ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You Are The Light สัมผัสรักแวมไพร์เจ้าเสน่ห์

    ลำดับตอนที่ #22 : ความรัก

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ค. 61












    ความรัก
         

         "ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนคุณมั้ย?"
         เซอร์คัสเดินมานั่งข้างฉันที่เตียงพร้อมกับวาดแขนโอบไหล่ฉันเอาไว้ ตัวเขาเย็นเฉียบทำให้ฉันสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ผละออกจากเขา ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงยังให้เขาเข้าใกล้ขนาดนี้ทั้งที่ประกาศกับตัวเองแล้วว่าจะไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้อีก
         "เผื่อว่าคุณไม่มีเพื่อน"
         "จีไม่เป็นไรแล้วค่ะ" ฉันรีบปฏิเสธเขากลับไปทันที ถึงแม้ว่าจะอยากให้เขาอยู่ก็เถอะ อย่าลืมนะว่าเมื่อตอนกลางวันเขาทำให้ฉันเสียใจ ต่อให้เขาจะมาช่วยฉันเอาไว้แต่ฉันก็ยังเคืองๆ เขาอยู่
         หัวใจของฉันตอนนี้มันยังไม่ปกติดีด้วย มันบอบบางเกินไปที่จะต้องมาเผชิญหน้ากับเขาโดยตรงแบบนี้ ขอเวลาให้ฉันหน่อยเถอะให้หัวใจฉันมันเข้มแข็งกว่านี้ ฉันคงจะกล้าเผชิญหน้าคุยกับเซอร์คัสได้เหมือนเดิม
         ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกยังไง แต่บอกเลยว่าฉันไม่โอเคเอามากๆ ที่เห็นว่าเขาจูบกับผู้หญิงคนอื่น คงไม่มีใครโอเคหรอกถ้าคนที่เราชอบไปทำแบบนั้น แต่ฉันก็ไม่มีสิทธิ์ห้ามเขาได้เพราะเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน
         ความรู้สึกของฉันมันดูสับสนวุ่นวายไปหมด แบบนี้มันเรียกว่าความรักหรือเปล่า ถ้าใช่ ก็แสดงว่าฉันกำลังตกหลุมรักเซอร์คัสเข้าแล้วจริงๆ แต่ก็คงไม่แปลกเพราะเขาเป็นแวมไพร์ที่หล่อเหลามาก ผู้หญิงคนไหนได้เข้าใกล้เป็นต้องตกหลุมรักกันหมดแหละ
         "คุณยังโกรธผมอยู่?" คนตรงหน้าเลิกคิ้วถาม เขาคงสังเกตเห็นสีหน้าของฉันล่ะมั้งถึงได้ถามแบบนี้ ก็ดีแล้วฉันเองก็อยากให้เขาได้รับรู้ความรู้สึกของฉันบ้างว่าฉันโกรธและไม่พอใจที่เขาไปทำแบบนั้น
         "ค่ะ" ฉันตอบรับกลับไป ไม่รู้ว่าจะปิดบังไปเพื่ออะไร เพราะยังไงเขาก็ต้องรู้อยู่ดี 
         "เรื่องเมื่อตอนกลางวัน..."
         "ถ้ามันทำให้คุณลำบากใจไม่ต้องพูดก็ได้นะคะ" ฉันพูดสวนเขาขึ้นมาอย่างเสียมารยาท อีกอย่างนึงฉันคงรับไม่ได้ถ้าเขาจะบอกว่าเมื่อตอนกลางวันที่เขาจูบกับผู้หญิงคนอื่นเป็นเพราะเขารักเธอมาก มันคงเจ็บน่าดู แค่นี้ฉันก็เจ็บมากพออยู่แล้ว มันไม่เหลือพื้นที่ว่างให้เจ็บได้อีกแล้วล่ะ
         "ผมอยากอธิบายให้คุณฟัง ผมไม่อยากให้คุณเจ็บ" เซอร์คัสจูบหน้าผากฉันหนักๆ พร้อมกับเริ่มอธิบายเรื่องราวให้ฉันฟัง "ผมไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น และผมก็ไม่ต้องการให้คุณต้องมาเจ็บปวดเพราะผม ผมทนเห็นสาวน้อยของผมเจ็บไม่ได้"
         O_O ไม่อยากเชื่อเลยว่าเซอร์คัสจะพูดแบบนี้ออกมา มันทำให้ฉันอึ้งมากเลยนะ หน้าฉันร้อนผ่าวขึ้นมาเหมือนยกดวงอาทิตย์ทั้งดวงมาไว้ที่หน้าฉันเลย แต่ฉันไม่รู้นี่นาว่าสิ่งที่เขาพูดจะเป็นเรื่องจริงหรือแค่คำโกหกของแวมไพร์ ฉันรู้จักเขาได้ไม่นานด้วยซ้ำ บางทีเขาอาจจะพูดเพื่อให้ฉันตายใจก็ได้ ใครจะไปรู้
         "คุณจูบเธอ"
         ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วในเมื่อเขารู้ว่าฉันคิดยังไงกับเขา ก็ไม่จำเป็นต้องปิดมันอีกต่อไป คุยกันให้รู้เรื่องไปเลย จะได้ไม่ต้องมาคาราคาซังแบบนี้ ฉันเองก็อยากรู้ว่าเขาจูบผู้หญิงคนนั้นทำไม
         "คุณก็รู้ว่าผมเป็นแวมไพร์" เซอร์คัสกระซิบที่ข้างหูฉันเล่นเอาฉันเสียวสันหลังวาบเลย มันรู้สึกเย็นๆ อ่ะเหมือนเอาน้ำแข็งมาโดนยังไงยังงั้นเลย
         "มันเกี่ยวอะไรกับการที่คุณจูบผู้หญิงถึงสองคน?"
         "คุณรู้" ร่างสูงถึงกับสะดุ้งตกใจไปเลยล่ะ เขาคงไม่รู้ว่าฉันรู้เรื่องที่เขาจูบผู้หญิงอีกคนที่ป่าสีเงิน
         "วันนั้นจีตามหาคุณ" ฉันบอกเขาแค่นั้น เขาพยักหน้าอย่างเข้าใจว่าทำไมฉันถึงรู้เรื่องนี้ได้
         "ผมต้องดื่มเลือดเป็นอาหาร"
         "แล้ว?"
         "ถ้าผมได้ดื่มเลือดหญิงสาวมันจะทำให้ผมมีพละกำลังมหาศาล ผมก็เลยต้องล่อให้พวกเธอมาติดกับก่อนจะดูดเลือด"
         O๐O ช็อกตาค้างเลย ดื่มเลือดอย่างนั้นเหรอ? นี่ฉันรอดมาได้ยังไงเนี่ยไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเซอร์คัสจะไว้ชีวิตฉัน งั้นแสดงว่าเขาฆ่าผู้หญิงพวกนั้นงั้นสิ
         "แต่ผมไม่เคยฆ่าใครถึงตาย ผมแค่ต้องการเลือดเพื่อดับความหิวกระหายของตัวเองก่อนจะฉีดยาฆ่าไวรัสให้เธอ" เซอร์คัสอธิบายต่อ ฉันทำได้แค่นั่งฟังเขาอย่างเงียบๆ "เพื่อที่พวกเธอจะได้ไม่กลายร่างเป็นเหมือนผม และจะทำให้เธอจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้"
         ทำไมมันน่ากลัวอย่างนี้
         ฉันโชคดีมากเลยนะที่เขาไม่ทำอะไรฉันน่ะ 
         ฉันเพิ่งเข้าใจเซอร์คัสก็วันนี้นี่เอง ว่าแล้วเชียววันแรกที่ฉันไปหาเขาที่ป่าสีเงิน ฉันก็เห็นว่าเขากำลังดูดเลือดผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงไม่ทำอะไรฉันทั้งที่เขาเองก็มีโอกาสฆ่าฉัน
         "ทำไมคุณไม่ทำจีเหมือนที่ทำกับพวกเธอล่ะคะ?" ไวกว่าความคิดปากก็พลั่งถามออกไปจนได้ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เซอร์คัสวาดแขนมาโอบไหล่ฉันเอาไว้ ความเย็นจากตัวเขาทำให้ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจ
         "เพราะคุณไม่เหมือนคนพวกนั้น" ร่างสูงก้มจูบหน้าผากฉันอย่างแผ่วเบา "คุณมีค่ากับผมมาก ถ้าผมทำกับคุณแบบนั้นผมคงใจร้ายน่าดู"
         "..."
         "ผมทำร้ายสาวน้อยของผมไม่ได้ครับ" หน้าฉันร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเซอร์คัสพูดออกมาแบบนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะพูดบ่อยแต่ฉันก็ไม่ชินอยู่ดี ดีใจนะที่เขาพูดแบบนี้และไม่ยอมทำร้ายฉัน
         แต่ถึงยังไงฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมเขาต้องจูบคนพวกนั้นด้วย แค่ดูดเลือดเสร็จแล้วก็ฉีดยาฆ่าไวรัสให้ก็น่าจะพอแล้วนี่นา หรือว่ามันจะเป็นผลพลอยได้ของเขาที่เขาคิดอยากทำเองมากกว่า แถมยังจูบแบบดูดดื่มด้วยอ่ะ นึกถึงทีไรมันก็ทำให้ฉันหงุดหงิดทุกทีเลย
         ถ้างั้นต่อไปถ้าเขาต้องดูดเลือดผู้หญิงคนอื่นเขาก็ต้องจูบแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ใช่มั้ย ฉันคงทนไม่ได้หรอกนะที่จะให้เซอร์คัสไปจูบกับผู้หญิงคนอื่น แค่นี้ฉันก็เจ็บมากพออยู่แล้ว และถ้ามันต้องเกิดเรื่องขึ้นซ้ำๆ อยู่แบบนี้ฉันก็อยากให้เขาดูดเลือดฉันคนเดียวดีกว่า อย่างน้อยเขาก็ได้จูบกับฉันแค่คนเดียว
         "คุณคงสบายใจได้แล้วนะสาวน้อย"
         "ไม่ค่ะ"
         ฉันสวนกลับไปทันที ใครจะสบายใจได้ เรื่องแบบนี้ไม่มีใครสบายใจได้ง่ายๆ หรอกนะ ถ้าฉันไปจูบกับผู้ชายคนอื่นเขาจะโอเคแล้วสบายใจหรือเปล่าล่ะ ฉันว่าคงไม่หรอกนะ เพราะตอนที่แฟรงค์มาหาฉันเขายังโมโหฟาดงวงฟาดงาเลย นี่จูบเลยนะฉันว่าเขาคงไม่เอาผู้ชายคนนั้นเอาไว้แน่
         เซอร์คัสเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ฉันปัดมือเขาที่โอบไหล่ฉันไว้ออกแต่เขาก็ยังโอบฉันเอาไว้เหมือนเดิม แวมไพร์เป็นเหมือนกันหมดเลยหรือเปล่านะ ทำให้เสียใจแล้วค่อยมาขอโทษ ใช้ได้ที่ไหนกัน
         "คุณมีอะไรข้องใจอีก?" น้ำเสียงของเซอร์คัสบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเบื่อหน่ายฉันมากแค่ไหน ฉันไม่ได้คิดไปเองนะแต่ฉันสัมผัสมันได้
         "ทำไมต้องจูบด้วยคะ ไม่เห็นต้องทำขนาดนั้นเลย" พอได้ฟังคนตรงหน้าก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเสียงดัง ทำให้ฉันตีแขนเขาเพื่อให้หยุดล้อฉัน "หัวเราะทำไมคะจีซีเรียสอยู่นะ"
         "หึงผมเหรอ?"
         ฉันกำลังถามเขาอยู่นะ ไม่ได้ให้เขามาถามฉันกลับแบบนี้บ้าหรือเปล่า แล้วเรื่องอะไรฉันจะบอกออกไปล่ะว่าหึง ไม่มีทางหรอก ฉันไม่อยากให้เขาได้ใจ
         "กะ...ก็แค่อยากรู้เท่านั้นเอง"
         "งั้นเหรอ?" พูดแบบนี้เหมือนประชดกันเห็นๆ อ่ะ แต่เขาก็ยอมตอบคำถามของฉัน "ที่ผมต้องจูบเพื่อทำให้พวกเธอเคลิ้มจะได้ไม่เจ็บปวดตอนที่ผมฝังเขี้ยวลงบนซอกคอของเธอก็เท่านั้น"
         "คุณก็คงต้องจูบกับผู้หญิงทุกคนที่คุณคิดจะดื่มเลือดเธอ" ฉันพูดอย่างตัดพ้อน้อยใจ ฉันคงต้องทำใจใช่มั้ยที่ให้เขาไปทำแบบนั้นกับคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน ให้คนอื่นได้กอดได้จูบเขาโดยที่ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลย
         "ไม่ขนาดนั้นหรอก" เซอร์คัสก้มลงมากระซิบที่ข้างหูฉันแผ่วเบา ราวกับว่ากลัวใครจะมาได้ยิน ทั้งที่ในบ้านมีแค่ฉันกับเขาเท่านั้น "เมื่อไหร่ที่เรามีอะไรกันผมก็ไม่จำเป็นต้องจูบกับคนอื่นอีกต่อไป"
         มีอะไรกัน? บ้าไปแล้ว มันเป็นเรื่องที่บ้าที่สุด ฉันจะไม่ทำแบบนั้นแน่ เรารู้จักกันได้ไม่นานด้วยซ้ำ อีกอย่างฉันก็กำลังเรียนอยู่ด้วย เรื่องนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นกับฉัน
         "ไม่ต้องกลัวผมไม่ทำคุณตอนนี้หรอกสาวน้อย"
         ไม่ทำตอนนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ทำใช่ไหม?
         ผีอย่างเขานี่มันไว้ใจไม่ได้จริงๆ สินะ ทำไมกระล่อนได้ขนาดนี้กัน เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเจอ ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องแบบนี้มันจะมีอยู่บนโลกด้วย และฉันดันได้รับสิทธิพิเศษที่ได้เข้าไปพัวพันกับผีดูดเลือดอย่างเซอร์คัสได้
         "จำตอนที่ผมจูบคุณครั้งแรกได้มั้ย?" เซอร์คัสยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูฉัน ทำเอาฉันขนลุกซู่ อย่าลืมนะว่าตัวเขาเย็นเฉียบอ่ะ
         "จะ...จำได้ค่ะ" ฉันก้มหน้าพร้อมกับตอบเขาไป ตอนนี้ไม่กล้ามองหน้าเขาด้วยซ้ำ ก็เล่นมาถามอะไรแบบนี้ แล้วฉันจะทำยังไงได้ล่ะ อีกอย่างเราก็อยู่ด้วยกันในห้องด้วย ถ้าเขาคิดจะทำอะไรฉันขึ้นมาก็คงทำได้ไม่ยากหรอก
         "ผมบอกคุณว่าถ้าคุณคือรักแท้ของผม ผมจะสามารถโดนแสงแดดได้ และผมก็สามารถโดนมันได้จริงๆ" เดี๋ยวนะ เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับการที่เขาไปจูบผู้หญิงคนอื่นล่ะ ฟังยังไงก็ไม่เห็นเข้ากันเลยว่ามั้ย "ถ้าผมมีอะไรกับรักแท้ มันจะสามารถกลายสภาพให้ผมเป็นมนุษย์อย่างถาวร นั่นก็แปลว่าผมไม่จำเป็นที่จะต้องจูบกับผู้หญิงคนอื่นอีกต่อไป"
         O_O มันเป็นเรื่องจริงเหรอเนี่ย? เลวร้ายมากสำหรับฉัน และถ้าฉันเป็นรักแท้ของเซอร์คัสจริงๆ คนที่จะช่วยเขาได้ก็คงจะต้องเป็นฉันเพียงคนเดียวสินะ บ้ามากเลย! มีเรื่องอะไรที่บ้ามากกว่านี้อีกมั้ย อีกอย่างถ้าฉันไม่ยอมเขา ไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาจะต้องไปจูบกับใครต่อใครอีกบ้าง
         "ถ้าคุณไม่อยากให้ผมไปจูบกับผู้หญิงคนอื่น เราต้องมีอะไรกันสาวน้อย" จริงอยู่ที่ฉันไม่อยากให้เซอร์คัสไปจูบกับผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องยอมมีอะไรกับเขา ฉันเพิ่งอายุสิบเก้าปีเองนะ เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับฉันไม่ได้แน่ๆ
         "เซอร์คัส คะ...คุณถอดเสื้อทำไม?" ตอนนี้เขาเปลือยท่อนบน ทำให้ฉันตาโตอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เขารวดเร็วมากจนฉันไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ พอมารู้สึกตัวอีกทีเขาก็ถอดเสื้อตัวเองเรียบร้อยแล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแผงอกเขาจะขาวราวกับหิมะขนาดนี้ ซักใจไม่ดีแล้วนะ
         "พร้อมหรือยังสาวน้อย" เซอรคัสเดินเข้ามาโอบเอวฉันเอาไว้ให้ชิดตัวเขามากขึ้น เขาคิดจะแกล้งฉันหรือว่าจะทำเรื่องแบบนั้นจริงๆ กันแน่
         "ปะ...ปล่อยจีเดี๋ยวนี้นะคะ"
         "ทำไมล่ะ คุณไม่อยากให้ผมจูบกับผู้หญิงคนอื่นไม่ใช่เหรอ?"
         "แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำแบบนี้นี่คะ"
         "ทำแบบนี้? คิดว่าผมจะทำแบบไหน?"
         เซอร์คัสไม่ปล่อยให้ฉันได้พูดอะไร เขาก็ก้มลงมาประกบปากฉันทันที ก่อนจะเริ่มขยับริมฝีปากไปมา และเร่งจังหวะให้มันรุนแรงและเร่าร้อนมากยิ่งขึ้น จนฉันหายใจแทบไม่ออก นี่น่ะเหรอที่เขาเรียกกันว่าจูบแบบดูดดื่ม มันเป็นแบบนี้นี่เอง ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้หญิงพวกนั้นที่จูบกับเซอร์คัสถึงได้เคลิ้มนักหนา
         เพราะจูบของเขามันช่างอบอุ่นเหมือนต้องมนตร์สะกดยังไงก็ไม่รู้ >///<
         เซอร์คัสถอดริมฝีปากออกจากฉันเมื่อเห็นว่าฉันกำลังจะขาดอากาศหายใจ เขาไม่เคยจูบฉันแบบนี้มาก่อน มันเป็นจูบที่ลึกซึ้งมาก เล่นเอาฉันแทบสำลักน้ำลายตัวเอง ตอนนี้หน้าของฉันคงแดงเถือกไปหมดแล้วมั้งเนี่ย ไม่กล้ามองหน้าเขาตรงๆ เลย กลัวว่าเขาจะรู้ว่าฉันกำลังเขิน จะไม่ให้ฉันเขินได้ยังไงก็ตอนนี้เซอร์คัสเอาแต่จ้องมองหน้าฉันอยู่แบบนี้ เขาช่างต่างจากตอนบ่ายโดนสิ้นเชิงเลย ต่างกันราวฟ้ากับเหวแน่ะ
         "เมื่อกี้..."
         ร่างสูงยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันจนทำให้ปลายจมูกของเขาโดนเข้าที่แก้มฉันเต็มๆ นี่เขาตั้งใจจะทำให้มันโดนใช่มั้ย ไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้ฉันรู้สึกยังไง นี่ก็ไม่กล้าหันไปสบตากับเขาด้วย
         "คุณจูบตอบผมด้วย"
         "อะ...อะไรนะ?" ฉันเนี่ยนะจูบตอบเขา เป็นไปไม่ได้ คนที่จูบไม่เป็นอย่างฉันน่ะเหรอจะจูบตอบเขา มั่วเอาเองหรือเปล่า
         เอ๊ะ! หรือว่าฉันจูบตอบเขาจริงๆ แต่ตัวเองดันไม่รู้ตัว
         "ครับ" คนตรงหน้าไม่พูดเปล่าแต่ยังโอบกอดฉันเอาไว้ด้วยแขนทั้งสองข้างของเขาเพื่อไม่ให้ฉันหนีไปไหนได้ ถึงอยากจะหนีก็คงหนีไม่พ้นแล้วล่ะ ก็เขาเล่นกอดฉันแนบแน่นซะขนาดนี้
         "ปล่อยจีเถอะค่ะ"
         "คุณรังเกียจผมเหรอ?"
         คำนั้นไม่เคยมีอยู่ในหัวฉันเลย ฉันไม่เคยคิดรังเกียจเขามีแต่จะชอบมากกว่า ฉันชอบให้เขากอด ชอบให้เขามาดูแลฉันใกล้ๆ แต่เข้าใจมั้ยว่าตอนนี้เราอยู่ห้องนอนและอยู่ที่เตียงนอนเลยด้วย อีกอย่างตอนนี้เซอร์คัสก็ไม่ได้ใส่เสื้อด้วย ฉันไม่อยากให้อะไรมันเลยเถิดไปมากกว่านี้ แค่นี้ก็มากเกินไปแล้ว
         "คุณก็น่าจะรู้นะคะว่าจีคิดยังไงกับคุณ" พูดไปแล้วก็อายขึ้นมา เซอร์คัสฉีกยิ้มกว้างก่อนจะลุกออกจากตัวฉัน เขาเดินไปหยิบเสื้อขึ้นมาใส่ก่อนจะหันมามองหน้าฉันที่นั่งเอ๋อกับสิ่งที่เขาทำ
         "พักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เจอกัน" เขาเดินเข้ามาหาฉันก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากฉันหนักๆ หนึ่งที "Goognight Kiss Baby" ไม่ยักรู้แฮะว่าเขาก็พูดอังกฤษเป็นด้วย แวมไพร์ยุคนี้มีการพัฒนาที่เร็วมากจนมนุษย์อย่างเราตามไม่ทันเลย
         ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าเรื่องของฉันกับเซอร์คัสจะจบลงด้วยดีแบบนี้ คงจะจริงอย่างที่เขาว่ากันไว้ ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ และนี่ก็คงจะผ่านช่วงมรสุมของชีวิตไปแล้วสินะ
         คนเราไม่ได้เจอแต่เรื่องแย่ๆ ไปตลอดหรอก อย่างน้อยก็อาจจะมีเรื่องดีๆ เข้ามาถึงแม้ว่าจะต้องผ่านเรื่องร้ายๆ ไปก่อนก็ตามเถอะ ฉันหวังว่าพรุ่งนี้ตัวเองจะได้เจอกับเรื่องราวดีๆ ที่เข้ามาในชีวิตนะ เพราะฉันไม่อยากเสียใจอีกแล้ว ความเสียใจเป็นอะไรที่น่ากลัวที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองหรอก ฉันเองก็เช่นกัน

    วันต่อมา
         วันนี้ฉันมามหาวิทยาลัยเช้ากว่าทุกวัน เพราะเมื่อคืนได้นอนหลับสนิทแถมยังหลับสบายอีกด้วย หลายวันมานี่ฉันแทบไม่ได้นอนเลย มีแต่ร้องไห้อย่างเดียว วันนี้เป็นเช้าที่สดใสของฉันจริงๆ
         ฉันเดินเข้ามาในห้องก็เห็นเพื่อนๆ ของฉันกำลังนั่งพูดคุยกันก่อนแล้ว มาเห็นอย่างนี้ก็พลอยทำให้ฉันอารมณ์ดีไปด้วย ฉันนั่งลงข้างนิชาก่อนจะส่งยิ้มให้เพื่อนๆ อย่างสวยงาม
         "ผีเข้าสิงหรือไงนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว" คนที่ทำให้เสียบรรยากาศก็มีอยู่แค่คนเดียวนั้นแหละ ลิลลี่มองหน้าฉันอย่างแปลกใจทำให้ฉันหุบยิ้มแทบจะทันที ทำไมต้องมองหน้าฉันแบบนั้นด้วยฉันไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดีมานะ
         "นั่นน่ะสิเมื่อวานเธอยังดูซึมๆ อยู่เลยนะจี" คนขี้สงสัยคนที่สองก็คือหว่าหวา ไม่ยักรู้ว่าเธอก็เป็นคนที่ช่างสังเกตขนาดนี้ ก็นะ! ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปจริงๆ น่ะแหละ เพราะเมื่อวานฉันยังเศร้าอยู่เลยแต่ตอนนี้กลับยิ้มร่าจนน่าสงสัย
         "ถ้าไม่สบายใจที่จะเล่าก็ไม่ต้องเล่าก็ได้นะ"
         นิชาเหมือนจะเห็นว่าฉันลำบากใจที่จะเล่าก็พูดขึ้นมา ทำให้ฉันหันไปมองหน้าเธอก็เห็นว่าเธอเองก็กำลังมองฉันอยู่ นิชาเลื่อนมือมากุมมือฉันเอาไว้ก่อนจะบีบเบาๆ ฉันรู้ว่านิชาเชื่อใจฉันและฉันเองก็เชื่อใจนิชาเหมือนกัน
         ฉันรักนิชาที่เธอเป็นเพื่อนที่เข้าใจฉันมากที่สุดเวลาที่ฉันมีปัญหา แต่ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้รักลิลลี่หรือหว่าหวานะ ฉันรักเพื่อนทุกคนที่ดีกับฉัน แต่นิชาเป็นเพื่อนสมัยเด็ก เรารู้จักกันมาเล่นด้วยกันมาหลายสิบปีแล้ว เลยทำให้ฉันรู้สึกดีกับเธอ
         "เมื่อวานจีไม่สบายน่ะเลยอารมณ์ไม่ค่อยดี แต่ตอนนี้หายดีแล้วก็เลยกลับมาเป็นจีละดาคนเดิมไง"
         ฉันเลือกที่จะโกหกเพื่อนๆ ต่อไป เพราะไม่อยากให้เพื่อนต้องมารับรู้กับเรื่องไม่ดี อีกอย่างเรื่องพวกนั้นก็ผ่านมาแล้วด้วยฉันไม่อยากรื้อฟื้นหรือพูดถึงมันอีก ปล่อยให้มันจบไปกับเมื่อวานน่ะดีแล้ว
         "แน่ใจนะว่าไม่มีอะไรปิดบังพวกฉันน่ะ" ลิลลี่ก็ยังคงเป็นลิลลี่ แต่ฉันคิดว่าตอนนี้คงกลายร่างเป็นโคนันไปแล้วมั้ง ขี้สงสัยจนเกินเหตุแบบนี้
         "แน่ใจสิ"
         "เออ! เกือบลืมชมเธอเลยจี เมื่อวานเธอโคตรเจ๋งเลยที่ยืนด่ายัยริชจนหน้าเหวอแบบนั้น ฉันเห็นแล้วสะใจมาก ไม่เคยเห็นเธออารมณ์ฉุนเฉียวแบบนั้นมาก่อน" เปลี่ยนเรื่องเร็วเกินไปมั้ยค่ะคุณเพื่อน เมื่อกี้ยังสงสัยฉันอยู่เลย แต่นี่กลับมาชมกันซะอย่างนั้น ฉันควรจะดีใจใช่มั้ยที่เพื่อนที่คอยพูดแขวะฉันตลอดเวลามาชมฉันแบบนี้
         "เธอต้องรับศึกหนักกว่าที่เป็นอยู่แน่ๆ จี" หว่าหวาพูดเตือนฉัน แต่ยังไม่ทันที่ลิลลี่จะได้พูดเสริมก็มีเสียงหนึ่งดังเข้ามาซะก่อน

         “พวกเธอนินทาอะไรฉันยะ” ริชกับเอ็มเคเดินเข้ามาพอดีกับที่ลิลลี่เรียกของของริช พวกฉันได้แต่อ้าปากพะงาบๆ เพราะเมื่อกี้เราเรียกชื่อของสองคนนั้นจริงๆ ฉันหันไปมองริชที่ถืออะไรบางอย่างมาไม่รู้ก่อนจะส่งยิ้มให้เธอ

         “ฉันขอโทษแล้วกันที่พูดถึงเธอ” นิชาเอ่ยคำขอโทษทันทีที่ตัวเองทำผิด ที่จริงก็ไม่ได้ผิดหรอกเพราะนิชาไม่ได้พูดถึงริชเลย มีแต่ลิลลี่และหว่าหวาเท่านั้นที่พูด

         “ขอโทษแล้วจะทำให้ฉันเลิกเสียหายจากปากของเพื่อนเธอได้หรือเปล่าล่ะ?” ริชเดินเชิดหน้าเข้ามาหาฉันที่นั่งมองเธอ เธอยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะเรียกชื่อฉันเสียงดัง เล่นเอาเพื่อนของฉันตกใจตาเบิกกว้างเพราะกลัวว่าริชจะเข้ามาทำอะไรฉัน “จี” 

         “อย่ายุ่งกับจี”

         ริชยังไม่ได้ทำอะไรฉันเลยก็มีเพื่อนของฉันออกโรงปกป้องอย่างเต็มที่ แค่เรียกชื่อก็ไม่ได้เลยเหรอ ฉันบอกให้นิชาถอยออกไปก่อนเพราะฉันเชื่อว่าริชจะไม่ทำอะไรฉันแน่ๆ นิชายอมถอยไปอย่างว่าง่ายแต่ก็ยังคงจ้องมองการกระทำของริชไม่คาดสายตา

         “เธอนี่ก็แปลกคนนะนิชา ทำไมฉันถึงจะยุ่งกับจีละดาไม่ได้” ริชหันไปมองค้อนนิชา ทำให้นิชาเดินเข้ามาผลักไหล่ริชแต่ไม่ได้รุนแรงเท่าไหร่ ทำให้ฉันต้องเข้าไปห้ามทับเอาไว้ซะก่อนที่มวยยกแรกจะเริ่มขึ้น

         นี่มันใช่เรื่องที่ฉันจะต้องมาเจอแต่เช้าหรือเปล่าเนี่ย เพิ่งอารมณ์ดีได้ไม่ถึงห้านาทีก็ต้องมาปวดหัวกับเรื่องเพื่อนอีกเหรอ


     


    -ฝากเพจอีกสักที-

    เพื่อการติดตามที่สะดวกและรวดเร็ว
    คลิกที่ลิงก์ข้างล่างเลยงับ \(^O^)/
    V
    V
    V

    APPLEPUP_INFINITE
         
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×