คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : คาลิโดร่า
เสียงดีดพิณตัวใหญ่หยุดลง เมื่อมือเรียวยกขึ้นเป็นสัญญาณ เหล่านางรำจับจีบกระโปรงบางพลิ้วแล้วย่อตัว ก่อนจะถอยออกไปอย่างเป็นระเบียบ นักดนตรีสาวสองสามคนละมือจากเครื่องดนตรี แล้วโค้งให้ผู้นั่งอยู่ที่สูง จากนั้นจึงพากันเดินออกนอกห้องสวนทางที่ประตูกับผู้ก้าวเข้ามาใหม่
“เป็นอะไรไปจ๊ะ คาลิร์ของพี่ ทำหน้าเหมือนเบื่ออะไรอย่างนั้นแหละ”
“เบื่อผู้ชายมั้งคะ พี่กลีเคอเรีย วันนี้ก็มีมารนหาที่อีกสองราย ข้านึกว่าจะหมดๆไปได้แล้วนะ โง่แล้วยังอวดฉลาด!”
กลีเคอเรียหัวเราะขำกับคำพูดของน้องสาว
“ช่างพวกนั้นเถอะน่า มีมาแล้วทำไม่สำเร็จ เจ้ายังโชคดี แต่ถ้าใครทำได้ เจ้าจะแย่เอานะ อยู่ดีๆนึกอะไรตั้งเงื่อนไขแบบนี้ขึ้นมาได้” กลีเคอเรียบ่นน้องสาวอีกหลายคำ
เมื่อต้นปีก่อน น้องสาวคงรำคาญผู้ชายเต็มทนที่เฝ้าส่งสารสู่ขอ ส่งของขวัญมาให้มากมาย ทั้งที่ปฏิเสธจนแทบจะตัดเยื่อใยกันอยู่แล้ว พระบิดามารดาจึงเอ่ยปากขอให้เริ่มทำอะไรสักอย่างกับกองสิ่งของที่แทบจะไม่มีที่เก็บ แล้วก็เหล่าชายหนุ่มที่บังอาจท้าประลองกันเองอย่างมุทะลุ พระบิดาอดเปรยไม่ได้ว่าบางทีการหมั้นกับใครสักคนที่เหมาะสมก็น่าจะเป็นทางออกที่ดี ป้องกันผู้ชายทั้งหลายไม่ให้มาวุ่นวายได้ แต่น้องสาวของเธอกลับมาวิธีคิดที่ชาญฉลาดกว่านั้น
เฮ่อ.. จนป่านนี้เธอยังไม่รู้เลยว่ากุญแจที่อยู่บนข้อมือของน้องสาวสร้างขึ้นมายังไง ทำไมกุญแจของชายหนุ่มทั้งหลายถึงไม่สามารถไขได้เลย เคยถามนาง ก็ได้เสียงรอยยิ้มพร้อมกับคำตอบกำกวมเท่านั้น
‘สิ่งที่เห็น ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่คิดเสมอไปนะคะ’
“ก็ข้ารำคาญนี่น่า นี่ขนาดประหารไปไม่รู้เท่าไร จะมีมาอยู่เรื่อยๆ เฮ่อ เมื่อไรผู้ชายจะหมดๆไปเสียที” คาลิโดร่าหน้ามุ่ย แล้วทิ้งตัวลงบนเบาะนุ่มที่ซ้อนกันอยู่ข้างหลัง พระธิดาองค์ที่ห้าเสด็จเข้ามาประชิดแล้วย่อพระวรกาย ปลายพระหัตถ์แตะที่พักตร์พระขนิษฐาด้วยความรัก
“เพราะเจ้ายังไม่เจอคนคนนั้นต่างหาก ถ้าเจ้าเจอ เจ้าจะไม่มีวันพูดแบบนี้”
“ข้าไม่ต้องการเจอใคร”
“ไหนเจ้าเคยบอกพี่ว่ามีชายในฝัน” กลีเคอเรียนั่งลงบนเบาะหนานุ่มข้างน้องสาว “อืม เขาเป็นคนยังไงนะ”
“ต้องฉลาดกว่าข้า แต่พี่ก็เห็น ผู้ชายล้วนแล้วแต่คิดว่าตัวเองฉลาด มีมันสมองใหญ่กว่าสิ่งมีชีวิตใด ผู้หญิงเป็นแค่เครื่องประดับที่ไม่จำเป็นต้องมีมันสมอง จะสั่งหันซ้ายหันขวาก็ห้ามมีเสียงคัดค้าน”
“แต่พ่อไม่เป็นแบบนั้นนิ”
“ก็ใช่ โชคดีที่ข้าได้พ่อเป็นพ่อ ไม่งั้นข้าไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าถูกจับแต่งกับผู้ชายโง่ๆที่อวดรวยสักคนเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆจะเป็นยังไง คงทรมานไปตลอดชีวิต โชคดีที่พ่อยอมรับความฉลาดของข้าได้” คาลิโดร่าพูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมในสิ่งที่นางภูมิใจ “ข้าถึงสามารถจัดการบ้านเมืองในแบบที่ข้าต้องการได้ ข้าชอบอย่างนี้ค่ะ พี่กลีเคอเรีย ข้าชอบคุยกับขุนนาง ข้าชอบดูทหารซ้อมรบ ถ้าให้ข้าไปนั่งปักผ้าแบบพวกพี่ๆ ข้าคงคลั่งเจียนตาย สมองของข้าไม่ได้มีไว้เพื่อทำแบบนั้นเสียหน่อย”
กลีเคอเรียหัวเราะเบาๆ ใช่.. ความทรงปัญญาของนางไม่ได้มีไว้เพื่อผู้หญิงเลย น่าเสียดาย.. คำที่ทั้งพระบิดาและพระมารดาทรงเอ่ยอยู่บ่นๆ ถ้าคาลิโดร่าเป็นชาย นางจะนำความยิ่งใหญ่สู่เคลาคัสได้มากกว่านี้ นางจะแผ่ขยายดินแดนอาจได้ไกลจนถึงเอเธนส์ นางจะสร้างอารยธรรมที่ไม่มีวันถูกชาติใดครอบงำได้ น่าเสียดาย..ถ้าเพียงแต่นางเป็นชายเท่านั้น
“แต่ก็ช่วยไม่ได้หรอกค่ะพี่ เพราะข้าฉลาดเกินไป ถึงไม่มีผู้ชายคนไหนฉลาดกว่าข้าอีกแล้ว ดังนั้นชายในฝันของข้าก็คงเป็นได้แค่อยู่ในฝัน ไม่มีวันปรากฏตัวได้ ข้าจะปกครองเคลาคัสด้วยมือข้าแบบนี้ไปเรื่อยๆแหละค่ะ” เจ้าหญิงองค์เล็กตรัสด้วยความหยิ่งผยอง ดวงเนตรหมายมาดว่าต้องเป็นดั่งที่ดำรัสทุกประการ
“พี่ก็คิดแบบนั้น ไม่มีใครเก่งเกินน้องสาวคนนี้ของพี่ได้แล้ว ว่าแต่ตอนนี้ เจ้าต้องแต่งตัวแล้วล่ะจ้ะ”
“มีอะไรคะ”
“กษัตริย์จากพารอสเสด็จฯพร้อมเจ้าชาย เจ้าลืมหมายกำหนดการนะจ๊ะ” น้ำเสียงดุจตำหนิ แต่รู้ดีเกินกว่าจะตำหนิว่าน้องสาวลืม นางแค่..แกล้งลืมเท่านั้น งานราชการใดที่ผ่านตาน้องสาวคนนี้แล้ว นางจะไม่ลืมจนกว่าจะลุล่วงไปด้วยดีแน่
“ฮึ ข้ารึอุตส่าห์จะอยู่คนเดียวเงียบๆเสียหน่อย ที่จริง ข้าไม่เห็นต้องไปเลยนิคะ”
“พี่ต่างหากล่ะที่ไม่จำเป็น แต่เจ้าก็รู้ ใครที่มาถึงที่นี่ มีหรือจะไม่อยากยลโฉมสาวงามแห่งเคลาคัส เจ้าก็รักษามารยาทหน่อยก็แล้วกัน”
“ข้าพยายามทุกครั้งแล้วค่ะ” คาลิโดร่ายอมยืนขึ้นเพื่อตามพี่สาวไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายที่ดีกว่านี้ ทุกครั้งที่เธอออกงาน เธอจะต้องสวย จะต้องงามกว่าใครในที่แห่งนั้น
ใช่.. นอกจากปัญญา ความงามคือสิ่งที่เธอมีไม่เป็นรองใคร!
คาลิโดร่าลอบหาวอย่างเบื่อหน่าย งานเลี้ยงต้อนรับก็แค่ฉากหน้าสวยหรูแต่เหมือนภาพลวงตาที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับเธอเลย เธออยากดูกองทหารมากกว่า อยากดูแสนยานุภาพที่อีกฝ่ายมี อยากจะประเมินกองกำลังพร้อมรบ คงน่าสนุกกว่าเป็นไหนๆ หญิงสาวปรับสีหน้าได้เพียงเสี้ยววินาทีก็สามารถแย้มยิ้มได้อย่างอ่อนหวาน ริมฝีปากบิดโค้งสวยดุจเรียวดาบ
“เคลาคัสยินดีต้อนรับสหายจากแดนไกลเพคะ”
“แหม ไม่ต้องมาพิธีขนาดนั้น” กษัตริย์ชราเอ่ยด้วยไมตรี “ดูท่า บทเพลงที่ชมโฉมของเจ้า จะงามสู้ตัวจริงไม่ได้นะ”
“ฝ่าบาทเอ่ยเกินไปเพคะ” คาลิโดร่าแสร้งถ่อมตน ทั้งที่นางเห็นด้วยทุกประการ
“นี่ลูกชายข้า น่าจะอายุมากกว่าเจ้าหน่อยใช่ไหม” กษัตริย์แห่งพารอสตบบ่าเจ้าชาย เพียงแค่คาลิโดร่ามองตา นางก็รู้แล้วว่าเจ้าชายผู้นี้ตกอยู่ในมนต์เสน่ห์ความงามแห่งเคลาคัสแล้ว “อายุกำลังดี ไม่ลองไปเดินเล่นพูดคุยกันหน่อยล่ะ”
“สหายเอย เจ้าจะให้ลูกชายเจ้าชมโฉมลูกสาวข้าเพียงลำพังหรือไง นางควรอยู่กลางหมู่ผู้คนที่อยากจะเห็นนางดีกว่า” กษัตริย์แห่งเคลาคัสเอ่ยขัดด้วยเสียงยังคงเป็นมิตร พระองค์รู้จักนิสัยลูกสาวดีเกินกว่าจะให้นางอยู่ห่างสายตา ยิ่ง..อยู่กับผู้ชาย
“นั่นสิ” กษัตริย์พารอสรีบเห็นด้วย เมื่อไม่ต้องการจะขัดใจ “วันนี้วันดีที่ได้ชมความงามบนเขาสูง หวังว่ามิตรภาพของเราจะยั่งยืนเหมือนภูเขาที่เป็นฐานให้เคลาคัส”
กษัตริย์ชรายกแก้วทองคำขึ้น เป็นเหตุให้ผู้คนที่รายล้อมต้องยกดื่มตาม คาลิโดร่าจิบไวน์ชั้นดีในแก้วทองคำฝังมรกต ดวงตาเหลือบไปยังเจ้าชายแห่งพารอสที่ชำเลืองมองทางตนไม่ขาดสาย นางลอบยิ้มกับแก้วทองคำของตนเอง
หึ! ผู้ชาย ไม่ว่าหน้าไหนก็เหมือนกันหมด
ถ้าเธอแค่สวย.. อาจมีผู้ชายอีกมากไม่ปรารถนา แต่เธอทั้งสวยและมีอำนาจ ชายใดเล่าจะไม่ปรารถนาสองสิ่งนี้
“นี่เจ้าว่าอะไรนะ!” กษัตริย์พารอสขึ้นสุรเสียงใส่โอรสหัวแก้วหัวแหวน “เจ้าจะบ้าหรือไง ไธเทสิส กี่คนแล้วที่ต้องตายเพราะคิดลองไขกุญแจนั่น!!”
“เสด็จพ่อ ข้าทำได้ เรามีช่างทำกุญแจที่เก่งที่สุดในพารอสอยู่ทั้งคน ไม่มีแม่กุญแจใดที่เขาจะไขไม่ได้หรอกน่า”
กษัตริย์พารอสมองหน้าลูกชายที่ตกอยู่ในห้วงรักจนไม่นึกถึงอันตรายแล้วอดส่ายหน้าไม่ได้
“กี่คนแล้วที่คิดแบบนั้น เจ้าไม่เคยได้ยินรึไง ดาบของเคลาคัสที่ใช้ประหารคนคิดไขกุญแจบิ่นไปกี่ด้ามแล้ว ถ้าเอาทุกศพนั้นมากองคงสูงได้เท่าภูเขาเคลาคัสแห่งนี้ ตรองดูให้ดี ลูกชายข้า ถ้ารักนาง ก็เข้าหานาง ทำให้นางรักเจ้าให้ได้ เมื่อนั้น กุญแจอะไรก็ไม่มีความหมายถ้านางรักเจ้า”
“เสด็จพ่อ นางลั่นวาจาไว้ว่าจะไม่แต่งกับใครถ้าพันธนาการของนางไม่สามารถปลดได้ ข้าไม่อยากถูกคนตราหน้าทั้งแผ่นดินว่าเล่นไม่ซื่อหรอกนะ ข้าจะไขกุญแจแห่งคาลิโดร่าให้ได้ เสด็จพ่อโปรดวางพระทัย”
ผู้สูงศักดิ์ถอนหายพระทัย น้ำเชี่ยวอย่าได้เอาเรือขวาง.. แต่ถ้าเรือไม่ขวางเสีย น้ำนั้นก็มีแต่ดิ่งลงขอบเหวเท่านั้น
“คิดให้ดี ไธเทสิส พ่อไม่อยากทำสงครามกับที่นี่เพราะพวกเขาสังหารเจ้า”
“ไม่เชื่อลูกบ้างเลย ลูกรับรองว่าจะต้องสำเร็จ” ไธเทสิสเอ่ยอย่างมั่นใจ เขาจะทำได้ ต้องทำให้ได้!!
กษัตริย์ชราได้เพียงมองบุตรชายแล้วส่ายพระพักตร์ หวังเพียงเทพฮาเดสจะปราณี ไม่ส่งใครมารับวิญญาณของบุตรชายในเร็ววันนี้
กลางดึก..
“เจ้าทำได้ไหม” เจ้าชายหนุ่มชูกุญแจที่มีด้านไขแปลกประหลาดให้แต่ช่างชราดู มือที่เต็มไปด้วยรอยย่นรับไปพลิกดูแล้วอดสงสัยไม่ได้
“เจ้าชาย มีแม่กุญแจใดที่แขด้วยกุญแจนี้ได้รึพระเจ้าคะ รูปทรงมันแปลกประหลาดมาก”
“ข้าถามว่า เจ้าทำเลียนแบบกุญแจนี้ได้หรือเปล่า เรื่องอื่นไม่ต้องสงสัย”
ชายชรามองดูตัวกุญแจด้ามยาวถึง 1 ศอก ตรงปลายกุญแจมีช่วงที่มีปุ่มเล็กๆยื่นออกมามากมาย อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่ากุญแจดอกนี้ทำขึ้นเพื่อการใด
“แน่นอนพระเจ้าค่ะ แม้กุญแจจะมีปุ่มซับซ้อน แต่ข้าสามารถทำได้เหมือนจริงจนไม่สามารถแยกได้เลย”
“ดี! ข้าให้เวลาเจ้าแค่สองวันเท่านั้น จำไว้ ถ้าพลาด เจ้าก็ต้องตาย!” เจ้าชายหนุ่มหัวเราะ แล้วโบกมือเป็นเชิงไล่ให้ไปจัดการได้ เด็กสาวในชุดนางรับใช้เดินออกมาจากที่ซ่อน เอ่ยเรียกเบาๆ
“เจ้าชายเพคะ”
“อ้อ เจ้าเอง ขอบใจเจ้ามากสำหรับกุญแจดอกนี้” เจ้าชายโยนถุงเงินลงบนโต๊ะ แล้วเดินเข้าไปโอบเอวนางรับใช้ผู้นั้น “ถ้าข้าได้แต่งงานกับเจ้านายของเจ้า ข้าจะรับเจ้าเป็นภรรยาน้อยทันที เจ้าจะได้อยู่อย่างสุขสบาย”
“ขอบพระทัยเพคะ” หญิงรับใช้เงยหน้ามองเจ้าชายด้วยสายตาเทิดทูน แล้วหลับตารับจุมพิตที่นางปรารถนาก่อนจะผละออกไปก่อนที่จะถึงเวลาเดินตรวจเวรยาม
เจ้าชายไธเทสิสมองงานของพระองค์ที่ลุล่วงไปได้ด้วยดี อดแย้มสรวลไม่ได้ว่านับจากนี้ไปอีกไม่กี่คืน พระองค์จะได้กกกอดสาวงามที่เลี่ยงลือไปทั่วแผ่นดิน
........................................
ความคิดเห็น