ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ปิดพรีฯ] Badboy Lover ฉีกกฎรักนายจอมโหด

    ลำดับตอนที่ #43 : รุนแรง {100 %}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.43K
      15
      16 เม.ย. 60

    นิยายมีการอัพเดทซ้ำ เพื่อประชาสัมพันธ์
    ********************************
     
     
     

    40

    รุนแรง

     

    ห้าวันต่อมา

         วันนี้เรดด์พาฉันมาซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าใกล้คอนโด เขาบอกว่าตัวเองวางแพลนเที่ยวเอาไว้เยอะ เลยมาซื้อของเตรียมไว้ แต่ส่วนมากก็เป็นของฉันทั้งนั้นอ่ะ เรดด์บอกว่าเราจะไปเที่ยวทะเลกัน เขามีเกาะส่วนตัวอยู่ต่างจังหวัด และที่เขาพาฉันมาซื้อของส่วนมากจะมีแต่ชุดบิกินี่ทั้งนั้น เขาให้เหตุผลว่าอยากเห็นฉันใส่ เพราะใส่แล้วน่ารักดี แต่ฉันคิดว่าคงเป็นเหตุผลอื่นมากกว่า

         เรดด์เจ้าเล่ห์เกินกว่าที่ใครจะตามทันซะอีก แต่ถ้าเขาอยากเห็นฉันใส่จริงๆ ฉันก็เต็มใจที่จะใส่มัน ก็เราเป็นแฟนกันแล้วนี่นา

         ฉันเดินตามหลังเรดด์ที่เดินนำหน้าฉันไปก่อน เพราะเขาเดินไวกว่าฉันมาก แต่เท้าฉันก็ต้องหยุดชะงักลง เมื่อสายตามองเห็นบางสิ่งบางอย่างที่น่าสนใจ

         “หยุดเดินไม่คิดจะเรียกกันเลยไง” เรดด์ที่เดินไปไกลแล้ว พอไม่เห็นฉันเขาก็เดินย้อนกลับมา พร้อมกับเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าน้อยใจ

         “อยากดูหนังอ่ะ”

         ใช่แล้ว! สิ่งที่น่าสนใจที่ฉันหมายถึง ก็คือป้ายโฆษณาหนังที่ตั้งตะหง่านอยู่ตรงหน้าฉัน อีกอย่างฉันอยากดูเรื่องนี้มากด้วย รอมาตั้งนานแถมวันนี้หนังที่ฉันอยากดูจะออกแล้วด้วย ถ้าไม่ได้ดูเสียดายมากเลย

         “ดูวันหลัง ของเต็มไม้เต็มมือจะดูได้ไง”

         “เอาไปเก็บไว้ที่รถดิ”

         “ไม่ว่ะ ฉันไม่ดู” ร่างสูงยืนยันเสียงหนักแน่น ก่อนจะออกเดินนำฉันไปที่ลานจอดรถ อะไรกันอยากดูแค่นี้ไม่ได้หรือไง ใจร้ายชะมัด

         “เรดด์รอด้วย”

         ตุ้บ!!!

         ฉันที่ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งตามเรดด์ไปให้ทัน ไม่ทันได้มองทางก็วิ่งไปชนเข้ากับใครคนหนึ่งเข้าอย่างแรง ถึงกับล้มกันไปคนละทางเลย เรดด์ที่เห็นเหตุการณ์ถึงกับวิ่งเข้ามาประคองร่างฉันให้ลุกขึ้นยืน ก่อนที่เขาจะหันไปหาคู่อริเพื่อต่อว่า

         “มองไงวะ ไม่เห็นแฟนคนอื่นไง?” ทันทีที่คู่อริหันกลับมา ฉันนี่ถึงกับผงะไปเลย ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มาเจอกันที่นี่ มันช่างบังเอิญอะไรขนาดนี้

         “เรดด์” เอมม่ามองฉันสลับกับมองหน้าเรดด์ เธอเองก็ดูจะตกใจไม่น้อยไปกว่าฉันหรอกนะ อีกอย่างเธอไม่ได้มาคนเดียว เธอมากับผู้ชายคนหนึ่ง หน้าตาดูคุ้นมากเลย เหมือนว่าฉันเคยเจอเขาที่ไหนมาก่อน

         “มึง!” เรดด์ไม่ทักเอมม่าด้วยซ้ำ เขามองไปยังผู้ชายที่ชื่อโจ้ แววตาของเรดด์ดูดุดันขึ้นมา จนฉันต้องรีบกระตุกชายเสื้อเขาเอาไว้ เพื่อให้เขามีสติไม่พรวดพราดเข้าใส่เหมือนคราวที่แล้ว

         ใช่แล้ว! ผู้ชายคนนี้ คือนายโจ้ คนที่มีเรื่องกับเรดด์ตอนที่อยู่ร้านก๋วยเตี๋ยวซอมซ่อนั่นนี่นา มาเจอกันแบบนี้จะไม่มีเรื่องกันอีกเหรอ

         “ถึงกับโมโหแทนกันเลยเหรอว่ะ?”

         โจ้ยืนกอดอกอยู่ข้างเอมม่า เขาหันมามองฉันแป๊บเดียว ก่อนจะทำหน้าตกใจออกมา ทำเอาฉันตกใจตามไปด้วย แต่แค่แป๊บเดียวเท่านั้น เขาก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วเมินหน้าไปทางอื่น เหมือนเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

         “ก็แฟนกู” เรดด์ไม่พูดเปล่า แต่เขายังโอบไหล่ฉันแน่น เหมือนจะบอกว่าฉันกับเขาเป็นแฟนกันจริงๆ

         “อ๋อ เหรอค่ะ?” เอมม่าขานรับเสียงสดใส ก่อนจะส่งยิ้มบางให้ฉันอย่างไม่ปิดบัง มันเป็นรอยยิ้มที่จริงใจกว่าครั้งไหนๆเลยล่ะ ซึ่งฉันไม่เคยได้รับมันเลย

         “มาด้วยกันไง?” เรดด์ละสายตาจากโจ้หันกลับมาถามเอมม่าด้วยเสียงที่ห้วน บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวไม่พอใจที่เห็นเอมม่ามากับโจ้

         ฉันนี่ถึงกับรู้สึกเจ็บจี๊ดๆขึ้นมาข้างในหัวใจ ก็ฉันเป็นแฟนเขาแล้วนี่ ฉันมีสิทธ์ที่จะหึงเขาไม่ใช่เหรอ แล้วการกระทำที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้มันก็ฟ้องว่าเขายังลืมเอมม่าไม่ได้ ทั้งที่ก็บอกกับฉันแล้วว่าไม่ได้รักเอมม่า แล้วทำไมมาทำเหมือนหวงกันต่อหน้าฉันล่ะ มันเรื่องบ้าอะไรกัน

         “เออดิ! มึงก็คงมากับเด็กนี่สินะ” โจ้พูดแทนเอมม่าที่ยืนมองฉันไม่ยอมละสายตาไปไหน ฉันเองก็มองเธอกลับไปเช่นกัน เพราะดวงตาของเธอมันทำให้ฉันไม่สามารถมองผ่านเลยไปได้

         “ก็เห็นอยู่” พูดจบเรดด์ก็ดันแผ่นหลังฉันให้แนบไปกับอกกว้างของเขา เหมือนกับว่าเขากำลังกอดฉันจากทางข้างหลัง แต่ฉันไม่ได้รู้สึกดีใจหรอกนะ เพราะสิ่งที่เรดด์ทำอยู่มันเป็นการจงใจทำประชดเอมม่าเท่านั้น

         “เลเน่จ๊ะ” ร่างบางเดินเข้ามาคว้ามือฉันไปกุมเอาไว้ โดยไม่สนใจเรดด์ที่มองมาอย่างไม่พอใจ ไม่รู้ทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่ามือของเธอมันช่างอบอุ่นมากมายขนาดนี้ ไหนจะแววตาที่เธอมองมาที่ฉันด้วย มันไม่ใช่แววตาเครียดแค้นชิงชังอะไร แต่มันกลับเป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความรัก ความห่วงใยจนน่าทึ้ง

         “คิดจะทำอะไร?” เรดด์จ้องหน้าเอมม่าเขม็ง เหมือนเขากำลังจะขู่เธอทางสายตา เพื่อไม่ให้พูดอะไรบางอย่างออกมา

         “ฉันจะบอกอะไรให้เธอรู้ไว้อย่างนึง” เอมม่าไม่ฟังที่เรดด์พูดออกมา และไม่ตอบคำถามของเรดด์ด้วย เธอยังคงมองหน้าฉันอยู่อย่างนั้น ซึ่งฉันเองก็ไม่ได้ตอบอะไรเธอกลับไป เพราะไม่รู้ว่าเธอต้องการจะบอกอะไรฉันกันแน่

         “...”

         “ฉันจะเป็นคนสุดท้ายที่คิดร้ายกับเธอ”

         คำพูดของเอมม่าทำให้ฉันอึ้งไปเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอผละออกจากฉันตอนไหน ก็คงไม่ต่างจากเรดด์และโจ้ที่อึ้งไปตามๆกัน เอมม่าเดินกลับไปยืนข้างโจ้เหมือนเดิม เธอหันกลับมาส่งยิ้มให้ฉัน และครั้งนี้ฉันก็รับมันไว้ด้วยความเต็มใจ ผู้หญิงคนนี้ทำให้ฉันรับรู้หลากหลายความรู้สึกจากเธอ 

         “ขะ...ขอบคุณนะคะ” ฉันกล่าวขอบคุณเอมม่าที่เธอไม่เอาเรื่องฉันที่ฉันออกมากับเรดด์แบบนี้ และฉันก็รับรู้ว่าเธอคนนี้เป็นคนดีไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไร บางทีฉันอาจจะมองเธอผิดไปก็ได้ คนเราไม่ควรมองกันที่ภายนอกจริงๆ

         “ทำแบบนี้ต้องการไรวะ?” เรดด์ที่ยืนเงียบอยู่นานก็โพล่งขึ้นถามเอมม่าอย่างไม่สบอารมณ์ เขาปล่อยตัวฉันก่อนจะเดินเข้าไปกระชากแขนเอมม่า เพื่อต้องการคำตอบจากเธอ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือหมัดของโจ้ที่ซัดหน้าเรดด์จนเซถลามาโดนตัวฉันอย่างแรง

         “แม่ง!ทำเชี่ยไรวะ” โจ้ตวาดลั่นกลางห้างฯ ทำให้คนที่เดินผ่านไปมาถึงกลับหยุดมองดูเหตุการณ์ บางคนถึงกับเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปเอาไว้ เพราะเรดด์กับเอมม่าเป็นคนที่ดังพอสมควร

         “...” เรดด์ไม่ได้พูดอะไร เขาจ้องหน้าโจ้ด้วยความโกรธจัด

         “มึงไม่มีสิทธ์มาทำกับเธอแบบนี้”

     

         “ทำไมกูจะไม่มีสิทธ์วะ?” เรดด์เช็ดเลือดตัวเองที่มุมปากออก เขาปัดมือฉันที่ช่วยพยุงเขาเอาไว้ไม่ให้ล้ม ก่อนจะแสยะยิ้มร้ายกาจออกมา

         “...”

         “น้ำหน้าอย่างมึงนะเหรอจะมีสิทธ์ไปกว่ากู” อีกครั้งที่คำพูดของแฟนตัวเอง ทำให้ฉันรู้สึกหน่วงๆในใจ เขาทำเหมือนว่าฉันไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ด้วย หรือไม่ฉันก็ไม่เคยอยู่ในสายตาของเขาเลย

         “มึงมันเป็นอดีตว่ะ” โจ้พูดขึ้นมาบ้าง เขาเองก็คงจะไม่ยอมแพ้เรดด์เหมือนกัน เพราะเอมม่ามากับเขาวันนี้นี่นา

         “อดีตที่พร้อมจะหวนมาเป็นปัจจุบันและอนาคต”

         ฉันที่ทนฟังคำพูดเสียดแทงหัวใจตัวเองไม่ไหว ตัดสินใจเดินออกไปจากเหตุการณ์นั้นทันที ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเรดด์จะเห็นฉันหรือเปล่า แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แม้แต่วินาทีเดียว อยากจะออกไปให้ไกลที่สุด เรดด์ทำให้ฉันเจ็บอีกแล้ว ทั้งที่เราสัญญากันว่าจะไม่ทำให้เสียใจอีก ทำไมฉันต้องเชื่อเขาซ้ำๆซากๆด้วยก็ไม่รู้ เกลียดตัวเองที่สุดเลย

     

         ฉันเดินเข้ามาในร้านกาแฟร้านหนึ่ง เลือกมุมที่คิดว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็น เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าสะพายของฉันยังคงดังต่อเนื่องมาตั้งแต่ฉันเดินออกมาจากเหตุการณ์เฮงซวยนั่นแล้ว แต่ฉันเลือกที่จะไม่กดรับ คนที่โทรเข้ามาก็คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนฉันนั่นแหละ

         ทุกการกระทำและคำพูดของเขา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ายังมีใจให้เอมม่าอยู่ แล้วฉันล่ะกลายเป็นตัวอะไรสำหรับเรดด์ กลายเป็นอีบ้าที่โดนหลอกอยู่ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า คำพูดของเขาไม่มีอะไรเลยที่เชื่อถือได้ เรดด์ใจร้ายกับฉันอีกแล้วนะ

         ฉันจะเป็นคนสุดท้ายที่คิดร้ายกับเธอ

         แต่คำพูดของเอมม่ามันทำให้ฉันอดคิดไม่ได้ว่าเธอต้องการจะสื่ออะไรกับฉันกันแน่ แล้วทำไมเธอต้องเป็นคนสุดท้ายที่คิดจะทำร้ายฉัน ในเมื่อตลอดเวลาที่ผ่านเธอเป็นคนขู่ฉันให้เลิกยุ่งกับเรดด์ทุกครั้งที่มีโอกาส

         ฉันควรจะเชื่อใครได้บ้างนะตอนนี้?

         “เลเน่” ฉันละสายตาจากแก้วกาแฟเงยหน้าขึ้นมองคนที่มายืนอยู่ตรงหน้า เขาเป็นคนที่ฉันรู้จัก และเป็นคนที่ทำให้ฉันกล้าเสี่ยงกับเรื่องความรัก

         “เวิรด์”

         ใช่!เขาคือเวิรด์เพื่อนสนิทของเรดด์

         เวิรด์นั่งลงตรงข้ามกับฉัน ซึ่งฉันเองก็ไม่ได้ว่าอะไรปล่อยให้เขานั่งลงเงียบๆ เวิรด์มองฉันอย่างชั่งใจก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงของตัวเอง ซึ่งนั่นฉันรู้ว่าเขากำลังจะโทรหาเรดด์ และคาดว่าเรดด์ก็คงบอกให้เวิรด์ออกตามหาฉันด้วยล่ะมั้ง

         “ทำไมไม่รับโทรศัพท์มัน” คนตรงหน้าหันกลับมาถาม ก่อนที่เขาจะกดโทรออก ที่ฉันเห็นเพราะเขายื่นโทรศัพท์มาให้ “คุยกับมันซะ”

         ฉันรับโทรศัพท์มาจากเวิรด์แล้วกดตัดสายทิ้งทันที เขามองฉันอย่างไม่เข้าใจ ฉันเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน รู้แต่ว่าตอนนี้ฉันไม่อยากคุยกับเรดด์ ไม่อยากเสียความรู้สึกไปมากกว่านี้ แค่นี้ก็เจ็บจะแย่พอแล้ว ใจฉันคงทนไม่ไหวหรอกนะถ้าต้องรับรู้เรื่องที่แย่ๆอีกอ่ะ

         “มีปัญหาไรกันว่ะ?”

         “...” ฉันเลือกที่จะเงียบ เพราะไม่รู้จะตอบยังไงดี

         “ทำไมไม่คุยกันดีๆ”

         “...” ฉันก็ยังคงนั่งเงียบเหมือนเดิม ไม่มีคำพูดอะไรมาตอบคำถามของเวิรด์ได้ เขาคงพอจะรู้เพราะเห็นถอนหายใจออกมาเหมือนเบื่อหน่ายเรื่องนี้เต็มที

         ฉันนั่งวนแก้วกาแฟเล่นโดยไม่คิดที่จะยกมันขึ้นมาดื่ม คนตรงหน้าก็เอาแต่เงียบเหมือนกัน เขาเอาแต่นั่งมองหน้าฉันโดยไม่คิดที่จะพูดอะไรออกมา ทำเอาฉันอึดอัดไปด้วย เพราะฉันกับเวิรด์เราไม่ได้สนิทกันจนถึงขั้นมานั่งจ้องตากันแบบนี้

         “นายเคยถูกหักหลังไหม?” ฉันละสายตาจากแก้วกาแฟมองสบตากับเวิรด์ สุดท้ายฉันก็ต้องเป็นฝ่ายพูดกับเขาก่อนจนได้ เวิรด์เองก็ตอบกลับมาแทบจะทันทีทันใดเลยล่ะ

         “เคย”

         “เจ็บหรือเปล่า”

         “...” ร่างสูงไม่ตอบ เขาเลิกคิ้วกลับมาอย่างสงสัยก่อนจะเป็นฝ่ายถามฉันกลับมาบ้าง “เธอคิดว่าเรดด์มันหักหลังเธองั้น?”

         “...” คราวนี้กลับเป็นฉันเองที่ไม่ตอบเขา แต่เลือกที่จะมองหน้าเขากลับไปแทน

         “เป็นแฟนกันถ้าไม่เชื่อใจกัน จะคบแม่งเพื่อไร?”

         “ฉะ...ฉันไม่รู้”

         คำว่าเชื่อใจฉันมีให้เรดด์ไปเต็มร้อยอยู่แล้ว แต่วันนี้เขากลับทำมันหมดลงไปเอง เขายังหวงเอมม่า ยังมีเยื่อใยต่อกัน แต่เขากลับมาบอกฉันว่ามีแค่ฉันคนเดียว ทั้งๆที่จริงแล้วคนที่อยู่ในใจของเขามาตลอดก็ยังคงเป็นเอมม่า ไม่ใช่ฉัน

         “เรดด์มันเป็นห่วงเธอ” เวิรด์เอื้อมมือมากุมมือฉันไว้ ทำให้ฉันต้องเงยหน้าสบตากับเขา “แม่งจะหวงใครเธอจะไปแคร์ทำไม?”

         “...”

         “ในเมื่อมันเลือกเธอ ไม่ใช่คนอื่น”

         “...” 

         “เธอน่าจะฟังเหตุผลที่มันทำลงไปนะ ไม่ใช่หนีมาแบบนี้”

         คำพูดของเวิรด์มันทำให้ฉันคล้อยตามเขาอีกจนได้ กลับกลายเป็นว่าเรื่องนี้ฉันเป็นคนที่ผิดใช่ไหมที่หนีปัญหาแบบนี้

         สุดท้ายฉันก็ใจอ่อนให้เรดด์อีกจนได้ ทำไมนะฉันถึงไม่เคยโกรธเขาได้นานเลยสักครั้ง อยากจะโกรธให้นานๆในสิ่งที่เขาทำให้ฉันเสียใจในวันนี้ แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาอยู่ที่เดิม ไม่ชอบตัวเองเลยจริงๆ อยากใจแข็งให้ได้สักครึ่งหนึ่งของเขาก็ยังดี

         “กลับไปหามัน” ร่างสูงบีบมือฉันเบาๆเพื่อให้กำลังใจและเตือนสติไปด้วย ฉันทำได้แต่พยักหน้าตอบรับกลับไป “เดี๋ยวไปส่ง”

         “อืม” แต่ก่อนที่จะได้ลุกออกไปจากร้าน ฉันก็เพิ่งนึกเรื่องนึงขึ้นมา ทำไมฉันถึงไม่ได้เอะใจเลยนะว่าเวิรด์หาฉันเจอได้ยังไงในเมื่อฉันเลือกมุมที่คนไม่สามารถสังเกตเห็นได้แล้ว อีกอย่างร้านนี้ก็เป็นร้านที่อยู่อีกซอยของทางเข้าคอนโดเรดด์ด้วย ฉันดึงมือเวิรด์เอาไว้ไม่ยอมลุกออกจากเก้าอี้ จนเขาหันกลับมามองฉันพร้อมกลับเลิกคิ้วถาม

         “อะไร?”

     

         “นายรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่?” 

     

         เวิรด์ดูสตันไปเล็กน้อย ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างออกมา เผยให้เห็นลักยิ้มที่ข้างแก้มของเขาทั้งสองข้าง เขายกมือขึ้นลูบท้ายทอยตัวเองเพื่อแก้เขิน ที่ฉันรู้ว่าเขาเขินก็เพราะเรดด์ก็ชอบทำแบบนี้เหมือนกันเวลาเขิน ผู้ชายโหดๆปกปิดความเขินไม่มิดหรอก

         “ฉันมีเซ้นส์เรื่องผู้หญิงเยอะ” คำพูดของเวิรด์ทำให้ฉันนึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมา ซึ่งฉันไม่ได้ติดต่อกับเขามาสักพักแล้ว และเขาเองก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาด้วย

         เวลล์ไงล่ะ! เขาอ่ะเป็นเสือผู้หญิงตัวพ่อเลย รู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องผู้หญิง เวลล์กับเวิรด์เหมือนกันก็ตรงนี้ล่ะ แต่สิ่งที่ไม่เหมือนก็คงจะเป็นรูปลักษณ์ล่ะมั้ง เวลล์เป็นผู้ชายสำอางค์ เนื้อหอม ส่วนเวิรด์ก็เป็นผู้ชายหน้าตาดีหล่อคมเข้ม แต่เป็นเหมือนพวกสายดิบเถื่อนมากกว่า

         “นายรู้จักเวลล์หรือเปล่า?” ไวกว่าความคิดฉันก็โพล่งถามออกไป แต่เซ้นส์ฉันมันก็บอกว่าพวกเขาสองคนรู้จักกัน

         “เวลล์?” คนตรงหน้าทวนคำก่อนจะเงียบไปสักพักแล้วโพล่งขึ้นมาเหมือนเพิ่งนึกอะไรออก “รู้จักดิ รู้จักมันดีกว่าใครเลยล่ะ”

         รู้จักเหรอ? ถ้าเวิรด์รู้จักกับเวลล์ งั้นก็แสดงว่าเรดด์เองก็ต้องรู้จักกับเวลล์ด้วยงั้นสิ แต่ทำไมทั้งเรดด์และเวลล์ทำเหมือนไม่รู้จักกันเลยล่ะ แปลกมาก

         “พวกนายเป็นอะไรกัน?”

         “เป็น...”

         ครืด!!!

         ก่อนที่เวิรด์จะทันได้ตอบคำถามของฉัน เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นมา ฉันยังคงถือโทรศัพท์ของเขาเอาไว้ พอก้มมองที่หน้าจอถึงได้รู้ว่าเรดด์วิดีโอคอลมา ตกใจนิดหน่อยที่เขาโทรเข้ามาหาเวิรด์แทนที่จะเป็นฉัน เหมือนเขารู้เลยว่าฉันอยู่กับเพื่อนเขา

         “รับดิ” คนตรงหน้าเร่งเร้าให้กดรับมัน

         “ตะ...แต่ว่า” เข้าใจฉันใช่ไหมว่าฉันยังไม่ได้ทำใจที่จะเจอหรือคุยกับเรดด์ จู่ๆจะมาให้ฉันวิดีโอคอลกับเขาเนี่ยนะ

         “ไม่รักมันแล้วไง?”

         อีกครั้งที่คำพูดของเวิรด์ทำให้ฉันคล้อยตาม โดยการกดรับสายจากเรดด์ เพราะถ้าฉันไม่ยอมกดรับ นั่นก็เท่ากับว่าฉันไม่ได้รักเรดด์นะสิ เวิรด์ก็คงจะเอาเรื่องนี้ไปบอกเรดด์ แล้วคนที่ถูกเล่นงานก็ไม่พ้นฉันคนนี้แน่ สรุปคนที่เสียหายที่สุดก็จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ฉัน

         [เห็นแฟนฉันป่ะวะ?]

         นี่คือประโยคแรกที่ปลายสายพูดขึ้นมาหลังจากกดรับ เขายังไม่เห็นหน้าของฉันด้วยซ้ำ เพราะว่าฉันเอามือบังเลนส์กล้องเอาไว้ ก่อนจะตัดสินใจยกมันขึ้นมาให้อยู่ในระนาบเดียวกับใบหน้าของตัวเอง

         [เลเน่!] เรดด์มีสีหน้าตกใจมากที่เห็นฉันแทนที่จะเป็นเวิรด์ แต่เพียงไม่นานเขาก็ฉีกยิ้มกว้างกลับมาอย่างดีอกดีใจที่เห็นฉันแบบนี้ [แม่งตามหาตั้งนาน]

         “...” ฉันไม่ได้ตอบอะไรเขา  เพราะไม่รู้จะพูดกับเขาด้วยประโยคอะไรดี ฉันยังเคืองๆเขาอยู่เลยนะที่ยังมีเยื่อใยต่อเอมม่าอ่ะ

         [ให้ไปรับป่ะ?ตอนนี้เหมือนเรดด์จะอยู่ที่คอนโดนะ แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ตอบอะไรเวิรด์ก็แทรกตัวเข้ามานั่งข้างฉันก่อนจะพูดขึ้นมา

         “ไม่ต้องเว้ย เดี๋ยวไปส่งเอง” ทันทีที่เรดด์เห็นเวิรด์โผล่เข้ามาในเลนส์กล้องด้วย เขาก็ทำตาขวางใส่ทันทีแถมยังแสดงอารมณ์เกี้ยวกราดใส่อีกต่างหาก

         [อย่ามานั่งใกล้เลเน่นะเว้ยเขาโวยวายออกมา [เธอก็เขยิบหนีมันหน่อยดิวะ]

       “เยอะไปป่ะวะไอ้เรดด์” เวิรด์ถามกลับไปพร้อมกับแขนที่โอบไหล่ฉันไว้ก่อนจะดึงให้เข้าไปชิดตัวเขามากกว่าเดิม โดยที่ฉันเองก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรด้วย

       [แม่ง!อยากตาย?] เรดด์ชี้นิ้วคาดโทษเวิรด์ ช่วงนี้ดูเขาจะเป็นคนหัวร้อนเอามากๆเลยนะ เขาเหมือนจะคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่เลย

         “หยุดโวยวายได้แล้วไอ้งั่ง” ฉันที่ขี้เกียจทนฟังเขาโวยวายก็เลยโพล่งขึ้นมา ทำเอาคนในสายหน้าเหวอไปเลย

         [กล้าว่าฉัน?]

         “เออ!มากกว่านี้ก็จะทำถ้าไม่หยุดโวยวาย” คนที่นั่งข้างฉันถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ฉันเองก็อยากจะหัวเราะบ้างนะ แค่ติดตรงที่ว่าต้องวางฟอร์มเอาไว้

         [...ปลายสายเงียบไปทันทีหลังจากที่ฉันต่อว่าเขา หน้านี่เชื่องซึมเหมือนกับหมดอะไรตายอยาก เวิรด์ที่เห็นแบบนั้นก็หัวเราะไม่เลิก

         “เฮ้!เลเน่ฉันไม่เคยเห็นมันทำหน้าหมาหงอยแบบนี้เลยว่ะ เธอแม่งเจ๋งดี”

         [จะกลับเมื่อไร?คราวนี้เรดด์ไม่ได้โวยวายเหมือนอย่างตอนแรก แต่กับทำตัวเจียมเนื้อเจียมตัว เสมือนไปทำอะไรผิดมา ฉันเองก็งงนะสิเพราะเรดด์ไม่เคยทำตามที่ฉันบอกเลยนะ 

         “แม่ง!เชื่องเลยว่ะ”

         [กวนตีนไอ้เวิรด์ เดี๋ยวซัดหน้าหงายนี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นเพื่อนสนิทกันนะ ฉันคงคิดว่าเขาสองคนเป็นศัตรูกันแล้วล่ะ กัดกันได้ทุกประโยคจริงๆ

         “จะกลับแล้วล่ะ” ฉันตอบกลับไป เรดด์ยิ้มออกมาทันที ซึ่งมันก็พลอยทำให้ฉันเผลอยิ้มไปด้วย

         [ยิ้มไรวะ?]

         อ้าวเห้ย! อยู่ดีๆก็มาขึ้นเสียงใส่กันเฉยเลย อะไรของเขากันนะเมื่อกี้ยังดีใจที่ได้เห็นฉันอยู่เลย นี่ล่ะนิสัยของเขาเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย อารมณ์ของเขาไม่เคยคงที่หรอก

         “อะไร?” ฉันขึ้นเสียงกลับไปบ้าง

         [หนีไปไม่บอก กลับมาเดี๋ยวโดนสุดท้ายเรดด์ก็วางอำนาจอีกจนได้ [คราวหน้าถ้ามีแบบนี้อีกแม่งจับล่ามโซ่ไว้เลย]

         เขาคงคิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าสินะ แต่อยากจะบอกว่าฉันเองก็มีทีเด็ดเหมือนกัน และฉันก็คิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่า เขาจะต้องยอมศิโรราบให้ฉันแต่โดยดีแน่

         [กลับมาเดี๋ยวโดนแน่มิหนำซ้ำยังมาพูดข่มขู่กันอีก

     

         “ฉันกลับไปแกนะโดนแน่”


         ฉันคาดโทษเรดด์เอาไว้ก่อนจะตัดสายทิ้งไปทันที แล้วยื่นโทรศัพท์คืนให้เวิรด์ที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องของตัวเอง

         “ท่าทางนายดูมีความสุขมากนะ”

         “ก็นะ” ฉันนั่งกอดอกมองเขาที่นั่งยักไหล่กลับมาอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วหันกลับมาพูดกับฉันต่อ “เดี๋ยวไปส่ง”

     

         เวิรด์มาส่งฉันที่คอนโดแล้วเขาก็ขับออกไปเลย เห็นบอกว่าจะรีบไปรับสาวที่มหาวิทยาลัย ถ้าให้เดาคงจะเป็นแฟนของเขานั่นล่ะ ฉันเปิดประตูห้องเข้าไป ก็เจอเข้ากับปีศาจตนเดิมยืนจังก้ากอดอกรอฉันอยู่หน้าประตู หน้าตาของเขาตอนนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ารอคอยการกลับมาของฉันมากแค่ไหน

         ฉันเดินเลี่ยงไปนั่งที่โซฟา เรดด์เองก็เดินตามมานั่งขนาบข้างด้วย ฉันตวัดหางตามองเขาก็เห็นว่าเขายังคงทำหน้าบึ้งตึงเหมือนเดิม ฉันเมินหน้าหนีไปทางอื่นไม่รู้ทำไมพอเห็นหน้าเขาแล้วมันก็เจ็บจี๊ดขึ้นมา เพราะเรื่องวันนี้มันทำให้ฉันเสียความรู้สึกมากอ่ะ

         “ไม่มีอะไรจะแก้ตัวเหรอ?” ในที่สุดฉันก็ทนกับความเงียบของเรดด์ไม่ไหว เลยพูดขึ้นมาก่อน ฉันอยากให้เขาแก้ตัวไม่ใช่มานั่งเงียบแบบนี้ เพราะการที่เขาเงียบนั่นก็แสดงว่าเขายอมรับว่ายังหวงเอมม่าอยู่จริงๆ

         “คำแก้ตัวพูดไปแม่งก็แก้ตัวอยู่ดี” คนตรงหน้าช้อนสายตาขึ้นมามองฉันอย่างลึกซึ้ง “ในเมื่อฉันยังหวงเอมม่าอยู่จริง”

         ใจฉันกระตุกวูบ คำพูดของเรดด์ทำเอาน้ำตาฉันไหลออกมาอย่างง่ายดาย ฉันพยายามจะห้ามมันเอาไว้แล้วนะ แต่ห้ามยังไงมันก็ไหลออกมาเหมือนเดิม เจ็บมากกับคำพูดของเขา ทั้งการกระทำและคำพูดมันก็ชัดเจนอยู่แล้วฉันไม่น่าไปถามให้ตัวเองรู้สึกแย่แบบนี้เลย

         “...” ฉันไม่ตอบหรือพูดอะไรออกไป นอกจากพยักหน้ารับรู้เท่านั้น ฉันเบนสายตามองไปทางอื่น เพราะตอนนี้บอกเลยแค่ได้ยินเสียงของเรดด์ ฉันก็เจ็บ

         เรดด์เขยิบเข้ามาใกล้ฉัน เขารวบตัวฉันไว้ให้ขึ้นนั่งบนตักของเขา เขาจะชอบทำแบบนี้ทุกครั้งเมื่อคิดจะง้อหรือทำอะไรผิดมา เขาเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้ฉันอย่างแผ่วเบา ซึ่งฉันเองก็ไม่ได้ปฏิเสธการกระทำของเขา บอกตามตรงฉันยังคงชอบที่เขาทำแบบนี้ถึงแม้ว่าตัวเองจะเจ็บมากแค่ไหนก็ตาม

         “ขอโทษได้ไหมวะ?” และมันก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เขาทำผิดมา เขาเอาคางมาเกยไว้ที่ไหล่ของฉันและกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น “รู้ว่าเสียใจ”

         “...”

         “แต่เพิ่งเป็นความผิดครั้งแรกไม่ใช่ไงของการเป็นเป็นแฟนกัน”

         ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะตัดสินใจพูดประโยคที่คิดว่าดีที่สุดแล้วออกไป “เราเลิกกันเถอะ”

         เรดด์คลายอ้อมกอดออกจากเอวฉันทันที นั่นเลยทำให้ฉันลุกจากตักของเขาได้ ฉันไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องคิดอย่างนี้ ฉันรู้แต่ว่าฉันไม่สามารถฝืนตัวเองได้

         การที่เรดด์ยังหวงเอมม่าอยู่ มันก็แสดงให้ฉันเห็นแล้วว่าเขายังไม่ลืมเอมม่า แล้วจะมาคบกับฉันทำไม คบเพื่อลืมคนเก่านะเหรอ ฉันไม่ต้องการแบบนี้ สิ่งที่ฉันต้องการคือความรักจากเขาที่แท้จริง ไม่ใช่ความรักจอมปลอมที่เขาหยิบยื่นมันมาให้ฉัน ฉันรับไม่ได้

         “พูดไรออกมารู้ตัวป่ะ?” ร่างสูงลุกขึ้นยืนก่อนจะกระชากแขนฉันให้หันไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง “จะเลิกด้วยเหตุผลแค่นี้เหรอวะ?”

         “...” ฉันไม่ตอบ แต่พยายามที่จะแกะมือของเขาให้ออกจากต้นแขนฉัน แต่ยิ่งพยายามมากเท่าไร เขาก็ยิ่งบีบมันแรงขึ้นจนฉันเจ็บไปหมด

         “แม่ง!ไม่มีเหตุผล”

         “...ฮึก” ฉันสะอื้นออกมาด้วยความเจ็บ เจ็บทั้งกาย เจ็บทั้งใจ เรดด์ก็ยังเป็นเรดด์คนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนตัวเองเลย ใจร้ายยังไงก็ยังคงใจร้ายอย่างนั้น

         คนตรงหน้าช้อนตัวฉันขึ้นไว้ในอ้อมแขนแกร่งของเขาก่อนจะพาเดินเข้ามาในห้องนอน และทิ้งตัวฉันลงบนเตียงทันทีพร้อมกับร่างของเขาที่ขึ้นคร่อมร่างฉันอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้หนีไปไหน มันรวดเร็วจนฉันไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ

         “ระ...เรดด์” ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจ เพราะอยู่ดีๆเขาก็ถอดเสื้อของตัวเองออกเหลือเพียงเสื้อกล้ามสีขาวตัวบาง ก่อนจะหันมาจัดการกับเสื้อของฉัน

         “อย่าดิ้น!” เรดด์ตวาดกลับมาเมื่อฉันพยายามปัดป้องไม่ให้เขาได้ถอดมันได้สำเร็จ แต่เพียงไม่นานเขาก็ถอดเข็มขัดของตัวเองออกมามัดมือฉันเอาไว้ และกระชากเสื้อฉันออกจนมันขาดไม่เหลือชิ้นดี ทันทีที่เขามองต่ำลงไป เขาก็แค่นยิ้มออกมาเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาวางไว้หมด

         “เรดด์อย่า...ฮึก” คนตรงหน้าไม่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดเลย เขาก้มหน้าเข้ามาใกล้ฉันขบเม้มที่ซอกคอฉัน พร้อมกับมือของเขาที่บีบเค้นคลึงอยู่ที่หน้าอกฉันอย่างแรง โดยไร้ความปราณี 

         เรดด์ทำมันอยู่อย่างนั้นจนตัวฉันระบมไปหมด ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะต่อต้านเขาได้ เขาขมเม้มลงมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่หน้าอกของฉัน มือที่เค้นคลึงอยู่นั้นหยุดชะงักลง เรดด์เงยหน้าขึ้นมาสบตากับฉัน

         ฉันไม่รู้จะมองเขายังไงดี เขาใจร้ายกับฉันมาก แค่เรื่องเอมม่าเขายังทำร้ายจิตใจฉันไม่พออีกเหรอ แล้วนี่เขายังจะมาย่ำยีฉัน คนที่เขารักกับเขาทำกันอย่างนี้เหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลย เขาไม่ทะนุถนอมฉันเลยสักนิด

         “จำได้ไหม?” เรดด์เอ่ยพูดขึ้นทั้งที่มือของเขายังคงเกาะกุมหน้าอกของฉันอยู่ ส่วนมืออีกข้างของเขาก็เอื้อมมาเช็ดน้ำตาให้ฉัน “ฉันเคยบอกเธอว่า เธอจะไม่เสียใจอีกแล้ว”

         “...”

         “แต่ฉันก็ยังทำให้เธอเสียใจ”

         “...”

         “ในเมื่อเป็นคนดีไม่ได้ แม่งก็เป็นคนเลวให้ถึงที่สุดว่ะ” พูดจบเรดด์กระชากบราเซียร์ของฉันจนมันขาดออกจากกัน และด้วยแรงที่กระชากทำให้มันครูดกับเนื้อผิวของฉันจนมันเป็นรอยแดงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

         ทันทีที่เขาทำมันได้สำเร็จ มือของเขาทั้งสองข้างก็จับจองเนินอกฉันทันที ฉันสะดุ้งเฮือกกับสัมผัสที่ถูกยัดเยียดจากเรดด์ บอกไม่ถูกว่ามันรู้สึกยังไง พยายามอย่างมากที่จะไม่ส่งเสียงร้องออกมา

         “ครางออกมาสิ”

         “...” ฉันเม้มริมฝีปากตัวเองแน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองส่งเสียงอันน่าเกลียดออกไป แต่พอเขาเห็นว่าฉันไม่ยอมร้องออกมา ก็เพิ่มแรงบีบเค้นคลึงเนินอกของฉันให้มันหนักหน่วงกว่าเดิม

         “บอกให้ครางออกมา”

         “...”

         ฉันพยายามฝืนตัวเองเอาไว้อย่างมาก แต่เขาก็ถาโถมมือลงมาไม่ยั้งเหมือนกัน จนในที่สุดฉันก็ไม่สามารถกักเก็บเสียงร้องของตัวเองเอาไว้ได้ และเมื่อเขาได้ยินฉันร้องออกมาเขาก็กระตุกยิ้ม และเพิ่มแรงบีบเค้นมันมากขึ้น

         “...อะ”  

     

    -100 %-

    -สุดท้ายก็ไม่รอด-

    เลเน่ลูกรักโดนย่ำยีอีกแล้วอ่ะ เรดด์เบาๆกับน้องหน่อยจิ 555555555555

    รู้สึกเหมือนกันมั้ยว่าเรดด์ก็โหดไปนะบางที

    พวกเธออ่านแค่นี้คงรู้แล้วเนอะว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น

    ไปเจิมกันชาร์ปหน้าเลยงับ 

    เม้นท์เป็นกำลังให้กันหน่อยน้าาาาาา 

    เม้นท์เยอะ กำลังใจแยะ เดี๋ยวรีบมาอัพต่อให้เยย

    มาอัพให้แล้วอย่าลืมเม้นท์เป็นกำลังใจให้กันน้ารีดจ้า ไม่งั้นเค้าจะหายไปบ้างนะ มากันคนละครึ่งทางเนอะ เธออ่านนิยายส่วนเค้าก็อ่านเม้นท์ ดีมั้ย??? 555555555

     

     
    -LOVER SET- 

       

    REDD : คลิก https://writer.dek-d.com/Applepupzaa/writer/view.php?id=1504573

    WELL : คลิก https://writer.dek-d.com/Applepupzaa/writer/view.php?id=1523796  

     

     

     

    เข้าไปคุยกับเค้าในเพจได้นะจ๊ะ
    ใครที่ยังไม่ถูกใจเพจไปถูกใจด้วยนะ เพราะเค้าจะแปะลิงก์กลุ่มลับไว้ในเพจ บอกเลยใครไม่ถูกใจเค้าไม่รับเข้ากลุ่มจริงด้วย เอาดิ!มากันคนละครึ่งทาง
    บอกเลยฉากCUTแซ่บมาก555555555555555555555
     
    คลิกที่ลิงก์ข้างล่างเลยงับ \(^O^)/
    V
    V
    V
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×