ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Shaman School

    ลำดับตอนที่ #1 : Lesson 1

    • อัปเดตล่าสุด 24 ส.ค. 48


         ภายหลังการแข่งShaman Fight สิ้นสุดลง  เผ่าปัจจ์และเหล่าชาแมน(สูงอายุ)ทั้งหลาย ตระหนักถึงความสำคัญของการปลูกฝังชาแมนรุ่นใหม่ๆ ให้เป็นผู้ทำหน้าที่ประสานรอยร้าวระหว่างมนุษย์กับเหล่าชาแมน  เพื่อให้พวกเขาทั้งสองสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข  พวกเขาจึงได้สร้าง Shaman School ขึ้น  เพื่อให้ชาแมนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้โลกภายนอก  โดยจะเปิดสอนในตอนเย็นของวันธรรมดาและวันหลยุด  สถานที่ที่เป็นที่ตั้งของ Shaman School ก็คือเกาะร้างซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันนั่นเอง  





         โลก....กำลังจับตาดูเหล่าชาแมน  และเด็กๆ ซึ่งเป็นชาแมนรุ่นใหม่นี่ล่ะที่จะแสดงพลังของเหล่าชาแมนให้โลกใบนี้ได้รู้







        เช้าวันอาทิตย์อันแสนแจ่มใส  ทามาโอะทำหน้าเจี๊ยมเจี้ยมอย่างที่เคยทำทุกๆ วัน  ไปรายงานแอนนาซึ่งอยู่ในห้องอาหารกับจุน  และเมเด้นว่า  การปลุกพวกโยของเธอไม่ได้ผล  พวกเขายังคงนอนหลับสนิท  และถ้าหากว่าพวกโยไม่ตื่นในอีกสิบนาทีนี้  พวกเขาทุกๆ คนจะต้องไปโรงเรียนสายอย่างแน่นอน  แอนนามีสีหน้าเฉยชาขณะที่ดื่มชาร้อนๆ อย่างช้าๆ



        “ก็เป็นแบบนี้ซะทุกที”  แอนนาเอ่ยขึ้น  



         จุนและเมเด้นยิ้ม

        “พวกเขาคงเหนื่อยกันมากน่ะ  หลังจากเรียนเสร็จแล้วก็มาเจอฝึกโหดของเธอต่อนี่นา”  



        “ขะ...ขอโทษค่ะ  ท่านแอนนา”  ทามาโอะโค้งแล้วโค้งอีก



        “เธอเป็นคนตื่นสายหรือไง  ถึงต้องมาขอโทษน่ะ”  แอนนาถามก่อนลุกขึ้น  หยิบประคำศักดิ์สิทธิ์ประจำตัวออกมา



        “คนที่ตื่นสายก็ต้องรับผิดชอบสิ”  พูดจบเธอก็ขึ้นไปชั้นบนทันที  (ภาวนาให้น้องโยรอดด้วยเถอะ  เจ้าประคู้ณ >_<)





         บนชั้นสอง  แอนนาเปิดประตู  ภาพของโย  ฮาโอ เร็น  โฮโรโฮโร  รีเซิร์ก  ชอกโก้เลิฟ  ริว  โอปาโจ ที่นอนระเกะรอกะทำให้ปรอทวัดความโกรธของแอนนาพุ่งสูงปรี๊ดทะลุ 100 องศาได้อย่างง่ายได้  เซงกิและโกกิปรากฏกายด้านหลังแอนนา  จากนั้น.........

        “โครม!!!.....เพล้ง!!!”



        “ว้ากกกกกกกก!!!”  ใครคนหนึ่งถูกแรงลึกลับถีบตกลงจากชั้นสองของบ้านหลังนั้น  นี่เป็นภาพที่เห็นจนชินตาทุกวัน  เมื่อแอนนาต้องมาเป็นผู้ปลุกพวกโยให้ตื่นไปโรงเรียน = =’’





         ไกลออกไป  บนยอดตึกแห่งหนึ่ง  เท้าคู่หนึ่งหยุดยืน  เงาร่างที่ดวงอาทิตย์ฉายแสงสาดส่องลงมา  เป็นเงาร่างของเด็กหญิงผมยาวจนเกือบถึงกลางหลัง  เด็กสาวผู้มีผมสีน้ำตาลทองอยู่ในชุดรัดรูปสีดำสนิทไร้การประดับตกแต่งใดๆ  ดวงหน้าที่เย็นชาไร้ความรู้สึกจับจ้องมองไปยังโรงเตี๊ยมญี่ปุ่นเก่าๆ อันเป็นที่พักของพวกโย  ไม่มีสัญญาณใดๆ ที่จะแสดงความรู้สึกหรืออารมณ์ของเด็กสาวผู้นั้น  มันเหมือนกับเธอเป็นเพียงรูปปั้น....รูปปั้นที่มีชีวิตเท่านั้น





         พวกโยลงมาจากชั้นสองด้วยสภาพที่ถูกซ้อมจนสะบักสะบอม

        “โย  แอนนามือหนักขึ้นทุกวันแล้วนะ”  โฮโรโฮโรบ่นงึมงำ  พลางลูบแก้มที่เป็นผื่นแดงไปมา  ฮาโอยิ้ม



        “นายไม่ควรนอนกรนเสียงดังต่อหน้าเธอนะ  โฮโรโฮโร”  ฮาโอเป็นเพียงผู้เดียวที่ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน  เพราะไม่ว่าแอนนาจะทำอะไร  เขาก็ใช้วิชาสลายพลังชาแมนสลายพลังของเธอไปหมด  แอนนาจึงหันมาระบายความโกรธกับพวกโยแทน  แม้แต่โยที่เป็นคู่หมั้นก็โดนซ้ายมายาไปสองฉาดเล่นเอาตาสว่างเลย = =’’



        “เธอควรบอกแม่นั่นให้เลิกจุ้นจ้านกับพวกเราได้แล้ว  ไม่อย่างนั้นจะหาว่าฉันรังแกผู้หญิงไม่ได้นะ”  เร็นเตือน  ฮาโอหัวเราะเบาๆ  เร็นจ้องเขาตาขุ่น  แต่ฮาโอไม่สนใจ  อุ้มโอปาโจที่กระเย้อกระแย่งพยายามปีนขึ้นไปแปรงฟันที่อ่างล้างหน้า  



        “ชีสสสสสสสสส  พวกนายหยุดทะเลาะกันได้แล้วนะ  ไม่อย่างนั้นเราจะต้องไปโรงเรียนสายแน่ๆ  และถ้าเราไปสายล่ะก็....”  ช็อกโก้เลิฟหยุดเว้นระยะ  ทุกคนพร้อมใจกันนึกภาพแอนนาโหมด SM แล้วก็รีบสะบัดหน้า  รีบจัดการธุระส่วนตัวอย่างรวดเร็ว





         พวกโยยกขบวนลงมาห้องอาหาร  ทามาโอะพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักว่า

        “อะ..อาหารเช้าพร้อมแล้วค่ะ”



        “ขอบใจนะ  ทามาโอะ”  โยยิ้ม  เมเด้นที่นั่งอยู่ที่โต๊ะลุกขึ้นทันทีเมื่อเห็นฮาโอ  ทั้งคู่สบสายตากัน  เมเด้นเป็นฝ่ายบอกว่า



        “รู้สึกว่า....มัลโก้กับราคิสต์จะมาแล้ว  พวกเธอควรเร่งมือหน่อยนะ  ไม่อย่างนั้นเราจะต้องสายแน่ๆ”  แล้วเธอก็เดินออกไป  ยังไงๆ ทั้งคู่ก็เคยเป็นศรัตรูคู่อาฆาตกันมาก่อนก็เลยมองหน้ากันไม่สนิทนัก  ฮาโอนั่งลงตรงที่นั่งของเขา



        “ทานเลยนะคร้าบบบบ!!!”  ทุกคนรีบจัดการอาหารเช้าของตัวเองอย่างรวดเร็ว  เพื่อให้ทันเวลา  ก่อนรีบวิ่งออกไปขึ้นรถของราคิสต์และมัลโก้ซึ่งจอดรออยู่ด้านนอก





         ด้านนอก  พวกผู้ชายพากันอัดกระป๋องอยู่ในรถของราคิสต์ ขณะที่พวกผู้หญิงนั่งในรถของมัลโก้  เมื่อขึ้นรถได้  โฮโรโฮโรก็บ่นต่อไปว่า

        “ทำไมฉันจะต้องมานั่งเบียดกับพวกนายอย่างนี้ด้วยนะ”



         ราคิสต์เหล่มองก่อนเอ่ยขึ้นว่า

        “ถ้าหากว่านายมีปัญญาที่จะสร้างโอเวอร์โซลพาตัวเองไปให้ถึงโรงเรียนในเวลาสิบนาที  ก็ขอเชิญลงจากรถฉันได้เลย  โฮโรโฮโร”  โฮโรโฮโรหุบปากเงียบ  ไม่พูดอะไรอีก  ฮาโอที่นั่งหน้ากับโอปาโจและโยชะงัก  เมื่อเขาแหงนหน้ามองขึ้นไปก็พบกับเด็กสาวที่มีนัยน์ตาเย็นชาผู้นั้น  แต่พอกระพริบตาอีกที  เธอก็หายไปแล้ว  สายลมที่โชยแผ่ว  ได้พัดกลีบดอกไม้ปลิวลงมาสู่มือของฮาโอที่ยื่นมือไปรับ



        “อะไรเหรอ  ฮาโอ”  โยที่นั่งเบียดกับเขาถามขึ้น



        “กลีบกุหลาบน่ะ ไม่มีอะไร”  เขาตอบอย่างใจลอย  กลีบกุหลาบในมือของฮาโอ  แทนที่มันจะเป็นสีแดงสดอย่างที่กุหลาบธรรมดาควรจะเป็น  แต่มันกลับเป็นสีแดงคล้ำ  ราวกับเลือดที่แข็งตัวจนแห้ง...นี่เป็นลางบอกเหตุรึเปล่านะ  เขาคิดในใจ



        “กระผมจะออกรถนะครับ  ท่านฮาโอ”  ราคิสต์เอ่ยขึ้น  ทำให้ฮาโอตื่นจากภวังค์



        “อะ...อืม”  ฮาโอพยักหน้า  กลีบกุหลาบถูกลมพัดปลิวหายไป



        “คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง”  ฮาโอปลอบใจตัวเองก่อนจะเหม่อมองทิวทัศน์ข้างนอกต่อไป  



         เมื่อรถสองคันนั้นลับตาไป  เด็กสาวลึกลับก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

        “อาซาคุระ  ฮาโอ  เจ้าของ Spirit of Fire(SoF) กับกลุ่มนักรบศักดิ์สิทธิ์ผู้ถือครองวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าปัจจ์อย่างนั้นเหรอ....”  ริมฝีปากบางสีกุหลาบเหยียดยิ้ม  ด้านหลังของเด็กสาว  มีวิญญาณขนาดใหญ่ยืนอยู่  ลักษณะของมันเหมือนกับ SoF หากแต่วิญญาณดวงนี้กลับมีสีซีดจางจนแทบจะมองไม่เห็น  อีกด้านของเด็กสาวเป็นวิญญาณของเด็กหนุ่มอายุพอๆ กับเธอ  เด็กหนุ่มผู้นั้นอยู่ในชุดขององเมียว  หากแต่เขาก็สวมเกราะของทหารโบราณอยู่ด้วยทำให้ดูแปลกตาไปอีกแบบ



        “จะสายแล้วนะครับ  นายท่าน”  วิญญาณเด็กหนุ่มพูด  เธอผู้นั้นชะงัก  หันมายิ้มให้กับเขา



        “อา....นั่นสินะ  ขอโทษนะที่ทำให้เธอต้องเป็นห่วง  โกคิ  ฉันเพียงแต่มีอะไรให้คิดนิดหน่อยน่ะ  เอาล่ะ  พวกเรารีบไปกันดีกว่านะ  Spirit of Soul(SoS)  เข้าเรียนวันแรก  ฉันไม่อยากจะสายเสียด้วย”  และแล้ว  หนึ่งคนกับสองดวงวิญญาณก็หายตัวไปอย่างเงียบกริบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×