คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ ๒
โต๊ะตัวยาวกลางโถงอาหารขณะนี้มีเจ้าผู้ครองแคว้นฝั่งตะวันออกนั่งอยู่หัวสุดของโต๊ะ
ซ้ายมือคือบุตรชายคนเล็กและบุตรชายคนโตนั่งติดกัน
ขวามือของยังกวอนและอยู่ตรงข้ามกับฮันบินพอดีคือจีวอนซึ่งมาหลังจากที่ฮันบินเข้ามาอยู่เพียงพักหนึ่ง
นอกเหนือจากนั้นเป็นขุนนางของทั้งสองฝ่าย
อาหารซึ่งตระเตรียมไว้อย่างดีถูกนำมาจัดวาง
การพูดคุยเบื้องต้นมีเพียงเรื่องสัพเพเหระอย่างวางมารยาทเท่านั้นเพราะทุกคนในนี้ต่างรู้ดีถึงวิธีการในการใส่หน้ากากเข้าหากัน
เสียงดนตรีบรรเลงประชันพายุฝนห่าใหญ่ที่ตกลงมาแล้วการพูดคุยที่ดูจะเป็นเรื่องเป็นราวยังไม่เริ่มขึ้น
จนกระทั่งจีวอนวางช้อนอาหารลงและเริ่มพูดอีกครั้ง
“อีกยี่สิบวันข้างหน้า”
จีวอนพูดพร้อมมองไปทั่วโต๊ะอาหารโดยเน้นสบตากับเจ้าของแคว้นและบุตรชายทั้งสอง
ผู้ชายคนนี้เป็นอย่างนี้ฮันบินคิด ดูมีมารยาทกับทุกการกระทำ
แต่ตลอดเวลาที่รับประทานอาหารนี้ฮันบินรู้สึกอึดอัดกับการสบตาอย่างมีมารยาทของอีกฝ่าย
“จะเป็นวันสถาปนาข้าขึ้นเป็นผู้ปกครองแคว้นตะวันตกคนต่อไป”
เรื่องนี้ทางฝ่ายเขาก็พอรู้มาบ้างว่าด้วยสุขภาพที่ไม่ดีนักของผู้ครองแคว้นตะวันตกคนเก่าจึงประกาศจะสละตำแหน่งในไม่ช้าและจะให้คนหนุ่มอย่างบุตรชายคนโตอย่างจีวอนรับหน้าที่ต่อไปแต่ก็ไม่คิดว่าวันสถาปนาจะมาเร็วอย่างนี้
“แคว้นตะวันตกได้คนหนุ่มมาบริหารต่อช่างน่าอิจฉาเสียจริง
ทั้งแคว้นทั้งพ่อท่าน”ยังกวอนบอกก่อนจะพูดต่อ
“ดูอย่างข้าสิถึงอยากจะพักก็พักไม่ได้เพราะฮันบินยังเด็กนัก”
เป็นคำพูดชื่นชมตามมารยาท
จีวอนยิ้มรับพร้อมมองไปที่ฮันบินและมินโฮ ไม่ว่าใครก็รู้ว่าบุตรชายคนโตที่โตพอของฝ่ายตะวันออกอย่างไรเสียก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นผู้ครองแคว้นต่อ
ในเมื่อมินโฮเป็นเพียงบุตรชายนอกสมรสที่เกิดจากความคึกคะนองในวัยหนุ่มของยังกวอนเท่านั้น
“ต้องบอกว่าเพราะท่านยังหนุ่มและแข็งแรงอยู่มากกว่า
ยังมีเวลาให้คุณชายน้อยได้เติบโตอีกนาน”จีวอนตอบก่อนจะพูดต่อ
“นอกจากนี้ที่ข้าอยากจะบอกอีกอย่างก็คือ
อยากจะเชิญทางฝั่งท่านไปร่วมเป็นเกียรติสักหน่อย”
จบคำบอกของแขกต่างเมือง
มีความกระอักกระอ่วนขึ้นบนโต๊ะอาหารเล็กน้อยขณะนี้
“อย่างไรเสียการประชุมครั้งนี้ทางข้าต้องอยู่ที่นี่อีกเจ็ดวัน
เช่นนั้นแล้วข้าในฐานะผู้ที่จะขึ้นปกครองแคว้นตะวันตกในอีกยี่สิบวันข้างหน้าขอเชิญตัวแทนฝั่งท่านกลับพร้อมกันกับเราเพื่ออยู่ร่วมการเตรียมงานเปลี่ยนแผ่นดินใหม่
ท่านเห็นเป็นเช่นไร”
จีวอนพูดด้วยความสงบและท่าทีมีมารยาทเช่นเคยแล้วพูดต่อ
“การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คงต้องมีการหารือร่วมกับฝั่งท่านอีกเยอะ”
ผู้ประชุมทางฝ่ายตะวันออกได้แต่ครุ่นคิด
การจะส่งราชสีห์ไปอยู่ดงจิ้งจอกเป็นเรื่องน่านึกหวั่น
ถึงแม้ภายใต้หน้ากากสมานฉันท์จะทำให้ทั้งสองฝั่งไม่อาจทำร้ายกันอย่างโจ่งแจ้งก็เถอะ
อย่างเช่นตอนนี้การที่พวกเขาจะทำร้ายจีวอนซึ่งจะดำรงตำแหน่งผู้ปกแคว้นตะวันตกในอีกไม่กี่วันก็เป็นเรื่องง่ายแสนง่ายแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถทำได้ เพราะผิดกฎมณเฑียรบาลอีกฝ่ายมาในฐานะแขกเมืองหากเกิดอะไรขึ้นกับจีวอนแม้แต่น้อยขณะอยู่ที่นี่มีแต่จะเป็นชนวนก่อให้เกิดสงครามครั้งใหญ่
และทุกครั้งตลอดเกือบสองร้อยปีที่ผ่านมาการประชุมทุกหกปีเป็นงานที่ฝั่งตะวันออกเป็นฝ่ายจัดขึ้นโดยฝั่งตะวันตกก็ให้ความร่วมมือส่งตัวแทนเป็นชนชั้นสูงมาร่วมทุกครั้งยังกวอนมองจีวอนที่รอคำตอบอยู่
หนำซ้ำครั้งนี้ยังให้คนที่จะคนปกครองแคว้นอีกเพียงยี่สิบวันข้างหน้ามาร่วมประชุมหากเขาจะให้ขุนนางผู้ใหญ่สักคนไปก็ยังเป็นเรื่องไม่เหมาะสมด้วยซ้ำ
“งานสำคัญขนาดนี้ทางเรายินดีจะให้บุตรชายคนโตของข้า
มินโฮไปเป็นตัวแทนฝั่งเราท่านเห็นว่าเป็นอย่างไร”
ยังกวอนตัดสินใจในที่สุด
ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ตัดใจให้ฮันบินเป็นคนไปไม่ได้
และดูจีวอนจะไม่ได้ขัดข้องอะไรพยักหน้ายอมรับ
“เป็นเกียรติแก่ทางเราแล้ว” อนาคตผู้จะครองแคว้นตะวันตกมองไปทางมินโฮ ทอดนิ่งอยู่พักหนึ่ง
สายตาอย่างนั้นอีกแล้ว ฮันบินคิด
สายตาที่เหมือนพยายามเข้าไปดูส่วนลึกสุดทางความคิดของอีกฝ่าย
แต่ฮันบินก็เห็นคนเป็นพี่ชายจ้องตอบกลับไป
ก่อนที่จะมองมาที่ฮันบินเล็กน้อยแล้วมองไปที่คนเป็นบิดา
“ทางข้าก็รู้สึกเป็นเกียรติเช่นกัน”
มินโฮก้มหัวให้คนเป็นบิดาและให้จีวอนตามมารยาท
อย่างไรเสียมันก็คือการผลักงานอันตรายให้ลูกชายนอกสมรสอยู่ดี
มินโฮคุ้นกับเรื่องอย่างนี้มานานเกือบยี่สิบปีแล้วด้วยซ้ำ
สำหรับงานแค่นี้เทียบกับเรื่องที่เขาเคยเจอมาถือว่าไม่ได้ลำบากจนต้องวิตก
✥✥✥
ในเช้าวันถัดมาการประชุมที่จริงจังก็ได้เริ่มขึ้น
ภายในห้องซึ่งเตรียมไว้สำหรับการประชุม ปัญหามากมายถูกนำมาถก
แต่เรื่องที่ดูจะกินเวลามากที่สุดก็คือปัญหาแทบชายแดนที่โต้เถียงกันเรื่องพื้นที่ทับซ้อนจากทั้งสองฝั่ง
“เราอยากให้คนของท่านถอยออกไป
เพราะพลเมืองของท่านลุกล้ำที่ดินเข้ามาเกือบสิบไมล์แล้ว และไม่ใช่แค่บริเวณนี้ด้วย”
ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ฝั่งตะวันออกพูดขึ้นพร้อมชี้มือมายังตำแหน่งแผนที่
“มันคงไม่ดีหากเราจะใช้มาตรการณ์รุนแรงกับชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่”
จีวอนมองแผนที่ตามชายสูงวัยมุมปากยกยิ้มรับเพียงเล็กน้อย
“มันคงไม่ดีแน่
เพราะชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เพียงทำมาหากินบนพื้นที่ของตัวเอง”
คำตอบที่ได้รับทำให้ขุนนางผู้นั้นรวมทั้งคนฝ่ายตะวันออกขุ่นเคืองในเมื่อแผนที่กางอยู่ชัดแจ้งแต่อีกฝ่ายกลับทำเหมือนไม่เห็นไม่เข้าใจ
ดวงตาเรียวภายใต้กรอบแว่นมองไปยัง ยังกวอนและบุตรชายทั้งสองรวมไปถึงขุนนางสูงวัยผู้นั้น
“แผนที่ท่านอาจจะบอกอย่างนั้น
แต่มันก็เป็นเพียงแผนที่ของฝ่ายท่าน
เรื่องของเขตแดนมันอ่อนไหวและซับซ้อนเป็นไปได้ข้าไม่อยากหมางใจกับพวกท่านด้วยเรื่องนี้”
ปลิ้นปล้อน ฮันบินคิดกับคำพูดอีกฝ่าย
“เช่นนั้นแล้วคงจะดีหากจะไม่มีการแขวนศพชาวบ้านห้าสิบศพประจานตรงเขตชายแดน
เหตุเพราะชาวบ้านไปรุกล้ำที่ฝั่งตะวันตก”
มินโฮตอกกลับไป
เพราะอยู่ชายแดนมานานเลยรู้สันดานความชั่วร้ายของพวกนี้ดี แต่จีวอนยังคงสงบกับข้อกล่าวหา
“ห้าสิบศพนั้นหาใช่คนของท่าน
แต่คือโจรป่าที่แฝงตัวแสร้งเป็นชาวบ้านตะหากเล่า
ทางเราถึงจำเป็นต้องจับแขวนคอประจานไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง”
มือหนาของมินโฮกำแน่น
เรื่องนี้คนทั่วเขตชายแดนต่างรู้ดีว่าพวกถ่อยเถื่อนนี่
จับชาวบ้านที่รุกล้ำเขตตะวันตกมาแขวนคอประจานไม่ให้ใครกล้าทำเป็นเยี่ยงอย่าง
เมื่อคนของตัวเองทำกลับเป็นชาวบ้านไม่รู้อิโหน่อิเหน่หากินบนที่ดินอย่างถูกต้อง
แต่พอเป็นคนอีกฝั่งกลับบอกว่าเป็นโจรป่าแขวนคอประจาน สันดานจิ้งจอกอย่างไรก็เป็นจิ้งจอกอยู่วันยังค่ำ
การประชุมยังคงดำเนินต่อไปถกปัญหาเรื่องพื้นที่และเรื่องอื่นอีกหลายเรื่อง
กินระยะเวลาหลายชั่วยาม กระทั่งจีวอนก้มไปสั่งอะไรบางอย่างกับลูกน้องข้างตัว
จากนั้นเด็กรับใช้ที่ติดตามจีวอนก็เดินเข้ามาพร้อมขวดไวน์และแก้วอีกสิบใบ
“ข้าไม่ชอบบรรยากาศที่มันเคร่งเครียดสักเท่าไหร่
เผื่อมันจะทำให้ผ่อนคลายขึ้น”
มันไม่มีทางทำให้บรรยากาศผ่อนคลายขึ้นอย่างแน่นอน
เกือบทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมคิดมองเด็กหนุ่มรับใช้ที่กำลังรินไวน์สีใสแล้วเสิร์ฟวางบนโต๊ะกลมซึ่งวางแผนที่อยู่ให้แต่ละคน
ไวน์สีใสคล้ายน้ำเปล่าชนวนที่ทำให้อดีตแคว้นใหญ่ถูกแยกเป็นสองฝั่ง
เหตุเพราะบุตรชายนอกสมรสของอดีตเจ้าผู้ครองแคว้นหวังตั้งต้นเป็นพญาราชสีห์วางยาพิษลงในเครื่องดื่มสังหารหลานชายผู้ซึ่งมีสิทธิ์จะได้ครองแคว้นเป็นคนต่อไปเหตุการณ์ครั้งนั้นทั้งทหารและขุนนางถูกแบ่งเป็นสองฝ่ายทั้งฝ่ายต่อต้านจะเอาผิดบุตรชายนอกสมรสทั้งฝ่ายสนับสนุนที่จะให้บุตรชายนอกสมรสคนนั้นได้ปกครองแคว้นต่อไป
สงครามความขัดแย้งเกิดขึ้นอย่างรุนแรงจนสุดท้ายแคว้นถูกแยกเป็นสองฝั่ง
คือฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก
และเครื่องดื่มที่ใช้ในการวางยาอดีตทายาทผู้ครองแคว้นครั้งนั้นก็คือไวน์ที่สกัดจนใสคล้ายน้ำเปล่านี่ล่ะ
ไม่มีใครเข้าใจตลกร้ายของคนที่จะครองแคว้นฝั่งตะวันตกแม้แต่น้อย
“ดื่มเถอะ” จีวอนพูดพร้อมยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม
ภายใต้ท่าทีเงียบนิ่งฮันบินไม่เข้าใจอาการที่จีวอนแสดงออกมาแม้แต่น้อยคนที่ทุกกิริยาต้องวางท่าอย่างมีมารยาทแม้จะเป็นเพียงสิ่งที่ฉาบด้วยการแสดงก็ตาม
ทำไมถึงได้เอาชนวนอ่อนไหวอย่างนี้มาเล่นอย่างไร้มารยาทได้
หรือเพียงแค่สนุกกับการเห็นทุกคนเป็นพวกหน้าโง่กระอักกระอ่วนกับตลกร้าย ยิ่งเห็นท่าทีพวกเขากริ่งเกรงกับเครื่องดื่มในมือว่าจะมียาพิษหรือไม่ยิ่งเป็นเรื่องสนุกสนาน
แต่พอผ่านไปเพียงครู่ทุกคนในที่นี่ก็ตระหนักว่านี่เป็นเพียงตลกร้ายของอีกฝ่าย
คนเพียงหยิบมือของฝั่งตะวันตกไม่มีทางวางยาพิษสังหารใครแล้วอยู่รอดกลับไปได้
จึงเริ่มทยอยหยิบเครื่องดื่มขึ้นมาดื่ม
ฮันบินหยิบแก้วขึ้นมาแม้จะนึกไม่พอใจไม่ต่างจากคนอื่น
รสขมปร่าแต่ก็มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ละมุนอยู่ในปาก
มันเป็นรสชาติที่ดีไม่ต่างจากไวน์ชั้นดีทั่วไปนักและฮันบินมั่นใจว่าที่เขาดื่มเข้าไปไม่ใช่ยาพิษอย่างแน่นอน
ดวงตากลมมองตัวต้นเรื่องที่ยืนเหยียดยิ้มอยู่ตรงข้าม
คงเป็นเรื่องตลกของเขาล่ะ
มือหนาของจีวอนที่ถือแก้วไวน์ไว้อยู่ยกขึ้นสูงเอียงแก้วเล็กน้อยแล้วยกขึ้นดื่ม
ฮันบินทำตามแล้วยกของเหลวในแก้วขึ้นดื่มเช่นกัน
✥✥✥
เรือนกายผอมบางแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่
เจ้าของผิวเนื้อสีน้ำนมบริสุทธิ์ลูบไล้กลีบดอกไม้นานาพันธุ์ลงตามเนื้อนวลทั่วเรือนร่าง
ดวงตากลมมองออกไปนอกหน้าต่างบานเล็ก
เหตุเพราะค่ำคืนนี้อากาศปลอดโปร่งไม่มีลมพายุอย่างเช่นเมื่อสามวันก่อน
จึงได้เห็นดวงดาวน้อยใหญ่ส่องแสงมากมายอยู่เต็มฟ้า
นิ้วเรียวหยิบกลีบกุหลาบไล้วนอยู่ตามข้อมือ
ขณะที่ในดวงตาสีดำสนิทครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ตอนประชุมเมื่อสองวันก่อน
ฮันบินไม่เข้าใจการกระทำของคนผู้นั้นเลยสักนิด
ดูมีมารยาทแต่ก็ไร้มารยาทในขณะเดียวกัน
เรียกว่าทำเรื่องไร้มารยาทได้อย่างมีมารยาทคงจะเหมาะ
อาการกลิ้งกลอกของอีกฝ่ายทำให้ฮันบินไม่รู้เลยว่าตอนไหนกันที่ชายคนนั้นพูดความจริงและตอนไหนกันที่พูดเท็จ
ทั้งที่เพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้เพียงสามวันแต่กลับปั่นหัวสร้างความสับสนให้ผู้คนที่นี่ไปหมด
ร่างโปร่งผอมลุกจากการแช่น้ำ
หยิบชุดคลุมตัวบางห่อหุ้มร่างกาย
เขาเองก็เช่นกันที่ชายคนนั้นดูจะอยากปั่นหัวเล่นให้เป็นเรื่องสนุก
✥✥✥
เจ้าของเรือนผมที่เปียกหมาดจนเกือบแห้งสนิทอยู่ในชุดผ้าฝ้ายเนื้อบางในเวลาที่ดึกสงัดเช่นตอนนี้ฮันบินกลับไม่ได้หลับใหลเช่นคนอื่น
เด็กหนุ่มร่างโปร่งหมกตัวอยู่ในห้องหนังสือ กางแผนที่น้อยใหญ่เทียบวางลงบนโต๊ะตัวกลม
เพื่อจะหาข้อมูลมาโต้เถียงเรื่องพื้นที่ทับซ้อนในการประชุมต่อไป
เขาไม่ใช่มินโฮที่ออกตระเวนรอบชายแดนตั้งแต่อายุยังน้อย
ได้เห็นของจริงเหตุการณ์จริงกับตา ดังนั้นที่ฮันบินต้องทำคือหาข้อมูลและหมกตัวอยู่กับหนังสือให้มากกว่าคนอื่นๆ
ทั้งที่คิดว่ากลางดึกในห้องหนังสืออย่างนี้เป็นเวลาที่ตัวเองได้อยู่ตามลำพังกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น
ขณะที่ฮันบินวุ่นอยู่กับการเปรียบเทียบแผนที่ เพียงแค่ขยับตัวขับไล่ความเมื่อย จึงได้รู้ว่าขณะนี้ไม่ได้มีแค่ตน
แต่มีร่างสูงของจีวอนยืนอยู่ร่วมห้องด้วยอีกคนหนึ่ง
ไม่รู้เลยว่าตั้งแต่เมื่อไหร่
ร่างสูงก้มหัวให้ฮันบินเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้ามา
“ไม่ทราบว่าจะรบกวนเวลาคุณชายน้อย”
ชายคนนั้นบอกก่อนจะขยับตัวเดินเข้ามา
ฮันบินยังไม่พูดอะไร
ไม่ได้คิดว่าแขกต่างเมืองจะอยากเข้ามาในห้องหนังสือยามวิกาลอย่างนี้
แต่ก็คงว่าอีกฝ่ายไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่สถานที่หวงห้ามแต่อย่างใด หากที่ใดหวงห้าม
ห้องนั้นจะถูกทำการปิดล็อคไว้อย่างดี
ฮันบินมองไปทางประตูทางเข้าห้องหนังสือที่ถูกปิดสนิท
แต่องครักษ์เวรยามคงยังทำหน้าที่ยืนเฝ้าไว้อยู่ ใบหน้าขาวส่ายไปเพียงนิดให้อีกฝ่าย
วอนพยักหน้าอีกครั้งแล้วดูแผนที่ที่กางออกอยู่บนโต๊ะ
“คุณชายน้อยไม่สบายใจเรื่องไหนกัน”
เรื่องที่ตนไม่สบายใจนั้นมีอยู่เต็มไปหมด แต่เรื่องที่ต้องสนใจตอนนี้มันอยู่ในแผนที่ซึ่งถูกกางเอาไว้
"จากตรงนี้ไปถึงตรงนี้อีกสิบไมล์
คือสิ้นสุดเขตแดนตะวันตก”
ฮันบินชี้ตามแผนที่
จากทางแม่น้ำสายเล็กฝั่งตะวันตกอันติดชายแดนไล่ไปทางตะวันออกซึ่งบ่งบอกระยะทางสิบไมล์อันมีแนวเทือกเขากั้นขวางแบ่งเขตตะวันตกและตะวันออกมาแต่ครั้งโบราณ
แต่กลับสร้างปัญหาเหลื่อมล้ำทับซ้อนของพื้นที่จีวอนพยักหน้าเห็นด้วยกับเด็กหนุ่ม แต่คำพูดที่ออกมากลับไม่เป็นตามนั้น
“จากแนวเทือกเขานี่คุณชายน้อยคิดว่าส่วนไหนกันที่กั้นฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก”
เพราะเทือกเขาไม่ใช่กำแพงที่จะแบ่งเส้นที่ชัดเจนได้
ทั้งคดโค้งไปมาและมีส่วนที่ขาดหาย พื้นที่นั้นสลับซับซ้อนและสร้างปัญหามาช้านาน
“ข้า”
ฮันบินตอบนิ้วขาวกำลังจะไล่เส้นแนวเทือกเขาบนแผนที่
แต่ก็ถูกมือของจีวอนจับไว้
“จากตรงนี้ถึงตรงนี้รึ”
มือจีวอนจับนิ้วฮันบินไล่ส่วนโค้งลึกสุดของแนวเขาเขตตะวันออกมาถึงบริเวณกินเนื้อที่ฝั่งตะวันตกมากที่สุดตามแผนที่
มันเป็นอย่างนั้นจริงตามที่แผนที่บอก
พอฮันบินกำลังจะตอบจีวอนกลับพูดแทรกขึ้นมาก่อน
“เพิ่งอาบน้ำมารึ”
ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่สนทนาอยู่แม้แต่น้อย
แต่ชายร่างสูงที่เอาตัวเข้ามาใกล้ฮันบินขณะดูแผนที่กลับพูดขึ้น มืออีกฝ่ายยังคงกอบกุมนิ้วชี้ของฮันบิน
และเด็กหนุ่มก็รู้สึกว่ามือนั้นขยับคล้ายลูบมันอยู่เล็กน้อย
“ที่ข้าอยากบอกก็คือเมื่อแผนที่บอกมาอย่างนี้ ก็อยากให้ทางท่านยอมรับ”
ฮันบินเอานิ้วออกมาจากการถูกกอบกุม ขยับตัวให้ออกห่างจากร่างสูงเล็กน้อย จากเดิมที่ออกจะใกล้เกินความจำเป็นอยู่สักหน่อย
“มันก็เป็นอย่างนั้นตามแผนที่ของท่าน
แต่ก็แค่แผนที่ของท่าน”
ฮันบินเข้าใจความหมายที่ร่างสูงต้องการจะสื่อ
มือขาวจึงหยิบแผนที่อีกแผ่นใต้ล่างออกมากางให้ดู
“นี่คือแผนที่ของแคว้นทางเหนือ
มีการวาดแผนที่ของแคว้นเราไว้ด้วย”
แสดงให้เห็นว่าแผนที่ทั้งสองแคว้นนั้นตรงกัน
แต่สิ่งที่จีวอนทำมีเพียงการยิ้มรับเหมือนอาจารย์มองลูกศิษย์คนโปรดอยู่เท่านั้น
“มันก็คงเป็นอย่างนั้น” ฮันบินขมวดคิ้วให้อีกฝ่าย
เมื่อแผนที่ทั้งสองแคว้นว่าอย่างนี้
ทางข้าคงได้แต่ยอมรับมันไป”
“แล้วท่านจะทำอย่างไรต่อ”
“ข้าจะสั่งทหารให้เกณฑ์ชาวบ้านที่ลุกล้ำที่ฝั่งท่านกลับเข้ามา”
ฮันบินอยากจะส่ายหน้าไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆถึงยอมง่ายดายอย่างนี้
ทั้งที่ตอนประชุมกลับเอาแต่ปลิ้นปล้อนไปมาไม่ยอมรับ
“อย่าสงสัยไปหากตอนประชุมคุณชายน้อยเป็นคนพูดข้าก็ยินดีจะทำตามตั้งแต่ตอนนั้น”
ยิ่งไม่ให้ความกระจ่างเข้าไปใหญ่
ฮันบินจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเรียวของชายที่อยู่ตรงหน้า
หากการมองตาจะสามารถมองเข้าไปในส่วนลึกทางความคิดของผู้คนได้จริงอย่างที่ชายผู้นี้ชอบทำ
ฮันบินก็อยากจะค้นหาเหมือนกันว่าชายคนนี้คิดจะทำอะไรอยู่กันแน่ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือมือหนาที่สัมผัสปลายเส้นผมนุ่มของเด็กหนุ่ม
“อย่าจ้องหน้าข้าอย่างนั้น
และอย่าจ้องใครอย่างนั้นด้วย ผลที่ออกมาเจ้าไม่รู้หรอกว่า เจ้ากับข้ามันต่างกัน”
มือหนายังคงสัมผัสเส้นผมของเด็กหนุ่มก่อนจะเลื่อนขึ้นไปสัมผัสตรงใบหูและแก้ม
ฮันบินยังคงมองลึกเข้าไปในดวงตาอีกฝ่ายไม่วางตา
“บอกว่าอย่าทำ”
จีวอนบอกเด็กหนุ่มอีกครั้งทำให้ฮันบินรู้สึกว่านี่คือคำเตือน
ดวงตาคู่สวยจึงหลุบไปเล็กน้อยก่อนจะกลับมามองหน้าอีกฝ่ายอย่างปกติ
“อีกสี่วันข้าจะกลับแล้ว” พูดขึ้นทั้งที่มือยังไม่ละจากใบหน้าขาว
“แต่มันกลับไม่ได้ทำให้ข้ามีความสุข”
“คงเป็นเพราะท่านมีหลายเรื่องให้กังวล
ตัวข้าเองก็ได้แต่อวยพรจากทางนี้ให้สมัยการปกครองของท่านมีแต่เรื่องที่ดีบ้านเมืองสงบสุข”
เด็กหนุ่มตัดบทอีกฝ่ายพร้อมจับมือหนาให้ออกจากใบหน้าตนเองอย่างสุภาพ
คนอายุน้อยกว่าถอยออกมาพร้อมก้มหัวให้ด้วยมารยาทก่อนที่จะเดินออกไปเพราะคิดว่าตัวเองไม่ควรอยู่ตามลำพังกับชายผู้นี้นาน
“ข้าคงไม่รบกวนเวลาที่ท่านจะเข้ามาอ่านหนังสือในนี้แล้ว
ต้องขอตัวก่อน”
✥✥✥
TBC
Talks : : อยากให้มันยาวกว่านี้แต่เอาแค่นี้ก่อนละกันค่ะ ตอนหน้าสัญญาว่าจะยาวกว่าเดิม
มีใครสงสัยอายุตัวละครไหมคะ
มิโนยี่สิบเก้า พี่บ๊อบยี่สิบแปด จุนฮเวยี่สิบสอง บินน้อยเป็นมักเน่ อายุสิบเจ็ดค่ะ
พบกันใหม่ตอนหน้าฝากแท๊ก #นายน้อยฮันบินด้วยนะคะ
ความคิดเห็น