ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [[พันธนาการแห่งบัลลังก์]] เป็น eBook ครบสี่เล่มแล้วนะคะ ^^

    ลำดับตอนที่ #76 : ตอนพิเศษ : เบื้องหลังหน้ากาก (4)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 21
      0
      8 มิ.ย. 62






    อายาเมะกำมือนิ่ง อาจเพราะเด็กชายมีสายเลือดของมนุษย์แรงกลบสายเลือดภูตจนหมด ทำให้หล่อนไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเป็นลูกครึ่ง


    มันไม่แปลกที่เขาจะแต่งงานกับภูต.. กับผู้หญิงคนไหนก็ได้.. แต่...ไม่ใช่กับคนนี้ ไม่ใช่กับเพื่อนสนิทของนางเอง!


    “ฮาจิซึ? เจ้าล้ออะไรข้าเล่น เจ้า..แต่งงานกับเขา ทำไม..”


    “เพราะข้ารักเขา อายาเมะ ในเมื่อเจ้าบอกข้าเองว่าเจ้าไม่สนใจเขา ไม่แยแสเขาแล้ว ทำไมข้าจะรักเขาไม่ได้ล่ะ ข้ารักเขา..มากกว่าที่เจ้าคิดนะ”


    เหมือนอะไรบางอย่างในร่างกายแตกเป็นสองส่วน


    อายาเมะมองอย่างไม่เชื่อสายตาตนเองเป็นครั้งแรก ไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น และไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน


    ก็เพื่อนคนนี้ไม่ใช่หรือที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้นาง เป็นไม้ยันในเวลาที่นางล้ม เป็นคนดึงในยามที่นางท้อแท้ และช่วยเหลือในยามที่อ่อนล้า ก็เพื่อนคนนี้อีกไม่ใช่หรือที่รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง รู้ความร้ายกาจที่เขาทำไว้กับนาง รู้ว่านางปวดร้าวแค่ไหนที่เขาทรยศ


    แล้วทำไมวันนี้....


    “เจ้าล้ออะไรข้าเล่น ฮาจิ..”


    “อายาเมะ วันนี้ข้าเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ เจ้าช่วยมาวันหลังได้ไหม”


    สายตาที่มองตรงมา ไม่ได้ขอให้มาวันหลัง แต่..ขอว่าไม่ต้องมาเลยด้วยซ้ำ!


    มือเรียวชาจนรู้สึกไปถึงแก้ม สั่นจากปลายนิ้วถึงปลายเท้า ภูตไอริสเพียงแค่นยิ้ม


    “ได้สิ ถ้าเพื่อนข้าต้องการแบบนั้น ได้.. ข้าจะไป”


    ไม่รอให้พูดจบ หล่อนหมุนตัว ออกจากบริเวณนั้นทันที ปล่อยคนข้างหลังให้อยู่ลำพังตามประสาครอบครัว


    ฮาจิซึหันมองชายหนุ่ม


    “ท่านเจออายาเมะได้ยังไง นางมาหาท่านที่นี่รึ!”


    “เปล่า.. บังเอิญนะ”


    “เหอะ..” ภูตดอกบัวทำเสียงในลำคออย่างไม่เชื่อ สายตาจ้องจับผิดทำให้คาลเซมสงสัย


    “ทำไม มีอะไร นางเป็นเพื่อนเจ้านิ.. ทำไมถึงไม่ดีใจที่ได้พบกันอีก”


    “ไม่ใช่.. ข้า..” เสียงเด็กในอ้อมกอดร้องไห้ ทำให้ฮาจิซึรีบประคองเด็กน้อยนอนในท่าที่สบายขึ้น “คาลเซม ถือว่าข้าขอร้อง อย่ายุ่งกับนางอีก นางเคยทำให้ท่านเจ็บ..จำไม่ได้หรือไง ข้ารักท่านนะคะ หวังดี ไม่อยากให้นางมาทำให้ท่านเจ็บอีก”


    “ข้ารู้” คาลเซมมองหญิงสาวที่กำลังเดินเข้าไปข้างในห้องนอนเพื่อเอาใจลูกชาย “แต่..ข้าไม่เข้าใจ พวกเจ้าเคยสนิทกันมากแท้ๆ ”


    “แต่ข้ารักท่านมากกว่า ข้าถึงเป็นเพื่อนกับนางที่ทำให้ท่านเจ็บไม่ได้ คาลเซมคะ นาง..ไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้มารื้อฟื้นอะไรใช่ไหมคะ” แม้ก่อนจะเดินเข้าห้อง สายตาของภูตสาวก็ส่งมาเป็นคำถามคลางแคลงใจ คาลเซมได้เพียงยิ้มฝืด


    “เจ้าว่าอายาเมะเป็นคนอย่างนั้นรึไง นางไม่เคยลดศักดิ์ศรีตัวเองเลยสักนิด”


    “อย่างงั้นก็ดีค่ะ ถ้า..นางมาพูดอะไรให้ท่านผิดใจกับข้า ขอร้องให้ท่านฟังข้าบ้าง เชื่อใจข้า..เพราะข้ารักท่านมากกว่าใคร ได้ไหมคะ? ”


    “ข้าจะเชื่อใจใครได้นอกจากภรรยาข้า” คาลเซมยิ้มอีกครั้งเมื่อร่างบางลับหายจากสายตา ทว่า..ใบหน้ายามที่หล่อนเจอเพื่อนนั้น ยังติดอยู่ในสายตาและความสงสัยไม่จางหาย




    “อะไรน่ะ เสียงโครมครามอะไร” ฟาดิเนียเงยหน้าจากหมอนใบใหญ่เมื่อได้ยินเสียงตึงตังในบริเวณห้องของตนเอง


    “ภูตรับใช้ของคุณหนูค่ะ กลับมาแล้ว แต่..” สาวใช้คนหนึ่งทำหน้าไม่ถูก “ดิฉันแปลกใจ รู้สึกว่าจะร้องไห้ด้วย เลยไม่แน่ใจว่างานที่คุณหนูสั่งไว้ นางอาจทำไม่สำเร็จก็ได้”


    “เรื่องงี่เง่า แค่งานไม่สำเร็จ ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ทำใหม่ก็สิ้นเรื่อง” เจ้าของห้องพูดอย่างไม่ใช่เรื่องหนักหนา แล้วลุกจากเตียงหนานุ่ม ตรงไปห้องด้านข้างที่หล่อนให้ภูตรับใช้พักอยู่ในระหว่างทำพันธสัญญากัน


    ไม่มีเสียงเคาะประตูเมื่อมันถูกเปิดออก อายาเมะรู้ว่าใครเดินเข้ามา หล่อนเช็ดน้ำตาให้แห้งก่อนหันไปเผชิญหน้า


    “นายท่าน..”


    “เป็นอะไรไป” ฟาดิเนียถือวิสาสะนั่งลงบนเตียง เพราะหล่อนถือว่าของทุกชิ้นที่อยู่ในบ้านของหล่อนก็เหมือนของหล่อนเอง แม้ว่าจะยกให้ใครใช้อยู่ก็ตาม อายาเมะยิ้มอย่างที่ไปไม่ถึงดวงตา


    “ข้า..เอาของที่ท่านสั่งมาไม่ได้ค่ะ พอดีว่า..”


    “ข้าไม่ได้ถามเรื่องเบ็ดตกปลาที่ข้าอยากได้ แต่ข้าอยากรู้ว่าเจ้าเป็นอะไร” เจ้านายทางพันธสัญญาเอ่ยขึ้น ดวงตาจ้องจับผิด


    กับเจ้านาย.. ภูตรับใช้ไม่มีสิทธิ์โกหก


    “พอดีข้าไปบ้านของเขามาตามคำสั่งท่าน แล้ว..เอ่อ..ข้าเจอภรรยาของเขา”


    “เป็นไง? สวยไหม” ดวงตาของมนุษย์มีแววใคร่รู้


    “เจ้าค่ะ นางเป็นภูต ก็ต้องสวยอย่างภูต”


    “เอ๊ะ มนุษย์กับภูตแต่งงานกันได้ด้วยเหรอ”


    “ไม่มีกฎห้ามค่ะ ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของทั้งสองฝ่ายเจ้าค่ะ”


    “แล้วไงต่อ”


    “นางเป็น..เพื่อนข้าเองค่ะ หมายถึง..เราเคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน ข้าก็เลยตกใจเล็กน้อย”


    ฟาดิเนียเลิกคิ้ว แก้มเจ้าเนื้อพองออก


    “แล้วจุดหักเหมันอยู่ตรงไหนล่ะ”


    อายาเมะเม้มริมฝีปากแน่น คำถามของเจ้านายเหมือนกรีดเข้ากลางหัวใจที่ปิดตายมาหลายปี เบ้าตาร้อนผะผ่าว เคยคิดว่าตนเองเข้มแข็งขึ้นแล้ว ไม่อ่อนแอเช่นเก่า หากเวลานี้ก็ได้รู้ ให้เวลาผ่านนานแค่ไหน คนอ่อนแอก็อ่อนแอเช่นเดิมไม่มีเปลี่ยน


    “ข้ากับ..คาลเซม เขาเป็นอดีตเจ้านาย และก็เป็นอดีตคนรักของข้าด้วยเจ้าค่ะ”


    “อือ พอเดาได้” อายาเมะผงกศีรษะมองคนเดา อีกฝ่ายเพียงยักไหล่ “ถ้าไม่เคยมีอะไรในกอไผ่ พวกเจ้าไม่ทำท่าแปลกๆ แบบนั้นหรอก เหมือนจะแอบมองกันตอนเผลอ แต่พออีกฝ่ายรู้ตัวก็รีบหันหน้าหนี”


    ภูตสาวหัวเราะออกมาเป็นครั้งแรก ไม่นึกว่าเจ้านายของตนจะฉลาดเหมือนคนอื่นเขาด้วย ไม่สิ..ส่วนใหญ่นางแค่ไม่พูด พอเอ่ยปากก็พูดก็ถามเรื่องที่ไม่รู้ ดังนั้นนางจะรู้ จะเก่งเรื่องอะไรบ้าง แม้แต่ตนเองที่เป็นภูตรับใช้ก็ยังไม่แน่ใจเลย คิดพลางตำหนิตัวเอง เป็นภูตรับใช้ประสาอะไรนะ


    “เจ้าค่ะ คงมองออกได้ง่าย เพราะว่าตอนจบ.. พวกเราจบกันไม่ดีนัก” ภูตสาวกำผ้าปูที่นอนแน่น หล่อนคุกเข่าอยู่กับพื้น ซบหน้ากับเตียง มืออวบขาวของเจ้านายก็แตะที่ศีรษะ


    “แม่ข้าชอบทำแบบนี้ แม่บอกว่าสัมผัสทางกายจะช่วยรักษาความเจ็บปวดได้”


    “ตอนที่ข้าเป็นภูตรับใช้ให้เขา เรา..รักกันมาก อย่างน้อย ข้าก็รักเขามากที่สุด มากกว่าใคร เขาเป็นรักเดียวที่จนป่านนี้ยังไม่มีใครมาแทนที่ได้ แต่..แล้วเขาก็เปลี่ยนไป ข้าไม่เข้าใจ..ไม่เข้าใจผู้ชายเลยสักนิด” ความรู้สึกที่อัดแน่นพรั่งพรูออกเป็นคำพูดอย่างรวดเร็วราวทำนบที่ถูกเปิดออก น้ำที่ถูกกักเก็บมานานก็ไหลบ่าอย่างแรง “อยู่ดีๆ เขาก็ไปมีหญิงอื่น ถ้าเราเป็นแค่เจ้านายกับภูตรับใช้ ข้าจะไม่ว่าเลย ข้าไม่สิทธิ์ก้าวก่ายด้วยซ้ำ แต่เขาเป็นคนพูดเองว่าเขารักข้าที่สุด เราเป็นคนรักกัน แต่..ทำไมถึงทำแบบนั้นกับข้าได้ เขาโมโหร้ายใส่ข้า ไม่ไว้หน้ากันเลยสักนิด


    สุดท้าย..เราก็แตกหัก หมดจดเลยเจ้าค่ะ เหมือนแก้ว ไม่มีทางประสานได้ เราทะเลาะกันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำที่ใช้ก็แรงตามเหมือนอารมณ์ มองหน้ากันไม่ติดไปนาน พันธสัญญาล้มเลิก แล้ว..ข้าก็หนี หนีจากเขา หนีจากหัวใจตัวเอง บอกตัวเองให้เข้มแข็ง อย่าอ่อนแอ อย่าร้องไห้เพราะคนแบบนั้นอีก ฮ่าๆ สุดท้ายมันก็ย้อนรอยเดิม เขาก็ยังเป็นคนที่ทำให้ข้าร้องไห้ได้ง่ายไม่มีเปลี่ยน”


    “เจ้าว่าคนร้องไห้คือคนอ่อนแอหรือ? ข้าว่า..ก็แค่คนที่ทำตามใจตัวเองเท่านั้น” ฟาดิเนียยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจอีกครั้ง “คนอื่นจะคิดยังไงข้าไม่สน ถ้าข้าร้องเพราะข้าอยากจะร้อง ไม่ใช่เพราะอ่อนแอสักหน่อย แล้วยังไงอีกล่ะ เพื่อนของเจ้ามาเกี่ยวอะไรด้วย”


    “นางชื่อฮาจิซึเจ้าค่ะ เป็นภูตสายแห่งดินเหมือนข้า เราสนิทกันมาก”


    อายาเมะนิ่งคิด ก็อาจจะเหมือนลูริกับโทริหรือโซ เป็นเพื่อนกันมานาน แม้จะไม่ถึงตั้งแต่เด็กอย่างพวกนั้น แต่ก็ถือว่ามากพอสมควร นางมีเพื่อนมากมาย แต่ที่สนิทกันจริงๆ มีไม่กี่คน ฮาจิซึอยู่ในอันดับต้นๆ


    “ยิ่งตอนที่ข้ากับคาลเซมยัง..คบกันอยู่ ข้าเล่าทุกเรื่องให้ฮาจิซึฟัง นางยังยินดีไปกับข้า และตอนที่ข้าเลิกกับเขา นางก็เสียใจพร้อมข้าเช่นกัน แต่..ข้าไม่เข้าใจ นางบอกว่าผู้ชายคนนั้นหลายใจ กลับกลอก นางเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงอื่นลับหลังข้าตั้งหลายครั้ง นางยังว่าเขาไม่คู่ควรกับข้าเลยสักนิด แล้วทำไมถึงได้..แต่งงานกัน”


    ฟาดิเนียเหยียดยิ้ม หล่อนอาจโง่กับโลกภายนอก แต่ไม่ใช่หัวใจมนุษย์ เพราะอยู่ในกรงปิดตายที่เรียกว่าบ้าน สิ่งที่พอจะแก้เหงาได้ คือฟังคนอื่นคุยกัน สาวใช้มักไม่ค่อยระวังตัวถ้าคิดว่าเจ้านายหลับแล้ว ยิ่งอยู่รวมกันมากเท่าไร เรื่องก็ไม่พ้นการนินทา


    “เจ้ายังเดาอะไรไม่ได้อีกหรือไง”


    “คะ” คราวนี้อายาเมะงุนงง


    “เพื่อนเจ้าคนนั้นหลอกเจ้าแล้ว ที่นางว่าเกลียดคาลเซม ไม่ได้เกลียดจริงเสียหน่อย ถ้าเกลียดแล้วจะไปแต่งงานด้วยได้ยังไง”


    อายาเมะชะงักงัน ยังจำตอนที่ตนเกรี้ยวกราดเรื่องเขาให้นางรับรู้ ความใจง่ายของผู้ชาย ฮาจิซึว่านางเข้าใจว่าตนรู้สึกยังไง นางพร้อมจะเกลียดทุกคนที่ทำร้ายเพื่อนของนาง


    “คงไม่ใช่แบบนั้นมั้งเจ้าคะ”


    “หึๆ เจ้าจะเชื่อแบบนั้นก็ตามใจ แต่ข้าเตือนด้วยความหวังดี ไม่มีอะไรร้ายกาจได้เท่าผู้หญิงอย่างเราๆ หรอกนะ” ฟาดิเนียแย้มยิ้ม “สาวใช้คนหนึ่งของข้าถูกไล่ออก ที่จริงข้าก็อยากช่วยนางนะ แต่จนปัญญา พ่อไม่ฟังข้าเลยสักนิด หาว่าข้าโง่ ไม่รู้อะไรเลย” หญิงสาวกระตุกยิ้มเหยียด ฟังบ่อย ฟังจนชิน และไม่รู้สาอีกแล้ว “แต่ข้าไม่รู้นะว่าใครกันแน่ที่โง่ ให้หญิงแพศยาพวกนั้นหลอกใช้อยู่นั่นแหละ”


    อายาเมะกะพริบตาปริบๆ ไม่คิดว่าเจ้านายคุณหนูของหล่อนจะใช้คำๆ นี้เป็นด้วย


    “เป็นพ่อค้าซะเปล่า มารยาหญิงง่ายๆ ยังดูไม่ออก เหอะ”


    “นายท่าน..”


    “เจ้าก็น่าจะรู้เหมือนที่ข้ารู้ สาวใช้หน้าตาดีๆ หลายคนยุ่งเกี่ยวกับพ่อข้าหมดแหละ อีกพวกก็หวังชูคอเป็นแม่เลี้ยงข้า คิดหรือว่าฐานะอย่างพวกนาง พ่อข้าจะยกย่อง แต่ก็พอมีบารมีคุ้มหัวแหละนะ ใครทำอะไรไม่ถูกใจ ใส่ร้ายนิดหน่อยก็ถูกให้ออกแล้ว ไม่ต้องถามไถ่เลยสักนิด ข้าจะบอกให้ฟัง..” ฟาดิเนียหันมาจิ้มอกผู้พิทักษ์ตน “อะไรจะร้ายเท่าความริษยาของผู้หญิง และความอิจฉาของผู้ชาย ไม่มี!”








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×