เป็นทางตรงตลอด แมรี่จึงยังเดินต่อไปได้ไม่จำเป็นต้องหยุด
          แต่สิ่งหนึ่งที่สะดุดใจหญิงสาว คือแสงสว่างที่ดูเหมือนจะปรากฏวูบวาบอยู่ด้านหลังของเธอ...
       
          แมรี่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ พยายามใช้เรียวขาที่เริ่มสั่นระริกนำพาร่างของตนให้ไปถึงลิฟต์โดยเร็วที่สุด แต่ทุกอย่างก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม... ดูเหมือนลิฟต์กำลังขยับหนีเธอออกไปเรื่อยๆ
          มันเป็นการเดินที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของเธอ ยิ่งเวลาผ่านไปนานมากเท่าไหร่ ความกระสับกระส่ายก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นข้างหลังเธอยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆกับแสงไฟวูบวาบอย่างกับหลอดไฟเสียที่กำลังกระพริบติดๆดับๆ
          ดูเหมือนเธอจะไม่มีวันหนีออกจากวังวนแห่งความกลัวนี้ได้พ้น นอกเสียจากจะหันไปเผชิญหน้ากับความกลัวเสียเลย... แมรี่เองก็ตระหนักได้เช่นนี้ จึงพยายามรวบรวมความกล้า สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด เตรียมตัวจะกลับหลังหันไปดูที่มาของเสียงฝีเท้า ไม่ว่ามันจะเป็นมนุษย์หรือสิ่งใดก็ตาม เธอก็ไม่มีทางเลือกแล้ว!
          หญิงสาวขบริมฝีปากแน่น สะบัดร่างหมุนร้อยแปดสิบองศาชนิดไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ทันตั้งตัว!
          บนทางเดินมีแต่ความมืด...
          แมรี่สอดส่องสายตาไปทั่วพยายามเพ่งมองหาสิ่งผิดปกติ แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดแปลกไปเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็เป็นหมือนทางเดินธรรมดาๆที่ขาดแสงไฟเท่านั้นเอง
          เธอมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนจะแอบผ่อนลมหายใจค่อยๆหันกลับมาด้วยความโล่งอก... แต่ทันใดนั้นเอง
          ดวงไฟที่อยู่ตรงหน้าเธอก็พลันสว่างโร่ขึ้นมาอย่างกะทันหัน
          แสงสว่างปรากฏขึ้นพร้อมๆกับร่างของชายคนหนึ่งที่เธอรู้จักดี... แดเนียล!
          ชายหนุ่มส่งเสียงร้องโอดครวญชวนสยอง ใบหน้าที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดของเขาบิดเบี้ยวราวกับกะโหลกภายในถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด นัยน์ตาเศร้าหมองที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวของเขามองตรงมายังแมรี่ ทำเอาเธอต้องขนลุกซู่ไปทั้งตัว
          เลือดสีแดงคล้ำไหลลงมาตามเส้นผมของเขา กลายเป็นหยาดหยดอยู่กลางอากาศ... และทันทีที่มันลงไปถึงพื้น
          แดเนียลก็กรีดเสียงร้องดังลั่น!
          ขาที่ถูกบิดจนกลับหน้ากลับหลังเริ่มก้าวขยับ วินาทีนั้นราวกับมีอะไรมากระตุ้นหัวใจของแมรี่ให้เต้นรัวเร็วจนผิดปกติ เธอหายใจเป็นจังหวะระส่ำ ผงะถอยเตรียมออกวิ่งด้วยเรียวขาที่มีกำลังวังชาขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจ
          “ไม่... ไม่... แดเนียล!”
          แมรี่ตะโกนก้องพลางจ้ำพรวดอย่างไม่คิดชีวิต ทิศทางที่เธอกำลังไปนั้นอยู่ตรงข้ามกับลิฟต์ แต่ที่สุดทางเดินก็มีบันไดข้างตึกที่สามารถใช้ลงไปข้างล่างได้เช่นกัน เวลานี้หญิงสาวไม่สนใจวิธีการอีกต่อไปแล้ว แค่ขอให้ออกไปจากที่นี่ได้เป็นพอ!
          ความเหนื่อยล้าถูกกลืนหายไปกับความหวาดผวา แมรี่ไม่คิดแม้แต่จะเหลียวกลับไปมอง เสียงร้องของแดเนียลที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องบ่งบอกได้อย่างดีว่าเกิดอะไรขึ้น ขาของเธอบัดนี้อาจเทียบได้กับนักวิ่งทีมชาติ นี่คงเป็นผลจากสารอะดรีนาลีนที่หลั่งออกมาตามสัญชาตญาณในเวลาคับขันนั่นเอง!
          แมรี่วิ่งมาจนถึงประตูที่สุดทางเดิน แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเธอ... เพราะมันล็อค! หญิงสาวพยายามบิดลูกบิดกระโดดกระแทกประตูหลายครั้งแต่มันก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะขยับ สถานการณ์ที่กดดันทำให้เธอเผลอเบือนหน้ากลับไปมองแดเนียล
          เขากำลังเดินตรงเข้ามา เมื่อแสงไฟกระพริบสว่างขึ้นร่างของเขาก็ปรากฏชัดเจน แต่เมื่อแสงไฟดับวูบลงร่างของเขาก็หายไปราวกับไม่เคยอยู่ที่นั่น สภาพผลุบๆโผล่ๆของเขาแบบนี้ยิ่งทำให้แมรี่หวาดกลัวเสียจนทำอะไรไม่ถูก
          หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งขดตัวสั่นระริกอยู่ที่มุมกำแพง เปลือกตาทั้งสองข้างปิดแน่นเพราะไม่ต้องการเห็นภาพตรงหน้า เสียงกรีดร้องของแดเนียลยังคงดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ... ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ใกล้จนเธอรู้สึกได้ว่าเขามายืนอยู่ในระยะประชิด
          ใบหน้าบิดเบี้ยวของแดเนียลปรากฎขึ้นในหัวของแมรี่อีกครั้ง เขากรีดร้องดังลั่นทำเอาหญิงสาวแทบประสาทกิน เธอสะบัดหัวไปมาอย่างบ้าคลั่ง ส่งเสียงร้องโวยวายมั่วซั่วฟังไม่ได้ศัพท์ แต่แล้วภาพนั้นก็เลือนหายไปเอง เหลือเพียงภาพติดตาที่แมรี่คงจะไม่มีวันลืมลง
          เมื่อเสียงสงบลง หญิงสาวก็ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นทั้งๆที่ร่างกายยังสั่นไม่หยุด เธอมองผ่านง่ามนิ้วออกไปมองทัศนียภาพเบื้องหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆ
          ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
          ดวงไฟกลับมาทำงานเหมือนเดิมอีกครั้ง บนโถงทางเดินโล่งกว้างเงียบสงัดดั่งเช่นเคย แมรี่กวาดตามองไปรอบๆก็ไม่เห็นอะไรที่ผิดแปลกไปแม้แต่น้อย จะมีแต่ตัวเธอเองนั่นแหละที่ดูแปลกที่สุด เพราะเธอนั่งแผ่หมดเรี่ยวหมดแรงอยู่ที่มุมกำแพง หายใจรัวเร็วเป็นจังหวะเดียวกับหัวใจที่ถูกความกลัวบีบรัด
          แม้จะสงบสุขเพียงใด แต่เหตุการณ์เมื่อครู่ก็ไม่อาจทำให้เธอสบายใจได้อีกต่อไปแล้ว
          แมรี่รวบรวมกำลังทั้งหมดที่เหลืออยู่พยุงตัวลุกขึ้น ลองเปิดประตูเข้าสู่บันไดอีกครั้ง ทว่าในครั้งนี้บานประตูนั้นกลับไม่ได้ล็อค ยิ่งคิดหญิงสาวก็ยิ่งขนลุกซู่ไปทั้งตัว แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกแล้ว
          เธอจะไม่มีวันเดินกลับไปบนทางเดินนั้นอีกเป็นอันขาด
          เสียงรองเท้าของเธอกระทบกับบันไดแต่ละขั้นดังรัวเร็วอย่างเร่งรีบ แมรี่ไม่รู้สึกอยากมองไปข้างหลัง ไม่อยากแม้แต่จะเงี่ยหูฟังเสียงใดๆ บัดนี้เธอจดจ่ออยู่กับการวิ่งลงบันได ด้วยความหวาดกลัวว่าจะมีบางสิ่งบางอย่างติดตามเธอมา
          ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งเธอเดินลงมาถึงชั้นล่างสุด บานประตูออกสู่ลานจอดรถอยู่เพียงเบื้องหน้า ห่างจากเธอไปไม่กี่เมตร แต่แล้ว...
          แสงไฟก็พลันดับวูบลงอีกครั้ง
          ดวงไฟเริ่มกระพริบติดๆดับ... แมรี่หยุดยืนนิ่งอยู่กับที่สอดส่ายสายตาไปมาทั้งซ้ายทั้งขวา บัดนี้เธอไม่ได้รู้สึกกลัวเพียงอย่างเดียว แต่เธอรู้สึกหงุดหงิดอยากจะบ้าตาย และต้องการระบายอารมณ์ฉุนเฉียวออกมาโดยเร็วที่สุด!
          ร่างของแดเนียลปรากฎขึ้นพร้อมๆกับแสงไฟ สภาพของเขายังคงเหมือนเดิม... เละจนดูไม่ได้ ริมฝีปากที่ฉีกขาดเผยอเปิดส่งเสียงครวญครางเบาๆ ก่อนจะกรีดเสียงร้องดังลั่นตามออกมา
          หัวคิ้วของหญิงสาวยับย่นเข้าหากัน ความหงุดหงิดที่ปะทุขึ้นบัดนี้เอาชนะความกลัวได้อย่างหมดจด เธอกัดฟันกรอดหายใจฟึดฟัดด้วยความเกรี้ยวกราด จนกระทั่งตัดสินใจตะคอกกลับไปด้วยเสียงที่ดังยิ่งกว่า!
          “จะเอายังไงกับฉันกันแน่!”
          สิ้นเสียง แดเนียลก็เริ่มก้าวเดิน... เร็วขึ้น... เร็วขึ้นเรื่อยๆ... จนกระทั่งกลายเป็นการวิ่ง! เขากำลังวิ่งตรงมาหาเธอพร้อมกรีดร้องด้วยท่าทางชวนขนลุกขนพอง! หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวเผลอหลับตาปี๋ไปโดยไม่รู้ตัว
          “แมรี่!”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น