คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : - -เสียงจากสรวงสวรรค์- -
“ มายา ช่วยยกถังน้ำหน่อย! ” เสียงตะโกนดังมาจากข้างหลังของเธอ มนต์สะกดถูกถอนออกทันใด หญิงสาวหันไปด้านหลัง
เมย์ก้มหน้ามองถังน้ำทั้งสองมือที่เธอประคับประคองไม่ให้น้ำกระจายนัก จนไม่ทันดูว่ามาขัดสถานการณ์ที่ไม่สมควรขัดที่สุด
“ ฉันช่วยนะจ๊ะ ” มายารีบเข้าไปหา คาอิลถอนหายใจ ตัวเล็กแล้วยังจะช่วยอีก งานใช้แรงไม่ใช่ของที่หล่อนสมควรแตะต้องเลยสักนิด เขารู้สึกคิดผิดที่หางานเหมาะกับสาวน้อยไม่ได้ แต่เขาก็รู้ดีว่า ไม่ควรให้มายานั่งนอนอยู่เฉยๆนานนัก เพราะข้อครหาจะตามมาเป็นกระพรวน ถ้าเป็นแขกธรรมดาก็สามารถพักอาศัยได้สักระยะ แต่นางไม่ใช่แขก และยิ่งไม่ใช่ผู้หญิงของเขา
สาวงามในคราบคนใช้คงจะช่วยให้นางปลอดภัยจากเสียงปากคนได้
“ นาย! ” สาวใช้ที่มาขัดสถานการณ์บางอย่างอุทาน เมื่อเห็นร่างสูงยืนอยู่ “ ต้องการอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ? ” เธอละล่ำละลักถาม
“ เปล่า แค่..ออกมาเดินเล่นหน่อย รีบทำเข้าล่ะ เมย์ ” ชายหนุ่มทัก แล้วหันหลังจากไป หญิงสาวมองตามด้วยความปลื้มใจ เจ้านายจำชื่อคนรับใช้ได้ทั้งหมด แม้ว่าจะมากแค่ไหนก็ตาม คราวแรกที่เธอมาทำงาน นายใจดี อ่อนโยน แต่ก็เข้มงวดในบางคราว โดยเฉพาะสิ่งที่ต้องการต้องได้เดี๋ยวนั้น หากเรื่องอื่น นายดีทุกอย่าง
“ ฉันยังกวาดไม่เสร็จเลย ” มายาบอกด้วยความรู้สึกผิด เมย์หันมายิ้มให้อย่างอารมณ์ดี
“ ไม่เป็นไร วันนี้ฉันช่วยเอง ”
คราวนี้เธอกินข้าวได้มากกว่าเมื่อวาน เมื่อผ่านการใช้แรงอย่างหนัก แต่ก็ยังน้อยกว่าทุกคนแม้กระทั้งเมย์ซึ่งขนาดตัวพอๆกัน มายาตักน้ำกินอีกครั้ง วันนี้คนงานบางตาจนเด็กสาวอดถามไม่ได้
“ ทำไมตอนเช้าคนน้อยจัง ”
“ อ้อ ” เมย์กลืนผักลงไป “ ช่วงนี้ มีเรื่องไม่ค่อยดีนอกเมืองน่ะ นายเลยส่งคนไปดู ที่หายไปเยอะก็ผู้ชายทั้งนั้น เห็นนายว่าจะ- - ”
“ ส่งไปฝึกจ๊ะ ” อีกเสียงตอบกลับให้ มายามองตามเสียง ผู้หญิงรูปร่างใหญ่คนหนึ่งเดินเข้ามาเลื่อนเก้าอี้ ในมือมีถาดข้าวเหมือนที่มายากับเมย์กำลังทานอยู่
ลูนิช ทรุดนั่งข้างเมย์ แล้วอธิบายให้มายาฟัง อวดว่าตนเองรู้มากกว่าใคร
“ นายฝึกพวกนั้นให้เป็นทหาร เพราะตอนนี้ทหารเริ่มไม่ค่อยพอ พวกผู้ชายเลยกลายเป็นทหารจำเป็นชั่วคราว ตอนบ่ายก็กลับมาทำงานเหมือนเดิมเอง ”
มายาขยับตัว เธออยากจะถามว่า นอกเมืองเกิดอะไรขึ้น แต่แล้วก็ไม่กล้า
“ เมื่อเช้าทำไมออกสายจัง ฉันกับมายาทำไปตั้งเยอะแล้วเพิ่งมา ” เมย์พูดกับหญิงที่มาใหม่ ดูมีอายุมากกว่าพวกเธอไม่มาก ทำงานด้านความสะอาดเรือนใหญ่ด้วยกัน
“ ก็- - ” ลูนิชยิ้มกริ่ม “ เมื่อคืนหนักไปหน่อย ซากัสน่ะซี แรงเหลือเฟือ จนทำเอาฉันตื่นเช้าไม่ไหวเลย เนี่ยขายังสั่นอยู่เลย ”
มายาขมวดคิ้ว ประโยคสนทนาแปลกๆที่เธอไม่ค่อยเข้าใจ ทำไมเมย์ถึงหน้าแดงขึ้นมาได้?
“ เอาเถอะ เมื่อกี้เราทำความสะอาดด้านนอกเรือนแล้ว ต่อไปจะเป็นข้างใน ” เมย์หันมาพูดกับมายาแทน หญิงสาวครางในใจอย่างท้อแท้
นอกเรือน! เรือนใหญ่กว้างถึงเพียงนั้นเชียวหรือ หญิงสาวนึกถึงความยาวสุดลูกหูลูกตาของระเบียงนอกเรือนที่เธอใช้เวลาจมปลักกับมันไปเกือบหมดแรง ให้ตายสิ นี่ยังเหลือตัวห้องอีกกี่สิบห้องเนี่ย!
“ ดูหน้าแม่สาวสวยของเราสิ ” ลูนิชใช้นิ้วสองนิ้วจิ้มที่หน้าผากเด็กสาว “ ทำบ่อยๆก็ชินไปเอง ไม่มีอะไรยุ่งยากสักนิด งานส่วนนี้สบายที่สุดแล้วนะ ถ้าไม่อยากไปส่วนซักผ้าก็ตั้งใจหน่อย หรือทำความสะอาดเรือนอื่นก็ยุ่งยากกว่านี้อีก คนงานเรือนอื่นน้อยกว่านี้อีก กว่าจะเสร็จนานจะตาย ”
“ งั้นมาสลับกับฉันไหม? ”
มายาเงยหน้าขึ้นมองทันที เธอจำเสียงแหลมนี้ได้ เป็นเสียงเดียวกับที่เมื่อวานเริ่มถามเรื่องเธอคนแรก หญิงสาวผิวคล้ำเดินมานั่งข้างมายาซึ่งยังเหลือว่างอยู่ สายตามองเธออย่างพิจารณา
“ ของเธอสบายสิยะ ฉันต้องต้องหลังคดหลังแข็งคอยตัดดอกไม้ประดับแจกัน ” ผู้มาใหม่บ่นพลางทำมือไม้ประกอบ “ นี่ เยมี เธอทำอย่างนั้นไม่ได้ เดี๋ยวกลีบช้ำหมด เยมี! ดอกไม้สวยกว่านี้ไม่มีเหรอยะ เหี่ยวตายไปทั้งสวนแล้วหรือไง! ”
“ ฮ่าๆ แม่สาวคาเรียทำเสียงอย่างนั้นเชียว ” ลูนิชหัวเราะกับท่าทางที่หญิงผิวคล้ำทำให้ดู มายายิ้มพลางคิดว่าต้องเหมือนจริงแน่นอน
“ แหงสิยะ เอาแต่ใจจะตาย ถ้าไม่สาวไม่สวยล่ะก็ นายไม่มีวันชายตาเด็ดขาด ” เยมีพูดอย่างหมดความอดทน แล้วยักไหล่ หล่อนรีบเคี้ยวข้าวอย่างรวดเร็ว เหมือนอดอาหารมานาน “ ฉันล่ะเบื่องานช่วงเช้าที่สุดเลย สายหน่อยค่อยยังชั่ว ไปรวมกับพวกซักผ้า
“ ยี๊..โดนแดดเผาขนาดนั้น ฉันไม่เอาด้วยหรอก ” ลูนีชเบะปาก
“ ดีนะ ได้จับกลุ่มคุยกับสนุกดีออก สบายใจดีด้วย ว่าไงแม่สาวสวย สนใจจะอยู่เวรซักผ้ากับฉันมั้ย ” เยมีหันมาพูดกับมายาอย่างเป็นมิตร
“ อย่าเลย งานบนเรือนใหญ่ดีที่สุดแล้ว ใช่ไหม เมย์? ” ลูนีชหันไปหาพวก เมย์พยักหน้ารับ
เมื่อพวกเธอทานอาหารเสร็จ โรงอาหารก็เริ่มมีคนแน่นขึ้น มายาไม่ชอบอยู่ในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน และทุกสายตาก็ยังให้ความสนใจเธออยู่ จึงได้รีบเดินตามเมย์และลูนีชออกไป
งานช่วงสายก็เหมือนกับช่วงเช้า เมย์เปิดห้องพักห้องหนึ่งให้มายาทำ เธออธิบายตามมุมต่างๆ โต๊ะไม้ที่ควรได้รับความสนใจ เตียงที่ไม่ได้ใช้งานก็ต้องดูแลให้เรียบร้อย
“ นี่เป็นห้องเวลานายมีแขกมาพักด้วย ต้องดูแลอย่างดีไม่ให้เสียชื่อนายได้ ” เมย์ยื่นไม้กวาดอันเดิมให้มายา แล้วทิ้งเธออยู่กับมันอีกครั้ง
หญิงสาวเริ่มจากใต้เตียงก่อน เนื่องจากการทำความสะอาดทุกวันทำให้ไม่ค่อยมีฝุ่นละอองมากนัก เธอทำความสะอาดพิถีพิถัน เช็ดถูตามกรอบรูปสลัก ผ้าปูเตียงสะอาดและเรียบตึงอยู่แล้วทำให้มายาไม่กล้าเข้าแตะด้วยกลัวจะทำให้เกิดรอยย่น เธออัมเพลงเบาๆ แล้วสะดุดกึก มือบางแตะริมฝีปาก
เพลงที่เธอคุ้นหู ..ออกมาเองเป็นธรรมชาติ ท่วงทำนองที่เธอเหมือนเคยได้ยินเป็นประจำ ราวเสียงของสวรรค์คลอไล่ไปตามจังหวะ
“ ใครอยู่ในนั้นน่ะ ทำเสร็จหรือยัง ” ผู้เป็นที่ยำเกรงของแคว้นชะโงกหน้าเข้ามา “ ถ้าเสร็จแล้ว ไปเอา.. อ้อ มายา? เจ้าเองรึ ”
“ ค่ะ นาย มีอะไรหรือเจ้าคะ? ”
“ ไม่ต้องหรอก เจ้ายังไม่รู้จักที่ ทำตรงนี้ให้เสร็จก็แล้วกัน ” คาอิลโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ สีหน้าแปลกของหญิงสาวกระตุ้นให้เขาหยุดชะงักก่อนหันหลังกลับ “ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า? ”
“ เอ่อ..นาย เรา.. ดิฉันไม่แน่ใจนัก - -แต่มันอาจจะมีประโยชน์ก็ได้ ”
“ เรื่องอะไร ” ชายหนุ่มก้าวเข้ามาในห้องเต็มตัว ใบหน้าเปื้อนฝุ่น และเส้นผมไม่เป็นทรง หลุดรุ่ยจากการรวบเสริมให้เขาอยากทำอะไรมากกว่ายืนจ้องเจ้าหล่อนแบบนี้
อย่างเช่นไล้มือเข้าไปไซ้เรือนผม กระตุกให้เธอเงยหน้ารับจุมพิตของเขา
“ คือ..ดิฉันพอจะจำอะไรขึ้นมาได้นิดหน่อย ”
“ อะไรล่ะ ” คาอิลยิ้ม หวังว่าเธอพอจะจำชื่อได้ แต่- - อยากให้จำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น ถึงเขาจะปรารถนาดีอยากให้เธอพบกับครอบครัวเพียงไร ก็ไม่ต้องการให้เธอจากไปเร็วนัก
“ เพลงน่ะค่ะ ”
“ เพลง? ” ชายหนุ่มทวนคำอย่างงุนงง
“ ค่ะ มันเป็นแบบนี้.. ” มายาครวญท่วงทำนองแปลกๆออกมาครู่หนึ่ง เสียงกังวานใสราวกังสดาลก้องไปทั่วห้อง ชายหนุ่มรีบเข้ามาจับไหล่เธอไว้
“ หยุดก่อนซิ! ” หญิงสาวหยุดทันที “ เจ้าแน่ใจว่าเคยได้ยินเพลงนี้ ไม่ได้แต่งเองตามอารมณ์นะ ”
“ ค่ะ ก็นอกจากนั้นยังมีเครื่องดนตรีอื่นแทรกด้วย ” เธอว่าความตามเสียงในหัว
“ งั้นเจ้าตามข้ามานี่ ” คาอิลจับข้อมือสาวน้อยของเขาแล้วพาลากจากห้อง ปะกับเมย์ที่จะมาดูผลงานมายา “ เมย์ เจ้ามาก็ดีแล้ว ให้ใครไปตามหมอมาเร็ว พบที่ห้องข้านะ แล้วเจ้าก็ทำแทนมายาไป บ่ายนี้เธอจะไม่ทำงาน ”
“ เจ้าค่ะ ” เมย์รับคำอย่างรวดเร็ว เก็บข้อสงสัยทุกอย่างไว้
“ นี่คือพิณ เล่นได้ไหม? ” ชายหนุ่มสั่งเด็กรับใช้ให้หยิบพิณตัวโปรดของเขามา หลังจากที่สาวน้อยส่ายหน้าว่าจำเครื่องดนตรีที่มีเสียงอยู่ในหัวไม่ได้
มายาลูบคลำไปตามสายของมัน เธอไม่มีความรู้สึกคุ้นเคย หรือเคยเห็น แต่เธอคิดว่าสามารถเล่นมันได้ เธอต้องเคยเล่นอะไรบางอย่างคล้ายพิณมาก่อน
“ หยาบไปหน่อย แต่น่าจะใช้ได้ค่ะ ”
“ หยาบ! ” ชายหนุ่มกระชากเสียง “ นี่เป็นพิณตัวที่ดีที่สุดที่ผู้ทำจะสร้างมันขึ้นมาได้แล้ว ไม่มีเครื่องดนตรีตัวไหนในแคว้นข้าจะเสียงดีไปกว่าพิณหยาบที่เจ้าว่าอีกแล้ว ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างไม่พอใจ เมื่อสิ่งที่เขาเคยภาคภูมิใจทั้งหมด ถูกลบหลู่ขนาดนั้น
“ อาจจะใช่ค่ะ ” มายาคิดว่าเธอไม่น่าพลั้งปากพูดอะไรแบบนั้นเลย แต่เธอมีความรู้สึกว่า เสียงของมันยังไม่ดีเท่าเสียงในจินตนาการของเธอ ครึ่งหนึ่งยังไม่ถึงด้วยซ้ำ
“ แม่หญิง เจ้าเมืองเป็นผู้มีอารมณ์สุนทรีที่สุด ของที่เกี่ยวกับศิลปะทุกชิ้นราคาค่างวดแพงเสมอ ที่เจ้าบอกว่ามีเพลงซึ่งขนาดเจ้าเมืองยังไม่รู้จัก กระผมว่ามันแปลกๆอยู่น้า ”
“ ไม่แน่ นางอาจเป็นคนจากต่างเมือง ไม่ใช่ในเมืองนี้ก็ได้ ถึงได้ดู- - ไม่เหมือนคนอื่น ” ชายหนุ่มสงบสติก่อนตอบ
“ อืม นั่นสิขอรับ น่าจะเป็นคนจากเมืองอื่นมากกว่า คนของเราก็ออกจะกว้างขวาง ถ้าเป็นลูกเมืองของท่านก็น่าจะมีคนรู้จักบ้าง เราขยายการตามหาไปตามหัวเมืองต่างๆดีไหมขอรับ ติดรูปประกาศให้ทั่ว ”
มายาอ้าปากจะค้าน แต่เธอก็หุบอีก บางครั้งเธอก็รู้สึกว่าตัวเองช่างอ่อนแอเหรอเกิน ขลาดเกินกว่าจะเถียงอะไรสักคำ
“ เจ้ามีอะไรจะพูด ” คาอิลสังเกตท่าทางของหล่อน
“ ก็..ดิฉันขอร้องว่าอย่าติดประกาศได้ไหมค่ะ ”
“ เหตุผล? ”
“ คือดิฉันอาจจะจำคนที่มาหาไม่ได้ แล้วเขาจะมาดีมาร้าย ..ดิฉัน-- ”
“ นั่นสิ ท่านเจ้าเมือง คนที่มารับนางไปอาจมีจุดประสงค์ไม่ดีก็ได้ ยิ่งส่วนใหญ่รู้ว่านางความจำเสื่อมด้วยแล้ว เราไม่ควรปล่อยนางไปกับใครง่าย ”
“ ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ข้ามีวิธีสืบ เราจะเขียนรูปเหมือนติดประกาศไปตามหัวเมืองต่างๆ ผู้คนที่จะมารับเจ้าไปข้าจะสืบสวนก่อนแน่นอนอยู่แล้ว ใครกล้าสวมรอย ต้องรับโทษหนัก ถ้าเราไม่ทำเช่นนี้ เจ้าจะไม่มีโอกาสกลับบ้านะจ๊ะ ” ชายหนุ่มยอมเสียงอ่อนลงเมื่อพูดกับสาวน้อย มายาพยักหน้ารับ หากดวงใจประหวั่นถึงคนที่เข้ามาแสดงตัว “ จะลองเล่นได้หรือยัง ท่านหมอลองฟังพร้อมกับเลยนะ ”
“ ขอรับ ”
มายาไล่นิ้วมือเรียวของหล่อนไปตามเส้นเอ็นแข็งๆของเครื่องสาย เล็บดีดเสียงขึ้นเป็นทำนองประหลาด ริมฝีปากเธอขยับตามดนตรีคลอกล่อมกังวาน สีหน้าเริ่มมีความสุข รอยยิ้มระบายไปทั่ว เสียงลอดไรฟันไพเราะจับใจ นิ้วก้อยดีดอีกเสียงกลายเป็นทำนองช้าใสสะอาด
แม้ไม่มีเนื้อเรื่องแค่เสียงทำนองจากลำคอระหงก็เพราะจับใจ เสียงเพลงครวญต่ำลงจนสุด
ความคิดเห็น