The Chicken KilLa : คนฆ่าไก่ - The Chicken KilLa : คนฆ่าไก่ นิยาย The Chicken KilLa : คนฆ่าไก่ : Dek-D.com - Writer

    The Chicken KilLa : คนฆ่าไก่

    ชื่อเรื่องนั้นได้บ่งบอกไว้ทุกอย่างแล้ว... ผมไม่รับประกันว่าคุณจะได้รับความระทึกขวัญจากมันมากนัก... แต่อย่างน้อยผมก็เชื่อว่ามันคุ้มค่าพอที่คุณจะอ่านดู !

    ผู้เข้าชมรวม

    954

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    954

    ความคิดเห็น


    33

    คนติดตาม


    3
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 มี.ค. 49 / 19:09 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      The Chicken KilLa



                ฉับ ! ฉับ ! ฉับ !


                เสียงมีดคมกริบเฉือนผ่านเนื้อหนังและกระดูกดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆในร่างกายถูกแยกออกเป็นประเภทๆ เครื่องในที่ถูกควักออกมาเหวอะหวะวางกองไว้เคียงข้างราวกับเป็นเครื่องประดับบารมี


                ชายหนุ่มผู้ที่กำลังปฏิบัติการฆ่าอย่างโหดร้ายทารุณอยู่นี้จับกระชับปังตอในมือเอาไว้แน่น ฟันบนขบกัดริมฝีปากล่างแน่นจนเลือดแทบจะซึมออกมา เสียงหายใจที่หอบระรินนั้นบ่งบอกถึงความรีบร้อน


                อะไรทำให้เขาต้องร้อนรนขนาดนั้น ?


                "เฮ้ย รอตั้งห้านาทีแล้วนะ ระ เมื่อไหร่จะได้สักที ข้าวมันไก่ทอดน่ะ !" เสียงหวานๆตะโกนมาจากภายในร้าน เจ้าของเสียงเป็นหญิงสาววัยทำงานผู้นั่งตีสีหน้าหงุดหงิดอยู่บนโต๊ะ "เวลาพักเที่ยงฉันมีจำกัดนะยะ !"


                "นั่นสิ แบบนี้จะบริการลูกค้าทันใจเหรอเนี่ย" หญิงสาวอีกคนเสริมขึ้น


                "เออๆ ได้แล้วๆ กินฟรีแล้วยังจะบ่นอีก" เจ้าหนุ่มขายข้าวมันไก่นามพัชระเดินถือจานข้าวมันไก่ทอดมาเสิร์ฟทั้งสอง เขามากับผ้ากันเปื้อนลาย CP และหมวกเก็บผมตามสไตล์พ่อครัว หญิงสาววัยทำงานสองคนนั้นเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ในสมัยเรียนของเขา ที่ยังตามจองล้างจองผลาญมากินฟรีไม่ยอมเลิก


                ในเย็นวันนั้น สองสาวก็ได้ไปยังซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อเตรียมหาอาหารสำหรับมื้อเย็นวันนี้...


                "ไก่สดมั้ยจ๊ะ ไก่สด !"


                เสียงเจื้อยแจ้วของแม่ค้าเรียกความสนใจจากทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี สองสาวเดินตรงเข้าไปเลือกไก่เป็นตัวๆที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ครบสามสิบสองทันที


                "เอาตัวนั้นดีมั้ย มุก"


                "เอาตัวนั้นดีกว่านะ แพร" มุกบอกพลางชี้ไปทางไก่อีกตัว


                "ก็ได้ๆ เอาตัวนี้แหละค่ะ"


                ว่าแล้วแม่ค้าก็จับเจ้าไก่ไร้ขนแพ็คอย่างดีให้ทั้งสองทันที เย็นนี้ท่าจะลาภปา กเสียแล้ว...




                                                 ---------------------------------------------------------------------




                ภายในห้องครัวอันแสนเพียบพร้อม ร่างของเจ้าไก่เคราะห์ร้ายถูกวางไว้บนเขียงเรียบร้อยแล้ว ปังตอในมือมุกกำลังรอที่จะสับลงไปแยกชิ้นส่วนของมันเพื่อทำเป็นอาหารอันโอชะ แต่น่าเสียดาย ก่อนที่จะได้เห็นช็อตเด็ด เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน


                "แพร รับโทรศัพท์หน่อยซิ !" มุกยั้งมือไว้และตะโกนเรียกเพื่อนร่วมบ้านให้ไปรับโทรศัพท์ แต่ไม่ว่าจะตะโกนกี่รอบ เสียงโทรศัพท์ก็ยังดังอยู่อย่างนั้น


                "ให้ตายสิ แกล้งไม่ได้ยินหรือไงนะ !" ในที่สุดมุกก็ต้องบ่นอย่างเหลืออด และวางปังตอเดินออกจากห้องครัวไป


                ทว่า... เมื่อเธอจากไป ร่างของเจ้าไก่ที่กำลังจะโดนสับนั้นก็เริ่มขยับ ปีกของมันค่อยๆกางออกและกระพือช้าๆ ร่างอ้วนพีลุกขึ้นยืนด้วยน่องทั้งสอง หัวที่ห้อยต่องแต่งอยู่บนลำคออ่อนปวกเปียกหันขยับไปมา จนกระทั่งมันรู้ว่าหัวของมันไม่มีประโยชน์ ปีกอันทรงพลังของมันก็เอื้อมมาจับที่หัว และกระชากมันหลุดออกจากลำคอ !


                เจ้าไก่เดินตรงไปหาอาวุธที่เกือบจะแยกชิ้นส่วนมันเมื่อครู่นี้ ปีกไร้ขนของมันจับกระชับมีดปังตอไว้พลางพินิจพิจารณามันไปพร้อมๆกัน


                สิ่งนี้สามารถใช้ฆ่าได้...


                "อะไรกัน ยายแพรหลับคาทีวีอีกแล้ว" มุกบ่นอิดออดขณะเดินผ่านโซฟาหน้าโทรทัศน์ไปรับโทรศัพท์


                แต่ยังมีอีกผู้หนึ่งที่เดินเข้ามาหาแพร... มันผู้ก้าวเดินด้วยน่องไร้ขน มันผู้มีปังคอคมกริบอยู่ในปลายปีก มันผู้ที่คอถูกฉุดกระชากจนหลุดหายไป !


                เจ้าไก่กระโดดขึ้นไปบนโซฟา ใช้ปังตอแทงลงไปกลางลำคอของแพรอย่างรวดเร็ว เลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาเป็นสายพร้อมๆกับสีหน้าตระหนกตกใจของเหยื่อที่เพิ่งสะดุ้งตื่น แพรทำตาเหลือกพยายามมองหาผู้ที่ทำร้ายตัวเอง... เพราะตอนนี้แม้แต่เสียงก็ร้องไม่ออก


                มันคือไก่...


                ความช็อกประกอบกับอาการหายใจไม่ออก ทำให้แพรต้องสิ้นใจตายไปในทันที เลือดที่ไหลรินออกมาจากศพนั้นหลั่งย้อมโซฟาจนกลายเป็นสีแดงของเลือด สร้างความตื่นตกใจให้แก่มุกผู้ซึ่งเดินกลับมาเห็นยิ่งนัก


                เจ้าไก่เปื้อนเลือดค่อยๆหันมาทางมุกพร้อมกับปังตออาบโลหิตในมือของมัน สัญชาติญาณในตัวมุกเร่งเร้าให้เธอหนี ! หญิงสาวจึงกลับหลังหันออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ในขณะที่เจ้าไก่ย่างสามขุมตามเธอไปอย่างช้าๆ หากมันส่งเสียงได้ มันคงกำลังหัวเราะโรคจิตด้วยเสียงอันก้องกังวานเป็นแน่


                มุกตรงไปที่โทรศัพท์พร้อมกับกดเบอร์ร้านข้าวมันไก่อย่างรวดเร็ว อย่างน้อยคนที่ควรจะให้ความช่วยเหลือเธอได้ในขณะนี้ก็คงหนีไม่พ้น พัชระ นักฆ่าไก่...




                                                      -------------------------------------------------------------------




                พัชระรีบขี่มอร์เตอร์ไซค์คู่ใจห้อตะบึงไปยังบ้านมุกทันที เขามาพร้อมกับผ้ากันเปื้อน CP และหมวกเก็บผมสไตล์พ่อครัวอีกครั้ง – เมื่อมาถึงพัชระรีบกระโดดข้ามประตูรั้วเข้าไปในสวนหน้าบ้าน ปากคอยตะโกนเรียกชื่อมุกด้วยความเป็นห่วง


                "ระ !" เปรียบเหมือนเสียงสวรรค์ที่ดังออกมาจากในบ้าน ร่างของมุกพุ่งผ่านบานประตูโผกอดเขาด้วยความหวาดกลัว เหมือนในหนังน้ำเน่าไม่มีผิด – แต่สิ่งที่ตามหลังเธอออกมาทำให้พัชระต้องหรี่ตามองมันอย่างพินิจพิเคราะห์


                เจ้าไก่ถือปังตอ...


                "หลบไปก่อนมุก" พัชระกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ฉันจะจัดการกับมัน"


                มุกถอยหลังออกไปจนพ้นประตูรั้ว เหลือเพียงพัชระและเจ้าไก่เท่านั้นที่ยังยืนประจันหน้ากันอยู่


                มือทั้งสองของพัชระไขว้ล้วงลงไปที่ข้างเอว ก่อนจะชักอาวุธคู่ใจออกมา...


                มันคือปังตอคู่ !


                พัชระส่งสายตาท้าทายเพื่อยั่วยุอารมณ์ของศัตรู แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เจ้าไก่ยังคงยืนนิ่งสงบด้วยท่าทางไม่ยี่หระ ตรงกันข้ามมันกลับแยกขาออกถือปังตอไว้ในท่าพร้อมรบ


                "...ร้ายกาจ" พัชระพึมพำและเผยรอยยิ้มเล็กๆออกมา "เป็นศัตรูที่คู่ควรจริงๆ"


                ใบไม้สีเขียวร่วงหล่นลงมาจากต้นราวกับจะเป็นสัญญาณเริ่มการต่อสู้ ทันทีที่ใบไม้ใบนั้นร่วงลงสัมผัสพื้น ร่างทั้งสองก็พุ่งเข้าหากันทันที !


                พัชระกวัดแกว่งปังตอคู่ไปมาอย่างรวดเร็ว แต่ความว่องไวและขนาดตัวที่เล็กกว่าของเจ้าไก่ทำให้มันกระโดดไปมาปัดป้องการโจมตีของเขาได้ทั้งหมด ร่างของเจ้าไก่กระโดดลอยข้ามหัวเขาไปและกลับมายืนตั้งมั่นอยู่บนพื้นได้โดยไร้รอยขีดข่วน


                ร่างทั้งสองหันหน้าเข้าหากันอีกครั้ง หัวคิ้วของพัชระขมวดมุ่น ในขณะที่เจ้าไก่ไม่อาจแสดงสีหน้าใดๆออกมาได้


                เจ้านี่... เคี้ยวยาก...


                พัชระนึกในใจพลางจับกระชับปังตอในมือทั้งสองแน่นยิ่งขึ้น


                คราวนี้เจ้าไก่เป็นฝ่ายวิ่งเข้ามาหาเขาก่อน !


                ปังตอในปีกเจ้าไก่ถูกเหวี่ยงฟาดใส่พัชระเต็มแรง ชายหนุ่มแกว่งปังตอคู่ในมือไปรับจนเกิดประกายไฟแลบแปลบปลาบขึ้น ทว่าการโจมตี นั้นเป็นเพียงการหยั่งเชิง เจ้าไก่ไร้ขนกระโดดตีลังกาถอยออกไปตั้งหลัก พร้อมควงปังตอในมือไปมาอย่างคล่องแคล่ว หากมันพูดได้ คงมีประโยคเท่ๆตามมาเป็นแน่แท้


                พัชระหรี่ตามองอีกฝ่ายซึ่งลูบคมตน ดวงตาของเขาฉายแววกร้าวด้วยความเกรี้ยวกราด ชายหนุ่มกระโดดเข้าหาเจ้าไก่อย่างไม่คิดชีวิต ปังตอในมือซ้ายฟาดแหวกอากาศ หมายจะผ่าร่างของศัตรูตรงหน้าให้กลางเป็นสองซีก !


                เคร้ง !


                เจ้าไก่รับคมปังตอของเขาเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด แต่ด้วยพละกำลังของพัชระทำให้มันจำต้องใช้มือทั้งสองขึ้นมาช่วยยันปังตอไว้ เท่ากับว่าช่วงท้องของมันเปิดช่องว่าง !


                ฉึก !


                ปังตอในมือขวาถูกแทงเข้าไปกลางลำตัวของเจ้าไก่ มันถึงกับทรุดฮวบไปด้วยความเจ็บปวด เลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาได้อย่างไรไม่มีใครทราบ แต่บัดนี้ร่างของเจ้าไก่ลงไปนอนจมกองเลือดหายใจหอบระรินอยู่กับพื้น หน้าอกไร้ขนกระเพื่อมขึ้นลงรอความตาย ในขณะที่โลหิตเจิ่งนองบนพื้นเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ


                พัชระถือคัมภีร์ 'ทำไก่อย่างไรให้อร่อย' ของเขาไว้ในมือ ปากพึมพำบทสวดอโหสิกรรมที่มีบัญญัติไว้ในคัมภีร์ มือขวาถือปังตอทาบไว้บนตัวเจ้าไก่ รอคอยเวลาประหาร


                มุกที่ยืนดูเหตุการณ์มาตลอดก็พลอยสวดมนต์ไปด้วย จนกระทั่งพัชระปิดหนังสือเล่มหนาลง สายตาเย็นชาของเขาก็จับจ้องไปที่เจ้าไก่อย่างเวทนา


                ปังตอถูกเงื้อขึ้นจนสุด หากเจ้าไก่พูดได้บัดนี้มันคงกำลังสาปแช่งพัชระด้วยถ้อยคำสบถหยาบคายที่สุดเท่าที่มันจะคิดได้


                ในที่สุดคมปังตอก็ถูกกรีดผ่านอากาศ ตรงลงไปยังร่างของเจ้าไก่ที่กำลังรอให้มัจจุราชมารับดวงวิญญาณ


                ฉับ !




                                                 -----------------------------------------------------------------------




                หลังจากวันนั้นมา พัชระก็เลิกขายข้าวมันไก่ และไม่เคยได้ฆ่าไก่ตัวไหนอีกเลย เขาแต่งงานกับมุกจนมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน แต่ก็ยังไม่วายตั้งชื่อลูกว่า 'น้องไก่' - จนถึงวันนี้เวลาได้ล่วงเลยไปแล้วถึงแปดปี ลูกของพวกเขาโตขึ้นมาเป็นเด็กที่น่ารัก ชอบฆ่าไก่เหมือนพ่อ ชอบกินไก่เหมือนแม่


                ไม่มีใครจดจำเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าไก่ฆาตกรได้อีกเลย...


                "ระ เย็นนี้จะกินอะไรกันดีจ๊ะ" มุกเอ่ยถามขณะเดินดูอาหารแช่แข็งในตู้เย็นของห้างสรรพสินค้า


                "นี่เป็นไง..." พัชระตอบพลางหยิบแพ็คไก่รมควันที่มีแยกไว้ครบทุกส่วน ตั้งแต่อก ปีก น่องสารพัด


                เย็นวันนั้นพวกเขากลับมาพักผ่อนที่บ้าน และเตรียมตัวทำอาหารตามปกติ...


                "ไก่ ไปหยิบไก่รมควันในตู้เย้นออกมาทีซิลูก" มุกเรียกใช้ลูกของเธอด้วยน้ำเสียงเอ็นดู


                "ครับ แม่" เด็กน้อยตอบรับผู้เป็นมารดา พลางเดินต้อยๆไปยังตู้เย็น – ทว่า เมื่อน้องไก่เปิดประตูช่องแช่แข็งออก เขาก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติ !


                ชิ้นส่วนของไก่รมควันกลับมารวมกันเป็นตัวอีกครั้ง หนำซ้ำมันยังยืนด้วยน่องทั้งสอง ขยับปีกไปมาได้ราวกับมีชีวิต !


                เจ้าไก่กระโดดเข้าหาเด็กน้อยทันที ด้วยความตื่นตกใจทำให้น้องไก่ทำอะไรไม่ถูก ทันทีที่ปีกของเจ้าไก่สัมผัสถูกใบหน้าของเขา เด็กน้อยก็รู้สึกหมดสิ้นเรี่ยวแรงจนยืนไม่อยู่ ต้องล้มลงไปนอนแผ่อยู่กับพื้น หายใจหอบระรินราวกับคนใกล้ตาย


                เจ้าไก่ไร้ขนกระโดดขึ้นไปยืนบนร่างของเด็กชาย หากมันมีหัวมันคงกำลังยิ้มกริ่มราวกับปีศาจอยู่เป็นแน่ ปีกทั้งสองลูบไล้ไปทั่วใบหน้าของเด็กน้อย และหลังจากนั้นเพียงไม่ถึงนาที...


                น้องไก่ก็สิ้นใจตาย...


                "ไก่ ทำไมนานแบบนี้ล่ะลูก !" ผู้เป็นแม่เดินตามมาดูลูกชายถึงที่ แต่เมื่อเธอได้เห็นภาพตรงหน้า เธอก็ต้องกรีดร้องออกมาสุดเสียง


                ความทรงจำอันเลวร้ายหวนกลับเข้าสู่สมองของเธออย่างรวดเร็ว มันคืออสูรร้ายจากนรกผู้หวนคืนสู่ผืนโลกอีกครั้ง มันยังคงยืนเหยียบย่ำอยู่บนร่างลูกชายของเธอ และคราวนี้มันมาพร้อมกับอาวุธเคมีชีวภาพที่สามารถปลิดชีพผู้คนได้เพียงแค่สัมผัส


                เชื้อ H5N1 หรือที่เรียกกันทั่วบ้านทั่วเมืองว่าไข้หวัดนกนั่นเอง !


                "เกิดอะไรขึ้น !" พัชระรีบวิ่งมาดูภรรยาของเขาอย่างเป็นห่วงเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้อง แต่เขาก็ต้องชะงักไปเมื่อภาพตรงหน้าปรากฏต่อสายตา ดวงตาของชายหนุ่มเบิกโพลงด้วยความตกใจ ริมฝีปากสั่นเผยออ้าพร้อมจังหวะหายใจที่รัวเร็วอย่างกะทันหัน


                "ไก่ !"

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×