ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คาลิโดร่า..สาวงามแห่งเคลาคัส

    ลำดับตอนที่ #21 : หัวใจที่ทรยศสมอง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 763
      0
      27 มิ.ย. 52

     
     

    “ข้าเดาว่าโทษทัณฑ์ของเจ้าหญิงคงจะเจ็บปวดกว่าเป็นแน่” นาธานเนลเอ่ยยิ้มๆ คาลิโดร่าจึงเชิดหน้าขึ้นเมื่อคิดถึงตอนที่นางทำโทษเด็กหนุ่มและเขาก็ร้องเสียงหลงทันที


    “แน่นอน เจ้าต้องไม่นึกอยากจะสัมผัสมันแน่”


    “ดูเหมือนราชองค์คนนี้จะผูกพันกับพระองค์มาก ตั้งแต่เด็ก..”


    “ใช่ ก็ข้ามีเขาเป็นเพื่อนคนเดียวนิ เป็นเพื่อน เป็นคนปกป้องข้ามาโดยตลอด”


    “และเป็นคนที่เจ้าหญิงรัก..”


    คาลิโดร่าตวัดฉับจ้องที่ชายหนุ่มทันที ใบหน้าไม่รู้ด้วยความร้อนจากเปลวไฟหรือไรที่ทำให้แดงระเรื่ออย่างน่าอายนัก


    “เจ้า!”


    “สีหน้าพระองค์ดูมีความสุขขนาดนั้น ข้าจะไม่รู้ได้เช่นไร หลายปีที่ผ่านเสียงร่ำลือเรื่องของทาร์เธเมสก็โด่งดังไม่แพ้พระองค์ ด้วยว่าเป็นแม่ทัพที่มีความสามารถ คนแบบนี้กษัตริย์แห่งเคลาคัสที่ดูรักพระองค์ขนาดนั้นไม่น่าจะกีดกัน แล้วทำไมถึงไม่ได้แต่งงานกัน”


    คำพูดของเขาเหมือนจี้ถ่านร้อนๆ เข้าไปกลางใจของเจ้าหญิงให้ร้าวราน จะแต่ง.. จะให้แต่งได้เช่นไร ขนาดแค่จะรักยังแทบไม่กล้า ก็ในเมื่อ..


    “ข้าไม่มีทางแต่งงานกับเขาได้” สุรเสียงที่เจ็บปวดของเจ้าหญิงทำให้นาธานเนลมองข้ามกองไฟ เจ้าหญิงของเขากอดตัวเองแน่น


    “ทำไม ฐานะเขาแม้มาจากทาส แต่ทุกวันนี้ก็มีตำแหน่งสูงใหญ่ และเท่าที่ข้าเห็น องค์ราชาดูเหมือนจะตามพระทัยพระองค์ทุกอย่าง ไม่น่าจะมีปัญหา”


    “ใช่ ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้น มันอยู่ที่ทาร์เธเมสไม่เคยรักข้าแบบนั้นเลยต่างหาก!” สิ้นคำพูดที่เอ่ยยอมรับ น้ำตาก็พานจะไหล หลายปีที่ผ่าน นางหลงรักผู้ชายคนนั้นตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ หากเมื่อรู้ใจของตนเองแล้ว ก็ปรารถนาจะให้เขารักตอบ แต่ไม่เลย ไม่ว่าจะทำดีด้วยเพียงใด เขาก็ไม่เคยมองนางไปน้อยกว่านายกับบ่าว เหนือหัวกับทาส


    นึกๆ แล้วก็อยากจะหัวร่อทั้งน้ำตา กวีมากมายเดินทางไปทั่ว ขับขานเยินยอสาวงามแห่งเคลาคัส เรื่องเล่าที่กลับสู่วังว่าพระองค์เป็นอิสตรีผู้เลอโฉมที่ไม่ปรารถนาผู้ชาย แต่เปล่าเลย ผู้ชายคนนั้นต่างหากที่ไม่ต้องการพระองค์ จึงใช้คำเล่าของเหล่ากวีมาเสริมให้ตนเองเข้มแข็งว่าไม่ต้องการผู้ใด เพื่อให้สามารถยืนหยัดได้เพียงลำพัง


    “พระองค์เคยบอกรักเขาแล้ว?” ชายหนุ่มยังคงถามต่อ


    “ไม่เคย” แค่รักเขา..คนที่ไม่มีใจให้ นางก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แล้วจะให้บอกรักได้เช่นไร “ถึงไม่บอกข้าก็รู้ใจเขา”


    “ไม่แน่ สิ่งที่หัวใจมีกับสิ่งที่แสดงออกหลายครั้งมันตรงกันข้าม พระองค์ไม่มีทางรู้ความในใจของผู้ชายคนหนึ่งได้ชัดเจนถ้าไม่เอ่ยถาม แต่ถึงเขาไม่รัก ถ้าพระองค์ปรารถนา มีหรือจะจับผู้ชายคนหนึ่งไม่อยู่”


    นาธานเนลยังคงพูดต่อโดยไม่ทันรู้สึกถึงอารมณ์ที่จวนเจียนจะหมดลงของคนตรงข้ามกองไฟ คาลิโดร่าขว้างก้อนหินไปเฉียดชายหนุ่มเป็นคำเตือนให้เขาหยุดพูด อะไรบางอย่างในหัวใจเหมือนขาดสะบั้น ถ้อยคำจึงหลุดออกมาพร้อมโทสะและความปวดร้าว
     

     
    “จะให้ข้าไปจับผู้ชายที่มีภรรยาอยู่แล้วหรือไง!!” 


     
    เสียงรอบด้านในถ้ำเล็กๆ ดูจะกังวานเข้าโสตประสาทของชายหนุ่ม


    “องครักษ์ของพระองค์มีภรรยาแล้ว?” คนถามเหมือนไม่เชื่อ


    “ใช่ เขามีมาเป็นปีแล้ว หึ รู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่รักข้า แค่เห็นเขามองผู้หญิงคนนั้นก็รู้แล้วว่าหัวใจของเขาอยู่ที่ใด แล้วจะให้ข้าลดตัวไปแย่งสามีกับคนอื่นหรือไงกัน บ้าที่สุด” 


    ที่บ้าน่าจะเป็นนางเองมากกว่า คาลิโดร่าด่าตัวเองหลายครั้ง วันที่เขากลับมาพร้อมผู้หญิงคนนั้น คนที่เขาว่าไปพบระหว่างทางที่ตามหาครอบครัว ถ้า..นางไม่ปล่อยเขาไป ถ้านางไม่ยอมให้เขาไปตามหาครอบครัว เขาจะเจอผู้หญิงคนนั้นหรือไม่ เจอผู้หญิงที่เข้ามาแย่งชิงหัวใจทั้งดวงของนางไป


    “รู้ไหม ข้าทำกุญแจบ้าๆ นั่นเพราะประชดเขา แต่เขาไม่เคยรู้เลย ข้าทำกุญแจในวันที่พวกเขาแต่งงานกัน! ข้าอยากบอกให้เขารู้ว่าข้าไม่ต้องการแต่งงานกับใครที่ไม่ใช่เขา แต่ไม่เลย เขาไม่เคยรับรู้เลยสักนิด”


    “เจ้าหญิง..”


    “หึ เจ้าหญิงคาลิโดร่าเป็นที่หมายปองจากชายทั่วหล้า พระองค์เป็นสตรีผู้มากด้วยสิริโฉมที่เกลียดบุรุษ แต่ไม่เลย.. ไม่มีใครรู้ คาลิโดร่าคนนั้นแพ้ตั้งแต่ยังไม่ลงสนามประลอง!” น้ำตาไหลซึมช้าๆ


    สิ่งที่ยิ่งทำให้ปวดร้าว คือความจริงที่ว่า เขาเทิดทูนพระองค์ แต่เขารักนาง รักผู้หญิงบ้านๆ ที่ไม่มีอะไรดีไปกว่าพระองค์ ความหยิ่งผยองที่เคยมีถูกทำลายยับ เจ้าหญิงสูงศักดิ์สู้อะไรกับหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งไม่ได้
     

    “เจ้าไม่รู้หรอกว่าที่ผ่านมาข้าอดทนแค่ไหน พยายามแค่ไหนที่จะลบเขาออกจากหัวใจ ข้าอยากลืมเขา! อยากลืมว่าตนเองไปรักผู้ชายของคนอื่น ข้าไม่อยากเป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจ ไม่อยากลดตัวไปแก่งแย่งผู้ชายกับใคร ยิ่งผู้ชายคนนั้นไม่ได้รักข้าเลยสักนิด..”


    “คาลิโดร่า..” เสียงของชายหนุ่มกระซิบอยู่ข้างหู อาจเพราะนางโกรธจนหูตาแทบจะปิดกั้นทุกสิ่ง ไม่รู้ว่าเขาเข้ามาประชิดตั้งแต่เมื่อไร รู้เพียงมีแขนคู่หนึ่งโอบรัดเข้าหา มีแผ่นอกที่รองรับน้ำตา และที่ริมฝีปากร้อนผะผ่าวประทับที่หน้าผาก “ข้าผิดเองที่รื้อฟื้นเรื่องราวที่พระองค์ไม่อยากจะพูดถึง ไม่เป็นไร ไม่มีใครกล้าว่าอะไรพระองค์ได้ พระองค์ไม่ได้แย่งผู้ชายของใครทั้งนั้น ข้าเป็นผู้ชายของพระองค์แล้วโดยสมบูรณ์ คาลิร์..”


    เสียงของเขาเป็นจังหวะนุ่มนวลเหมือนจะเห่กล่อม คาลิโดร่ากำชายเสื้อของชายหนุ่มไว้แน่นดุจจะยึดเป็นที่พักพิง วูบหนึ่งที่หัวใจทรยศสมอง อยากได้ไออุ่นนี้เก็บไว้ตลอดไป เก็บไว้เป็นของนางผู้เดียวเท่านั้น ผู้ชายที่เป็นของนาง ไม่ต้องแก่งแย่งกับใครและไม่ต้องแบ่งปันให้หญิงใด


    ผู้ชายที่พระเจ้าประทานมาให้นาง 



     
     
    ‘โอ๊ยๆๆ ๆ’ เสียงร้องดังขึ้นจากห้องบรรทมของเจ้าหญิงคาลิโดร่า นางรับใช้ที่ทำงานอยู่ใกล้ๆ ต่างสะดุ้งไปตามๆ กัน เมื่อครู่ที่เจ้าหญิงพาทาสเด็กร่างกายสะบักสะบอมเข้าไปข้างใน ปิดประตูแน่น แล้วเสียงร้องนี้ก็ตามออกมา ทำให้นางรับใช้ทั้งหลายไม่อยากจะคิดเลยว่าเจ้าหญิงทำโทษเช่นไรกับทาสคนนั้น


    ‘อย่าร้องสิ!’ คนทำโทษเอ่ยดุ


    ‘ก็อย่าทำสิ’ เสียงเด็กหนุ่มตอบกลับทันควัน แล้วก็ต้องร้องอีกครั้ง เมื่อมือเล็กไม่ปรานีปราสัย ‘นี่ จะทำก็เบาๆ หน่อย’ ทาร์เธเมสทนไม่ไหวอยากจะสะบัดแขนออกแต่ก็ไม่กล้า


    ‘ก็ข้าไม่เคยทำนี่น่า’ คาลิโดร่าเอ่ยยอมรับ แต่มือเล็กๆ ก็ยังคงใส่ยาตามร่างกายเด็กหนุ่มต่อไป มีเสียงร้องเป็นระยะเมื่อมือเล็กแต้มยาบางจุดแรงเกินไป ทาร์เธเมสรู้แล้วว่าแม้เขาจะชินกับการถูกชกต่อย แต่ไม่มีทางชินกับการใส่ยาของคนมือหนักแน่ๆ 


    ไม่รู้เลย.. อนาคต เขาจะต้องทำใจชินกับมันอย่างจำยอมที่สุดด้วยหัวใจ


    ‘เกิดเรื่องแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว’ คาลิโดร่าพันผ้าที่แขนให้อย่างที่เด็กหนุ่มคิดในใจว่าเมื่อเสร็จจากตรงนี้เขาจะไปพันใหม่เอง


    ‘เรื่องปกติ ไม่มีใครไม่โดนกันหรอก คนโดนหนักกว่าข้าก็มี’


    ‘หึ เรื่องปกติอะไรล่ะ ข้าไม่ชอบเลยที่ในวังของข้าเองมีเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ล่ะ ข้าจะต้องจัดการ ไม่สมควรมีใครโดนกระทำแบบนั้นหรอกนะ’


    ทาร์เธเมสนิ่งเงียบเพราะรู้ว่าเป็นทางออกที่ดี ไม่ใช่แค่เขาจะสบาย ทาสอีกหลายคนที่โดนเล่นงานก็จะสบายไปด้วย แบบนี้แล้วจะให้คัดค้านทำไมล่ะ


    ‘โอ๊ย! พอได้แล้วน่า’ เด็กหนุ่มชักทนไม่ไหว เขาอาจจะเจ็บหนักกว่าตอนเข้ามาก็เป็นได้ ‘พอแล้วๆ กระหม่อมไม่เป็นอะไรแล้ว’


    ‘แน่นะ’


    ‘อือ’ เด็กชายกลัวเจ็บจนลืมเรื่องถ้อยคำสุภาพที่ถูกสอนมาเวลาพูดกับเจ้าหญิงสิ้น


    ‘ต่อไปเวลามีปัญหาอะไรเจ้าต้องบอกข้านะ’


    ร่างผอมสูงนิ่งคิด เรื่องอะไรจะบอก มันเหมือนเขาเป็นเด็กขี้ฟ้องน่ะสิ พวกนั้นคงหัวเราะเยาะตายเลย


    ‘สัญญามา’ คาลิโดร่าคาดคั้นเมื่อเห็นคนตัวโตกว่ายังคงนั่งนิ่ง


    ‘สัญญาว่าถ้าต่อไปมีปัญหาอะไรแก้ไขไม่ได้ จะบอกนะ’ ทาร์เธเมสเอ่ยใช้ลูกเล่นของถ้อยคำเป็นครั้งแรก เพราะเคยได้ยินมาว่าใครโกหกต่อหน้าเชื้อพระวงศ์จะถูกตัดหัว


    ‘ดี ถูกแกล้งก็บอก ข้าจะปกป้องเจ้าเอง..’



     
    “ฮ่าๆๆ เจ้าหญิงทรงพูดแบบนั้นหรือ” เสียงหนึ่งขัดจังหวะการเล่า


    “ใช่ เพราะคำพูดนั้นแหละที่ทำให้หลังจากนั้นข้าต้องแอบไปเรียนต่อสู้ ให้ผู้หญิงมาปกป้อง อายขายหน้าเขาแย่” ทาร์เธเมสเอ่ย ในตอนแรกเขาต้องซ่อนตัวเพื่อดูการฝึกซ้อมของทหาร ทำได้หลายวันก็ถูกจับได้ จนต้องไปขอเรียนด้วย โชคดีที่ครูเห็นแววในตัวเขาจึงยอมรับให้เขาคอยช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ แลกกับการได้รู้อะไรอีกมากมาย


    รีอาหัวเราะจนน้ำตาจะไหล เรื่องเล่าวัยเด็กของเขาทำให้นางยิ้มได้เสมอ หญิงสาวสวมกอดชายหนุ่มข้างกายในกระท่อมหลังน้อยที่มีเพียงแสงตะเกียงกลางค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาว


    “ฮ่าๆ ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าหญิงจะมือหนักเหมือนข้าเลย”


    ทาร์เธเมสนิ่วหน้า เมื่อคิดได้ว่าผู้หญิงทั้งสองทำให้เขาเจ็บตัวเพราะการใส่ยามาแล้ว


    “แน่นอนสิ ใส่ยาทีเหมือนจะฆ่ากันอย่างนั้นแหละ โชคดีตอนหลังถ้าได้แผลข้าก็จะหลบๆเจ้าหญิงไปสักพัก แต่โชคร้ายที่ข้ามาเจอเจ้าอีกคน” ชายหนุ่มโอบบ่าภรรยาแล้วจูบหนักๆ ที่แก้มเปล่งปลั่ง


    “แล้วตอนนี้ในวังไม่มีใครสงสัยเลยหรือคะ ที่เจ้าหญิงทรงเก็บองค์อยู่แต่ในวิหารนานขนาดนั้น”


    “ไม่หรอก บางคนคิดเอาเองว่าเจ้าหญิงมีแผนสำหรับสงครามด้วยซ้ำ ได้เจ้าหญิงกลีเคอเรียคอยตอบคำถามทุกอย่างให้ เรื่องเลยไม่มีปัญหา ที่น่าเป็นห่วงก็คือเจ้าหญิงไปรอมแรมกลางป่าแบบนั้น..” ยิ่งคิด คิ้วเข้มก็ยิ่งขมวดมากขึ้นอย่างไม่เห็นชอบ รีอายืดตัว แตะนิ้วที่หัวคิ้วของชายหนุ่มให้คลายลง


    “คิดมากอีกแล้ว เจ้าหญิงทรงเก่งกาจ ใครจะทำอันตรายพระองค์ได้ ไหนท่านบอกว่าส่งคนสนิทตามไปดูแลแล้วไงคะ ดูสิ เหมือนพี่ชายที่หวงน้องสาวเกินเหตุเลย”


    “จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง พระองค์ปลอมตัวไปลำบากนะ ยิ่งก่อนหน้านี้เห็นพระองค์ไม่ค่อยสบายใจอยู่ด้วย”


    “คิดมากไปก็ป่วยการ ท่านน่าจะรบเร้าพระองค์ขอตามไปให้ได้ตั้งแต่แรก ตอนนี้สงครามอยู่ข้างหน้าแล้วนะคะ จะหนีทัพหรือไง”


    ทาร์เธเมสถอนหายใจ เมื่อรู้ว่าห่วงไปก็ช่วยอะไรไม่ได้


    “นี่ข้าก็จะมาลาเจ้าสักสองสามอาทิตย์ ใกล้เวลาเดินทัพแล้ว ไม่ต้องไปหาที่เรือนพักแล้วอ้างว่ามีธุระสำคัญอีกนะ”


    “แหม” รีอาแกล้งส่งเสียงโอดครวญ “ก็ธุระสำคัญจริงๆนี่ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ข้าเอาอาหารไปให้ท่าน ก็เหมือนเอากองทัพไปให้ จริงไหมคะ”


    ทาร์เธเมสทำตาดุใส่ อาจใช้ได้กับทหารใต้บังคับบัญชาทุกหมู่นาย แต่ไม่ใช่กับสาวข้างกายที่รู้ดีว่าภายสายตาดุๆคู่นี้แล้วมีแต่ความจริงใจให้ หล่อนโอบแขนกอดเขาไว้แน่น


    “เจ้าอยู่ที่นี่ก็ระวังตัวด้วย


    “ไม่ต้องห่วงค่ะ” รีอายิ้มให้กำลังใจเพราะรู้ดีว่าเขาห่วงนางมากไม่แพ้กัน “ข้าเป็นภรรยาแม่ทัพ เอาตัวรอดอย่างที่ท่านสอนได้แน่”

     
    ...........................................

     












    == = = == = == == = = = ==  = == = = = = = = = = ==  = = = = = =


    ปล. ลืมบอกไปว่า เดี๋ยวต่อไป ชื่อ ซิลลา จะเปลี่ยนชื่อนะคะ
    เพราะว่าเท่าที่ดูในตำนานกรีก ส่วนใหญ่ชื่อซิลลาจะเป็นผู้หญิง
    เลยคิดว่าชื่อนี้คงเป็นชื่อของผู้หญิงมากกว่า จึงต้องเปลี่ยนชื่อ

    แต่ยังคิดไม่ออก ใช้ชื่อเดิมไปก่อน
    ใครมีชื่อกรีกเพราะแนะนำมาได้นะคะ ^___^


    ปล.2  เดี๋ยวก่อนวันที่ 2 อาชูร่าอาจจะอัพอีกรอบ
    หลังจากนั้น คงไม่ค่อยได้อัพล่ะ เพราะไปสิงคโปร์
    เรียนภาษาอังกฤษ เลยคิดว่าตัวเองคงไม่ค่อยมีเวลาเท่าไร
    แต่ก็จะพยายามแต่งเรื่อยๆนะคะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×