ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My crazy boy::แผนหนีรักนายตัวป่วน::

    ลำดับตอนที่ #1 : ::กลับเมืองไทยซะ::

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 49



                    "พ่อพูดว่าอะไรนะ"

    "แกกลับไปเมืองไทยซะ ไปเรียนต่อ ม.ปลายที่นั่น ไปอยู่กับคุณตาและคุณยายของแก"

    สิ่งที่พ่อพูดออกมาดูเหมือนจะไม่ได้ล้อเล่น ถึงแม้ว่าปกติแล้วพ่อของฉันมักจะหยอกล้อกับฉันเหมือนเราทั้งคู่เป็นคู่หูกันซะมากกว่าจะเป็นพ่อลูก แต่ในครั้งนี้ พ่อกำลังใช้ความเป็นพ่อที่ไม่ได้งัดเอามาใช้มากกว่าสิบปี มาสั่งให้ฉันกลับไปเมืองไทย

    "ได้ยังไงกัน ทำไมหละพ่อ"

    ฉันถามพ่อด้วยน้ำเสียงที่แปลกใจอย่างสุดขีด เมื่อสองสามวันก่อนหลังจากที่พ่อได้รับโทรศัพท์จากคุณยายที่เมืองไทย พ่อก็ดูแปลกๆไป แล้ววันนี้พ่อก็มาบอกให้ฉันกลับเมืองไทยอย่างกะทันหัน ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น

    "พ่อบอกให้กลับก็คือกลับสิ ทำไมแกต้องถามถึงเหตุผลบ้าบออะไรด้วย เดี๋ยวนี้แกไม่เชื่อฟังคำสั่งพ่อแล้วเร๊อะ"

    "ไม่ใช่ว่าไม่ฟังนะ แต่พ่อมาบอกกะทันหันอย่างนี้ได้ยังไง มันต้องมีสาเหตุสิ"

    "ไปเตรียมเก็บข้าวของซะ อีกสองวันแกต้องกลับไปอยู่เมืองไทย"

    พ่อลุกออกจากโซฟาสีครีมแล้วเดินออกจากห้องรับแขกไป ทิ้งให้ฉันนั่งอ้าปากค้างอยู่เพียงลำพัง นี่พ่อมีสาเหตุอะไรกันหักหนา ถึงขับไล่ไสส่งฉันให้กลับเมืองไทย ทั้งๆที่ตั้งแต่แม่จากไปเมื่อสองปีก่อน พ่อยังเป็นคนบอกเองเลยว่า จะไม่กลับไปเมืองไทยอีก แล้วจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ไปตลอด เมื่อฉันเริ่มได้สติ ฉันกดเบอร์โทรศัพท์ไปหายัยซายด์โดยเร็วเพื่อบอกข่าวที่ฉันต้องกลับไปอยู่เมืองไทยอย่างกะทันหัน

    "Hello" เมื่อเสียงรับโทรศัพท์ที่คุ้นเคยดังขึ้นฉันก็รีบร้อนพูดอย่างรวดเร็วถึงสิ่งที่ฉันอัดอั้นอยู่ภายในใจ

    "ซายด์ ฉันเองนะ แกฉันจะทำยังไงดีพ่อให้ฉันกลับเมืองไทยในอีกสองวัน ฉันไม่เข้าใจเหตุผลของพ่อเลย พ่อไม่ยอมบอก แล้วฉันจะกลับไปอยู่ที่นั่นได้ยังไงในเมื่อที่นั่นไม่มีใครที่ฉันรู้จักด้วยซ้ำ พ่อบอกให้ฉันไปอยู่กับคุณตาคุณยาย แกเอ้ย....ฉันเพิ่งเคยเจอท่านทั้งคู่แค่ไม่กี่ครั้งตั้งแต่ฉันเกิดมา พูดคุยกันก็แทบจะนับคำได้ โอ้ย...ฉันปวดหัวไปหมดแล้วเนี่ย"

    "เห้ย....แกพล่ามอะไรของแกว่ะ ทูน่า แกว่าแกกำลังจะไปไหนนะ"

    "เมืองไทย"

    "โอ้ว!!!!!!  Thailand ก็ดีสิ ฉันก็อยากไปเที่ยวเมืองไทยเหมือนกัน ไม่ได้ไปมานานแล้ว คิดถึงจริงๆ"

    "ฉันจะไปอยู่ที่นั่นเลยนะโว้ย ไม่ได้ไปเที่ยว ไปอยู่ ไปเรียน ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนะ แกเข้าใจมั๊ยห๊า!!" ฉันเริ่มหงุดหงิด เมื่อยัยบ้าซายด์ไม่ได้เข้าใจความเป็นเดือดเป็นร้อนของฉันเอาซะเลย

    "หา...ไงงั้นหละ ทำไมอยู่ๆแกถึงจะไปซะหละ"

    "-_-; ที่ฉันพูดตอนแรกแกไม่ได้ฟังเลยงั้นสิ"

    "ก็แกเล่นบ่นๆ มาเป็นชุด ใครเขาจะไปฟังทันว่ะ"

    "ก็พ่อตัวแสบของฉันนะสิ อยู่ๆวันนี้ก็มาทำซะขรึม บอกว่าให้ฉันกลับไปอยู่เมืองไทยกับคุณตาคุณยาย แก....หน้าตาตายายเป็นยังไงฉันยังจำแทบไม่ได้เลย กลุ้มใจเว้ย"

    "คิดในแง่ดีสิว่ะ พ่อแกอาจจะล้อเล่นเหมือนทุกทีก็ได้ ^-^"

    "เฮอะ....พ่อไม่เคยทำท่าทางแบบนั้นกับฉันมาก่อนเลยนะ ฉันคิดว่าครั้งนี้พ่อพูดจริงว่ะ แต่คิดจนหัวแทบระเบิดฉันก็คิดไม่ออกจริงๆเลยว่าพ่อมีเหตุผลอะไรถึงส่งฉันไปอยู่เมืองไทย"

    "พ่อแกอาจจะ....."

    "อาจจะอะไร อย่าอ้ำๆอึ้งๆ แกคิดเหตุผลอะไรออกบอกฉันมาสิ"

    "อาจจะ...มีแฟนใหม่รึป่าวว่ะ เลยไม่อยากให้แกอยู่เป็น กองขี้ควาย (กขค)"

    คำพูดของยัยซายด์ทำให้ฉันถึงกับนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย จริงด้วยสินะ....ทำไมฉันถึงคิดไม่ถึงข้อนี้เลย แม่จากไปสองปีแล้ว พ่อเองก็ใช่ว่าจะดูแก่มากมาย หน้าตาก็ไม่ได้มีรอยเหี่ยวย่นสักเท่าไหร่ ถึงเวลาอยู่บ้านกับฉัน พ่อมักจะทำตัวบ้าๆบอๆเสมอ แต่เวลาออกไปทำงานพ่อจะเปลี่ยนเป็นคนที่จริงจัง และมีบุคลิกที่เงียบขรึมทันที ตอนนี้ฉันอยากจะรู้จริงๆ ยัยแหม่มหน้าไหนที่มาแย่งพ่อของฉันไป

    "เห้ย!! ทูน่า ยังอยู่รึป่าว?"

    "แก ฉันจะต้องสืบให้ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร"

    "โอ้ย.....แกอย่าเพิ่งจริงจังไป ฉันก็แค่ลองคิดเล่นๆ ฉันว่าอย่างพ่อแกไม่มีทางทิ้งแกเพราะเขามีแฟนใหม่หรอก"

    "ฉันจะสืบรู้ให้ได้!"

    "เอ๋า บ้าเข้าไป แกฟังที่ฉันพูดหน่อยเซ่"

    "มันเป็นใครหน้าไหนว่ะ!" ฉันกัดเล็บพลางครุ่นคิด ตอนนี้ฉันไม่ได้ยินเสียงยัยซายด์แล้วจริงๆ

    "เฮ้อ....แกเลิกคิดเรื่องไร้สาระเถอะ คิดถึงเรื่องข้างหน้าจะดีกว่านะ เรื่องที่แกจะต้องไปเมืองไทย จริงด้วย!!!!!!....แกๆๆ ถ้าแกไปเมืองไทย แกก็ต้องเจอกับเฮนรี่นะสิ"

    เฮนรี่....ชื่อที่หลุดออกมาจากปากยัยซายด์ทำให้ฉันตื่นจากภวังค์ ตายแล้ว!!! ฉันลืมเรื่องคอขาดบาดตายยังงี้ไปได้ยังไงนะ ไอ้บ้านั้น ไอ้บ้านั้นอยู่ที่เมืองไทยนิหน่า ไม่นะ....TT_TT ชีวิตของฉันเริ่มจะโชคร้ายเพิ่มขึ้นอีกอย่างแล้วเมื่อนึกถึงมัน

    "อ๊ากกกกกกกก.......ฉันจะทำยังไงดีแก ฉันไม่อยากไปเมืองไทย ไม่อยากไปอ่ะ TT_TT"

    "ใจเย็นๆ ทูน่า เมืองไทยก็ใช่จะเล็กนะ แกคงไม่ได้เจอเฮนรี่ง่ายๆหรอก"

    ยัยซายด์พยายามพูดปลอบใจ แต่มันไม่ได้ทำให้ความกังวลใจของฉันคลายลง สถานการณ์ตอนนี้ถึงขั้นเลวร้ายมากถึงมากที่สุด ฉันควรจะเริ่มแก้ไขมันจากตรงไหนเนี่ยหลังจากพร่ำเพ้อกับยัยซายด์อยู่นานสองนาน ฉันก็ได้รับคำแนะนำว่า ควรจะไปอ้อนวอนพ่อเพื่อให้ฉันไม่ต้องไปเรียนที่เมืองไทย อื่ม...คิดว่ามันคงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับปัญหาตอนนี้แล้วหละ Y_Y

    ฉันนั่งรอพ่ออยู่ที่โซฟาตัวเดิม พ่อกำลังอยู่ในห้องทำงาน ถึงฉันอยากจะพูดกับพ่อให้เร็วแค่ไหน แต่ก็ต้องเก็บมันเอาไว้ก่อน เพราะเวลาที่พ่ออยู่ในห้องทำงานไม่ว่าใครหน้าไหนเข้าไปกวนหละก็ เป็นบ้านแตกแน่ๆ ฉันนอนคว่ำใช้คางเกยที่วางแขนเพื่อรองรับน้ำหนักหัวของฉันไว้ แล้วก็เอื้อมไปหมุนฐานของเจ้าหมีน้อยที่ถือหัวใจปักคำว่า " I love u,baby." ทำให้เสียงดนตรีบรรเลงดังขึ้น ภาพของเจ้าของกล่องดนตรีนี้เมื่อสามปีก่อนก็ผุดขึ้นมาให้หัวฉันทันที

    "ฉานม่ายอยากปายเลย ฉานอยากอยู่กับเธอที่นี่นะ ทูน่า" เสียงภาษาไทยห่วยแตกเป็นของไอ้บ้าเฮนรี่ ถ้ามันพูดภาษาไทยได้ไม่ชัด ทำไมไม่พูดภาษาอังกฤษกับฉันนะ ไม่เข้าใจจริงๆ

    "ไปนะ ดีแล้ว ฉันจะได้อยู่เย็นเป็นสุขบ้าง" นี่คือคำพูดที่ออกมาจากใจฉันจริงๆนะ

    "เธอรางเกียจฉานหรอ ท้างๆที่ฉานพยายามทำทุกอย่างเพื่อเธอมาตลอดนะ"

    โอ้ย...ยิ่งฟังมันฉันยิ่งอยากจะบ้า รู้สึกว่ามันจะบ๊องไปเลยนะตั้งแต่ตกหน้าผาแล้วหัวไปกระแทกกับหินโสโครกเข้า เอ๋..รึว่าความโสโครกของหินจะเข้าไปแทนที่สมองของมันฟ่ะ -.,- ถ้าฉันรู้นะว่ามันจะซาบซึ้งบุญคุณที่ฉันช่วยชีวิต จนถึงขนาดตามติดฉันแจ แบบนี้ ฉันไม่เสี่ยงชีวิตลงไปช่วยมันจนได้แผลเป็นที่หลังมาแบบนี้หรอก

    "ถือว่าหายกันจากที่ฉันเคยช่วยชีวิตนายแล้วกัน -,.- "

    "แค่นี้มานยางน้อยไป ถ้าเทียบกาบที่เธอช่วยฉานนะ" แววตาของเฮนรี่ดูจริงจังขึ้นทุกทีที่ฉันพูดถึงเรื่องนี้

    "แล้วยังไงหละ นี่ถ้านายพูดภาษาไทยไม่ชัด นายก็พูดภาษาพ่อแม่นายเหอะ ฉันขี้เกียจจะฟังนะ ทำไมต้องพยายามพูดไทยกับฉันฟ่ะ ฉันไม่ได้ฟังภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องซะหน่อย"

    "ฉานจาหัดไว้ เวลามาสู่ขอเธอกับพ่อ ฉานต้องขอเธอด้วยภาษาพ่อแม่ของเธอ"

    " -_-^" มันบ้าไปแล้วจริงๆนั้นและ

    "เธอจาสานยากับฉานมั๊ย ว่าเธอจาม่ายปายมีคาย เธอต้องรอฉานนะ"

    "-_-^^"

    "ว่ายางงายหละ ถ้าเธอม่ายสานยา ฉานจาปายยกเลิกการปาย Thailand ฉานจาอยู่ที่นี่กาบเธอปายจนวานตาย"

    อี้!!! แค่ฟังก็ขนลุกแล้ว ฉันจำเป็นต้องตอบส่งๆไปสินะ ไม่ยังงั้นชีวิตฉันจะมีวันสงบสุขได้ยังไงถ้ามีไอ้บ้านี่อยู่ด้วย

    "ฉันสัญญา -_-' "

    "Do u sware?"

    "I sware!!!!!! -_-; " ฉันตะโกนเสียงดังพอๆที่บ้านตรงข้ามจะเปิดประตูออกมาดูได้เชียวหละ

    "ดีจายจาง ฉานจะไปเรียนภาษาไทยให้พูดได้ชัดกว่านี้นะ แล้วฉานจา e-mail มาหาเธอทุกวาน เธอก็ต้องตอบ e-mail ฉานด้วยนะ ถ้าวานหนายเธอม่ายตอบฉานจะบินกลับมาที่นี่ทันที"

    ใครก็ได้เอาไอ้บ้านี้ไปทิ้งทะเลเห๊อะ

    "ฉันจะตอบ e-mail นายเมื่อฉันอยากตอบเท่านั้น อย่ามาบังคับ!!"

    " ok ๆ ฉานม่ายบางคาบเธอก้อด้าย อะ...ฉานห้ายว้ายดูต่างหน้าฉาน"

    เฮนรี่ยื่นกล่องของขวัญที่ดูน่ารักเสียจนเกินกว่าผู้ชายตัวใหญ่ๆอย่างเขาจะถือ ฉันรับมาและตั้งใจจะเปิดดูทันที แต่เขาก็รั้งมือของฉันเอาไว้ก่อนที่ฉันจะเริ่มแกะกล่องนั้นซะอีก

    "Hey! เอาว้ายเปิดดูหลังจากฉานปายแล้วสิ เปิดดูตอนนี้ฉานเขินนา -////-"

    ไอ้บ้านั้นหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศ ไม่รู้จะอายอะไรหนักหนากะอีกแค่เปิดของขวัญต่อหน้าเนี่ย

    "นายต้องขึ้นเครื่องกี่โมงเนี่ย"

    "Oh…God!! ฉานปายก่อนนาที่ราก จุ๊บ! ฉานรากเทอ " เขาจูบที่หน้าผากฉันเบาๆ แล้วสบตาฉันและบอกรักฉันด้วยภาษาไทยที่ไม่แข็งแรง ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นอาจจะละลายไปแล้ว ก็นายนั่นมันสุดแสนจะป๊อบในหมู่สาวๆ ถึงฉันจะยอมรับนะ ว่ามันหน้าตาดีมากๆ แต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนที่วิ่งแก้ผ้ามาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ ฉันเลยไม่คิดจะมองเฮนรี่ด้วยสายตาที่หญิงสาวมองชายหนุ่มคนหนึ่ง และฉันก็คิดว่าเฮนรี่ก็เป็นแบบนี้กับฉันมาโดยตลอด จนตอนที่ไปเที่ยวทะเลแล้วเขาพลัดตกหน้าผานั้นและ ฉันไม่รู้ว่าทำไมเฮนรี่ถึงมองฉันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปจากเพื่อนสนิทมาเป็นคนรัก ก็อย่างที่ฉันคิดหละนะ  นายนั้นคงจะหัวกระแทกจนบ๊องไปแล้ว ตั้งแต่วันนั้นเค้าตามติดจนน่ารำคาญความเป็นเพื่อนสนิทที่ฉันให้กับเฮนรี่จึงลดน้อยลง แต่ดูเหมือนนายนั่นจะตรงข้ามกับฉันนะ  -_-"

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×