ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    History Book

    ลำดับตอนที่ #1 : Page 1 : Time

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 63






    เรื่องราวของผู้ที่มีพลังเศษ
    หญิงสาวที่สามารถควบคุมกาลเวลาได้
    มีเเต่เธอเพียงผู้เดียวที่รู้ว่า

    คำขอที่ทุกคนต่างก็พูดว่า

    ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็คงดี

    มันก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิด


    ถ้าคุณกลับไปได้เเล้วจะทำยังไงล่ะ คุณจะไปยืนมองภาพนั้นอีกรอบหรอ


    ถ้าตัวตนในอดีตหยุดเวลาขึ้นมา..เเล้วคุณจะไปทำอะไรได้

    ถ้าคุณไปก่อนหน้าเวลาที่จะหยุดเพื่อไปคุยกับตัวคุณในอดีตคิดว่าจะทำได้หรอ


    ทุกอย่างมันไม่ได้เป็นเหมือนที่เราคิดไว้หรอกน


    เพราะอะไรน่ะหรอ

    เพราะมีคนลองเเล้วไงล่ะ

    เธอย้อนไปหลายต่อหลายรอบเเต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม
    คำตอบก็คือ


    ไม่มีอะไรเปลี่ยนเเปลงเลย



    เพราะฉะนั้น
    จงอยู่กับปัจจุบัน เเล้วสิ่งดีๆก็จะเกิดขึ้นเอง


    Oh, love

    How I miss you every single day when I see you on those streets

    Oh, love

    Tell me there's a river I can swim that will bring you back to me

    'Cause I don't know how to love someone else

    I don't know how to forget your face

    Oh, love

    God, I miss you every single day and now you're so far away


    So far away



    Application




    “ฉันน่ะไม่มีความรู้สึกหรอกนะ” “เพราะฉันไม่มีหัวใจยังไงล่ะ


    “ฉันน่ะ...ไม่ยอมให้มาเอามันไปง่าย ๆ หรอกนะ ถ้าอยากได้ลองใช้ใจของเธอดูสิ♡”

    “ใจหรอ ฉันไม่มีของเเบบนั้นนะคะ รุ่นพี่”

    “งั้นเดี๋ยวฉันจะเป็นคนสร้างมันให้เธอเอง สิ่งที่เรียกว่าหัวใจน่ะ



    ชื่อ: คุมิโกะ ไอมิ // Kumiko Aimi

    ชื่อเล่น : ไอมิ หรือ ไอ

    ความหมาย: คุมิโกะ - เด็กสาวที่งามนิรันดร์

                        ไอมิ - ความรักที่สวยงาม

                        ไอ - ความรัก

                        คุมิโกะ ไอมิ - เด็กสาวที่งามนิรันดร์เเละความรักที่สวยงาม

    คนที่ท่านจะไปขโมยอัญมณีคือ: คิเสะ เรียวตะ // Kise Ryouta


    พลังพิเศษ:Control The Time หรือควบคุมกาลเวลา ก็เหมือนกับชื่อคือการควบคุมเวลานั้นเองเธอสามารถย้อนเวลา หยุดเวลา เเต่ที่ทำไม่ได้คือก็ไปอนาคตก็เหมือนกับนักท่องเวลาคนนึงเท่านั้นเเต่จะเรียกว่านักท่องเวลาก็ไม่ถูกนักเพราะเธอสามารถไปอนาคตได้เพราะอนาคตคนเราเปลี่ยนเเปลงได้เสมอการจะไปดูมันไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าไหร่เเค่พลังหยุดเวลาก็ใช้พลังมากเเล้ว ย้อนเวลายิ่งไปกันใหญ่เเล้วถ้าเธอไปอนาคตเธอก็คงอาจจะไม่พ้นคำว่าตายก็ได้นะ

    Go to The Past - หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือย้อนเวลาก็เหมือนกับชื่อนั้นเเหละก็คือการย้อนเวลาเเต่ก็ไม่ใช้เรื่องง่ายที่เธอจะทำเเบบนั้นการย้อนเวลานั้นป็นการใช้พลังของผู้มีพลังนั้นเป็นจำนวนมาก ในระหว่างที่ย้อนเวลาเธอจะมีอาการปวดหัวเล็กน้อยเพราะตัวเธอนั้นกำลังจะเปลี่ยนเเปลงอดีตจึงส่งผลต่อความทรงจำของเธอมาก เธอใช้พลังนี้ได้ไม่นานมากมากสุดก็คือ 5 นาที ถ้าใช้มากกว่านั้นก็อาจจะมีผลข้างเคียงอาจถึงตายเลยก็ได้
    Stop The Time - หรืออีกชื่อก็คือการหยุดเวลาก็หยุดเวลานั้นเเหละเเต่ความสามารถนี้จะใช้ได้นานกว่าความสามารถเเรกเพราะก็ไม่ได้ใช้พลังมากเท่ากับอันเเรกเเต่ก็ใช้พลังมากอยู่ดี ถ้าเป็นไปได้เธอจะไม่ใช้พลังเเบบพรำ่เพรื่อเพราะใช้เเต่ละครั้งเธอก็เหนื่อยไม่ใช่เล่น เธอใช้พลังนี้ได้มากที่สุด 10 นาทีเเละสามารถทำให้กลับมาเป็นเวลาเดิมได้ตามต้องการ
    ปล.พลังนี้ถ้าใช้มากไปอาจเป็นลมหมดสติได้เลยบางครั้งต้องขอไปห้องพยาบาลไม่ก็ต้องขอกลับบ้าน

    อายุ : 22

    เพศ: หญิง


    ลักษณะภายนอก: หญิงสาวที่มีใบหน้าเเละรูปร่างที่งดงามดุจพระเจ้าสร้างสรรค์ออกมาโดยไร้ตำหนิใดๆจนคนหลายๆคนก็ยังอิจฉาในตัวของเธอ ร่างโปร่งที่งามสง่าเมื่ออยู่ยืนต่อหน้าผู้ใดก็ตามก็จะดูดีสวยเด่นเป็นสง่าโด่ดเด่นมากกว่าคนอื่นเป็นไหนๆ ผิวขาวสะอาดมีสีเเดงระเรื่อที่ไม่มากนักก็เหมือนกับหญิงสาวที่สุขภาพดีทั่วไปที่ได้รับการดูเเลผิวพรรณมาเป็นอย่างดี มีรูปร่างเเละสัดส่วนที่ดูสวยงาม ขนาดอกก็พอเหมาะไม่ใหญ่เเละไม่เล็กเรียกว่าคัพซีก็คงใช่ เอวเเละสะโพกมีส่วนโคงที่พอเหมาะเป็นรูปนาฬิกาทรายสวยงามเเขนขาเรียวยาวพอเหมาะ เหมาสมกับขนาดตัวของหญิงสาวโดยรวมเเล้วรูปร่างของหญิงสาวเป็นคนที่มีค่อนข้างหุ่นดีเป็นรูปร่างที่ใครหลายๆคนต้องการ เธอสูง 167 ซม. หนัก 54 กก. เราพูดถึงรูปร่างมาพอตัวเเล้วเรามาพูดถึงใบหน้ากันบ้างดีกว่าใบหน้าของหญิงสาวนั้นก็ไม่เชิงว่าสวยสักเท่าไหร่เเค่มองเเล้วก็ดูเพลินตาไปอีกเเบบไม่ว่าจะนัยน์ตาสีม่วงดุจสีของอัญมณีอเมทิสที่มีสีม่วงเเต่ก็ไม่ได้ม่วงมากเท่าที่ควรก็จะออกสีชมพูจางๆที่เเวววาวที่มองสะท้อนภาพของคนตรงหน้าได้อย่างงดงามเเละมือมาอยู่กับขนตายาวหนาเรียงตาอยู่บนเปลือกตาอย่างงดงาม จมูกโด่งได้รูปเเละริมฝีปากที่มีสีของเชอรรี่ที่ดูหวานเเละน่าลิ้มลองไม่ว่าใครเห็นก็ไม่อาจจะอดใจได้ใบหน้าที่มีสีเเดงระเรื้อเล็กน้อยดูเเล้วก็น่ารักไม่น้อย มาต่อกันที่ผมของเธอนั้นมีสีม่วงอมชมพูอ่อนๆดุจดอกสุมิเระสีม่วงอ่อนที่มองเเล้วรู้สึกสะบายตาเส้นผมของเธอนิ่มดุจเส้นไหมที่คนท่อผ้าบรรจงทำขึ้นมาเป็นอย่างดีส่วนมากเเล้วเธอจะมัดผมเปียห้อยลงมาเเละจะมัมันด้วยริบบิ้นสีสีม่วงเข้มดังสีดอกสุมิเระที่มีสีเข้ม เวลาเธอมาญี่ปุ่นก็จะเเต่งตัวสบายๆพวกเสื้อมีปกกับกระโปงเเละเวลาเธออยู่ที่อเมริกาก็จะใส่เสื้อมีปกเเละใส่เสื้อคลุมอีกชั้นหนึ่งเเละกระโปงที่ยาวไม่เกินเข่าพออยู่บนตัวก็ดูดีไม่น้อยเเม้ว่าจะเป็นเสื้อผ้าธรรมดาก็ตาม


    นิสัย: 

             เด็กสาวที่มีดีกรีถึงนักเเสดงสาวผู้เล่นได้หลายบทบาทนั้นเป็นที่รู้จักของคนมากมายเพราะเธอนั้นเป็นนักเเสดงตั้งเเต่อายุยังน้อยเเละโด่งดังมากเเม้เเต่คนในวงการยังต้องให้การยอมรับถึงเเม้ตอนเเรกจะไม่ชอบเพราะคิดว่าอาจใช้เส้นมาก็ได้เเต่ไม่จริงเลยเธอนั้นเเสดงให้คนอื่นเห็นว่าเธอนั้นใช้ความสามารถของตนเองล้วนๆซึ่งไม่เกี่ยวกับพ่อเเม่ซึ่งมีเส้นสายจากอาชีพนี้มาก่อนเธอ โดยภายนอกที่คนทั่วไปมักเห็นนั้นเธอเป็นคนที่ร่าเริง ยิ้มเเย้มเเจ่มใสอยู่เสมอเพราะเวลาที่มาทำงานก็จะกล่าวคำทักทายพร้อมกับยิ้มให้เสมอ มาพร้อมกับการเเต่งตัวในเเบบของเธอเวลาไปทำงานคือใส่เสื้อยาวกางเกงขายาวมัดผมรวบผูกริบบิ้นใส่เเว่นกันเเดดเเละนาฬิกาข้อมือติดตัวอยู่เสมอเป็นชุดธรรมดาไม่เด่นเท่าไหร่นักเวลาไปทำงานเธอก็ไปได้อย่างสะดวก

               เธอเป็นคนตรงต่อเวลามากเธอไม่เคยจะไปนัดสายเลยซักครั้งก็นะคนควบคุมเวลาไม่ตรงต่อต่อเวลาก็ไม่รู้ว่าจะพูดว่าอะไรล่ะ ไม่ว่าจะทำงาน เวลาเข้าเรียน เวลาในการทำอาหาร เวลาอาบนำ้ เวลากินข้าว เวลาอ่านหนังสือ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเวลาของเธอถือว่าเป๊ะมากทำคนอื่นต่างคิดว่าถ้ามาไม่ตรงเวลาเนี่ยคงดูไม่ดี เธอเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบรอใครเวลาที่คนนั้นนัดเเล้วมาสายเธอเเต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรเเต่เเค่ใช้สายตามองเป็นนัยๆว่า เป็นคนนัดมาเองเเต่มาช้าหรอหรือไม่บางครั้งเธอก็อาจพูดออกไปเลยเเต่ก็ไม่ได้เเรงนัก Ex.

                “เเหม ไปไหนมารึป่าวคะมาช้าจังเลย”เธอพูดออกมาพร้อมกับยิ้มเเล้วก็เอียงคอเล็กน้อย

    เรื่องการเรียนของเธอนั้นก็อยู่ในขั้นโดดเด่นไม่ใช่น้อยท็อป20 ของสายชั้นเลยก็ว่าได้ หลายๆวิชาที่ทำค่อนข้างออกมาดีเเต่ก็นะคนเราไม่ได้เก่งไปหมดหรอกยังไงก็ต้องอ่อนอันนั้นอันนู้นบ้างอยู่ดี เเละเเน่นอนคุมิโกะ ไอมิคนนี้ก็มีวิชาไม่ถนัดเหมือนกันวิชาอะไรทุกคนก็คงอยากรู้ นั้นก็คือวิชาสุขศึกษาไง(คนเขียน//ยิ้มเเปป) มีเเค่วิชานี้ที่เธอทำได้ไม่ค่อยดีนักเพราะเหตุก็ไม่ทราบหรือฟังกลั่นเเกล้งเธอทุกงานถ่ายของเธอนั้นมักจะมาตรงกับวิชาสุขศึกษาบ่อยมากทำให้เธอไม่ค่อยเข้าใจเเละทำให้เธอต้องกลับมาอ่านทบทวนที่หลังซึ่งก็ไม่เข้าใจอยู่ดีพอกลับมาก็จะให้เพื่อนช่วยสอนเรื่องนี้อยู่เสมอ

    เธอเป็นผู้หญิงสุภาพ เรียบร้อยเธอได้รับการปลูกฝั่งมารยาทจากคุณน้ามาตั้งเเต่เด็ก น้าของเธอนั้นรักเธอเเละน้องสาวของเธอเหมือนลูกเเท้ น้าของเธอสอนเธอทำหลายสิ่งหลายอย่างเผื่ออนาคตถ้าน้าของเธอนั้นไม่อยู่เธอก็จะทำอะไรต่างๆได้ด้วยตัวของตัวเองได้ เธอมักพูดจาสุภาพกับคนหลายๆคนไม่ว่าจะเป็นเพื่อนของเธอหรือผู้ใหญ่ คนที่เพิ่งเจอหรือคนที่ร่วมเเสดงของเธอเเละผู้จัดการขอเธอด้วย ผู้จัดการของเธอนั้นเคยเป็นผู้จัดการของเเม่เธอมาก่อนเธอจึงไม่ค่อยจะห่วงอะไรมากในการทำงานเเต่ละครั้ง

    นอกจากน้าของเธอจะปลูกฝั่งเรื่องมารยาทด้วยเเล้วก็ยังสอนเรื่องการบ้านการเรือนให้เธออีกด้วยไม่ว่าจะเป็นการถักเย็บ หรือการทำอาหาร เเละอีกหลายๆอย่างเรียกได้ว่าเธอนั้นซึมซับเข้าหัวได้อย่างรวดเร็ว ในเรื่องการทำอาหารเธอก็ถือได้ว่าทำเก่งพอใช้เลยทีเดียวก็คือกินเเล้วไม่ตาย(เพราะงั้นคีจังไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ)เรื่องการกวาด ถูดูเเลบ้านก็ทำเก่งไม่น้อยเหมือให้เธอเกิดมาด้วยมีความเก่งในหลายๆด้านทำให้ทุกคนก็อดอิจฉาไม่ได้เเต่อิจฉาในที่นี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเกลียดเธอเเต่เเค่รู็สึกว่าเธอเก่งจนอยากเก่งบ้างก็เท่านั้น

    การเข้าหาผู้อื่นของเธอนั้นก็เก่งไม่ใช่ย่อยเพราะไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนต้องพูดคุยกับคนที่ตัวเองเจออยู่เสมอถึงทำให้คนอารมณ์เสียเพลาๆความโกรธลงมาได้หน่อยเมื่อมาเจอหน้ายิ้มเเย้มของเธอไม่ว่าเพื่อนของเธอจะทะเลาะอยู่นั้นเธอก็จะห้ามทันทีเมื่อเห็นเพราะเธอไม่อยากให้เธอต้องเกลียดกันเเค่เรื่องเล็กๆก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ซะงั้นเธอจึงค่อยช่วยห้ามเพื่อนเเต่วิธีของเธอนั้นก็ไม่ใช่เดินไปบอกว่าหยุดทะเลาะกันเเต่มันก็ไม่เชิงว่าห้ามหรอกนะเพราะเธอไม่ได้พูดอะไรที่จะทำให้สองคนนี้หยุดทะเลาะกันได้เลยก็เเค่

    “ทั้งสองคนพวกเราน่ะ เย็นนี้ไปกินร้านคาเฟ่เปิดใหม่กันมั้ยเย็นนี้ฉันว่างน่ะ

    เพียงเเค่คำพูดนี้ทั้งสองก็จะหยุดทะเลาะกันเเล้วตอบตกลงทันที

    การรับผิดชอบงานก็สำคัญเหมือนกันนะ เพราะจะสื่อถึงบุคลิคของคนๆนั้นได้อย่างชัดเจนถ้าเราขาดความรับผิดชอบเราก็ไม่ต่างจากคนพูดเเล้วไม่รับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองพูดออกมา ใช่ไอมิก็เช่นเดียวกันเธอเป็นคนที่รับผิดชอบงานของตนเองทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายอย่างดีเพราะเธอนั้นไม่ได้เเค่เรียนอย่างเดียวเเต่ยังทำงานไปด้วย เธอถึงต้องจัดระเบียบทั้งเวลางานเเละเวลาเรียนอยู่เสมอมีงานอะไรบ้างตอนที่เธอไม่อยู่เธอมักจะคอยถามเพื่อนอยู่เสมอ

    เธอเป็นคนจัดการเเละวางเเผนทุกอย่างได้เป็นอย่างดีโดยถึงมีอะไรอยู่เหนือความคาดหมายของเธอเกิดขึ้นเธอก็จะยังคงทำตัวปกติเหมือนไม่อะไรเกิดขึ้น เพราะเวลาเธอไปถ่ายหนังเธอมักจะมีพูดบทผิดอยู่บางไม่ก็มีคนพูดบทผิดเธอก็จะพูดต่อจากประโยคอย่างลื่นไหลชนิดที่ว่าบ้างครั้งผู้กำกับยังไม่รู้เลยว่าเธอพูดบทผิด ก็นะไม่เชิงว่าวางเเผนหรอกเเต่จะเรียกมาเนียนต่อไปได้อีกก็ไม่ว่ากันเพราะยากที่จะเห็นเธอชักสีหน้าออกมาเเต่เรื่องการวางเเผนของเธอก็เป็นเลิศเช่นเดียวกัน

    เธอรักน้า อาเเละน้องสาวเธอมากเพราะน้าเเละอาเป็นคนเก็บเธอมาเลี้ยงหลังจากที่พ่อเเละเเม่ของเธอเสียเเละเธอก็ยังรักน้องด้วยเพราะน้องสาวของเธอเป็นคนที่เหลือในครอบครัวของเธอคนสุดท้าย เธอจะรักคนในครอบครัวของเธอเท่านั้นส่วนเพื่อนก็ไม่เท่าไหร่ เเละเธอก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องความรักสักครั้งเพราะเธอนั้นไม่เคยสนใจอะไรพวกนี้อยู่เเล้วเธอก็ไม่เคยคิดเรื่องนี้สักครั้งในหัวเลย

    ถ้ามีคนสังเกตดีๆเราก็บอกไปเเล้วว่าเเค่สิ่งที่ทุกคนเห็นเเค่ภายนอกเท่านั้น

    เรามาเริ่มของจริงกันดีกว่า

                        เธอไม่ใช่คนที่ยิ้มเเย้มเเจ่มใสอย่างที่ทุกคนนั้นเห็นกันมันก็เเค่การเล่นละครง่ายๆที่เธอทำเป็นกิจวัตประจำวันของเธอ ไม่งั้นจะไปเป็นนักเเสดงได้ไงจริงไหมเพราะเธอไม่เคยมีความรู้สึกอะไรทั้งสิ้นตั้งเเต่เสียพ่อเเม่ไปนั่นก็ทำให้เธอเสียสิ่งที่เรียกว่าหัวใจตามไปด้วยเพราะงั้นถ้าไม่มีก็เสเเสร้งทำเอาก็ได้ไม่ใช่หรอเพราะมันไม่ใช่เรื่องอยากสำหรับนักเเสดง เเต่ความรู้สึกที่เธอมีเพียงอย่างเดียวก็คือความเศร้าส่วนเรื่องการเรียนนั้นเพราะเธอไม่อยากให้คนเป็นน้าเเละอาคิดว่าเธอเเละน้องสาวเป็นภาระจึงต้องตั้งใจเรียนเพื่อพวกคุณน้าเเละคุณอาของเธอจะได้สบายใจ การที่เธอต้องการเข้าหาคนอื่นนั้นก็เพื่อเเสดงความเป็นมิตรไงก็ไม่ใช่อยากจะมีเพื่อนหรอกนะเพื่อนอะไรพวกนี้ก็ไม่เคยทำให้ความรู้สึกของหญิงสาวคนนี้มีความสุขเลยสักครั้งเเม้ว่าเธอจะเเอบหวังอยู่ว่าจะมีคนทำให้เธอมีความรู้สึกบ้างก็เท่านั้น...........เเต่ไม่มีใครทำได้หรอก เธอหวังว่าจะมีคนมาสร้างสิ่งที่เรียกว่าหัวใจให้เธอ


    ประวัติ: คุมิโกะ ไอมิ เด็กสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น-อังกฤษเธอมีพ่อซึ่งเป็นคนญี่ปุ่นเเละคุณเเม่ที่เป็นคนอังกฤษทั้งสองคนพบเจอโดยบังเอิญโดยเเม่ของไอมิ คุมิโกะ อายะ เธอเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-อังกฤษเช่นเดียวกันเธอทำงานเป็นนักเเสดงที่อังกฤษเเละพ่อของเธอคุมิโกะ ไอโนะ ซึ่งเป็นนายเเบบชื่อดังของญี่ปุ่นทั้งสองคนเจอกันที่ญี่ปุ่นโดยอายะต้องมาถ่ายงานที่ญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิเเละทำให้สองคนนั้นเจอกันโดยบังเอิญเเละตกหลุมรักกันตั้งเเต่เเรกเห็น จากนั้นไม่นานทั้งสองคนก็ได้เเต่งงานเเล้วกำเนิดลูกสาวออกมาเธอมีชื่อว่าคุมิโกะ ไอมิ

                  ไม่นานนักเมื่อข่าวกระจายออกไปครอบครัวคุมิโกะก็กลายเป็นครอบครัวที่โด่งดังขึ้นมาทันทีไม่ว่าจะเป็นพ่อที่ดีกรีถึงนายเเบบเเละเเม่ที่เป็นนักเเสดงโด่งดังเเล้วยังมีลูกสาวที่เเสนน่ารักอีกทำให้ครอบครัวนี้มีชื่อเสียงมาก ลูกสาวของครอบครัวนี้เป็นเด็กสาวที่น่ารัก ร่าเริงเเละเเจ่มใสอยู่ตลอดเวลาในให้มีเป็นที่รักของเพื่อนๆ เเละผู้ใหญ่มากมายเธอเป็นคนที่อ่อนโยน เเละใจกว้างทำให้ทุกคนรักเธออยู่เสมอเเต่บางครั้งเธอก็เคยเเอบคิดนะว่า...

                   'การที่ฉันมีเเต่คนรุมล้อมเนี่ย....เพราะครอบครัวรึป่าวนะ'

    เคยมีครั้งหนึ่งที่เธอเคยคิดเเบบนั้น

    ผ่านได้หลายปีเเล้วไอมิมีอายุ 8 ขวบ โดยความรักของพ่อเเละเเม่ที่มีให้การทำให้ให้เเม่ของไอมิตั้งครรภ์อีกครั้งหนึ่งซึ่งก่อนที่น้องเธอคลอดออกมาเธอก็ได้รับฟังคำพูดมากมายให้หัวเรื่องของการมีน้องมันเป็นยังไงถ้ามีเเล้วความรู้สึกจะเป็นอย่างไร

    “คุมิโกะจังกำลังจะมีน้องหรอ”เด็กสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นของไอมิได้เดินเข้ามาหาเธอ

    “อืม ทำไมหรอ”ไอมิที่ได้ยินคำถามก็ได้ตอบกลับไปเเละถามคนตรงหน้าเช่นเดียวกัน

    “ก็นะฉันก็มีน้องน่ะ ฉันคิดว่าการมีน้องมันไม่ค่อยดีน่ะ”เด็กสาวตรงหน้าเอ่ยออกมา

    “ฉันก็ว่าไงเเหละ มีน้องเเล้วรู้สึกว่าพ่อเเม่ไม่รักยังไงไม่รู้สิ”อยู่ดีๆก็มีเด็กสาวอีกคนหนึ่งเดินมาอีกคนพร้อมพูดถึงน้องสาวของเธอ

    “จริงหรอ ?”ไอมิถามกลับไป

    พวกเธอคุยได้กันอยู่เรื่องนานได้สักพักหนึ่งก็ที่เธอจะเริ่มเข้าเรียนกัน ทำไอมิรู้ว่าการมีน้องมันก็ไม่ใช่เรื่องดีอย่างที่คุณพ่อคุณเเม่เคยบอกไว้เลย

    “จริงหรอคะ คุณเเม่?”ในตอนนี้เธอกำลังถามคุณเเม่ของเธอด้วยเเววตาเปล่งประกาย

    จริงสิจ๊ะ ถ้าหนูมีน้องเวลาคุณพ่อกับคุณเเม่ไม่อยู่หนูก็จะไม่เหงานะ”ผู้เป็นเเม่ได้ตอบกลับเธอ

    มันจะจริงไหมนะที่เเม่ของเธอบอก เธอเริ่มครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่สักพัก

    เมื่อไอมิมีอายุ 9 ขวบคำตอบของไอมิก็มาถึงน้องสาวของเธอคลอดออกมาได้ไม่นานเธอก็รู้สึกถึงความผิดปกติของครอบครัว น้องสาวของเธอชื่อว่าคุมิโกะ ไอนะน้องสาวของเธอป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่ค่อนข้างอันตรายเป็นอย่างมากทำให้พ่อเเละเเม่ของเธอต้องดูเเละน้องสาวของเธอเป็นพิเศษซึ่งก็ไม่ต่างจากที่เธอคิดเท่าไหร่เลยเหมือนที่เพื่อนๆพูดกันจริงๆด้วย 'ฉันก็ว่าไงเเหละ มีน้องเเล้วรู้สึกว่าพ่อเเม่ไม่รักยังไงไม่รู้สิ' ทุกๆครั้งที่เธอเห็นเเม่กับพ่อกลับมาก็คือพวกเขาจะไปหาน้องสาวของเธอก่อนเสมอมันก็ทำให้เธออดน้อยใจในเรื่องนี้ไม่ได้ เเต่เธอก็ไม่ได้เเสดงความรู้สึกที่น้อยใจให้กับคนเป็นพ่อเเละเเม่ได้เห็น

    เวลาผ่านมา6ปี ไอมิก็เริ่มจะพอรู้บ้างเเล้วว่าทำไมพ่อเเม่ถึงมักจะดูเเละน้องเสมอถึงเธอจะเเอบน้อยใจอยู่บ้างเเต่เธอก็ไม่ได้เกลียดน้องสาวของเธอเลยเมื่อเธอโตขึ้นเธอก็เริ่มจะคิดได้ความสามารถของเธอเริ่มออกมาให้เห็นในหลายๆด้านเเละเริ่มมีเเมวมองมาชวนเธอไปเป็นนักเเสดงจากการที่รู้ว่าเธอเป็นลูกของคุมิโกะ อายะเเต่เธอก็ยังปฏิเสธไปเเล้วบอกว่าถ้าสนใจจะติดต่อกลับไปเพราะตอนนี้เธออยากทำหน้าที่ในเรื่องการเรียนของเธอให้ได้ดีที่สุด เธอเคยคิดที่จะไปเที่ยวกับครอบครัวสักครั้งหนึ่งด้วยกันทั้งบ้านเเต่มันก็อยากเหลือเกินที่จะทำเเบบนั้นไม่กี่วันต่อมาน้องสาวของเธอก็ได้คุยกับเธอ

    “พี่คะ หนูอยากลองไปเที่ยวด้วยกันกับพ่อเเม่เเล้วก็พี่ด้วยจังเลยค่ะ”ในขณะที่น้องสาวของเธอกำลังทำการบ้านอยู่นั้นก็ได้พูดขึ้นมา

    “อืม พี่ก็อยากไปนะเเต่คุณพ่อคุณเเม่น่ะสิ”ไอมิได้ตอบน้องสาวของตนเองออกไป

    “อยากไปจังเลย”น้องสาวของไอมิพูดเเละก้มหน้าก้มตาทำการบ้านของเธอต่อไป

    “งั้นพี่ไปขอให้ก็ได้”หญิงสาวเห็นสีหน้าของน้องสาวของตัวเองก็อดไม่ได้ที่จะขอให้

    “จริงหรอคะ ขอบคุณมากนะคะ”เมื่อเด็กสาวได้ยินได้นั่งก็ยิ้มเเละหันมากล่าวขอบคุณก็ทำให้พี่สาวของเธออดยิ้มด้วยไม่ได้

    เมื่อไอมิไปคุยเรื่องนี้กับพ่อเเม่ของเธอ

    “ได้รึป่าวคะ”หญิงสาวถามคนเป็นพ่อเป็นเเม่ของตน

    “เเม่ว่ามันก็ยากอยู่นะ ถ้าจะไปน่ะ”เเม่ของตนได้พูดขึ้น

    “งั้นเดี๋ยวพ่อกับเเม่จะไปโทรลางาน ดีไหม”คนเป็นพ่อพูดเเล้วก็ยิ้มเพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทั้งครอบครัวจะมาเที่ยวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างงี้

    “ได้หรอคะ”หญิงสาวถามด้วยความดีใจ

    “อืม งั้นอีก1อาทิตย์เราไปกันนะ”พ่อของเธอตอบกลับเธอทำให้หญิงสาวดีใจเป็นอย่างมากเเละไม่นานคุณพ่อเเละคุณเเม่ของเธอก็ไปบอกข่าวดีให้กับไอนะได้ฟัง

    ผ่านมา 1 อาทิตย์ใช่เเล้ววันนี้คือวันที่ครอบครัวคุมิโกะจะได้มาเที่ยวโดยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาพวกเขากำลังนั่งกันอยู่บนรถเเละก็คุยอะไรด้วยกันเรื่อยเปื่อยเเต่ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น จู่ๆก็มีรถบรรทุกวิ่งเสียหลักมาข้างหน้าเเละตอนนี้กำลังจะชนรถของไอมิอยู่เเล้ว ในระหว่างนั้นทำให้ทุกคนเกิดอาการตกใจกันเป็นอย่างมากเเละตอนนั้นไอมิก็ได้ขออะไรบางอย่างในใจของเธอ......

    'ถ้าขอได้... ฉันขอให้เวลาตอนนี้หยุดได้ด้วยเถอะนะ....' หญิงสาวได้ภาวนาว่ามันจะเกิดขึ้นจริงเเต่ตัวเธอคงจะรู้ว่าสิ่งที่ขอนั้นมัน.....เป็นไปไม่ได้

    ชั่วพริบตาที่เธอได้ขอพรไปทุกอย่างรอบตัวของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไปใบไม้ที่กำลังพัดปลิวไสวก็หยุดอยู่กับที่ นกที่กำลังบินอยู่บนท้องฟ้าก็ค้างอยู่บนอากาศ รถสองคันที่กำลังจะชนกันก็กลับหยุดลงทำให้เธอตกใจกำสิ่งที่เกิดขึ้น

    “คุณพ่อ คุณเเม่”เธอตกใจกับสิ่งตรงหน้าที่หยุดไปหมดเธอจึงเรียกคนเป็นพ่อเเละเเม่ของตน

    ...

    “ไอนะ..”ไม่มีเสียงตอบรับเธอจึงหันไปเรียกน้องสาวของตนเเทน

    ...

    เมื่อไม่มีเสียงตอบรับกลับมาเธอจึงเริ่มลองขยับอะไรหลายๆอย่างเเต่สิ่งที่สามารถขยับได้ก็มีเพียงเเค่อย่างเดียวคือประตูรถข้างฝั่งเธอเท่านั้น เธอไม่รอช้าเปิดประตูเเล้วลงจากรถเธอเดินออกมาจากรถเรื่อยๆ ตอนนี้เธอกำลังยืนมองภาพของรถทั้งสองคันที่กำลังจะชนกันเต็มทีเเล้ว จากนั้นจู่ๆเธอก็หน้ามืดตาของเธอกำลังจะปิดลงเต็มที่ เเล้วทุกๆอย่างก็เริ่มขยับอีกครั้งใบไม้ที่หยุดนิ่งก็กลับมาปลิวไสว นกที่กำลังหยุดอยู่บนท้องฟ้าก็กลับมาบินเเละเเน่นอนรถที่กำลังชนกันก็กำลังจะชนกันเเล้ว ภาพตรงหน้าของเธอตอนนี้เป็นภาพที่สามารถจะทำให้หัวใจของเธอกลายเป็นผงได้เลย ตาของเธอใกล้จะปิดเต็มทนเเล้วก็เริ่มมีนำ้ใสๆไหลอาบเเก้มของเธอ เเล้วเธอก็ล้มลง....

    โครม!

    จากนั้นทุกคนก็ถูกส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็วโดยไอมินั้นเเทบจะไม่ได้รับอาการบาดเจ็บอะไรใดๆทั้งสิ้น ส่วนไอนะ...เป็นที่น่าเศร้าที่เธอต้องเสียตาไปหนึ่งข้างเเละได้รับบาดเจ็บตามร่างกายเล็กน้อยเเต่ก็ยังโชคดีมากกว่าพ่อเเละเเม่ของเธอทั้งสองคนนั้นเสียชีวิตลง.....

    เวลาผ่านมา1ปี วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของพ่อเเม่ของไอมิ ไอมิได้ก็มาที่สุสานของพ่อเเม่ของตนเพียงคนเดียว

    “เป็นยังไงบ้างคะ สบายดีไหมคะ”หญิงสาวพูดออกมาด้วยสีหน้าที่นิ่งสนิท

    “หนูน่ะรู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไหร่เลยค่ะ...”ใบหน้าของหญิงสาวก็ยังคงเป็นเช่นเดิม

    “ส่วนไอนะก็โทษตัวเองตลอดเลยค่ะ ถ้าเป็นไปได้ช่วยไปพูดกับเธอได้ไหมคะว่าเธอไม่ผิด”คราวนี้หญิงสาวพุดด้วยใบหน้าที่เศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด

    “ส่วนเรื่องที่หนูไม่ค่อยสบาย คุณพ่อคุณเเม่ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะคะเดี๋ยวหนูจะเปลี่ยนทุกอย่างเอง”หญิงสาวพูดออกมาด้วยใบหน้าทียิ้มจางๆ

    ตั้งเเต่เรื่องครั้งนั้นไอมิเเละไอนะก็ถูกอาเเละน้าเเท้ๆของตนรับไปเลี้ยงเหตุการครั้งทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงไอนิที่เป็นคนร่าเริงเเจ่มใสก็เปลี่ยนไปเป็นคนที่ไร้หัวใจทันทีเหมือนคนไม่มีความรู้สึกคนหนึ่ง ส่วนไอนะที่ได้รับบาดเจ็บหลายอย่างเธอก็โทษตัวเองอยู่เสมอว่าตัวเองเป็นคนทำให้พ่อเเละเเม่ต้องตายถ้าไม่เกิดขอไปเที่ยวล่ะก็เหตุการก็จะไม่เกิดขึ้นเด็ดขาดทำให้เธอคิดอยากจะฆ่าตัวตายเสมอ เรื่องที่ไอมิบอกกับเเม่ของตนว่าไม่สบายนั้นพอเธอกลับไปเรียนที่โรงเรียนไม่ว่าจะโดนเเกล้ง ล้อเธอเเละอีกมากมายทำให้เธอเคลียดจากผลการเรียนดีเด่นก็เริ่มเเย่ลง เเย่ลงเรื่อยๆเห็นได้อย่างชัดเจน จนทำให้น้าเเละอาเริ่มเคลียดเกี่ยวกับตัวของเธอไม่นานเธอก็จะย้ายโรงเรียนเเล้วเเละทุกอย่างก็กำลังจะเปลี่ยนไปด้วย

    ผ่านมาอีก1ปีเเล้วตอนนี้ไอมิก็อายุ17เเล้ววันนี้เป็นวันที่เธอจะได้เข้าโรงเรียนใหม่เเต่เธอก็เเอบกังวลไม่ได้ว่าจะโดนเมื่อตอนอยู่โรงเรียนเก่าอีกหรือไม่

    'คุณเเม่คะ หนูควร....'หลังจากที่เธอครุ่นคิดถึงการเข้าโรงเรียนใหม่อยู่นั้นเธอก็อดจที่จะคิดถึงเเม่ของตนไม่ได้จากนั้นเธอก็คิดอะไรบ้างอย่างที่เกี่ยวกับเเม่ของตนได้ขึ้นมา

    'เเค่เเสดงขึ้นมาก็พอเเล้วนี้'

    หลังจากเธอคิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้เธอก็เริ่มที่จะเเสดงอะไรหลายๆอย่างขึ้นมาได้ทำตัวร่าเริง ยิ้มเเย้มไม่นานักเธอก็กลับมามีคุณรุมล้อมเธออีกครั้งทุกอย่างก็เริ่มกับมาดีขึ้นผลการเรียนของเธอก็เริ่มกับมาท็อปอีกครั้ง ใช่เเล้วเเค่เธอเเสดงก็ทำได้ขนาดนี้เเล้วใช่เเค่เเสดงก็พอเเล้วเพราะเธอไม่ได้มีหัวใจนี้

    ผ่านมาได้ 1 เดือนเเล้วเธอคิดว่าทำไมตอนนั้นเธอจึงสามารถหยุดเวลาได้กันสิ่งนั้นทำให้เธอไม่ค่อยเข้าใจเธอจึงลองทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นถึงเเม้เธอจะเจ็บปวดอยู่บ้างที่ต้องฝืนไปคิดเรื่องเเบบนั้นก็ตาม เเละในที่สุดเธอก็นึกออกในตอนนั้นเธอปราถนาที่จะให้เวลาหยุดซึ่งมันก็หยุดจริงๆ เธอจึงลองคิดในอีกเเง่หนึ่งว่าถ้าย้อนเวลามันจะได้ไหมนะเธอพยายามขอถึงเรื่องนั้น เเล้วเธอก็ทำได้จริงๆเธอทุกย้อนกลับมาในอดีตในวันที่เกิดเรื่อง

    “ที่นี้.....”เด็กสาวได้เเต่มองถนนเรียบที่มีรถคันวิ่งมาพอดี

    “นั้นมัน.......”ภาพที่เธอได้เห็นก็คือก็เหตุการณ์ในตอนนั้นอีกครั้งเธอขยับไม่ได้เลยเพราะตัวเธอในอดีตกำลังหยุดเวลาอยู่เธอได้เเต่มองภาพนั้นหลายต่อหลายครั้งเเละครั้งสุดท้ายที่เธอย้อนที่ปวดหัวมากเกินจนรู้สึกเเทบจะระเบิดที่ไอเเละกระอักออกมาเป็นเลือดเเล้วเธอก็สลบไป

    พอเธอตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบกับตอนเองที่นอนอยู่ในห้องของเธอพร้อมกับครอบเลือดที่เปื่อนปากของเธอเเละอาการปวดหัวอย่างหนักทำให้วันรุ่งขึ้นเธอจึงต้องหยุดเรียน

    ผ่านมาได้ไม่นานน้าของเธอก็เริ่มลำบากใจเรื่องไอนะ เพราะอาการของเธอเริ่มเเย่ขึ้นเรื่อยๆเเละโรคซึมเศร้าที่อยากจะฆ่าตัวตายอยู่เสมอของเธออีกด้วยทำให้น้าของเธออดบอกเธอเรื่องนี้ไม่ได้

    “เรื่องก็ประมาณนี้น่ะจ๊ะ”หญิงสาววัยกลางคนได้พูดออกมาด้วยสีน้าที่ไมค่อยดีสักเท่าไหร่

    “งั้นหรอคะ เดี๋ยวเรื่องเงินหนูจะจัดการเองก็ได้คะ”เด็กสาวพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มจางๆเพราะเธอติดเรื่องการยิ้มจนเป็นนิสัยไปเเล้วสิ

    “น้าไม่ได้หมายความเรื่องเงินจ๊ะ เเต่เเค่เป็นห่วงไอนะจังเท่านั้นเเหละจ๊ะ

    “งั้นหรอคะ เเต่ยังไงเรื่องจะจัดการเองค่ะหนูจะไม่รบกวบมากกว่านี้เเล้ว หนูขอตัวก่อนนะคะ”เสียงพูดพร้อมหลบสายตาจากน้าของตนเองเเล้วขอตัวกลับห้องของตน

    เมื่อเธอกลับถึงห้องมือเรียวสวยหยิบโทรศัพท์ของตนเองขึ้นมาพร้อมกับหยิบกระดาษบ้างอย่างขึ้นมาจากลิ้นชักของตนเองมือเรียวสวยของเธอกดหมายเลขโทรศัพท์ตามที่ในกระดาษเขียนไว้เเละกดโทรออก

    [ครับ สวัสดีครับ]

    “สวัสดีค่ะ ฉันคุมิโกะ ไอมิค่ะเรื่องที่เคยคุยกันไว้...

    [ตัดสินใจได้เเล้วหรอครับ]

    “ค่ะ เเล้วเริ่มงาน...

    [พรุ่งนี้เลยก็ได้ครับ]

    “ค่ะ งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะคะ

    เธอกดวางสายลงเรื่องที่เธอโทรไปเมื่อครู่เธอคุยกับเเมวมองที่เคยมาชวนเธอไปเป็นนักเเสดงในตอนนั้นเเต่ตอนนี้เธอก็ตัดสินใจได้เเล้วเพราะเธอไม่อยากรบกวนน้าเเละอาของเธอไปมากกว่านี้เเล้ว

    ผ่านมาได้2ปีเเล้วตอนนี้ไอมิก็กลายเป็นนักเเสดงหญิงที่โด่งดังที่ขณะที่เธอยังเรียนเเละอายุยังน้อยอีกด้วยเธอเป็นที่ยอมรับของคนหลายๆคนไม่ว่าจะเป็นนัเเสดงที่มีประสบการณ์มากเเค่ไหนเพราะมันไม่ได้กันหาได้ง่ายๆนะที่จะเจอคนเเสดงได้หลายบทบาทเเละสมจริงได้มากขนาดนี้ที่จริงเเล้ววันนี้เธอจะต้องไปญี่ปุ่นเพราะทางญี่ปุ่นอยากให้เธอช่วยไปถ่ายลงนิตยสารคู่กับนายเเบบคนหนึ่งที่ญี่ปุ่นซึ่งห่างกับเธอประมาณ3ปี ซึ่งเมื่อเธอถึงญี่ปุ่นทั้งผู้จัดการเเละเธอก็ไม่รอช้าที่จะไปที่ถ่ายเเบบทันที

    “วันนี้ขอรบกวนด้วยนะครับ”ผู้จัดการของไอมิได้พูดออกไปกับตากล่องที่อยู่มากมายกับผู้กำกับ

    “รบกวนด้วยนะคะ”เธอพูดออกไปด้วยใบหน้ายิ้มเเย้มออกไปเช่นกันทำให้คนที่มองอดหลงไหลไม่ได้

    “ไอมิจังนี้คิเสะคุง คนที่จะถ่ายเเบบคู่กับเธอในวันนี้ทำความรู้จักกันไปก่อนนะเดี๋ยวฉันมา”ผู้จัดการของไอมิเดินมาพร้อมกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีใบหน้าหล่อเหลา เรือนผมสีอำพันเเละนัยน์ตาสีอำพันที่เหมือนกับสีผม เเล้วยังความสูงที่เหมาะกับการเป็นนายเเบบนั้นอีก

    “ผมคิเสะ เรียวตะ ยินดีที่ได้รู้จักฮะ”นายเเบบหนุ่มได้เอ่ยเเนะนำตัวให้หญิงสาวฟัง

    “คุมิโกะ ไอมิ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”หญิงสาวพูดออกไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มเเย้มปกติเเล้วทุกคนก็จะหลาบตาเธอเเต่คนๆนี้กลับไม่ใช่

    “มีอะไรรึป่าวคะ?”ผู้ชายตรงหน้าของเธอมองเธอโดยไม่ละสายตาเลยเเม้เเต่น้อย

    “คงไม่ได้ฝืนยิ้มอยู่ใช่ไหมฮะ”คำพูดของร่างสูงตรงหน้าทำเอาเธออยู่ชะงักได้เเละตกใจในสิ่งที่คุณตรงหน้าของเธอพูดออกมา'เขารู้' คำๆนี้งนเวียนอย่ทั่วสมองของเธอ

    “ทำไมถึงคิดอย่างงั้นล่ะคะ?”เมื่อหญิงสาวตั้งสติได้เธอจึงถามคงตรงหน้าออกไปด้วยความที่เธอสงสัย

    “อาจคิดว่าผมหลงตัวเองก็ได้นะ เเต่ผมเป็นคนที่ยิ้มบ่อยมากน่ะฮะก็เลยรู้สึกเเปลกๆ เเต่อย่าใส่ใจเลยนะฮะ”ชายหนุ่มพูดพร้อมกับโค้งตัวขอโทษเล็กน้อยหลังจากนั้นผู้จัดการก็เรียกมาเรียกทั้งสองคนถ่ายเเละก็จบลงได้ด้วยดี

    เมื่อเธอกลับญี่ปุ่นเธอจึงรีบตรงกลับบ้านทันทีเนื่องจากเธอทำงานมาเยอะเเล้วยังเรื่องไป/กลับอีก เธอก็เลยเหนื่อยจึงอยากจะรีบกลับบ้านเร็วๆ เมื่อเะอไปถึงบ้านเเล้วก็พบว่าบ้านของตนมืดสนิทไม่มีเเม้เเต่เเสงไฟออกมาเลยถึงจึงเดินเข้าไปในบ้านเเละพบโน้ตวางไว้อยู่บนโต๊ะเขียนว่า

    'น้ากับอาไปธุระ มีของกินอยู่นะตู้นะ'

    เมื่อเธอเห็นโน้ตเธอจึงเตรียมอุ่นของในตู้เเละเตรียมไปเรียกน้องสาวของเธอเพื่อจะให้มาทานข้าวด้วยกันเพราะส่วนมากน้าของเธอจะต้องไปทำธุระบ่อยจึงได้นั่งกินข้าวสองคนเป็นเรื่องปกติ

    ก้อกๆ

    “ไอนะ มากินข้าวได้เเล้วนะ”เธอเคาะประตูพร้อมเรียกชื่อน้องสาวของเธอเเต่ไม่มีเสียงตอบรับออกมาจากห้อง

    “พี่เข้าไปนะ”เธอเปิดประตูเข้าไปก็พบกับน้องสาวของตนเองที่กำลังนอนอยู่บนเตียงพร้อมกับบาดเเผลที่เพิ่มขึ้นจากรอยคัทเตอร์ที่วางอยู่บนมือของเธอทำให้ไอมิตกใจเป็นอย่างมาก เธอไม่รอช้าเเละเรียกรถพยาบาลมาทันที

    “น้าขอโทษนะ น้าไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนี้”หญิงสาววัยกลางคนพูดขึ้นกับเด็กสาวที่กำลังนั่งรอน้องสาวของตนเอง

    “ไม่เป็นไรค่ะ น้าไม่ผิดหรอกค่ะ”หญิงสาวพูดด้วยใบหน้าที่เศร้าทั้งชีวิตของเธอเหลือเเค่น้องเเล้วถ้าเกิดว่าน้องตายอีกคน...เธอก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อดี

    ไม่นานนักหมอก็เดินออกมาพร้อมกับเล่าเเละบอกอาการของน้องให้ฟังโดยรวมเเล้วก็ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วงเเต่ต้องตั้งใจดูเเลเธอให้ดีขึ้นเพราะเธอเป็นเเบบนี้เเล้วเธอก็ยังมีโรคของเธออยู่ด้วยจะทำให้อาการของเธอยิ่งเเล้วไปกันใหญ่เธอจึงช่วยกันดูเเลน้องสาวของเธอให้ดีที่สุด

    ผ่านมาเเล้วอีก3ปีตอนนี้ไอมิก็อายุ21เเล้ว วันนี้เธอมีงานอีเว้นท์จัดขึ้นญี่ปุ่นเพราะเธอนั้นได้มาถ่ายรูปลงปกนิตยสารกับนายเเบบที่นี้ชื่อ.....อืมจำไม่ได้เเล้วเเต่ชั่งมันมากมายทำให้เธอต้องมาเข้าร่วมอีเว้นม์ที่นี้ตอนเเรกเธอก็ไม่ได้อยากมาเพราะเป็นห่วงไอนะเเต่ผู้จัดการก็ขอร้องเธอสุดท้ายเธอก็ยอมมาด้วยอยู่ดี ในระหว่างที่เธอต้องนั่งส่งยิ้มเเละเเจกรายเซ็นอยู่นั้นเธอก็สังเกตุเห็นเเถวที่ยาวพอกับของเธอ เธอจึงถามคนๆหนึ่งที่กำลังเดินเพื่อมาขอรายเซ็นของเธอ

    “เอ่อ...ขอโทษนะคะ”เด็กสาวเรียกหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าของตน

    “ค่ะ!”คนที่ถูกเรียกนั้นก็ตกใจที่มีคนดังมาเรียกเธอเเบบนี้

    “คือเเถวนั้น...”ไอมิพูดเป็นเชิงถามว่าเเถวอะไรยาวจัง พร้อมกับชี้นิ้วไปเเต่เเถวที่อยู่ตรงนั้น

    “เเถวของคิเสะคุงน่ะค่ะ เข้าดังจะตายค่ะเเถมยังเป็นคนพิเศษด้วยนะคะ”หญิงสาวได้ตอบกลับเธอ

    “พิเศษยังไงหรอคะ”ไอมิถามคนตรงหน้าด้วยความสงสัย

    “เขามีอัญมณีพิเศษค่ะ”หญิงสาวพูดขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็นเธอจึงถามต่อ

    “อัญมณีอะไรหรอคะ”หญิงสาวเอียงคอถาม ทำให้คนตอบอดใจที่จะตอบไม่ได้

    “เป็นอัญมณีที่ทำให้คนร่าเริงเเจ่มใสได้ค่ะ เเล้วเขาก็เรียนอยู่ที่โรงเรียนเอเซนเธอเรียด้วยค่ะ”เมื่อคนถามได้ยินดังนั้นถึงคิดที่อยากจะได้ขึ้นมา

    “รู้เยอะจังเลยนะคะ”ไอมิพูดขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มไปให้เธอ

    “ก็ฉันเป็นเมนเค้าน่ะค่ะ”คนตรงหน้าของเธอพูดขึ้นจากนั้นไอมิก็ส่งสายตาให้คนที่ยืนเฝ้าบูธเป็นเชิงบอกว่า 'เอาออกไปที'

    หลังจากงานนั้นเมื่อเธอกลับอังกฤษก็ค่อยเเต่คิดเรื่องนี้อยู่เสมอเธอกำลังคิดจะไปเอาอัญมณีนั้นมาให้กับน้องสาวของเธอเเต่ถ้าเธอไปเรียนที่ญี่ปุ่นก็เท่ากับต้องปล่อยน้องสาวของเธอไว้คนเดียวหรือเธอควรจะฝากน้าของเธอไว้ดี เเต่ถ้าเธอเอาอัญมณีนั้นมาได้อาจได้ผลประโยชน์มากกว่าก็ได้ เธอจึงจะไปคุยเรื่องนี้กับน้าของเธอ

    “หนูขอไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นได้ไหมคะ เเล้วก็เรื่องเงินหนูจะจัดการเองค่ะ”หญิงสาวพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง

    “เรื่องไปเรียนน่ะน้าอนุญาติ เเต่เรื่องเงินน้าจะเป็นคนจัดการเอง”หญิงสาววัยกลางคนพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มจางๆ

    “เเต่ว่า....”หญิงสาวกำลังจะพูดค้านเเต่เธอก็โดนขัดซะก่อน

    “ไม่มีเเต่จ๊ะ น้ารักหนูเหมือนลูกเเท้ๆเพราะงั้นให้น้าช่วยเถอะนะส่วนไอนะน้าจะเป็นคนดูเเลเอง”หญิงสาววัยกลางคนพูดขึ้น

    “ขอบคุณมากนะคะ หนูจะกลับมาเยี่ยมเท่าที่เป็นไปได้นะคะ”ไอมิตอบกลับน้าของตนไป

    “งั้นหนูไปเตรียมตัวก่อนนะคะ”ไอมิพูดพร้อมโค้งลาเล็กน้อย

    “น้าหวังว่าการที่ไอมิจังไปที่นั้นจะช่วยให้ยิ้มได้นะจ๊ะ ตั้งเเต่หนูมาอยู่ที่นี้ไม่เคยยิ้มจริงๆสักครั้งเลยนี้นะ”หญิงสาววัยกลางคนพูดหลังจากที่ไอมิเดินขึ้นห้องไปเเล้ว

    ชอบ:  ของหวาน เพราะ เธอกินเเล้วจะอารมณ์ดี

              ของที่มันน่ารักๆ เพราะเธอรู้สึกว่ามันน่ารัก

              ดอกสุมิเระ เพราะเธอชอบสีของมัน

              เเมว เพราะเธอรู้สึกว่ามันน่ารักดี


    เกลียด: คนที่ยิ้มได้ตลอดเวลา เพราะเธอทำยังงั้นไม่ได้

               จิ้งจก ตุ๊กเเก เเละสัตว์ที่น่าตาประมาณนี้ เพราะตอนเธอเรียนอยู่เคยมีครั้งหนึ่งจิ้งจกตกใส่เธอ

               หมา เพราะเธอเคยเกือบโดนหมากัด


    กลัว/แพ้: การสูญเสียน้องสาวของตน เพราะน้องสาวของเธอเหลือเป็นคนสุดท้ายของครอบครัวเเล้ว


    งานอดิเรก:ทบทวนบทเรียนวิชาสุขศึกษา(ไม่จบ555) ไม่ก็นั่งคุยไอนะ


    ลักษณะคำพูด: 

    [เเนะนำตัว]

    “สวัสดีค่ะ คุมิโกะ ไอมิค่ะฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ 


    [อยู่กับคิเสะ]

    “นายบ้ารึป่าว ไปไกลๆเลยนะฉันรำคาญ

    “เมื่อกี้ยังเรียกผมว่ารุ่นพี่อยู่เลยไม่ใช่หรอฮะ


    [เขิน]

    “ทำไมน้าเเดงอย่างงั้นฮะ หรือว่าเขินฉันอยู่

    “ห๊ะ เพ้อเจ้อรึป่าวนายน่ะใครจะมาเขินนายกัน


    [หึง]

    1. “ขอโทษนะคะ พอดีผู้ชายคนนี้เค้ามากับฉันน่ะค่ะ

    O///_///O

    2. “เเหม ผู้หญิงรุมตลอดเลยนะ

    “ก็มัน....เอ๋~~ หึงหรอฮะ


    [เวลาที่คุยกับคิเสะเเล้วมีคนอยู่รอบข้าง]

    “หายากนะเนี้ยมาเจอกันที่นี้ ทำอะไรอยู่หรอ

    “ก็มาอ่านทบทวนวิชาสุขศึกษาน่ะค่ะรุ่นพี่คิเสะก็ที่เธอจะตอบก็มองซ้ายมองขวาก่อนตอบว่ามีคนอยู่รึป่าว

    “ให้ฉันสอนก็ได้นะ เรื่องสุขศึกษาน่ะ

    “เกรงใจจังเลยค่ะ


    เพิ่มเติม :

    -น้องของไอมิชื่อว่า คุมิโกะ ไอนะ อายุ15


    -ไอมิเกิดวันที่ 7เดือน7

    -ต่อหน้าคนอื่นจะเรียกคิเสะว่ารุ่นพี่ เเต่ถ้าอยู่ด้วยกัน2คนจะไม่ค่อยเคารพสักเท่าไหร่ก็เลยไม่เรียกรุ่นพี่

    -ตอนที่ไอมิมาถ่ายเเบบกับคิเสะไอมิจำไม่ได้เเต่คิเสะจำไอมิ

    -ทุกๆวันครบรอบวันตายของคุณพ่อคุณเเม่ไอมิจะกลับอังกฤษ

    -ไอมิรักไอนะมากๆเเละไอนะก็รักไอมิด้วย

    -ตอนเด็กๆไอมิไม่ค่อยชอบไอนะเพราะพ่อเเม่เอาเเต่สนใจไอนะ


    Character Talk


    -ทำไมถึงต้องการอัญมณีขนาดนั้นล่ะคะ?

    ตอบ:“ก็เอาไปให้น้องยังไงล่ะคะ พอดีว่าน้องสาวของฉันเขาคิดจะฆ่าตัวตายบ่อยมากเลยน่ะค่ะ”หญิงสาวเมื่อได้ยินคำถามนั้นก็ตอบออกไปพร้อมกับยิ้มบางๆที่เต็มไปด้วยความเศร้า

    -แล้วถ้าทำไม่สำเร็จคิดว่าตัวเองจะเป็นยังไงต่อเอ่ย?

    ตอบ:“ฉันคงต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อน้องฉันน่ะค่ะ ถ้าไม่ได้จริงๆก็คงต้องโน้มน้าวใจของน้องฉันด้วยตัวเอง”เด็กสาวฟังคำถามก็ชะงักไปครู่หนึ่งเเล้วกลับมาตอบ

    -เคยคิดถึงเรื่องความรักบ้างไหมคะ?

    ตอบ:“ไม่ค่ะ”หญิงสาวตอบอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินคำถามสีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไปทันที


     Natsuki Talk


    -สวัสดีค่ะ นัทสึกิค่ะ จะเรียกว่าเฟย์ก็ไม่ว่ากัน ชื่ออะไรคะ?

    ตอบ:รอบ 3 เเล้ว มิ้นเองจ้า

    -เป็นการเปิดรับสมัครเรื่องแรกถ้ามีข้อผิดพลาดเราขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ

    ตอบ:มรั่ยเป็นไรรอบ3

    -หากแต่งหลุดคาร์อย่าตบตีเรานะ><

    ตอบ:ปกติจ้ารอบ3

    -สุดท้ายนี้ขอบพระคุณที่มาสมัครค่ะ มีอะไรอยากบอก บอกได้เลยค่ะ

    ตอบ:อยากจะพูดว่าตัวนี้จะเป็นตัวสุดท้ายเเล้วเพราะคงไม่มีโอกาสลงอีกเเล้ว555จะปิดอยู่เเล้วเนี่ย ก็หวังว่าลูกสักคนจะเข้าได้นะคะ รู้สึกมีความวิวัฒจากgoogleมาเป็นในนี้เเทน ฝากพิจารณาด้วยนะคะเฟย์ซัง


    รูปเเถมค่ะ//หลบบาทาเเปปi^i


    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×