ที่เดิมในหัวใจ(จบ) - ที่เดิมในหัวใจ(จบ) นิยาย ที่เดิมในหัวใจ(จบ) : Dek-D.com - Writer

    ที่เดิมในหัวใจ(จบ)

    ผู้เข้าชมรวม

    108

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    108

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 ม.ค. 67 / 10:26 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

     

     

    "คุณลูกค้าครับ... ทุกครั้งที่ผมร้องเพลงนี้ ผมจะนึกถึงคุณลูกค้าทุกคนเลย นึกถึงบรรยากาศดีๆ มิตรภาพดีๆที่เกิดขึ้น รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ หรือแม้กระทั่งหยาดน้ำตาจากความเสียใจ... "

     

    "เราสามารถกอดกันได้อย่างอบอุ่น ผมจะเป็นคนหนึ่งและพวกเราจะขอเป็นตัวแทนนักดนตรีกลุ่มหนึ่งที่ไม่เคยตัดสินคุณลูกค้าจากภายนอก เราไม่เคยดูถูกเงินทุกบาทที่คุณลูกค้าให้มา เราไม่เคยตั้งเรื่องเพศภาพ เรายินดีที่จะรักคุณลูกค้าของเราทุกคนจากใจ ไม่ว่าคุณลูกค้าจะเป็นแบบไหน ทำอะไรหรือมีความรู้สึกแบบไหน มาจากไหน... อาชีพอะไร จะรวยหรือจน ขอให้พวกเราอยู่เป็นเพื่อนกับคุณลูกค้าทุกๆ คนในทุกช่วงเวลาของคุณนะครับ อยู่ด้วยกันไปทุกการเติบโตนะ ขอบคุณครับ "

     

    (ร้องเพลง) ขอแค่รักคำเดียวเท่านั้น หมายถึงฉันคนเดียวเท่านี้ อยากจะฟังอีกทีว่าเธอรักฉัน ไม่ต้องรักเท่าฟ้า แต่ขอให้รักเท่า ไม่ต้องมีเพิ่มเติม แต่รักไม่น้อยลงไป.... ( (เพลงขอให้เหมือนเดิม อินบูดูกัน) )

     

    "เดี๋ยวๆ .."เหมา นักร้องนำวง ยกมือส่งสัญญาณให้คนในวงหยุดเล่นดนตรีเมื่อลูกค้าเดินเข้ามาหาหน้าเวที กวักมือเรียกหยอยๆ

     

    ลูกค้าผู้ชายวัยประมาณยี่สิบห้ายี่หกปีกำลังถือช้อนยาวบรรจุอาหารมาเต็มจนล้นเดินตรงมาหน้าเวทีที่นักร้องนำกำลังร้องเพลง

     

    "เปิดมิติใหม่แห่งการให้ ฮ่าาา.." เหมาพูดพลางหัวเราะเสียงดังเมื่อเห็นลูกค้าส่งช้อนพร้อมตักอาหารมาให้

     

    ตึง! โป๊ะ! เสียงกลอง กีตาร์ ตีรับมุกตลกที่เหมากับแซวเล่นกับลูกค้า

     

    "แม่งโคตรน่ารักว่ะครับ ฮ่าา..." นักร้องนำวง ยืดตัวขึ้นเต็มความสูงกวาดสายตามองรอบร้านขณะพูดคุยกับลูกค้าในค่ำคืนนี้ด้วยอารมณ์สนุกสนาน

     

    "อะไรอ่ะ?" ย่อบตัวลงนั่งมองช้อนในมือลูกค้าอีกครั้ง เอ่ยถามออกไปด้วยรอยยิ้มและแววตาขบขันเพื่อสร้างบรรยากาศ

     

    "ลาบ.." น้ำเสียงเฮฮาตอบพลางส่งช้อนที่มีลาบหมูอยู่เต็มช้อนให้กับนักร้องหนุ่มผิวขาวร่างโปร่งบางรับประทาน

     

    เหมาเป็นนักร้องที่ร้องเพลงเพราะ อัธยาศัยดีเป็นกันเองซึ่งก็พอคุ้นเคยกันบ้างเนื่องจากเขามาเที่ยวที่นี่บ่อยและได้เจอประจำ ได้เห็นถึงความเป็นกันเองความน่ารักของนักร้องและสมาชิกวงนี้จึงกล้าที่เล่นด้วย

     

    "ลาบ? ฮ่าาา.. แล้วกูต้องรีบเคี้ยว ต้องรีบร้องด้วยใช่ปะ ฮ่าาา" เหมาหัวเราะเสียงดัง พูดแซวทั้งตัวเองและคนที่ใจดีอุตส่าห์แบ่งลาบหมูสีสันจัดจ้านตั้งหนึ่งช้อนพูนๆ ให้ตนเองได้ชิม แม้จะไม่อยากรับน้ำใจนั้นทว่าเหมาทำเพียงแสร้งหัวเราะร่วนขณะอ้าปากรับอาหาร

     

    กฎของวง ลูกค้าส่งอะไรมาให้ห้ามปฏิเสธ ต้องรับไว้ทั้งหมดแม้ในใจไม่อยากได้ก็ตาม..

     

    ทั้งเหล้า ทั้งอาหาร และเงิน บางทีแม่งแกล้งส่งทิชชู่เปียกมากูยังรับอ่ะคิดดู

     

    ตั้งแต่ทำอาชีพนักร้องตามร้านเหล้าจากที่ดื่มไม่เก่งทุกวันนี้แทบจะไม่ได้แตะน้ำเปล่าด้วยซ้ำ ส่งมากูยก ส่งมากูยก เมาทุกวัน

     

    เอ้าแดกกก~

     

    "มึงก็หาทำนะคุณลูกค้า ฮ่าาา~" ไหว้ย่องามๆ รับเงินที่ลูกค้าให้ทริปพิเศษหนึ่งพันบาท 

     

    "เออ! แซบเสยว่ะมึง"

     

    "คราวหลังขอข้าวเหนียวด้วยนะ" ดื่มน้ำล้างปากเรียบร้อยก่อนจะบอกแซวเล่นขอข้าวเหนียว แล้วกลับมาร้องเพลงต่อจนครบชั่วโมงที่ตกลงกับทางร้าน

     

    ชีวิตนักร้องของเหมาและเพื่อนในวงวนเวียนอยู่ในร้านเหล้าแปดสิบเปอร์เซ็น อีกยี่สิบเปอร์เซ็นแล้วแต่ลูกค้าจะจ้างงานให้ไปเล่นที่ไหน

     

    โชคดีที่พวกเรามีงานเกือบตลอดเดือน รายได้เยอะพอสมควรแต่ก็ต้องแลกด้วย เวลาที่ต้องเสียไป ความเหนื่อยแทบไม่ได้พักร่างกาย สุขภาพไม่ต้องพูดถึง ไปตรวจเลือดคงเจอค่าแอลกอฮอล์สูงชนเพดาน แต่ก็นะมันอาชีพพวกเขา ทำอย่างอื่นคงยาก

     

    "ลูกค้าจ้างงานไปงานวันเกิด" แอปเปิ้ล ชายหนุ่มร่างกายกำยำแต่หัวใจหวานแหววบอกกับเพื่อนในกลุ่มที่ตนเองดูแลคิวงาน ดูแลเรื่องอาหาร เสื้อผ้า หน้าผม และคอยขับรถรับส่งเวลาที่ต้องเดินทางไปทำงาน เป็นผู้จัดการชีวิตพวกมันทั้งหมดก็คงใช่

     

    "วันไหน?"กรีนมือเบสถาม

     

    "วันที่สิบห้า"

     

    "มึงจะไม่ให้กูได้พักเลยไงวะอีเปิ้ล" เหมาลืมตามขึ้นมองคนขับรถก่อนจะหลับตาลงพักผ่อนระหว่างเดินทางกลับคอนโดที่ตนเองอาศัยอยู่ หัวจะปวดกับเพื่อนคนนี้แม่งงก รับงานไม่ถามสุขภาพเพื่อนเลย

     

    "กูเห็นว่าแค่ชั่วโมงเดียวเองมึง งานเริ่ม6โมงเย็นเลิกหนึ่งทุ่ม กับค่าจ้างสองแสนคุ้มจนกูไม่กล้าปฏิเสธอ่าา" เสียงเล็กแหลมที่พยายามดบีบให้น่ารักจนน่ารำคาญเอ่ยออกมา ทว่ากลุ่มเพื่อนทั้งหมดพร้อมใจกันมองบนแทบจะทันที รู้ทันความหิวเงินของมัน

     

    "ใครวะ?"แชมป์มือคีย์บอร์ดถามเสียงนิ่งตามสไตล์

     

    "น้องจูนไงมึง นางอยากให้เราไปเซอร์ไพรส์ในงานวันเกิดพี่ชายนางน่ะ "แอปเปิ้ลบอกกับเพื่อนในวง น้องจูนเป็นแฟนคลับอีเหมา กรี๊ดอีเหมาแทบอยากถวายตัวแต่อีเหมาก็วางตัวดี สุภาพกับสุภาพสตรี จะเล่นบ้างแซวบ้างเฉพาะเวลาที่กำลังทำงาน จบการทำงานอีเหมาก็เหมือนหมาแดกยา ซึม มึน เพราะมันเมา

     

    "นางปลื้มอีเหมา ชอบเสียงร้องเพลงอีเหมาที่สุด จริงๆ นางรีเควสแค่อีเหมาคนเดียวแหละ แต่กูบอกว่าเราทำงานกันเป็นทีม ถ้าจะจ้างก็ต้องทั้งหมด"แอปเปิ้ลหันมองเหมา ส่งสายตาหนึ่งปริบให้เพื่อนประจบประแจงไม่ให้มันหยุมหัว

     

    "หึ!"

     

    "จริงๆ ให้มันไปคนเดียวก็ได้ พวกกูจะได้นอนกับเมียบ้าง"

     

    "แต่เงินต้องหารเท่าๆ กัน "ป้องบอก เขาไม่ได้น้อยใจหรือรู้สึกอะไร ดีเสียอีกจะได้มีเวลาอยู่กับเมียให้เต็มที

     

    "xเถอะเหี้ยป้อง" ปากเล็กสวนกลับเพื่อนในวงเมื่อได้ยินคำพูดกวนตีน จะให้กูเหนื่อยคนเดียว ฝัน!

     

    "ทำเพื่อเพื่อนเพื่อพี่ไม่ได้ไงวะมึง"

     

    "ไม่ใช่ทำไม่ได้พี่เฟิร์ส แต่พวกมึงจะปล่อยให้กูทำงานคนเดียวแล้วพวกมึงไปมีความสุขกับเมียเนี่ยนะ ส้นตีนเถอะ!"

     

    "น้องดรีมคิดถึงพ่อมาก อยากให้กูมีเวลาให้เนี่ย"

     

    "มึงไม่ต้องเอาลูกมาอ้างอีพี่เฟิร์ส เออๆ เดี๋ยวกูไปเองคนเดียว"เห็นแก่หลานเท่านั้นแหละ

     

    "ถึงแล้ว ลงไปอีเหมา"

     

    "เออขอบใจ พรุ่งนี้โทรปลุกกูด้วยนะ "

     

    "ค่ะพ่อ~ จะแดกอะไรกูจะได้เตรียมไว้ให้"

     

    "ไม่รู้ ซื้อมาเถอะ "

     

    เหมาลงจากรถตู้เดินหน้าง่วงเข้าไปในคอนโดชั้น21ที่ตนเองซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงที่หามาได้ แตะคีย์การ์ดเข้าไปในห้องที่มีพื้นที่ใช้สอย103 ตร.ม. ถอดรองเท้าวางตรงชั้นวาง ก่อนจะปลดกระดุมกางเกงยีนส์เริ่มต้นถอดเสื้อผ้าตั้งแต่ทางเข้าประตูจนถึงห้องนอนเพื่อไม่ให้เสียเวลา เดินเปลือยกายเข้าไปอาบน้ำล้างคราบเหงื่อและกลิ่นบุหรี่จนตัวหอมสะอาด

     

    แค่ก แค่ก.. เสียงไอแห้งๆ ทำให้คนที่ดื่มจัดอย่างเหมาต้องออกมาดื่มน้ำ เปิดตู้เย็นภายในบรรจุน้ำดื่มเพียง3ขวด ของกินอย่างอื่นไม่หลงเหลือให้เหมาหยิบใส่ปาก กระดกดื่มน้ำจนเกือบหมดร่างกายรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังหมึนๆ บ้างจากเครื่องดื่มสารพัดที่ลูกค้าส่งให้

     

    ชีวิตตัวคนเดียวของเหมาไม่ต้องมาคอยห่วงใยใคร กิน นอน คนเดียวใช้ชีวิตไปกับงานและเพื่อนฝูงเสียส่วนใหญ่

     

    ครอบครัวพ่อแม่พี่น้องของเหมาอยู่ต่างจังหวัด ครอบครัวเขามีฟาร์มโคนม จะเรียกฟาร์มได้ไหมไม่ค่อยแน่ใจ เป็นธุรกิจครอบครัวเล็กๆ รายได้พอเลี้ยงปากท้องได้สบายๆ ส่วนตัวเขาอยากใช้ชีวิตในเมืองมากกว่า เขายังชอบแสงสีเสียง ยังหลงไหลกับการพบเจอผู้คนมากมาย ชอบความสะดวกสบายที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ คอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งสามารถเดินทางได้ง่ายและสะดวกต่อการทำงานด้วยเขาจึงยังไม่คิดจะกลับไปสานต่อธุรกิจที่บ้าน

     

    ถึงแม้จะเหน็ดเหนื่อยจากงานแทบไม่มีเวลาพักผ่อนแต่เขามีความสุขเมื่อได้เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของผู้คนในที่ต่างๆ ที่เขาไปร้องเพลง

     

    "ห้าววว~ " อ้าปากหาวจนน้ำตาซึมออกมาจากหางตา ก้าวขาขึ้นเตียงนอนนุ่มเลื้อยตัวลงนอนและเข้าสู่นิทราในเวลาไม่นาน

     

    งานที่ทำต้องใช้พลังงานเยอะ ต้องคอยเอ็นเตอร์เทนลูกค้าให้มีความสุขกับเสียงเพลงเสียงดนตรี แถมทุกวันนี้วงของเหมาแทบจะกลายเป็นคณะตลกคณะหนึ่ง เล่นดนตรีร้องเพลงไม่พอ ต้องเล่นตลกให้ลูกค้าดูด้วยเพื่อเรียกเสียงหัวเราะและเพื่อความบันเทิงสนุกสนาน กลับมาถึงบ้านสภาพของเหมาจึงเป็นอย่างที่เห็น

     

    สภาพพพพ!

     

     

    โชคดีที่ตนเองไม่มีแฟนเหมือนคนอื่นในวง ไม่อย่างนั้นคงได้ห่วงหน้าพะวงหลังไม่เป็นอันทำอะไร ทุกวันนี้ตัวเหมาเองยังจัดการชีวิตตัวเองไม่ลงตัวสักวัน คงไม่กล้ามีใครเข้ามาในชีวิต

     

     

     

     

     

    • • •

     

     

     

     

     

     

     

    ติ๊ง!!!

     

    เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือดังต่อเนื่องนานหลายนาที คนที่ถูกรบกวนการนอนจึงควานหาสมาร์ทโฟนตัวเองที่กำลังแผดเสียงเตือน

     

    "อืม.."

     

    "ตื่นค่ะอีเหมา "

     

    "อืม"

     

    "อืมก็ลุก อีกสี่สิบนาทีกูถึงคอนโดมึง ถ้าไม่ลงมารอกูปล่อยให้นั่งแท็กซี่ไปเองนะคะ "

     

    "อืม.."

     

    "อิดอก! "

     

    ติ๊ด! กดวางสายจากเพื่อนเมื่อมันกำลังจะบ่น คนเพิ่งจะตื่นจะเอาอารมณ์ไหนมาลุกปุบปับทันที ให้เวลาได้ปรับตัวสักหน่อยไม่ได้

     

    เหมาบ่นเพื่อนในใจก่อนจะนอนเกลือกกลิ้งบนฟูกนอนสักพัก บิดตัวไล่ความเมื่อยล้าออกไปก่อนจะเด้งตัวจากที่นอน ลากขาเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวโดยไม่เสียเวลาถอดเสื้อผ้าเพราะเหมาไม่เคยสวมชุดนอนนอน ปกตินอนคนเดียวเหมาจะนอนแก้ผ้า ให้ความรู้สึกสบายตัวไม่อึดอัด

     

    "วันนี้เป็นไข่ขยี้กุ้งนะมึง"แอปเปิ้ลบอกเพื่อนหนุ่มหน้าหล่อ จะว่าหล่อก็หล่อแต่มองอีกมุมหน้าอีเหมาก็หวานละมุนน่าหลงไหล แต่เสียใจ สันดานอย่างอีเหมาแอปเปิ้ลไม่เอาหรอก แม่งมีดีแต่ร้องเพลงอย่างอื่นไม่ได้เรื่อง

     

    ปากก็หมา เออ! พูดถึงชื่อมัน มันชอบโดนลูกค้าแกล้งประจำ จากเหมากลายเป็นหมาบ่อยครั้งเพราะแกล้งลืมเติมสระเอ โคตรฮา

     

    "อืมม อร่อย แล้วกาแฟกูล่ะเปิ้ล?"

     

    เนี่ยทำอะไรเองไม่เคยเป็น อยากกินอะไรไม่เคยหาซื้อเอง ต้องรอให้เขาหามาวางตรงหน้า ทั้งที่มันก็โตพอจะช่วยเหลือตัวเองได้แล้วแท้ๆ เฮ้ออ.. เวรกรรมอีเปิ้ล

     

    "มึงหยิบแก้วกาแฟให้มันดิพี่เฟิร์ส" พี่เฟิร์สส่งแก้วเอสเพรสโซ่เย็นให้เหมา ส่วนอิคนหิวโซก็รับไปดูดดื่มด้วยความอร่อย ระหว่างเดินทางไปทำงาน สมาชิกวงต่างก็อยู่ในมุมส่วนตัว กินข้าว นอนพัก เล่นเกมส์ คุยโทรศัพท์ ส่วนแอปเปิ้ลมีหน้าที่ขับรถเพื่อพาเพื่อนๆ ไปยังจุดหมาย ซึ่งวันนี้จุดหมายของพวกเราคือร้าน... ดังย่านกลางเมืองซึ่งไม่ไกลจากคอนโดของอีเหมา

     

    "พวกมึงงง~ ไม่ต้องใจดีกันมากขนาดนั้นก็ได้ เก็บไว้แดกเองก็ได้น้าาา" น้ำเสียงทุ้มดัดเสียงให้เหน่อเนิบพูดเล่นกับลูกค้าที่ส่งแก้วเหล้ารินมาจนเต็มแก้ว จนเหมาต้องกลืนน้ำลายลงท้อง เริ่มหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเห็นสีของเครื่องดื่ม

     

    เวร! เอากูแต่หัวค่ำเลย

     

    "ถามใจกูตอนนี้ไหวมะ กูบอกคำเดียวเลย ม่ายยย~~"ทำหน้าทำท่าทางเกินจริง แสดงอาการหวาดกลัวจนดูตลก ได้รับเสียงหัวเราะ เสียงปรบมือ เหมาก็ยิ่งเล่นใหญ่เอ็นเตอร์เทนลูกค้าให้คุ้มค่ากับเวลาและเงินที่เจ้าของสถานบันเทิงจ้างมา

     

    "เห็นกูแดกเหล้าเก่งแล้วชื่นชม อยากจะบอกว่ามันเป็นแค่การแสดง ในชีวิตจริงกูพังทุกวันนะ "เสียงหัวเราะครืนหลังจากที่เหมาพูดจบ จะไม่ให้พังได้ยังไง ส่งมาก็รับ  ส่งมาโยนให้เพื่อนบ้าง ดื่มเองบ้างแทบตลอดการแสดง

     

    "พูดขนาดนี้แล้วยังไม่เลิกส่งอีก!!"เหมาท้าวเอวมองคนที่ส่งแก้วเหล้า

     

    "ซี้ดดด อ่าส์!! ร้อนวาบยันไข่!"กระดกแก้วเหล้าหมดรวดเดียวส่งแก้วคืนลูกค้ารับน้ำใจเป็นแบงค์สีเทาด้วยความชื่นใจก่อนจะกลับมาร้องเพลงต่อ

     

    เห็นเงินที่ได้รับ เหมาก็ไม่เกี่ยง ส่งมาเถอะ เหมายอม..

     

    เพลงก็ต้องร้อง เนื้อเพลงก็ต้องจำ เหล้าก็ต้องกิน ลูกค้าก็ต้องคุย เกินไปแล้วแหละกับชีวิตไอ้เหมา

     

    "ก่อนจบการแสดงของพวกเราในค่ำคืนนี้.. หากพวกเราทำให้ไม่พอใจ ไม่สบายใจ หรือพูดหยาบคายเกินไป อยากจะบอกว่าคือการแสดงและสไตล์การทำงานอาจจะมีวาจาไม่สุภาพ.. ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้นะครับ.."

     

    สมาชิกในวงทั้งหมดยกมือไหว้ลูกค้าทุกๆ คนในร้านด้วยความนอบน้อมเพื่อให้ทุกๆ คนเอ็นดูอยากกลับมาเที่ยวมาฟังพวกเราอีกครั้ง ก่อนจะลงจากเวทีเพื่อเข้าไปพักในห้องที่ทางร้านจัดไว้ให้

     

    "แดกอะไรมึง?"

     

    "กูจะอ้วกแล้ว "

     

    "เอาไรร้อนๆ ปะเดี๋ยวกูสั่งมา"

     

    "อืม "

     

    "พวกมึงล่ะ? เอาไร"

     

    "เลือกมาเถอะ จะได้กลับไปพัก "สีหน้าแต่ละคนหลังจบจากการแสดง ไม่อยากพูด วิญญาณออกจากร่างได้คงไปแล้ว อิดโรยแทบจะนอนกันตรงนี้ สงสารแหละแต่ถ้าไม่ทำอาชีพนี้ก็ไม่รู้จะทำอะไรกัน

     

    การดูแลพวกมันทั้งหมดไม่ได้สบายสักนิดเดียว แอปเปิ้ลต้องคอยหาข้าว ดูแลคิวงาน ขับรถ เรื่องส่วนตัวต่างๆ แม้กระทั่งจัดคิวให้บรรดาผู้หญิงๆ ของพวกมันไม่ให้รถไฟชนกัน หัวจะปวดกับชายหนุ่มโสดทั้งหลาย พี่เฟิร์สดีหน่อยมีลูกเมียเป็นตัวตน บางคนนี่สิเจ้าชู้มีสาวๆ เข้าหาแทบไม่ซ้ำหน้า จะดีหน่อยก็อีเหมามันไม่สนใจคนที่เข้ามาเท่าไร จะมีบ้างนานๆ ทีที่มันเหงาและเปลี่ยวใจ

     

    "พรุ่งนี้ออกต่างจังหวัดนะพวกมึง ออกเดินทางสายๆ หน่อย จะได้ไปพักเอาแรงที่โน่น 4ทุ่มเริ่มทำงาน หลังจากนั้นพวกมึงได้พัก2 วัน "แอปเปิ้ลแจ้งคิวงานให้เพื่อนๆ ในกลุ่มทราบ รายละเอียดยิบย่อยค่อยไปบรีฟกับพวกมันหน้างานอีกทีบอกไปตอนนี้สมองพวกมันก็ไม่รับ

     

    ชายหนุ่มต้องคอยย้ำและบอกคิวงานกับพวกมันทุกๆ วัน จะบอกทีเดียวว่าเดือนนี้มีงานที่ไหนพวกมันไม่มีใครจำสักคน ทำงานกับพวกมันมาหลายปี รู้สันดานกันหมด

     

    "กูเอาลูกเมียไปด้วยนะ เดี๋ยวแวะเที่ยวทะเล"พี่เฟิร์ส

     

    "กูไม่เที่ยว แต่กูจะนอน"อีเหมา

     

    "กูฝากมึงหาใครสักคนให้กูที "อีแชมป์

     

    "กูก็จะนอนกับไอ้เหมา "อีกรีน

     

    "อืม กูขอสาวๆ สักคน"อีป้อง

     

    "พี่เฟิร์สจะขับรถไปเองรึว่าไปกับพวกกู?"แอปเปิ้ลถามรุ่นพี่เพียงคนเดียวในกลุ่ม

     

    "เดี๋ยวขับไปเอง มึงจองห้องให้กูส่วนตัวนะ"

     

    "โอเค"

     

    แอปเปิ้ลจอดรถส่งเหมาก่อนคนอื่นๆ เนื่องจากคอนโดของเพื่อนอยู่ไม่ไกลจากงานที่ทำวันนี้ ก่อนจะทำหน้าที่ขับรถไปส่งเพื่อนคนอื่นๆ ตามลำดับใกล้ไกล

     

    เหมาเปิดประตูห้อง อันดับแรกของเขาคือเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าสำหรับเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด ของที่จำเป็นต่างๆ ถูกจัดลงกระเป๋าเรียบร้อยเพื่อไม่ให้เป็นภาระเพื่อน ก่อนจะอาบน้ำสระผมแล้วเข้านอน

     

     

     

     

     

    . . .

     

     

     

     

     

     

     

    "เดี๋ยวกูขับรถไปเองมึงพักเถอะ " เหมาโทรบอกเพื่อนที่เหน็ดเหนื่อยจากงานต่อเนื่องมาหลายวัน แม่งรับงานซ้ำซ้อนคืนนึงต้องวิ่งทำงานกันถึงสองร้านดีหน่อยที่ร้านอยู่ระแวกเดียวกัน

     

    ทำงานเหมือนมีหนี้เป็นร้อยล้าน

     

    "จะดีหรอมึง เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน"

     

    "มึงพักไป ตามนั้น.. เท่านี้นะ"

     

    ติ๊ด!

     

    เหมาวางสายจากเพื่อนก่อนจะเลือกเสื้อผ้าสำหรับงานคืนวันนี้ ธีมงานผู้ว่าจ้างเป็นโทนสีเขียวสีแดงและชมพู เหมาจึงหยิบเสื้อเชิ๊ตสีชมพูอ่อนกับกางเกงยีนส์สีขาวพอดีตัว จัดแต่งทรงผมสักหน่อยเท่านี้ก็หล่อบาดใจ

     

    เหมาขับรถออกจากคอนโดไปตามโลเคชั่นที่เพื่อนส่งให้ จนมาถึงหมู่บ้านหรูระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนา เหมาแจ้ง รปภ หน้าหมู่บ้านว่ามาบ้าน... รปภ ขอแลกบัตรเรียบร้อยเหมาจึงขับรถไปยังบ้านหลังที่ลูกค้าจ้างงาน

     

    เหมามาก่อนเวลายี่สิบนาที เขาจึงนั่งรอเวลาในรถ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดเล่นเกมส์เพื่อรอเวลา เพราะไม่อยากลงไปก่อนให้เกิดความรู้สึกเคว้งคว้าง เหมาไม่ชอบที่ที่ไม่คุ้นเคยแถมไม่มีคนรู้จัก ถึงเขาจะทำงานเอ็นเตอร์เทนให้ความสนุกความบันเทิงกับผู้คน ทว่าตัวตนเขาค่อนข้างมีโลกส่วนตัว ชอบอยู่เงียบๆ ไม่วุ่นวาย มันสวนทางกับงานที่ทำสิ้นเชิง

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก..

     

    เหมาเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอสมาร์ทโฟน มองหญิงสาวใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักส่งยิ้มตาหยี คุณจูน.. ลูกค้าที่จ้างให้เขามาร้องเพลงวันเกิดให้พี่ชายเธอ

     

    เหมาส่งยิ้มมารยาทกลับไป ก่อนจะยัดโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกง ปลดล็อกรถยนต์ เปิดประตูลงมาหาเจ้าของงาน

     

    "สวัสดีค่ะคุณเหมา"หญิงสาวทักทายนักร้องหนุ่มด้วยรอยยิ้มยินดีที่ได้พบกันในวันนี้

     

    "สวัสดีครับคุณจูน"เหมาค้อมศีรษะเป็นการทักทายหญิงสาวกลับ แล้วเงียบอย่างคนที่ไม่รู้จะพูดอะไรออกไป

     

    "เชิญคุณเหมาในบ้านดีกว่าค่ะ ทานอะไรมาหรือยังคะ เดี๋ยวให้เด็กๆ ยกอาหารและเครื่องดื่มมาเสิร์ฟค่ะ"

     

    "ไม่เป็นไรครับ ผมขอกาแฟก็พอครับ"

     

    "ได้ค่ะ นั่งคอยตรงนี้นะคะ"

     

    คุณจูนพาเขาเข้ามารอในห้องคล้ายห้องดูหนังฟังเพลง ภายในตกแต่งเรียบง่ายด้วยโทนสีเอิร์ทโทน แสงไฟวอร์มไวท์ให้ความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลาย เหมาเอนกายพิงพนักโซฟานุ่มยกขาขึ้นไขว่ห้างท่วงท่าสบายราวกับที่ตรงนี้เป็นบ้านตัวเอง ไม่นานเจ้าของบ้านก็เดินเข้ามาพร้อมกาแฟหอมกรุ่น เราคุยรายละเอียดงานเพิ่มเติมเล็กน้อย ไม่นานก็ได้เวลาที่เขาต้องเป็นฝ่ายถือเค้กก้อนโตเดินร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้เจ้าของวันเกิดซึ่งเหมายังไม่รู้ว่า พี่ชายของคุณจูนคือใคร น่าตาอย่างไร

     

    เทียนถูกจุดจนครบ ไฟรอบบริเวณถูกหรี่ลงให้บรรยากาศดูอวนอุ่น นักร้องหนุ่มกวาดสายตามองพบเพียงชายหนุ่มร่างสูงเพียงคนเดียวยืนอยู่ตรงนั้น

     

    "คุณเหมา.. "

     

    "..."

     

    "เริ่มเลยค่ะ"คุณจูนกระซิบบอกเสียงเบา นักร้องที่ถูกจ้างด้วยค่าจ้างสูงริบจึงเริ่มขับร้องเพลง..

     

    Happy birthday to you

     

    Happy birthday to you

     

     

     

    เจษ..

     

    เหมาช็อคกับภาพตรงหน้า น้ำเสียงที่ร้องออกไปนั้นจึงสั่นไหวไม่มั่นคง มือเขาสั่นและเย็นเฉียบ ปากเริ่มหนักพยายามฝืนอ้าขยับยังยากลำบาก เหมายืนนิ่งมองคนตรงหน้า ซึ่งอีกฝ่ายนั้นมองกลับมาเช่นกัน

     

    เหมาหลับตาลงสูดลมหายใจเข้าลึกเรียกสติที่มันกระเจิงให้กลับมา

     

    Happy birthday, happy birthday...

     

    ชายหนุ่มสวมเสื้อเชิ้ตเขียวขี้ม้าเนื้อลื่นบางพอดีตัวรับกับร่างสูงใหญ่ แววตาคมเข้มมองมาที่เหมา รอยยิ้มอ่อนส่งมาพร้อมใบหน้าทอประกายยินดี

     

    กู!กำลังทำงาน ตอนนี้กูกำลังทำงาน แยกแยะด้วย! ดึงสติตัวเองกลับมาแล้วเริ่มร้องท่อนสุดท้าย..

     

    Happy birthday to you...

     

    เจษก้มลงเป่าเทียนบนเค้กจนดับทั้งหมด ก่อนจะเงยหน้ามองสบตาคนถือเค้กด้วยรอยยิ้มอ่อน คิดถึง อยากดึงเข้ามากอดแน่นๆ ทว่าเขาต้องยั้งใจตัวเองไม่ให้ทำตามใจ

     

    "คุณเหมา.. อวยพรเจ้าของวันเกิดด้วยค่ะ" จูนกระซิบบอกเสียงเบา มองภาพทั้งคู่ด้วยรอยยิ้มสมใจ

     

    น่ารักไม่ไหวแล้ว~

     

    "สุขสันต์วันเกิดครับ" เหมาพูดด้วยสติไม่อยู่กับเนื้อตัว ในหัวเขาตอนนี้มีความงุนงงสับสน มีคำถามมากมายที่อยากถามอยากรู้ ทว่าปากกลับหนักเกินจะเอ่ยปากออกไป

     

    "ขอบคุณครับ"

     

    "เดี๋ยวจูนขอเอาเค้กไปเก็บให้นะคะ "หญิงสาวรับเค้กจากมือนักร้องหนุ่มก่อนจะเลี่ยงหลบให้คนทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน

     

    หมดหน้าที่ของเธอแล้ว ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่พี่ชายเธอ

     

    "เหมา"เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อของเขา เพียงแค่อีกฝ่ายเรียกชื่อ หัวใจ..ที่เคยเต้นจังหวะหนักแน่นกระตุกเต้นรัวเร็วขึ้น

     

    "....."

     

    "ไปคุยกันข้างในดีกว่า "เจษคว้าข้อมือเหมามาจับก่อนจะพาเดินเข้าไปในบ้านยังห้องโฮมเธียร์เตอร์ พาอีกฝ่ายนั่งตรงโซฟานุ่มก่อนจะรั้งร่างโปร่งมากอดไว้แน่นๆ ด้วยความคิดถึง

     

    "เล่นบ้าอะไรวะ"เหมาดันร่างหนาออกห่างทว่าอีกฝ่ายกลับรัดแน่นขึ้นกว่าเดิมไม่ยอมแล่อยให้คนในอ้อมกอดหลุดรอดออกห่าง

     

    "หึหึ เซอร์ไพรส์ไง"

     

    "หึ "

     

    "ยังรอกันอยู่ใช่ไหม?"เจษถามคนในอ้อมกอด จ้องมองเข้าไปในนัยน์ตาด้วยความคิดถึงและโหยหา

     

    7 ปี ที่ต้องห่าง มันทรมานสำหรับเจษเหลือเกิน

     

    "........"

     

    "เหมา"

     

    "ก็ไม่ได้มีใคร"เหมาช้อนสายตาขึ้นมอง ก่อนจะตอบเสียงเบา

     

    เมื่อได้พบกันอีกครั้ง ความรู้สึกที่เขาเก็บลึกสุดใจมันจึงเอ่อล้นออกมา คิดถึง

     

    โคตรคิดถึง..

     

    "ขอบคุณนะ "

     

    "เรื่อง?"

     

    "กวนตีนอะไรเนี่ย จริงจังอยู่นะ"ปลายจมูกโด่งคลอเคลียแก้มตอบของเหมาก่อนจะสูดกลิ่นหอมเย็นเข้าลึกเพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป

     

    "กูไม่มีใครไม่ได้หมายความว่าจะต้องรอมึงนะเจษอย่าสำคัญตัวเองผิด"เหมาสบัดหน้าหนีปลายจมูกที่วุ่นวายกับแก้มตนเอง

     

    "ครับๆ "เจษยอมลงให้อีกฝ่าย ก่อนจะนั่งนิ่งจ้องมองใบหน้าคนที่ตนเองรักและเฝ้ารอคอยการกลับมาพบกัน..อีกครั้ง

     

    เจษกับเหมารักกัน ตกลงคบกันเมื่อตอนเรียนชั้น ม.5 ทุกอย่างกำลังไปได้ดี ทั้งคู่มีความสุขตัวติดกันตลอด ทว่าเจษกลับถูกพ่อแม่พาย้ายไปเรียนที่ต่างประเทศ ซึ่งเจษปฏิเสธหัวชนฝาไม่ยอม พ่อแม่เจษมาขอร้องให้เหมาช่วยพูดให้ในฐานะที่เป็นเพื่อนสนิทของลูกชาย เหมาซึ่งยังเด็กไม่รู้จะพูดยังไงจึงรับปากจะช่วยพูดให้ แต่ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งผลักไสให้เจษไปไกล ความน้อยใจและเสียใจ เจษจึงต้องทำตามในสิ่งที่ตนเองไม่ต้องการ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เจษได้อยู่กับตัวเอง ได้คิดทบทวนอะไรหลายๆ อย่าง เจษจึงตัดสินใจติดต่อกลับมาหาเหมาอีกครั้ง ทั้งคู่ได้พูดคุยและปรับความเข้าใจกัน ความที่ต้องห่างไกล ความคิดถึง การรอคอย ทรมานเกินไปสำหรับช่วงวัยนั้น เหมาไม่ได้มีความอดทนต้องทำแบบนั้น จึงขอหยุดทุกสถานะความสัมพันเพื่อไม่อยากทำร้ายหัวใจตัวเองมากเกินไป

     

    เมื่อตัดสินใจแบบนั้น เหมาบล็อคเจษออกไปทุกช่องทางการติดต่อ แต่ไม่ได้ลบเจษออกไปจากหัวใจ

     

    "กลับมาเป็นแฟนกันเหมือนเดิม"เจษประคองใบหน้าซูบตอบของเหมาขึ้นให้สบตากัน เอ่ยปากขอคนที่ยังมีความรู้สึกดีๆ และยังรักให้กลับมาคบกันเหมือนเดิม ทั้งที่ตอนอยู่ต่างประเทศเจษเคยมีแฟน เคยคบใครคนอื่นเพื่อใช้แทนที่เหมาและไม่ให้ตัวเองรู้สึกทรมานกับการไม่มีเหมาอยู่ด้วย ช่วงแรกมันดีแต่เวลาผ่านไปมันไม่ใช่ เขารักเหมายากที่จะลืม

     

    "ที่บ้านโอเค?" เหมาเลิกคิ้วขึ้นถาม

     

    เมื่อเขาโตพอที่จะคิดเป็น จึงรู้ว่าสาเหตุที่เจษต้องไปเรียนที่โน่นเพราะอะไร เหมาจึงไม่มั่นใจว่าครอบครัวเจษจะโอเคหากต้องกลับไปคบกัน

     

    "เราโตพอที่จะเลือกเส้นทางชีวิตให้ตัวเองได้แล้ว พ่อกับแม่เราก็โอเค"ฝ่ามือหนาลูบเส้นผมที่ถูกเซ็ทมาอย่างดีด้วยความถนอม

     

    "หึ"เหมาหัวเราะในลำคอไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่ก็เอนตัวเข้าไปซบคนที่อยู่ในส่วนลึกในใจ

     

    เหมายังรักเจษ แต่ไม่ได้คาดหวังให้เจษกลับมา ความห่างไกลและเวลาที่ต้องห่างกัน ทำให้ความรู้สึกเหมาที่มีต่อเจษน้อยลง แต่ไม่เคยลืมความรักที่เคยมี แต่ในเมื่อเจษกลับมาแล้ว และดูเหมือนอีกฝ่ายยังมีความรู้สึกดีๆ ต่อเขา เหมาไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมาก ในเมื่อเขาก็ยังมีใจกับเจษ และเขายังไม่มีใครตอนนี้

     

    "กลับมาตั้งแต่เมื่อไร?"เหมาถามคนที่ยังโอบกอดกัน

     

    "ได้สองอาทิตย์แล้ว"

     

    "วันนี้ไม่ใช่วันเกิดมึงไม่ใช่หรอ?" เหมาขยับตัวนั่งตรงมองอีกฝ่ายอย่างจับผิดเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเจษเกิดวันไหน

     

    "อืม ใจร้อนอยากเจอ"

     

    "แผนมึงเหรอจ้างกูมาที่นี่?"

     

    "ใช่ เราให้จูนไปติดตามดูเหมาเองแหละ อยากรู้ว่าเหมาเป็นยังไงบ้าง มีใครหรือเปล่า"

     

    "หึ"

     

    "เราติดตามดูไลฟ์เหมาตลอดนะเวลาที่เหมาไปร้องเพลงตามที่ต่างๆ แม่งโคตรคิดถึงเลย แล้วไปไงถึงได้เป็นนักร้อง มีวงเป็นของตัวเองด้วย โคตรเจ๋ง"

     

    "ฟุ้งซ่านกับหมาบางตัวเลยหาอะไรทำ"เหมาพูดประชดอีกฝ่ายเมื่อนึกถึงเรื่องราวเก่าๆ ที่เขาต้องเผชิญ กว่าจะผ่านแต่ละวันไปได้เหมาต้องใช้เหล้าเบียร์เป็นเพื่อนก่อนนอน จนตอนเข้ามหา'ลัย เหมามีเพื่อนกลุ่มใหม่ ซึ่งพวกมันชอบเล่นดนตรีและเล่นดนตรีหารายได้เสริมอยู่แล้ว ความสนุกทำให้เหมาขอแจมด้วย ไปๆ มาๆ พวกเราเลยรวมกลุ่มกัน และทำงานด้วยกันจนถึงตอนนี้

     

    "ขอโทษนะ"เจษเอ่ยขอโทษด้วยความรู้สึกผิดจริงๆ

     

    "เป็นหมา?"เหมาเลิกคิ้วขึ้นถามกวนๆ ความกวนของเหมาทำให้เจษอดใจไม่ไหว ก้มลงจูบอีกฝ่ายด้วยความมันเขี้ยวปนความคิดถึง

     

    ปากหยักไล้ปลายลิ้นชิมความหวาน ก่อนจะแทรกลิ้นเข้าไปเมื่อเหมาเผยอปากออกยอมให้เจษล่วงล้ำเข้าไปง่ายดาย

     

    เหมาหลับตาลงไม่อาจต้านทานกับสายตาที่เหมือนจะกลืนกิน เอียงศีรษะให้ได้องศาที่ถนัดถนี่ ก่อนจะตอบกลับจูบเจษ

     

    ตึกตัก

     

    ตึกตัก

     

    ตึกตัก...

     

    ข้างในอกเหมาและเจษระรัวเร็วแข่งกัน เหมายกมือขึ้นเกาะบ่าอีกคนไว้เมื่อรู้สึกช่องท้องบิดมวลเป็นเกรียวคลื่น เมื่อถูกคมฟันขบเม้มดูดดึงคลึงบด

     

    เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดรัดกันแน่น เสียงจูบดัง ลมหายใจสะดุดเหนื่อยหอบเมื่อความร้อนแรงเพิ่มขึ้นตามอารมณ์

     

    ฝ่ามือร้อนคว้าเอวโอบรัดแนบชิด ลูบไล้ขึ้นลงสลับบีดเค้นคลึง

     

    อืออ..

     

    รู้สึกเสียววาบตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเมื่อฝ่ามือร้อนสัมผัส...

     

    เหมาเผลอครางเสียงต่ำ เชิดใบหน้าขึ้นรับจมูกและปากซุกไซ้ถูไถไปมา

     

    ตอหนวดแข็งๆ ของเจษทำลมหายใจเหมาขาดห้วง ความรู้สึกสะท้านหวามไหวยากจะต้านทาน เนื้อตัวเหมือนจะล่องลอยเมื่อถูกปลุกเล้า

     

    "อ๊ะ! เจษ อะ อย่า.."สะดุ้งตื่นเมื่อฝ่ามือร้อนล้วงเข้าในเสื้อบีบเค้นสัมผัสอกแบน เหมากลั้นหายใจพยายามหักห้ามอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง

     

    "เหมา.."เสียงกระเส่าเรียกชื่ออย่างเว้าวอน เจษเกิดน็อคกลางอากาศเมื่อถูกเบรกให้หยุดกระทันทัน มองใบหน้าขมวดยุ่งจึงรู้ว่าตัวเองทำเกินเลยมากไปหน่อย แต่ให้ทำไงได้ เหมาทำให้เขาควบคุมตัวเองยากมาก

     

    "คืนนี้นอนด้วยกันที่นี่นะ"เจษเป็นฝ่ายชวนเหมา เขาอยากอยู่กับเหมาให้นานกว่านี้เพื่อชดเชยเวลาที่ขาดหาย

     

    "พรุ่งนี้กูต้องทำงาน"เหมาตอบกลับด้วยน้ำเสียงแหบสั่น

     

    จูบกับเจษเหมือนถูกสูบพลังอย่างไรอย่างนั้น

     

    "เราไปนอนกับเหมานะ"เจษเป็นฝ่ายขออีกครั้ง ยังไงวันนี้เขาจะไม่ปล่อยเหมาไป

     

    "อืม "ตกลงกันได้เหมาจึงขับรถพาเจษไปที่คอนโดด้วย ระหว่างทางพวกเขาได้พูดคุยแลกเปลี่ยนถามเรื่องราวชีวิตกันและกันที่ผ่านๆ มา

     

    เจษอยู่ที่โน่นได้เปิดใจลองคบใครอยู่หลายคน ซึ่งพอเหมาได้ฟังก็รู้สึกไม่พอใจแต่ไม่ได้โกรธอะไร เข้าใจดีว่าระหว่างพวกเขาสองคนมันจบแล้ว

     

    ส่วนเหมานั้นไม่ได้คบใครเป็นตัวตน ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับเพื่อน ทำงาน และเรียนไปด้วยแทบจะไม่ได้คิดเรื่องความรัก แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เคยนอนกับใคร ยิ่งอาชีพเขาเจอคนเยอะแยะมากมายทั้งชายหญิงเข้าหาเขาแทบจะไม่ต้องทำอะไรด้วยซ้ำ ถ้าไม่มีใครสิแปลกแล้ว

     

     

     

    . . .

     

     

     

    "พวกมึง นี่เจษ.." เหมาเบี่ยงตัวออกเล็กน้อยให้พวกเพื่อนในวงได้เห็นผู้ชายรูปร่างสูงกว่าตนเองนิดหน่อยเพื่อแนะนำให้ได้รู้จัก

     

    "?"ทุกคนที่กำลังนั่งกินข้าวเตรียมตัวทำงานต่างหยุดชะงักหันมองเหมากับชายหนุ่มข้างกาย

     

    "คนนี้แอปเปิ้ล พี่เฟิร์ส แชมป์ ป้อง กรีน " เหมาใช้ปลายนิ้วชี้ไล่ชี้ไปทีละคนเพื่อแนะนำให้อีกคนได้รู้จักชื่อและหน้าตาของเพื่อนจนครบทุกคนโดยไม่สนปฏิกิริยานิ่งอึ้งของเพื่อน

     

    "มีไรกินบ้าง"เหมาขยับเก้าอี้ให้เจษนั่ง ก่อนจะนั่งลงข้างอีกฝ่าย

     

    สีหน้าทุกคนมีคำถามมากมายจากเพื่อนส่งมาถึงคนทั้งคู่ทว่ากลับไม่ได้รับการขยายความเพิ่มจากหนุ่มหน้ามึนอย่างเหมา

     

    "อิเหมา"แอปเปิ้ลขยับเข้าไปกระซิบเรียกชื่อเพื่อนอยากรู้จักชายหนุ่มข้างกายเพื่อนให้มากกว่าชื่อ เจษ..

     

    อิเพื่อนบ้านี่แม่งกวนส้นตีนจริงๆ!

     

    "เดี๋ยวมึงก็รู้จักเองแหละเปิ้ล ไม่ต้องถามไม่ต้องสงสัยอะไรมาก "เหมาบอกปัดคนที่อยากรู้อยากเสือกเรื่องชาวบ้าน

     

    "เอ้า?"แอปเปิ้ลเกาหัวแกรกกับคำพูดตัดจบของอิเพื่อนตัวดี

     

    "มึงกินปะเจษ"เหมาหันไปถามชายหนุ่มข้างกาย

     

    "เหมากินเถอะเราดูแลตัวเองได้"เจษยิ้มอ่อนมองอีกฝ่าย รู้สึกดีที่เหมายังนึกห่วงกัน

     

    "ตามใจ"เมื่อเห็นอีกฝ่ายดูแลตัวเองได้ คนที่ต้องรีบไปทำงานจึงหันกลับไปจัดการตัวเอง

     

    "เจษ.."แอปเปิ้ลไม่ละความพยายามอยากรู้ลึกให้มากกว่านี้ ในปากคันอยากถามอยากรู้ว่าหนุ่มหล่อคนนี้เป็นใคร ทำไมอิเหมาถึงได้พามาแนะนำให้รู้จัก ร้อยวันพันปีเพื่อนตัวดีนี่ไม่เคยพาใครแปลกหน้ามาด้วยสักราย

     

    จู่ๆ เพื่อนหน้ามึนอย่างอิเหมาจะพาใครมาแนะนำให้พวกเขารู้จัก โดยที่ไม่รู้ว่าชายหนุ่มข้างกายเพื่อนเป็นใคร? มันต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ อยู่ด้วยกันทำงานด้วยกันทุกวันไม่เคยได้รู้จักได้ยินชื่อนี้มาก่อน รู้สึกแปลกใจจนเก็บไว้ไม่ได้ ต้องรู้ให้ได้!

     

    "ครับ?"

     

    "รู้จักกับเหมานานยัง ทำไมเราไม่รู้ว่าอิเหมามีเพื่อนชื่อเจษ"

     

    "หึหึ.. ผมรู้จักเหมาตั้งแต่เราเรียนมัธยมอ่ะ มาห่างกันตอนที่ไปเรียนต่างประเทศ "

     

    "ปกติอิเหมาไม่น่าจะมีเพื่อนหรือใครคบแล้วไง ชีวิตมันมีแค่พวกเรานี่แหละที่เป็นเพื่อน เราเลยสงสัยว่าเจษมาได้ไง อย่างนี้นี่เอง อิอิ"แอปเปิ้ลดัดเสียงเล็กเสียงน้อยคุยกับเจษไม่วายพูดจิกกัดเพื่อนอย่างเหมาไม่ได้

     

    มีเพื่อนหล่อไม่บอกต่อนะคะ~

     

    "หึ" เสียงหึออกจากลำคอเหมา เขาไม่ได้พูดหรือด่าแอปเปิ้ลเรื่องที่มันพูดให้เจษฟัง ก็จริงอย่างที่เพื่อนเขาบอกเจษ เหมาไม่มีเพื่อนกลุ่มอื่น ไม่สุงสิงหรืออยากรู้จักใครเพิ่มแค่พวกมันก็ดีอยู่แล้ว

     

    ประมาณยี่สิบนาทีพวกเขาก็ได้เวลาออกไปทำงานหน้าเวที ทุกอย่างเหมือนเดิมงาน ลูกค้าส่งเครื่องดื่มสีอำพันให้ไม่ขาด คนที่ต้องทำงานเอ็นเตอร์เทรนอย่างพวกเขาต้องรับทุกอย่างเมื่อเพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจ สร้างความสนุก เสียงหัวเราะและความสุขคืองานของพวกเรา

     

    "น้ำ"เจษส่งขวดน้ำเปล่าเย็นให้กับเหมาเมื่ออีกฝ่ายเดินมาหาหลังจากร้องเพลงเสร็จ

     

    มือเรียวยาวรับขวดน้ำมาเปิดฝาดื่มไปหลายอึกก่อนจะวางบนโต๊ะ พ่นลมหายใจออกมายาวๆ เมื่อรู้สึกถึงพลังงานที่มีเหลือนิดเดียว

     

    เจษเห็นคนที่ตนเองรักทำหน้าเหนื่อยล้าก็อดที่จะสงสารไม่ได้ จึงยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังชื้นเหงื่อเพื่อปลอบให้กำลังใจ

     

    "เหมาเก่งมากเลย"ได้เห็นเหมาแสดงและร้องเพลงสดๆ ครั้งแรก เขารู้สึกได้ว่าเหมามีเสน่ห์น่ามอง น้ำเสียงน่าฟังแววตาที่อีกฝ่ายมองลงมาสะกดสายตาทุกคนให้สนใจได้ไม่ยาก

     

    "พวกกูจะกลับกันแล้วมึงเอาไงเหมา?"เฟิร์สหันไปถามรุ่นน้องเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทีว่าจะกลับด้วยกันเหมือนทุกวัน

     

    "เดี๋ยวกลับกับเจษ "เหมาบอกกับรุ่นพี่คนเดียวในวง หันไปมองเพื่อนทุกคนก็เห็นว่าพร้อมกลับไปพักกันแล้ว ส่วนแอปเปิ้ลเบ้ปากมองเขากับเจษ

     

    "พรุ่งนี้ยังมีงานนะคะอิเหมา"จิกสายตามองเพื่อนหมั่นไส้อิคนหน้ามึน เพื่อนหรือแฟนวะแอปเปิ้ลชักไม่แน่ใจ ตั้งแต่รู้จักกับเหมาก็ไม่เห็นมันจะสนใจมีแฟนหรือแม้กระทั่งคู่นอนเหมาก็ไม่เคยเห็นมันจะมี นับคนได้เลยที่เหมาจะหิ้วใครไปนอนด้วย เพราะเขาเป็นคนดูแลให้ทุกอย่าง แต่กับเจษรู้สึกเหมามันจะแคร์มาก สายตาที่เจษมองเหมาดูจากดาวอังคารยังรู้เลยว่ามันพิเศษ

     

    "รู้แล้ว"

     

    "พรุ่งนี้กูยังมีหน้าที่ดูแลมึงมั้ยคะเพื่อน"ถามเพราะไม่มั่นใจ ไม่แน่ใจว่าเพื่อนตัวดีอยากใช้เวลากับหนุ่มข้างกายมัน

     

    "อือ "พยักหน้าตอบรับเท่านั้นก่อนจะลุกขึ้นแล้วชวนอีกคนกลับ

     

    เหมาปรับเบาะลงนอนหลับตาปล่อยให้เจษขับรถกลับคอนโดตัวเอง เขามึนหัวและง่วงด้วย ส่วนเจษขับรถด้วยความระวังไม่ให้รบกวนการนอนพักของอีกฝ่าย คงเหนื่อยและเพลียจากการใช้เสียงและพลังเยอะ ทั้งเครื่องดื่มมึนเมาหลากหลายที่ถูกส่งให้อีก ไม่แปลกใจถ้าเหมาจะล้มพับหมดสภาพ

     

    ตลอดหลายปีที่เหมาต้องทำอาชีพนี้ อดห่วงไม่ได้เลยที่ต้องมาอดนอน แถมยังดื่มเครื่องดื่มทำลายสุขภาพทุกวัน

     

    "ถึงแล้ว "

     

    "อือ.."

     

    "ไหวไหม?"

     

    "อืม"เหมาเปิดประตูลงจากรถยนต์ที่เจษเป็นคนขับ เจษเดินอ้อมมาฝั่งคนที่ทำหน้าง่วงก่อนจะพาดแขนกับไหล่อีกฝ่ายพาเดินไปยังลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นที่พักของเหมา

     

    เมื่อมาถึงห้อง เหมาจึงเดินเข้าห้องนอนหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ ส่วนแขกคนพิเศษอย่างเจษจึงเดินกลับไปยังห้องครัวเพื่อหาอะไรอุ่นๆ ให้เหมาได้ดื่มก่อนนอน เมื่อเปิดตู้เย็นคนที่ตั้งใจจะดูแลหาอะไรอุ่นๆ ให้เจ้าของห้องดื่มก่อนนอนพบความว่างเปล่า ในนั้นมีแค่น้ำเปล่าเพียงขวดเดียว

     

    "คุณภาพชีวิตแย่มากเลยน้าา~"เจษส่ายศีรษะช้าๆ กวาดสายตามองภายในโซนที่เรียกว่าครัว มันสะอาดและโล่งเหมือนไม่เคยได้ใช้งานสักครั้งเดียว

     

    "อาบน้ำเถอะง่วง"เหมาเช็ดเส้นผมเปียกพลางบอกคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง

     

    "ห้องเหมาไม่มีอะไรกินเลย"

     

    "อืม ไม่ได้ซื้อ อยากกินไรเดี๋ยวส่งข้อความบอกเปิ้ลมันได้ เดี๋ยวมันซื้อมาไว้ให้ "

     

    "พรุ่งนี้เราไปซื้อไว้ให้ดีกว่า" เจษลุกขึ้นจากเตียงนอนเดินเข้าไปกอดคนร่างหอมจากด้านหลัง สูดกลิ่นหอมเย็นจากร่างผอมเข้าเต็มปอด วางคางเกยกับไหล่แคบ

     

    "ผอมเกินไปรึเปล่าหืม?"

     

    "วันๆ แดกแต่เหล้าไง"

     

    "ไม่อยากให้ดื่มเยอะเลย เราห่วงสุขภาพเหมา"

     

    "อืม.."เหมาพยักหน้าอือเพื่อตัดบท ไล่ให้เจษไปอาบน้ำตาจะปิดอยู่แล้วยังชวนคุยนั่นนี่ รู้แหละว่าเจษอยากพูดคุยด้วย

    อยากให้เราได้กลับมาพูดคุยสนิทกันเหมือนเมื่อก่อน ทว่าร่างกายเขาประท้วงไม่ไหวแล้ว เขาง่วงนอนและเหนื่อยล้าจากงานที่ทำ 

     

    "เหมา.."เสียงทุ้มเรียกชื่อคนที่ตนเองกอดรัดแนบแน่น ปลายจมูกโด่งสูดหอมดมกลิ่นสบู่หอมเย็นผ่านผิวเนื้อ

     

    ผิวอุ่นๆ กลิ่นหอมสะอาดทำเจษหัวใจฟุ้งซาบซ่าน

     

    "ว่า?"เหมาหลับตาลงขณะขานรับคนที่กกกอดดอมดม

     

    "เราขอได้ไหม?"

     

    "ขออะไร?"

     

    "มีอะไรกับเหมา"

     

    "....."

     

    ฝ่ามือร้อนลูบไล้หน้าท้องแบน เหมาแขม่วท้องเมื่อรู้สึกวูบเสียวตรงท้องน้อย

     

    "เจษ"เหมาขยับตัวหันหน้ามองเจษ แววตาวาบหวามสั่นไหว ความคิดถึงโหยหาไม่ต่างกัน นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้รับกอดจากมัน

     

    "ครับ?"

     

    "พรุ่งนี้มีงาน"เหมาซบศีรษะกับอกแกร่ง วาดแขนโอบกอดซุกซบหาไออุ่นคนที่ต้องเหินห่างกันหลายปี

     

    "ทำรอบเดียวนะเดี๋ยวตื่นไปทำงานไม่ไหว.."

     

    "ฟอด! ครับเหมา "

     

    เมื่อได้รับคำอนุญาตจากปากเหมา พวกเขาทั้งสองจึงปล่อยให้เรื่องของเราเป็นไปอย่างธรรมชาติ ยัดเยียดความคิดถึงและโหยหาใส่กันตลอดค่ำคืนนั้น

     

    รอบเดียวของเจษทำคนที่เหนื่อยจากการทำงานที่ต้องใช้เสียงเสียงแหบแห้งมากกว่าเดิมและเหนื่อยล้าแทบไม่อยากลุกจากเตียงนอน

     

     

    . . . จบ . . . 

     


     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×