ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Rebels คนบ้าระห่ำ แหกกฎสวรรค์

    ลำดับตอนที่ #4 : Romantic Night(?) I

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 61


     3

    Romantic Night(?) I

     

         กลางดึกคืนหนึ่ง ขณะที่ฉันกำลังนอนร่วมเตียงกับเจ้าสิ่งมีชีวิตเรืองแสงอยู่นั้น ฉันก็ได้ยินเสียงอึกทึกคึกโครมดังมาจากห้องตรงข้ามซึ่งเป็นห้องของอดอล์ฟ และดีซีดอเรต้า ต่อมา...ผนังห้องของฉันก็ได้สั่น ด้วยบรรยากาศกลางคืนที่เงียบสงบ ทำให้ฉันได้ยินบทสนทนาที่ดังมาจากห้องตรงข้ามได้อย่างชัดเจน

     

         กรี๊ดดดดดดดด!!! ลงไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้นะ ไอ้โรคจิต! “ ดีซีดอเรต้ากรีดร้องขึ้น ด้วยถ้อยคำในประโยคนั้นทำให้ฉันรู้สึกสยิว

     

         เฮ้ย! อยู่นิ่งๆ แปปนึงน่า ขอแค่นิดเดียวก็ไม่ได้ พวกเขาทำอะไรกันน่ะ?ฉันคิด ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของฉัน ฉันจึงฟังบทสนทนานั้นอย่างตั้งใจ

     

         ใครจะยอมให้นายทำแบบนั้นกันล่ะยะ ไอ้บ้า! “ ทำอะไรกันน่ะ? หวังว่าคงไม่ได้ทำแบบนั้นหรอกนะ

     

         ก็แม่ฉันไง ดอลล่าร์...ฉันขอดูดนมเธอแค่เต้าเดียวเองนะ เธอทำให้ฉันแค่นี้ไม่ได้หรอ? อดอล์ฟขอดีซีดอเรต้าดูดนม!!! ร้ายกาจมาก ฉายแววความโรคจิตอย่างแรง!!!

     

         อดอล์ฟ...นายรู้ตัวมั้ยว่านายทำให้ฉันนอนไม่หลับมาสามสัปดาห์ตั้งแต่ครั้งแรกที่เรานอนด้วยกัน

     

         ถ้าเธอไม่ให้ฉันดูดนม ฉันก็นอนไม่หลับเหมือนกัน

     

         นายก็จินตนาการไปว่านายกำลังดูดนมแม่นายอยู่สิ

     

         ฉันทำแบบนั้นไม่ได้หรอก เอางี้สิ...ถ้าเธอไม่อยากเปลืองตัว เธอก็ซื้อเต้านมของเล่นมาให้ฉันดูดสิ  

        

         โอ๊ย! ไอ่บ้า ฉันไม่อยู่กับนายแล้ว

     

         นั่นเธอจะไปไหนน่ะ?

     

         ไปนอนที่อื่น ฉันได้ยินเสียงดีซีดอเรต้าถอนหายใจด้วยความเหนื่อยใจ แล้วได้ยินเสียงอดอล์ฟคราง อย่าบอกนะว่า...เขากำลังช่วยตัวเองน่ะ?

     

         แล้วดีซีดอเรต้าก็เดินกระแทกเท้าออกมาจากห้องแล้วปิดประตูเสียงดัง สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเครียดแค้นอย่างเห็นได้ชัด มันบ่งบอกว่า ความอดทนของเธอได้เกินขีดจำกัดแล้ว

     

         ดีซีดอเรต้าเดินไปเคาะประตูห้องเบลลาทริกซ์ด้วยความร้อนรน สักพัก...เบลลาทริกซ์ก็โผล่หน้าออกมา เบลลาทริกซ์พูดอะไรบางอย่างกับดีซีดอเรต้าซึ่งฉันก็ฟังไม่ทัน แล้วดีซีดอเรต้าก็เดินไปเคาะประตูห้องพ่อกับแม่ต่อ

        

         ก๊อกๆๆ !!! แอด...

     

         ประตูได้เปิดออกพร้อมกับแม่ของฉันได้โผล่หน้าออกมาพร้อมกับรอยยิ้มบนหน้า คงจะฝันดีแน่ๆ

     

         มีอะไรหรอจ๊ะหนูดอลล่าร์? แม่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

     

         คุณอาค่ะ ไม่ทราบว่าคุณอามีที่นอนที่อื่นอีกมั้ยค่ะ? คือว่า...หนูทนนอนกับไอ้โรคจิตอดอล์ฟไม่ได้แล้วค่ะ มันพยายามจะลวนลามหนู ฮึก...ฮึก! คุณอาคะ ในฐานะที่เราเป็นลูกผู้หญิงด้วยกัน ถึงแม้ว่าคุณอาจะเสียบริสุทธิ์มาแล้วก็ตาม แต่คุณอาต้องช่วยรักษาพรหมจารีของหนูด้วยนะคะ หนูขอร้องล่ะ ฮึก...ฮึก! ช่วยบอกหนูทีว่าห้องนอนอีกห้องนั้นอยู่ไหน   โอเวอร์แอดติ้งมากๆ ดราม่าสุดๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักแสดงเลยล่ะจ๊ะ

     

         ความจริงแล้ว อาก็อยากจะช่วยหนูเหมือนกันนะ แต่ว่าห้องนอนห้องนั้นน่ะมันถูกปิดตาย แล้ว--- “

     

         แล้วยังไงล่ะคะ? ตกลงคุณอาจะไม่ช่วยหนูใช่มั้ย งั้นหนูจะไปนอนในถังขยะแล้วนะคะ คราวนี้น้ำเสียงสะอื้นได้กลายเป็นน้ำเสียงประชดประชัน ดีซีดอเรต้ากำลังจะกลายเป็นนางร้ายในอีกไม่ช้านี้ แหม...เปลี่ยนโหมดเร็วจังนะ

     

         หนูดอลล่าร์จ๊ะ ฟังอาก่อนนะจ๊ะ คือว่า...การที่จะเปิดห้องนั้นได้มันต้องใช้กุญแจจ๊ะ

     

         ก็เอากุญแจนั้นมาสิคะ

     

         คงไม่ได้หรอกนะจ๊ะ เพราะว่า...กุญแจดอกนั้นน่ะ มันหายไปตั้งแต่เมื่อสองร้อยกว่าปีที่แล้วแล้ว แล้วตอนนี้มันไปอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ เอาเป็นว่า...หนูดอลล่าร์ไปหาที่นอนแถวๆ นี้นอนก่อนก็แล้วกันนะจ๊ะ

     

         ขอบคุณมากนะคะ ขอโทษที่มารบกวนค่ะ ฝันดีนะคะ ดีซีดอเรต้าพูดแล้วเดินลงไปนอนข้างล่าง

     

         กุญแจอะไรกันนะ?

     

    + + + + + + + + + + +

     

         กริ๊งงงงงงงงงง!!!

     

         เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ขณะนี้เป็นเวลาหกโมงเช้า ฉันจึงลุกขึ้นจากเตียงเพื่อที่จะออกไปจัดการกับตัวเองในตอนเช้าก่อนที่จะกลับมาในห้องนอนอีกครั้งเพื่อเอาอาหารเช้ามาให้เจ้าสิ่งมีชีวิตเรืองแสงซึ่งยังคงหลับสนิทอยู่บนเตียง

     

         เฮ้! ยูลิค ตื่นได้แล้ว ฉันเอาอาหารเช้ามาให้น่ะ พอฉันพูดจบ ยูลิคก็เริ่มขยับตัวพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้ว่า

     

         ไปเอากุญแจมาจากฟาร์เวล ถ้าฉันได้ยินไม่ผิด เขากำลังพูดถึงกุญแจ

     

         เฮ้! ยูลิค นี่นายกำลังจะพูดอะไรน่ะ? เฮ้! ตื่นสิ “ ฉันเรียกปลุกพลางใช้มือทั้งสองข้างตบแก้มของเขาเพื่อเรียกสติ

     

         ไปเอากุญแจมาจากฟาร์เวล ฉันเริ่มจำได้แล้วแบล์คลีซา กุญแจนั่นสามารถใช้เปิดประตูสู่เส้นทางที่ฉันมาได้ ยูลิคว่าพลางหรี่ตามองฉันเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาเพิ่งตื่น หรือฉันไม่เข้าใจเองกันแน่ ถึงทำให้ฉันฟังเขาพูดไม่รู้เรื่อง แต่ฉันรู้อย่างเดียวว่า คำพูดของเขานั้น เข้าใจยากจริงๆ

     

         ฉันจำอะไรได้มากขึ้นแล้ว แต่ประโยคนี้...ฉันเข้าใจ

     

         นายจำได้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ฉันร้องถาม

     

         ตั้งแต่เมื่อคืน เมื่อฉันฝันเห็นอะไรบางอย่าง

     

         แล้ว--- “

     

         แบล์...รีบลงมาเร็ว รถมารับแล้ว เสียงของเบลลาทริกซ์ดังขึ้น ฉันจึงได้แต่มองหน้ายูลิคด้วยความเสียดายที่ยังไม่ได้ฟังเรื่องความฝันจากเขาก่อนที่จะเดินออกไปแล้วไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ด้านล่าง

     

    + + + + + + + + + + +

     

         พวกเราทั้งเจ็ดคนมาถึงโรงเรียนในสิบห้านาทีต่อมา พวกเราต่างก็รีบรถจากรถทันทีที่ถึงโรงเรียนแล้วมุ่งหน้าไปยังห้องเรียนของแต่ละคน

     

         บรรยากาศของโรงเรียนในตอนเช้านี้ดูเงียบสงบกว่าทุกๆ วัน ท้องฟ้าดูสดใสกว่าทุกๆ วัน และที่สำคัญ ฉันไม่ได้กลิ่นอายของลางร้ายอีกต่อไปแล้ว ไม่มีนักเรียนมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ แล้วเรียกฉันอย่างน่าสมเพว่านางสาวเคราะห์ร้ายอีกต่อไปแล้ว ต่อไป ฉันหวังว่า...ฉันคงจะพบเจอแต่โชคดีในทุกๆ วัน

     

         ห้องเรียนก็ถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบเหมือนกัน ไม่มีแม้แต่เสียงพูดคุยของแก๊งค์สาวเม้าท์แตกที่อยู่หลังห้อง แปลกจริงๆ

     

         เนื่องจากความเงียบสงบนั้น ทำให้ฉันตัดสินใจที่จะใช้ช่วงเวลานั้นในการงีบหลับบนโต๊ะสักพักก่อนที่ครูจะเข้ามาสอน

     

         แต่ฉันก็หลับได้ไม่นาน เพราะว่า...

     

         อรุณสวัสดิ์นักเรียนที่รักทุกคน ฟังทางนี้ เพราะเรื่องที่ฉันกำลังจะพูดต่อไปนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก น้ำเสียงอันทรงพลังของศาสตราจารย์เฟลอร์ติน่าดังขึ้น มันทำให้ฉันตื่นขึ้นมาเพื่อมองดูรูปร่างอันเรียวบาง(?)ของเธอตั้งแต่คำแรกที่เธอพูด ในที่สุด นักเรียนทุกคนก็เรียนจบกันแล้ว ทางโรงเรียนจึงจัดงานเลี้ยงเต้นรำรุ่นขึ้นมา

     

         งานเต้นรำรุ่นงั้นหรอ? วิเศษจัง!!! “

     

         กรี๊ดดดดดดดด!!! ฉันล่ะชอบการเต้นรำที่สุดในโลกเลย

     

         อื่มม์...ดี ถ้าวันนั้นมาถึงนะ พวกเธอต้องคอยจับตาดูลีลาของฉันให้ดีล่ะ

     

         และ บลาๆๆ...

     

         นี่! หุบปาก อยู่ที่บ้านเก็บกดกันหรือไง? ศาสตราจารย์เฟลอร์ติน่าตวาดขึ้น งานเลี้ยงเต้นรำจะจัดขึ้นตอนหนึ่งทุ่มครึ่งของวันศุกร์นี้ แล้วตอนนี้ก็วันพุธแล้ว ดังนั้น...เหลือเวลาวันนี้กับพรุ่งนี้สองวันที่เธอจะเตรียมตัวในการฝึกเต้นรำ และหาคู่เต้นรำของเธอ ส่วนเรื่องเพลงเต้นรำจะมีเพลงช้าหนึ่งเพลงกับเพลงเร็วหนึ่งเพลง ซึ่งชื่อเพลงทางโรงเรียนได้จัดเตรียมกันไว้แล้ว และตอนนี้ ขอให้นักเรียนทุกคนไปรวมกันที่ห้องซ้อมเต้นที่ชั้นสามห้องทางขวาสุดเพื่อฟังรายละเอียดเรื่องงานเลี้ยงเต้นรำกันต่อไป สิ้นคำศาสตราจารย์เฟลอร์ติน่า พวกเราทั้งหมดจึงขึ้นไปที่ห้องซ้อมเต้นทันที

     

         ภายในห้องซ้อมเต้นซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางพอที่จะจุนักเรียนมัธยมปลายปีสามจำนวนหนึ่งร้อยกว่าคนได้ มันถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาวสะอาด และมีกระจกบานใหญ่ล้อมรอบ แน่นอนว่านักเรียนทุกคนต่างก็รู้สึกตื่นเต้นกับงานเลี้ยงเต้นรำรุ่น เพราะพวกเขาชอบที่จะทำกิจกรรมที่ทำให้พวกเขาผ่อนคลายมากกว่าที่จะทำกิจกรรมเกี่ยวกับวิชาการอันแสนน่าเบื่อนั่น และนี่ก็ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับพวกเรา

     

         หวัดดี เด็กๆ ที่น่ารักของฉัน ศาสตราจารย์แอนนาซาร่าเอ่ยขึ้นเสียงหวาน เธอเป็นอาจารย์สอนเต้นรำวัยยี่สิบแปดปี แน่นอนว่านักเรียนทุกคนต่างก็ชอบเธอ เพราะเธอมีบุคลิกที่สง่างาม เธอเป็นคนอ่อนหวาน และที่สำคัญ เธอเป็นสาวเซ็กซี่ที่มีหน้าอกไซส์ทริปเปิ้ลเอ็กซ์เอล ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเธอ เอาล่ะ...ครูจะมาแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับงานเลี้ยงเต้นรำรุ่นนะจ๊ะ งานเลี้ยงเต้นรำรุ่นจะถูกจัดขึ้นที่ห้องโถงลาเกรนเดซซาเนโรว์ เวลาหนึ่งทุ่มครึ่งวันศุกร์นี้ ซึ่งนักเรียนทุกคนจะต้องสวมหน้ากากแฟนซี และต้องเต้นรำกับเพศตรงข้ามโดยจะเป็นคนในโรงเรียนหรือไม่ก็ได้ ส่วนเพลงที่ใช้ในการเต้นรำนะจ๊ะ ก็จะมีเพลงช้าหนึ่งเพลง และเพลงเร็วหนึ่งเพลง ซึ่งเพลงช้าจะเป็นเพลงcome away with me ของ Norah Jones  และเพลงเร็วคือเพลง Jazz suite no. 2 ของ Shostakovich  ขอให้นักเรียนทุกคนมารับแผ่นซีดีเพื่อฝึกซ้อมเต้นรำจ๊ะ สิ้นคำศาสตราจารย์แอนนาซาร่า พวกเราต่างก็เข้าแถวกันเพื่อที่จะไปรับแผ่นซีดี

     

         หวังว่าทักษะการเต้นรำของพวกเธอจะดีพอที่จะเต้นให้ได้ภายในสองวันนะจ๊ะ ศาสตราจารย์แอนนาซาร่าเอ่ยขึ้น ภายในสองวันงั้นหรอ? ฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะทำได้หรือเปล่า เพราะทักษะการเต้นของฉันก็ไม่ค่อยดีด้วย อีกอย่างฉันเป็นคนเรียนรู้ช้า และที่สำคัญ...ฉันยังหาคู่ไม่ได้เลย!!! ทำไงดี?

     



         เฮ้...แบล์ ยังไม่ไปนอนอีกหรอ? เบลลาทริกซ์เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าฉันกำลังนั่งเม่ออยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่ม

     

         เบล...ฉันว่าฉันไปงานเลี้ยงเต้นรำรุ่นไม่ได้ ฉันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลพลางซบหน้าลงกับหมอน ฉันไม่ต้องไปได้มั้ย?

     

         ไม่ได้หรอกแบล์ ศาสตราจารย์มอทาน่า ครูประจำชั้นห้องฉันบอกว่าต้องไปทุกคนไม่งั้นจะเรียนไม่จบนะ เธอมีปัญหาอะไรหรอ?

     

         มีแน่นอน คือว่า...ตอนบ่ายนี้ฉันลองหัดเต้นดู เพลงช้าก็พอเต้นได้อยู่นะ แต่เพลงเร็วนี่สิ หลงจังหวะสุดๆ เลย แถมคู่ก็ยังหาไม่ได้ ทำไงดี?

     

         เธอมีปัญหาการเต้นเพลงเร็วน่ะหรอ? เบลลาทริกซ์ทวนคำแล้วจับหน้าฉันให้เงยหน้าขึ้น รู้มั้ยว่านัยน์ตาเธอดูเศร้ามากเลยนะ เอางี้สิ ถ้าเธอมีปัญหาเรื่องจังหวะ เธอก็ลองฟังเพลงนั้นไปเรื่อยๆ แล้วนับจังหวะไปด้วย ถ้าเธอเข้าใจจังหวะแล้วเธอก็ลองเต้นดู ถ้ายังเต้นไม่ได้ ก็ลองฝึกช้าๆ ดูก่อนสิ เผื่อจะทำได้ แต่ถ้าท่อนไหนมีปัญหา ก็ให้ลองฝึกเต้นท่อนนั้นซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะทำได้ โอเค๊?

     

         อื่มม์  ฉันพยักหน้ารับ เบล นี่เธอเป็นอัจฉริยะหรือเปล่าเนี่ย? ทำไมเธอรู้ทุกอย่างเลยอ่ะ รู้มั้ย ตั้งแต่ฉันเกิดมา ไม่มีเรื่องไหนเลยนะ ที่ฉันประสบความสำเร็จได้โดยที่ไม่มีเธอ

     

         จริงๆ แล้ว ฉันก็ไม่ได้ดีไปกว่าเธอเท่าไหร่หรอกนะ แต่ฉันแค่มองโลกในแง่ดี แล้วก็คิดในแง่บวกไว้ แล้วทุกอย่างจะดีเอง

     

         ขอบคุณมากนะเบล แล้วเธอมีคู่หรือยัง? ฉันแน่ใจว่าคาสโนวี่สุดฮอตอย่างเธอต้องมีคนมากมายแข่งกันเพื่อจะได้เธอมาเป็นคู่เต้นรำในงานเลี้ยงเต้นรำรุ่นแน่ๆ สรุปแล้วได้คู่กับใครน่ะ?

     

         ดรากเนส เบลลาทริกซ์ว่าพลางยิ้มเล็กน้อย เธอรู้มั้ยว่าดรากเนสนั้นน่าเกรงขามมาก คล้ายๆ กับเป็นผู้มีอิทธิพลยังไงอย่างงั้นแหละ ตั้งแต่ทุกคนรู้ว่าฉันคบกับดรากเนส พวกผู้ชายที่มาจีบฉัน หรือแม้กระทั่งพวกที่ทำตัวคลั่งฉัน หรือพวกที่เห็นฉันเป็นไอดอล ไม่มีใครกล้ายุ่งกับฉันอีกเลย ฉันคิดว่าดรากเนสคงใช้วิธีเถื่อนๆ บอกให้พวกนั้นหยุดยุ่งกับฉันแน่ๆ

       

         ส่วนเรื่องที่เธอไม่มีคู่ใช่มั้ย? ไม่ต้องห่วงนะ ฉันเชื่อว่ายังมีผู้ชายในโรงเรียนอีกตั้งหลายคนที่ยังไม่มีคู่เหมือนกัน พรุ่งนี้ค่อยไปหาก็ได้

     

         ขอบคุณนะเบล ฉันดีใจจริงๆ ที่มีพี่แบบเธอ

     

         จ้า เข้านอนเถอะนะ รู้มั้ยว่าเธอทิ้งยูลิคไว้ในห้องคนเดียวกี่ชั่วโมงแล้ว เดี๋ยวเขาก็ได้คลั่งละเมอเดินลงบันได หรือพ่นคำอะไรออกมาอีกหรอก ไม่นะ! ฉันมัวแต่กังวลเรื่องงานเลี้ยงเต้นรำรุ่นจนลืมเจ้าสิ่งมีชีวิตเรืองแสงนั่นไปเลยหรอเนี่ย? ฉันจะกลับไปถามถึงเรื่องความฝันที่เขาเล่าค้างเอาไว้ แล้วฉันจะได้รู้สักที ว่าสิ่งที่เขาพูดเมื่อเช้านี้มันหมายความว่ายังไง?

     

     

         เบล ขอบคุณนะที่เตือนฉัน ราตรีสวัสดิ์จ๊ะ ฉันตัดบทแล้วรีบวิ่งเข้าห้องนอนตัวเองไป แต่ก็น่าผิดหวัง เมื่อฉันพบว่า เจ้าสิ่งมีชีวิตเรืองแสงนั่น...ได้หลับไปแล้ว! ฉันจึงเปิดเพลง Jazz suite No.2 ของShostakovich  ฟังทั้งคืน ปั่บ ปั๊บ หนึ่ง สอง สาม หนึ่ง สอง สาม หนึ่ง สอง สาม ปั๊บ ฉันว่าฉันเริ่มเข้าใจจังหวะของมันแล้วล่ะ หวังว่าพรุ่งนี้มันคงจะดีขึ้นนะ

        

    + + + + + + + + + + + 

     

         แสงแดดในตอนเช้าส่องมาที่ร่างของฉัน ฉันจึงค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ และลุกขึ้นนั่งบนเตียงโดยทันทีเมื่อรู้ว่าเช้านี้มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น

     

         เช้านี้ เจ้าสิ่งมีชีวิตเรืองแสงได้ตื่นเช้ากว่าปกติ เขานั่งอยู่ที่ปลายเตียงแล้วใช้เท้าเคาะจังหวะเพลง Jazz suite No.2  พลางโยกตัวไปด้วย

     

         ยูลิค ฉันเอ่ยขึ้น แต่เจ้าสิ่งมีชีวิตเรืองแสงกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ต่อเสียงของฉันเลยแม้แต่น้อย เป็นเพราะว่าเขากำลังติดอยู่ในโลกแห่งเสียงเพลงอยู่

     

         เฮ้! “ ฉันเรียกพลางสะกิด เจ้าสิ่งมีชีวิตเรืองแสงจึงหันมาแล้วขมวดคิ้วขึ้นก่อนที่จะพูดกับฉันว่า

     

         นี่มันแปดโมงแล้ว เธอยังไม่ไปโรงเรียนอีกหรอ?

     

    วันนี้ฉันไม่มีเรียน ไว้ตอนเที่ยงค่อยไป

     

    อื่มม์ ยูลิคพยักหน้ารับเมื่อฉันพูดจบ

     

    เรื่องความฝันเมื่อวาน ช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้มั้ยว่ามันเป็นยังไง

     

    ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นความฝันหรือเรื่องจริงกันแน่ อยู่ดีๆ เรื่องนั้นก็เข้ามาในหัวของฉัน เมื่อคืนนั้นที่ผนังห้องสั่น ฉันก็เห็นภาพของผู้ชายคนหนึ่ง เขาชื่อฟาร์เวลซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ทั้งหมด และเขาก็เป็นคนที่มีกุญแจดอกหนึ่ง มันเป็นกุญแจเก่าๆ สีทองเหลือง ประทับตรารูปกางเขนมีปีกสีม่วงแดง กุญแจดอกนั้นจะสามารถนำฉันกลับไปยังที่ที่ฉันมาได้

    เดี๋ยวนะ ผู้ชายที่ชื่อฟาร์เวลงั้นหรอ? นายพอจะจำได้มั้ยว่าเขาคนนั้นรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง

     

    เขา...เอ่อ...หน้าคมๆ ผิวขาวๆ หน่อย แล้วก็ตัวสูงๆ หน่อย เขามีดวงตาที่มีเสน่ห์สีฟ้าอ่อน และมีผมสีน้ำตาลแดง จากลักษณะที่ยูลิคบอกมา ฉันกลับนึกภาพไม่ออกเลย แต่ฉันคิดว่า ฉันเคยเห็นคนที่มีลักษณะแบบนั้นมาก่อน แต่ก็นึกไม่ออกว่าเขาคนนั้นเป็นใคร

     

    แล้ว...ผู้ชายที่ชื่อฟาร์เวลคนนั้น เขานามสกุลอะไรล่ะ?

     

    เอ่อ...เดอ...เดออะไรซักอย่างนั่นแหละ เดี๋ยวก่อนนะ ยูลิคว่าพลางขมวดคิ้วแล้วเอามือกุมขมับก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองฉันแล้วพูดว่า เดอ โฮพิโอ

     

    ฟาร์เวล เดอ โฮพิโอใช่มั้ย? แปปนึงนะ เดี๋ยวฉันมา   ฉันว่าแล้วรีบวิ่งออกจากห้องนอนเพื่อไปยังห้องทำงาน แล้วเริ่มค้นหาเกี่ยวกับผู้ชายที่ชื่อฟาร์เวล เดอ โฮพิโอ

     

    ครู่ต่อมา...ก็มีกระทู้ข้อมูลเกี่ยวกับฟาร์เวล เดอ โฮพิโอ กว่าล้านกระทู้ ฉันจึงเลือกเข้าไปดูกระทู้ที่น่าเชื่อถือที่สุด แต่ก็ต้องช็อคกับข้อความที่ยาวกว่ายี่สิบหน้ากระดาษ และรูปภาพเกือบร้อยรูปที่รวมทุกอิริยาบถของฟาร์เวล เดอ โฮพิโอ

     

          ฟาร์เวล เดอ โฮพิโอ ชายหนุ่มผู้สมบรูณ์แบบวัยยี่สิบปี เกิดวันที่xx เดือนx ปีxxxx สูง 180 cm หนัก 60 kg เขาเป็นทั้งนักร้อง นักแสดง นายแบบ โปรดิวเซอร์ และผู้กำกับที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในขณะนี้ พ่อชื่อ... แม่ชื่อ... ชอบใส่กางเกงในสี...

     

         เอิ่ม...ข้ามไป

     

         ความอัจฉริยะทางดนตรีของฟาร์เวลได้ปรากฏอย่างเห็นได้ชัดตอนอายุสิบขวบ เมื่อเขากำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่ร้านอาหารใกล้ๆ บ้าน โดยโต๊ะข้างๆ กับโต๊ะที่เขานั่งกินข้าวอยู่นั้น ก็มีโปรดิวเซอร์จากค่ายเพลงชื่อดังกำลังใช้ความคิดอย่างหนักเพื่อแต่งเพลงให้กับนักร้องสาวคนหนึ่งซึ่งไม่ค่อยดังมากนัก เมื่อฟาร์เวลเห็นอย่างนั้น จึงถามขึ้นอย่างสุภาพว่า ให้ผมช่วยอะไรมั้ยครับ? เมื่อได้ฟังดังนั้น โปรดิวเซอร์คนนั้นก็ตกใจ เพราะไม่คิดว่าเด็กคนนั้นจะมีความสามารถพอที่จะช่วยเขาได้ เขาจึงส่งกระดาษเขียนโน้ตพร้อมทั้งเนื้อเพลงให้ฟาร์เวล ฟาร์เวลจึงรับมาเขียน มันน่าทึ่งมาก ที่ฟาร์เวลสามารถแต่งเพลงเพลงนั้นเสร็จภายในเวลาไม่ถึงห้านาที และได้โน้ตเพลงจำนวนสี่หน้า

     

         โปรดิวเซอร์คนนั้นก็ไม่เชื่อสายตาตัวเอง เขาคิดว่า ฟาร์เวลคงเขียนโน้ตมั่วแน่ๆ เขาจึงลองเล่นเพลงนั้นทันทีเมื่อกลับถึงบ้าน แล้วพบว่ามันเป็นเพลงที่เพราะจับใจมาก เขารู้สึกหลงรักมันตั้งแต่เมื่อเริ่มเล่นโน้ตตัวแรกจนถึงเล่นจบเพลง มันมีเสน่ห์ที่สามารถจะดึงดูดคนฟังให้อยากฟังเพลงนั้นอีกเรื่อยๆ โปรดิวเซอร์คนนั้นจึงคิดไปว่า เด็กคนนี้แต่งเพลงได้ดีกว่าเขาเสียอีก และเมื่อเขาส่งเพลงนี้ไปให้นักร้องสาวคนนั้นร้อง เพลงเพลงนั้นก็กลับทำให้เธอประสบความสำเร็จ และมีชื่อเสียงโด่งดัง นอกจากนั้น เพลงเพลงนั้นก็ยังกลายเป็นเพลงฮิตข้ามปี และยังได้รับรางวัลในอีกหลายสาขาอีกด้วย โปรดิวเซอร์คนนั้นจึงอยากที่จะขอบคุณฟาร์เวล แต่ก็ไม่รู้ว่าจะติดต่อเขาได้ยังไง

     

         จนกระทั่ง...ห้าปีต่อมา ฟาร์เวลได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในคอนเสิร์ตเพลงคลาสสิกของเหล่านักเปียโนระดับโลก ด้วยความที่เป็นคนช่างสังเกต และด้วยนิสัยที่ชอบช่วยเหลือคนอื่นของเขา ทำให้ฟาร์เวลสังเกตเห็นว่านักเปียโนระดับโลกคนหนึ่งมีอาการบาดเจ็บที่มือทั้งสองข้าง เนื่องจากการฝึกซ้อมอย่างหนัก เมื่อเห็นดังนั้น ฟาร์เวลจึงวิ่งเข้าไปขวางไว้ เพื่อไม่ให้นักเปียโนระดับโลกคนนั้นขึ้นไปเล่นเปียโน แต่เขากลับขึ้นไปเล่นเปียโนแทนนักเปียโนระดับโลกคนนั้นในเพลง Winter Wind ( Etude Op 25 No 11 ) ของChopin

     

         การแสดงของเขาเป็นสิ่งที่สมบรูณ์แบบไปหมด ทั้งเทคนิคการเล่น และท่าทางในการเล่น จนทำให้ความสามารถของฟาร์เวลเป็นที่กล่าวขานในกลุ่มคนจำนวนมาก และเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ทำให้เขาดังได้โดยที่เขาไม่รู้ตัว

     

         ข่าวของฟาร์เวลได้รับการเผยแพร่ทั้งในอินเตอร์เน็ต วิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ เมื่อโปรดิวเซอร์คนนั้นรู้เรื่องเข้า เขาก็พยายามที่จะติดต่อฟาร์เวล เพื่อรับฟาร์เวลเข้าทำงานในฐานะศิลปินคนหนึ่ง และให้อิสระแก่ฟาร์เวลในการทำเพลงเองทั้งหมด และด้วยความสามารถของเขาเอง ทำให้ฟาร์เวลกลายเป็นศิลปินขวัญใจคนทุกเพศทุกวัย และกลายเป็นศิลปินระดับโลกในที่สุด

         

         ตลอดเวลาห้าปีที่อยู่ในวงการ ฟาร์เวลได้ประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้าน และได้สร้างผลงานได้มากมาย อาทิ เช่น...

     

         เอิ่ม...ข้ามไป

     

         เขาได้รับรางวัลมากมายในหลายสาขา อาทิ เช่น...

     

         เอิ่ม...ข้ามไป

     

         นอกจากการเป็นนักร้อง นักแสดง นายแบบ โปรดิวเซอร์ และผู้กำกับแล้ว หนุ่มคนนี้ยังจะทำอะไรได้อีก คงต้องรอติดตามผลงานของเขาต่อไป

     

         เมื่ออ่านกระทู้นั้นเสร็จแล้ว ฉันจึงรีบปิดกระทู้นั้นทันทีก่อนที่จะเริ่มค้นหาคำว่า ฟาร์เวล เดอ โฮพิโอและ กุญแจต่อมา...ฉันก็ได้รับผลลัพธ์ดังนี้

     

         ฟาร์เวล เดอ โฮพิโอยืนยัน ยังจะรับบทแสดงนำในภาพยนตร์สยองขวัญแห่งปี กุญแจเปิดมิติมรณะ

     

         คอลเลคชั่นพวงกุญแจฟาร์เวล เดอ โฮพิโอสุดน่ารัก แฟนคลับไม่ควรพลาด

     

         ชายหนุ่มผู้สมบรูณ์แบบ ฟาร์เวล เดอ โฮพิโอเผย ผมเคยทำกุญแจบ้านหาย

        

         เอาน่า...มันต้องมีซักกระทู้ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่ฉันอยากรู้ฉันคิดแล้วเลื่อนเว็บเพจลงไปข้างล่างเพื่อดูกระทู้อื่นๆ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อ...

     

         แบล์...จะเที่ยงแล้วนะ รีบไปเร็วเข้า ตอนเที่ยงนี้ศาสตราจารย์แอนนาซาร่าเรียกนัดหมายน่ะ เสียงของเบลลาทริกซ์ดังขึ้น ทำให้ฉันต้องหยุดค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชายที่ชื่อฟาร์เวล และกุญแจนั่นโดยทันที ถึงแม้ว่า...ฉันอยากที่จะหาข้อมูลต่อแค่ไหนก็ตาม แต่ฉันก็ต้องไปจัดการเรื่องของตัวเองที่โรงเรียนให้เสร็จก่อน

     

    + + + + + + + + + + + 

         ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงกว่าๆ ฉันกำลังนั่งรอศาสตราจารย์แอนนาซาร่าอยู่ในห้องซ้อมเต้น ท่ามกลางนักเรียนชั้นมัธยมปลายปีที่สามอีกกว่าร้อยชีวิต บรรยากาศภายในห้องซ้อมเต้นดำเนินไปอย่างคึกคัก เหล่าเพื่อนนักเรียนพากันโอ้อวดเกี่ยวกับทักษะการเต้นระดับเทพ และคู่ควงออกงานแสนวิเศษของพวกเขา ในขณะที่ฉันกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องกุญแจนั้นอยู่

     

         หลังจากที่ฉันค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชายที่ชื่อฟาร์เวล และกุญแจนั่น ฉันก็ได้รับผลลัพธ์ที่ไม่ค่อยน่าพอใจมากนัก มันมีทั้งโชคดี และโชคร้ายอยู่รวมกัน โชคดีก็คือ ผู้ชายที่ชื่อฟาร์เวล เดอ โฮพิโอคนนั้น มีตัวตนอยู่จริง และโชคร้ายก็คือ ฉันยังไม่รู้ว่ากุญแจดอกนั้นมีจริงหรือเปล่า และถ้ามีจริง แล้วผู้ชายที่ชื่อฟาร์เวลคนนั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องกุญแจดอกนั้นจริงหรือเปล่า? ถ้าเขาเกี่ยวข้องกับกุญแจดอกนั้นจริงๆ แล้วฉันจะเอามันมาได้ยังไงล่ะ ฉันจะได้พบกับเขาที่ไหน? แล้วจะใช้วิธีอะไรที่จะเข้าหาตัวเขาได้ เพราะผู้ชายคนนี้เป็นถึงศิลปินระดับโลก ใช่ว่าจะเข้าหาตัวได้ง่ายซะที่ไหน แล้วถ้าฉันเข้าหาตัวเขาได้แล้ว เขาจะให้คำตอบฉันได้มั้ย? เพราะฉันคิดว่า ศิลปินระดับโลกอย่างเขาคงไม่ใส่ใจเรื่องเล็กๆ แบบนี้หรอก เพราะเขาคงงานยุ่งมาก คงมีโอกาสไม่มากแล้วล่ะที่ฉันจะได้กุญแจนั้นมา ฉันคงทำไม่สำเร็จแน่ๆ

     

         หวัดดีจ๊ะเด็กๆ ที่น่ารักของฉัน น้ำเสียงอันอ่อนหวานของศาสตราจารย์แอนนาซาร่าดังขึ้น มันเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันเลิกคิดเรื่องกุญแจนั่นแล้วกลับสู่โลกภายนอกตามปกติ

     

         พรุ่งนี้แล้วนะจ๊ะที่จะถึงงานเลี้ยงของเรา หวังว่าทุกคนคงได้ซ้อมเต้นกันมาแล้วนะจ๊ะ ศาสตราจารย์แอนนาซาร่าว่าลางยิ้มกว้าง เอาล่ะ...ตอนนี้ครูขอให้นักเรียนทุกคนออกมาลงชื่อพร้อมทั้งเขียนชื่อคู่เต้นรำของตัวเองจ๊ะ สิ้นคำศาสตราจารย์แอนนาซาร่า นักเรียนทุกคน(ยกเว้นฉัน)ต่างรีบเพื่อที่จะไปลงชื่อ แน่นอนว่า วาซิเนียได้ควงคาร์เวสโซไปลงชื่อเป็นคู่แรก วาซิเนียมองหน้าฉันด้วยสายตาเย้ยหยันเป็นนัยน์ว่า หึ...เธอคงหาคู่ไม่ได้สินะ

     

         ฉันหลบสายตาร้ายกาจของวาซิเนียแล้วรีบวิ่งออกไปเพื่อหาคู่ทันที ฉันยืนอยู่หน้าอาคารซ้อมเต้นเพื่อมองหาผู้ชาย เมื่อมีผู้ชายเดินผ่านมา ฉันจึงถามเขาว่านายมีคู่เต้นรำหรือยัง?แล้วผู้ชายคนนั้นก็พยักหน้าแล้วเดินออกไปทันที

     

         ฉันทำแบบนี้เรื่อยๆ จนครบสามชั่วโมง และผลลัพธ์ที่ฉันได้ก็ยังคงเหมือนเดิมก็คือ ผู้ชายทุกคนต่างก็มีคู่เต้นรำกันหมดแล้ว แล้วฉันจะไปหาใครมาคู่ฉันล่ะเนี่ย

     

         ฉันจึงทรุดตัวลงบนบันไดหน้าอาคารซ้อมเต้นด้วยความอ่อนแรง โชคร้ายได้กลับหวนกลับมาอีกครั้ง และฉันก็กำลังจะถูกเรียกด้วยความน่าสมเพชรว่านางสาวเคราะห์ร้ายอีกเช่นเคย 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×