คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : { Veseater } คู่หูสุดป่วน ♥ ก๊วนอลเวง (1)
ใบหน้าของลูเซียนมักจะมีรอยยิ้มวางประดับให้เห็นอยู่เสมอ.. รอยยิ้มนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นบุคคลประเภทที่น่าคบหาสมาคมและเข้าหาได้ง่าย... ซึ่งเขาก็เป็นคนที่เข้าหาคนอื่นเก่งจริงๆนะ ทว่ารอยยิ้มเหล่านั้นก็พาลทำให้ผู้คนอึดอัดได้เวลาคุยกับเขา นั่นก็เพราะรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของเขาเป็นสิ่งที่คอยปิดซ่อนความคิดและความรู้สึกของเขาเอาไว้ ซึ่งหากเขาตกอยู่ในเหตุการณ์ที่ตึงเครียดรึกดดันเมื่อไหร่รอยยิ้มของลูเซียนจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่คุณอยากเห็น เพราะนอกจากจะทำให้มองไม่ออกแล้วว่าเขาคิดหรือรู้สึกอะไร.. มันยังเป็นอะไรที่กดดันสุดๆด้วย ในเวลาปกติ.. หากไม่มองดีๆก็คงไม่สังเกตุเห็นความเจ้าเล่ห์ที่ซ่อนไว้ใต้รอยยิ้มนั่นแน่ๆ
สำหรับหนุ่มๆวัยนี้.. ถ้าไม่ใช่กับกลุ่มเพื่อนก็คงไม่มีการแกล้งหยอกล้อกันเหมือนเด็กๆแล้ว แต่ตรรกะนี้คงใช้ไม่ได้กับคนอย่างลูเซียน เด็กหนุ่มรายนี้นอกจากจะมีนิสัยเจ้าเล่ห์แล้วยังเป็นคนที่ขี้แกล้งและชอบหยอกคนอื่นยิ่งกว่าอะไรดี แต่ถึงอย่างนั้นการหยอกล้อของลูเซียนก็มิใช่เรื่องที่ร้ายแรงอะไรถึงเพียงนั้น จะบอกว่าเป็นการหยอกขำๆหรือแกล้งเพราะเอ็นดูก็คงใช่ สาเหตุที่การกลั่นแกล้งของเขาไม่ได้รุนแรงจนเกินพอดีนั่นก็เพราะเขามองการกลั่นแกล้งหรือกวนประสาทแบบไร้ขอบเขตเป็นเรื่องที่สมควร.. ดีไม่ดีการหยอกล้อแบบไม่ดูว่าเรื่องไหนควรเล่นหรือไม่ควรเล่นก็อาจจะไม่ต่างอะไรกับการบูลลี่ด้วยซ้ำไป พอเป็นแบบนี้ใครจะว่าเขานิสัยไม่ดีก็คงพูดได้ไม่เต็มปากล่ะนะ..
บางครั้งบางคราวก็จะแสดงท่าทางใจดีให้เห็น
ด้านที่อบอุ่นและอ่อนโยนเช่นนี้มิใช่อะไรที่เขาแสดงออกมาบ่อยๆ
นอกจากเขาจะเป็นผู้ชายที่เจ้าเล่ห์และขี้แกล้งแล้ว เขายังมีด้านที่ใจดีและอบอุ่นซ่อนเอาไว้ด้วย! ไอ้นิสัยด้านนี้น่ะมันไม่ใช่อะไรที่เขาจะแสดงออกมาให้คนอื่นเห็นบ่อยๆหรอกนะ จะบอกว่าชอบทำตัวเก๊กคูล(?)ตลอดเวลาก็ได้ล่ะมั้งนั่น-- ลักษณะนิสัยอบอุ่นเช่นนี้นานๆทีถึงจะถูกแสดงออกมาให้เห็น...สำหรับเพื่อนหรือคนรู้จักน่ะนะ แต่ว่าด้านที่อ่อนโยนแบบนี้จะถูกแสดงออกมาให้เห็นบ่อยๆก็ตอนอยู่กับเด็ก แล้วจะยิ่งเห็นได้บ่อยมากขึ้นตอนที่ลูเซียนอยู่กับเด็กคนหนึ่ง พูดแบบง่ายๆก็คือบางทีลูเซียนเองก็ทำตัวเหมือนพี่ชายเลยล่ะ!
เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ครองพลังแห่งอัคคี ใครหลายๆคนก็อาจจะจินตนาการไว้ว่าเจ้าของพลังนี้คงหนีไม่พ้นเด็กหนุ่มรึเด็กสาวที่มีเลือดร้อนและของขึ้นง่ายเหมือนกับน้ำเดือดที่วางเอาไว้บนเตา ทว่าตรรกะเหล่านั้นก็ใช้กับผู้ชายแบบลูเซียนไม่ได้เหมือนอย่างเคย.. อย่างที่ว่า ถึงเขาจะถือครองพลังอัคคีแต่จิตใจของเขากลับนิ่งสงบดุจธารน้ำเฉื่อยที่กำลังไหลไปตามกระแส การที่เขาใจเย็นเป็นน้ำแบบนี้ทำให้การปรามอารมณ์เดือดของคนอื่นได้อย่างไม่ยากเย็น.. ทว่าเขาไม่ยอมทำดีๆ(?)นี่สิ ปัญหาก็คือลูเซียนมักจะชอบพูดเย้าแหย่ให้อารมร์คู่สนทนาเดือดขึ้นอีกขั้น เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดือดจนพอใจแล้วถึงจะยอมเอาน้ำเย็นเข้าลูบ แต่กว่าจะพูดห้ามปรามได้ก็เล่นเอาคนที่กำลังมองเหตุการณ์นั้นอยู่เสียววาบไปตามๆกัน
ลูเซียนเป็นคนปากไว.. หากมีเรื่องที่ทำให้เขาของขึ้นแล้วโดนต่อว่าไม่หยุดเขาก็จะเถียงกลับไปคำต่อคำ ประโยคต่อประโยค เมื่อสิ้นประโยคของคู่สนทนาที่ทำให้อารมณ์เขาเดือดลูเซียนก็จะโต้กลับไปโดยไม่รีรอให้อีกฝ่ายได้พูดต่อ( ถึงอีกคนจะยังพูดไม่ตบ แต่เว้นช่วงเมื่อไหร่เขาก็จะเถียงกลับไปแน่ๆ.. ) เรียกได้ว่าเป็นบุคคลประเภทเถียงคำไม่ตกฟาก ถ้าเขาหรืออีกฝ่ายไม่เหนื่อยไปซะก่อนก็คงนั่งเถียงกันทั้งวัน.. ประเด็นอยู่ที่ลูเซียนมักจะเถียงกลับไปด้วยหน้าตายิ้มๆเหมือนปกติแต่น้ำเสียงเย็นเฉียบนี่แหหละที่ผิดปกติ แล้วตัดมาอีกฟาก ถ้าเขากลายเป็นคนบ่นเองเขาก็จะบ่น บ่น และ บ่น.. บ่นจนคนฟังหาช่องว่างโต้ตอบไม่ได้ทำได้แค่นั่งฟังอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว และจะไม่ได้ตอบอะไรจนกว่าเขาจะเงียบไปหรือถามว่าเข้าใจมั้ยนั่นแหละ พออีกคนตอบเมื่อไหร่ก็จะยิ้มเหมือนพอใจแล้วลูบหัวอีกคน( ถึงเขาจะเตี้ยกว่าเขาก็จะทำ-- )
ทุกคนอาจจะมองเห็นว่าลูเซียนนั้นดูเป็นคนที่อารมณ์ดีและยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา ทว่าก็อย่างที่ได้บอกไว้เมื่อตอนต้น... รอยยิ้มของเขาก็เป็นเหมือนกับหน้ากากที่คอยปกปิดความคิดและความรู้สึกทุกอย่างเอาไว้ ไม่เคยมีใครมองออกว่าลูเซียนนั้นกำลังคิดหรือว่ารู้สึกอะไรกันแน่ นอกจากหน้ากากนั่นจะคอยปิดซ่อนความคิดของเขาแล้ว มันยังเป็นหน้ากากที่ช่วยซ่อน ไม่สิ.. อาจจะเป็นหน้ากากที่ลบความอ่อนแอและจุดอ่อนทางอารมณ์ความรู้สึกของเขาออกไปทั้งหมด ที่ใช้คำว่า ' อาจจะ ' และ ' ลบ ' ก็เป็นเพราะว่าลูเซียนนั้นไม่เคยแสดงท่าทางอ่อนแอหรือเสียน้ำตาต่อหน้าใครเลย แต่ก็อย่างว่า.. ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากใบไหนก็ต้องมีสักวันที่แตกสลาย แล้วหน้ากากของลูเซียนล่ะ? มันจะแตกสลายวันไหนกันแน่?
ชีวิตประจำวันของลูเซียนในขณะนั้นก็ดูเหมือนเด็กปกติทั่วไป สถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั่นไม่ได้มีขนาดใหญ่นัก.. และคุณผู้หญิงเจ้าของสถานที่แห่งนั้นก็ไม่ได้มีฐานะยากจนจึงมีงบจ้างครูมาสอนเด็กๆให้มีความรู้ดูแลตนเอง ลูเซียนสนิทกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อายุน้อยกว่าเขาประมาณ 2 ปี ความสัมพันธ์กับเขาและเธอนั้นเปรียบเหมือนกับพี่น้องร่วมสายเลือด ทั้งที่ทั้งคู่ต่างก็เป็นเด็กไร้ที่ไปที่คุณผู้หญิงรับมาดูแลทั้งนั้น
ลูเซียนและคนอื่นๆในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนั้นต่างก็ใช้ชีวิตกันตามปกติ จนกระทั่งคืนนึงได้เกิดเหตุโศกนาฎกรรมขึ้น.. มันกลายเป็นสิ่งทีฝังใจลูเซียนและเป็นเรื่องที่เขาจะไม่มีวันลืมแน่ๆ
คืนหนึ่ง.. หลังจากลูเซียนที่เป็นเหมือนพี่ใหญ่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้พาทุกคนเข้านอนแล้วตนก็กำลังจะไปนอนตาม เขาได้กลิ่นของบางสิ่งที่กำลังลุกไหม้... ลูเซียนเกิดใจไม่ดีถึงได้เดินหาต้นตอของกลิ่นไหม้นั่น จนเขาพบว่ามันเป็นห้องของคุณผู้หญิงเจ้าของสถานที่แห่งนี้ คุณผู้หญิงคนนั้นหนีออกมาได้แล้วถึงได้บอกให้ลูเซียนไปปลุกเด็กคนอื่นเพราะไฟมันเริ่มลามเร็วขึ้นทุกที
เขาทำตามที่คุณผู้หญิงคนนั้นบอก ลูเซียนรีบไปปลุกเด็กทุกคนแล้วบอกให้หนีออกไปข้างนอกเพราะเกิดเหตุไฟไหม้.. แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือห้องของเด็กผู้หญิงที่เป็นน้องสาวของเขากลับเป็นห้องที่อยู่ด้านในสุด เขาถึงได้ไปเจอเธอเป็นคนสุดท้าย เรื่องใหญ่ก็คือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้เองก็เริ่มจะพังลงมาแล้ว น้องสาวนอดสายเลือดของเขากำลังถูกเปลวเพลิงเหล่านั้นล้อมไว้.. ตัวเขาเองก็เช่นกัน
ลูเซียนพยายามวิ่งฝ่ากลุ่มเพลิงไปช่วยเธอแต่ว่าเขาก็ยังช้าเกินไป.. เด็กสาวคนนั้นถูกเปลวเพลิงที่กำลังลุกโชนเผาร่างจนเกิดรอยแผลไฟไหม้น่ารังเกียจ ลูเซียนทำได้แค่ยืนมองภาพนั้นอย่างไม่เขื่อสายตา.. ตอนนี้สิ่งที่อยู่ในหัวคือเขาต้องการให้เปลวเพลิงเหล่านั้นหายไป ไม่ก็เคลื่อนตัวไปที่อื่น..
ราวเกิดเหตุอาเพศ จู่ๆเปลวไฟที่กำลังเผาร่างของเด็กสาวคนนั้นทั้งเป็นก็เริ่มอ่อนลงจนกระทั่งมันหายไป.. ลูเซียนจำได้ว่าตอนนั้นเขาตกใจมากแต่ก็ยังวิ่งไปอุ้มน้องสาวของตนออกมาสำเร็จจนได้ สภาพเธอตอนนั้นไม่ต่างจากคนใกล้ตาย ตามเนื้อตัวมีรอยแผบเหวอะหวะจากการถูกไฟไม้
คุณผู้หญิงเจ้าของสถานรับเลี้ยงเด็กคนนั้นเห็นได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว ไฟที่กำลังลุกไหม้ถูกดับลงทันทีที่เจ้าหน้าที่มาถึง.. เด็กๆถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจดูว่ามีใคนเป็นอะไรรึเปล่า ทว่าสิ่งที่ลูเซียนกำลังคิดถึงในตอนนั้นไม่ใช่เรื่องที่ว่ามีใครเป็นอะไรมั้ย แต่เป็นเรื่องที่ทำไมจู่ๆไฟที่กำลังไหม่ร่างน้องของเขาก็ดับเองต่างหาก
ขณะลูเซียนแอบออกมาหลบอยู่หลังโรงพยาบาลเพื่อทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเขาก็ได้ค้นพบว่าตัวเองมีพลังประหลาด พลังที่ทำให้เขาสรรสร้างและควบคุมเปลวเพลิงได้ดังใจนึก.. ตอนแรกเขาก๋อยากเอาเรื่องนี้ไปบอกให้คุณผู้หญิงรู้ แต่ถ้าบอกไปเธอจะมองว่าเขาเป็นตัวประหลาดรึเปล่านะ?
ลูเซียนเริ่มหัดโกหกตั้งแต่วันนั้น ทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าคนอื่นเขามักจะแย้มรอยยิ้มออกมาเพื่อซ่อนคงามคิดและความรู้สึกของตน... เขาและเด็กคนอื่นจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนั้นยังคงอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาล และไม่รู้เพราะเหตุอะไรแพทย์หญิงที่รู้จักกับคุณผู้หญิงถึงรับลูเซียนกับน้องสาวของเขาไปเลี้ยง
แพทย์คนนั้นออกความเห็นว่าเธอแต่งงานนานแล้วแต่ตนดันเป็นคนมีบุตรยาก.. สามีของเธอที่เคยมาเยี่ยมเยียนกันที่โรงพยาบาลเกิดเห็นลูเซียนกับน้องของเขาแล้วเอ็นดูจึงลองถามดูว่าอยากจะไปอยู่ด้วยมั้ย เด็กหนุ่มเห็นเป็นโอกาสดีจึงได้ตอบตกลงไปถึงได้ใช้สกุล ' แอนเดรียน่า ' เช่นในปัจจุบันนี้
ครอบครัวแอนเดรียน่าก็ดูแลเขาและน้องสาวตามประสาผู้ปกครองที่ดี แต่ทั้งสองก็ไม่ได้มาประคบประหงมอะไรมากนักเพราะหน้าที่การงานที่ยุ่งจนรัดตัว ฐานะทางสังคมที่ทำให้ต้องออกข้างนอกบ่อยๆ และเพราะไม่ต้องการให้ทั้งคู่เป็นเด็กเอาแต่ใจด้วย.. และเพราะการที่ได้ออกงานสังคมกับครอบครัวบ่อยๆ ยิ่งทำให้ลูเซียนปิดความคิดและความรู้สึกเก่งขึ้น รู้ตัวอีกทีก็ถอดหน้ากากไม่ได้ซะแล้วล่ะ
วันหนึ่ง ไม่รู้ว่าบังเอิญรึท่านเทพแห่งโชคชะตาตั้งใจ... แพทย์หญิงแอนเดรียน่าได้นำจดหมายที่ส่งมาถึงเขา ' ลูเซียน แอนเดรียน่า ' มาให้ เมื่อลองอ่านดูก็พบว่ามันเป็นจดหมายจากโรงเรียน เวสอีทเตอร์ .. พอโดนพ่อและแม่บุญธรรมถามว่าจดหมายอะไรก็แกล้งตอบไปว่าเป็นจดหมายเชิญไปเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยไม่ได้บอกว่าเป็นโรงเรียนอะไร แน่นอนว่าลูเซียนตอบตกลง.. เขาอยากรู้นี่นะว่าผู้ครองพลังคนอื่นจะเป็นยังไง และมีพลังแบบไหน
- น้องสาวของเขา | เขาเอ็นดูและเป็นห่วงเธอมาก เรียกได้ว่าทะนุถนอมกันเป็นอย่างดี.. เวลาอยู่ด้วยกันทีไรเขาจะไม่เคยแยกตัวออกจากเธอเลย
- กาแฟ | กลิ่นหอมๆของมันช่วยทำให้สมองของเขาเบา.. จะว่าไงดี ช่วยให้ผ่อนคลายล่ะมั้ง? ตื่นเช้าทีไรเป็นต้องลุกมาชงกินตลอด อีกอย่างผู้ชายเจ้าเล่ห์กับกาแฟน่ะเป็นเพอร์เฟคต์แมทช์เลยนะ!
- การแกล้งในเรื่องไม่สมควร / การบูลลี่ | สำหรับลูเซียนแล้วเรื่องพวกนี้มันสื่อให้เห็นว่าไร้มารยาท ลูเซียนมักจะมองด้วยสายตาเหยียดๆแต่ใบหน้าประดับยิ้มเหมือนเคย
- ไฟที่กำลังไหม้อะไรบางอย่าง | เขาไม่ได้ไม่ชอบไฟ แค่ไม่ชอบตอนมันกำลังเผาบางสิ่ง.. มันทำให้เขานึกถึงวันที่น้องเขาโดนไฟคลอก ตอนเห็นก็จะขมวดคิ้วน้อยๆ
- การถูกบ่น | ขี้เกียจนั่งฟังอ่ะ.. เวลาที่ยังหาช่องเถียงไม่ได้ก็จะกลอกตาเหนื่อยๆ เป็นเชิงว่า ' ปล่อยผมไปที '
- ขนมที่มีรสชาติหวานจัด | ไม่เอา อย่าเอาเข้ามาใกล้เขา... เขาจะไม่กินมันแน่ๆ เขาเลี่ยน!
- ขนแมว | ใช่.. คนคูลแบบลูเซียนแพ้ขนแมว! เวลาอยู่ใกล้แมวทีไรคุณชายเราเขาจะเริ่มจามและจะจามไม่หยุดจนกว่าจะเอาแมวออกไปห่างๆเขา
- ที่แคบ | มีความเป็นไปได้สูงว่าเขาอาจจะเป็นโรค ' คลอสโตรโฟเบีย ( Claustrophobia ) ' เวลาอยู่ในที่แคบๆแล้วหายใจหายคอไม่สะดวกเขาจะเริ่มออกอาการ.. ตอนแรกจะรู้สึกอึดอัด ไปๆมาๆจะเริ่มมือไม้สั่นแล้วเหงื่อซึมแต่ก็ไม่ได้กลัวจนน้ำตาแตก แค่อึดอัดก็เท่านั้น ลูเซียนก็ไม่รู้ว่สทำไมเขากลัว.. แต่รู่ตัวอีกทีก็กลัวแล้วอ่ะ!
- ตอนที่โดนรับมาเลี้ยงแรกๆน้องสาวเขาถูกบูลลี่เพราะมีแผลไฟไหม้เต็มตัว และวันต่อมาที่เขารู้เรื่องนี้ ก็ไม่มีใครบูลลี่น้องสาวเขาอีกเลย/...
- คุณผู้หญิงเจ้าของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าคนนั้นเป็นคนญี่ปุ่น ปัจจุบันเธอมีสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าใหม่แล้วล่ะ
- เขาชอบไปเยี่ยมสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของคุณผู้หญิงนะ!
- พยายามหลีกเลี่ยงที่แคบให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
- เวลาคุยกับน้องสาวของตัวเองเขาจะลงท้ายว่า ' คะ - ค่ะ '
สวัสดีนะคะ~ เรามีชื่อว่า สตาร์ ค่ะ ผู้ปกครองมีนามว่าอะไรเอ่ย?
:: โย่วๆ ฮารุกะฮาร์ทหรือฮารุกะเองค่า
อา~ ทานข้าวมาหรือยังอะตะเอง
:: ทานแล้วค่า /ปั่นหนุ่มอัคคีรอบดึก..---
เราขอเรียกว่าที่รักได้ไหม? (ถึงตอบไม่ ข้อต่อไปก็เรียกอยู่ดี(?))
:: ได้ค่า ได้ยยย
ทำไมถึงมาสมัครเรื่องนี้เหรอที่รัก?
:: คำตอบเดิมค่ะ
แล้วถ้าลูกสาวหรือลูกชายของที่รักไม่ติดนี่จะโกรธเราไหมง่า?
:: โ-- ล้อเล่นค่ะ ไม่โกรธนะะะ
ถ้าหากไม่ติดจริงๆ จะรับกลับบ้านหรือจะให้เป็นตัวละครเสริมในเรื่องดีเอ่ย?
:: คนนี้ขอรับกลับแล้วกันค่ะ wwww
ไหนๆ ขอนิยามของน้องหน่อยสิ
:: ' ปีศาจแห่งโรงอุปรากรและเทวีอามาเทราสึ ' เพราะว่าลูเซียนนั้นมีบุคลิกเป็นชายสวมหน้ากากและลึกลับเหมือนปีศาจแห่งโรงอุปรากร แต่ว่าตัวเขากลับมีรอยยิ้มที่ดูสว่างไสวเหมือนแสงอาทิตย์ของเทพีอามาเทราสึ ประมาณนี้มั้งคะ? หน้ากากในที่นี้ก็แปลประมาณว่าการหลอกลวงนะคะ ไม่ใช่หน้ากากจริงๆ.. แต่สตาร์ซังคงเข้าใจอยู่แล้วล่ะ /หัวเราะ
#ตอนแรกเราพิมพ์เป็นสตาร์ศังค่ะ ขอแชร์ค่ะ ตลก ฮือ55555
แล้วถ้าเกิดน้องจะมีคู่นี่จะเป็นอะไรไหมเอ่ย? เช่น นอมอล หรือ ยาโอยอะไรแบบนี้?
:: ไม่มีปัญหาค่า จะนอร์มอลหรือยาโอยก็ได้ค่ะ แต่ถ้ายาโอยเราอยากให้คู่กับคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าตานี่น่ะค่ะ(?)--
ขอให้โชคดีนะที่รัก~ อยู่กับเราคนนี้ก็ทำตัวสบายๆ เนอะไม่ต้องไปเกร็งหรือเคร่งเครียดอะไรเนอะ
:: รับทราบครับผม!
ความคิดเห็น