ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Lesson 3
    ในห้องเรียนของพวกโย  มีซิลเวอร์เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
    “ขอแนะนำให้พวกเธอรู้จักเพื่อนใหม่นะ....คิเคียว  เข้ามาสิ”  ซิลเวอร์เรียกเธอ  คิเคียวเดินเข้ามา  เธอยืนนิ่ง  ทุกคนจ้องมองเธอ  รอให้เธอแนะนำตัวเอง
    “.................
    .................................................
    ................................................................
    ................................................................................
    .............Now Loading....................................................”
    เวลาผ่านไปเกือบสิบนาที  แต่คิเคียวก็ไม่ยอมพูดอะไร  ซิลเวอร์กระแอมไอ
    “อะแฮ่ม  คิเคียวจะเข้ามาเรียนห้องเรา  ขอให้ทุกๆ คนเป็นเพื่อนที่ดีของเธอนะ  คิเคียวไปนั่งที่ได้แล้ว”
    คิเคียวพยักหน้าก่อนเดินตรงไป  ฮาโอจ้องมองคิเคียวอย่างไม่วางตาตั้งแต่เธอเริ่มเดินเข้ามา  ที่นั่งของเขาอยู่มุมหลังสุดของห้อง  ที่นั่งด้านหน้าเขายังว่างอยู่  คิเคียวเดินไปยังที่นั่งนั้น  โฮโรโฮโรและรีเซิร์กที่นั่งอยู่ชะงักเมื่อพบว่าโคโรโร่และมอร์ฟีน  วิญญาณของพวกเขาตัวสั่นเทาด้วยความกลัวเมื่อคิเคียวผ่านหน้าพวกเขาไป  โยที่นั่งคู่กับแอนนาเหลือบมองประคำศักดิ์สิทธิ์ของแอนนาที่สั่นสะเทือนเมื่อคิเคียวเดินผ่าน  เธอหยุดยืนตรงหน้าฮาโอ  เขายิ้ม
    “หวัดดี  คิเคียว  ฉันชื่อฮาโอ  ยินดีที่ได้รู้จักนะ” 
    เงียบ  คิเคียวนั่งลงตรงหน้าฮาโอ  ท่ามกลางเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกของทุกๆ คน
    “เอาล่ะ  เปิดหนังสือหน้า....”  ซิลเวอร์เริ่มการสอนทันที  ฮาโอจ้องมองแผ่นหลังที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีน้ำตาลทองนุ่มสลวยดุจเส้นไหมของคิเคียวด้วยความเพลิดเพลิน  ช่วงคอระหง  ศีรษะตั้งตรง  จ้องมองไปยังซิลเวอร์ไม่วอกแวกไปไหน  ผิวที่ขาวเนียนละเอียด  ฮาโอจดจำใบหน้าของคิเคียวได้ตั้งแต่แรกพบ เขาพยายามจะนำภาพคิเคียวที่ยิ้มแย้มก่อนอดหัวเราะกับตัวเองไม่ได้
    “ฮาโอ  การสอนของฉันมันมีอะไรน่าขำมากนักเหรอ”  ซิลเวอร์ถาม
    “อ้อ  เปล่า  ขอโทษนะ  ซิล  สอนต่อเถอะ”  ฮาโอพูดด้วยสีหน้ายิ้มละไม
    ซิลเวอร์จ้องมองฮาโอตาขุ่น  ส่วนคิเคียว  แม้จะมีเหตุการณ์มาขัดจังหวะการเรียน  แต่ก็ไม่ได้ทำให้คิเคียวขยับตัวแม้แต่น้อยผิดกับคนอื่นที่หันไปจ้องฮาโอเป็นตาเดียวกัน  จนทำให้ฮาโอนึกสงสัยว่าเธอเป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ....หรือเป็นเพียงแค่รูปปั้นกันแน่ 
    ในที่สุด  ชั่วโมงแรกก็จบลง  ทุกคนถอนหายใจ  มีเวลาอีกพักใหญ่จนกว่าวิชาต่อไปจะเริ่มขึ้น  ทุกๆ คนมองตรงไปยังคิเคียว  ไม่มีใครจะกล้าเดินไปหาเธอ  แต่คิเคียวก็ไม่สนใจ  เหมือนกับเธอสร้างกำแพงเหล็กขวางกั้นระหว่างเธอกับพวกเขาเอาไว้  คิเคียวก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือไปเงียบๆ  แต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเมื่อใครคนหนึ่งลุกขึ้นมายืนตรงหน้าเธอ  คิเคียวนิ่งเฉย  ตายังคงจับจ้องที่หนังสือ  แต่แล้ว....มือคู่หนึ่ง  ซึ่งใส่ถุงมือและมีสัญลักษณ์รูปดาวห้าแฉกก็มาดึงหนังสือในมือของเธอออกไป  คิเคียวเงยหน้าขึ้นช้าๆ  ฮาโอปิดหนังสือในมือของเขาลง
    “ชั่วโมงเรียนมันจบไปตั้งนานแล้วนะ  เลิกเรียนได้แล้ว  คิเคียว”  ฮาโอพูดขึ้น  โยยิ้ม  ก่อนลุกขึ้นเดินไปหาคิเคียว
    “ฉันชื่อโย  เป็นน้องชายฮาโอยินดีที่ได้รู้จักนะ  นี่เพื่อนๆ ของพวกเราเอง.....”  เขาแนะนำทุกๆ คนในห้องให้คิเคียวได้รู้จัก  แถมท้ายด้วยวิญญาณของพวกเขาด้วย
    “รู้จักวิญญาณของพวกเรารึยัง  คิเคียว  นี่อาบิดามารุนะ  เขาเคยเป็นซามูไรมาก่อน  ส่วนนี่บาซอนเคยเป็นนักรบประจำตระกูลของเร็นน่ะ....แล้วก็นี่....”
    ตลอดเวลาที่โยพูด  คิเคียวได้แต่นิ่งเงียบ  เมื่อเขาจบการแนะนำตัวของทุกคน  ฮาโอก็พูดขึ้นว่า
    “นายนี่....พูดเก่งขึ้นนะ  โย”  โยยิ้มกว้าง  เสียงออดดังขึ้นเป็นสัญญาณเตือนให้ทุกๆ คนไปเรียนวิชาต่อไป  คิเคียวลุกขึ้น
    “ชั่วโมงต่อไป....กำลังจะเริ่มแล้ว”  ในที่สุดคิเคียวก็พูดขึ้น
    “จะไปกันได้รึยังล่ะ”  เธอถาม
    “อืม”  โยพยักหน้า  ก่อนพูดต่อว่า
    “ต่อไปเป็นวิชาการฝึกใช้โอเวอร์โซลนะ....”  เสียงโยอธิบายแจ้วๆ ขณะที่ทุกๆ คนทยอยเดินออกจากห้องไปยังลานฝึกซึ่งอยู่ด้านหลังโรงเรียน
    “วิชานี้ฮาโอมาเป็นที่หนึ่งเลยนะ  รู้มั้ย  คิเคียว  ความจริงแล้วเขาเก่งทุกๆ วิชาทีเดียวล่ะ  ถ้าหากว่ามีอะไรไม่เข้าใจก็ถามเขาได้เลยนะ”
    “อย่าชมเจ้าบ้านั่นนักได้มั้ย  โย  คลื่นไส้”  เสียงโฮโรโฮโรแทรกขึ้นมา
    ขณะที่ฮาโอหัวเราะเบาๆ
    “ชมกันเกินไปแล้วล่ะโย”  เขาพูด
    ที่สนามกว้างอันเป็นสถานที่เรียน  ผู้คุมกฎที่สอนวิชานี้ก็คือราจิมผู้รักเสียงดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ
    “เอ้า  ก้าวเท้าเข้ามารเร็วๆ จะได้เริ่มเรียนกันซักที”  เขาตะโกนผ่านไมค์
    “ไม่ต้องพูดอารัมภบทนักก็ได้น่า  ราจิม  พูดกี่ทีๆ ก็เหมือนเดิมนั่นแหล่ะ  ให้พวกเราเริ่มแข่งกันเลยดีกว่าน่า”  ฮาโอพูดพลางมองคิเคียว
    “เอางั้นเรอะ  ก็ได้  เอ้า  ใครจะมาก่อนล่ะ”
    “เราจะใช้วิธีเป่ายิ้งฉุบเลือกคู่นะ”  โฮโรโฮโรตะโกน
    “ตกลง!!!”  ทุกคนเห็นด้วย  ฮาโอจะเข้ามาร่วมวง  แต่โฮโรโฮโรก็กันเขาออกไป
    “อย่าเชียวนะ  นายน่ะ  ฮาโอ  เล่นอ่านใจคนอื่นหมดแบบนี้ก็แย่น่ะสิ  นายไปรอสู้เลยดีกว่า  อยากสู้นักไม่ใช่เรอะ”
 
    “แหม....ขอเล่นด้วยก็ไม่ได้  ใจร้ายจริง”  ฮาโอหัวเราะเบาๆ แต่ก็ขึ้นไปยืนรอผู้ชนะบนเวที
    “เอาล่ะน้า~  เป่ายิ้งฉุบ!!!”  ทุกๆ คนออกอาวุธ  ยกเว้นเร็น  คิเคียวและจุนที่ยังนิ่งอยู่  คนอื่นๆ มองทั้งสามคน
    “เฮ้ๆ  อย่าบอกนะว่าพวกนายเล่นเป่ายิ้งฉุบไม่เป็นน่ะ  เร็น!!!”  โฮโรโฮโรอุทาน
    “ทำไม เล่นไม่เป็นแล้วมันผิดตรงไหน  นายมีปัญหาอะไรงั้นเหรอ”  เร็นถามเสียงขุ่น
    “ให้ตายซี่  มานี่  ฉันจะสอนให้!!!”  โฮโรโฮโรตั้งตัวเป็นผู้ชำนาญการเป่ายิ้งฉุบสอนทั้งสามคนให้เล่นจนเป็น
    “เอาล่ะน้า~เป่ายิ้งฉุบ!!!”  ในที่สุดก็เหลือคู่สุดท้ายระหว่างโยและคิเคียว  โยออกค้อน ขณะที่คิเคียวออกกระดาษ
    “ว้า~ แพ้จนได้ พยายามเข้านะ  คิเคียว  ฮาโอเก่งมากๆ เลยนะ”  โยยิ้มขณะที่คิเคียวมองมือตัวเองงงๆ
    “เอ้า  เริ่มกันได้รึยังจ๊ะ”  ราจิมถาม  คิเคียวพยักหน้า  ก่อนกระโดดขึ้นไปบนเวที  ฮาโอยิ้ม
    “รู้สึกว่าชะตาของเรามันจะสมพงษ์กันนะ”  ฮาโอพูด คิเคียวนิ่งเงียบ  SoF ของฮาโอปรากฏตัวขึ้น  ราจิมสร้างโอเวอร์โซลเป็นบาเรียป้องกันไม่ให้โอเวอร์โซลของฮาโอและคิเคียวเล็ดรอดออกมาทำร้ายคนอื่น  คิเคียวดึงดอกกุหลาบออกมา  มันเป็นดอกกุหลาบที่มีสีแดงคล้ำเหมือนกับกลีบกุหลาบที่ฮาโอได้รับเมื่อเช้านี้  ฮาโอยิ้ม
    “กลิ่นกุหลาบนี่หอมจริงๆ นะ  คิเคียว  แต่ฉันขอแนะนำให้เธอใช้ดอกกุหลาบสีอื่นจะดีกว่านะ  ดอกกุหลาบสีนี้มันน่ากลัวเกินไป  ไม่เหมาะกับเธอเลย”  คิเคียวก็ยังคงนิ่งเฉยไม่พูดอะไร
    “เริ่มการต่อสู้ได้!!!”  ราจิมประกาศขัดจังหวะการสนทนาของทั้งคู่ซึ่งจริงๆ แล้วฮาโอเป็นฝ่ายพูดคนเดียว
    “ฉันจะเริ่มละนะ  คิเคียว”  เขาพูด  แทนคำตอบ  คิเคียวสะบัดดอกกุหลาบในมือ  มันกลายสภาพเป็นแส้
    “หืม  โอเวอร์โซลของเธอควบคุมเซลล์ของสิ่งมีชีวิตได้อย่างนั้นเหรอ  น่าสนใจดี”  ฮาโอยิ้ม  คนอื่นๆ ตั้งใจดูการต่อสู้ของทั้งคู่  พวกเขาต้องการรู้ว่าคิเคียวจะสู้กับฮาโอได้สูสีมากน้อยขนาดไหน 
   
    และแล้ว....การต่อสู้ก็เริ่มขึ้น  SoF พุ่งเข้าไปต่อยคิเคียวทันที  พร้อมๆ กับคิเคียวที่กระโดดลอยตัวถอยไปด้านหลัง  แส้ในมือสะบัดออกไป  ตวัดตัดแขนของ SoF ขาดในครั้งเดียว  SoF สร้างแขนใหม่ในทันที  พร้อมๆ กับฮุกซ้ายโดนคิเคียวเข้าไปเต็มๆ  แต่โชคดี  ที่คิเคียวสร้างโล่จากใบไม้มารองรับหมัดนั้นไว้ชั้นหนึ่ง  แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังกระเด็นออกไป
                “ปฏิกิริยาตอบรับเยี่ยมมาก”  แอนนาพูดขึ้น  นอกจากจะสร้างโอเวอร์โวลมารับหมัดของSoF ได้แล้ว  คิเคียวยังถอยไปด้านหลังทำให้เธอไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก
                “ต้องฝึกให้โยทำแบบนั้นบ้างให้ได้” (กรรมของน้องโย = =’’)
    ย้อนกลับไปบนเวที  คิเคียวชะงัก  SoF ปรากฏตัวขึ้นทางด้านหลัง  มันทุบเธอด้วยมือทั้งสองของมัน  ร่างของคิเคียวพุ่งลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว  ตัวเธออัดกระแทกกับพื้นจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่  SoF ยกเท้าขึ้นจะเหยียบ  แต่คิเคียวม้วนตัวหลบไปอีกทาง  แส้ในมือหลังจากถูกม้วนเก็บพันไว้เพื่อความสะดวกในการต่อสู้ก็ถูกนำออกมาใช้อีกครั้งหนึ่ง  แต่SoF ได้รับบทเรียนมาแล้ว  มันจับแส้ได้  ก่อนกระชากตัวคิเคียวเข้าไปหามัน  คิเคียวยิ้ม  มือซ้ายของเธอปรากฏใบหญ้าเล็กเรียว  ทันใดนั้นเองคิเคียวก็สร้างโอเวอร์โซล  ใบหญ้ากลายเป็นดาบขนาดใหญ่ทันที  เธอแทงSoF ด้วยโอเวอร์โซลดาบของเธอ  ดวงตาสีม่วงอัลเมทิสของเธอแปรเปลี่ยนเป็นสีม่วงเพลิง
    “ยู้ดดดดดดด  หยุด  พวกเธอจะฆ่ากันรึไง  พอได้แล้ว!!!  ราจิมตะโกน  SoF ที่เงื้อมือจะต่อยคิเคียวหยุดการเคลื่อนไหว  ปล่อยให้คิเคียวเป็นอิสระ  คิเคียวคืนสภาพอาวุธพืชของตัวเอง  กระโดดลงสู่พื้นพลางหอบหายใจน้อยๆ  ฮาโอยิ้ม  หยุดยืนตรงหน้าเธอ
    “เธอเก่งมากนะ  คิเคียว  เธอเป็นคนแรกเลยล่ะที่ทำลายโอเวอร์โซลของฉันได้ถึงสองครั้งติดๆ กันน่ะ  แต่ขอเตือนหน่อยนะ  การต่อสู้แบบทุ่มสุดตัวของเธอไม่เกิดผลดีกับเธอเลยรู้มั้ย  ถ้าหากว่าเธอพลาดล่ะก็....ถึงตายทีเดียวนะ”
    คิเคียวนิ่ง  ค่อยๆ ยืนขึ้นมาเผชิญหน้ากับฮาโอ  ราจิมสลายโอเวอร์โซลของเขา  คิเคียวหันหลังเดินออกไปจากที่นั้นทันที  คนอื่นๆ รีบวิ่งเข้ามา
    “นี่ๆ  ฮาโอ  ตะกี้นายไม่ได้เอาจริงใช่มะ”  โฮโรโฮโรถาม  แทนคำตอบ  เมเด้นชูออราเคิลเบลล์ของเธอให้ทุกๆ คนได้ดูพลังชาแมนของคิเคียว
    “นะ...หนึ่งล้าน!!!”  ทุกๆ อุทานออกมาเบาๆ อย่างตื่นตระหนก
    ฮาโอยิ้ม
    “แหงอยู่แล้ว  ก็เขาเป็นคนแรกที่ทำให้ฉันบาดเจ็บได้นี่นะ”  เลือดของฮาโอค่อยๆ ไหลซึมออกมาจากหน้าผาก
    “นายไปทำอะไรให้เด็กคนนี้โกรธแค้นรึเปล่าน่ะ  ฮาโอ”  รีเซิร์กถามทันที
    “ฉันไม่เคยรู้จักคิเคียวมาก่อนในชีวิตของฉัน  รีเซิร์ก”  ฮาโอตอบ
    “นี่ๆ  รีบไปให้เฮาส์ทำแผลเถอะนะ  ฮาโอ  เลือดออกเยอะแยะเลยนะ”  โยพูด  พลางมองพี่ชายตัวเองด้วยความห่วงใย
    “นี่  แอนนา  เมเด้น  พวกเธอสองคนช่วยไปดูคิเคียวแทนฉันหน่อยได้มั้ย”  ฮาโอถาม
    “ทำไมล่ะ”  เมเด้นถาม
    เร็นตอบแทนฮาโอว่า
    “ก็เพราะรู้สึกว่าหล่อน...จะเจ็บหนักกว่าเจ้าหมอนี่เยอะเลยน่ะสิ”
    “เข้าใจแล้ว”  ทั้งคู่พยักหน้า
    ฮาโอยิ้ม
    “ถ้าอย่างนั้นก็ฝากด้วยนะ”
    ภายในห้องน้ำ  คิเคียวเดินเข้ามา
    “อุ๊บ....”  คิเคียวนิ่วหน้า  ปิดปาก ก่อนไอ  เลือดสดๆ กระเซ็นออกมาเปรอะเปื้อนมือที่เธอใช้ปิดปากตัวเอง
    “นายท่านครับ!!!”  โกคิปรากฏตัวขึ้นสีหน้าตื่นตระหนก  คิเคียวเปิดน้ำล้างเลือด  เธอกอบน้ำใส่ปากตัวเองก่อนบ้วนทิ้ง  น้ำกลายเป็นสีแดงฉาน  คิเคียวยิ้ม  พูดว่า
    “ไม่เป็นไร  โกคิ  ฉันประมาทหมอนั่นมากไปหน่อย”
    “นายท่าน...บาดเจ็บไม่น้อยทีเดียวนะครับ”  เขาอุทาน
    คิเคียวแค่นยิ้ม
    “ฉันไม่เป็นไรน่า  โกคิ  อย่าห่วงเลย  ยังไงก็ตามฉันก็ยังตายตอนนี้ไม่ได้หรอก  ฉันยังตายตอนนี้ไม่ได้....”
    “แต่ถ้าหากว่าเธอไม่รีบรักษา  เธอได้ตายจริงๆ แน่”  แอนนา  เมเด้นและทามาโอะเดินเข้ามา  คิเคียวขมวดคิ้ว  แต่ก็ไม่สนใน  ล้างมือที่อ่างล้างหน้าจนสะอาด  ทำท่าจะเดินฝ่าทั้งสามคนออกไป  แต่แล้วก็ชะงักเมื่อเซงกิและโกกิปรากฏตัวขึ้น
    “จะไปดีๆ รึว่าจะให้ใช้กำลังบังคับไป  คิเคียว”  แอนนาถาม เมเด้นพูดขึ้นว่า
    “เธอบาดเจ็บหนักมาก  ควรไปหาหมอนะ  คิเคียว”
    “นายท่านครับ....”  โกคิมองเธออย่างขอร้อง
    “เข้าใจแล้ว....”  คิเคียวถอนหายใจยาว
    ภายในห้องพยาบาล  เฮาส์กำลังพันแผลให้ฮาโอโดยมีอิเรซ่าเป็นผู้ช่วย  โดยมีพวกโยมองอยู่ห่างๆ
    “เรียบร้อยแล้ว”  เฮาส์พูด  ประตูเปิดออก  คิเคียวเดินเข้ามาโดยมีพวกแอนนาเดินตามหลัง
    ฮาโอยิ้ม  บนหัวเขามีผ้าพันแผลพันไว้
    “หวัดดี  คิเคียว  บาดเจ็บตรงไหนบ้างรึเปล่า” 
    คิเคียวไม่ตอบ  นั่งลงบนเก้าอี้ที่ห่างจากทุกๆ คนให้มากที่สุด  เฮาส์มองเธอ  ก่อนเริ่มตรวจอาการทันที  จากนั้นก็สั่งยารักษาอาการฟกช้ำภายในให้
    “ฉันจะให้ชามัครักษาให้นะ”  ชามัคปรากฏตัวขึ้นข้างกายเมเด้น  แต่คิเคียวก็ลุกขึ้น
    “ไม่จำเป็น”  เธอพูดตัดบทอย่างเฉยเมย
    “นี่เธอ!!!  ท่านเมเด้นอุตส่าห์หวังดีกับเธอนะ  พูดอย่างนี้ได้ยังไง!!!”  รีเซิร์กตวาดใส่  คิเคียวจ้องมองพวกเขาด้วยสีหน้าเย็นชา
    “ฉันไม่ได้ขอร้องให้พวกเธอช่วยซักหน่อย  ขอตัว”  คิเคียวเดินออกไปทันที
    “หนอยๆ  คนอะไรไม่น่าคบด้วยเลย”  โฮโรโฮโรตะโกนตามหลัง  ฮาโอมองตามคิเคียวไป
    เลิกเรียน  คิเคียวเดินออกมา  ราคิสต์กับมัลโก้ขับรถมารับพวกโยตามปกติ  ราคิสต์ชะลอความเร็วรถลง  ฮาโอยื่นหน้าออกมา
    “ไปส่งให้  เอามั้ย  คิเคียว”  คิเคียวไม่ตอบเดินต่อไป 
    “ตามไปมั้ยครับ  ท่านฮาโอ”  ราคิสต์ถาม
    “ไม่ต้องหรอก  กลับกันเถอะ  เฮ้อ  เป็นคนที่เข้าใจยากจริงๆ นั่นแหล่ะน้า  คิเคียว”  ฮาโอยิ้มอย่างอารมณ์ดี
    “ขอแนะนำให้พวกเธอรู้จักเพื่อนใหม่นะ....คิเคียว  เข้ามาสิ”  ซิลเวอร์เรียกเธอ  คิเคียวเดินเข้ามา  เธอยืนนิ่ง  ทุกคนจ้องมองเธอ  รอให้เธอแนะนำตัวเอง
    “.................
    .................................................
    ................................................................
    ................................................................................
    .............Now Loading....................................................”
    เวลาผ่านไปเกือบสิบนาที  แต่คิเคียวก็ไม่ยอมพูดอะไร  ซิลเวอร์กระแอมไอ
    “อะแฮ่ม  คิเคียวจะเข้ามาเรียนห้องเรา  ขอให้ทุกๆ คนเป็นเพื่อนที่ดีของเธอนะ  คิเคียวไปนั่งที่ได้แล้ว”
    คิเคียวพยักหน้าก่อนเดินตรงไป  ฮาโอจ้องมองคิเคียวอย่างไม่วางตาตั้งแต่เธอเริ่มเดินเข้ามา  ที่นั่งของเขาอยู่มุมหลังสุดของห้อง  ที่นั่งด้านหน้าเขายังว่างอยู่  คิเคียวเดินไปยังที่นั่งนั้น  โฮโรโฮโรและรีเซิร์กที่นั่งอยู่ชะงักเมื่อพบว่าโคโรโร่และมอร์ฟีน  วิญญาณของพวกเขาตัวสั่นเทาด้วยความกลัวเมื่อคิเคียวผ่านหน้าพวกเขาไป  โยที่นั่งคู่กับแอนนาเหลือบมองประคำศักดิ์สิทธิ์ของแอนนาที่สั่นสะเทือนเมื่อคิเคียวเดินผ่าน  เธอหยุดยืนตรงหน้าฮาโอ  เขายิ้ม
    “หวัดดี  คิเคียว  ฉันชื่อฮาโอ  ยินดีที่ได้รู้จักนะ” 
    เงียบ  คิเคียวนั่งลงตรงหน้าฮาโอ  ท่ามกลางเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกของทุกๆ คน
    “เอาล่ะ  เปิดหนังสือหน้า....”  ซิลเวอร์เริ่มการสอนทันที  ฮาโอจ้องมองแผ่นหลังที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีน้ำตาลทองนุ่มสลวยดุจเส้นไหมของคิเคียวด้วยความเพลิดเพลิน  ช่วงคอระหง  ศีรษะตั้งตรง  จ้องมองไปยังซิลเวอร์ไม่วอกแวกไปไหน  ผิวที่ขาวเนียนละเอียด  ฮาโอจดจำใบหน้าของคิเคียวได้ตั้งแต่แรกพบ เขาพยายามจะนำภาพคิเคียวที่ยิ้มแย้มก่อนอดหัวเราะกับตัวเองไม่ได้
    “ฮาโอ  การสอนของฉันมันมีอะไรน่าขำมากนักเหรอ”  ซิลเวอร์ถาม
    “อ้อ  เปล่า  ขอโทษนะ  ซิล  สอนต่อเถอะ”  ฮาโอพูดด้วยสีหน้ายิ้มละไม
    ซิลเวอร์จ้องมองฮาโอตาขุ่น  ส่วนคิเคียว  แม้จะมีเหตุการณ์มาขัดจังหวะการเรียน  แต่ก็ไม่ได้ทำให้คิเคียวขยับตัวแม้แต่น้อยผิดกับคนอื่นที่หันไปจ้องฮาโอเป็นตาเดียวกัน  จนทำให้ฮาโอนึกสงสัยว่าเธอเป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ....หรือเป็นเพียงแค่รูปปั้นกันแน่ 
    ในที่สุด  ชั่วโมงแรกก็จบลง  ทุกคนถอนหายใจ  มีเวลาอีกพักใหญ่จนกว่าวิชาต่อไปจะเริ่มขึ้น  ทุกๆ คนมองตรงไปยังคิเคียว  ไม่มีใครจะกล้าเดินไปหาเธอ  แต่คิเคียวก็ไม่สนใจ  เหมือนกับเธอสร้างกำแพงเหล็กขวางกั้นระหว่างเธอกับพวกเขาเอาไว้  คิเคียวก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือไปเงียบๆ  แต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเมื่อใครคนหนึ่งลุกขึ้นมายืนตรงหน้าเธอ  คิเคียวนิ่งเฉย  ตายังคงจับจ้องที่หนังสือ  แต่แล้ว....มือคู่หนึ่ง  ซึ่งใส่ถุงมือและมีสัญลักษณ์รูปดาวห้าแฉกก็มาดึงหนังสือในมือของเธอออกไป  คิเคียวเงยหน้าขึ้นช้าๆ  ฮาโอปิดหนังสือในมือของเขาลง
    “ชั่วโมงเรียนมันจบไปตั้งนานแล้วนะ  เลิกเรียนได้แล้ว  คิเคียว”  ฮาโอพูดขึ้น  โยยิ้ม  ก่อนลุกขึ้นเดินไปหาคิเคียว
    “ฉันชื่อโย  เป็นน้องชายฮาโอยินดีที่ได้รู้จักนะ  นี่เพื่อนๆ ของพวกเราเอง.....”  เขาแนะนำทุกๆ คนในห้องให้คิเคียวได้รู้จัก  แถมท้ายด้วยวิญญาณของพวกเขาด้วย
    “รู้จักวิญญาณของพวกเรารึยัง  คิเคียว  นี่อาบิดามารุนะ  เขาเคยเป็นซามูไรมาก่อน  ส่วนนี่บาซอนเคยเป็นนักรบประจำตระกูลของเร็นน่ะ....แล้วก็นี่....”
    ตลอดเวลาที่โยพูด  คิเคียวได้แต่นิ่งเงียบ  เมื่อเขาจบการแนะนำตัวของทุกคน  ฮาโอก็พูดขึ้นว่า
    “นายนี่....พูดเก่งขึ้นนะ  โย”  โยยิ้มกว้าง  เสียงออดดังขึ้นเป็นสัญญาณเตือนให้ทุกๆ คนไปเรียนวิชาต่อไป  คิเคียวลุกขึ้น
    “ชั่วโมงต่อไป....กำลังจะเริ่มแล้ว”  ในที่สุดคิเคียวก็พูดขึ้น
    “จะไปกันได้รึยังล่ะ”  เธอถาม
    “อืม”  โยพยักหน้า  ก่อนพูดต่อว่า
    “ต่อไปเป็นวิชาการฝึกใช้โอเวอร์โซลนะ....”  เสียงโยอธิบายแจ้วๆ ขณะที่ทุกๆ คนทยอยเดินออกจากห้องไปยังลานฝึกซึ่งอยู่ด้านหลังโรงเรียน
    “วิชานี้ฮาโอมาเป็นที่หนึ่งเลยนะ  รู้มั้ย  คิเคียว  ความจริงแล้วเขาเก่งทุกๆ วิชาทีเดียวล่ะ  ถ้าหากว่ามีอะไรไม่เข้าใจก็ถามเขาได้เลยนะ”
    “อย่าชมเจ้าบ้านั่นนักได้มั้ย  โย  คลื่นไส้”  เสียงโฮโรโฮโรแทรกขึ้นมา
    ขณะที่ฮาโอหัวเราะเบาๆ
    “ชมกันเกินไปแล้วล่ะโย”  เขาพูด
    ที่สนามกว้างอันเป็นสถานที่เรียน  ผู้คุมกฎที่สอนวิชานี้ก็คือราจิมผู้รักเสียงดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ
    “เอ้า  ก้าวเท้าเข้ามารเร็วๆ จะได้เริ่มเรียนกันซักที”  เขาตะโกนผ่านไมค์
    “ไม่ต้องพูดอารัมภบทนักก็ได้น่า  ราจิม  พูดกี่ทีๆ ก็เหมือนเดิมนั่นแหล่ะ  ให้พวกเราเริ่มแข่งกันเลยดีกว่าน่า”  ฮาโอพูดพลางมองคิเคียว
    “เอางั้นเรอะ  ก็ได้  เอ้า  ใครจะมาก่อนล่ะ”
    “เราจะใช้วิธีเป่ายิ้งฉุบเลือกคู่นะ”  โฮโรโฮโรตะโกน
    “ตกลง!!!”  ทุกคนเห็นด้วย  ฮาโอจะเข้ามาร่วมวง  แต่โฮโรโฮโรก็กันเขาออกไป
    “อย่าเชียวนะ  นายน่ะ  ฮาโอ  เล่นอ่านใจคนอื่นหมดแบบนี้ก็แย่น่ะสิ  นายไปรอสู้เลยดีกว่า  อยากสู้นักไม่ใช่เรอะ”
 
    “แหม....ขอเล่นด้วยก็ไม่ได้  ใจร้ายจริง”  ฮาโอหัวเราะเบาๆ แต่ก็ขึ้นไปยืนรอผู้ชนะบนเวที
    “เอาล่ะน้า~  เป่ายิ้งฉุบ!!!”  ทุกๆ คนออกอาวุธ  ยกเว้นเร็น  คิเคียวและจุนที่ยังนิ่งอยู่  คนอื่นๆ มองทั้งสามคน
    “เฮ้ๆ  อย่าบอกนะว่าพวกนายเล่นเป่ายิ้งฉุบไม่เป็นน่ะ  เร็น!!!”  โฮโรโฮโรอุทาน
    “ทำไม เล่นไม่เป็นแล้วมันผิดตรงไหน  นายมีปัญหาอะไรงั้นเหรอ”  เร็นถามเสียงขุ่น
    “ให้ตายซี่  มานี่  ฉันจะสอนให้!!!”  โฮโรโฮโรตั้งตัวเป็นผู้ชำนาญการเป่ายิ้งฉุบสอนทั้งสามคนให้เล่นจนเป็น
    “เอาล่ะน้า~เป่ายิ้งฉุบ!!!”  ในที่สุดก็เหลือคู่สุดท้ายระหว่างโยและคิเคียว  โยออกค้อน ขณะที่คิเคียวออกกระดาษ
    “ว้า~ แพ้จนได้ พยายามเข้านะ  คิเคียว  ฮาโอเก่งมากๆ เลยนะ”  โยยิ้มขณะที่คิเคียวมองมือตัวเองงงๆ
    “เอ้า  เริ่มกันได้รึยังจ๊ะ”  ราจิมถาม  คิเคียวพยักหน้า  ก่อนกระโดดขึ้นไปบนเวที  ฮาโอยิ้ม
    “รู้สึกว่าชะตาของเรามันจะสมพงษ์กันนะ”  ฮาโอพูด คิเคียวนิ่งเงียบ  SoF ของฮาโอปรากฏตัวขึ้น  ราจิมสร้างโอเวอร์โซลเป็นบาเรียป้องกันไม่ให้โอเวอร์โซลของฮาโอและคิเคียวเล็ดรอดออกมาทำร้ายคนอื่น  คิเคียวดึงดอกกุหลาบออกมา  มันเป็นดอกกุหลาบที่มีสีแดงคล้ำเหมือนกับกลีบกุหลาบที่ฮาโอได้รับเมื่อเช้านี้  ฮาโอยิ้ม
    “กลิ่นกุหลาบนี่หอมจริงๆ นะ  คิเคียว  แต่ฉันขอแนะนำให้เธอใช้ดอกกุหลาบสีอื่นจะดีกว่านะ  ดอกกุหลาบสีนี้มันน่ากลัวเกินไป  ไม่เหมาะกับเธอเลย”  คิเคียวก็ยังคงนิ่งเฉยไม่พูดอะไร
    “เริ่มการต่อสู้ได้!!!”  ราจิมประกาศขัดจังหวะการสนทนาของทั้งคู่ซึ่งจริงๆ แล้วฮาโอเป็นฝ่ายพูดคนเดียว
    “ฉันจะเริ่มละนะ  คิเคียว”  เขาพูด  แทนคำตอบ  คิเคียวสะบัดดอกกุหลาบในมือ  มันกลายสภาพเป็นแส้
    “หืม  โอเวอร์โซลของเธอควบคุมเซลล์ของสิ่งมีชีวิตได้อย่างนั้นเหรอ  น่าสนใจดี”  ฮาโอยิ้ม  คนอื่นๆ ตั้งใจดูการต่อสู้ของทั้งคู่  พวกเขาต้องการรู้ว่าคิเคียวจะสู้กับฮาโอได้สูสีมากน้อยขนาดไหน 
   
    และแล้ว....การต่อสู้ก็เริ่มขึ้น  SoF พุ่งเข้าไปต่อยคิเคียวทันที  พร้อมๆ กับคิเคียวที่กระโดดลอยตัวถอยไปด้านหลัง  แส้ในมือสะบัดออกไป  ตวัดตัดแขนของ SoF ขาดในครั้งเดียว  SoF สร้างแขนใหม่ในทันที  พร้อมๆ กับฮุกซ้ายโดนคิเคียวเข้าไปเต็มๆ  แต่โชคดี  ที่คิเคียวสร้างโล่จากใบไม้มารองรับหมัดนั้นไว้ชั้นหนึ่ง  แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังกระเด็นออกไป
                “ปฏิกิริยาตอบรับเยี่ยมมาก”  แอนนาพูดขึ้น  นอกจากจะสร้างโอเวอร์โวลมารับหมัดของSoF ได้แล้ว  คิเคียวยังถอยไปด้านหลังทำให้เธอไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก
                “ต้องฝึกให้โยทำแบบนั้นบ้างให้ได้” (กรรมของน้องโย = =’’)
    ย้อนกลับไปบนเวที  คิเคียวชะงัก  SoF ปรากฏตัวขึ้นทางด้านหลัง  มันทุบเธอด้วยมือทั้งสองของมัน  ร่างของคิเคียวพุ่งลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว  ตัวเธออัดกระแทกกับพื้นจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่  SoF ยกเท้าขึ้นจะเหยียบ  แต่คิเคียวม้วนตัวหลบไปอีกทาง  แส้ในมือหลังจากถูกม้วนเก็บพันไว้เพื่อความสะดวกในการต่อสู้ก็ถูกนำออกมาใช้อีกครั้งหนึ่ง  แต่SoF ได้รับบทเรียนมาแล้ว  มันจับแส้ได้  ก่อนกระชากตัวคิเคียวเข้าไปหามัน  คิเคียวยิ้ม  มือซ้ายของเธอปรากฏใบหญ้าเล็กเรียว  ทันใดนั้นเองคิเคียวก็สร้างโอเวอร์โซล  ใบหญ้ากลายเป็นดาบขนาดใหญ่ทันที  เธอแทงSoF ด้วยโอเวอร์โซลดาบของเธอ  ดวงตาสีม่วงอัลเมทิสของเธอแปรเปลี่ยนเป็นสีม่วงเพลิง
    “ยู้ดดดดดดด  หยุด  พวกเธอจะฆ่ากันรึไง  พอได้แล้ว!!!  ราจิมตะโกน  SoF ที่เงื้อมือจะต่อยคิเคียวหยุดการเคลื่อนไหว  ปล่อยให้คิเคียวเป็นอิสระ  คิเคียวคืนสภาพอาวุธพืชของตัวเอง  กระโดดลงสู่พื้นพลางหอบหายใจน้อยๆ  ฮาโอยิ้ม  หยุดยืนตรงหน้าเธอ
    “เธอเก่งมากนะ  คิเคียว  เธอเป็นคนแรกเลยล่ะที่ทำลายโอเวอร์โซลของฉันได้ถึงสองครั้งติดๆ กันน่ะ  แต่ขอเตือนหน่อยนะ  การต่อสู้แบบทุ่มสุดตัวของเธอไม่เกิดผลดีกับเธอเลยรู้มั้ย  ถ้าหากว่าเธอพลาดล่ะก็....ถึงตายทีเดียวนะ”
    คิเคียวนิ่ง  ค่อยๆ ยืนขึ้นมาเผชิญหน้ากับฮาโอ  ราจิมสลายโอเวอร์โซลของเขา  คิเคียวหันหลังเดินออกไปจากที่นั้นทันที  คนอื่นๆ รีบวิ่งเข้ามา
    “นี่ๆ  ฮาโอ  ตะกี้นายไม่ได้เอาจริงใช่มะ”  โฮโรโฮโรถาม  แทนคำตอบ  เมเด้นชูออราเคิลเบลล์ของเธอให้ทุกๆ คนได้ดูพลังชาแมนของคิเคียว
    “นะ...หนึ่งล้าน!!!”  ทุกๆ อุทานออกมาเบาๆ อย่างตื่นตระหนก
    ฮาโอยิ้ม
    “แหงอยู่แล้ว  ก็เขาเป็นคนแรกที่ทำให้ฉันบาดเจ็บได้นี่นะ”  เลือดของฮาโอค่อยๆ ไหลซึมออกมาจากหน้าผาก
    “นายไปทำอะไรให้เด็กคนนี้โกรธแค้นรึเปล่าน่ะ  ฮาโอ”  รีเซิร์กถามทันที
    “ฉันไม่เคยรู้จักคิเคียวมาก่อนในชีวิตของฉัน  รีเซิร์ก”  ฮาโอตอบ
    “นี่ๆ  รีบไปให้เฮาส์ทำแผลเถอะนะ  ฮาโอ  เลือดออกเยอะแยะเลยนะ”  โยพูด  พลางมองพี่ชายตัวเองด้วยความห่วงใย
    “นี่  แอนนา  เมเด้น  พวกเธอสองคนช่วยไปดูคิเคียวแทนฉันหน่อยได้มั้ย”  ฮาโอถาม
    “ทำไมล่ะ”  เมเด้นถาม
    เร็นตอบแทนฮาโอว่า
    “ก็เพราะรู้สึกว่าหล่อน...จะเจ็บหนักกว่าเจ้าหมอนี่เยอะเลยน่ะสิ”
    “เข้าใจแล้ว”  ทั้งคู่พยักหน้า
    ฮาโอยิ้ม
    “ถ้าอย่างนั้นก็ฝากด้วยนะ”
    ภายในห้องน้ำ  คิเคียวเดินเข้ามา
    “อุ๊บ....”  คิเคียวนิ่วหน้า  ปิดปาก ก่อนไอ  เลือดสดๆ กระเซ็นออกมาเปรอะเปื้อนมือที่เธอใช้ปิดปากตัวเอง
    “นายท่านครับ!!!”  โกคิปรากฏตัวขึ้นสีหน้าตื่นตระหนก  คิเคียวเปิดน้ำล้างเลือด  เธอกอบน้ำใส่ปากตัวเองก่อนบ้วนทิ้ง  น้ำกลายเป็นสีแดงฉาน  คิเคียวยิ้ม  พูดว่า
    “ไม่เป็นไร  โกคิ  ฉันประมาทหมอนั่นมากไปหน่อย”
    “นายท่าน...บาดเจ็บไม่น้อยทีเดียวนะครับ”  เขาอุทาน
    คิเคียวแค่นยิ้ม
    “ฉันไม่เป็นไรน่า  โกคิ  อย่าห่วงเลย  ยังไงก็ตามฉันก็ยังตายตอนนี้ไม่ได้หรอก  ฉันยังตายตอนนี้ไม่ได้....”
    “แต่ถ้าหากว่าเธอไม่รีบรักษา  เธอได้ตายจริงๆ แน่”  แอนนา  เมเด้นและทามาโอะเดินเข้ามา  คิเคียวขมวดคิ้ว  แต่ก็ไม่สนใน  ล้างมือที่อ่างล้างหน้าจนสะอาด  ทำท่าจะเดินฝ่าทั้งสามคนออกไป  แต่แล้วก็ชะงักเมื่อเซงกิและโกกิปรากฏตัวขึ้น
    “จะไปดีๆ รึว่าจะให้ใช้กำลังบังคับไป  คิเคียว”  แอนนาถาม เมเด้นพูดขึ้นว่า
    “เธอบาดเจ็บหนักมาก  ควรไปหาหมอนะ  คิเคียว”
    “นายท่านครับ....”  โกคิมองเธออย่างขอร้อง
    “เข้าใจแล้ว....”  คิเคียวถอนหายใจยาว
    ภายในห้องพยาบาล  เฮาส์กำลังพันแผลให้ฮาโอโดยมีอิเรซ่าเป็นผู้ช่วย  โดยมีพวกโยมองอยู่ห่างๆ
    “เรียบร้อยแล้ว”  เฮาส์พูด  ประตูเปิดออก  คิเคียวเดินเข้ามาโดยมีพวกแอนนาเดินตามหลัง
    ฮาโอยิ้ม  บนหัวเขามีผ้าพันแผลพันไว้
    “หวัดดี  คิเคียว  บาดเจ็บตรงไหนบ้างรึเปล่า” 
    คิเคียวไม่ตอบ  นั่งลงบนเก้าอี้ที่ห่างจากทุกๆ คนให้มากที่สุด  เฮาส์มองเธอ  ก่อนเริ่มตรวจอาการทันที  จากนั้นก็สั่งยารักษาอาการฟกช้ำภายในให้
    “ฉันจะให้ชามัครักษาให้นะ”  ชามัคปรากฏตัวขึ้นข้างกายเมเด้น  แต่คิเคียวก็ลุกขึ้น
    “ไม่จำเป็น”  เธอพูดตัดบทอย่างเฉยเมย
    “นี่เธอ!!!  ท่านเมเด้นอุตส่าห์หวังดีกับเธอนะ  พูดอย่างนี้ได้ยังไง!!!”  รีเซิร์กตวาดใส่  คิเคียวจ้องมองพวกเขาด้วยสีหน้าเย็นชา
    “ฉันไม่ได้ขอร้องให้พวกเธอช่วยซักหน่อย  ขอตัว”  คิเคียวเดินออกไปทันที
    “หนอยๆ  คนอะไรไม่น่าคบด้วยเลย”  โฮโรโฮโรตะโกนตามหลัง  ฮาโอมองตามคิเคียวไป
    เลิกเรียน  คิเคียวเดินออกมา  ราคิสต์กับมัลโก้ขับรถมารับพวกโยตามปกติ  ราคิสต์ชะลอความเร็วรถลง  ฮาโอยื่นหน้าออกมา
    “ไปส่งให้  เอามั้ย  คิเคียว”  คิเคียวไม่ตอบเดินต่อไป 
    “ตามไปมั้ยครับ  ท่านฮาโอ”  ราคิสต์ถาม
    “ไม่ต้องหรอก  กลับกันเถอะ  เฮ้อ  เป็นคนที่เข้าใจยากจริงๆ นั่นแหล่ะน้า  คิเคียว”  ฮาโอยิ้มอย่างอารมณ์ดี
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น