ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ✓ Home Sweet Home ✓

    ลำดับตอนที่ #3 : 「Fic Onmyoji」命運帶來愛 เจ็ดเรื่องราวสองสายใย ( 1 )

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 61


    Matcha 




    あたしあなたに会えて本当に嬉しいのに
    You know i'm really truly grateful to have met somebody just like you

    当たり前のようにそれらすべてが悲しいんだ But life, it goes along, and from what I know, that means we'll have to part soon

    今痛いくらい幸せな思い出が Now carrying these memories which pain me with a smile

    いつか来るお別れを育てて歩く I walk away from yesterday to our fated goodbye

    誰かの居場所を奪い生きるくらいならばもう
    If I were to go through life living just to take somebody else's place

    あたしは石ころにでもなれたらいいな
    Then I would rather have been born as a pebble, living out my peaceful days 

    だとしたら勘違いも戸惑いもない
    Then maybe we could then avoid misunderstandings too


    そうやってあなたまでも知らないままで
    And then maybe I would never have ever gotten to know you



    お願い いつまでもいつまでも超えられない夜を
    For the nights I won’t make it through, I spend beside you, while holding onto your hand

    超えようと手をつなぐこの日々が続きますように Telling me I will and I can, I pray every night that days like this will never end

    閉じた瞼さえ鮮やかに彩るために Painting colours vivid and bright I see every time I go ahead and close my eyes

    そのために何ができるかな Just what should I do so everything remains the same?



    あなたの名前を呼んでいいかな
    Hey, is it alright if I keep calling out your name?





    A P P L I C A T I O N



    " เขามักจะกล่าวให้ข้าฟังเสมอ "

    " ว่าข้านั้นงดงามราวดอกอายาเมะ มากด้วยปัญญาและศรัทธาแกร่งกล้า "

    " คงเป็นเหตุที่ทำให้เขาเรียกข้าเช่นนี้... "

    บทบาท :: องเมียวจิผู้ปกป้องเมืองที่ถูกลืมเลือน

    ชื่อ - สกุล :: เท็ตสึยะ อายาเมะ ( เท็ตสึยะ - ความสำเร็จ , อายาเมะ - ดอกไอริส < ดอกไอริสต่างสีต่างมีความหมายต่างกัน มีต่อที่เพิ่มเติม > )

    อายุ :: 500 ปี

    สัญชาติ :: ญี่ปุ่น

    ลักษณะภายนอก :: 

         เส้นผมสีดำขลับนุ่มลื่นราวเส้นไหมถูกปล่อยไว้จนยาวระกับเอวคอด กลุ่มผมมักถูกรวบขึ้นสูงแล้วผูกเป็นโบว์ด้วยผ้าที่มีสีม่วงราวสีของดอกอายาเมะอวดลำคอขาวเนียน ผมด้านหน้ายาวเลยคิ้วมาเล็กน้อยปิดบังหน้าผากมนเสียจนมิด คิ้วโก่งได้รูปที่มีสีเดียวกันกับเส้นผมมักจะขมวดเข้าหากันอยู่ตลอดเวลาราวกับมีเรื่องให้ขุ่นใจ แพขนตางอนงามล้อมกรอบดวงตาสีม่วงที่ส่องประกายราวอัญมณีเม็ดงามมากราคา ดวงเนตรคู่เฉี่ยวมักจะแสดงออกถึงความเข้มแข็งและไม่ไว้วางใจผู้ใดทั้งสิ้น.. ทว่าลึกๆแล้วก็ยังมีประกายโอนอ่อนซ่อนเอาไว้

         ผิวกายขาวอมชมพูตัดกับสีของเส้นผมขับให้นางดูโดดเด่น จมูกโด่งรั้นขึ้นเล็กน้อยแต่พองาม ริมฝีปากเล็กได้รูปมีสีอ่อนๆของบุปผาทว่ามักจะเม้มเข้าหากันจนมีสีแดงช้ำน้อยๆ ใบหน้าสวยแต่เรียบนิ่งมักจะเชิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่มีอยู่ในตัว ประกอบกับวาจาเด็ดขาดและการวางมาดที่ดูเป็นผู้ใหญ่นั้นทำให้นางดูสง่างามมิแพ้คนใหญ่คนโตรึหญิงสาวที่ถูกอบรมมารยาทมาเป็นอย่างดี เรือนร่างที่ไร้รอยตำหนิหาได้ดูเย้ายวนเช่นหญิงอื่น.. ทว่านางเองก็มีความงามในแบบของตนเอง เป็นความงามที่เกิดจากปัญญา ฝ่ามือคู่บางนั้นให้สัมผัสหยาบกระด้างน้อยๆจากการทำงานบ้านงานเรือน.. และยังมีสัมผัสยังเฉียบเนื่องจากผ่านการหลับใหลมานานแรมปี

         เรือนร่างบอบบางถูกปกปิดไว้ด้วยกิโมโนสีอ่อนปักลวดลายที่ดูเรียบง่ายทว่าให้ความรู้สึกหรูหรา นางมิใช่หญิงสาวที่โปรดปรานเสื้อผ้าสีสดใสหรือที่มีสีฉูดฉาด ร่างกายและเส้นผมของนางมีกลิ่นชื้นของหยดน้ำฝนและกลิ่นหอมจางๆของบุปผาแฝงอยู่อย่างเป็นธรรมชาติ

         ส่วนสูงอยู่ที่ราวๆ 165 เซนติเมตร และจากที่ดูก็คงไม่มีทางเพิ่มไปมากกว่านี้แล้ว น้ำหนักราว 49 กิโลกรัม รับกับรูปร่างเล็กและผอมบางของนาง

    ลักษณะนิสัย :: 

    องเมียวจิผู้นี้ดูภายนอกจะเป็นคนที่สุขุม ดูเป็นผู้ใหญ่


         หากได้ชื่อว่าเป็นองเมียวจิผู้ถูกยอมรับโดยนายหญิงแห่งยมโลกแน่นอนว่าต้องเป็นบุคคลที่มีความสุขุมหาใครเปรียบ หน้าตานิ่งเฉยเป็นดั่งปราการอันแกร่งกล้าที่คอยปิดซ่อนความรู้สึกนึกคิดของอิสตรีผู้นี้เอาไว้.. ใบหน้าไร้การแสดงออกถึงอารมณ์ใดๆ มีเพียงคิ้วโก่งที่จะขมวดมุ่นและริมฝีปากที่เม้มแน่นเป็นบางครั้งบางคราว ถึงแม้นจะเป็นเพียงสตรีร่างอรชรแต่บรรยากาศรอบกายช่างสุขุมและน่าเคารพยิ่งกว่าบุรุษยศสูงหลายๆท่านอย่างน่าประลาดใจ การแสดงออกของนางนั้นช่างงามสง่าและผ่านกระบวนการทางความคิดมาก่อนที่จะได้แสดงหรือเอื้อนเอ่ยสิ่งใดเสมอ เพราะเหตุนั้นทุกการกระทำจึงไร้ซึ่งอารมณ์ส่วนตัว..มีเพียงหลักความถูกต้องและเหตุผล การไตร่ตรองทุกสิ่งที่ได้สดับฟังมาก็ถือว่าเป็นหนึ่งในข้อดีของนาง เพราะฉะนั้นแล้วอายาเมะจึงถือว่าเป็นสตรีที่ใช้เหตุและผลก่อนความรู้สึกของตนเองอยู่เสมอ


    มีความตั้งใจอันแน่วแน่และเด็ดขาด มีดวงจิตที่แกร่งกล้า


         ว่ากันว่าหากองเมียวจิหญิงนางนี้ได้กล่าวคำใดออกไปสิ่งนั้นก็จักสำเร็จในเวลาไม่นาน อาการเช่นนี้แสดงให้เห็นว่านางเป็นหญิงสาวที่มีความตั้งใจแน่วแน่ หากกล่าวอะไรไว้แล้วจักต้องรีบทำให้สำเร็จโดยเร็ววันไม่งั้นคงกินไม่ได้นอนไม่หลับเป็นแน่แท้ นางมิต้องการให้พูดอื่นมาว่ากล่าวว่านางโป้ปด มิยอมทำตามสิ่งที่ตนเองได้กล่าวเอาไว้.. ต่อให้ต้องเจ็บหรือฝืนตนมากเท่าไหร่นางก็จะรีบทำตามคำกล่าวของตนให้เสร็จในเร็ววัน กรณีนี้จะว่าเป็นข้อดีที่นางทำตามคำของตนก็ใช่ แต่จะว่าเป็นข้อเสียที่มุ่งมั่นเกินไปจนฝืนตัวเองโดยมิใช่เรื่องก็ถูกต้องเช่นกัน ดวงจิตอันแกร่งกล้าเป็นสิ่งที่ทำให้นางมิอ่อนไหวหรือหูเบาต่อคำพูดและคำหว่านล้อมใดๆ.. คำพูดเหล่านั้นจะถูกเก็บเอาไว้ในสมองอยู่ในขั้นไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนและบ่อยครั้งที่คำพูดพวกนั้นออกมาเป็นเพียงคำลวงอย่างที่นางเคยคิดไว้

         วาจาของนางนอกจากจะถูกเอื้อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแล้ว ยังจะเป็นคำพูดประเภทที่ตรงไปตรงมาไร้ซึ่งการอ้อมค้อม ถึงมิต้องตีความก็สามารถเข้าใจในสิ่งที่นางพูดได้อย่างง่ายดาย... ยามเอ่ยคำสั่งใดออกมาก็แปลว่านางหมายความเช่นนั้น มิจำเป็นต้องคิดเผื่อล่วงหน้าว่านางกำลังสื่อถึงสิ่งอื่นรึไม่ ความเด็ดขาดถูกแฝงเอาไว้ในทุกประโยคที่นางได้กล่าว ยามอายาเมะสั่งสิ่งใดนางก็หมายถึงสิ่งนั้นจริงๆ.. หากนางต้องพูดทวนซ้ำเป็นรอบที่สองจะเป็นการเน้นคำเพื่อเร่ง ถ้าเกิดยังมีครั้งที่สามนางก็จะมิอดทนอีกต่อไป เธอจะลงมือจัดการเรื่องราวเหล่านั้นด้วยตนเอง มิว่าผู้ใดก็ห้ามนางมิได้เสียแล้ว แต่กระนั่นยามผู้ใดเอ่ยถึงสิ่งที่ต้องตีความ อายาเมะก็สามารถที่จะเข้าใจมันได้อย่างง่ายดายแม้นตนจะมิชอบอ้อมค้อมก็ตามที เวลาถอบคำถามใดก็ใช้เพียงคำพูดที่สั้นและเข้าใจง่าย การหลับใหลนับร้อยปีทำให้นางคุ้นชินกับการปิดปากเงียบเสียมากกว่า หาได้กลัวดอกพิกุลทองร่วงออกจากไม่


    องเมียวจิเป็นคนทำลายความเชื่อใจของนาง นางจึงคิดว่า'มนุษย์นั้นก็มิได้ต่างจากปีศาจเสียเท่าไหร่'


         อิสตรีผู้นี้เองก็มีฐานะเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ทว่านางกลับรังเกียจมนุษย์เช่นเดียวกันเสียยิ่งกว่าอะไรดี.. สายตายามจับจ้องพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความหวาดระแวงและไม่ไว้เนื้อเชื้อใจอย่างรุนแรง หากสายตาหยุดอยู่ที่ผู้คนที่ชอบเสแสร้งความหวาดระแวงนั้นจะถูกแทนที่ด้วยความรังเกียจที่แสนรุนแรง บัดนี้ยามทอดดวงเนตรมองมนุษย์นางก็ทำได้เพียงพร่ำคิดอยู่ในใจ ' มนุษย์นั้นมิได้ต่างอะไรกับปีศาจเลยแม้แต่น้อย ' ทั้งความละโมบโลภมาก ความอิจฉาริษยา ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ตนขึ้นไปเหยียบยังจุดสูงสุด.. ไม่เว้นแม้แต่การสังหารหรือทรมาณมนุษย์ด้วยกันเอง การกระทำเช่นนี้ยังสมควรได้รับความไว้ใจจากนางอีกหรือ? มิสมควรอยู่แล้ว.. ดีไม่ดีในบางคราวอายาเมะยังคิดว่าปีศาจนั้นน่าไว้ใจยิ่งกว่ามนุษย์ด้วยซ้ำ หากให้ยกตัวอย่างก็เช่น โอมุคาเดะ.. ปีศาจตะขาบยักษ์ผู้เป็นบิดาบุญธรรมของเธอ ปัจจุบันเขาถูกสังหารไปแล้ว อีกคนที่นางพูดว่าพอไว้ใจได้ก็คงเป็นเจ้าแห่งยมโลกอย่างเอ็นมะ.. แม้นางจะมิคุ้นเคยกับเอ็นมะเท่าไหร่แต่นางก็เชื่อว่าผู้ปกครองยมโลกนั้นไว้ใจได้เป็นแน่แท้


    มีข่าวลือว่านางและ อาเบะ โนะ เซย์เมย์ นั้นมีใบหน้าและนิสัยที่คล้ายคลึงกัน


         ยามเมื่อลืมตาขึ้นนางเองก็ได้ยินข่าวลือเรื่องนี้มานับครั้งไม่ถ้วนเสียจนมันก่อให้เกิดนิสัยใหม่ขึ้นกับตัวของนางเอง ยามใดที่ได้ยินชื่อ' อาเบะ โนะ เซย์เมย์ 'ก็จะรีบกวาดสายตามองหาไปทั่วว่าชายคนที่ว่านั้นอยู่แถวนี้หรือไม่ แต่กระนั้นการที่นางมิรู้ว่าเขามีหน้าตาเช่นไรก็ทำให้หาตัวได้ยากเอาการ.. ก่อให้เกิดนิสัยชอบแอบฟังเกี่ยวกับเรื่องที่ตนอยากรู้ อย่างในยามนี้ก็หนีไม่พ้นเรื่องของอาเบะ โนะ เซย์เมย์ เธอชอบที่จะไปแอบฟังเกี่ยวกับข้อมูลและข่าวคราวเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับองเมียวจิหนุ่มที่ผู้คนพูดต่อๆกันๆมา ถึงแม้จะติดนิสัยชอบแอบฟังได้ไม่นานแต่ก็มิเคยถูกจับได้เลยแม้แต่คราเดียว จัดว่าเป็นเรื่องน่าแปลกใจอยู่ไม่น้อยสำหรับคนที่พึ่งทำตัวแบบนี้ได้ไม่นาน.. นั่นก็คงเพราะรูปร่างเล็กที่ทำให้เคลื่อนไหวสะดวก นางจึงสามารถหลบหนีได้อย่างทันท่วงที


    ความยุติธรรมคือสิ่งที่เฝ้าค้นหา จะมิยอมให้ผู้ใดต้องตกระกำลำบากเช่นตัวนางในอดีตเด็ดขาด


         อิสตรีผู้นี้ ในอดีตนางถูกตัดสินให้หลับใหลนานนับร้อยปีโดยมีเหตุมาจากคำครหาของเหล่าองเมียวจิผู้โง่เขลาทั้งสิ้น การที่นางถูกตัดสินให้กลายเป็นผู้ผิดโดยไร้ความยุติธรรมก่อเกิดเป็นความรู้สึกไม่ชอบใจอันแรงกล้า อายาเมะต้องการที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตนเองและผู้อื่นเพราะนางมิต้องการเห็นผู้ใดต้องเจ็บปวดหรือทุกข์ทรมาณเพราะผู้ตัดสินที่ขาดความเที่ยงธรรมเฉกเช่นตัวนางเอง ความรู้สึกเหล่านี้ถูกสะสมมาตลอดเวลาที่นางหลับใหลจนมันกลายเป็นความรู้สึกอันกล้าแกร่ง ยามใดที่มองเห็นบุคคลถูกรุมครหานางจึงไม่ลังเลที่จะเข้าไปช่วย เพียงปรายตามองปราดเดียวนางก็รู้แล้วว่าใครกำลังโป้ปดหรือคิดทำการอันไร้ซึ่งความเที่ยงธรรม เพราะการนี้อายาเมะถึงกลายเป็นหญิงสาวที่มีความเที่ยงตรง ความถูกต้อง หน้าที่ สิ่งเหล่านี้ล้วนต้องมาก่อนความรู้สึกส่วนตัวหากนางจำเป็นที่จะต้องตัดสินเรื่องใดอย่างเด็ดขาด.. เธอมิเคยปล่อยให้ความรู้สึกส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวพันกับหน้าที่จนทุกอย่างมิเป็นไปตามหลักความถูกต้อง แต่กระนั้นนางก็ไม่ได้ตรงเสียทุกคราวไป บางทีความถูกต้องก็มิใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด..เรื่องนี้นางก็ทราบดีเช่นกัน ทว่าหากต้องใช้ความรู้สึกตัดสินสิ่งใดจะเกิดอาการโลเลอย่างเห็นได้ชัด สิ่งที่นางรู้สึกนั้นดีแล้วจริงหรือ? ตัวเลือกและสิ่งที่นางต้องการถูกต้องที่สุดจริงๆหรือ..?


    แม้นภายนอกจะดูสุขุม ทว่าเวลานับร้อยปีที่ผ่านพ้นก็เต็มไปด้วยสิ่งน่าฉงน


         เวลานับร้อยปีได้พ้นผ่านไป เหลือเพียงแต่อิสตรีผู้นี้ที่มิได้จากพื้นพิภพไปอย่างที่ควรจะเป็น.. สติที่ตัดขาดการรับรู้จากโลกภายนอกมานับร้อยกว่าปีทำให้นางมิอาจจะรับรู้ได้เลยว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอันใดขึ้นกับโลกที่อยู่หลังม่าน เรื่องเล่าแปลกใหม่ สิ่งของที่นางมิเคยคุ้น ผู้คนมีชื่อเสียงที่นางมิเคยพบเห็นหน้า ล้วนแต่เกิดขึ้นมากมายตลอดยามที่นางหลับใหล หากได้ยินเกี่ยวกับเรื่องราวที่ตนไม่รู้จักก็จะแสดงท่าทางสนอกสนใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด ท่าทางของนางยังดูนิ่งเฉยและสุขุมอย่างเคยทว่าดวงตาของนางกับเป็นประกายพราวระยับมิต่างอะไรจากเด็กน้อย มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มเล็กๆที่สังเกตุเห็นได้ยาก ท่าทางเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงคงามเป็นผู้ใฝ่รู้ หากมีเรื่องอันใดมี่นางมิทราบหรือว่ามิเข้าใจ นางก็ไม่ลังเลที่จะถามคนข้างกายเกี่ยวกับเรื่องที่นางอยากจะรู้และสงสัย


    ความรักนั้นเป็นเรื่องที่อยู่ไกลตัวเกินจะเอื้อมถึง จักมีบุรุษใดทำให้นางไหวหวั่นได้รึไม่?


         อายาเมะนั้นมีมุมมองที่ไม่ชัดเจนต่อความรัก สตรีนางนี้มิเคยคิดถึงเรื่องความรักอย่างจริงจังเลยแม้แต่น้อย.. หากให้กล่าวว่านางมองความรักอย่างไรก็คงตอบได้เพียงเป็นเรื่องไกลตัวและมิได้สำคัญอะไรต่อชีวิตนางถึงเพียงนั้น ต่อให้ถูกบุรุษหน้าตาหล่อเหลาเกี้ยวพาราสีมากถึงเพียงใดก็มิเคยแสดงท่าทีอ่อนไหวหรือเขินอายให้ชายใดเชยชมเลยแม้แต่น้อย มีก็เพียงแต่ดวงตาคมกริบที่ปรายมองด้วยความเฉยชาก็เท่านั้น ดูแล้วราวกับว่าหัวใจของนางได้ถูกผนึกเอาไว้ด้วยปราการน้ำแข็งสูงชันยากแก่การทำลาย.. แต่จักใจแข็งไปเช่นนี้ได้ตลอดเชียวหรือ? น้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกร่อน ภูเขาน้ำแข็งาูงชัรเองก็มีวันละลาย นับประสาอะไรกับใจสตรีเช่นนาง ต่อให้ปราการทางจิตใจกล้าแกร่งเพียงใดก็ต้องโอนอ่อนอยู่ดียามเจอชายที่ฟ้ากำหนดมา


    แม้นภายนอกจะเป็นผู้ใหญ่แต่ก็ยังอ่อนหวานน่าทะนุถนอม งานบ้านงานเรือนนั้นหาใช่สิ่งที่เกินความสามารถนาง


         ภายนอกมักจะแสดงออกถึงท่าทีราวกับผู้ใหญ่มากด้วยปัญญาและความสุขุม ทว่านางเองก็มีด้านที่อ่อนหวานสมกับประโยคที่ว่า ' อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ ' งานบ้านงานเรือนหรือสิ่งที่สตรีทั่วไปควรจะทำได้มิใช่เรื่องที่เกินความสามารถของนางผู้ที่ใส่ใจในการศึกษาศาสตร์แห่งองเมียวจิ ทว่าการแสดงออกของนางดูจะแข็งกระด้างไปเสียหน่อย จะเรียกว่าอ่อนโยนก็คงพูดได้ไม่เต็มปากนัก..หากพูดให้ถูกก็คือยังเป็นห่วงเป็นใยแต่ก็มิได้ช่วยเหลืออะไร ท่าทางเช่นนั้นกลับทำให้นางดูน่าทะนุถนอมอย่างน่าประหลาดใจ เหตุเพราะปกติมักจะแสดงกิริยาเข้มแข็งให้เห็นอยู่เสมอ วาจาเด็ดขาดจักถูกเสริมด้วยความอ่อนน้อมแทนหากพบผู้คนที่หน้าให้ความเคารพ ถ้าจะให้เอ่ยก็คงเป็นเทพระดับสูง.. แต่ถ้าเอาที่นางเคยพบเจอก็คงเป็นเอ็นมะนั่นแล ปากบอกว่าตนมิคุ้นเคยกับศิลปะด้านความบันเทิงเช่นการร่ายรำหรือการดนตรี แต่พอได้ลองแสดงให้ดูแล้วก็จัดว่ามิได้แย่อะไรนัก


    ดั่งคำกล่าวที่ว่าอารมณ์สตรีนั่นเข้าใจได้ยาก หากอารมณ์ของนางคุกรุ่นขึ้นเมื่อใดก็มิต่างอันใดกับเปลวเพลิง


         อย่างที่ว่าอารมณ์ของสตรีนั้นเข้าใจยาก หากเป็นอายาเมะแล้วอารมณ์ของนางนั้นจะซับซ้อนกว่าหญิงอื่นหลายเท่าตัว เพราะหน้าตาเรียบนิ่งและดวงตาเฉยชาคู่นั้นที่คอยปิดซ่อนทุกสิ่งเอาไว้เบื้องหลัง.. บางคราคำพูดคำจาของนางอาจฟังดูเหมือนไม่คิดอะไรแต่ใครเล่าจะรู้ว่าอันที่จริงนางอาจจะกำลังเสียงใจอยูาก็เป็นได้ ยามใดที่เพลิงพิโรธในอกได้โหมกระหน่ำ ก็ราวกับเพลิงนรกที่กำลังมอดไหม้และพร้อมที่จะแผดเผาทุกสิ่งให้วอดวาย การที่จะปลอบนางที่กำลังโมโหให้ใจเย็นนั้นเป็นเรื่องยาก.. แต่หากจับจุดได้ว่านางชอบรึไม่ชอบอะไรก็เป็นเรื่องง่ายที่จะปลอบให้นางกลับมาสุขุมเหมือนดั่งเคย หากอารมณ์เย็นลงแล้วก็จะแสดงท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาวราวกับเรื่องที่นางโกรธาเมื่อครู่นี้มิเคยเกิดขึ้นมาก่อน



    ยามราตรีเมื่อจันทราเคลื่อนตัวขึ้นสูง นิทานมากมายถูกขับขานด้วยเสียงหวานอีกครา



         อายาเมะนั้นชื่นชอบในเรื่องเล่าและนิทานต่างๆตั้งแต่อายุยังน้อย ยามได้ฟังเพียงครั้งเดียวก็สามารถจดจำเนื้อหาของเรื่องราวเหล่านั้นได้จนขึ้นใจ.. หากมีผู้ใดเสนอเล่านิทานหรือเรื่องเล่าใดให้นางฟัง นางก็จะตอบตกลงไปอย่างมิลังเล แม้บางเรื่องนางจะได้ฟังบ่อยจนควรรู้สึกเอียนได้แล้ว ทว่านางกลับมิเคยเหนื่อยหน่ายเพราะความชื่นชอบของตน.. อีกสาเหตุก็เพราะนับตั้งแต่โอมุคาเดะถูกสังหารไปก็มิเคยมีผู้ใดเล่านิทานให้นางฟังอีกเลย ถึงจะชอบให้ผู้อื่นเล่าให้ตนฟังแต่ก็ชื่นชอบที่จะเล่าให้ผู้อื่นฟังเช่นกัน ยามนางกล่าวถึงนิทานรึเรื่องเล่าดวงตาจะเป็นประกายพราวระยับด้วยความชอบใจ มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มจางๆบนใบหน้าเพียงชั่วครู่ก่อนจะถูกแทนด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนอย่างเคย


    ประวัติ ::


    " อยากฟังเรื่องราวของข้างั้นหรือ? "


    " เช่นนั้นก็นั่งลงเสีย.. "



    " นิทานเรื่องนี้อาจต้องใช้เวลาเล่าทั้งราตรี.. "




    ลักษณะการพูด :

         อายาเมะเป็นหญิงสาวที่มีน้ำเสียงอ่อนหวานทว่าแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นและความเด็ดขาด ยามปกตินั้นก็จะเอื้อนเอ่ยทุกสิ่งด้วยจังหวะที่มิรีบร้อนมากนัก เรียกตัวเองว่า' ข้า 'และอาจเรียกอีกฝ่ายว่า' เจ้า 'รึ' ท่าน ' ขึ้นอยู่กับนางว่ามองอีกฝ่ายน่านับถือเพียงใด.. อย่าได้ถามหาวาจาอ่อนหวานจากนาง เพราะสิ่งที่ได้จักรับมีเพียงความเด็ดขาดเท่านั้น

    " ข้ามิอยากเอ่ยอันใดซ้ำเป็นคราวที่สองหรอกนะ "

    " ..อยากจะเอ่ยอันใดก็ตามใจท่านเถิด... "

         ยามเมื่ออารมณ์พุ่งขึ้นสู่จุดที่เข้าใกล้คำว่าโกรธ คิ้วที่เคยขมวดเข้าหากันน้อยๆนั้นจะขมวดหนักกว่าเดิมครู่นึงแล้วคลายออก ดวงตาคมเฉี่ยวจดจ้องราวจะหมายเอาชีวิตของใครบางคน น้ำเสียงมิต่างจากเคยเท่าไหรเพียงแต่จังหวะการพูดจะดูรีบเร่งขึ้น

    " ..มนุษย์นั้นก็น่ารังเกียจเหมือนกันหมดนั่นแล.. "

    " ยามประสบภัยก็อ้อนวอนขอความกรุณา หากแต่ยามพ้นภัยก็ทอดทิ้งผู้ช่วยเหลือ..ซ้ำร้ายยังแว้งกัดผู้มีพระคุณ "

    " ไร้ซึ่งความเที่ยงธรรม.. ฆ่าแกงได้แม้กระทั่งคนชิดใกล้ น่ารังเกียจมิต่างจากสัตว์เดรัจฉาน..! "

         ยามปราการแกร่งกล้าภายในใจถูกทำลายลงก็มิต่างกับเด็กน้อยที่กำลังหลงทาง ความโลเลเกาะกุมจิตใจ ท่าทางล่อกแล่กราวหาที่ยึดเหนี่ยวมิได้ น้ำเสียงสั่นเครือและขาดห้วง การตอบสนองช้าลงจนสังเกตุได้ชัด

    " ..ข้า.. ข้าไม่รู้... "

    " สิ่งที่ข้าเลือก.. มัน-- ดีที่สุดแล้วจริงหรือ?.. ข้า.. ข้าไม่รู้.. "

         ยามใดที่หวาดกลัวรึโศกเศร้าก็มิต่างจากตัวตนในวัยเด็ก สับสน ไร้หนทางและที่ไป.. มิมีผู้ใดอยู่เคียงข้าง ใบหน้าซีดเผือกพร้อมกับอาการประหม่าจนเห็นได้ชัด น้ำเสียงสั่นราวจะร้องไห้อยู่รอมร่อ

    " ..ข้าเพียงแค่... อึก.. "

    " ได้โปรด.. อย่า..หายไป.. อย่าหายไป..แบบเขา.. "

    สิ่งที่ชอบ :: 

         + ดอกอายาเมะ ( ไอริส ) | คงเพราะเป็นดอกไม้ที่โอมุคาเดะเอามาตั้งเป็นชื่อให้ด้วยเลยชอบ แต่อีกใจนึงก็เพราะความหมายของดอกอายาเมะ

         + ชาสมุนไพร | รสชาติและความร้อนของชาประกอบกับกลิ่นหอมของสมุนไพรช่วยให้นางสบายใจขึ้น

         + สายลม | ยามสายลมอ่อนโยนพัดผ่านร่างก็ช่วยชำระความคิดร้ายๆให้หายไปจนหมดสิ้น

         + ดวงดาว และ ดวงจันทร์ | สองสิ่งที่อยู่เคียงคู่กันเมื่อราตรีมาเยือน แสงนวลของจันทราและประกายระยับจากดาราช่างดูสวยงามเสียจริง

         + ดนตรีเครื่องสาย | เสียงดนตรีช่วยคลายอารมณ์ตึงเครียดได้เป็นอย่างดี

        + ฝน | กลิ่นชื้นของสายฝนนั้นคล้ายกับกลิ่นอายจากร่างของนาง มิหนำซ้ำน้ำฝนเย็นๆยังช่วยให้สดชื่นด้วย

         + นิทาน และ เรื่องเล่า | เพราะวัยเด็กโอมุคาเดะมักจะสรรหานิทานที่น่าสนใจมาให้นางฟังเสมอ

    สิ่งที่ไม่ชอบ :: 

         + มนุษย์ | จำต้องอธิบายอะไรให้มากความด้วยฤา? โดนหักหลังเสียขนาดนั้นจะให้นางญาติดีด้วยก็กระไรอยู่

         + เสื้อผ้าสีหวานๆ หรือสีฉูดฉาด | มันดูเยอะเกินไป..

         + สุรา | น้ำเมาเปลี่ยนคน หากผู้ใดลิ้มลองก็มิต่างจากสัตว์ร้ายยามมึนเมา

         + ความไม่เที่ยงธรรม | ใครเล่าจะอยากให้ผู้อื่นประสบชะตากรรมเช่นตนโดยการพบผู้พิพากษาที่ไร้ความเป็นธรรม

    สิ่งที่กลัว :: 

         + ลูกธนู | ภาพที่โอมุคาเดะถูกธนูสามดอกคร่าชีวิตไปยังติดตาเธอไม่หาย ยามเห็นทีไรก็ราวกับโดนภาพนั้นหลอกหลอน

         + การจากลาโดยมิทันตั้งตัว | นางกลัวที่จะเสียคนใกล้ตัวไปโดยมิทันรู้สึกตัว เช่นเดียวกับยามที่นางเสียโอมุคาเดะผู้เป็นเหมือนบิดาไป

         + ที่มืด | ช่างน่าพิศวง.. แต่คงเพราะวัยเด็กที่นางติดอยู่ในถ้ำมืดๆหลายต่อหลายวันจึงทำให้ขยาดที่มืดไปอีกนาน

    งานอดิเรก :: 

         + ฝึกฝนศาสตร์แห่งองเมียวจิ | การฝึกฝนและขัดเกลาความสามารถอยู่เสมอมิใช่เรื่องแปลกสำหรับสตรีใฝ่รู้เช่นนาง

        + ทำงานบ้านงานเรือน | หากนางพักอาศัยอยู่ที่ใดนานๆ ก็มักจะลุกขึ้นมาจัดการสถานที่นั่นจนสะอาดเอี่ยม

         + เที่ยวชมศาลเจ้าต่างๆ | หากวันใดนางเกิดว่างมากๆก็อาจจะนึกคึกลุกออกจากเรือนไปเดินเตร่ชมศาลเจ้าที่นั่นที ที่นี่ที

    เพิ่มเติม :: 

         + จุดอ่อนไหวอยู่แถวๆลำคอและลาดไหล่แคบ หากโดนสัมผัสจะเกิดอาการตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด

         + ความหมายของดอกไอริสคือ ความจงรักภักดี ความกล้าหาญ ความฉลาด ศรัทธา และความหวัง

         + CV. จิ้ม

         + บางคืนตอนนอนอยู่ก็จะฝันร้ายเกี่ยวกับเรื่องในอดีตจนเผลอสะดุ้งตื่นขึ้นมาในสภาพเหงื่อท่วมตัว



    T A L K

    สวัสดีค่ะ!ท่านผู้ปกครอง เรามีชื่อว่า ซือเค่อหรือในชื่อเก่าที่ชื่อว่า เซบ ไม่ทราบว่าท่านผู้ปกครองมีชื่อว่าอะไรหรือคะ?
    :: ฮารุกะฮาร์ทเองค่ะ แฮ่wwww

    ต้องของอภัยอย่างมากหากท่านเป็นหนึ่งในคนที่ติดตามเรื่องMystic Messengerที่เราเคยเปิดรับสมัครแล้วลบออกไป เพราะเรารู้สึกว่าคนส่งมันน้อยมากกกก บวกกับความขี้เกียจเล็กๆ(?)
    :: ไม่เป็นอะไรค่ะ เราไม่ได้ต--- /โดนดีด

    เหตุใดท่านจึงส่งลูกสาวมาให้ไรท์ยำ(?)เล่นคะ?
    :: ตอนแรกกะจะยกเค้า(?)ฟอร์มของสึบากิจังใหม่ แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว.. งอกใหม่ค่ะ! จัดไป!

    ไรท์ยอมรับเลยว่าไรท์ชอบดอง หากว่างก็จะแต่งไปเรื่อยๆ บางครั้งก็หายหน้าไปเลยยยย(?) บวกกับภาษาแนวจีนโบราณมันค่อนข้างดูดพลังงานไรท์หนักมาด้วย
    :: เราเข้าใจค่ะ เอื้อ---

    หากลูกสาวของท่านไม่ติด ท่านจะเผาบ้านไรท์ไหม---
    :: ไม่เผาค่ะ โน้ววว แต่เศร้า ฮา

    ท่านอวยอยากให้ลูกสาวคู่กับใครเป็นพิเศษไหมคะ?
    :: พ่อเร็นคนเดิมค่ะ กี๊ดๆๆๆ

    ขอบพระคุณมากค่ะที่ส่งลูกสาวมาให้เรา! เราจะพยายามแต่งออกมาให้ได้ดีที่สุดเลยค่ะ!
    :: ค่่า สู้ๆอีกครั้งนะคะคุณซือเค่อ!




    Cr. MATCHA THEME
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×