ลำดับตอนที่ #16
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : กอดที่แสนอบอุ่น
กอดที่แสนอบอุ่น
ตึก!
เสียงเหมือนมีอะไรบางอย่างมากระทบกับพื้นระเบียงอยู่ไม่ห่างจากตัวฉัน และฉันก็คิดว่าคงจะไม่ได้เป็นคนที่ฉันอยากให้มาหาหรอก เพราะเขาไปแล้ว และก็คงจะไม่กลับมา
ฉันร้องไห้อยู่ตรงนั้นสักพักก่อนจะปาดน้ำตาตัวเองออก และเรียกกำลังใจกลับมา เมื่อก่อนไม่เคยมีเขาฉันก็อยู่ได้นี่ แค่ตอนนี้ต้องกลับไปอยู่เหมือนเดิมก็แค่นั้นเอง จะมาร้องไห้อะไรมากมายจีละดา เธอโตแล้วนะ
หมับบบบ!
มือของใครคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังฉันจับไหล่ฉันเอาไว้ก่อนที่ฉันจะเดินเข้าห้องไป ไอเย็นที่แผ่ซ่านมาถึงตัวฉันไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร ฉันยังไม่ได้หันไปมองเขาเพราะตอนนี้น้ำตาของฉันมันไหลลงมาอาบแก้มอีกครั้ง ฉันไม่อยากให้เขารู้ว่าฉันกำลังเสียใจมากแค่ไหนตอนที่เขาไม่อยู่
ความรู้สึกในตอนนี้มันอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกเลยว่าจะรู้สึกยังไงดี มันทั้งดีใจที่เขากลับมา และโกรธที่เขาหายไปโดยไม่บอกฉัน ทำให้ฉันต้องไม่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ ไม่เคยมีใครทำให้ฉันเป็นไปได้มากขนาดนี้เลยนะ เขาเป็นคนแรกเลย
เฮือกกก =[]=
"เซอร์คัส"
ฉันหันไปเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ พร้อมกับเรียกชื่อเขาแผ่วเบา เขามองหน้าฉันอย่างงุนงง คงจะเห็นคราบน้ำตาที่หางตาฉันสินะ เราสองคนสบตากันอยู่อย่างนั้นไม่ได้ละสายตาไปไหน
ทำไมนะ ทำไมเขาไม่เป็นมนุษย์เหมือนกับฉัน ทำไมต้องให้เขาเป็นอะไรที่เราสองคนไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ ไม่เข้าใจเลยว่าฟ้ากำลังเล่นตลกอะไรกับพวกเราอยู่ (ดึงเข้าสู่โหมดดราม่าเฉยเลย)
ฟึ่บบบบ O_O
อ๊ะ!!! อยู่ดีๆ เซอร์คัสก็ดึงฉันเข้าไปกอดไว้ในอ้อมแขน เขากอดฉันแน่นมากเหมือนกลัวว่าถ้าคลายอ้อมกอดนี้ออกแล้วฉันจะวิ่งหนีไป อ้อมกอดของเซอร์คัสอบอุ่นจังมันทำให้ฉันหายหนาวเลย ถึงแม้ว่าตัวเขาจะเย็นเฉียบแต่อ้อมกอดเขากับอบอุ่น ฉันซุกหน้าเข้าไปที่แผงอกกว้างของเขา ฉันรู้สึกปลอดภัยที่มีเขาอยู่ใกล้ๆ ฉันอยากให้เขาอยู่กับฉันแบบนี้ แค่นี้ฉันก็ไม่ได้ต้องการอะไรแล้ว >///<
เซอร์คัสค่อยๆ คลายอ้อมกอดออก หลังจากที่เราสองคนกอดกันอยู่นาน จนจะกลายเป็นคนคนเดียวกันอยู่แล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันเพิ่งรู้ว่าเราสองคนกอดกันแทบจะทุกวัน แต่วันนี้มันแปลกไปจากทุกวัน เพราะอ้อมกอดของเซอร์คัสในวันนี้มันทำให้ฉันไม่อยากให้เขาไปไหน ไม่อยากให้เขาหายไปจากฉัน อยากให้เขาอยู่กับฉันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าจะรู้ว่ายังไงมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก
"ร้องไห้ทำไมสาวน้อยของผม?" เซอร์คัสพูดพลางยกมือมาเช็ดน้ำตาให้ฉัน
เขามองหน้าฉันด้วยแววตาที่อ่อนโยนจนทำให้ฉันหายโกรธเขาเป็นปลิดทิ้ง ฉันจะโกรธเขาได้ยังไงกันในเมื่อเขาไม่ได้ทำอะไรผิด แค่เขาไม่ได้ทิ้งฉันไปไหนก็ดีแค่ไหนแล้ว
"..." ทุกคนอาจจะมองว่าฉันเหมือนคนไม่คิดมาก แต่ที่จริงฉันอ่อนไหวง่ายนะ เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับฉันฉันไม่เคยลืมมันได้เลยซักเรื่องเดียว โดยเฉพาะเรื่องของผู้ชายคนนี้ ฉันยิ่งลืมไม่ได้ใหญ่
"หรือเป็นเพราะผม?" เซอร์คัสเอียงคอถามอีกครั้ง แต่สายตาเขายังไม่ละออกจากใบหน้าของฉัน ดูเขาจะเป็นห่วงฉันมากเหมือนกันนะเพราะแววตาที่มองมามันทำให้ฉันสัมผัสได้ถึงความห่วงใยจากแววตาคู่นั้นของเขา
"เปล่าค่ะ ไม่ใช่เพราะคุณ"
"แล้วร้องไห้ทำไม?"
"คุณไปไหนมา?" ฉันไม่ตอบคำถามของเซอร์คัส แต่เลือกถามเขากลับไป
"ผมไปเอานี่มาให้คุณ" เซอร์คัสหยิบของบางอย่างออกมาจากข้างหลัง แล้วเอามาสวมให้ฉัน และมันก็คือ...
"มงกุฎดอกไม้?"
"ใช่! ผมอยากทำเซอร์ไพรส์คุณก็เลยไม่ได้บอกก่อนรอคุณกินข้าวเสร็จแล้วจะให้ แต่คุณดันกินเสร็จก่อนที่ผมจะมาซะอีก"
นี่! ฉันเข้าใจเซอร์คัสผิดเหรอเนี่ย เขาทำเพื่อฉันขนาดนี้ แต่ฉันกลับคิดว่าเขาทิ้งฉันไป ฉันนี่โกรธตัวเองจริงๆ ทำไมไม่เชื่อใจเขา ตั้งแต่ที่ป้านอริสไม่อยู่ก็มีแค่เซอร์คัสนี่ล่ะที่อยู่เป็นเพื่อนฉันทำดีกับฉัน เขาแทบทุกอย่างให้ฉันโดยที่ฉันไม่เคยทำอะไรให้เขาเลย มันต่างกันใช่มั้ย แล้วอย่างนี้ฉันจะมีสิทธิ์โกรธอะไรเขาได้ล่ะ คนที่ควรจะโกรธน่าจะเป็นเขามากกว่า
"จีขอโทษนะคะ"
คิดได้ดังนั้นฉันก็ขอโทษเซอร์คัสทันที น้ำตาฉันไหลทะลักออกมาอย่างกับเขื่อนแตกมันกั้นไว้ไม่อยู่ อยากจะบีบคอตัวเองตายจริงๆ ที่คิดไม่ดีกับเขา เพราะความระแวงและความไม่เชื่อใจนี่ล่ะที่ทำให้ฉันเป็นไปได้มากขนาดนี้ ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไปฉันคงอยู่อย่างไม่มีความสุขแน่
"ขอโทษผมทำไมผมต่างหากที่ต้องขอโทษคุณสาวน้อย"
เซอร์คัสเช็ดน้ำตาให้ฉันอีกครั้ง เขาดันร่างฉันให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาอีกครั้ง ครั้งนี้เขากอดฉันไว้หลวมๆ แต่มันกับรู้สึกแนบแน่นมากกว่าเดิม
"อย่าร้องไห้นะสาวน้อย เรื่องเมื่อวานผมขอโทษที่มาช่วยคุณไม่ทัน และไม่ได้มาส่งคุณที่บ้านเพราะผมละอายใจตัวเองจนไม่กล้ามาเจอคุณ ผมสัญญาว่าจะปกป้องคุณแต่กลับปล่อยให้คุณโดนแกล้ง ผมขอโทษ"
คำสารภาพของเซอร์คัสยิ่งทำให้ฉันร้องไห้ไม่หยุด เพราะฉันคิดว่าที่เขาไม่มาช่วยฉันและไม่มาส่งฉันที่บ้านเป็นเพราะเขามัวจู๋จี๋กับสาวๆ ฉันนี่บ้าจริงๆ เลยคิดอะไรก็ไม่รู้ ฉันควรจะดีใจสิที่เขามาคอยช่วยเหลือฉันในทุกๆ ที่ และยังมาสารภาพความจริงกับฉันด้วย
เซอร์คัสจับปลายคางฉันให้หันไปสบตาหาเขา ก่อนที่จะค่อยๆ โน้มหน้าเข้ามาเรื่อยๆ จนหน้าของเราห่างกันไม่ถึงคืบ ได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน
เซอร์คัสเลื่อนริมฝีปากของเขามาประกบกับริมฝีปากของฉัน ริมฝีปากของเขาเย็นเฉียบจนทำให้ฉันสะดุ้งแทบผงะออก แต่เซอร์คัสใช้มือข้างหนึ่งประคองท้ายทอยฉันไว้ ส่วนอีกข้างก็โอบเอวของฉัน เขาบรรจงจูบอย่างต่อเนื่อง ฉันไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด เพราะจูบของเขาช่างอ่อนโยนและอบอุ่น จนทำให้ฉันเผลอจูบตอบเขากลับไป
เราจูบกันเนิ่นนานจนเซอร์คัสต้องเป็นฝ่ายถอดริมฝีปากออก เพราะกลัวว่าฉันจะขาดอากาศหายใจตายไปซะก่อน เขามองหน้าฉันด้วยแววตาที่ห่วงใยและอ่อนโยน จนทำให้ฉันต้องรีบหลบตาเขาอย่างเสียไม่ได้
จะให้ฉันสบตากับเขาได้ยังไง เมื่อกี้เราเพิ่งจูบกัน และฉันก็จูบตอบเขาด้วย >///< หน้าฉันตอนนี้คงแดงเท่าลูกมะเขือเทศสุกจนเละเน่าแล้วมั้ง เราไม่เคยจูบกันแบบลึกซึ้งขนาดนี้มาก่อนเลย เพราะครั้งก่อนมันเป็นแค่การแตะกันธรรมดาเท่านั้น แต่ครั้งนี้เขาแทรกเรียวลิ้นของตัวมาเกี่ยวพันกับเรียวลิ้นของฉันด้วย นี่สินะที่เรียกว่าจูบ และจูบแรกของฉันก็ดันโดนแวมไพร์ขโมยไปซะได้
เซอร์คัสยกมือขึ้นลูบแก้มฉันอย่างแผ่วเบา เขาส่งยิ้มมาให้ฉันอย่างคนอารมณ์ดี พอเห็นหน้าเขาแบบนี้แล้วมันก็อดเขินไม่ได้ ผู้ชายอาจจะไม่ได้คิดอะไรแต่ผู้หญิงมันอ่อนไหวง่ายกว่าผู้ชายเป็นสิบๆ เท่าเลยนะ
"ไปเที่ยวกันเถอะสาวน้อย"
=O= แค่นี้เองน่ะเหรอ? จ้องหน้าฉันตั้งนานเพื่อที่จะพูดแค่นี้ ความเขินเมื่อกี้บอกเลยว่ามลายหายไปจนหมด เขาน่าจะหาคำพูดที่โรแมนติกมากกว่าการชวนไปเที่ยวนะ บอกคิดถึงที่เมื่อวานไม่ได้เจอ หรือบอกว่าจูบนี้มีความหมายกับผมมาก ไม่คิดจะพูดแบบนี้บ้างเหรอ ไอ้เราก็รอฟังตั้งนาน
"ที่ไหนคะ?" ฉันถอนหายใจก่อนจะเข้าสู่เรื่องเดียวกันกับเขา และเขาเองก็ไม่ได้สังเกตความบึ้งตึงของใบหน้าฉันด้วย แวมไพร์มีหัวใจที่ไหนล่ะ พวกเขาเป็นผีนี่
"เซอร์ไพรส์"
ว่าแล้วเชียว คนอย่างเซอร์คัสน่ะเหรอจะยอมบอกง่ายๆ เอาเถอะ! ไปถึงก็คงจะรู้เองเพราะต่อให้คาดคั้นยังไงถ้าเขาไม่อยากบอกยังไงแล้วฉันก็ไม่มีทางได้รู้หรอก
ณ.น้ำตกแห่งป่าสีเงิน
เซอร์คัสพาฉันมาที่น้ำตกที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าสีเงิน ที่จริงฉันก็เคยมาแล้วตอนที่เขาเขียนจดหมายนัดฉัน และยังมาเจอแจ็ตพ็อตตอนที่เซอร์คัสดูดเลือดผู้หญิง นึกถึงวันนั้นแล้วขนลุกเลยอ่ะ เพราะภาพมันน่ากลัวมากจนยากที่จะลืม
"เฮ้! เซอร์คัส" เสียงของผู้ชายสองคนเรียกเซอร์คัสจากทางด้านหลัง ทำให้เราต้องหยุดชะงักฝีเท้าค้างไว้และหันกลับไปมองผู้ชายที่กำลังเดินเข้ามาใกล้เราเรื่อยๆ
อ้ะ! ถ้าฉันจำไม่ผิดสองคนนี้คือคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยนี่นา ตายแล้วจีละดามาอยู่ในฝูงแวมไพร์เฉยเลย พวกเขาคงจะไม่คิดที่จะพาฉันมากินที่นี่หรอกใช่มั้ย มันรู้สึกมวนท้องยังไงไม่รู้ อากาศเริ่มหนาวขึ้นมาเสียดื้อๆ ปากสั่น ตัวสั่นขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
"ใครวะ?" ผู้ชายคนหนึ่งมองหน้าฉันแล้วหันไปถามเซอร์คัส ดูพวกเขาจะตกใจมากเลยนะที่เจอฉัน และแววตาของพวกเขาก็แพรวพราวจนน่าขนลุกมากเลย
"เหยื่อแกเหรอ?"
คำว่า 'เหยื่อ' ของผู้ชายอีกคนทำให้ฉันเริ่มถอยห่างจากพวกเขาไปสามก้าว เนื่องด้วยว่าไม่อยากได้ยินเรื่องอะไรที่มันน่ากลัวแบบนี้ สองคนนี้คงคิดว่าฉันเป็นอาหารของเซอร์คัสสินะ เหมือนที่เซอร์คัสทำที่ฉันมาเห็นไง
"เธอเป็นสาวน้อยของฉันใครก็ห้ามแตะ"
เซอร์คัสพอเห็นว่าฉันก้าวถอยห่างจากเขาเขาก็พูดโพล่งขึ้นมา ทำให้ฉันที่กำลังจะก้าวถอยไปอีกก้าวต้องหยุดชะงักลง ไม่ใช่แค่ฉันหรอกนะที่อึ้งกับคำพูดของเขาเพื่อนเขาทั้งสองคนก็ดูเหมือนจะอึ้งมากด้วยเช่นกัน
"กลิ่นหอมมาก" หนึ่งในเพื่อนของเซอร์คัสทำจมูกดมก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉัน ให้ตายเหอะถ้าบอกว่าเหม็นฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ไม่ต้องบอกออกเสียงขนาดนี้ก็ได้มั้ง
"ไอ้แคนนอน" ชะอุ๊ย! เซอร์คัสทำเสียงโหดด้วยอ่ะ
"ล้อเล่นนา" ล้อเล่นเหรอ? ดูสายตาจับจ้องมาที่ฉันสิตาไม่กระพริบเลย ถ้าเกิดเซอร์คัสไม่อยู่คงจับฉันกินแหงๆ
"ไม่แนะนำให้เพื่อนรู้จักหน่อยเหรอวะ?"
"เธอชื่อจีละดา เป็นคนที่ฉันหวงมากใครที่กล้าแตะต้องตัวเธอคือตาย" เล่นพูดมาแบบนี้คิดว่าจะมีใครกล้ามายุ่งกับฉัน คงไม่มีใครอยากตายหรอกนะ ฉันเกาแก้มตัวเองแก้เขิน พอได้ยินสิ่งที่เซอร์คัสประกาศให้คนอื่นฟังแบบนี้มันก็รู้สึกดียังไงไม่รู้
"ผมคุมะ" คนผมสีเหลืองกล่าวแนะนำตัวก่อน
"ผมแคนนอน" คนผมสีม่วงแดงยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะโค้งต้วเล็กน้อย
"จีละดาค่ะ ^__^" ฉันฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบทั้งสามสิบสองซี่ตามมารยาท
"พอแล้ว"
เซอร์คัสคว้าแขนฉันให้ไปยืนข้างๆ เขาแทน และบังคับไม่ให้ฉันส่งยิ้มให้เพื่อนเขาด้วย แค่ยิ้มให้กันเป็นมารยาททางสังคมมันผิดมากเลยหรือไง วันนี้เซอร์คัสมีหลากหลายอารมณ์มากเว่อร์
"พวกแกมีอะไรทำก็ไปทำสิวะยืนอยู่ทำไม" พอเห็นว่าเพื่อนเขาทั้งสองคนยังยืนมองพวกเราอยู่ เซอร์คัสก็หันไปตลาดใส่อย่างเกรี้ยวกราด
"พวกฉันไม่มี" ทั้งแคนอนและคุมะประสานเสียงพูดพร้อมกัน ทำให้เขากำมือแน่นก่อนจะชูมันขึ้นมาให้เพื่อนของเขาได้เห็นว่าตอนนี้เขากำลังจะระเบิดลาวาที่ร้อนระอุในอกของเขาออกมาในไม่กี่นาทีข้างหน้านี้
"อยากตายใช่มั้ย?" นี่คือคำขู่ของเซอร์คัสใช่มั้ยเนี่ยหรือคำถาม
"เออ! รู้แล้วไปก็ได้" แคนนอนทำหน้าบึ้งตึงทันทีก่อนจะเดินจากไป
"ฉันยังไม่อยากอายุสั้นไปดีกว่า" คุมะคงกลัวเซอร์คัสน่าดูตอนนี้น่าซีดเผือกเลย น่าสงสาร
"เหลือแต่เราแล้วนะสาวน้อย"
"ค่ะ" มันก็คงต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ก็เขาเล่นไล่คนอื่นไปจนหมดแบบนี้ แต่ก็ดีเหมือนกันนะฉันจะได้อยู่กับเซอร์คัสแค่สองคนไม่ต้องมีบุคคลที่สาม ที่สี่ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
เซอร์คัสจับมือฉันพาเดินไปใกล้น้ำตกก่อนจะหย่อนขาลงน้ำ เราสองคนคุยกันเรื่องสัพเพเหระจนมืด แล้วเซอร์คัสก็มาส่งฉันที่บ้านอย่างปลอดภัย การได้อยู่กับเซอร์คัสในวันนี้มันทำให้อาการหวัดของฉันหายปลิดทิ้งเลยล่ะ อีกอย่างฉันก็อยากจะให้เขาพาฉันไปเที่ยวแบบนี้อีกบ้าง ไม่ต้องไปเดินห้างฯ ดูหนัง ฟังเพลงก็ได้ เราจะนั่งเล่นที่หน้าบ้านของฉันยังได้เลยถ้ามีเขามานั่งเคียงข้างไปกับฉันด้วย มันคงจะเป็นอะไรที่วิเศษที่สุดเลยล่ะ
ณ.มหาวิทยาลัย A
"เมื่อวานเธอไปไหน แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์รู้มั้ยว่าพวกฉันเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน"
วันนี้นิชาดุจังเลย ฉันนี่ตัวลีบลงเหลือเท่ามด ให้ตายสิฉันลืมไปได้ยังไงเมื่อวานนิชาบอกว่าจะมาเยี่ยมฉันตอนเลิกเรียน แต่ฉันออกไปกับเซอร์คัสกลับมาก็ค่ำพอดีแถมดันลืมโทรศัพท์อีก
และที่แย่กว่านั้นคือฉันไม่ได้โทรกลับหานิชาและไม่คิดว่าทั้งนิชา ลิลลี่และหว่าหวาจะเป็นห่วงฉันมากขนาดนี้ ฉันนี่แย่จริงๆ เลยได้แต่ก้มหน้ามองมือตัวเองอย่างรูสึกผิด
"เมื่อวานเธอไปไหนมาจี?" หว่าหวาถามฉันด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเพราะกลัวว่าฉันจะร้องไห้ ก็แหงล่ะสินิชาเพื่อนที่ฉันสนิทที่สุดยังตวาดฉันเลย T^T
"จีขอโทษนะที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง เมื่อวานจีไปหาหมอมาน่ะพอกลับมาถึงบ้านก็ค่ำเลย" ขอโทษนะทุกคนที่ฉันต้องโกหกแบบนี้ ฉันไม่มีทางเลือกจริงๆ
"ไม่คิดโทรมาบอกกันหน่อยเหรอ?" อ๊ากกก ทำไมนิชาทำเสียงเย็นชาใส่ฉันแบบนี้ล่ะ นางต้องโกรธฉันมากแน่เลย
"จีปวดหัวหนักมากก็เลยกินยาแล้วเข้านอนไม่รู้ว่านิชาโทรมา จีขอโทษนะจีสัญญาคราวหน้าถ้าจีจะไปไหนจีจะโทรบอกทุกคนก่อนโอเคมั้ย"
"ทำให้ได้อย่างที่พูดแล้วกันยัยแม่ชี" ลิลลี่นี่ชอบแขวะฉันอยู่เรื่อยเลย แต่ฉันรู้ว่าลิลลี่เองก็เป็นห่วงฉันเหมือนกัน
"นิชา จีขอโทษนะ ^__^" ฉันจับมือนิชาพร้อมทั้งฉีกยิ้มกว้างให้ได้มากที่สุด เพราะนี่เป็นวิธีการง้อของฉัน อิอิ และมันก็ได้ผลเมื่อนิชาเองก็ส่งยิ้มกลับมา
"ฉันไม่ได้โกรธเธอหรอก แต่คราวหลังถ้าจะไปไหนต้องบอกก่อนนะรู้มั้ยว่าฉันเกือบบุกมาบ้านเธอเมื่อคืน"
"ดีนะที่คอปบาห้ามไว้ได้" เพื่อนฉันนี่สุดยอดทุกคน
ฉันคิดว่าตัวเองโชคดีที่สุดเลยล่ะ ที่มีเพื่อนดีๆ อย่างนิชา ลิลลี่ และหว่าหวา เพราะทั้งสามคนไม่เคยเอาฉันไปพูดลับหลังหรือพูดในทางที่ไม่ดี แต่กลับเป็นห่วงฉัน เพื่อนแบบนี้หายากมากเลยนะจะบอกให้ นี่สินะที่เขาบอกกันว่า 'ที่สุดของความโชคดี คือมีเพื่อนที่ดีแม้เพียงไม่กี่คน'
วิชารังสีเป็นวิชาสุดท้ายของวันนี้ แต่อาจารย์ไม่อยู่เลยงดคลาสพวกฉันนี่สบายเลย จะได้มีเวลาพักผ่อน นิชา ลิลลี่ และหว่าหวาพาฉันมานั่งที่ม้าหินอ่อนข้างอาคาร BTF เพราะที่นี่ร่มรื่นและไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านมาก แถมยังมีไม้ดอกไม้ประดับให้มองดูจนเพลินตาไปเลย แปลกดีนะทำไมนักศึกษาถึงไม่อยากมานั่งที่นี่กัน ทั้งๆ ที่มันก็สงบและร่มเย็นเหมาะแก่การพักผ่อนเลยล่ะ นั่งแล้วสบายใจจนทำให้ลืมเรื่องปวดหัวไปได้เยอะเลย ^__^
-ฝากเพจอีกสักที-
เพื่อการติดตามที่สะดวกและรวดเร็ว
คลิกที่ลิงก์ข้างล่างเลยงับ \(^O^)/
V
V
V
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น