ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    =*เทพธิดา*= [[ฤดูใบไม้ร่วงในจิตนาการแห่งความฝัน]]

    ลำดับตอนที่ #1 : - -บทนำ..คำมั่นสัญญาที่หนึ่ง- -

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 50






               ในป่าใหญ่แห่งหนึ่ง  ดินแดนที่ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดเข้าไปถึง เป็นที่อยู่ของเหล่าเทพ ภูต และปีศาจมากมาย  


               ในดินแดนแห่งนี้แบ่งเป็นป่าต่างๆ 


               ส่วนที่อยู่ของเหล่าเทพจะเป็น ป่าแห่งนิรันดร์กาล  


               ส่วนของภูตจะถูกเรียกว่า ป่าแห่งกาลเวลา  


               และของปีศาจจะอยู่ใน ป่าแห่งรัตติกาล 


               นอกจากนั้นบริเวณชายป่าจะมีประตูกลลอยอยู่กลางอากาศนับร้อย เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังโลกอีกแห่งหนึ่ง




    ฤดูใบไม้ร่วงในจินตนาการแห่งความฝัน



               กาลครั้งหนึ่ง..นานมาแล้ว นานแสนนานเกินกว่าชั่วชีวิตของอายุไขมนุษย์ผู้หนึ่งจะยืนยาวถึงได้ บนภูเขาสูงใหญ่ที่เห็นยอดเขาอยู่ลิบๆเป็นที่อยู่ของเหล่านางภูตพรายทั้งหลาย  ยอดเขาที่ไม่เคยมีผู้ใดเข้าไปถึงในขณะที่ยังมีชีวิต 


               ยังมีบ้านไม้ขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาจากที่ว่างเปล่าซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของภูตแห่งฤดูกาลทั้งสี่  เหล่าพี่น้องที่ไม่เคยมีมนุษย์ใดเคยพบเห็น โฉมงามถูกซ่อนหลังธรรมชาติความร่มรื่นและเมฆหมอก ทางวงกตที่กั้นทุกสิ่งให้อยู่คนละแดนดิน แม้ใกล้ก็เหมือนไกล  เชื่อกันว่าวันดีคืนดีเหล่านางจะเต้นระบำขับฟ้อนไปกับนางพรายทั้งหลายกลางหนองน้ำซึ่งใสบริสุทธิ์  ผู้ใดที่ได้ยลโฉมของเหล่านางนั้นจะต้องหาชีวิตไม่แล้วทั้งนั้น  



               นิทานปรับปราที่เล่าขาน บนภูเขาสูงใหญ่ มีสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์อาศัยอยู่ สาวงามผู้เลอโฉมรอคอยอยู่ภายใต้เถาวัลย์ที่เลื้อยปกคลุม รอชายหนุ่มบุกป่าฝ่าดงผจญอันตรายเข้าไปหา สิ่งนำทางมีเพียงไม้ดอกที่งามที่สุดชี้บอกสู่เส้นทางที่เต็มไปด้วยภยันตรายและขวากหนาม 


               ผู้ใดที่ย่างก้าวสู่ดินแดนอนธการแห่งนั้นได้จะได้รับพรประเสริฐแห่งความสุขตามที่ปรารถนา  หากหลายร้อยปีที่ผ่านก็มิมีผู้ใดฝ่าฟันก้าวสู่ดินแดนไกลโพ้นแห่งนั้นได้เลยสักคน



               ถ้าถามว่า ยังไม่มีใครเคยพบเห็นแล้วรู้ได้เช่นไรว่ามีจริง?  


               /อ้าว ไม่รู้สิ..ก็เล่ากันมาแบบนี้/


               ดินแดนแห่งนั้นมีจริงด้วยหรือ?  


               /อืม..ก็น่าจะนะ น่าจะมี.............มั้ง/


               ทำไมถึงรู้ว่าเป็นสาวงาม?  


               /นิทานบนโลกมนุษย์มันว่าอย่างนั้นนี่หน่า (ขืนเป็นสาวอัปลักษณ์ใครจะอยากฟัง จริงไหม?)/


               ใครเป็นคนแรกที่เล่าเรื่องนี้?  


               /ก็เขาบอกต่อๆกันมาไง/


               แล้ว....... .  


               /เอ๊ะ!  สงสัยมากเสียจริง  ไม่ลงไม่เล่านิทานแล้ว  มาฟังเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเลยดีกว่า!/



                                                      ..............................



               ‘ท่านอาจไม่ใช่เทพธิดา..บุตรีแห่งพระผู้เป็นเจ้า  แต่ท่านจะเป็นเทพธิดาที่เลอโฉมที่สุดในใจข้า.. ข้าจะรักท่านตลอดชั่วชีวิตของข้า  ไม่ว่าจะกี่ชีวิต ข้าก็ยกให้ท่านทั้งหมด - -ตามหาข้าให้พบ แล้วเราจะรักกันตลอดไป เทพธิดาแสนสวย’


               คำมั่นสัญญาแห่งรักที่ทั้งสองจดจำได้ขึ้นใจ  บ้านไม้ฤดูหนาวที่โหดร้ายกลับอบอวลไปด้วยไอรัก เสียงหัวเราะดังเล็ดลอดออกมาเป็นระยะไม่ขาดสาย  หิมะขาวที่โปรยปรายแทนความรื่นรมย์ของฤดูอันแห้งแล้งนี้  แล้ววันหนึ่งที่เหมือนกับทุกๆวันก็เริ่มต้นขึ้น



               “อ๊ะ ไรโค ไม่เล่นแบบนี้นะ”  เสียงตึงตังดังไปทั่วบ้านสลับกับเสียงหัวเราะ ปลายเท้าย่ำระเบียงยาววิ่งหนีใครบางคนที่ตามหลังมา
     

               ฟุยุ จับชายกระโปรงที่ยาวกรอมเท้าของตนขึ้นเพื่อให้วิ่งถนัดหน่อย แต่ครั้นจะเลี้ยวเข้าห้องของตนก็ถูกรวบจากคนที่วิ่งตามมาเสียก่อน


               “จับได้แล้ว!”  น้ำเสียงคนที่โอบกอดแน่นเหมือนจะลงทัณฑ์ด้วยความเอ็นดู


               “ปล่อยนะ”  หญิงสาวผมสีดำยาวจรดปลายเท้าในชุดขาวสะบัดตัวออกจากพันธนาการที่รัดแน่นมากขึ้น จนชายหนุ่มยกตัวภรรยาสาวขึ้นพาดบ่า  “ไรโค!”  เจ้าหล่อนประท้วงพร้อมกับดิ้นขลุกขลัก


               “ทีเวลาทำละไม่คิด”  มนุษย์หนุ่มเอ่ยอย่างหมั่นเขี้ยว แล้วเดินออกทางหลังบ้านที่เป็นสวนเล็กๆ มีบ่อน้ำซึ่งก่อด้วยอิฐสีเข้มสำหรับดึงน้ำจากใต้บาดาลขึ้นมาเหมือนบ้านเศรษฐีทั่วไปที่ไม่ต้องไปตักน้ำจากลำธารห่างไกล บึงน้ำขนาดเล็กที่บัดนี้จับแข็งแล้วอยู่ใกล้ๆ


               “ขอโทษนะคะ”  เสียงอ่อนหวานดังขึ้นเหมือนรู้สำนึก แต่ถ้าลองปล่อยไป หล่อนก็คงซนอีกเหมือนเดิม  และเรื่องที่หล่อนจะซนได้มีอยู่เรื่องเดียว..แกล้งคุณสามี


               “ครั้งที่เท่าไรแล้ว”  เสียงเข้มขึ้นให้รู้ว่าครั้งนี้ไม่มีทางรอดแน่


               “น้า... ไม่ทำแล้ว ครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ”  เสียงหวานให้คำมั่นที่ไม่น่าเชื่อถือ  ไรโคกลอกตาแล้วจับร่างบางที่ยังคงดิ้นบนบ่าตนเองไว้แน่น  เดินที่หยุดข้างบ่อน้ำ


               “ครั้งที่แล้วก็พูดแบบนี้”  ชายหนุ่มหันหน้าหญิงสาวให้ดูก้นบ่อ  “อืม..น้ำตรงนี้ยังไม่เป็นน้ำแข็งจับโยนลงไปดีไหม?”


               “ไม่เอานะ!”  เจ้าหล่อนประท้วงถ่วงเวลา เพราะถ้ามีเวลาอีกสักสิบนาที หล่อนสามารถทำให้น้ำในบ่อเป็นน้ำแข็งได้ไม่ยาก  หากชายหนุ่มเหมือนรู้ทัน ก็อุ้มภรรยาสาวพาดไปกับบ่อน้ำทันที  “ไม่เอา! ไรโค ไม่ๆๆๆๆ อย่าปล่อยมือนะ!”


              ไรโคหัวเราะคิกคักที่เจ้าหล่อนดิ้นอยู่เหนือบ่อน้ำจับมือเขาไว้แน่นเป็นหลักยึดสุดท้าย


               “จะทำอีกไหม?”


               “ไม่ทำแล้วจ้า”  น้ำเสียงละล่ำละลักดังขึ้นอย่างรวดเร็ว นัยน์เนตรประกายเหมือนดวงดาวทอดอ่อนให้คนมองชวนสงสาร แววตาที่ไม่ว่าจะได้มองมากมากี่ครั้งก็อดตกหลุมเสน่หานั้นมิได้  ใบหน้าเข้มโน้มลงควานหาความหวานจากริมฝีปากที่สั่นระริก กลีบทิวลิบชมพูนุ่มนวลและอ่อนโยนอยู่ใต้ความแข็งแกร่งที่ทาบทับ ไรโคกระตุกยิ้มกับริมฝีปากอ่อนหวานนั้น


               “ถือว่าหายกันก็ได้”  ว่าแล้วชายหนุ่มก็ปล่อยมือทันที ร่างบางซึ่งไม่ทันตั้งตัวตกลงไปในบ่อน้ำใสอย่างรวดเร็ว  น้ำกระเซ็นขึ้นมาปะทะใบหน้าไรโคที่หัวเราะดังอยู่บนบ่อน้ำ  หญิงสาวผุดขึ้นมา ใบหน้าเจิ่งนองไปด้วยประกายของธารา เสียงน้ำดังก้องกับอิฐที่ฉาบปิดไว้เป็นทรงกลม


               “ใจร้าย!”  หล่อนประนาม เสียงนั้นดังกังวานให้คนที่อยู่ข้างบนอดยิ้มขบขันไม่ได้ แล้วสะบัดศีรษะที่มึนงงนิดๆ  เส้นผมสีดำลอยตามน้ำ ปลายเท้าเหยียบไม่ถึงก้นบ่อ  ฟุยุหลับตาเพียงครู่เดียว ร่างเปียกชื้นของเธอก็ลอยขึ้นจากน้ำจนมือบางสามารถเอื้อมแตะขอบบ่อได้  คุณสามีหนุ่มรีบจับมือทั้งสองไว้แน่นแล้วดึงเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด หญิงในชุดขาวเปียกปอนไปทั้งตัว เสื้อผ้ารุ่ยร่ายแนบเนื้อ  “ใจร้ายที่สุด”  หล่อนพึมพำไม่หยุด พยายามจะให้เขาเปียกไปกับเธอด้วยการซุกอกกว้างไม่ยอมห่าง  “มันหนาวนะ รู้เปล่า”


               “อะไรกัน ภูตแห่งฤดูหนาวก็หนาวเป็นด้วยหรือ”  เขาขยี้เส้นผมยาวเล่นอย่างเอ็นดู แล้วพาร่างนั้นเดินกลับเข้าไปในบ้าน  “ดีแล้ว จะได้รู้ซะบ้างว่าความหนาวเป็นยังไง”


               ภูตสาวหน้ามุ่ย
     


               /อ้อ..ใช่ ไม่ผิดคำสรรพนามนั้น หล่อนเป็นภูตงดงามผู้เลอโฉมที่อาศัยอยู่ในบ้านไม้กว้างใหญ่เหมือนคฤหาสน์ขนาดย่อมเพียงลำพังในฤดูหนาว ผู้บันดาลความหนาวเหน็บสู่ดินแดนเบื้องล่าง อ้าว..ก็เจ้าหล่อนอาศัยบนภูเขานี่หน่า  ภูเขาสูงที่ไม่เคยมีมนุษย์ใดย่างกรายเข้ามายังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ได้  


               โถ่..อย่าทำหน้าสงสัยแบบนั้น  ผู้ชายคนนั้นใช่มนุษย์เต็มๆซะที่ไหน  เขาเป็นลูกครึ่งจ๊ะ ครึ่งมนุษย์ครึ่งเทพ เห็นไหมว่ามีภาษีน่าขโมยไป..เอ้ย..น่าชื่นชมแค่ไหน  อีกอย่างต่อให้เป็นมนุษย์เต็มๆก็ขึ้นมาที่นี่ได้ไม่ยากถ้าคนข้างบนเปิดทางให้ 


               เอาล่ะเรามาดูเหตุผลของเช้าวันนี้ดีกว่าที่ภรรยาสาวหมาดๆแกล้งอะไรคุณสามีให้พิโรธได้ขนาดนั้น  อ๋อ..ใช่..ลืมบอกไปอีกอย่าง  พวกเขาแต่งงานกันแล้วนะจ๊ะ เพียงแต่งได้แค่สองปีเท่านั้น  เฮ้อ.......อิจฉาคนมีความรักเสียจริง ไม่ต้องมานั่งเศร้าอกตรมทุกข์ระทมรอคอยใครบางคนที่ป่านนี้ไม่รู้จะอยู่แห่งหนตำบลใด ที่สำคัญเมื่อไรจะมานะ ไอ้เจ้าเนื้อคู่เนี่ย  ใช่..เรื่องแบบนี้ คนมีคู่ไม่รู้หรอก! 


              ต๊าย..พล่ามเสียนาน  เข้าเรื่องดีกว่า  อืม...เหตุผลเรื่องวุ่นวายของวันนี้ก็คือ/



              ฟุยุยอมนั่งนิ่งเป็นหุ่นข้างเตาผิง ความร้อนในบ้านไม้ไม่ได้ทำให้เธออึดอัดเหมือนความร้อนจากด้านล่าง เพราะบ้านไม้เป็นมิติหนึ่งที่จะมีอุณหภูมิเดียวเสมอซึ่งเหมาะสมตามแต่บุคคล 


               ไรโคค่อยๆเช็ดผมที่ยาวลากพื้นของภูตสาวแผ่วเบา อันที่จริงเธอสามารถทำให้มันแห้งได้ในพริบตา แต่เรื่องอะไรจะให้เขาสบายขนาดนั้นล่ะ  อยากแกล้งเองก็ต้องรับผิดชอบด้วยสิ ใช่..รับผิดชอบ  หล่อนถอนหายใจ


               รุ่งเช้าทีเดียวที่เธอตื่นก่อนเขา จึงอุตริอยากจะแกล้งอะไรเสียหน่อย ร่ายเวทเสกหิมะซึ่งเป็นบริวารที่ซื่อสัตย์ให้มีรูปร่างเหมือนตน และปล่อยให้เขานอนกอดแทน  ส่วนตัวเองแอบอยู่หลังบานประตูหัวเราะคิกคักที่เขาขมวดคิ้วทั้งที่ยังหลับตาอยู่ นานทีเดียวกว่าจะรู้สึก มือแดงไปหมดเพราะกอดหิมะไว้แน่น  จนกระทั่งสะดุ้งตัวขึ้นมา เอะอะลั่นบ้าน แล้วก็จับเธอสำเร็จโทษนั่นแหละ! ฮึ! 



               “หน้ามุ่ยอะไรจ๊ะ?”  เสียงเข้มทุ้มกระซิบข้างหู ให้คนผิวขาวราวหิมะแดงซ่าน เพิ่งรู้สึกตัวว่ามือที่เช็ดผมเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นโอบไหล่


               “ก็ท่านนะสิ ข้าแค่แกล้งเบาๆ ท่านต่างหากที่ทำเกินไป”  หล่อนดันอกที่ประชิดให้ถอยห่าง


               “อืม..แกล้งเบาๆ”  ไรโคพึมพำแล้วยกมือของตนให้แม่สาวสุดที่รักของเขาดู  “เบาของเจ้าสินะ แต่หิมะกัดข้าแดงจนป่านนี้ยังไม่หายเลย”


               ฟุยุมองมือกร้านด้วยทำงานหนักที่แดงคู่นั้นแล้วถอนหายใจอีกครั้ง  เธอไม่รู้สึกถึงความหนาวของหิมะ ไม่เคยรู้ว่าความเย็นยะเยือกที่ตนสร้างเป็นเช่นไร  รู้เพียง..มันหนาวไปถึงขั้วหัวใจเมื่อคนตรงหน้าห่างหาย


               “ขอโทษค่ะ”  หล่อนจับมือคู่นั้นมาเป่าลมแผ่วเบา ความแดงและเจ็บปวดก็จางไป  ไรโคอมยิ้มและกระชับ ‘คนรักษา’ มาอยู่ในวงแขน ก่อนจะล้มลงนอนราบไปกับพื้นไม้ดึงร่างบางให้มาทาบทับบนอก


               “จะหมดฤดูหนาวอีกแล้วนะ”  ชายหนุ่มหลับตาในขณะที่เอ่ยวาจา หญิงสาวนอนฟังเสียงหัวใจที่เต้นสม่ำเสมอ


               “ปีหน้าข้าจะมาหาใหม่ ข้าจะมาหาท่านคนเดียว.. รอด้วยนะคะ”


               “ก็รอทุกปีนิ รอเจ้าคนเดียวเท่านั้น แม่เทพธิดาแสนสวยของข้า” 


               ชายหนุ่มพยุงร่างบางให้ขึ้นมาตรงริมฝีปาก แล้วจรดแผ่วเบาที่กลีบทิวลิบโค้งมนด้วยความอ่อนโยน จากนั้นก็แตะผะแผ่วที่หน้าผากให้รับรู้ถึงไออุ่นและความร้อนที่สามารถสัมผัสได้  


               “ให้นานแค่ไหนก็จะรอ”  ว่าพลางกอดกระชับหัวใจของตนเองให้หลับใหลอยู่บนอกกว้าง  “เพียงเจ้าคนเดียว ฟุยุ ตลอดไป”


                                                      ..............................




    * * *** *** **  ** ** ****


    เหอะๆๆ กว่าจะมีแวลาแต่งได้ T^T

    ขอโทษที่ทำให้รอนานไปหน่อย (ไม่หน่อยยะ นานมากกว่า)


    เรื่องนี้คงอัพๆหายๆ เพราะเดิมทีอาชูร่าตั้งใจว่าจะใช้เวลาจันทร์ - ศุกร์เพื่อแต่งเรื่อง  แต่ไปๆมาๆ กลับต้องไปทำงานพาสทามเก็บตังค์ก่อน  จึงทำให้ จัน-ศุกร์หายไปเลย  (ส่วนเสาร์-อาทิตย์เป็นคิวของเรื่องพันธนาการฯค่ะ)

    อาจจะอัพช้านะคะ

    ต้องอภัยมา ณ ที่นี้ด้วย (_ _)


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×