คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : PLAYBOY LOVER 03 | {100 %} H+
เอี๊ยด!!!
พี่เวลล์ยอมมาส่งฉันแต่โดยดีหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวความรักของคุณพ่อคุณแม่ฉัน นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆเลยล่ะ
แต่ระหว่างทางเขาไม่ยอมพูดกับฉันเลยสักคำหรือไม่แม้แต่จะหันมามองฉันเลย ทำเหมือนว่าฉันไม่มีตัวตนในสายตาของเขาอย่างนั้นล่ะ น้อยใจนะแต่ก็พูดอะไรไม่ได้นอกจากเก็บเอาไว้คนเดียว
เพราะต่อให้พูดยังไงแล้วเขาก็ไม่สนใจฉันอยู่ดีว่าฉันจะรู้สึกยังไง คนไม่รักยังไงมันก็ไม่รัก แต่สักวันหนึ่งฉันจะเปลี่ยนความคิดเขาให้ได้คอยดู
“ลงไปได้แล้ว” พูดกับฉันนะแต่ไม่ได้มองหน้าฉันเลย อะไรจะเย็นชาขนาดนั้น
ถ้าฉันถือสาเรื่องนี้ล่ะก็คงต้องนอนร้องไห้น้ำตาเช็ดหัวเข่าแหงๆ แต่ดีหน่อยที่ฉันมันคงกระพันไม่ได้ถือสาเรื่องแบบนี้ เพราะมันเป็นอะไรที่ฉันชินไปแล้ว
“ไม่ขึ้นไปดื่มน้ำที่ห้องฉันก่อนเหรอคะ?” มีความอ่อยเบาๆก็แค่อยากให้เขาไปส่งฉันให้ถึงที่ห้องก็เท่านั้นเองนี่นา ไม่ได้คิดอย่างอื่นเลยจริงๆนะ
“ไม่!!!” คำตอบที่ได้กลับมามันช่างหนักแน่นมาก โอเคเข้าใจแล้วว่าไม่อยากอยู่กับฉันนาน ไปก็ได้แล้ววันหลังจากไปตามใหม่เพราะวันนี้ฉันเองก็ใช้พลังงานไปเยอะพอสมควรถึงเวลาที่ต้องพักผ่อนแล้วล่ะ
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” ฉันยกมือไหว้พี่เวลล์ก่อนจะเดินลงจากรถเพื่อให้เขากลับไปพักผ่อนเหมือนกัน
บรื้น!!!
ไม่ต้องขับเร็วขนาดนั้นก็ได้มั้งฉันไม่ได้จะกระโดดขึ้นรถไปกับเขาอีกรอบอยู่แล้ว คุณแม่ฉันตามตื๊อคุณพ่อมาตั้งหลายปีกว่าจะได้เป็นแฟนกัน นี่มันแค่สองปีเองนะฉันไม่ท้อหรอก อยากเมินก็เมินไปเพราะยังไงฉันจะต้องเอาผู้ชายคนนี้มาเป็นแฟนให้ได้ รีบขึ้นไปนอนกอดเสื้อพี่เวลล์ที่แอบเอามาดีกว่า
ไม่อยากคิดอะไรมากแล้วเดี๋ยวปวดหัว เรื่องเรียนฉันยังไม่ปวดหัวเท่าเรื่องผู้ชายเลยนะ คืนนี้ฉันจะได้นอนกอดพี่เวลล์แล้วถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ตัวจริงแต่เอาตัวสำรองก็ฟินไปอีกแบบ
[WELL : SAID]
หลังจากไปส่งวิวาห์ด้วยความจำใจแล้วผมก็กลับมาที่ห้องตัวเองอย่างเซ็งๆ เพราะวันนี้ไม่ได้พาผู้หญิงมานอนด้วย ปกติแล้วผมเป็นคนที่ขาดผู้หญิงไม่ได้ ต้องพามานอนด้วยทุกคืน
แต่ผมไม่เคยพาใครมานอนที่ห้องตัวเองหรอกนะ ส่วนมากจะพาเข้าโรงแรมหรือไม่ก็รีสอร์ตมากกว่า ผมไม่ชอบให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิตตัวเอง ผมไม่ชอบผูกมัดกับใคร ผู้หญิงที่เข้ามาหาผมพวกเธอต่างก็รู้กฎพวกนี้ดีอยู่แล้ว แต่บางคนรู้แล้วก็ยังจะจับผมให้ได้
แต่เสียใจผมมันไม่ใช่สุภาพบุรุษอย่างที่ทุกคนคิดหรอก
ผมนั่งลงที่โซฟาก่อนจะหยิบเอากล้องขึ้นมาดู อีกเรื่องที่ผมไม่ชอบก็คือ การที่เข้ามาจุ้นจ้านกับของของผม ผมแม่งหงุดหงิดมากตอนที่วิวาห์ถามเรื่องกล้องนี่กับผม ที่จริงแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรพอมารู้ตัวอีกทีผมก็ไล่เธอไปตายแล้ว
อยากจะขอโทษเธอเหมือนกัน แต่ถ้าทำอย่างนั้นเธอก็จะยิ่งได้ใจและคิดเข้าข้างตัวเอง กล้องตัวนี้มีความสำคัญกับผมมาก ผมก็เลยไม่อยากให้ใครมายุ่งก็เท่านั้น
วันนี้บอกเลยว่าผมโคตรเหนื่อยว่ะ ไม่คิดว่าเรื่องมันจะวุ่นวายได้มากขนาดนี้ โดยเฉพาะตอนที่วิวาห์ตกน้ำ ไม่มีใครเลยสักคนที่จะเข้าไปช่วยเธอ
เออ!ใช่ ผมเองล่ะที่กระโดลงไปช่วยเธอและผายปอดให้ ถ้าเธอรู้คงหลงตัวเองน่าดู แต่ผมก็กำชับทุกคนในกองแล้วนะว่าห้ามบอกเรื่องนี้ให้เธอรู้เด็ดขาดเดี๋ยวเรื่องมันไม่จบง่ายๆ ขนาดผมไล่แล้ว เมินแล้ว เธอก็ยังไม่ยอมไปจากผม
ผมไม่เคยเจอผู้หญิงที่เหมือนเธอมาก่อนเลย แบบที่ว่าเธอชอบผมมากถึงขนาดตามผมไปทุกที่แต่ไม่ยอมให้ผมทำอะไรเธอนี่สิ คิดว่าแปลกป่ะ ผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาล้วนแล้วแต่อย่างนอนกับผมทั้งนั้นแต่กับเธอไม่ใช่ และเธอก็ยังเป็นผู้หญิงคนเดียวที่กล้าปฏิเสธผมด้วย
อีกอย่างผมยังรู้ด้วยว่าเธอขโมยเสื้อยืดของผมไป ก็คงจะเอาไปนอนกอดเหมือนอย่างที่ผมเห็นเธอนอนกอดเสื้ออยู่ที่ห้องแต่งตัวผมนั่นแหละ ถ้าอยากได้ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะถึงยังไงแล้วต่อให้เธอพยายามมากแค่ไหน ผมก็จะไม่มีวันชอบเธอเด็ดขาด
และผมก็จะไม่มีวันรักใครนอกจากตัวเองอีกแล้ว
เธอแค่ทำให้ผมไขว้เขวเท่านั้นแต่ไม่มีวันที่จะทำให้ผมเปลี่ยนใจได้ ผมเงยหน้าเอนตัวพิงพนักโซฟาก่อนจะค่อยๆหลับตาลง เวลาที่อยู่คนเดียวแบบนี้มันทำให้ผมนึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมา คนที่ผมไม่ได้เจอมานานหลายปี ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ว่ะ มันเหมือนว่าตัวเองกำลังอ่อนแออีกแล้ว
ผมลุกขึ้นทันทีก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางไว้บนโต๊ะแล้วกดโทรหาใครบางคนที่ทำให้ผมสบายใจได้ในตอนนี้
“ว่างไหม?” ทันทีที่ปลายสายกดรับผมก็ถามเข้าเรื่องทันทีเพราะไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้
[สำหรับคุณยุ่งแค่ไหนฉันก็ว่างค่ะ]
“ฉันจะไปหาเธอที่ห้อง”
[รีบมานะคะฉันจะทำน้ำอุ่นไว้รออาบพร้อมคุณ] ผมวางสายก่อนจะลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปทันที ผมบอกแล้วว่าผมขาดผู้หญิงไม่ได้ ผมต้องหาใครมานอนด้วยทุกคืน
เออ!ฟังดูเหมือนกูเป็นโรคจิตเองเลยว่ะ แต่มันก็เป็นธรรมดาของผู้ชายอยู่แล้วปะที่จะทำเรื่องแบบนี้ ผมไม่แคร์อยู่แล้วว่าใครจะมองผมแบบไหน
เพราะผมไม่ได้ทำให้ใครต้องมาเดือดร้อนเลยสักนิด
NC CUT
หลังจากเสร็จเรื่องนั้นผมก็ลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าทันที ผมไม่อยากค้างที่นี่ อันที่จริงจะค้างก็ได้เพราะผมก็ไม่ได้ไปไหนต่ออยู่แล้ว แต่ผมอยากพักผ่อนเพราะทำกับเธอนานอยู่เหมือนกัน ออกแรงไปเยอะหน่อย
“จะไปแล้วเหรอคะ?” เธอถามขึ้นเมื่อเห็นว่าผมแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ผมควักเงินในกระเป๋าออกมาจำนวนหนึ่งก่อนจะยื่นไปให้เธอ ผู้หญิงพวกนี้ก็ต้องการแค่นี้เท่านั้นเองแหละ ผมถึงไม่อยากผูกมัดกับใคร วงการมายามันมีอะไรมากกว่าที่ทุกคนคิด มันไม่ได้สวยหรูเหมือนอย่างในละครหรอก มันออกจะเหม็นเน่ามากกว่า
“ใช่” ผมตอบแค่นั้น
“อยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอคะ” เธอเดินเข้ามาคว้าท้ายทอยผมเอาไว้ก่อนจะดึงไปจูบ ร่างกายของเธอตอนนี้ไม่มีอะไรปิดบังอยู่เลย ทำให้เห็นทุกส่วนตั้งแต่หัวจรดเท้า เห็นอย่างนี้แล้วผมก็ไม่อยากกลับเลยว่ะ อยากทำอะไรที่มันสนุกเหมือนอย่างเมื่อกี้อีกรอบ
“ต้องการ?”
“มากที่สุดเลยค่ะ” เมื่อได้ยินอย่างนั้นผมก็จัดการหยิบถุงยางอนามัยที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาอีกครั้ง ผมชอบพกเอาไว้ทีละหลายๆซองเพราะผู้หญิงส่วนมากแค่รอบเดียวไม่พอหรอก เพราะผมมันเป็นพวกประเภทชอบทำให้ผู้หญิงคลั่ง
“ฉันปลดกระดุมให้นะคะ”
เธอเอื้อมมือมาปลดกระดุมเสื้อให้ผม ผมก้มลงมองเธอที่กำลังปลดกระดุมแล้วจู่ๆภาพผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนกอดเสื้อผมอยู่บนเตียงก็ผุดขึ้นมาในหัว
ผมชะงักไปทันที เพราะไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่ว่าเธอจะพยายามมากแค่ไหนผมก็ไม่เคยมองเธอเลย แต่แล้วทำไมผมถึงต้องนึกถึงเธอเวลาที่มองเสื้อตัวเองแบบนี้ด้วยวะ หรือว่าผมจะเพลียจนสมองเบลอไปหมด มันก็ไม่น่าจะใช่
แม่งเอ้ย!ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะทำให้ผมนึกถึงเธอได้แบบนี้
‘ฉันพูดจริงๆนะคะถ้าพี่เวลล์อยู่ได้ฉันก็อยู่ได้’
‘ป่าช้างี้?’
‘ฉันยังยืนยังคำตอบเดิมค่ะพี่เวลล์อยู่ได้ฉันก็อยู่ได้’
‘ก็ฉันบอกพี่แล้วไงคะว่าเราเกิดมาเพื่อคู่กัน’
คำพูดของวิวาห์ดังก้องในหัวผมจนมันตีกันกับภาพของเธอที่นอนกอดเสื้อผมอยู่บนเตียงเหมือนต้องการจะบอกให้ผมหยุดการกระทำนี่ลงซะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมไม่เคยนึกถึงใครนอกจาก ‘เธอ’ คนนั้น
แต่ทำไมวันนี้มันถึงได้นึกถึงวิวาห์ยัยเด็กโรคจิตนั้นขึ้นมา
หมับ!
ผมจับมือร่างบางเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอปลดกระดุมเสื้อผมออก ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะทำเรื่องนั้นแล้ว เพราะภาพของวิวาห์มันทำให้ผมไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้นนอกจากกลับไปนอน
“เอาไว้วันหลังแล้วกัน ฉันไม่มีอารมณ์”
“แต่เมื่อกี้คุณยังดีๆอยู่เลยนะคะ”
“กฎของฉัน” ผมกดเสียงต่ำเป็นเชิงออกคำสั่งว่าให้หยุดเซ้าซี้ เพราะผมรำคาญ ถ้าผมพูดคำไหนมันต้องเป็นคำนั้น พวกเธอจะแหกกฎนี้ไม่ได้
“ค่ะ” เธอก้มหน้ามองมือตัวเอง
เห็นอย่างนั้นผมก็ดึงตัวเธอเข้ามากดจูบปลอบทันที มันคือวิธีการง้อของผม แต่ก็นั่นแหละผมไม่ได้มีจิตพิศวาสผู้หญิงพวกนี้อยู่แล้ว ก็ทำไปงั้นเพราะให้เธอไม่ร้องไห้ออกมาก็พอ
“เข้าใจง่ายๆอย่างนี้ก็ดีจะได้อยู่ด้วยกันไปนานๆ”
อันที่จริงผมจะไม่แคร์เธอก็ได้นะ แต่ผมไม่ชอบเห็นใครต้องมาร้องไห้เพราะผมเป็นต้นเหตุ อีกอย่างผมไม่อยากให้เรื่องพวกนี้มันส่งผลเสียไปที่บริษัทของผมก็เท่านั้น
ผมเดินมาถึงหน้าประตู อยู่ดีๆก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดียังไงไม่รู้ว่ะ เหมือนกับว่าผู้หญิงที่ผมนึกถึงเมื่อกี้จะเข้ามาทำให้การใช้ชีวิตของผมเปลี่ยนไป
แอด!!!
“เฮ้ย!”
ทันทีที่เปิดประตูผมถึงกับร้องอุทานออกมาเสียงดังลั่น เพราะไม่คิดว่าเธอจะมายืนอยู่ที่หน้าห้องนี้ได้ และมันจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากยัยโรคจิตที่ตามตื๊อผมอยู่ตลอดหลายปีอย่างวิวาห์
มาได้ไงว่ะ?
[WELL :SAID END]
ฉันมายืนรอพี่เวลล์หน้าห้องห้องหนึ่ง เขาเข้าไปนานมากเลยนะและไม่มีทีท่าว่าจะออกมาด้วย
ใช้แล้ว!ฉันไม่ได้กลับเข้าไปที่ห้องตัวเองหรอก เพราะฉันมีภารกิจที่สำคัญอย่างการสะกดรอยตามพี่เวลล์มานี่ไงล่ะ ที่ฉันตามเขามาแบบนี้ก็เพราะว่าฉันอยากรู้ว่าช่วงที่เขาว่างแบบนี้เขาจะทำอะไรบ้างนอกจากเรื่องอย่างว่า
แต่สุดท้ายแล้วก็มาทำเรื่องอย่างว่าเหมือนเดิม เขาไม่เคยเปลี่ยนตัวเองจริงๆนะ เพราะตลอดสองปีที่ผ่านเวลาที่เขาว่างเขาก็มักจะทำเรื่องแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนที่เข้าหาเขา แต่ไม่ใช่ฉัน ก็ไม่รู้ว่าจะจงเกลียดจงชังกันไปอีกนานแค่ไหน
ฉันไม่เคยโกรธพี่เวลล์หรอกนะที่เขามาทำเรื่องแบบนี้ เพราะเขาอาจจะมีเหตุผลบางอย่างก็ได้ ฉันตามเขามานานจนเริ่มชินไปแล้วล่ะที่เห็นว่าเขามาทำเรื่องแบบนี้ เพราะส่วนมากแล้วเขาจะมาแค่ครั้งเดียวและไม่มาอีกเลย นั่นก็เท่ากับว่าเขาไม่ได้จริงจังกับผู้หญิงที่เขานอนด้วยสักคนไงล่ะ ฉันก็เลยโล่งใจไปได้บ้าง อย่างน้อยฉันก็ยังมีหวังอยู่บ้างล่ะนา
แอด!!!
ประตูห้องถูกเปิดออก ฉันที่รอมานานถึงกับฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจ เพราะจะได้ให้พี่เวลล์ไปส่งกลับคอนโดสักที ฉันนี่ง่วงจนตาแทบจะปิดอยู่แล้วอ่ะ คนที่เดินออกมาก็เป็นคนที่ฉันรอมานานเหมือนกัน ดูเหมือนว่าเขาจะตกใจมากเลยนะที่เห็นว่าฉันมายืนเสล่ออยู่ตรงนี้
“เฮ้ย!”
“เจอกันอีกแล้วนะคะ”
“มาได้ไง?”
“นั่งรถมาคะ”
“ตามฉันมา?”
“ก็...ประมาณนั้น” ฉันส่งยิ้มไปให้พี่เวลล์อย่างไร้เดียงสา แต่คนตรงหน้านี่สิกลับทำหน้าไม่พอใจใส่กันอีกตามเคย ฉันไม่ได้ไปแอบดูหรือแอบฟังตอนที่พวกเขาทำเรื่องนั้นกันสักหน่อย ฉันนี่มันผิดตลอดเวลาเลยใช่ไหมในสายตาของเขาเนี่ย
“มีอะไรเหรอคะเวลล์”
ผู้หญิงน่าตาน่ารักเดินออกมาจากในห้อง เธอมองมาที่ฉันด้วยท่าทางงุนงง ไม่งงสิแปลกเพราะอยู่ดีๆมีเด็กที่ไหนไม่รู้ว่ายืนอยู่หน้าห้องแบบนี้ แต่เพียงไม่นานเธอก็เดินเข้าไปควงแขนพี่เวลล์อย่างกับเป็นเจ้าของของเขา
“เธอมาหาใครแล้วมีธุระอะไรกับคุณเวลล์”
“ฉันมาหาผู้ชายที่เจ๊กำลังยืนกอดแขนเค้าอยู่นี่ไงล่ะ ปล่อยได้แล้วมั้งแขนพี่เวลล์ลอกออกมาเป็นตัวเลขแล้วอ่ะ” ก็เล่นเอานมถูกซะขนาดนี้แขนของเขาถลอดปอกเปิกไปหมดแล้ว
“เธอมีธุระอะไรกับเขา?”
“แล้วเจ๊ยุ่งไรด้วยไม่ใช่เมียเค้าสักหน่อยทำมาเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ” ฉันยืนกอดอกตอบกลับไป
เอาจริงๆฉันไม่ค่อยชอบพวกผู้หญิงของพี่เวลล์เท่าไรเลย ไม่ถูกชะตากับฉันสักคน อันที่จริงไม่ว่าใครเข้ามาหาพี่เวลล์ก็ไม่ถูกทั้งนั้นแหละ ก็ฉันหวงของฉันอ่ะมันผิดตรงไหนกัน
“กลับไปได้แล้ว” พี่เวลล์ที่เงียบอยู่นานก็โพล่งขึ้นมาพร้อมกับสลัดแขนออกมาจากการเกาะกุมของเธอ แล้วตรงเข้ามากระชากแขนฉันให้ออกเดินตามไปกับเขา ถึงแม้ว่าจะเป็นการกระชากแต่อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เลือกฉันอ่ะ
ปริ่มมากค่ะ
พี่เวลล์ยังคงออกแรงกระชากฉันเดินเข้าไปในลิฟต์ก่อนจะผลักฉันอย่างแรงจนไปกระแทกเข้ากับผนังลิฟต์ นี่จะรุนแรงเกินไปหน่อยไหม ฉันยังไม่เห็นว่าตัวเองจะทำอะไรเลยนะ
ฉันหันไปมองคนตรงหน้าก็เห็นว่าเขาเองก็มองฉันอยู่ก่อนแล้ว ทำให้เราสองคนสบตากันเข้าโดยบังเอิญ และฉันก็ไม่คิดที่จะเป็นฝ่ายหลบตาด้วย ฉันก็โกรธเป็นเหมือนกันนะ พ่อแม่เลี้ยงฉันมาอย่างดีท่านไม่เคยทำร้ายฉันเลยสักนิด
แล้วนี่อะไรมาผลักฉันเพียงเพื่อผู้หญิงคนนั้น
ฉันก็ได้แค่คิดและพูดในใจเท่านั้นล่ะ เพราะฉันรู้ว่าพี่เวลล์ไม่มีทางจะชายตาแลฉันอยู่แล้ว แต่ถ้าคิดว่าการที่เขาใช้ความรุนแรงกับฉันแล้วจะทำให้ฉันเลิกตามเขาแล้วล่ะก็ ไม่มีทางเด็ดขาดเลย
ยังไงซะฉันก็จะตามเขาไปจนสุดล่าฟ้าเขียวเลยคอยดู อยากเกลียดนักใช่ไหม เกลียดไปเลย เพราะโบราณท่านว่าไว้ เกลียดอะไรมักได้อย่างนั้น สักวันหนึ่งฉันกับพี่เวลล์เราจะต้องได้เป็นแฟนกันแน่ๆ
“อย่าตามฉัน”
พี่เวลล์พูดด้วยน้ำเสียงที่คนฟังอย่างฉันถึงกับผวาเลย น้ำเสียงของเขาน่ากลัวมากเหมือนต้องการที่จะขู่ให้ฉันเลิกยุ่งกับเขา แต่ฉันไม่กลัวหรอกนะเพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาขู่ฉันสักหน่อย
“ต่อไปนี้ฉันจะไม่ใจดีกับเธอเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วนะ เพราะต่อไปฉันเอาจริงถ้าไม่อยากเสียตัวก่อนเรียนจบก็เลิกซะ”
พอได้ฟังอย่างนั้นน้ำตาฉันมันก็ลื่นไหลลงมาทันที ฉันไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าพี่เวลล์มาก่อนเลยนะ เพราะฉันอยากเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งเพื่อที่จะได้คู่ควรกับเขา
พี่เวลล์ดูจะผงะไปเลยที่เห็นว่าฉันยืนร้องไห้ต่อหน้าเขาแบบนี้ อยากจะเดินหนีแต่ก็คงทำไม่ได้เพราะว่าเราอยู่ในลิฟต์ ฉันปาดน้ำตาตัวเองออกก่อนจะเอ่ยถามเขาออกไป
“การที่ฉันตามพี่มันผิดมากเหรอคะ?”
“...” เขาไม่ตอบและไม่ยอมสบตากับฉันด้วย
“พี่ไม่รู้หรอกค่ะว่าการที่เรารักใครสักคนแล้วตามดูเค้าแบบนี้มันมีความสุขมากแค่ไหน” ฉันเดินเข้าไปใกล้เขามากกว่าเดิม จนเขาถอยหลังไปชนกับผนังลิฟต์ก่อนจะยอมเงยหน้าสบตากับฉัน “ต่อให้เค้าจะมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น แค่ได้ติดตามเขาแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว”
“...”
“แต่พี่คงไม่เข้าใจ เพราะพี่ไม่เคยต้องมาตามตื๊อมีแต่คนเข้าหาตลอด”
“...” พี่เวลล์เงียบ เงียบมากเลยล่ะ ใบหน้าของเขาตอนนี้นิ่งมาก มันนิ่งจนน่ากลัว เหมือนกับว่าตอนนี้เขาไม่มีความรู้สึกอยู่เลย
ฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า หรือว่าคำพูดของฉันมันไปกระทบปมในใจของเขาเหรอ หรือว่าเขากำลังประมวลคำพูดของฉันอยู่ แล้วทำไมต้องเงียบขนาดนี้ด้วยล่ะ
“ฉะ...ฉันขอโทษค่ะ” ฉันยกมือไหว้ขอโทษพี่เวลล์ทันที เพราะกลัวว่าเขาจะโกรธที่ฉันพูดอะไรไปไม่คิด เขาเบือนหน้าหนีเหมือนจะบอกทางการกระทำว่าไม่รับคำขอโทษจากฉันยังไงยังงั้นเลย
ติ๊ง!
ประตูลิฟต์เปิดออกพี่เวลล์ก็เดินหนีไปในความมืดทันที ทิ้งฉันเอาไว้ให้อยู่คนเดียวและกลับคนเดียวอีกตามเคย ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาไม่พอใจฉันเรื่องอะไร แต่ก็คงจะเป็นเพราะคำพูดของฉันแหงๆ
พี่เวลล์มีเรื่องแบบนี้อยู่ในใจด้วยเหรอ ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาเคยเป็นเหมือนฉันมาก่อน ใครกันนะที่กล้าเมินคนหล่ออย่างเขา แต่ก็ดีแล้วนี่นาเพราะถ้าพวกเขาได้คบกัน แล้วฉันล่ะจะไปอยู่ส่วนไหนของพวกเขากัน
วันต่อมา
“ไม่เห็นจะยากเลยแกก็ไปถวายตัวให้เค้าสิ” นี่คือความคิดเห็นของเพื่อนรักฉันอย่างมีมี่ อยากจะรู้จริงๆว่ายัยนี่มันห่วงเพื่อนบ้างหรือเปล่า อยากได้คำปรึกษาแต่กลับมาได้ยินคำพูดบ้าๆอะไรก็ไม่รู้
“นอกจากพี่เวลล์จะไม่เอาแล้ว เค้ายังจะถีบหัวส่งกลับมานะสิ”
ฉันนั่งฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงเพื่อที่จะให้พี่เวลล์หายโกรธ นี่ก็นอนคิดมาทั้งคืนแล้วนะ เพราะถ้าเขาไม่หายโกรธ ฉันจะมีหน้าไปเจอเขาได้ยังไงกันล่ะ อยากจะบ้าตาย
“เออ!ก็จริงเพราะฟังจากที่แกเล่าแล้วพี่เวลล์คงจะเกลียดแกเข้าไส้เลยล่ะ”
“รู้แล้วไม่ต้องย้ำ” ฉันไม่น่ามาเล่าให้มันฟังเลย เป็นไงล่ะปรึกษาผิดคนได้กลายเป็นงี้เลย ปวดหัวกับเรื่องของพี่เวลล์จะแย่อยู่แล้วยังต้องมาปวดหัวกับเพื่อนที่มันไม่ได้ช่วยอะไรฉันเลย
“แต่ก็น่าแปลกนะที่พี่เค้าเมินแกแบบนี้” มีมี่นั่งเท้าคางทำหน้าครุ่นคิดไปด้วย ฉันไม่เห็นว่ามันจะแปลกตรงไหนเลย ก็คนไม่ชอบเขาก็ต้องเมินกันมันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว “แกสวยกว่าผู้หญิงพวกนั้นตั้งเยอะ พี่เวลล์ของแกเค้าได้ฉายาเสื้อผู้หญิงเชียวนะ”
“แล้วมันยังไง?”
ทำไมต้องชอบพูดวกไปวนมาด้วย พูดไปทีเดียวให้เข้าใจไม่ง่ายกว่าเหรอ ฉันละเบื่อจริงๆเลยพวกที่ชอบพูดอะไรไม่เข้าใจสักที พี่เวลล์เองก็เหมือนกันคำพูดของเขามักกำกวมไปหมดจนฉันเองก็ไม่เข้าใจอยู่หลายเรื่อง
แต่ช่างเถอะ! เขาก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ฉันน่าจะชินไปสักทีนะ
“อีกอย่างเค้าก็ชอบผู้หญิงสวยๆด้วย เค้าไม่น่าจะเมินแกนะ” นี่ใช้หัวสมองคิด หรือใช้หัวแม่โป้งเท้าคิด ก็เพิ่งบอกไปเมื่อกี้ว่าเขาเกลียดฉันจะไม่ให้เขาเมินฉันมันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากเลย
“ก็เมินไปแล้วไง”
“แกตามตื๊อพี่เค้ามาตั้งนานอย่างน้อยพี่เค้าก็น่าจะมีซัมธิงรองอะไรกับแกบ้างสิ”
“อะไรของแกซัมธิงรอง?” ฉันเลิกคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ ถ้ามันเป็นศัพท์ของวันรุ่นฉันนี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย เพราะฉันไม่ค่อยติดตามอะไรนอกจากพี่เวลล์ มีมี่หน้าแดงขึ้นมาทันทีเหมือนว่าได้อยู่ใกล้พี่เวลล์อย่างนั้นล่ะ
“แบบว่ารู้สึกชอบหรืออยากอยู่ใกล้ไรงี้”
“อย่าบ้านา ถ้าพี่เวลล์อยากอยู่ใกล้ฉันเค้าจะไล่ตะเพิดฉันแบบนี้ป่ะ แล้วไหนจะสั่งห้ามไม่ให้ฉันไปหาเค้าอีก นี่เหรอคนที่ชอบเค้าทำกัน” ฉันฟุบหน้าลงกับโต๊ะอย่างคนหมดอะไรตายอยาก
เรื่องตัดใจฉันคิดมาหลายครั้งแล้วแต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้สักครั้ง ฉันรักพี่เวลล์รักมากด้วย ฉันตัดใจไม่ได้หรอกนะ มีมี่เองก็เคยบอกว่าโดยเขาทำร้ายจิตใจมาขนาดนี้แล้วยังจะไปชอบเขาอีก ก็ฉันรักของฉันไปแล้วอ่ะจะให้ทำยังไงได้ล่ะ นอกจากทำใจยอมรับผลของมัน
และฉันก็เคยบอกไปแล้วว่าถ้าขีดความอดทนของฉันสิ้นสุดลงแล้วพี่เวลล์ยังไม่ยอมมองฉันฉันก็พร้อมที่จะตัดใจแล้วเริ่มต้นใหม่ทันที เพียงแต่ตอนนี้ฉันยังทนได้
ฉันยังอยู่ยงคงกระพัน
“ถ้าเค้าชอบแกเค้าจะบอกแกตรงๆปะล่ะ?” ฉันเงยหน้ามองมีมี่ที่ยังคงพูดพล่ามไม่เลิกพร้อมกับคิดตามมันไปด้วย “อย่างลืมนะว่าเค้าเสือผู้หญิง เค้าไม่เมินผู้หญิงอย่างแกแน่ๆ แต่ที่เค้าเมินแกแบบนี้เป็นเพราะอะไรถ้าไม่ใช่กำลังหนีหัวใจตัวเองอยู่”
เออ!มันก็จริง พี่เวลล์ไม่มีทางเมินผู้หญิงสวยอย่างฉันไปได้หรอก ทียัยแป้งไม่ได้เข้าข่ายของคำว่าสวยเลยพี่เวลล์ยังจะพาเข้าโรงแรม
แต่มันก็อดคิดไม่ได้นี่นาว่าที่เขาทำเป็นรังเกียจฉันอาจจะเป็นเพราะว่าเขามีอคติอะไรกับฉันก็ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่เมินกันอย่างนี้หรอก
“แล้วนี่แกจะเอายังไงจะเดินหน้าต่อหรือจะหยุด”
“แกก็น่าจะรู้คำตอบอยู่แล้วนะมีมี่ยังจะมาถามฉันอีก เรื่องแบบนี้หยุดก็โง่นะสิ ฉันไม่มีวันหยุดเด็ดขาดตราบใดที่ความตั้งใจของฉันยังไม่บรรลุผลสำเร็จ”
เอาละฉันจะต้องลุกขึ้นสู้อีกครั้ง มาทำตัวห่อเหี่ยวแบบนี้มันไม่ใช่ฉันเลย พี่เวลล์ก็ทำเย็นชาใส่ฉันมาตั้งนานแล้วฉันควรจะชินมันสักที
ฉันจะเอาสุภาษิตนี้มาท่องให้ขึ้นใจเลย เกลียดอะไรมักได้อย่างนั้น พี่เวลล์เกลียดฉันมันก็ต้องมีสักวันที่เขารักฉันบ้างละนา คนนะไม่ใช่พระอรหันต์ที่จะไม่สนใจผู้หญิงเลย
วิวาห์เธอต้องสู้ สู้เพื่อเอาชนะใจผู้ชายเย็นชาอย่างพี่เวลล์ให้ได้
“ก่อนที่จะแกเดินหน้าต่อฉันว่าแกเข้าเรียนก่อนไหมนี่มันเลทมายี่สิบนาทีแล้วนะ”
“เออๆรู้แล้ว”
พอมาถึงห้องเรียนฉันก็ลากมีมี่มานั่งหลังห้องเพื่อที่จะได้คุยได้สะดวก แต่ฉันคิดว่าตัวเองคิดผิด เพราะดันมีผู้ชายคนหนึ่งมานั่งข้างฉันนี่สิ ยังไม่พอนะเขายังเอียงหูฟังเรื่องที่ฉันคุยกับมีมี่อย่างเสียมารยาทที่สุด ไม่ได้รู้จักกันซะหน่อย แต่ทำตัวเหมือนว่าเรารู้จักกันมาเป็นปี อีกอย่างยังจะมาสอดรู้สอดเห็นเรื่องของชาวบ้านอีก
“ฉันเอส”
เฮือก!!!
ตกใจหมดเลยจู่ๆผู้ชายที่ฉันนินทาเขาในใจกับโพล่งขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ยไหนจะเอานิ้วชี้มาสะกิดไหล่ฉันอีกล่ะ เสียมารยาทไม่พอต้องบอกว่านิสัยแย่มากด้วย คนจะรู้จักกันเขาไม่เอานิ้วมาสะกิดแบบนี้หรอกนะ
อีกอย่างฉันไม่อยากรู้จักเขาด้วย เขาเป็นผู้ชายที่หล่อมากเลยล่ะ แบบว่าเป็นนายแบบได้เลยนะนั่น แต่ยังไงพี่เวลล์ก็เป็นที่หนึ่งในดวงใจของฉันเสมอ
“อื้ม!” ฉันตอบกลับไปแค่นั้นเพราะไม่อยากเสวนาด้วย
ดูจากท่าทางแล้วคนตรงหน้าฉันคนนี้คงหยิ่งไม่ใช่น้อย แต่ที่ยอมมาพูดกับฉันก็คงจะเห็นว่าฉันเป็นผู้หญิงสวยล่ะมั้ง ผู้ชายก็งี้แหละหน้าหม้อกันทุกคน จะมีสักคนไหมนะที่คิดจะจริงจังกับผู้หญิงแค่คนเดียว ฉันว่าโลกนี้ไม่มีแน่
“ไม่คิดจะบอกชื่อเธอบ้างเหรอ?”
“ฉันมีมี่” มีมี่ที่เห็นว่าฉันกำลังคุยกับเอสก็หันมาคุยด้วย เมื่อกี้เธอคงได้ยินว่าฉันกำลังคุยอะไรกันอยู่
“อ่าฮะ แล้วเธอล่ะคนสวย?” เขารับคำมีมี่ก่อนจะหันมาถามฉันพร้อมกับยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยว
“วิวาห์” ฉันจำใจต้องตอบ เพราะไม่อยากดูเสียมารยาท
ฉันไม่ค่อยชอบผู้ชายแบบนี้ เขาไม่ได้ดูน่าเกลียดนะออกจะหล่อเหลาด้วยซ้ำ แต่นิสัยแบบนี้ดูก็รู้ว่าไม่ได้คิดจะจริงจัง และฉันก็เจอแบบนี้มาบ่อยจนชินไปแล้วล่ะ
“ชื่อน่ารักว่ะเหมือนหน้าตาเลย”
“ใครๆก็ว่างั้น” ฉันยักไหล่ตอบกลับไป เพราะสิ่งที่เขาพูดมามันเป็นเรื่องจริง ทุกคนที่ได้รู้จักชื่อฉันและหน้าตาฉันต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน่ารัก
“ไม่คิดจะถ่อมตัวเลย?” เขาเลิกคิ้วถามกลับมา ทำให้ฉันต้องหันไปจ้องหน้าเขาเขม็ง
“ก็ฉันสวย ฉันน่ารักจะถ่อมตัวไปทำไม” เขาพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันจนปลายจมูกของเราชนกัน
และนั่นทำให้หัวใจฉันเต้นแรงจนฉันต้องรีบผละออก แปลกมากฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนเลย นอกจากพี่เวลล์ แต่นี่กลับมารู้สึกวูบวาบกับใครที่ไหนก็ไม่รู้
“ฉันก็หล่อ” เขาเอี้ยวตัวกลับไปทำให้ฉันหายใจได้สะดวกขึ้น ฉันไม่เถียงหรอกนะว่าเขาไม่หล่อ เพราะเขาหล่อจริงๆ อาจจะสูสีกับพี่เวลล์ด้วยซ้ำ
“มาบอกทำไม?” ฉันพยายามกลบเกลื่อนหัวใจที่มันเต้นแรงของตัวเองเอาไว้ด้วยการโต้ตอบกับคนตรงหน้ากลับไป
“เธอก็สวย ฉันเองก็หล่อเข้ากั๊นเข้ากันว่าป่ะ?” คิดได้ไง ฉันเองก็เคยใช้คำพวกนี้พูดกับพี่เวลล์นะ เพิ่งรู้ว่ามันไร้สาระก็วันนี้แหละ ฉันเบ้ปากใส่คนตรงหน้าก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น เพราะไม่อาจสู้สายตาของเขาที่กำลังมองฉันไม่ละสายตาไปไหนได้ “เอาล่ะต่อจากนี้ไปเธอกับฉันเราจะได้รู้จักกันมากขึ้น”
“แต่ฉันไม่อยากรู้จักกับนาย” ฉันสวนกลับไปทันที
อดไม่ได้ที่ไม่ตอบโต้อะไรกับไปเลย ฉันไม่ชอบให้เขามาพูดจาอะไรแบบนี้กับฉัน พูดตามความจริงเลยคือฉันหวั่นไหว ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้มาก่อน ฉันมั่นคงกับพี่เวลล์มาโดยตลอด แต่นี่ฉันกลับจะทำผิดต่อเขา ไม่ได้เด็ดขาดเลย ฉันจะต้องไม่รู้สึกแบบนี้กับใครสิ
“นั่นมันก็เรื่องของเธอ”
เอสยังคงระบายรอยยิ้มออกมา พร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันอีกครั้ง เขาไม่รู้ตัวเลยหรือไงว่าเรากำลังอยู่ในห้องเรียน ถึงแม้ว่าจะนั่งอยู่ข้างหลังก็เถอะ ถ้าอาจารย์หันมายังไงก็ต้องเห็นสิ่งที่เขาทำกับฉัน
“เอาหน้าออกไปได้แล้ว” ฉันดันหน้าเขาให้ออกห่างจากฉัน เพราะกลัวว่าอาจารย์จะเห็นแล้วคิดไปไกลว่าเราสองคนกำลังจะทำเรื่องอย่างว่ากันในห้องเรียน
“ฉันมีเรื่องจะบอก” เห็นรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์แบบนี้ ฉันแทบไม่อยากรู้เลยว่าเขาจะบอกอะไร มันต้องไม่ใช่เรื่องดีกับตัวฉันแน่ ฉันมองหน้าเขาอย่างแปลกใจ ทำให้ไม่ระวังตัวโดนเขายื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มอย่างรวดเร็ว
“อะ...ไอ้” ฉันกำลังจะอ้าปากด่าคนตรงหน้าที่ฉกฉวยแก้มฉัน แต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อเขาพูดประโยคที่ทำเอาฉันอึ้งไปเลย
“ฉันจะจีบเธอ”
-100 %-
-โผล่มาจากไหน?-
มาแย่งซีนพี่เวลล์ไปหมดเลย 5555555555555
นี่เล่นใหญ่ถึงขนาดที่ออกปากจะจีบนางเอกเราเลยนะเออ
อีพี่เวลล์มีคู่แข่งแล้ว ถ้ายังเมินวิวาห์อยู่แบบนี้ระวังจะโดนแย่ง 555555555
รู้นะว่ารีดบางคนอยากให้มีคนมาแย่งวิวาห์ไปใช่ม้ะ อิอิ
เม้นท์เท่าที่ใจรีดเดอร์มีต่อพี่เวลล์กับน้องวิวาห์เลยงับ
เม้นท์เยอะ กำลังใจแยะ เดี๋ยวรีบมาอัพให้เยย
REDD : คลิก https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1523796
WELL : คลิก https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1523796
-ฝากเพจอีกสักที-
ความคิดเห็น