ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คาลิโดร่า..สาวงามแห่งเคลาคัส

    ลำดับตอนที่ #27 : ถ้าคิดว่าสู้ไม่ได้ก็ไม่ต้องสู้

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 733
      1
      10 ต.ค. 52





    “อย่าพาลสิ”


    “ข้าเปล่า” คนพาลเถียงทันที “ข้ามันก็แค่คนคนหนึ่ง จะเอาอะไรไปสู้กับองครักษ์ของพระองค์”


    คาลิโดร่าหยุดเท้า 


    “ถ้าเจ้าคิดว่าสู้ไม่ได้ก็ไม่ต้องสู้ ข้าให้โอกาสเจ้าอย่างที่ไม่เคยให้โอกาสใคร ถ้าคิดว่าข้าไม่ได้สำคัญเพียงพอจะทำให้รัก ก็ไม่จำเป็นต้องทำ ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด สู้ไปรักหญิงอื่นที่พร้อมจะรักเจ้าโดยไม่มีเงื่อนไขเถอะ”


    นาธานเนลรีบดึงมือหญิงสาวเข้าเกาะกุมอีกครั้ง เมื่อนางดึงมือหนี


    “โธ่ เจ้าหญิง ข้าแค่น้อยใจนิดหน่อย ที่พระองค์ทรงจำข้าไม่ได้เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าข้าจะยอมแพ้ เมื่อครู่ข้าคงทำตัวไม่ดีเหมือนคนโง่” เสียงของชายหนุ่มอ่อนลง “เพราะรักทำให้คนฉลาดโง่ได้เสมอ”


    “หึ พ่อคนฉลาดที่แสนโง่ บอกต่อสิว่าเราจะไปยังไงต่อ ข้าไม่อยากไปปะเสือสิงห์อะไรอีกหรอกนะ”


    “ตอนนี้เราเชื่อได้แต่ตำนานที่ได้ยินได้ฟังมาเท่านั้น พระองค์ผู้สูงศักดิ์คงจะเล่าเรียนมาไม่น้อย คิดเห็นเช่นใด”


    หญิงสาวตวัดค้อน ศักดิ์จะสูงจะต่ำ คนกรีกก็ต้องร่ำเรียนเกี่ยวกับวรรณคดีสำคัญๆ มาทั้งนั้น เพียงแต่นางต้องเรียนวิชาชั้นสูงเพิ่มเติมอีกมากมาย อย่างพวกดาราศาสตร์ ปรัชญา การปกครอง หรือแม้กระทั่งศีลธรรม


    “ตำนานเล่าว่าหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านกลายเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ เจ้าจะหาสิ่งนี้ใช่ไหม”


    “ใช่ ถ้ามีจริง มันไม่น่าจะหายาก เมื่อเราเข้ามาลึกขนาดนี้แล้ว.. ทะเลสาบขนาดใหญ่ และ..วิหารแห่งซุส” พูดจบ ชายหนุ่มก็กดรอยแผลตัวเองให้แน่นขึ้น เมื่อมันเริ่มปวดเป็นระยะ คาลิโดร่ารีบประคองก่อนที่เขาจะล้ม


    “พักหน่อยเถอะ อย่าเพิ่งรีบอวดเก่ง” นางหยิบยาที่เตรียมไว้ออกมาให้ ชายหนุ่มมองยาในมือ พลันนึกอยากให้มือเรียวๆข้างนั้นป้อนถึงปาก ทว่าก็ทำได้แค่คิด เมื่อนางวางยาไว้บนมือ แล้วผละไปจัดการเปลี่ยนผ้าพันแผล


    ยามนางเคลื่อนไหว ราวกลิ่นหอมรอบกายดุจมีชีวิต อากาศกำลังเริงระบำรำฟ้อน รูปร่างอรชรที่เคยสัมผัสเคลื่อนไหวคล้ายเต้นไปตามจังหวะแห่งเสียงดนตรี 


    อยากรู้จริง คนที่เป็นทาสแห่งความรัก บ้าได้ถึงขนาดเขาหรือเปล่านะ


    “เจ้ามองอะไร” คาลิโดร่าทำตาดุใส่


    “พระองค์รู้ไหมว่าทรงงดงามเพียงใด” มือใหญ่เอื้อมแตะใบหน้าหญิงสาว ใช้หลังมือลูบไล้แผ่วเบา นางรู้สึกเลือดในกายกำลังสูบฉีดเร็วกว่าปกติเพียงแค่เขาสัมผัสเล็กน้อยเท่านั้น


    “ข้ารู้เสมอว่าข้างดงาม”


    “ข้าต้องทำเช่นไรให้พระองค์ใจอ่อน”


    “นั่นเป็นหน้าที่ของเจ้า ไม่ใช่มาถามข้า”


    นาธานเนลถอนหายใจแล้วลุกขึ้นเดินเหินอีกครั้ง


    “ไปต่อเถอะ ข้าอยากพบเจอต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์โดยเร็ววัน”


     
    ........................................


     
    ทะเลสาบอันกว้างใหญ่อยู่เบื้องหน้า ใหญ่จนไม่น่าเชื่อว่ามันจะซ่อนตัวอยู่ในป่าเขาโดยไม่เคยมีผู้ใดพบเห็นได้ แผ่นน้ำนิ่งสงบ ยามแสงแดดส่องกระทบก็ทอประกายงดงามดั่งมณีเพชรเลอค่า


    คาลิโดร่าแตะมือชายหนุ่มแผ่วเบาอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง แม้นางจะบอกให้เขาตามหาสิ่งนี้ หากอีกใจก็ไม่เชื่อถือตำนานที่เล่าสืบต่อ เทพเจ้าเสด็จเยือนโลกมนุษย์เพื่อตอบแทนผู้กระทำดี หญิงสาวก้าวล้ำเข้าไปที่ทะเลสาบ ปลายเท้าแตะน้ำเล็กน้อยก็รู้ว่ามันเป็นของจริง


    “เป็นไปไม่ได้..”


    “เป็นไปแล้ว คาลิร์ เราเจอทะเลสาบ ต้องมีวิหารแห่งซุสและต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เป็นแน่” นาธานเนลเอ่ยอย่างเชื่องช้า เพราะหัวใจของเขาเต้นโลดอยู่ภายใน เหมือนสิ่งที่ตามหาอยู่ใกล้แค่เอือม


    ชายหนุ่มรีบดึงมือสาวงามข้างกายให้เดินเร็วขึ้น อ้อมทะเลสาบไปอีกด้านที่ยังคงปกคลุมทึบด้วยต้นไม้ใหญ่ พลันสีขาวซีดก็ดึงดูดสายตาให้ประจักษ์ชัด วิหารที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่าวิหารเทพเจ้าทั่วไปซ่อนตัวอยู่ในหมู่แมกไม้ กิ่งก้านลดเลี้ยวไปตามหลังคา เสาแต่ละต้นผสมไปทั้งสีขาวของหินอ่อนและสีเขียวของตะใคร่ ผู้มาเยือนจดฝีเท้าแผ่วเบาลง ด้วยกลัวว่าเสียงของตนจะทำลายความเงียบสงบแห่งวิหาร ด้านในผุพังอย่างไม่มีคนดูแล 


    เท้าทั้งสองคู่ก้าวล้ำเข้าไปข้างใน จนเห็นแสงแดดลอดออกจากประตูอีกด้าน นาธานเนลเปิดบานประตูหลังออก ต้นไม้ที่เห็นว่าใหญ่มานักต่อนัก เทียบไม่ได้เลยกับที่เห็นอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ไม้ศักดิ์สิทธิ์ขนาดหลายคนโอบ สูงเด่นตระหง่าน สีเขียวเข้มดุจจะกลืนสีท้องฟ้า มนต์เสน่ห์ความลึกลับแผ่ปกคลุมทั่วบริเวณ 


    “โอ๊กและลินเดน..” เสียงหนึ่งครางแผ่วเบา มือเรียวเอื้อมออกไปสัมผัสเปลือกไม้ ต้นไม้ที่เติบโตเคียงคู่อย่างในนิทานที่ขับขานมาเนิ่นนาน


    ชายหนุ่มไม่รอช้า มือใหญ่แตะที่ลำต้น ในใจทำความเคารพอย่างยำเกรง และขออภัยที่เขาบังอาจขอเศษเสี้ยวบางส่วนเพื่อทำมงกุฎ ดวงตาคมมองขึ้นไปยังพุ่มไม้หนาทึบ สายตาก็สะดุดกับกิ่งลินเดนที่ไม่แตกต่างจากกิ่งอื่น แต่สมองกลับสั่งการอยากได้กิ่งนั้น จนขาทั้งสองข้างเริ่มปีนป่าย ลำต้นสูงใหญ่ กิ่งก้านก็ใหญ่ตามจนรองรับน้ำหนักของมนุษย์ได้ นาธานเนลนั่งพักในจุดที่ใกล้กับกิ่งไม้ที่เขาต้องการ แล้วเริ่มลงมือหักกิ่งไม้เพื่อสานเป็นมงกุฎถวายเด่เจ้าหญิงของเขา



    ทันทีที่ชายหนุ่มมีงานทำ ดูเหมือนว่าทุกอย่างรอบด้านก็ไม่มีอะไรสำคัญสำหรับเขาอีกแล้ว ใบหน้าคมมุ่งมั่นและขะมักเขม้นกับกิ่งไม้ที่อยู่ในมือ คาลิโดร่าถอนหายใจ นางดูไร้ความสำคัญไปทันที หญิงสาวเดินเลี่ยงออกมา กลับเข้าไปในวิหารอีกครั้ง คราวนี้สำรวจบริเวณภายในมากขึ้น ฝุ่นผงเกาะตามพื้น จนทำให้เห็นเป็นรอยเท้าในขณะก้าวผ่าน รอยเท้า..ที่มีเพียงสองรอยเท่านั้น


    ไม่มีร่องรอยสิ่งมีชีวิตอื่น ไม่มีแม้กระทั่งรอยสัตว์ป่าทั่วไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม ดูท่า วิหารนี้คงจะปลอดภัยอยู่ไม่น้อย หญิงสาวเลือกมุมสงบด้านหน้าวิหาร เหม่อมองทะเลสาบและท้องฟ้าที่แม้เป็นสีฟ้าเช่นเดียวกันหากก็แตกต่าง ฟ้าใสของท้องฟ้า และฟ้าครามของทะเลสาบ สายลมเอื่อยพัดเชื่องช้าดุจกาลเวลาหยุดลง ณ ที่ตรงนี้ 


    ถ้าเวลาหยุดลง.. นางก็อยากจะอยู่ตรงนี้ไปชั่วกาลนาน


    พลันสายลมก็พัดพาให้น้ำในทะเลสาบไหลเป็นระลอกคลื่นเล็กๆ เชื้อเชิญให้เท้าเรียวก้าวเข้าไปหา ปลายเท้ากวาดพื้นน้ำเป็นเส้นโค้ง ด้านบนเย็นเล็กน้อย แต่ด้านล่างน่าจะอุ่นกำลังดี คาลิโดร่ายิ้มมุมปาก ในเมื่อมนุษย์อีกคนที่อยู่ที่นี่มีงานทำแล้ว ไฉนเลยนางจะหาความสุขเล็กๆน้อยๆใส่ตัวไม่ได้ มือเรียวปลดผ้าคลุมไหล่ออก แล้วก้าวลงไปในน้ำทั้งชิตอน


    ลึกลงไปน้ำอุ่นกำลังดีอย่างที่คิดไว้ ร่างกายที่รู้สึกเหมือนไม่ได้ถูกน้ำมาหลายวันก็สดชื่นกระปรี่กระเป่าขึ้น จากนั้นจึงเริ่มดำผุดดำไหว้ให้สายน้ำชำระความสกปรกไปทุกส่วน ผิวเนื้อนวลชุ่มชื่นคล้ายกลีบดอกไม้รับน้ำค้างในยามเช้า หลังจากว่ายน้ำนานเกือบครึ่งชั่วโมง อารมณ์ก็แจ่มใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หากขาที่กำลังเข้าขึ้นมีอันต้องชะงักไปในทันที เมื่อสบสายตาคมเข้มของมนุษย์อีกผู้หนึ่งที่คิดว่าป่านนี้ก็ยังใจจดใจจ่อกับงานของตน



     
    สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า ไม่ผิดกับนางพรายน้ำตัวน้อยๆ หัวเราะต่อกระซิกในธารใส รอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นบ่อยก็ได้เห็นจนเต็มตา นางว่ายน้ำคล่องแคล่วดุจมีครีบหาง หากยามนางเดินขึ้นจากพื้นน้ำ ครีบหางที่กลายเป็นขาก็ดึงดูดสายตาจนแทบไม่อาจละไปได้ หยดน้ำพราวไปตั้งแต่เส้นผมจรดปลายขา ชิตอนเปียกแนบกับเนื้อตัวเปิดเผยรูปร่างมากกว่าที่เคยเป็น จากผ้าที่บางอยู่แล้วเมื่อถูกน้ำก็ไม่ต่างอะไรกับไม่ได้ใส่ แล้วนางพรายน้ำตัวน้อยๆก็ถลึงตาใส่เขาทันที


    “เจ้ามาตั้งแต่เมื่อไร” ขาคู่นั้นกำลังถอยหลังจะก้าวกลับลงไปในน้ำอีกครั้ง ถ้าต้องยืนหนาวสั่นให้เขาจ้องเอาๆ สู้นางกลับลงไปในน้ำอีกครั้งจะดีกว่า แม้ว่าจะเหนื่อยมากเพียงใดก็ตาม


    “อย่างน้อยก็ทันเห็นใครบางคนมีความสุขที่ได้อาบน้ำ”


    นางกำลังก้าวถอยหลัง และเขาก็ก้าวตาม ต่างฝ่ายต่างเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า คล้ายรอดูปฏิกิริยาของอีกฝ่าย หากเมื่อนางลงน้ำได้ก็รีบหันหลังว่ายไปอีกทางทันที แต่กำลังของคนเหนื่อยอ่อนมีหรือจะสู้คนที่ยังมีเรี่ยวแรงเหลือเฟือได้ ไม่นานเลยที่เขาจะจับพรายน้ำกักไว้ในอ้อมกอดได้


    “จะหนีทำไม”


    คาลิโดร่าค้อนใส่ ส่งสายตามาอย่างนี้ จะไม่ให้นางหนีได้ยังไง แล้วดูมือไม้สิ น่าปล่อยให้เสือกัดตายนัก ชอบมาระรานร่างกายของนางอยู่เรื่อย


    “นี่ คนจร ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าทำแบบนี้!”


    “หือ.. แบบไหนกันนะ” ไม่ว่าเปล่า มือที่แตะลู่แผ่นหลังก็ลดต่ำลงไปอีก เสื้อผ้าที่เปียกน้ำของทั้งสองฝ่ายทำให้รู้สึกเหมือนไม่มีอะไรกีดขวางระหว่างกันเลยสักนิด แล้วมือข้างนั้นก็กระตุกเชือกรัดเอวของอีกฝ่ายทันที


    “กรี๊ดดดดดดด” เสียงกรีดร้องลั่นป่าก็ดังขึ้นอีกครั้ง



     
    พวกเขารู้สึกมีเสียงแว่วมาจากที่ห่างไกล ไม่รู้เพราะว่าหูเล่นกลหรือเพียงคิดไปเองว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของเจ้าหญิงที่กำลังตามหา การบุกป่าฝ่าดงอาจลำบากไปบ้าง แต่ไม่เคยเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขา ทว่าในขณะที่หัวใจกำลังร้อนรน ทุกสิ่งก็ดูเหมือนมีอุปสรรคเต็มไปหมด เริ่มตั้งแต่ป่าไม้ที่ดูจะรกชัฏมากขึ้น แทบทุกพื้นที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์ลวงให้หลงทาง เหมือนพวกเขากำลังหลงอยู่ในเขาวงกตที่ธรรมชาติสร้างขึ้น ไม่ประหลาดใจเลยว่าทำไมถึงไม่เคยมีใครรอดออกไปจากป่าไร้นาม..ป่าแห่งความตาย


    หัวใจหวังเพียงอย่างเดียว เจ้าหญิงที่เป็นดวงใจจะปลอดภัยทุกประการ..



     
    ป่าไม้และธรรมชาติไม่ได้เป็นอันตรายต่อนางเลย หากมนุษย์ที่ขึ้นไปจากทะเลสาบแล้วต่างหากที่น่าหมั่นไส้นัก!


    “คนจร..” เสียงของเจ้าหญิงเย็นยะเยือกให้รู้ว่านางกำลังหมดความอดทน “คืนเชือกผูกเอวของข้ามาเดี๋ยวนี้”


    “ถวายคืนแด่เจ้าหญิงอย่างง่ายดาย ถ้าพระองค์จะมารับคืนด้วยพระหัตถ์องค์เอง”


    คาลิโดร่าแทบอยากจะเอาก้อนหินดินทรายปาหัวคนพูดนัก ไม่เคยมีใครกล้าเล่นลิ้นกับพระองค์เช่นนี้ ไม่มีเลยที่จะกล้าแกล้งพระองค์ด้วยความสนุกเหมือนเด็กๆ และไม่เคยมีใครกล้าท้าพระองค์ให้ทำอะไรด้วย!



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×