ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You Are The Light สัมผัสรักแวมไพร์เจ้าเสน่ห์

    ลำดับตอนที่ #5 : ลงโทษ

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ค. 61


         

    ลงโทษ     

         

         "หายกลัวผมหรือยังสาวน้อย" ฉันตัดสินใจเงยหน้าขึ้นไปสบตากับเซอร์คัส เมื่อได้ยินเขาถามประโยคเมื่อกี้ออกมา

         "ก็คุณเป็นผี....." ฉันพูดยังไม่ทันจบประโยค เซอร์คัสก็ยกนิ้วชี้ของเขาขึ้นมาปิดปากฉันทันที มือเย็นๆ ของเขาทำให้ฉันตัวชาไปเลยทีเดียว

         "แวมไพร์ไงสาวน้อย"

         "ค่ะ! คุณเป็นแวมไพร์ทุกคนก็ต้องกลัวอยู่แล้ว" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่ธรรมดา แปลกแฮะ! ทำไมตอนนี้ฉันรู้สึกไม่กลัวเขาเหมือนคำพูดเลยล่ะ O///O อาจจะเป็นเพราะว่าเขาดูไม่ได้น่ากลัวมั้ง หรือจริงๆ ฉันก็ไม่ได้กลัวเขาเลย

         "แต่ผมคิดว่าคุณไม่กลัวผมแล้วนะสาวน้อย ^__^" เซอร์คัสพูดจบก็หัวเราะออกมาทันที ว่าแต่เขารู้ได้ไงหว่าว่าฉันไม่กลัวเขาแล้ว >_<

         "คุณรู้ได้ไงคะ?" เขามองหน้าฉันแล้วเอียงหัวไปทางซ้าย เหมือนจะทำตัวแอ๊บแบ๊ว แต่ฉันว่ามองยังไงมันก็ออกจะกวนๆ เสียด้วยซ้ำ >< ฉันมองหน้าเขาอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ และคำตอบที่ได้มามันกลับทำให้ฉันตกใจหายใจแทบไม่ออก ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้มันจะมีอยู่จริง

         "ผมอ่านความคิดคุณไงสาวน้อย ^__^"

         จะมีคนบนโลกสักกี่คนกันที่สามารถอ่านความคิดของคนอื่นออก ฉันว่าแทบไม่มีเลยมั้ง เขานี่มันสุดยอดเลย ถ้าจะมีความสามารถพิเศษแบบนี้แบ่งมาให้ฉันบ้างเหอะ ฉันไม่อยากโดนรังแกอยู่บ่อยๆ เพราะความอ่อนแอของตัวเอง

         "มันเป็นช่วงเวลาที่เกราะป้องกันความคิดคุณหยุดทำงานน่ะ แต่นั่นมันก็แค่แป๊บเดียวเพราะตอนนี้ผมอ่านความคิดคุณไม่ได้แล้ว" ฉันนี่หน้าเหวอไปเลยจ้าาาา ถ้าอยู่ใกล้เขามากกว่านี้ฉันต้องห้ามตัวเองไม่ให้คิดแล้วล่ะ

         "..." เขาน่ากลัวเกินกว่าที่ฉันจะอยู่ใกล้มากกว่านี้

         "ผมว่าคุณไปพักผ่อนเถอะสาวน้อย" เซอร์คัสพูดขณะมองไปบนฟ้า

         "จีขอถามอะไรคุณได้มั้ยคะ?" เขาพยักหน้าแล้วคลี่ยิ้มออกมา "ถ้าเกิดว่าเมื่อตอนเย็นจีไม่ได้บอกให้คุณออกมาคุณก็จะไม่มาปรากฎตัวใช่มั้ยคะ"

         "ไม่หรอกสาวน้อย เพราะยังไงสักวันผมก็ต้องมา" ร่างสูงลูบผมฉันก่อนจะมองมาด้วยแววตาที่แสนอ่นโยน เหมือนเขาอยากจะทำแบบนี้กับฉันมากนานแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้ทำ

         "คุณแก่แล้วเหรอคะทำไมถึงเรียกจีว่าสาวน้อย" หน้าตาของเขาก็ดูเหมือนจะเยอะกว่าฉันแค่ไม่กี่ปีเองนะ ทำไมต้องเรียกซะเหมือนฉันเป็นเด็กด้วยก็ไม่รู้

         "ผมห่างจากคุณแค่ห้าปีเองสาวน้อย" ฉันพยักหน้ารับรู้ "พรุ่งนี้เจอกันนะครับ ^__^" เซอร์คัสพูดขึ้นเมื่อเห็นฉันยกมือปิดปากหาว

         "ค่ะ อุ๊บบบ!" ฉันยกมือปิดปากตัวเองทันที บ้าจริง ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย ดูสิเซอร์คัสหัวเราะชอบใจใหญ่เลย >_< ฉันไปตกลงกับเขาได้ยังไงว่าจะเจอกันพรุ่งนี้ นี่เขาเล่นกลหลอกให้ฉันตายใจแล้วจริงๆ สินะ อย่าลืมสิจีละดาเขาเป็นคนแปลกหน้านะ รู้จักกันไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ ไว้ใจเขาแล้วเหรอ บ้าจริง

         เซอร์คัสจับไหล่ฉันทั้งสองข้างก่อนจะโน้มหน้าลงมาจูบหน้าผากฉันอย่างแผ่วเบา และก็เหมือนอย่างเคยที่ฉันปล่อยให้เขาได้ทำตามอำเภอใจตัวเอง ไม่รู้ทำไมร่างกายตัวเองถึงไม่ขัดขืน หรือว่ามันชอบที่เขาทำแบบนี้ มันเหมือนว่าในใจลึกๆ ของฉันมันอยากให้เขาทำแบบนี้ หรือมาส่งฉันเข้านอนแบบนี้ทุกวันยังไงไม่รู้แฮะ แปลกคนจริงๆ เลย คงไม่ใม่มีใครเป็นเหมือนฉันแล้วล่ะที่อยากให้คนแปลกหน้ามาส่งเข้านอนแบบนี้

         "Goodnight สาวน้อยของผม"

         ตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก!

         เซอร์คัสทำหัวใจฉันเต้นแรงอีกแล้ว เขากลายร่างเป็นค้างคาวสีเทาอ่อนต่อหน้าต่อตา ก่อนจะหายวับไปในป่าทึบนั่น ครั้งแรกที่เห็นคนแปรงร่างได้ เต็มๆ สองตาและในระยะประชิดแบบนี้ด้วย ฝัน ใช่! ฉันต้องฝันไปแล้วแน่ๆ มีอย่างที่ไหนที่คนจะกลายร่างเป็นค้างคาว

         ไม่ว่าจะบอกตัวเองอีกสักกี่ครั้งว่ามันคือความฝัน แต่ยังไงความจริงก็คือความจริง เพราะสิ่งที่ฉันได้เจอและได้สัมผัสมามันเป็นสิ่งที่เหนือธรรมชาติมาก นักวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถอธิบายสิ่งที่ฉันเจอได้ ต่อให้เอาอลิสโตเติลมาก็ไม่สามารถอธิบายเป็นรูปธรรมได้แน่ และฉันคิดว่าตัวเองเป็นมนุษย์คนแรกที่ได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์แบบนี้


    วันต่อมา

         ฉันเดินเข้ามาในห้องเรียนด้วยท่าทางอิดโรย และหมดสภาพกันเลยทีเดียว ก็เมื่อคืนฉันตั้งใจจะนอนเร็วแต่ดันมีแวมไพร์บ้าโผล่มาทำให้ต้องนอนดึกนี่ไงล่ะ T^T

         กว่าฉันจะหลับได้ก็ปาเข้าไปตีสามแล้ว แล้วนี่ฉันยังไปตกปากรับคำกับแวมไพร์บ้านั่นอีก เฮ้อ! คิดแล้วก็เหนื่อยใจทันทีเลย ทำไมชีวิตคนสวยอย่างฉันต้องมาเจอเรื่องที่ไม่คาดฝันแบบนี้ด้วยนะ ทำไมต้องเป็นฉานนนนน TOT

         คนอื่นมีเป็นร้อยเป็นพันแต่ทำไมเขาต้องเลือกให้ฉันรู้ว่าเขาเป็นแวมไพร์ด้วย เขาไม่กลัวว่าฉันจะเอาเรื่องของเขาไปเล่าให้คนอื่นฟังหรือไง ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ บอกเลยว่าเขาคงอยู่ยากแน่ เพราะนโยบายของมนุษย์เราไม่อยู่ร่วมโลกกับผีหรอกนะจะบอกให้ อย่าว่าแต่ผีเลยขนาดมนุษย์กลายพันธุ์ก็อยู่ไม่ได้จ๊ะ นั่นมันเป็นแค่ในหนังเท่านั้น ชีวิตจริงไม่มีหรอกนะแบบนี้อ่ะ

         "จีไปทำอะไรมาทำไมเหมือนผีซอบบี้อย่างนี้ล่ะ" ลิลลี่พูดอย่างตกใจทำให้นิชาและหวาหว่าหันหน้ามามองทันที ที่พูดแบบนี้เชื่อเถอะว่าเพื่อนรักฉันอย่างลิลลี่ไม่ได้คิดเป็นห่วงฉันหรอก แต่เธอคอยแต่จะจับผิดฉันไง แค่ก้าวเข้ามาในห้องเธอก็เห็นเลย

         "นั่นสินอนดึกเหรอ?" นิชาถามฉันด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงมากแล้วเดินมาจับตัวฉันพาไปนั่งที่โต๊ะ ที่จริงแล้วฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกนะก็แค่ดูโทรมหน่อยๆ ก็เท่านั้นเอง เพื่อนฉันก็ดูจะเป็นห่วงมากเกินไป

         "ขอบใจนะนิชา" ฉันส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้เธอ ไม่เคยมีวันไหนเลยที่เธอไม่เคยเป็นห่วงฉัน ทุกวันเธอมักจะถามเรื่องการเรียนและการเข้ากับเพื่อนๆ ที่นี่ ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลาก็เถอะ

         "สำออย" เสียงจากใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะตรงกลางดังขึ้น ทำให้ฉันต้องหันไปดูว่าเป็นเสียงของใคร และคงไม่ต้องบอกหรอกนะว่าเป็นเสียงของใคร ฉันมีเรื่องแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ ก็ริชกับเอ็มเคไง

         "เธอว่าใครยัยเอ็มเค" ลิลลี่หันไปจ้องเขม็งสองคนนั้นทันที เห็นแบบนี้เธอก็เข้าข้างฉันตลอดนะ

         "เปล๊า ฉันพูดรอยๆ"

         "ก็เห็นๆ อยู่ว่าเธอพูดให้ยัยจี" หวาหว่าพูดช่วยลิลลี่ทันทีที่เอ็มเคพูดจบ

         "ยัยเอ็มเคพูดชื่อยัยนั่นแล้วเหรอ?" คราวนี้ริชถึงกับทุบโต๊ะก่อนจะตะคอกขึ้นมาเสียงดัง มันก็จริงแหละ เพราะเอ็มเคไม่ได้เอ่ยชื่อของฉันเลย การที่ลิลลี่ไปพูดแบบนั้นมันก็ไม่ถูกถึงเราจะรู้ว่าเธอตั้งใจพูดให้ใครก็ตาม

         "ใช่ๆ ยังไม่ได้เอ่ยชื่อเลย" เอ็มเคพูดต่อท้ายริช เข้าขากันดีซะเหลือเกินนะแม่คุณ กลัวคนอื่นไม่รู้หรือไงว่าเป็นพวกเดียวกัน

         "ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าจีไม่สบายถ้าเธอไม่ได้ว่าให้จีแล้วจะว่าให้ใคร" ลิลลี่พูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวคงจะโกรธแทนฉันล่ะมั้ง อีกอย่างฉันก็เป็นคนไม่ค่อยต่อปากต่อคำกับใครซะด้วยสิ เห็นอย่างนี้ลิลลี่ก็เลยอยากออกโรงปกป้องฉันแทน

         "ยัยจีจะตายหรือไม่ตายก็ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับฉันสักหน่อย" คำพูดของริชน่าเอาขยะมายัดปากซะจริง นี่ขนาดว่าฉันเป็นคนดีไม่ว่าร้ายใครแล้วนะ ยังต้องยอมให้กับคำพูดของริชเลย

         "ริชฉันรู้สึกว่าฉันบอกเธอไปแล้วนะว่าอย่ามายุ่งกับพวกฉันอีก" นิชาพูดขึ้นเมื่อเงียบฟังพวกเราโต้เถียงกันอยู่นาน ทำให้ภายในห้องเงียบลงทันทีเมื่อนิชาพูดออกไปแบบนั้น อีกอย่างน้ำเสียงของเธอยังทำให้คนฟังอย่างเราถึงกับผวาไปเลยทีเดียว

         "แล้วฉันไปยุ่งกับเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ ชื่อก็ยังไม่ได้เอ่ย" ดูเหมือนว่าริชจะไม่ได้กลัวนิชาเลยสักนิด อันที่จริงก็ไม่รู้ว่าจะกลัวทำไมเพราะริชเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เธอไม่ได้เอ่ยชื่อฉันออกมาด้วยซ้ำ ถ้าจะถามถึงคนผิดมันคงเป็นพวกฉันมากกว่าแหละ

         "ไม่เป็นไรนิชา ริชกับเอ็มเคอาจจะไม่ได้พูดให้จีก็ได้" ฉันรีบพูดก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ไปกว่านี้ เรื่องมันไม่น่าจะมาจบแบบนี้ด้วยซ้ำ เพราะงั้นปล่อยให้เรื่องมันผ่านไปน่ะดีแล้ว การไม่มีเรื่องเป็นสิ่งที่ฉันชอบมากที่สุด ฉันไม่อยากมีเรื่องกับใคร ขออยู่แบบสันติเถอะขอร้อง

         "เอาอีกแล้วเธอจะโลกสวยไปถึงไหนจี" ลิลลี่พูดขึ้นพร้อมกลับกอดอกทำหน้าเอือมระอาฉันเต็มที อะไรกันการที่ฉันไม่อยากมีเรื่องนี่มันเป็นสิ่งที่ผิดมากเลยเหรอ หรือต้องให้ฉันสร้างเรื่องทุกวันพวกเพื่อนๆ ฉันถึงจะคิดว่าฉันไม่ได้โลกสวยอะไรแบบนั้น

         "เอานาเรื่องแค่นี้เองไม่เห็นต้องทะเลาะกันเลย" พูดจบฉันก็ดึงมือนิชากลับไปนั่งที่ตามด้วยลิลลี่และหวาหว่า จากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรอีกเลย

         ดีแล้วที่ริชและเอ็มเคไม่ได้เดินตามมาหาเรื่อง ไม่อย่างนั้นล่ะก็เรื่องไม่จบง่ายๆ แน่ แค่นี้ก็เหนื่อยเต็มทีแล้ว อย่าเอาปัญหามาให้ฉันอีกเลย บอกตามตรงเลยว่าเรื่องมนุษย์ฉันก็แทบจะแก้ปัญหาไม่ได้ และไหนจะเรื่องของผีๆ อีก อยากจะบ้าตาย นี่ถ้ามันเป็นความฝันมันคงเป็นฝันที่ประหลาดที่สุดเท่าที่ฉันเคยมาเลยแหละ


         หลังจากเรียนไปได้สองวิชา ฉันก็รู้สึกว่าร่างกายตัวเองจะไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ฉันง่วงมาก ง่วงจนมองเห็นอาจารย์มีฝาแฝดสองคนเลยล่ะ ที่ฉันต้องเป็นแบบนี้ความผิดมาเจอเซอร์คัสคนเดียวแท้ๆ เลย ถ้าเขาไม่เล่นโผล่มาเมื่อคืนเพื่อมาทำความรู้จักกับฉันล่ะก็ ฉันก็คงไม่ต้องเป็นแบบนี้หรอก เรียนก็ไม่รู้เรื่องเลย ให้ตายสิ

         "นี่ทุกคน" นิชาเรียกลิลลี่ หวาหว่า และฉัน เกือบหลับไปแล้วมั้ยล่ะ _*_

         "เลิกเรียนแล้วไปกินไอศครีมกันนะ พอดีคอปบาชนะคาราเต้ได้รางวัลที่หนึ่งด้วย เขาเลยบอกฉันให้ชวนพวกเธอทุกคนไปด้วยเพราะมื้อนี้คอปบาเลี้ยงเอง" นิชาพูดจบ ลิลลี่ หวาหว่าดีใจกับยกใหญ่เลย แต่ฉันนี่สิอยากกลับบ้านไปนอนเอาแรงจังเลย แต่ด้วยความที่รักเพื่อนจึงไม่กล้าปฎิเสธ เลยตามเลยจ้าาาา T^T


         หลังจากเลิกเรียนพวกเราทั้งสี่คนก็มาที่ร้านไอศครีม โดยมีคอปบามานั่งจองโต๊ะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่นี่คนค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะเวลาเลิกเรียนแบบนี้ นิชาเลยบอกให้คอปบามาจองโต๊ะไว้ก่อนไม่อย่างนั้นพวกเราคงอดกินแน่ นี่แค่เดินเข้ามาที่นี่ยังอัดแน่นไปด้วยผู้คนเลย ถึงแม้ว่าอากาศจะหนาวแต่คนส่วนมากที่อาศัยที่เมืองนี้ต่างก็ชอบกินไอศครีมกันนะ

         "ทุกคนทางนี้ๆ" คอปบาพูดพลางทำไม้ทำมือให้พวกเราเดินไปโต๊ะที่เขาจองเอาไว้ "ทำไมมากันช้าจัง" คอปบาทำน่ามุ่ยใส่นิชาทันทีที่เราเดินมาถึงโต๊ะ ดูๆ แล้วคู่นี้ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ ทำให้ฉันยิ้มได้ตลอดเลย ^_^

         "บ่นเหมือนคนแก่ไปได้" นิชาเอื้อมมือไปหยิกแก้มคอปบาอย่างมันเขี้ยว นิชาโชคดีมากเลยนะที่ได้ผู้ชายดีๆ อย่างคอปบาเป็นแฟน เพราะเขาทั้งดูแลเอาใจใส่เธอยิ่งกว่าอะไรดี ทำทุกอย่างเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำให้ผู้หญิงได้ เพราะงี้ไงฉันถึงเลือกที่จะไม่สนใจผู้ชายคนไหนเลยเพราะไม่มีใครดีเท่าแฟนเพื่อนของฉันแล้ว ถ้ามีฉันคงเลือกไปนานแล้วล่ะไม่อยู่เป็นโสดมาจนถึงวันนี้หรอก

         "พี่คะขอเมนูด้วยค่ะ" หวาหว่าพูดแทรกขึ้นด้วยความหิว ทำให้นิชากับคอปบาหยุดความหวานกันไว้แค่นี้

         ระหว่างนั้นพวกเราก็คุยเรื่องสัพเพเหระกันไปเรื่อยเปื่อยออกเรื่องนั้นเข้าเรื่องนี้ ไม่มีสักวินาทีเดียวที่พวกเราจะไม่หัวเราะกันเลย นี่แหละที่เรียกว่ามิตรภาพของจริง และเป็นมิตรภาพที่หาได้ยากมากด้วย

         ฉันโชคดีที่มีเพื่อนดีๆ อย่างนิชา ลิลลี่ และหวาหว่า ถึงแม้ลิลลี่จะชอบพูดแขวะฉันตลอดก็เถอะ แต่เธอก็คอยเป็นห่วงฉันอยู่ตลอดเวลา และออกโรงปกป้องฉันทุกครั้งที่มีคนคิดที่จะเข้ามาทำร้ายฉัน หวาหว่าเองก็เช่นกันถึงภายนอกเธอจะดูอ่อนแอแต่จิตใจเธอเข้มแข็งมากนะ ไม่ว่าฉันจะทำถูกหรือผิดเธอก็จะเข้าข้างฉันเป็นคนแรกเลย ส่วนนิชาไม่ต้องพูดถึงเพราะรายนั้นอ่ะเราสนิทกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว เป็นเหมือนพี่น้องกันเลยก็ว่าได้


         หลังจากกินไอศครีมเสร็จนิชาและคอปบาก็มาส่งฉันที่บ้านทั้งๆ ที่ฉันปฎิเสธแล้วนะ แต่นิชาเป็นห่วงกลัวฉันกลับไม่ถึงบ้านน่ะสิ ก็อย่างที่บอกว่าเพื่อนฉันคนนี้ธรรมดาที่ไหนกันล่ะ นี่ถ้าฉันไม่ยอมให้มาส่งเธอเองก็จะไม่ยอมกลับบ้านตัวเองด้วย เชื่อแล้วว่าเพื่อนที่แสนดียังมีอยู่บนโลก ฉันจะรักษามิตรภาพนี้ไว้ให้อยู่กับฉันไปนานๆ เลย

         "ขอบใจนะนิชา คอปบา"

         "พักผ่อนเยอะๆ ล่ะพรุ่งนี้เจอกัน" นิชาบอกฉันก่อนที่คอปบาจะขับรถออกไป

         ฉันก้มมองดูนาฬิกาที่ข้อมือที่บ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มตรง ฉันเลยวิ่งขึ้นห้องไปอาบน้ำเพราะตั้งใจว่ายังไงวันนี้จะต้องนอนพักผ่อนเร็วๆ ไม่อย่างนั้นล่ะก็พรุ่งนี้ฉันคงไปเรียนไม่ได้แน่ๆ เลย

         ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วได้ยินเสียงตะกุกตะกักอยู่หน้าประตูระเบียง ตอนนี้ไฟที่ระเบียงห้องฉันมันเปิดไม่ติดทำให้มองไม่เห็นข้างนอก เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ระเบียงมืดตื๊อตื๋อ ที่จริงก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะวันนี้ลมค่อนข้างที่จะแรงมันอาจจะเป็นเสียงของลมก็ได้ แต่เสียงนั้นมันก็ยังคงดังต่อเนื่องทำให้หัวใจของฉันตอนนี้เต้นแรงไม่เป็นส่ำ ด้วยความที่อยู่คนเดียวแบบนี้มันเลยทำให้ฉันกลัวขึ้นมา

         'โจรขึ้นบ้านหรือป่าวเนี่ย' คิดอยู่ในใจสักพักฉันก็เลยเดินไปเปิดประตูระเบียงออกไปดูด้วยความอยากรู้ว่ามันเป็นเสียงอะไรกันแน่ แต่แล้วฉันต้องตกใจสุดขีดจนหัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อมีสัตว์ตัวหนึ่งบินเข้ามาในห้องของฉัน

         "ค้างคาว" ฉันร้องออกมาเสียงดังลั่นห้องก่อนที่ค้างคาวสีเทาอ่อนจะกลายร่างเป็นหนุ่มหล่อ 'เซอร์คัส' นั่นเอง

         "สาวน้อยคุณลืมสัญญาของเรา" เซอร์คัสพูดด้วยน้ำเสียงดุและใบหน้าของเขาตอนนี้ก็โหดตามไปด้วย แล้วฉันไปสัญญาอะไรกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน >_<

         ฉันยืนทำหน้างงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เขามายืนอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว เขามาถึงตัวฉันไวมาก เมื่อกี้เหมือนฉันยังไม่ได้หายใจด้วยซ้ำ นี่เขาว่องไวขนาดนี้เลยเหรอ ถ้าเป็นงานกีฬาสมัยตอนเด็กนะเขาคงได้ถ้วยรางวัลไปกอดเต็มบ้านแล้วมั้ง

         "ผมจะลงโทษสาวน้อยของผมยังไงดีนะ" ร่างสูงยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันก่อนจะยื่นมือมาลูบริมฝีปากฉันเล่นและทำท่าครุ่นคิดถึงวิธีการลงโทษของเขา ไอเย็นจากมือของเซอร์ศัสทำให้ฉันขยับตัวไปไหนไม่ได้ มันเหมือนถูกตรึงเอาไว้ให้อยู่กับที่ ฉันคิดว่าถ้าตัวเองขยับตัวเขาอาจจะดูดเลือดฉันเพื่อเป็นการลงโทษอะไรแบบนั้นก็ได้

         "ลงโทษ?" ฉันทวนคำถามเขาทันทีอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง เพราะฉันมั่นใจว่าไม่เคยไปสัญญาอะไรกับเขาเลย แล้วทำไมมาบอกว่าฉันผิดสัญญา ฉันว่าเขาคงจำผิดคนแล้วมั้ง

         "ใช่แล้ว! ลงโทษ เพราะคุณทำนอกเหนือในสิ่งที่ผมบอก"


     


    -ฝากเพจอีกสักที-

    เพื่อการติดตามที่สะดวกและรวดเร็ว
    คลิกที่ลิงก์ข้างล่างเลยงับ \(^O^)/
    V
    V
    V
    APPLEPUP_INFINITE
         
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×