ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Playboy Lover ฉีกกฎหัวใจตามล่านายจอมเจ้าชู้

    ลำดับตอนที่ #6 : PLAYBOY LOVER 05 | {100 %}

    • อัปเดตล่าสุด 22 มิ.ย. 60


    นิยายมีการอัพเดทซ้ำ เพื่อประชาสัมพันธ์
      
    ********************
     

    04

     

         พูดจบพี่เวลล์ก็ก้มหน้าลงมาเรื่อยๆเหมือนเขากำลังจ้องอะไรสักอย่างที่คอฉันอยู่ ฉันถอยออกห่างจากเขาทันที ไม่ใช่ว่าเล่นตัวอะไรนะแต่สิ่งที่เขาพูดกับฉันเมื่อกี้มันทำให้ฉันรับไม่ได้อย่างแรง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบฉันและคอยต่อว่าฉันอยู่บ่อยๆก็เถอะ

         แต่เขาก็ไม่เคยพูดคำว่าเกลียดฉันออกมาเลยสักครั้ง และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาบอกความรู้สึกของตัวเองว่ารู้สึกยังไงกับฉัน

         แค่คำว่าไม่ชอบมันยังทำให้ฉันเจ็บเลย แต่นี่ถึงกับเกลียดกันขนาดนี้ ฉันจะเปลี่ยนใจเขาได้ยังไงกันล่ะ ความฝันของฉันที่จะได้เป็นแฟนกับพี่เวลล์คงไม่มีทางเป็นจริงแล้วล่ะ

         “จะจ้องคอฉันอีกนานไหมคะ ถ้าอยากมองขนาดนั้นก็เอาแว่นขยายมาดูซะเลยสิ”

         ฉันที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกพี่เวลล์กระชากเข้าไปประชิดตัวเขา เขาไม่ได้มองหน้าฉันเลยสักนิด แต่สิ่งที่เขาสนใจกว่าหน้าฉันก็คือต้นคอฉันนั่นเอง อยากจะรู้จริงๆว่ามันมีอะไรดีถึงได้เอาแต่จ้องขนาดนี้

         เพียงไม่นานพี่เวลล์ก็ผละออกจากฉันพร้อมกับทำหน้านิ่งไร้ความรู้สึก ใบหน้าก็ยังคงฉาบเอาไว้ด้วยความเย็นชาตามสไตล์เขาเวลาที่อยู่กับฉัน แววตาของเขาตอนนี้ฉันไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ หรือเขาคิดว่าฉันไปทำอะไรที่มันผิดศีลธรรมมาอย่างนั้นเหรอ บ้าน่าฉันนี่นะจะทำเรื่องไม่ดี ไม่มีทางหรอก ถ้าคนอย่างฉันเป็นคนไม่ดี ก็อย่าหวังเลยว่าคนบนโลกจะดี

         “เธอ” นี่เป็นประโยคแรกที่พี่เวลล์พูดกับฉันหลังจากเงียบไปนาน

         แววตาของเขาที่มองฉันตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นแววตาที่ดูยังไงก็เหมือนว่ารังเกียจฉันซะเหลือเกิน แววตาที่ปราศจากความรัก ความอ่อนโยน มันมีแต่ความแข็งกระด้าง น่ากลัวที่มอบให้ฉัน

         “ยะ...อย่ามองฉันแบบนี้ได้ไหมคะ?” เขาเริ่มทำให้ฉันกลัวขึ้นมาแล้วนะ แค่ฉันมาขอโทษเขาแค่นี้ถึงกับทำขนาดนี้เลยเหรอ

         “ซอกคอเธอไปโดนอะไรมา?”

         ฉันยกมือขึ้นลูบต้นคอตัวเองเมื่อเห็นว่าพี่เวลล์เอาแต่มองและพูดถึงมัน ซอกคอฉันจะไปโดนอะไรมาได้ยังไงล่ะ ขนาดสร้อยฉันยังไม่ใส่เลย เพราะฉันอึดอัดแล้วจะมีอะไรได้ยังไง ทำไมพี่เวลล์ถามแปลกๆแบบนี้ล่ะ มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ

         “มันเป็นผืนเหรอคะ หรือว่ามีอะไรมากัดอาจจะเป็นยุงก็ได้นะคะ แต่ฉันไม่รู้สึกอะไรเลยนี่นามากัดตอนไหน” พี่เวลล์ยังคงจ้องต้นคอฉันไม่เลิก ทำให้ฉันต้องถามเขากลับไปอีกรอบเพื่อความแน่ใจว่าที่เขาเห็นมันเป็นอะไรกันแน่ “พี่เวลล์มองขนาดนี้สรุปแล้วคอฉันเป็นอะไรคะ”

         “รอย” เขาตอบอยู่แค่นั้น ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่ามันเป็นรอยอะไรถ้าเขาไม่บอกให้ละเอียดอ่ะ

         จู่ๆเขาก็หันหลังใส่ฉันเฉยเลยไม่ยอมหันมาอธิบายให้เข้าใจอีกต่างหาก ฉันก็งงนะสิ เมื่อกี้ยังเห็นดีๆอยู่เลยแล้วนี่อะไร มาโกรธฉันเรื่องอะไรอีกล่ะ หรือว่าเมื่อกี้ฉันยังไม่ได้ง้อเขางั้นเหรอ ต้องให้ฉันง้อใหม่ป่ะ 

         “พี่เวลล์” ฉันคว้าข้อมือของเขาได้ทันก่อนที่เขาจะเดินหนีไป แต่เขากลับสะบัดมันออกอย่างไม่ไยดีเลย ทำให้แขนฉันกระแทกเข้ากับขอบโต๊ะอย่างแรง แต่คนอย่างพี่เวลล์น่ะเหรอจะมาเป็นห่วงฉัน ไม่มีทางหรอก ขนาดนั้นฉันตกน้ำตกท่าเขายังไม่เห็นจะมาเป็นห่วงเป็นใยฉันเลย “ฉันเจ็บนะคะ”

         “อย่ามาจับฉัน” คนตรงหน้าตวาดใส่หน้าฉันเต็มๆเลยล่ะ นี่ฉันไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจอีก รู้สึกว่าตัวเองยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ มีแต่เขาทำอยู่ฝ่ายเดียวเลย และการกระทำของพี่เวลล์แบบนี้มันแปลกๆนะ เขาเป็นอะไรไปอ่ะทำไมถึงดูโมโหเกรี้ยวกราดขนาดนี้ก็ไม่รู้

         “พะ...พี่เวลล์เป็นอะไรไปคะ?” ฉันถามตะกุกตะกักด้วยความกลัวเพราะไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรไป

         “ถ้าฉันถามอะไรเธอหน่อยจะได้ไหม?” พี่เวลล์หันกลับมามองฉันด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง น้ำเสียงเขาก็ฟังน่ากลัวยังไงชอบกลแฮะ

         “ค่ะ” ฉันพยักหน้าหงึกหงักตอบเขากลับไป ไม่รู้หรอกนะว่าเขาจะถามอะไรแต่ฉันเชื่อว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีเกี่ยวกับตัวฉันแน่ๆ สายตาเขามันฟ้องน่ะ

         “ถ้ารักฉันเธอต้องไม่ปิดบังฉันเด็ดขาด”

         “พี่เวลล์ก็รู้ว่าฉันไม่เคยโกหกหรือหลอกอะไรพี่เลยสักครั้ง ถามมาเถอะค่ะถ้าฉันตอบได้ฉันจะตอบแน่นอน” ฉันพูดอย่างหนักแน่นทุกคำพูด ฉันไม่เคยหลอกหรือโกหกเขา เพราะฉันไม่มีอะไรที่จะต้องทำแบบนั้นอยู่แล้ว ฉันรักเขาด้วยใจจริง

     

         “ซอกคอเธอไปโดนอะไรมา?” 

     

         พี่เวลล์ไม่ยอมละสายตาไปไหนเอาแต่มองจ้องฉันอย่างกับว่าฉันไปทำอะไรที่มันไม่ดีไม่งามมาอย่างนั้นล่ะ

         “...”

        ฉันเลือกที่จะเงียบเพราะไม่รู้จริงๆว่าซอกคอตัวเองไปโดนอะไรมา ถ้าโดนยุ่งกัดฉันก็น่าจะคันสิ หรือถ้าไปโดนอะไรที่มันเจ็บๆมาฉันก็น่าจะรู้สึก แต่นี่ฉันกลับไม่ได้รู้สึกอะไรเลย

         พี่เวลล์เดินเข้ามาใกล้ฉันก่อนจะวางมือลงบนบ่าฉันอย่างไม่นึกรังเกียจเหมือนเมื่อกี้ที่เขาทำ

         “เธอรู้อะไรไหม?” ร่างสูงมองสบตาฉันนิ่ง ฉันได้แต่กระพริบตามองเขากลับไปเงียบๆ “เธอโกหกฉันไม่ได้หรอก”

         “ฉันไม่ได้โกหกพี่นะคะ แต่เรื่องนี้ฉันไม่รู้จริงๆ แล้วฉันไม่เห็นว่าการที่คอฉันจะเป็นรอยมันเป็นเรื่องที่สำคัญตรงไหน ทำไมต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ด้วย” ฉันสวนกลับไปทันที

         เรื่องแค่นี้เองทำไมต้องทำท่าทางโกรธเป็นฝืนเป็นไฟด้วยก็ไม่รู้ ถ้าฉันไปทำเรื่องที่มันไม่ดีมาจริงๆฉันก็พร้อมที่จะรับผิด แต่ฉันไม่ได้ทำอะไรจริงๆนะ เรื่องนอกใจพี่เวลล์ไม่เคยมีอยู่ในหัวอยู่แล้ว

         “อย่ามาทำเป็นใสซื่อทั้งๆที่ตัวเองสกปรก”

         พี่เวลล์ผละออกจากฉัน เขามองหน้าฉันด้วยความเกรี้ยวโกรธ ฉันเองก็อยากจะโกรธเขานะที่เขาต่อว่าฉันแรงขนาดนี้ แต่วันนี้ฉันตั้งใจมาง้อเขาก็เลยต้องยอมให้เขาต่อว่าต่อไป

         “เรื่องแบบนี้ฉันผ่านมันมาเยอะกว่าเธอ”

         “พี่รู้แล้วจะมาถามฉันทำไม?” ฉันตอกกลับไปบ้าง

        ฉันไม่ได้อย่างทำตัวไม่น่ารักแบบนี้หรอก แต่การที่เขาทำแบบนี้ฉันเองก็หมดความอดทนเหมือนกัน ถ้าฉันรู้ว่าตัวเองทำผิดฉันจะไม่รีรอเลยที่จะขอโทษเขา แต่นี่ฉันไม่รู้อะไรเลย จู่ๆก็จ้องต้นคอฉันแล้วก็หงุดหงิดออกมา ฉันก็งงน่ะสิ มันใช่เรื่องที่จะมาทะเลาะกันเหรอ

         “ที่ไม่ยอมฉันก็คงอยากเล่นตัวเพื่อให้ฉันสนใจสินะ”

         คนตรงหน้ากระตุกยิ้มมุมปาก ฉันได้แต่กำมือแน่นด้วยความอึดอัด ฉันรักพี่เวลล์ รักมากด้วย แต่การที่โดนว่าแบบนี้ทุกวันมันก็ทำให้ฉันหมดความอดทนเหมือนกัน คนนะไม่ใช่หุ่นยนต์ที่จะไม่ให้รู้สึกอะไรเลย ฉันเองก็อยากจะเลิกชอบคนอย่างเขา แต่มันก็ทำไม่ได้ ฉันไม่ชอบตัวเองจริงๆเลยให้ตายสิ

         “พี่พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า?”

         “ชอบเหรอ?” รางสูงเลิกคิ้วถามกลับมา ทำเอาฉันงงไปเลย เพราะไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร

         “ชอบอะไร”                                                                

         “SEX

         “อะ...อะไรนะ” ฉันถึงกลับอึ้งพูดไม่ออกเลย

         ตกใจเหมือนกันที่เขาพูดถึงเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านพี่เวลล์ไม่เคยให้ความสำคัญกับฉันด้วยเรื่องนี้ เวลาเจอหน้ากันเขาก็มักจะไล่ฉันให้ไปไกลๆ แต่นี่กลับมาพูดอะไรที่ทำให้ฉันกลัวเขาขึ้นมา

          ถึงฉันจะเป็นแบบนี้ฉันก็ไม่ได้เป็นผู้หญิงใจง่าย ยอมให้เขาทำอะไรตามใจชอบหรอกนะ เพราะสิ่งที่ได้มาง่ายๆมันไม่น่าค้นหาและไม่เร้าใจหรอก ถ้าพี่เวลล์ได้ฉันแล้วฉันก็ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงที่ผ่านมาของเขา

         เพราะงั้นฉันจะเล่นตัวก็ไม่เห็นว่ามันจะผิดตรงไหน ฉันอยากให้เขาเห็นฉันเป็นคนสำคัญสำหรับเขาตลอดไป ไม่ใช่แค่คิดเล่นๆกับฉันเท่านั้น ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆบอกได้เลยว่าพี่เวลล์จะไม่มีวันได้อะไรจากตัวฉันเลย นอกจากหัวใจ

         “รอฉันอยู่ที่นี่เดินแบบเสร็จแล้วฉันจะกลับมารับ” พี่เวลล์ไม่ตอบคำถามของฉัน แต่กลับพูดประโยคที่ทำเอาฉันอึ้งเป็นรอบที่ล้าน เพราะเขาไม่เคยบอกให้ฉันรอเขาเลย

         “พี่เวลล์พูดจริงเหรอคะ?”

         “ฉันเคยพูดเล่นกับเธอสักเรื่องไหมล่ะ?” เขาถามกลับ มันก็จริงพี่เวลล์ไม่เคยล้อเล่นกับฉันเลย เขาทำจริงมากกว่า ถ้าบอกว่าเกลียดคือเกลียด ถ้าบอกว่าไม่ก็คือไม่ “อยากอยู่กับฉันก็รอที่นี่”

         “ค่ะ” ฉันพยักหน้าด้วยความดีใจ ลืมไปเลยว่าเมื่อกี้โกรธให้เขาอยู่ แต่เรื่องอะไรจะโกรธนาน พี่เวลล์เสนอมาให้ขนาดนี้แล้วฉันจะไม่รับได้ยังไง

     

         มีแต่คนไม่มีตาเท่านั้นแหละถึงจะปฏิเสธคนอย่างเขาได้ลง

     

          พี่เวลล์เดินออกจากห้องไปแล้ว ทิ้งฉันเอาไว้ให้รออยู่ในห้องคนเดียว ฉันเดินไปนั่งที่โซฟาแล้วบังเอิญเห็นเข้ากับกล้องที่เคยเห็นเมื่อวานนี้ตอนอยู่ที่ห้องแต่งตัวของพี่เวลล์ แสดงว่าพี่เวลล์ต้องพกกล้องไปไหนมาไหนด้วยแน่เลย

         ไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างเขาจะชอบถ่ายรูปด้วย อยากจะรู้จริงๆเลยว่าเขาถ่ายรูปอะไรเอาไว้บ้าง เผื่อจะมีรูปฉันติดมาด้วย

         ฉันหยิบกล้องมาเปิดดูทันที ก่อนจะตกใจกลับรูปภาพที่ได้เห็นอยู่ตรงหน้า มันไม่ใช่รูปภาพฉันหรอกนะ แต่มันดันเป็นรูปลูกแมวตัวเล็กสี่ห้าตัวที่นอนให้พี่เวลล์ถ่าย ฉันเปิดดูจนหมดก็เห็นแต่รูปลูกแมวนี่แหละ ใจคอจะไม่ถ่ายรูปคนเลยหรือไง

        แต่จะว่าไปก็มีรูปผู้หญิงคนหนึ่งติดเข้ามาด้วยนะ เธอหน้าตาคุ้นมากเหมือนคนที่ฉันเคยรู้จัก แต่คงไม่ใช่หรอก คนที่ฉันรู้จักตอนนี้เธออยู่ที่ต่างประเทศ และโลกคงไม่กลมพอนำพาเธอกับพี่เวลล์รู้จักกันหรอกนา

     

    [WELL : SAID]

         ผมเดินกลับเข้ามาที่ห้องหลังจากเดินแบบเสร็จ นางแบบหน้าใหม่ที่เดินประกบคู่กับผมเธอได้ขอนัดผมคืนนี้ ผมเองก็ไม่ได้อยากจะปฏิเสธเธอหรอกนะ แต่เผอิญว่าผมได้นัดกับผู้หญิงอีกคนเอาไว้ ก็เลยได้ปฏิเสธเธอไปทำให้เธอโวยวายใส่ผม กว่าจะออกมาได้ก็เล่นเอาแทบเหนื่อย

         พอเปิดประตูเข้ามาก็เห็นว่าคนที่ผมบอกให้รอเธอนอนหลับอยู่ที่โซฟา ไม่คิดเลยว่าเธอจะรอผมอยู่ที่นี่จริงๆอย่างที่ผมบอก ที่จริงผมก็คิดว่าเธอจะกลับไปแล้วซะอีก เพราะกว่าผมจะกลับเข้ามาเธอจะต้องอยู่ในห้องกว่าสี่ชั่วโมงเลยนะ 

         ผมเดินเข้าไปใกล้วิวาห์ก่อนจะนั่งลงข้างๆตัวเธอแล้วจับผมที่ปรกหน้าเธอขึ้นทัดหูเพื่อที่จะได้เห็นหน้าเธอให้ชัดขึ้น วิวาห์ในตอนนี้เหมือนเด็กน้อยไร้เดียงสาที่ไม่รู้เรื่องอะไรเอาซะเลย พอก้มลงมองหน้าเธอใกล้ๆสายตาก็ปะทะเข้ากับรอยแดงที่ซอกคอของเธอ ผมกำหมัดแน่นทันที ใครบอกว่าเธอไร้เดียงสา

         เปล่าเลยเธอมันร้ายลึกต่างหาก ทำไมผมจะดูไม่ออกมาว่ารอยที่อยู่คอเธอเป็นรอยอะไร แต่เธอยังมาโกหกว่าไม่รู้เรื่องแล้วทำหน้าอ่อนต่อโลก พอเห็นแล้วมันก็น่าโมโห ผมคิดมาตลอดว่าเธอจะต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่ผมเคยเจอ

         แต่เปล่าเลย!เธอก็เหมือนผู้หญิงพวกนั้น

         ผมลุกขึ้นยืนให้ห่างจากตัวเธอ ไม่อยากเข้าใกล้ ไม่ใช่ว่าผมรังเกียจแต่ผมรับไม่ได้กลับสิ่งที่เธอทำ เธอเป็นเหมือนคนที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน คนที่ไล่ตามผมไม่ว่าผมจะไปไหนเธอก็มักจะไปดักรอตลอด ไม่ว่าผมจะไปนอนกับใครเธอก็มักจะมาเฝ้าจนผมเสร็จภารกิจ

         ผมรู้ตลอดว่าเธอติดตามผม แต่ผมก็ทำเป็นไม่รู้เพราะไม่อยากให้เธอเข้าใจผิดคิดว่าผมสนใจในเรื่องของเธอ แต่ตอนนี้มันไม่มีอีกแล้ว เด็กผู้หญิงที่น่ารักคนนั้น มีแต่ผู้หญิงที่โกหกอยู่ตรงหน้าผมคนนี้

         “พะ...พี่เวลล์”

         วิวาห์ลืมตาขึ้นมามองผมก่อนจะยันตัวลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทางงัวเงีย เธอคงจะเพลียเพราะนี่มันก็ดึกมากพอสมควร ผมมองหน้าเธอนิ่งไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆออกมาให้เธอรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่

         “มานานแล้วเหรอคะ?”

         “อืม” ผมตอบแค่นั้น

         เพราะไม่อยากพูดอะไรกับเธอมากกว่านี้ เรื่องนี้มันติดใจผมมาก ไม่มีทางที่จะลบมันออกไปได้หรอก ผมเห็นกล้องตัวเองที่เธอกอดเอาไว้ ก็รู้ได้ทันทีเลยว่าเธอแอบเอากล้องผมมาเปิดดู ดีหน่อยที่ผมเปลี่ยนฟิลม์แล้ว ทำให้เธอไม่รู้เลยว่าก่อนหน้านี้ผมถ่ายอะไรเอาไว้บ้าง

     

         “ทำไมไม่ปลุกฉันล่ะคะ?”

     

          เธอถามพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ผม แต่ผมกลับไม่รู้สึกห่าไรกับเธอเลยสักนิด ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมอาจจะรู้สึกดีที่เธอยิ้มให้ แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว เธอไม่ใช่คนนั้นอีกแล้ว พอเห็นหน้าตาไม่รู้เรื่องของเธอแบบนี้มันก็ทำให้ผมหงุดหงิดขึ้นมา ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน

         “เธอคงพร้อมแล้วสินะ” ทันทีที่ผมถาม คนตัวเล็กก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน เหมือนเธอไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมพูด “ที่รอฉันเพราะต้องการไม่ใช่ไง?”

         “ปะ...เปล่านะคะ” เธอรีบปฏิเสธแทบจะทันที ไม่รู้ว่าจะเล่นตัวทำไม ทีคนอื่นยังให้มาแล้วเลย

         ดีแค่ไหนแล้วที่ผมยอมเธอแบบนี้ ที่จริงแล้วผมจะลากเธอให้ออกไปจากห้องผมก็ได้ แต่ผมไม่ทำ แล้วนี่ยังจะมาเล่นตัวอะไรอีกวะ

         “เปล่าแล้วรอทำไม?”                                                                  

         “ฉันแค่รอเคลียร์กับพี่เท่านั้นนะ”

         “เคลียร์?” เคลียร์ห่าไรวะ ผมไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย แล้วมีเรื่องอะไรที่เราต้องเคลียร์กันอีก ส่วนมากผมก็ไม่ได้พูดกับเธอเท่าไหร่ ไม่รู้เลยว่าเราสองคนจะต้องมีเรื่องให้ต้องคุยกัน

         “ฉันไม่รู้ว่าพี่เวลล์โกรธฉันเรื่องอะไร แล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าตัวเองไปทำอะไรให้พี่ไม่พอใจ” วิวาห์ก้มหน้ามองมือตัวเอง “แต่ฉันยืนยันนะคะว่าฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ จู่ๆพี่ก็มาโมโหใส่ฉันเพราะเรื่องรอยที่คอของฉัน”

         “...” ผมยืนพิงผนังห้องเอาล้วงกระเป๋าฟังเธอพูดต่อโดยไม่ขัดขึ้นมา อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะแก้ตัวว่าอะไร

         “ถ้าพี่เวลล์ไม่ชอบคอฉันละก็...วันหลังฉันจะใส่เสื้อคอเต่ามาก็ได้ค่ะ”

         เฮ้ย!อะไรกันวะเนี่ย เธอไม่รู้ห่าไรเลยไงถึงพูดแบบนี้ออกมา คิดได้ไงว่าผมไม่ชอบคอเธอ แต่พอมองหน้าเธอที่สำนึกผิดจริงๆมันก็ทำให้ผมเกือบเชื่อเธอว่าเธออาจจะไม่รู้เรื่องนี้ก็ได้

         แต่อีกใจก็ไม่อยากจะเชื่อ เพราะเรื่องแบบนี้ผมเองก็ผ่านมาเยอะเหมือนกัน เชี่ยวชาญกว่าพระเอกที่เล่นหนังAVอีกมั้ง ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจก่อนจะก้มลงถามคนตัวเล็กอีกครั้ง เผื่อเธอจะยอมสารภาพออกมาก็ได้

         “ฉันจะถามเธออีกครั้ง” ผมกดเสียงต่ำเป็นเชิงออกคำสั่ง “ซอกคอเธอไปโดนอะไรมา ตอบความจริงอย่ามาโกหกฉัน”

         “ฉะ...ฉันไม่รู้จริงๆนะคะพี่เวลล์”

         พอได้ยินคำตอบเดิมจากเธอมันก็ทำให้ผมโมโหขึ้นมาทันที ผมดึงตัวเธอให้ไปยืนอยู่ที่หน้ากระจกก่อนจะรวบผมเธอมาไว้ด้านหลังเพื่อให้เธอดูรอยที่คอตัวเองว่าไปโดนอะไรมากันแน่ ทำไมถึงยังพูดโกหกอยู่ได้

         “ดูซะว่านี่มันรอยห่าไร?” วิวาห์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆกระจกก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เหมือนไม่รู้เลยว่ารอยนี้มันมาได้ยังไง

         “นะ...นี่มันรอยอะไร?”

         เออ!ผมสิที่เป็นฝ่ายต้องถามเธอไม่ใช่ให้เธอมาถามผมแบบนี้

         บ้าหรือเปล่า ตัวเองไปทำมาแท้ๆยังจะมาถามคนอื่น ผมจะไปรู้ได้ยังไงว่าเธอไปโดนใครทำห่าไรที่ไหนยังไง ไม่ได้ตามติดเธอเหมือนที่เธอตามติดผม

         ผมปล่อยมือออกจากตัวเธอทันที ยิ่งเห็นแบบนี้แล้วผมก็ไม่อยากแตะต้องตัวเธอ ผมไม่ได้รังเกียจเธอหรอกนะที่ผ่านผู้ชายมา เพราะผู้หญิงที่เข้ามาหาผมก็ไม่มีใครซิงสักคนอยู่แล้ว

         แต่ที่ผมโมโหและหงุดหงิดก็เป็นเพราะ...

         เธอไม่ยอมรับว่าตัวเองไม่ได้ซิงแล้ว

     

         “พะ...พี่เวลล์”

         วิวาห์หันกลับมามองผมด้วยความตกใจกับการกระทำของผมที่ทำเหมือนรังเกียจเธอ แต่ผมเลือกที่จะถอยออกมาให้ห่างจากเธอ ไม่อยากให้เธอมาแตะต้องตัวผม ผมหันหลังกลับมาเพื่อที่จะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องน้ำ

         หมับ!

         แต่ก่อนที่ผมจะทันได้เดินไปไหนวิวาห์ก็คว้าชายเสื้อผมเอาไว้ได้ทัน ผมหันกลับไปมองเธอ ก็เห็นว่าเธอน้ำตาคลอเตรียมจะไหล แต่เธอก็ยังคงยิ้มให้ผมกลับมา ผมตกใจนิดหน่อยที่เห็นเธอจะร้องไห้แบบนี้

         เพราะตลอดเวลาที่เธอตามผมมาเธอไม่เคยร้องไห้ออกมาให้ผมได้เห็นเลย จะว่าไปบางทีผมก็พูดกับเธอแรงไปเหมือนกันนะ จะขอโทษก็ไม่ได้เพราะไม่อยากให้เธอคิดว่าผมเริ่มมีใจให้ ไม่อยากให้เธอเข้าใจผิดไปมากกว่านี้

         แค่นี้ก็อาจจะทำให้เธอเข้าใจผิดไปเยอะแล้วก็ได้

         “พี่เวลล์ไม่พอใจฉันเรื่องรอยนี่ใช่ไหมคะ?” ผมเลือกที่จะไม่ตอบอะไรเธอ เพราะไม่รู้ว่าที่ตัวเองหงุดหงิดมันเป็นเพราะแค่รอยหรือเป็นเพราะเธอเป็นของคนอื่นไปแล้ว “ฉันไม่รู้จริงๆนะคะว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อเช้ายังไม่เห็นมีเลย ฉันไม่รู้ด้วยว่ามันเป็นรอยอะไร”

         “...” ผมก็ยังคงเงียบไม่พูด จนเธอเขย่าตัวผมเหมือนว่ากำลังโมโหที่เห็นว่าผมไม่ออกความเห็นอะไรเลย 

         “พี่ไม่ต้องมาแต่งเรื่องเพื่อให้ฉันไปจากพี่เลยนะคะ ยังไงฉันก็จะไม่ไปจากพี่เด็ดขาด เรื่องเล็กแค่นี้เองรอยอะไรก็ไม่รู้มากล่าวหากันอยู่ได้”

         เธอต่อว่าผมอย่างโกรธจัด นี่คงเป็นครั้งแรกเลยล่ะมั้งที่เธอกล้าทำกับผมแบบนี้ เพราะปกติเธอจะไม่พูดหรือต่อว่าผมไม่ว่าผมจะด่าว่าเธอมากแค่ไหนก็ตาม ครั้งนี้คงจะโกรธจริงว่ะ

         “แต่งเรื่อง?”

         “เรื่องรอยนี่ลืมมันไปได้ไหม ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันมาได้ยังไง พรุ่งนี้ก็คงจะหายแล้วล่ะ”

         เธอยังคงระบายรอยยิ้มออกมาเหมือนไม่ได้คิดห่าไรมากเลยกับเรื่องรอยที่คอตัวเอง เห็นแล้วผมก็อยากจะสะบัดตัวหนีออกจากเธอให้รู้แล้วรู้รอดเลย ผู้หญิงอะไรโกหกเก่งชิบหาย

         “เธอไม่รู้ไงว่ามันมาจากไหน?” ผมเลิกคิ้วถามพร้อมกับแกะมือเธอออกจากเสื้อผม ซึ่งเธอก็ยอมปล่อยออกอย่างว่าง่าย เหมือนกลัวว่าผมไม่พอใจแล้วใส่อารมณ์กับเธออีกรอบ

         เธอเป็นผู้หญิงคนแรกเลยนะที่ผมต่อต้านขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน ผมชอบนะผู้หญิงหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มอย่างเธอ แต่ผมกลับต่อต้านไม่ให้เธอเข้ามายุ่งในชีวิตผม ผมยังแปลกใจตัวเองเลย

         “ฉันไม่รู้จริงๆค่ะ ฉันไม่โกหกพี่อยู่แล้ว” เธอพูดอย่างมั่นใจเป็นอย่างมาก

         “ฉันจะบอกให้”

         ผมกระตุกยิ้มพร้อมกับก้มหน้าลงไปกระซิบเธอข้างหูเพื่อให้เธอได้ยินมันได้อย่างชัดเจน และไม่ผิดเพี้ยนแม้แต่นิดเดียว

         “มันเป็นรอยดูด”

    [WELL : SAID END] 

     

     

    -100 %-

    -เริ่มบานปลาย-

    ชาร์ปนี้อยู่แต่เรื่องรอยอย่างเดียวค่ะ ก็บอกแล้วว่าไม่จบง่ายๆ

    ถ้าอิพี่เวลล์เห็นแล้วเรื่องต้องไปกันใหญ่ วิวาห์เตรียมหาข้อแก้ตัวโดยด่วน

    ไม่งั้นโดนเทแน่ (ที่จริงนางก็โดนเทมานานแล้วนะ) 55555555

    อยากให้เค้ามาอัพให้อ่านบ่อยๆ ก็ต้องเม้นท์เป็นกำลังใจให้กันหน่อยจิพวกเธอ

     เม้นท์เท่าที่ใจรีดเดอร์มีต่อพี่เวลล์กับน้องวิวาห์เลยงับ

    เม้นท์เยอะ กำลังใจแยะ เดี๋ยวรีบมาอัพให้เยย  

     
    -LOVER SET- 

       

      REDD : คลิก https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1523796

    WELL : คลิก  https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1523796  

     

     

    -ฝากเพจอีกสักที-

    เพื่อการติดตามที่สะดวกและรวดเร็ว
    คลิกที่ลิงก์ข้างล่างเลยงับ \(^O^)/
    V
    V
    V
    APPLEPUP_INFINITE
     
     
       

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×