คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Prelude
ตึก...ตึก...ตึก!!!
เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ และนัยน์ตาสีเขียวผู้ซึ่งสวมเสื้อแขนยาวสีขาวติดโบว์สีดำ กระโปรงยาวถึงเข่าสีน้ำเงินมีระบาย และถุงน่องสีดำกำลังลากรองเท้าบู๊ททรงแก้วไวน์สีนิลไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ เธอหวังว่าวันนี้เธอคงไม่ก้าวพลาดอีก และ...
โครม!!!
ร่างของเด็กสาวล้มลงไปกองกับพื้น ต่อมา...ก็มีคนจำนวนมากมารุมรอบๆ เธอ พวกเขาเหล่านั้นได้แต่ชื่นชมยินดีในความเคราะห์ร้ายของเธอ แต่ไม่มีใครที่ปรารถนาจะช่วยเธอเลย
" นี่...นางสาวเคราะห์ร้าย เธออีกแล้วหรอ? " เด็กสาวคนหนึ่งร้องขึ้น เธอหัวเราะคิกคักกับกลุ่มเพื่อนก่อนที่จะเดินออกไป
" ว๊าว...กางเกงในสีม่วงระบายลูกไม้นี่เห่ยชะมัด เธอคงไม่ได้เอากางเกงคุณย่ามาใส่หรอกใช่มั้ย? " เด็กหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นก่อนที่จะระเบิดหัวเราะดังลั่นแล้วเดินออกไปกับเพื่อนของเขา
หลังจากที่ผู้มามุงได้จากไปหมดแล้ว เด็กสาวจึงรีบลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งออกไปทันทีเพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นจุดสนใจอีก ซึ่งเด็กสาวคนนั้นก็คือ'ฉัน'เอง...
ฉัน...แบล์คลีซา หรือที่คนอื่นเรียกกันอย่างน่าสมเพชรว่า'นางสาวเคราะห์ร้าย' เพราะฉันต้องเคราะห์ร้ายทุกวันจริงๆ ฉันอายุ18ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายปี3 ของโรงเรียนเชเรสโซโบดักซ์ฟาวล์ ฉันใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวในโรงเรียน และเผชิญกับความยากลำบากในทุกๆ วัน จนฉันคิดไปเองว่า...พระเจ้าคงทอดทิ้งฉันไปแล้ว
ในโรงเรียนนี้ มีเพียง2เรื่องที่ถือว่าเป็นโชคดีสำหรับฉัน คือ 1. ฉันไม่เคยสอบตกเลย และ 2. ตอนนี้...ฉันก็มีคาร์เวสโซ ชายหนุ่มผู้แสนดีที่มักจะคอยอยู่เคียงข้างฉันเมื่อฉันต้องเผชิญกับความยากลำบากเหล่านั้นเสมอ
กริ๊งงงงงงงงง!!!
เสียงกริ่งบอกเวลาเข้าเรียนดังขึ้น ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสาม นักเรียนทุกคนต่างรีบเพื่อที่จะเข้าเรียนในคาบเรียนสุดท้าย
ภายในห้องเรียน...นักเรียนทุกคนต่างนั่งนิ่งเพื่อทำใจ เพราะอีกไม่นานจะมีการแจกผลสอบ และเวลานั้นก็ได้มาถึงแล้วเมื่อศาสตราจารย์เฟลอร์ติน่า อาจารย์อาวุสโสรูปร่างสูงใหญ่ซึ่งเป็นครูประจำชั้นของพวกเราปรากฏตัวขึ้นหน้าห้องเรียน ทุกคนต่างก็ก้มหน้าลงเมื่อศาสตราจารย์เฟลอร์ติน่าเริ่มที่จะขยับปากพูด
" กำลังทำใจกันอยู่ใช่มั้ย? นั่นแหละ...พวกเธอทำถูกแล้ว เพราะฉันกำลังจะบอกว่าคะแนนของพวกเธอลดลงอย่างน่าตกใจ ทำใจซะเถอะเพราะพวกเธอก็หลีกเลี่ยงมันไม่ได้ ส่งต่อไป " สิ้นคำศาสตราจารย์เฟลอร์ติน่า กระดาษผลสอบก็ได้ถูกส่งจากข้างหน้ามาข้างหลัง และกระจายไปเรื่อยๆ จนเกือบครบคน ฉันหน้าซีด และใจเต้นระรัวเมื่อกระดาษผลสอบได้ถูกแจกมาจนถึงฉัน ฉันค่อยๆ หยิบกระดาษผลสอบขึ้นมาดูในขณะที่ยังมือสั่นอยู่ แล้วคิดไปว่ามันคงไม่ได้เลวร้ายจนเกินไป แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคิดเมื่อฉันพบว่า...ฉันได้Fอยู่7วิชาจากทั้งหมด18วิชา พระเจ้าได้ทอดทิ้งฉันไปแล้วจริงๆ !!!
หลังจากนั้น...ฉันก็ได้แต่นั่งเงียบอยู่ที่โต๊ะ และนั่งฟังพวกเพื่อนร่วมชั้นพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องผลสอบจนถึงหมดคาบ
กริ๊งงงงงงงง!!!
เสียงกริ่งดังขึ้นอีกครั้งเป็นสัญญาณของการเลิกเรียน พวกเพื่อนร่วมชั้นต่างแยกย้ายกันเพื่อที่จะกลับบ้าน ฉันจึงไม่รอช้าที่จะเก็บของแล้วเดินออกไปจากห้องเรียน ในเวลาที่ฉันมีความทุกข์ ฉันมักจะไปที่โบสถ์เสมอ เพราะคาร์เวสโซ ชายหนุ่มที่แสนดีของฉันมักจะไปที่นั่นหลังเลิกเรียนเสมอ พวกเราเจอกันที่นั่น แล้วเริ่มที่จะเล่าปัญหาของตัวเองให้กันฟังเสมอ แน่ล่ะ...คาร์เวสโซมักจะมีคำพูดดีๆ ให้กำลังใจฉันเสมอ และตอนนี้...ฉันก็ตัดสินใจแล้วว่าฉันจะไปหาเขาที่โบสถ์
ฉันวิ่งอย่างไม่กลัวเสียศูนย์ และไม่กลัวที่จะเป็นจุดสนใจอีกแล้ว รองเท้าบู๊ททรงแก้วไวน์สีนิลคู่นี้พาฉันวิ่งไปตามพื้นผิวที่ขรุขระที่ทอดตัวเป็นแนวยาวตามแนวอาคารเรียน ฉันวิ่งไปเรื่อยๆ จนในที่สุด มันก็พาฉันมาหยุดอยู่ที่ตรงหน้าโบสถ์หลังใหญ่สีเทาอ่อนสไตล์ยุโรป ฉันหยุดหอบสักพักก่อนที่จะเดินเข้าไปในโบสถ์เพื่อจะพบกับคาร์เวสโซที่นั่งรอฉันอยู่ในโบสถ์
แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคิด เพราะคาร์เวสโซไม่ได้อยู่คนเดียว แต่เขากำลังอยู่กับวาซิเนีย ผู้หญิงที่เรียกได้ว่าเป็นตัวอันตรายของโรงเรียน และที่สำคัญ...พวกเขากำลังจูบกันอย่างดูดดื่มอยู่หน้าแท่นบูชา
เหตุการณ์นี้ทำให้ฉันแทบเป็นบ้า หน้าฉันร้อนผ่าว และตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ เมื่อฉันรู้ตัวว่า ชีวิตนี้ ฉันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ฉันจึงรีบวิ่งออกมาจากโบสถ์ทันที
ฉันวิ่งอย่างไม่มีจุดหมายเพื่อให้ตัวเองเหนื่อยแล้วลืมเรื่องร้ายๆ พวกนั้นไปให้หมด บ้าที่สุด! วันนี้ฉันต้องเจอกับเคราะห์ร้ายถึง3ครั้ง ครั้งแรกคือสะดุดล้มและโชว์กางเกงในต่อหน้านักเรียนจำนวนมาก ครั้งที่2คือได้F 7วิชา และครั้งที่3คือการที่ฉันถูกแย่งคนรักไป ฉันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ฉันอยากตายยยยยยย!!!
" หนู...อยากตายนักใช่มั้ย? " เสียงทุ้มต่ำของคุณลุงคนหนึ่งดังมาจากข้างๆ ฉัน ฉันจึงมองไปรอบๆ พบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่หน้ารถของคุณลุงคนนั้นอยู่ สีหน้าของคุณลุงคนนั้นแสดงถึงความตกใจที่เมื่อกี้แกเกือบขับรถชนฉัน
" ขอโทษค่ะ " ฉันว่าแล้วจึงเดินออกไป
ฉันนั่งลงบนม้านั่งข้างๆ อาคารเรียน หัวใจที่เต้นระรัวไม่หยุด และเหงื่อที่ไหลออกมามากแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกเหนื่อยที่สุดในชีวิตของฉัน เนื่องจากฉันใช้พลังงานในการวิ่งมากเกินไป ทำให้ตอนนี้ ฉันรู้สึกหิวเป็นอย่างมาก
ฉันเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากระโปรงเพื่อควนหาเงินเหรียญสุดท้ายที่เหลืออยู่ แต่ฉันก็กลับควนหาเหรียญนั้นไม่เจอ มันคงตกอยู่ที่ไหนสักแห่งตอนที่ฉันวิ่งมา
ฉันดูนาฬิกา มันเป็นเวลาหกโมงเย็น หลังจากที่ฉันตัดสินใจทำเรื่องบ้าๆ เพื่อให้ตัวเองลืมเรื่องร้ายๆ เหล่านั้นไปในเวลาเกือบสองชั่วโมง ฉันก็รู้ว่าโลกใบนี้โหดร้ายเกินไปสำหรับฉัน และฉันก็ไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้อีกต่อไป ถ้าฉันเลือกได้ ฉันขอตายดีกว่า
ตี้ด...ตี้ด!!!
เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น ฉันจึงล้วงมันออกมาจากกระเป๋ากระโปรงแล้วพบว่ามีข้อความเข้าซึ่งถูกส่งมาจากเบอร์4736659ซึ่งเป็นเบอร์ที่ฉันคิดว่ามันคงไม่มีอยู่ในโลกนี้ แล้วฉันก็ได้ตัดสินใจเปิดดูข้อความนั้น มันเขียนไว้ว่า’สาวน้อยผู้โชคร้าย ฉันรู้ว่าเธออยากตาย ทำตามที่ฉันบอกซิแล้วเธอจะได้สิ่งที่เธอปรารถนา’
หลังจากที่อ่านข้อความนั้นจบแล้วมันก็ทำให้ฉันรู้ว่า เจ้าของเบอร์โทรประหลาดนี้ต้องมีปัญหาทางจิตเป็นแน่ ฉันจึงตัดสินใจโทรเข้าเบอร์นั้น แต่มันก็ไม่มีประโยชน์เพราะฉันรู้ว่าไม่มีเบอร์โทรนี้อยู่บนโลกนี้จริงๆ
"พยายามไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกสาวน้อย เพราะฉันไม่ได้มาจากโลกนี้ แล้วเบอร์ที่ฉันใช้มันก็ไม่มีอยู่บนโลกของเธอ"
ข้อความนี้ทำให้ฉันช็อกเมื่อพบว่าเจ้าของเบอร์นี้ไม่ใช่คน ไม่นาน...ก็มีข้อความส่งมาอีก
"เดินตรงไปเรื่อยๆ"
เมื่ออ่านข้อความเสร็จ ฉันจึงทำตามที่เจ้าของเบอร์ประหลาดนี้บอกทันที ฉันเดินตรงไปเรื่อยจนครบหนึ่งชั่วโมง แล้วพบว่าตัวเองกำลังหยุดอยู่หน้าหลุมศพที่ทั้งมืดมนและหนาวเหน็บ
เสียงข้อความเข้าดังขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่อ่านมันเสร็จ เหงื่อก็ได้ไหลท่วมตัวฉัน ใจฉันเต้นไปตามจังหวะของบทเพลงมรณะทันทีที่ฉันก้าวไปหาความตาย
ฉันเดินตรงไปที่หลุมศพตรงหน้า แล้วจึงแก้เชือกที่ผูกปมไว้ หลังจากนั้น...ฉันก็ใช้มือดันแผ่นหินที่วางบนหลุมศพนั้นออก พยายามออกแรงทั้งหมดที่มีเพื่อให้แผ่นหินนั้นเคลื่อนออกไป พยายามดันมันออกไปจนมือของฉันด้านชาไปหมด และฉันก็รู้สึกเจ็บอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันเจ็บมากจนฉันคิดไปว่าร่างกายของฉันไปแหลกสลายไปแล้ว
ครืด...ครืด!!!
ในที่สุด...แผ่นหินก็ได้เคลื่อนออกไปเป็นระยะทาง 20 นิ้วแล้ว หลังจากการพยายามอย่างหนัก เลือดก็ได้ไหลออกมาจากมือของฉัน กลิ่นฝุ่นจากภายในหลุมศพทำให้ฉันรู้สึกเวียนหัว และซากศพอันน่าสะอิดสะเอียนที่นอนอยู่ภายในหลุมศพนั้นทำให้ฉันตกใจกลัวเป็นอย่างมาก
บรรยากาศภายนอกได้มืดลง และเงียบมากจนทำให้ฉันได้ยินเสียงหอบหายใจของตัวเองได้อย่างชัดเจน ฉันรู้ตัวว่าตัวเองไม่ควรจะมาที่นี่ ฉันจึงลุกขึ้นแล้วรีบก้าวเท้าออกไป
ทันใดนั้น...ร่างของเหล่าบุรุษชุดดำผู้มีผิวขาวซีด และผอมกะหร่องก็ได้ปรากฏตัวขึ้นรอบๆ ฉัน พวกมันแสยะยิ้มแล้วหัวเราะแห้งๆ ก่อนที่จะก้าวเข้ามาหาฉัน กลุ่มคนเหล่านั้นพยายามจะผลักฉันให้ลงไปในโลงศพนั่น ฉันดิ้นอย่างสุดชีวิต แต่ก็ไม่สามารถที่จะต้านทานแรงผลักของพวกมันได้
" กรี๊ดดดดดด!!! " ฉันกรีดร้องสุดเสียงก่อนที่จะล้มลงไปกองกับพื้น
ภาพสุดท้ายที่ฉันเห็น คือเงาของใครบางคนที่กำลังเคลื่อนที่มาทางฉัน...
ความคิดเห็น