ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Rebels คนบ้าระห่ำ แหกกฎสวรรค์

    ลำดับตอนที่ #2 : Luminous organism

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ค. 61


     1

    Luminous organism

        

         ร่างกายของฉันได้รับความอบอุ่น ผิวกายของฉันสัมผัสความอ่อนนุ่ม และอวัยวะที่เรียกว่าหัวใจที่กำลังเคลื่อนไหวไปมาอยู่ที่หน้าอกข้างซ้ายของฉันทำให้ฉันรู้ว่าฉันยังไม่ตาย!

     

         ฉันค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ แล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนของตัวเอง ขณะนี้เป็นเวลาหกโมงสิบห้า มันเป็นเช้าที่สดใสที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา และเป็นวันที่ไม่มีวี่แววของลางร้าย แสงแดดอุ่นๆ ที่สอดส่องมาที่ฉันทำให้ความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องร้ายๆ เมื่อวานนี้ค่อยๆ หายไป

     

         ราวกับว่าหัวใจที่มีบาดแผลลึกที่สะสมมานานจะได้รับการเยียวยาจากใครบางคน ฉันจึงยิ้มให้กับความโชคดีของตัวเองที่นานๆ ทีจะมีครั้งแล้วลุกขึ้นจากเตียงออกไปจัดการเรื่องของตัวเองก่อนที่จะกลับเข้าไปให้ห้องนอนอีกครั้ง

     

         เมื่อเวลาล่วงเลยไปประมาณครึ่งชั่วโมง ฉันที่อยู่ในเครื่องแบบของโรงเรียนก็กลับเข้ามาในห้องนอนของตัวเองอีกครั้งเพื่อจัดการเก็บที่นอนให้เรียบร้อย แต่ก็น่าแปลกที่ห้องนอนของฉันดูเป็นระเบียบเรียบร้อยซึ่งแตกต่างจากตอนก่อนที่ฉันจะออกไปโดยสิ้นเชิง

     

         เมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันจึงเดินออกไปจากห้องนอนเพื่อลงไปกินอาหารเช้าข้างล่างทันที แต่มีบางอย่างที่ทำให้ฉันต้องหยุดชะงัก...

     

              ตุ้บ!!!  โครม!!!

     

         เสียงวัตถุกระแทรกกับพื้นห้องอย่างแรงดังขึ้น ฉันจึงหันไปมองทางต้นเสียง แล้วพบว่าผนังห้องได้ถูกทำให้เป็นรูโหว่ใหญ่ และที่สำคัญ...สิ่งที่ตกลงมานั้น เป็นสิ่งมีชีวิตที่เรืองแสงได้!!! มันเป็นร่างของชายหนุ่มผมสีเทารูปงามที่นอนเปลือยกายอยู่บนพื้นอย่างไม่ได้สติ

     

         " กรี๊ดดดดดด!!! " ฉันกรีดร้องสุดเสียงเมื่อเห็นบางอย่างเรืองแสงอยู่ใต้อวัยวะเพศของเขาคนนั้น ฉันจึงเอื้อมที่สั่นเทาของตัวเองเข้าไปหยิบสิ่งนั้น และทันใดนั้น...เขาก็ได้เปิดเปลือกตาของเขาขึ้นช้าๆ เผยให้เห็นนัยน์ตาสีฟ้าที่ดูแปลกตา

     

         " อ๊ากกกก!!! เธอข่มขืนฉัน! เธอลวนลามฉัน! ฉันเสียตัวให้เธอแล้ว! ไม่นะ...ฉันยังไม่อยากเสียตัว!!! " พอเขาพูดจบ ฉันจึงรีบชักมือออกทันที ฉันแน่ใจว่าผู้ชายคนนี้ต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ เพราะฉันยังไม่ได้ทำอะไรเขาเลย แค่จะหยิบสิ่งที่เรืองแสงนั้นออกมาเท่านั้น และฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องโวยวายขนาดนั้นด้วย!?!

     

         " นายเป็นใคร? นายเข้ามาในห้องฉันทำไม? แล้ว...ทำไม...นายถึงไม่ใส่เสื้อผ้า? "

     

         " ฉันเป็นใครหรอ? " เขาทวนคำพลางทำหน้างง " ฉันไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ใครเป็นคนพาฉันมา ไม่รู้ทั้งนั้นโว๊ย!!! หวังว่า...สิ่งนี้พอจะช่วยฉันได้ "

    เขาว่าพลางหยิบสิ่งที่เรืองแสงนั้นออกมาจากใต้อวัยวะเพศของเขา มันคือล็อกเกตสีเงินเรืองแสงรูปกางเขนติดปีก  และมีตัวหนังสือสีฟ้าสลักไว้ว่า 'S.O.G.'

     

         " นี่คืออะไรน่ะ? " ฉันถามแล้วดึงล็อกเกตนั้นมาจากเขา เพราะไม่เข้าใจว่าอักษรย่อที่สลักไว้บนสร้อยคอของผู้ชายคนนี้หมายความว่ายังไง บางที...อาจจะเป็นชื่อย่อของโรงพยาบาลประสาทที่เขาหนีออกมาก็เป็นได้

     

         " จะไปรู้ได้ไงวะ ก็ฉันจำอะไรไม่ได้เลย " เขาว่าอย่างหัวเสียก่อนที่จะว๊ากออกมา " ไม่รู้แหละ เธอต้องช่วยฉันให้กลับไปยังที่ที่ฉันมา เพราะเธอทำให้ฉันเสียตัว เธอต้องรับผิดชอบ!!! " 'ผู้ชายคนนี้...เป็นคนสติไม่ดีจริงๆ ด้วย' ฉันคิดก่อนที่จะถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วพูดกับเขาว่า

     

         " แล้วฉันจะช่วยนายได้ยังไงล่ะ? " 

     

         ก็อกๆๆ!!!

      

         เสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉันรีบเอาล็อกเก็ตนั่นยัดใส่กระเป๋ากระโปรงด้วยความตกใจ

     

         " แบล์...ลงมากินอาหารเช้าได้แล้ว " เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น เธอคือ'เบลลาทริกซ์' พี่สาวฝาแฝดของฉันเอง

     

         เบลลาทริกซ์หน้าตาเหมือนฉัน และสูงกว่าฉันเล็กน้อย เธอเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน และชั้นเดียวกันกับฉัน เพียงแค่ว่าเราเรียนอยู่คนละห้อง ชีวิตที่โรงเรียนของเบลลาทริกซ์ดีกว่าฉันมาก เพราะเธอเป็นคนอ่อนโยน เธอจึงมีเพื่อนมาก และเธอเป็นสาวฮอตอันดับหนึ่งของโรงเรียนที่มีคนคลั่งไคล้เธอเป็นจำนวนมาก และมีเพศตรงข้ามปรารถนาที่จะได้เธอไปครอบครองเป็นจำนวนมาก ด้วยความที่เบลลาทริกซ์เป็นคนใจอ่อน ขี้สงสารคน เธอจึงปฏิเสธไม่ได้เมื่อมีคนขอคบเธอ ทำให้เธอเปลี่ยนคู่ควงอยู่บ่อยๆ เธอจึงถูกเข้าใจผิดว่าเป็น'คาสโนวี่'อยู่บ่อยๆ หรือบางที...เธออาจจะเปลี่ยนคู่ควงบ่อยจนติดเป็นนิสัย แล้วกลายเป็นคาสโนวี่จริงๆ ก็เป็นได้

     

         " แบล์...ได้ยินฉันรึเปล่า? ลงมากินอาหารเช้าได้แล้ว " เสียงของเบลลาทริกซ์ดังขึ้นอีกครั้ง ฉันจึงมองหน้าชายหนุ่มเสียสติเจ้าปัญหาครู่หนึ่งก่อนที่จะตะโกนกลับไป

     

         " เธอลงไปก่อนเลย เดี๋ยวฉันตามไป " ฉันว่าพลางเอามือปิดปากคนตรงหน้าไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมา แล้วพยายามออกแรงลากเขาเข้าไปในตู้เสื้อผ้าของฉัน

     

         " มันจะสายนะแบล์ " ตอนที่เบลลาทริกซ์พูดเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ฉันกำลังเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วยัดร่างอันเปลือยเปล่าของสิ่งมีชีวิตเรืองแสงนี่เข้าไปในตู้เสื้อผ้า แต่เขามีท่าทีว่าจะขัดขืน

     

         " อยู่นิ่งๆ นะ ลองทำตัวเชื่องๆ แล้วเชื่อฟังฉันก่อน มันจะเป็นผลดีกับตัวนาย ถ้านายไม่เงียบแล้วคนอื่นมาเห็นเข้า มันจะเป็นปัญหานะ แล้วฉันก็จะช่วยนายให้กลับไปยังที่ที่นายมาไม่ได้ " ฉันกระซิบบอกเขา ซึ่งมันก็ได้ผล เขามีท่าทางสงบลง " อยู่ในนี้จนกว่าฉันจะกลับมา หาเสื้อผ้าจากตู้เสื้อผ้าฉันใส่ไปก่อนนะ แล้วฉันจะหาเสื้อผ้าผู้ชายมาให้ "

     

         " ฉันหิวข้าว! "  เขากระซิบบอกเขา

     

         " แบล์...เสร็จรึยัง? ทำอะไรอยู่? " สิ้นคำเบลลาทริกซ์ ฉันรีบปิดตู้เสื้อผ้าทันที เมื่อแน่ใจว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตเรืองแสงนั่นไม่มีท่าทีว่าจะออกมาแน่ๆ ฉันจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก

     

         " ฉ่ะ...ฉัน...เอ่อ...หาของอยู่น่ะ " ฉันร้องตอบไป

     

         " ของอะไร? ให้ฉันช่วยมั้ย? "

     

         " เอ่อ...กระเป๋านักเรียนน่ะ "

     

         " เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เพราะฉันเป็นคนเอามันกลับมาเมื่อคืน มันวางอยู่บนม้านั่งหน้าตึกเธอน่ะ แล้วตอนนี้มันก็ถูกเอาใส่รถเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องผลสอบเธอน่ะ ฉันเอาผลสอบของจริงมาเปลี่ยนให้เธอตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว รู้มั้ย...เธอได้คะแนนเยอะกว่าฉันตั้งเยอะ " เมื่อเบลลาทริกซ์พูดจบฉันก็ยิ้มอย่างดีใจทันทีพร้อมกับเปิดประตูออกไป

     

         " ว่าไงนะเบล? เธอบอกว่าผลสอบที่ฉันได้แจกในห้องเป็นของปลอมน่ะหรอ? " ฉันทวนคำพลางอ้าปากค้างแล้วทำตาโต

     

         " อื่มม์...เพื่อนร่วมห้องของฉันเป็นคนแกล้งเธอเองแหละ อย่าไปถือสาพวกมันเลย คนในห้องฉันน่ะ มีแต่พวกเลวๆ ทั้งนั้น "

     

         " เธอด้วยใช่มั้ยเบล? " ฉันถาม ต่อมาเบลลาทริกซ์ก็ทำหน้างงก่อนที่จะระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดัง

     

         " ถ้าฉันเลวแล้วใครจะนิสัยดีล่ะ จริงมั้ย? " เบลลาทริกซ์ตัดบทก่อนที่จะเดินนำฉันลงไปกินอาหารเช้า

     

         ไม่นาน...พวกเราก็เดินไปถึงห้องรับประทานอาหาร ซึ่งห้องนั้นถูกตกแต่งด้วยเครื่องเรือนสไตล์โรมานซ์สีดำทั้งหมด มีโต๊ะกินเช้าตัวยาวสีดำโปร่งแสงตัวใหญ่วางอยู่ท่ามกลางเหล่าเก้าอี้ทรงสูงสีดำ ที่นั่น...พ่อกับแม่ของฉันกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ และมีท่าทีว่ากำลังจะกินเสร็จในอีกไม่นาน

     

         " อรุณสวัสดิ์ค่ะ " ฉันกับเบลลาทริกซ์ร้องขึ้นเมื่อเข้าไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว และพบว่าอาหารถูกตักไว้แล้ว ฉันจึงรีบตักอาหารเข้าปากทันที

     

         " เฮ้! แบล์ที่รัก ลูกจะรีบไปไหนน่ะ ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ " พ่อของฉันพูดขึ้นแล้วยิ้มให้ฉันอย่างใจดี

     

         " ขอโทษค่ะพ่อ หนูคงหิวมาก เมื่อวานหนูแทบไม่ได้กินอะไรเลย " ฉันว่าแล้วทำตาโตเมื่อเห็นว่าฉันกินอาหารในจานไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว

     

         " เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะลูกรัก? " แม่ของฉันเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทางที่แปลกประหลาดของฉัน

     

         " เอ่อไม่เป็นอะไรค่ะ " ฉันตอบ

     

         " งั้นก็ทานต่อสิจ๊ะ " แม่ว่า

     

         " ค่ะๆ " ฉันรีบคำพลางตักข้าวเข้าปาก แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อฉันนึกขึ้นได้ว่า เจ้าสิ่งมีชีวิตเรืองแสงนั่นก็หิวเหมือนกัน

     

         " แม่ค่ะ หนูขอเอาข้าวขึ้นไปกินบนห้องนะคะ " ฉันว่าแล้วรีบถือจานข้าววิ่งขึ้นไปบนห้องนอนของฉันโดยไม่รอฟังคำตอบจากแม่

     

         เมื่อถึงห้องแล้ว ฉันจึงรีบเปิดประตูเข้าไปทันทีแล้วมองไปที่ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในสภาพปกตินั่น

     

         " เฮ้! เจ้าสิ่งมีชีวิตเรืองแสง ฉันเอาอาหารมาให้แล้วนะ รีบออกมาได้แล้ว " เมื่อฉันพูดจบ ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา เจ้าสิ่งมีชีวิตเรืองแสงนั่นคงไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วสินะ " เฮ้! นายยังอยู่ที่นี่อยู่รึเปล่า ช่วยตอบด้วย "

     

         แม้ว่าฉันจะพยายามเรียกเจ้าสิ่งมีชีวิตเรืองแสงนี่ตั้งหลายครั้ง แต่ผลลัพธ์มันก็เหมือนเดิมคือไม่มีเสียงตอบรับเหมือนเดิม 'หรือว่า...จะออกไปข้างนอกนะ?' ฉันคิดแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างก็ไม่พบสิ่งมีชีวิตใดๆ เคลื่อนไหวอยู่เลย เมื่อฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันทำไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ฉันจึงเดินออกไปทันที

     

         แอด!!!

     

         เสียงตู้เสื้อเปิดดังขึ้น ฉันจึงหันไปมองต้นเสียงพบว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตเรืองแสงนั่นยังอยู่ แถมยังพบว่า…เขายังได้เอาเสื้อผ้าของฉันมาใส่อีกด้วย มันเป็นเสื้อยืดสีขาวลายกางเขนมีปีกสีดำ กับกางเกงยีนส์สามส่วน เจ้านั่นหันมายิ้มให้ฉันแล้วชูสองนิ้วทำปากจู๋ ก่อนที่จะถามฉันว่า

     

         " ฉันน่ารักมั้ย? " ฉันจึงหัวเราะกับสภาพของเขาในตอนนี้ซึ่งดูดีกว่าตอนแรกมากอล้วจึงพยักหน้าให้เขา " ว๊าว...เธอชมฉันด้วย "

     

         " อย่าพูดคำว่า'ว๊าว'สิ มันทำให้ฉันนึกถึงคนที่โรงเรียนฉันน่ะ ซึ่งคนนั้นเป็นคนที่ฉันเกลียดมาก " ฉันว่า แล้วเขาก็พยักหน้ารับ " ดีมาก นายต้องทำตัวเชื่องๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ นะ เดี๋ยวฉันจะออกไปแล้วจะกลับมาประมาณสี่โมงเย็น นายอยู่ในนี้เงียบๆ นะ ห้ามส่งเสียงดังหรือทำเรื่องแปลกๆ อะไรเด็ดขาดเข้าใจมั้ย? " พอพูดจบเขาก็พยักหน้ารับ

     

         " อื่มม์...ตอนนี้นายหิวใช่มั้ย? ถ้าหิวก็กินอาหารนี่นะ พอกินเสร็จจะทำอะไรก็ได้ในห้องนี้ แต่ต้องไม่มีเสียงและห้ามออกไปข้างนอก ให้อยู่ในห้องนี้ตลอด เข้าใจมั้ย? " ฉันว่าแล้วเขาก็พยักหน้ารับอีก เมื่อเห็นดังนั้น ฉันก็สบายใจที่รู้ว่าคงจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

     

         " ฉันไปก่อนนะ " ฉันตัดบทแล้วเดินออกจากห้องนอนไป โดยล็อคกุญแจไว้

     

         ฉันเดินลงออกไปที่ชานบ้าน ที่นั่น...มีรถยุโรปสีดำคันใหญ่จอดรออยู่ ฉันไม่รอช้าที่จะเดินขึ้นรถไป และอย่างที่เบลลาทริกซ์ว่า ทุกอย่างถูกจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว

     

         " เบล...เธอทำยังไงกับผลสอบปลอมของฉัน? " ฉันเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเบลลาทริกซ์นั่งเงียบมาตลอดทาง

     

         " เอาสอดไว้ในหนังสือเรียนของเธอไง ซึ่งตอนนี้หนังสือเล่มนั้นก็อยู่ในกระเป๋าของเธอแล้ว เธอควรเอามันไปทิ้งไกลๆ ให้เร็วที่สุด แล้วอย่าลืมลบชื่อด้วยนะ " เบลลาทริกซ์ว่า ฉันรู้สึกภูมิใจที่ได้เกิดเป็นน้องสาวฝาแฝดของเธอจริงๆ เพราะเธอเป็นคนวางแผนเก่ง เธอมักจะช่วยเหลือฉันทุกเรื่อง แล้วมันก็ได้ผลดีเกินคาดหมาย ถ้าฉันจะขอให้เบลลาทริกซ์ช่วยเรื่องเจ้าสิ่งมีชีวิตเรืองแสงนั่น คงจะดีไม่ใช่น้อย

     

         " เอ่อ...เบล ฉัน--- "

     

         " เรื่องโทรศัพท์มือถือของเธอใช่มั้ย? " เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันก็มองหน้าเบลลาทริกซ์อย่างงงๆ ก่อนที่จะพยักหน้ารับอย่างช่วยไม่ได้ " ตอนนี้มันอยู่ที่คู่ควงคนปัจจุบันของฉัน เมื่อคืนเขาวิ่งตามรอยเท้าของเธอไปยังที่ที่เธอไป แล้วเขาก็โทรบอกฉันว่าเธออยู่ที่นั่น จากนั้นฉันก็รีบโทรหาคนขับรถให้ไปรับเธอที่นั่น แต่เธอหมดสติไปซะก่อน พวกเราจึงวุ่นกันยกใหญ่เพื่อที่จะช่วยกันเอาเธอใส่รถ แล้วเขาก็ลืมคืนมือถือของเธอมาให้ฉัน แต่ก็ไม่ต้องห่วงหรอกนะ เพราะฉันกำลังจะไปเอามันมาจากเขาวันนี้แหละ "

     

         " คู่ควงคนปัจจุบันของเธอน่ะหรอ? " ฉันทวนคำอย่างไม่น่าเชื่อ คู่ควงคนปัจจุบันของเบลลาทริกซ์ดูสายตาดี ว่องไวและแข็งแรงกว่ามนุษย์ธรรมดาอย่างน่าทึ่ง งั้นก็แสดงว่า...คนที่มาช่วยฉันเมื่อคืนคือคู่ควงคนปัจจุบันของเบลลาทริกซ์งั้นหรอ!?!

     

         " ใช่...คู่ควงคนปัจจุบันของฉันเอง เขาชื่อดรากเนส เรียนอยู่ห้องเดียวกันกับฉัน และเพิ่งเป็นนักเรียนใหม่ของปีนี้ เราเพิ่งคบกันได้ไม่นานมานี้เอง " เบลลาทริกซ์พลางทำท่าทางเพ้อฝัน " แต่มันแปลกมากที่เราจะสนิทกันเร็วขนาดนี้ และเขาก็น่ารักมากด้วย "

     

         " ฉันอยากจะขอบคุณเขาน่ะ แล้วฉันจะพบเขาได้เมื่อไหร่? "

     

         " งั้น...เที่ยงนี้เธอมาหาฉันที่ห้อง แล้วฉันจะพาเธอไปพบเขาเอง ฉันคิดว่า...ดรากเนสคงจะมีเรื่องที่จะพูดกับเธอด้วยเหมือนกัน "

     

         " อื่มม์...ฉันก็มีอะไรให้พวกเธอช่วยเหมือนกัน หวังว่า...เธอกับเพื่อนเจ๋งๆ ของเธอคงจะช่วยฉันได้นะ "

     

         " มีอะไรหรอ? "

     

         " คือว่า...เมื่อเช้านี้--- "

     

         " ถึงโรงเรียนแล้วครับ " คุณลุงคนขับรถร้องบอก คุณลุงคนนี้ทำงานรับใช้ตระกูลเวลส์ไดมอนด์ของฉันมานาน เขาเป็นคนซื่อสัตย์ และไว้ใจได้ ทำให้พวกเราสามารถทำเรื่องบ้าระห่ำได้อย่างลับๆ มากมายโดยที่ไม่มีใครรู้ 

     

         " เดี๋ยวค่อยเล่าต่อ " ฉันกระซิบบอกเบลลาทริกซ์ก่อนที่จะลงจากรถไป

     

         " คุณลุงคะ เรื่องที่ฉันกับแบล์คุยกันเมื่อกี้นี้ ขอให้คุณลุงช่วยเก็บไว้เป็นความลับนะคะ " เบลลาทริกซ์ร้องบอกคุณลุงคนขับรถ

     

         " ยินดีให้บริการครับ...เลดี้เบลลาทริกซ์ " คุณลุงว่า เมื่อเบลลาทริกซ์ลงจากรถแล้ว คุณลุงจึงรีบขับรถออกไปทันที

     

         ตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงเช้า ฉันรีบเร่งฝีเท้าเพื่อที่จะได้เข้าห้องเรียนให้ทันในการเรียนคาบแรก เมื่อถึงห้องเรียน ฉันจึงเดินเข้าไปนั่งที่ของตัวเองแล้วเตรียมของสำหรับการเรียนในคาบแรกนี้ ไม่นาน...ครูประจำวิชานี้ก็ได้เดินเข้ามาแล้วเริ่มสอน

     

         ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่มีสมาธิในการเรียนเลยเพราะมัวแต่กังวลเกี่ยวกับล็อกเกตสีเงินเรืองแสงรูปกางเขนติดปีกที่อยู่ในกระเป๋ากระโปรงของฉัน และฉันก็คิดถึงอักษรย่อบนล็อกเกตนั่นตลอดเวลา ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าอักษรย่อบนล็อกเกตนี้หมายความว่าอะไร

     

         กรี๊งงงงงงงงง!!!

     

         เหมือนว่ามันจะเป็นโชคดีของฉัน ที่ฉันแค่หลับไปแค่ในช่วงสั้นๆ การเรียนการสอนในคาบแรกของวันนี้ก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว ฉันจึงรีบวิ่งไปที่ห้องคอมพิวเตอร์เพื่อค้นหาความหมายของอักษรย่อนั้นต่อไป

     

         ฉันเดินเข้าไปในห้องคอมพิวเตอร์แล้วนั่งตรงเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ว่างอยู่ ฉันหยิบล็อกเกตนั้นขึ้นมาดูแล้วค้นหาคำว่า'S.O.G.' ฉันรอสักพัก แล้วมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างใจจดใจจ่อ หวังว่า...ฉันจะรู้ว่าอักษรย่อ'S.O.G.'นั่นหมายความว่าอะไร เพื่อที่ฉันจะได้ส่งเจ้าสิ่งมีชีวิตเรืองแสงนั่นกลับไปยังที่ที่เขามา และแล้ว...

     

         ไม่พบคำว่าS.O.G. การค้นหาล้มเหลว

     

         " อะไรกันเนี่ย!!! " ฉันสถบอย่างหัวเสีย เพราะกดค้นหาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ยังได้ผลลัพธ์เหมือนเดิม ฉันจึงปิดคอมแล้วเอาล็อกเกตใส่ในกระเป๋ากระโปรงตามเดิม ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องคอมพิวเตอร์แล้วเดินเข้าห้องเรียนเพื่อเข้าเรียนในคาบที่สองอย่างหัวเสีย เพราะเวลาสิบห้านาทีที่ฉันใช้ในการค้นหาความหมายของอักษรย่อ'S.O.G.'กลับไม่มีประโยชน์อะไรเลย!!!

         ในการเรียนในคาบที่สองนี้ ฉันนั่งเรียนอย่างไร้สติ ด้วยบรรยากาศในการเรียนที่น่าเบื่อประกอบกับความกังวลของฉัน ทำให้ฉันกึ่งหลับกึ่งตื่นสลับกับการดูนาฬิกาเพื่อรอเวลาเลิกเรียน

     

         เมื่อเข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาสิบสองนาฬิกา ฉันจึงเดินออกจากห้องพลางสะบัดหัวไล่ความง่วงนอนออกไป

     

         ฉันกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างมีความหวัง 'หวังว่า...ฉันคงจะได้พบเรื่องดีๆ นะ' ฉันคิดในขณะที่กำลังเดินขึ้นอาคารเรียนสีบลอนด์รูปไข่อิสเตอร์ ฉันเดินไปที่ชั้นสี่แล้วเลี้ยวซ้าย ในที่สุด...ฉันก็ได้มาหยุดอยู่หน้าห้องเรียนห้องหนึ่ง มีป้ายสีดำแผ่นใหญ่เขียนด้วยตัวอักษรสีแดงเลือดว่า'The Devil Class' นี่แหละ...คือห้องที่เบลลาทริกซ์เรียนอยู่ ซึ่งบรรยากาศของที่นี่ดูเงียบมากราวกับบ้านร้าง ฉันได้กลิ่นคาวเลือด และสัมผัสถึงความน่าสะพรึงกลัวตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้ามาเหยียบที่นี่

     

         สิบนาทีผ่านไป เบลลาทริกซ์ก็ยังไม่ออกมา ฉันจึงตัดสินใจเคาะประตูห้องนั้น ไม่นานก็มีคนออกมา เธอเป็นเด็กสาวร่างเล็กผู้มีผมหยิกสีแดงเพลิงที่ถือโน้ตเพลงไว้ในมือ ฉันคิดว่า เธอต้องเป็นนักดนตรีแน่ๆ

     

         " มาหาใครจ๊ะ? " เธอคนนั้นเอ่ยถามเสียงใสพลางยิ้มให้ฉัน

     

         " มาหาเบลลาทริกซ์น่ะ ยังอยู่ในห้องนี้อยู่หรือเปล่า? " ฉันว่าแล้วยิ้มตอบเธอ

     

         " แน่นอน...เดี๋ยวฉันเรียกให้นะ " สิ้นคำเด็กสาวผมหยิกสีแดงเพลิงคนนั้น เธอจึงเปิดประตูแล้วเข้าไปเรียกเบลลาทริกซ์

     

         " เบลลาทริกซ์ มีคนมาหาน่ะ รีบออกมาเร็วเข้า อย่ามัวแต่หมกตัวอยู่ในห้องเพื่อใช้เวลาอยู่กับคู่ควงคนปัจจุบันของเธอทั้งวันสิ "

     

         " ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่กับเขาสักหน่อย ดรากเนสไปเดินเล่นบนดาดฟ้าตั้งนานแล้ว และตอนนี้ฉันก็กำลังสอนการบ้านยัยเอนมิทริสอยู่ "

     

         " เอ่อๆ ยังไงก็ช่างเถอะ รีบๆ ออกมาเร็วเข้า ฉันจะรีบไปซ้อมดนตรี "

     

         " จ้าๆ " พอพูดจบเบลลาทริกซ์ก็เดินออกมาทันที

     

         " เบล...ฉันมีเรื่องจะให้เธอช่วย " ฉันเอ่ยขึ้น

     

         " ไปคุยกันที่ดาดฟ้า " เบลลาทริกซ์ว่าก่อนที่จะกระชากร่างของฉันขึ้นไปบนดาดฟ้า

     

         พอฉันขึ้นไปถึงดาดฟ้า เบลลาทริกซ์ก็พาฉันไปหาเด็กหนุ่มร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีดำ และนัยน์ตาสีเทาที่ยืนหันหลังให้เราอยู่ คนนั้นต้องเป็น'ดรากเนส'แน่ๆ

     

         " ดรากเนส...ขอโทษที่ให้เธอรอนานนะ พอดีฉันว่ายัยเอนมิทริสขอให้ฉันช่วยเรื่องการบ้านน่ะก็เลยช้า " เบลลาทริกซ์เอ่ยขึ้น

     

         " ไม่เป็นไรหรอก ความผิดเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดจากความไม่ได้ตั้งใจของเธอ ฉันให้อภัยเธอได้เสมอ " ดรากเนสเอ่ยขึ้น พอเขาพูดจบ เขาก็หันหน้ามาทันที มันเป็นใบหน้าที่ดูมีเสน่ห์ และดูน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน

     

         " นี่แบล์คลีซา น้องสาวฝาแฝดของฉันเอง " เบลลาทริกซ์ว่า ฉันจึงส่งยิ้มให้เขาไปตามมารยาท และฉันก็คิดว่า เขาคงส่งยิ้มกลับมาตามมารยาทเหมือนกัน

     

         " หวัดดี แบล์คลีซา เธอดูเหมือนเบลลาทริกซ์มากจริงๆ ถ้าเธอสูงขึ้นอีกหน่อย ฉันก็คงจะสับสนแย่เลย แต่ก็ดีไปอย่างนะ ที่ในโลกนี้ยังมีคนหน้าเหมือนเบลลาทริกซ์อีกคน ถ้าวันไหนเบลลาทริกซ์ไม่อยู่ เวลาที่ฉันคิดถึงเบลลาทริกซ์ ฉันจะได้ไปหาเธอแทนไง...แบล์คลีซา " ดรากเนสว่าแล้วระเบิดหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

     

         " เฮ้ๆ พอได้แล้ว เธอเล่นมากเกินไปแล้วนะดรากเนส เอามือถือของแบล์คลีซาคืนให้เธอซะสิ " เบลลาทริกซ์ร้องบอกคู่ควงคนปัจจุบันของเธอ ดูเหมือนว่า...เธอจะมีท่าทีหึงดรากเนสไม่ใช่น้อย ดรากเนสจึงยิ้มให้เบลลาทริกซ์ก่อนที่จะล้วงมือถือของฉันออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขา ซึ่งมันเป็นโชคดีของฉัน ที่มือถือของฉันยังอยู่ในสภาพที่ใช้การได้

     

         " ขอบคุณนะ " ฉันว่าก่อนที่จะรับมือถือของตัวเองแล้วเก็บไว้ในกระเป๋ากระโปรง " ดรากเนส...ช่วยเล่าเรื่องเมื่อคืนให้ฉันฟังหน่อยได้มั้ย? "

         " อื่มม์...เมื่อคืนเธอหายตัวไปโดยที่ทิ้งกระเป๋านักเรียนไว้ ฉันกับเบลลาทริกซ์ช่วยกันหาเธอ แต่ก็หาไม่พบ สักพัก...ฉันก็กลับมาที่เดิม แล้วสังเกตเห็นรอยเท้าของใครสักคนนี่แหละ แต่ฉันก็แน่ใจว่ามันต้องเป็นรอยเท้าของเธอแน่ๆ ฉันจึงวิ่งตามรอยเท้านั้นไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และพบว่าเธอกำลังถูกล้อมรอบด้วยเหล่าผู้เสพความตาย ฉันจึงใช้กำลังทั้งหมดที่มีเพื่อที่จะช่วยเธอจากผู้เสพความตายเหล่านั้น โดยทำให้พวกมันหายไปทีละคนๆ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยลงแล้ว ฉันจึงโทรตามเบลลาทริกซ์แล้วเบลลาทริกซ์ก็โทรตามคนขับรถเพื่อที่จะรับเธอกลับบ้าน เพราะฉันวุ่นกับการแบกร่างที่หมดสติของเธอขึ้นรถ ทำให้ฉันลืมคืนมือถือให้เธอ แต่มือถือของเธอก็มีประโยชน์กับฉันมาก เพราะฉันให้เวลาทั้งคืนในการตรวจสอบข้อมูลในมือถือของเธอ และตอนนี้...ฉันก็รู้ว่า มีโรคจิตที่พยายามจะฆ่าเธอ ซึ่งฉันรู้จักคนๆ นั้นเป็นอย่างดี " เมื่อดรากเนสพูดถึงตรงนี้ ทั้งฉันและเบลลาทริกซ์ก็อึ้งไปตามๆ กัน ก่อนที่จะร้องถามพร้อมกันว่า

     

         " ใคร? "

     

         " อยากรู้ใช่มั้ย? งั้นฉันจะโทรเรียกมันมาเดี๋ยวนี้แหละ " สิ้นคำดรากเนส เขาก็หยิบมือถือของเขาขึ้นมาแล้วโทรหาเบอร์ประหลาดที่ส่งข้อความเข้าเครื่องฉันเมื่อคืน ไม่นาน...ก็มีเสียงตอบรับกลับมาจากมือถือของดรากเนส

     

         " ว่าไง! ดรากเนสเพื่อนรัก มีอะไรให้ฉันช่วยหรอ? " น้ำเสียงนุ่มทุ้มของชายคนหนึ่งซึ่งแสดงถึงความเจ้าเล่ห์อย่างชัดเจนดังขึ้น

     

         " ช่วยไปตายซะ!!! " ดรากเนสตะคอก

     

         " แกหมายความว่ายังไงวะ? ฉันไม่เข้าใจที่แกพูดเลยว่ะ "

     

         " มาหาฉันที่บนดาดฟ้าเดี๋ยวนี้ " ดรากเนสร้องสั่งด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นก่อนที่จะวางสายไป

     

         " แบล์คลีซา เดี๋ยวอีกไม่นานไอ้โรคจิตคนนั้นก็จะขึ้นมาแล้ว เธอไม่ลองซ้อมด่ามันหน่อยหรอ? ฆ่ามันเลยก็ได้ " ดรากเนสว่า แล้วฉันก็หัวเราะ จากนั้นเบลลาทริกซ์ก็มองหน้าดรากเนสอย่างไม่พอใจ

     

         " ดรากเนส...อย่าสอนวิธีป่าเถื่อนให้แบล์ เข้าใจมั้ย? " สิ้นคำเบลลาทริกซ์ ดรากเนสก็พยักหน้ารับ แล้วก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด

     

         " ดรากเนส...ฉันขอโทษ " เบลลาทริกซ์พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ แล้วเดินเข้าไปกอดดรากเนส

     

         " ไม่เป็นไรหรอก เพื่อเบลลาทริกซ์ ฉันทนได้เสมอ " ดรากเนสว่าแล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เบลลาทริกซ์ " ฉันไม่โกรธเธอหรอก "

     

         " เธอช่างน่ารักอะไรเช่นนี้ " เบลลาทริกซ์ว่าพลางทำท่าเพ้อฝัน

     

         " เอ่อ...ดรากเนส " ฉันขัดขึ้น " มือถือของเธอโทรเบอร์นั้นติดได้ยังไงน่ะ "

     

         " เพราะมือถือของฉันมีฟังชั่นพิเศษน่ะสิ โทรหาได้ทั้งคนที่อยู่ในโลกนี้ และคนที่ไม่ได้อยู่ในโลกนี้ แถมคนที่ไม่ได้อยู่ในโลกนี้ก็สามารถโทรหาฉันได้อีกด้วย " ดรากเนสว่า

     

         " งั้นถ้าจะให้ช่วยหาสิ่งที่ไม่มีอยู่ในโลกนี้เธอพอจะช่วยฉันได้หรือเปล่าล่ะ " ไม่ทันที่จะได้รับคำตอบจากดรากเนส เด็กหนุ่มร่างสูง เจ้าของเรือนผมสีเงิน และนัยน์ตาสีเหล็กก็ได้ปรากฏตัวขึ้น นี่คงจะเป็นเจ้าของเบอร์ประหลาดคนนั้นสินะ

     

         " ว่าไงเพื่อน " เขาเอ่ยทักพลางเดินเข้ามาตรงที่พวกเรายืนอยู่

     

         " เมื่อวานตอนหกโมงแกได้ส่งข้อความหาใครหรือเปล่า? "

     

         " อื่มม์ "

     

         " แกส่งข้อความไปบอกวิธีที่จะทำให้ตายกับผู้หญิงคนนี้ใช่มั้ย? " ดรากเนสว่าพลางชี้มาที่ฉัน ทำให้เขาคนนั้นถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง ก่อนที่จะพูดประโยคที่ชวนกระทืบที่สุดขึ้นมาว่า

     

         " เธอยังไม่ตายอีกหรอ? " ฉันจึงได้แต่มองหน้าเขาด้วยความตกใจ เขาอยากทำให้ฉันตายจริงๆ หรอเนี่ย

         " เพราะฉันไปช่วยเธอเมื่อคืน เธอถึงยังไม่ตาย " ดรากเนสพูดเสียงเรียบพลางมองหน้าเขาคนนั้นด้วยสายตาเย็นชา " แกทำแบบนั้นทำไม? "

     

         " ก็ฉันสงสารเขานี่ ผู้หญิงคนนี้เจอเรื่องซวยๆ มาตลอดทั้งชีวิต และตอนนั้นเธอก็ทนไม่ไหวแล้ว เธอเลยบ่นในใจขึ้นมาว่าอยากตาย ฉันก็เลยช่วยทำให้ผู้หญิงคนนี้ได้ตายสมใจโดยที่ไม่ต้องมาเจอเรื่องซวยๆ อีก "

     

         " ไอ้โง่! แกไม่มีสมองหรือไงวะ แกแยกแยะไม่ออกหรือไงว่าที่เธอคนนี้บ่นขึ้นมาเป็นเพราะเธอแค่อยากจะประชดชีวิตเฉยๆ เธอไม่ได้อยากตายจริงๆ  สักหน่อย " ดรากเนสว่าพลางตบหัวเขาอย่างแรง

     

         " ขอโทษ ก็ฉันไม่รู้นี่หว่า ไม่รู้ก็คือไม่ผิดสิวะ " ตอบได้กวนส้นตีนมากๆ ฉันคิดว่าฉันควรจะมอบรางวัลคนน่ากระทืบแห่งปีให้เขาคนนี้นี่แหละ

     

         " คนที่แกควรจะขอโทษไม่ใช่ฉัน แต่เป็นผู้หญิงคนนี้ต่างหากเว๊ย " สิ้นคำดรากเนส เขาคนนั้นก็หันมามองหน้าฉันแล้วยิ้มแห้งๆ ให้ฉันก่อนที่จะพูดว่า

     

         " ขอโทษนะ...แบล์คลีซา " เขาพูดอย่างสำนึกผิด พระเจ้า...เขารู้จักชื่อของฉัน!!!

     

         " น่ะ...นายรู้ชื่อฉันได้ยังไงน่ะ? " ฉันเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

     

         " เอาน่า...ถือว่าฉันรู้ละกัน " เขาว่าพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ " ฉันชื่ออดอล์ฟนะ "

     

         " ใครอยากรู้จักแกไม่ทราบวะ " ดรากเนสว่าแล้วตบหัวอดอล์ฟอีกรอบ

     

         " ป่าเถื่อนที่สุด " เบลลาทริกซ์ว่า

     

         " ขอโทษนะ ก็มันลืมตัวนี่ " ดรากเนสพูดแล้วเบ้ปากด้วยความน้อยใจ " เธอคงยกโทษให้ฉันใช่มั้ย? "

     

         " แน่นอนอยู่แล้ว " ว่าแล้วทั้งคู่ก็จูบกันอย่างดูดดื่มโดยไม่แคร์สายตาของใครทั้งสิ้น

         " นี่...ดรากเนส นายยังไม่ได้ตอบฉันเลยนะ " ฉันร้องขึ้น ดรากเนสที่กำลังจูบอย่างดูดดื่มกับเบลลาทริกซ์อยู่จึงดันร่างของเบลลาทริกซ์ออกแล้วมองมาที่ฉันทันที " เกี่ยวกับสิ่งนี้น่ะ " ฉันว่าพลางหยิบล็อกเกตอันนั้นออกมาจากกระเป๋ากระโปรง ทุกคนจึงมองไปที่ล็อกเกตนั่นด้วยความตกตะลึง

     

         " เธอได้มันมาจากไหนน่ะ? " อดอล์ฟเอ่ยถามขึ้น

     

         " คือเรื่องมันยาวน่ะ แต่ก่อนที่ฉันจะเล่าให้พวกนายฟัง พวกนายต้องช่วยฉันหาความหมายของอักษรย่อบนล็อกเกตนี้ซะก่อน "

     

         " S.O.G.งั้นหรอ? แกคุ้นมั้ยอดอล์ฟ? " ดรากเนสร้องถามขึ้น

     

         " ไม่คุ้นเลยว่ะเพื่อน ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยด้วยซ้ำ " เมื่ออดอล์ฟพูดจบ ฉันก็รู้ว่าฉันคงไม่มีวันรู้ความหมายของอักษรย่อนี้แน่ๆ " ลองโทรถามเรอัสดูมั้ย? เผื่อมันจะรู้ "

     

         " เอ่อ...ความคิดดีนี่หว่า " ดรากเนสว่าพลางหยิบมือถือของเขาขึ้นมาโทรหาเพื่อนของเขาอีกคนที่ชื่อ'เรอัส' ไม่กี่อึดใจก็มีเสียงตอบรับกลับมา

     

         " อื่มม์...ว่ามา " น้ำเสียงเย็นๆ เสียงหนึ่งดังขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาคนนี้คงยุ่งมาก

     

         " เรอัส แกรู้ความหมายของอักษรย่อS.O.G.มั้ย? "

     

         " S.O.G.? องศ์กรลับของเหล่าทูตจากเบื้องบนน่ะหรอ? แล้วทูตพวกนั้นลงมาทำอะไรที่นี่น่ะ? มันไม่ใช่วิสัยปกติของทูตเลยนะ "

     

         " ทูตงั้นหรอ? " ฉันทวนคำด้วยความตกตะลึง งั้นก็หมายความว่า...เจ้าสิ่งมีชีวิตเรืองแสงนั่น...เป็นทูตงั้นหรอ?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×