ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] Amaryllis : : Doubleb , ikon

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ ๔

    • อัปเดตล่าสุด 9 ต.ค. 58




     



    กลิ่นหอมอ่อนของผิวเนื้อที่มักรบกวนสมาธิเขาทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้เด็กหนุ่ม ในตอนนี้เขาได้สัมผัสกลิ่นหวานของมันด้วยปลายจมูกโด่งและปากหยักของตัวเอง มันชวนให้หลงใหลยากจะหักห้ามใจได้ ราวกับร่างผอมตรงหน้าคือสารเสพติดที่กลั่นมาจากดอกไม้ชั้นดี

    แต่จีวอนก็เพียงได้ตักตวงความละมุนจากผิวเด็กหนุ่มได้เพียงครู่ เพราะทันทีที่เจ้าของไหล่ผอมได้รับจุมพิตมาจากไหล่ตนเอง ฮันบินก็ขยับตัวหนี ผลักอกคนฉกฉวยโอกาสมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความตกใจและไม่พอใจระคนกัน


    "ท่านจะทำอะไร"


    จีวอนไม่ได้ตอบคำถามของเด็กหนุ่มในทันที จ้องมองใบหน้าขาวที่มองมาทางเขาอย่างคาดโทษ รู้ว่าเด็กหนุ่มกำลังโกรธ แต่เขาก็อยากให้ฮันบินหยุดทำหน้าอย่างนั้น ที่ความโกรธซึ่งแสดงออกมา ในดวงตามีทั้งความสับสนระวังตัวและตั้งตัวกับสถานการณ์เช่นนี้ไม่ถูก


    "หากคุณชายอยากให้พูดตามตรงข้าก็คงต้องบอกว่า เพราะคุณชายน้อยน่าหลงใหลเกินไปข้าเลยขาดความยับยั้งชั่งใจ"


    ไม่คิดว่าจะได้ยินคำสารภาพเช่นนี้ ฮันบินโกรธคนผู้นี้ โกรธที่ทำและพูดเรื่องอย่างนี้ออกมาได้ คนคนนี้ทำให้ฮันบินอึดอัด โดยทำสิ่งที่น่าอึดอัดนี้ได้ราวกับเป็นเรื่องปกติ


    "อย่างนั้นข้าต้องเสียมารยาทขอพูดตามตรงให้ท่านออกไปได้แล้ว และอย่าทำสิ่งนี้กับข้าอีก"


    ฮันบินรู้ว่าจีวอนกำลังจ้องลึกเข้าไปในตาฮันบิน ประเมินความรู้สึกนึกคิดอยู่ ฮันบินเพียงแต่มองตอบไป


    "อย่างนั้นคุณชายน้อยพักผ่อนเถอะ ข้าขอตัวก่อน"

     

    ✥✥✥

     

    เมื่อออกมาจากกระโจมฮันบิน จีวอนก็เดินไปยังที่ตั้งส่วนลึกสุดซึ่งเป็นที่พักของบรรดาบ่าวรับใช้ของฝ่ายตะวันตก บรรดาที่พักประกอบด้วยกระโจมเล็กๆไม่กี่หลัง โดยมีหลังหนึ่งตั้งแยกตัวออกมา อันเป็นที่พักของคนเจ็บ

    จีวอนแหวกผ้าเดินเข้าไปข้างใน ซึ่งพบร่างซีดเซียวของฮงซอกนอนอยู่ ข้างตัวคือร่างสูงของจุนฮเวที่ยืนรอการมาของผู้เป็นนาย


    "ฟื้นแล้วรึยัง" จีวอนถามจุนฮเว


    "ครับท่าน" จุนฮเวบอกพร้อมเข้าไปเขย่าตัวฮงซอกให้ตื่นขึ้น


     ร่างของเด็กหนุ่มที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนักลืมตาขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเป็นใครก็ดูจะตกใจไม่น้อย คนหนึ่งคือคนที่ออกคำสั่งฆ่าเขาให้ตาย ส่วนอีกหนึ่งคือผู้ลงมือเอาชีวิตเขา ฮงซอกหายใจติดขัดเหมือนรับรู้ว่าความตายกำลังกลับมาหาตนอีกครั้ง

    "คืนนั้นเห็นอะไรบ้าง" จีวอนถามเด็กหนุ่มด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง


    "ข้า . . . ข้าเพียงแต่เฝ้าเวรยามไม่ได้ทำอะไรท่านฮันบินจริงๆ"


    "ข้าถามว่าเห็นอะไร"


    "ข้าไม่ได้ทำอะไร . . ข้าไม่รู้จริงๆ . . .ท่านจุนฮเวล่ะ . . . ท่านจุนฮเวอาจรู้"


    เมื่อมีอีกชื่อหนึ่งปรากฏ จีวอนไม่ได้มองเจ้าของชื่อที่ถูกกล่าวถึง แต่กลับจ้องมองใบหน้าซีดของฮงซอกที่เป็นคนพูดแทน


    "เท่านั้นก็เพียงพอแล้วล่ะ"


    จบคำมือหนาของจีวอนจับเข้าที่คอฮงซอกก่อนที่จะออกแรงบีบมัน เด็กหนุ่มใต้ร่างดิ้นรนขัดขืน ฝ่ามือซีดตะกุยตะกายจิกมือจีวอนให้ออกจากลำคอตน กลับส่งผลให้มือหนาออกแรงที่มากกว่าเดิม


     ดวงตาฮงซอกเริ่มเหลือกขึ้น ร่างกายอันปลกเปลี้ยในที่สุดก็หมดแรงที่จะปัดป่ายขัดขืน อากาศที่หายใจขาดมาในระยะหนึ่ง ในที่สุดมันก็หมดลง ตามด้วยลมหายใจของฮงซอกที่หมดตาม


    "งานอย่างนี้ท่านไม่จำเป็นต้องลงมือเอง"


    จุนฮเวบอกผู้เป็นนายหลังจากละมือจากคอฮงซอกแล้ว


    "ถือว่าเด็กนี่ได้รับเกียรติแล้วกัน" จีวอนพูดพร้อมมองร่างไร้วิญญาณของเด็กหนุ่ม


    "เป็นคนตายที่ได้รับเกียรติไปเกินคุ้มแล้วว่าไหม ถือว่าโชคดีเกินคุ้มแล้วสำหรับองครักษ์ปลายแถว"


    จุนฮเวรู้ว่าผู้เป็นนายหมายถึงสิ่งใด คงเป็นเหตุการณ์ที่แม่น้ำนั่น


    "ข้าก็ถือว่าโชคดีเช่นกัน ที่ไม่โดนท่านควักลูกตาออกมา"


    จีวอนเลิกคิ้วมององครักษ์หนุ่ม ขณะที่มือก็หยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาว เช็ดมือไปด้วย


    "แล้วคนพี่ล่ะ"


    "เรียบร้อยแล้วครับท่าน"  จุนฮเวรายงานผลงานที่ได้รับมอบหมาย จีวอนพยักหน้ารับ ก่อนที่ผู้เป็นนายและองครักษ์จะพากันเดินออกมา

     

    ✥✥✥

     

    ในเช้าวันต่อมาขณะคณะเดินทางกำลังขนข้าวของเพื่อเตรียมออกเดินทางอีกครั้ง ฮันบินกวาดสายตาเพื่อมองหาคนที่อยากเจอ แต่ขณะที่มองหาก็เจอเข้ากับสายตาของจีวอนแทน

    ร่างสูงสบตามาตรงๆไม่ได้ละสายตาออกไป มันคงเป็นเรื่องงี่เง่าแน่หากฮันบินจะทำตัวประหม่าหรือแสดงอาการปั้นปึ่งใส่อย่างเช่นหญิงสาว เด็กหนุ่มจึงเพียงทำตัวปกติและเลี่ยงจะให้ความสนใจยังจุดที่มีจีวอนอยู่

    ขณะที่ขบวนรถม้าซึ่งออกเดินทางหยุดเพื่อพักกลางทาง ฮันบินเดินลงจากรถม้า มองเห็นร่างสูงของจุนฮเวซึ่งตรวจความเรียบร้อยและพูดคุยสั่งงานกับทหารลาดตระเวนซึ่งเพิ่มเข้ามาห้าสิบนายเมื่อเข้าเขตตะวันตก


     'มาช่วยคุ้มครองความปลอดภัยจนถึงปราสาท' เป็นคำที่จีวอนเลือกใช้


    ดวงตาคู่สวยจ้องมองจุนฮเวก่อนจะเดินไปหาองครักษ์คนสนิทของว่าที่ผู้ครองแคว้นตะวันตก


    "ข้ามองหาฮงซอกอยู่ อาการเป็นอย่างไรบ้าง พอจะตามให้มาคุยกับข้าได้ไหม"


    "คุณชายน้อย . . อาการเขายังไม่ดีขึ้นนัก จึงยังไม่สะดวกเดินทางไกล เมื่อเช้าตรู่นี้เราส่งตัวให้ไปรักษาหมู่บ้านใกล้ๆนี้แล้ว คุณชายน้อยอย่ากังวล" จุนฮเวตอบก่อนจะพูดต่อ


    "เมื่อเขาหายดี หากคุณชายน้อยต้องการ ข้าจะบอกให้เขาไปหาคุณชาย"


    ฮันบินพยักหน้ารับ


    "อย่างนั้นรึแล้วพี่สาวเขาล่ะ" ฮันบินถามต่อ


    "มันคงดีกว่าหากให้นางไปช่วยดูแล" จุนฮเวตอบ ฮันบินพยักหน้ารับอีกครั้ง


    "นั่นสินะ ดีแล้วล่ะ"


     ฮันบินเห็นด้วยกับอีกฝ่าย พูดจบก็เดินกลับไปยังรถม้าของตนซึ่งอยู่ขบวนหลัง เมื่อประตูรถม้าปิด ฮันบินก็หลับตาลง ร่างผอมผ่อนลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน


    ฮันบินคิดไว้แล้วตั้งแต่เมื่อคืน หากในวันรุ่งขึ้นเขาไม่ได้พบกับฮงซอก ทุกอย่างจะหมายถึงสิ่งใด


    ดวงตาคู่สวยเปิดขึ้น ฮันบินหันไปยังองครักษ์คนหนึ่งของตนซึ่งยืนอยู่ข้างรถม้า ก่อนจะออกคำสั่งด้วยเสียงอันเบากับอีกฝ่าย


    "สั่งคนของเราทุกคน ห้ามใครส่งข่าวเรื่องข้าถูกลอบทำร้ายให้ทางตะวันออก รึแม้แม้แต่คนของท่านพ่อข้ารู้"

     

    ✥✥✥

     

    ประตูทางเข้าของปราสาทฝั่งตะวันตกถูกเปิดออกในค่ำคืนนั้น ขบวนรถม้าของเหล่าผู้เดินทางจอดลงหน้าตัวปราสาท ซึ่งสังเกตว่ามันออกจะใหม่กว่าของทางฝั่งตะวันออกมากอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเพราะปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาภายหลังจากมีการแยกแคว้น


    ฮันบินลงจากรถม้าโดยมีจีวอนเข้ามาต้อนรับพาไปยังตัวปราสาทตามมารยาทเจ้าบ้านที่ดี เป็นเพราะตอนนี้ยามสองแล้วคนส่วนใหญ่ที่นี่จึงหลับกันหมด


    "คืนนี้ดึกมากแล้วคุณชายน้อยพักผ่อนเถอะ ทางเราจะเลี้ยงต้อนรับท่านในวันพรุ่งนี้" ฮันบินพยักหน้ารับ


    ขณะที่จีวอนและบ่าวรับใช้ที่ตามมากำลังเดินพาฮันบินไปยังห้องพักในตัวปราสาท ก็มีเด็กหนุ่มเดินออกมาจากห้องห้องหนึ่งประจันหน้ากับพวกเขาเจ้าของดวงตากลมโตคู่คมดูแล้วอายุคงไล่เลี่ยกับฮันบินหรือเด็กกว่าอยู่สักหน่อย จากผิวพรรณการแต่งตัวแล้วให้ฮันบินเดาคงเป็นใครสักคนในวงศ์ตระกูลนี้


    "ออกมาทำไม ยังไม่นอนอีกรึ" จีวอนถามเด็กหนุ่มคนนั้นขึ้น


    "ข้าได้ยินเสียงรถม้า" เด็กหนุ่มคนนั้นตอบจีวอนแต่ดวงตาจ้องฮันบินเขม็ง


    หากให้ฮันบินเปรียบเทียบ ก็คงต้องบอกว่าวิธีการมองของจีวอนนั้นเป็นการใช้สายตามองได้อย่างมีมารยาท แต่มันน่าอึดอัดจนฮันบินถือว่านั่นคือการเสียมารยาทอย่างหนึ่ง


     แต่สำหรับเด็กหนุ่มคนนี้ ฮันบินคิดว่ามันคือการมองอย่างไร้มารยาทได้อย่างเปิดเผยจนฮันบินนิยามความไร้มารยาทอยู่แล้วนี้ไม่ถูก


    "เจ้าน่ะ นอนกับข้าไหม"


     เด็กหนุ่มคนนั้นพูดขึ้นมา ซึ่งไม่ว่าอย่างไรก็ดูแล้วว่ากำลังพูดกับฮันบินอยู่


    "หยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว ชานอู" จีวอนปรามขึ้น


    "ข้าต้องขอโทษในความไร้มารยาทของน้องชายข้าด้วย" 


     จีวอนก้มหัวให้ฮันบินเล็กน้อย ก่อนที่ดวงตาเรียวจะปรายตามองกลับไปยังคนเป็นน้องชาย ได้ยินเสียงบ่นเบาๆของชานอูว่าตนเองทำเรื่องไร้มารยาทตอนไหนกัน


    "นี่คุณชายฮันบิน . . .ส่วนนี่ชานอูน้องชายไร้มารยาทของข้าเอง"

    ฮันบินก้มหัวทักทายอีกฝ่ายซึ่งทำตาม


    "เป็นเกียรติที่ได้พบคุณชายชานอู" ฮันบินบอกตามมารยาท


    "อื้อ" ชานอูตอบรับแค่นั้นก่อนจะพูดต่อ


    "แล้วตกลงเอาอย่างไร นอนกับข้าไหม" ชานอูถามต่อ


    "กลับเข้าไปได้แล้ว ข้าจะพาคุณชายน้อยเข้าที่พัก" จีวอนตัดบทสนทนาประหลาดของชานอู แล้วพาฮันบินเดินต่อไป

     

    ภายในห้องพักของฮันบินมีความสะดวกสบายกว้างขวางไม่ต่างจากที่พักตนซึ่งจากมา หลังจากชำระร่างกายตนเสร็จแล้ว เด็กหนุ่มก็ขึ้นไปนอนบนเตียงหลังกว้าง ดวงตาใสยังคงลืมอยู่ เฝ้าคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยความวิตก

    ทั้งที่พอจะเริ่มรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแต่ก็ยังทำสิ่งใดได้ไม่มากนัก อีกทั้งหน้าที่ที่ตนต้องทำก็ยังอยู่ เหม่อนึกไปถึงทางฝั่งปราสาทที่จากมา . . . ขออย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นกับทางนั้นเลย

     

    ✥✥✥

     

    ภายในห้องห้องหนึ่งของปราสาทฝั่งตะวันออก ร่างสูงของมินโฮกำลังนอนผ่อนลมหายใจช้าๆ ความทรมานจากสิ่งที่คล้ายพิษไข้ยังคงรุมเร้า แต่มันก็พอทุเลาลงมาบ้างจากตอนแรก ดวงตาคมฉายชัดในห้องที่ปิดผ้าม่านจนมืดสลัว เขาแน่ใจว่าอาการที่ตนเป็นไม่ได้เกิดจากโรคที่เรียกว่าไข้ป่าแต่อย่างใด


    คิ้วเข้มขมวดหากันจนดูเครียดขมึง การสบถด้วยความโกรธแค้นเกิดขึ้นอยู่ในใจ


    ไอ้สารเลวนั่น เพราะมันรู้ ทุกอย่างมันถึงได้กลายเป็นอย่างนี้


    มินโฮนึกไปถึงเจ้าของดวงตาเรียวคล้ายสุนัขจิ้งจอก ที่มาจากต่างถิ่น เขาพลาดเองที่ทำให้มันจับความรู้สึกนึกคิดภายในจิตใจได้


    ในวันประชุมที่มันอุตริแจกจ่ายไวน์ใสชนวนสงครามครั้งเก่าให้กับทุกคน รอยยิ้มอย่างพึงพอใจที่ส่งให้ฮันบินเขาน่าจะรู้ตั้งแต่ตอนนั้นว่าเขาทำสิ่งที่พลาดไปซะแล้ว

    ไม่ว่าใครก็จะมีเรื่องเรื่องหนึ่งที่ทำให้เรากลายเป็นคนโง่ได้เสมอ

    มือหนาของมินโฮกำแน่นเมื่อนึกถึงมัน

    หลังจากวันนั้นที่ทุกคนแยกย้ายออกจากห้องประชุม แต่ไอ้จิ้งจอกนั่นยังคงอ้อยอิ่งอยู่หน้าห้อง รอจนเหลือเพียงแต่เขากับมัน เสียงเบาๆของมันก็พูดขึ้นว่า


    "กี่ครั้งกัน"  จีวอนพูด


    "ที่ท่านจินตนาการว่าน้องชายท่าน ร้องครวญครางสั่นสะท้านอยู่ใต้ร่างของท่านเอง

     

    ✥✥✥



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×