ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You Are The Light สัมผัสรักแวมไพร์เจ้าเสน่ห์

    ลำดับตอนที่ #14 : แอบรัก

    • อัปเดตล่าสุด 6 มิ.ย. 61


     
         
         
         แอบรัก

         วันนี้ตลอดทั้งวันฉันยังไม่ถูกแกล้งเลยแฮะ นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ^O^ ชีวิตฉันกลับมาเป็นปกติสุขซักที การที่เซอร์คัสมาดูแลปกป้องฉันแบบนี้ก็ดีน่ะสิจะได้ไม่มีใครกล้าแกล้งฉัน ที่จริงมันอาจจะยังไม่ถึงเวลาก็ได้มั้ง อีกอย่างเซอร์คัสก็ไม่ได้ไปขู่ว่าห้ามทำร้ายฉันด้วย แต่เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ ต่างคนต่างอยู่ไปจะได้ไม่ต้องมีเรื่องกัน
         ฉันนี่เหมือนเด็กเส้นจริงๆ เลยว่ามั้ย อยากรู้นักว่าถ้าริชกับยัยเอ็มเครู้ว่าที่เซอร์คัสมาที่นี่เพื่อปกป้องฉันจากพวกเธอจะทำหน้ายังไง เห็นพวกเธอชอบเซอร์คัสจนออกนอกหน้า นี่ฉันไม่ได้อยากทำตัวเป็นนางร้ายเลยนะ ก็แค่อยากเอาคืนบ้างนิดหน่อยเท่านั้นเอง เพราะที่ผ่านมาพวกเธอก็ทำกับฉันไว้มากเหมือนกัน และไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้เลิกคิดที่จะแกล้งฉันหรือยัง
         แต่ก็ช่างเถอะ! แค่ไม่มีใครมาทำร้ายหรือคิดร้ายกับฉันก็พอ และการที่เซอร์คัสมาอยู่ที่นี่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่งล่ะนะ เพราะอย่างน้อยฉันก็ไม่ได้ถูกรังแกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว และคิดว่าคงจะไม่มีใครคิดแกล้งใครอีกแล้วล่ะ
         ซ่าาาาาาาาา!
         O_O โอ๊ะ! 
         พูดยังไม่ทันขาดคำ นี่ไม่ใช่เสียงฝนนะอย่างที่เข้าใจกันนะ มันเป็นเสียงน้ำที่มีใครบางคนเทลงมาจากระเบียงด้านบน ทำไมน้ำมันถึงได้ดำและเหม็นแบบนี้ล่ะ โดนแกล้งอีกแล้วสิเรา
         ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองยังจุดเกิดเหตุ แต่ยังไม่ทันที่จะได้มองเห็นด้วยซ้ำก็.....
         ซ่าาาาาาาา!
         ครั้งที่สองฉันมองเห็นคนที่ทำแล้วล่ะ จะเป็นใครซะอีกล่ะถ้าไม่ใช่ริชกับยัยเอ็มเค นี่ก็ไม่คิดที่จะเลิกแกล้งกันจริงๆ ใช่มั้ย แล้วเซอร์คัสหายไปไหน บอกว่าจะมาดูแลฉันแต่ปล่อยให้ฉันโดนแกล้งอีกแล้วเนี่ยนะ น่าภูมิใจชะมัดเลย
         "อุ๊ย! ตายแล้วขอโทษทีฉันไม่เห็นว่ามีคนนั่งอยู่ข้างล่างก็เลยเทน้ำถูพื้นลงไปอ่ะ" ริชพูดเหมือนรู้สึกผิดแต่ดูหน้าคุณเธอสิยิ้มระรื่นเชียว
         =[]= ดะ...เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี้ยัยริชพูดว่าน้ำถูพื้นงั้นเหรอ?
         ทำไมถึงทำกับฉันแบบนี้ นี่มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาทนกันเลยนะ ทำกันเกินไปแล้ว นี่ถ้าพวกนั้นมีมีดในมือจะไม่วิ่งมาแทงฉันตายแล้วเหรอ ทำกันได้ลงจริงๆ
         นี่ไม่เห็นว่าฉันก็เป็นคนเหมือนกันเหรอ หรือเห็นว่าฉันไม่พูดอะไรก็เลยคิดที่จะแกล้งกันต่อไป ทำไมชีวิตของฉันมันโหดร้ายแบบนี้ เกิดมาใช้กรรมจริงๆ เลยยัยจีละดา
         "แต่ว่าเธอจะโทษพวกฉันก็ไม่ถูกนะ เพราะใครบอกให้เธอมานั่งเป็นนางเอกเอ็มวีอยู่นี่ล่ะช่วยไม่ได้" ได้ทีเหยียบกันเลยนะเอ็มเค ได้ข่าวว่าที่นี่เป็นที่นั่งไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่ที่ทิ้งน้ำเสียซะหน่อย พูดตรงๆ เหอะว่าตั้งใจจะเทราดหัวฉันแต่แรกแล้วอ่ะ
         "พวกฉันไปก่อนนะ บรั๊ยส์"
         ดูสิ่งที่พวกนั้นทำกับฉันสิ แล้วยังมีหน้ามายิ้มระรื่นอีกเหรอ คนนะไม่ใช่หมาใช่แมวมาแกล้งกันได้ แล้วฉันจะเข้าเรียนตอนบ่ายยังไงเนี่ย เป็นคาบเคมีด้วยสิถ้าต้องเดินกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านแล้วกลับมาอีกคงไม่ทันแน่เลย
         โอ๊ย! ชีวิตสุดแสนรันทดยิ่งกว่านางเอื้อยในละครพื้นบ้านปลาบู่ทองซะอีก
         วันนี้คงเป็นวันวิปโยคของฉันแท้ๆ เลย ตอนบ่ายไม่เรียนมันแล้วก็ได้ไม่มีเสื้อผ้าให้เปลี่ยนแล้วนี่ ก็คงต้องกลับบ้านเพื่อไปพักผ่อนเอาแรงแล้วกัน ฉันเองก็ไม่มีสมาธิมานั่งเรียนร่วมห้องกับคนที่ทำร้ายฉันหรอกนะ
         ป่านนี้เซอร์คัสก็ยังไม่โผล่มาเลยไม่รู้ว่าหายไปไหน แต่ก็นั่นแหละต่อให้เขามาตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว เพราะฉันโดนแกล้งไปแล้ว
         ตึก! ตึก! ตึก!
         เสียงใครวิ่งมาทางนี้เนี่ยฉันยิ่งไม่อยากให้ใครเห็นสภาพตัวเองตอนนี้ บอกตรงๆ สุดแสนจะเวทนาตัวเองเป็นที่สุด ภาวนาของให้คนที่วิ่งมาวิ่งเลยผ่านฉันไปทีเถอะอย่ามาเห็นฉันในสภาพแบบนี้เลย มันทำใจลำบากจริงๆ
         กึก!!!
         เสียงฝีเท้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าฉัน ทำให้เงยหน้าขึ้นมองคนที่มาใหม่อย่างตกใจ และพอได้เห็นว่าใครที่มายืนอยู่ตรงหน้ามันก็ทำให้ฉันตกใจจนเกือบตกจากเก้าอี้ไปแล้ว
         "แฟรงค์?"
         แฟรงค์เหรอ? ฉันนึกว่าจะเป็นเซอร์คัสซะอีก แล้วนี่เขามีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่าถึงได้มาหาฉัน เพราะปกติเวลาอยู่ในห้องเขาแทบจะไม่คุยกับฉันเลย ส่วนมากแค่มองมาเท่านั้น ไม่สิ! ไม่ได้เรียกว่ามองเรียกว่าจ้องเลยดีกว่า ฉันรู้สึกได้นะ เวลาฉันทำอะไร เดินไปไหน เขาก็จะจ้องมองฉันอยู่ตลอดเวลา
         ฉันคิดว่าเขาคงไม่อยากคุยกับฉันก็เลยไม่ค่อยทักเขาเท่าไหร่ ถ้าเกิดฉันคุยกับเขาแล้วเขาไม่คุยด้วยขึ้นมาฉันก็หน้าแตกน่ะสิ อีกอย่างเขายังทำตัวเหมือนไม่อยากจะเข้ามาหาฉันก่อนด้วย
         เวลาที่เดินผ่านหน้าเขาไปเขาก็มักจะหลบตาไม่ยอมสบตากับฉันเลย จนฉันคิดว่าเขาไม่ชอบหน้าฉัน แต่ทำไมวันนี้เขาถึงได้มายืนอยู่ตรงนี้ ยืนอยู่ตรงหน้าฉันเลยด้วย และเราสองคนก็กำลังสบตากันอีกต่างหาก
         แววตาของแฟรงค์ที่มองมาที่ฉันเต็มไปด้วยความเป็นห่วงจนฉันรู้สึกได้ มันน่าตกใจที่ว่าเขาไม่ได้เกลียดฉันอย่างที่ฉันเข้าใจตั้งแต่แรก พอได้มองหน้าเขาในระยะใกล้ๆ แบบนี้มันทำให้ฉันทำตัวไม่ถูกเลย เพราะไม่เคยพูดคุยกับเขามาก่อน รู้เพียงแต่ว่าเขาเป็นเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งในห้องเท่านั้นเอง
         "ทำไมตัวเปียกแบบนี้ล่ะ?" แฟรงค์ถามด้วยสีหน้าดูเป็นกังวล และฉันรู้สึกว่าน้ำเสียงของเขาดูจะเป็นห่วงฉันด้วยนะ หรือว่าฉันรู้สึกไปเอง
         "อากาศมันร้อนน่ะ" ฉันพูดติดตลก
         "นี่เธอกำลังบอกฉันว่าเป็นเหงื่อของเธอ?"
         "แล้วเชื่อจีหรือเปล่าล่ะ" ฉันฉีกยิ้มแฉ่งส่งไปให้แฟรงค์ อย่างน้อยๆ เขาก็น่าจะสบายใจขึ้นมาบ้าง เพราะหน้าของเขาตอนนี้เหมือนเป็นทุกข์แทนฉันเอามากๆ เลย
         "ฉันมีชุดพละอยู่ที่ล็อกเกอร์น่ะ เธอน่าจะเปลี่ยนนะเพราะเดี๋ยวจะไม่สบายเปียกซะขนาดนี้ อีกสิบห้านาทีจะได้เวลาเรียนแล้วตามฉันมาสิเดี๋ยวจะเอาชุดพละให้เปลี่ยน"
         "อ่า! ไม่เป็นไร แฟรงค์ต้องใส่เรียนตอนเย็นไม่ใช่เหรอ" ฉันรีบปฎิเสธเขาทันที ทั้งๆ ที่เราไม่ได้สนิทกันด้วยซ้ำ แต่เขายังมาช่วยฉันตอนที่ฉันเดือดร้อน อย่างเช่นตอนนี้
         อีกอย่างนะอีตาแวมไพร์บ้าเซอร์คัสหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ไหนบอกว่าจะมาปกป้องฉันไงล่ะ สงสัยมัวแต่อ่านความคิดของสาวๆ จนลืมฉันไปแล้ว น่าน้อยใจชะมัด
         "ฉันเอามาสองชุดน่ะ แล้วถ้าเธอไม่เปลี่ยนเธอเป็นหวัดแน่ๆ"
         "แต่ว่า....."
         "ไม่ต้องแต่แล้วฉันไม่อยากเห็นเธอไม่สบายนะ"
         "เอ๋!?!" ทำไมแฟรงค์พูดจาแปลกๆ พูดอย่างกับเป็นห่วงฉันนักหนา งง! "ฮัดเช้ย!!!" อ่าาา อย่าบอกนะว่าฉันเป็นหวัดน่ะ ที่นี่อากาศหนาวซะด้วยสิแถมตัวฉันยังเปียกอีก คงไม่แปลกหรอกที่จะไม่สบาย
         "ฉันว่าเธอยอมรับความหวังดีจากฉันเถอะนะ"
         แฟรงค์มองหน้าฉันอย่างเป็นกังวล บางทีฉันก็ไม่ควรปฎิเสธเขานะ คนอุตส่าห์มีน้ำใจ ฉันจะปฎิเสธเขาได้ลงคอเชียวเหรอ อีกอย่างมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ด้วย และฉันเองก็คิดว่าแฟรงค์จะต้องเป็นเพื่อนที่ดีของฉันคนหนึ่งเหมือนกัน
         "อืม...ขอบคุณนะ" ฉันกล่าวคำขอบคุณก่อนจะเดินตามเขาไปที่ล็อกเกอร์เพื่อที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าและเข้าเรียนพร้อมกันกับเขา แต่ก่อนที่เราจะได้ไปถึงแฟรงค์ก็หันหน้ากลับมามองฉันก่อนจะยื่นมองมาตรงหน้าฉัน "อะไรเหรอ?"
         "จับมือฉันไว้สิ"
         "..."
         คำพูดของแฟรงค์ทำให้ฉันตกใจ จู่ๆ ก็มาบอกให้ฉันจับมือเขาเนี่ยนะ แต่พอเห็นว่าฉันไม่พูดอะไรเขาก็รีบพูดขึ้นมาเหมือนกลัวว่าฉันจะเข้าใจผิดเขาไปมากกว่านี้
         "ที่นี่อากาศหนาวถ้าเราได้เดินจับมือใครสักคนมันจะทำให้ร่างกายของเราอุ่นขึ้นได้นะ ลองดูสิ" ตรรกะไหนเหรอคะไม่เคยเห็นได้ยินเลย แต่ลองดูหน่อยก็ไม่เสียหายนี่นา
         ฉันเอื้อมมือไปจับมือของแฟรงค์ก่อนจะออกเดินไปพร้อมกับเขา ไม่น่าเชื่อว่ามือของเขามันจะทำให้ฉันอุ่นขึ้นได้จริงๆ จากที่หนาวจนแทบจะขยับตัวไปไหนไม่ได้ ตอนนี้มันกลับรู้สึกอุ่นขึ้นมาจนทำให้ตัวเองเริ่มทำตัวไม่ถูก

    [SERCUS : SAID]
         ตอนนี้ผมอยู่ในร่างค้าวคาวเกาะอยู่ที่ต้นไม้ตรงข้ามกับหน้าต่างที่สาวน้อยนั่งเรียนอยู่ ท่าทางเธอคงจะมีความสุขมาก ผมล่ะโกรธตัวเองจริงๆ ที่วันนี้ไปช่วยเธอไว้ไม่ทัน เพราะมัวแต่หลบลูคัสกว่าจะออกมาจากบ้านได้เล่นเอาซะผมเหนื่อยเลยทีเดียว
         แต่คนที่ช่วยเธอกลับเป็น 'แฟรงค์ เกรนดอม' คนที่แอบรักเธออยู่ เธอคงจะโกรธมากที่ผมไม่ได้อยู่ช่วยเธอ แต่ภาพตรงหน้าเมื่อกี้ภาพที่สองคนนั้นจับมือกันไปที่ล็อกเกอร์มันทำให้ผมเจ็บ จนไม่อยากออกไปเผชิญหน้ากับเธอ เพราะผมกลัวว่าตัวเองจะเผลอทำเย็นชาใส่เธอ ก็เลยต้องหลบมาสงบสติอารมณ์อยู่ที่นี่
         วันนี้ทั้งวันผมเลือกที่จะไม่ไปเผชิญหน้ากับสาวน้อย เพราะผมยังอารมณ์ไม่คงที่ ผมเลี่ยงที่จะกลับมาก่อน อย่างน้อยการที่ผมได้อยู่คนเดียวอาจทำให้ผมได้คิดอะไรหลายๆอย่าง ผมเลือกที่จะกลับมาที่บ้านเพราะไม่อยากเห็นภาพที่เธอดูมีความสุขกลับการที่ได้อยู่กับผู้ชายคนอื่น
         "เซอร์คัส" ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพี่ชายของผมมันกำลังคิดอะไรอยู่ ผมคิดว่าตัวเองจะกลับบ้านมาอยู่เงียบๆ คนเดียว แต่คิดว่าคงไม่ใช่แล้วล่ะ "ทำไมวันนี้กลับเร็วจังวะ?"
         "เรื่องของฉัน" ผมเดินเลี่ยงไปทางอื่นเพราะไม่มีอารมณ์จะคุยกับใครในตอนนี้ แต่ลูคัสก็เดินมาดักทางผมเอาไว้ นี่มันคิดว่าผมอารมณ์ดีอยู่หรือไง
         "รู้ว่าเรื่องของแก ฉันก็แค่แปลกใจเพราะปกติเห็นแกกว่าจะกลับ แล้วสาวน้อยของแกไปไหนแล้วล่ะ?" ก็จริงของมัน เพราะปกติแล้วผมมักจะไปเฝ้าเธอกว่าจะกลับก็ดึกดื่นเข้าไปแล้ว สงสัยวันนี้คงไม่ปกติแล้วล่ะ
         "ยุ่ง!!!"
         พี่ชายของผมมันเหมือนมีลักษณะเด่นอยู่ในตัว คือ ชอบจับผิดคนอื่น และดันรู้ทันด้วย ผมเองก็มักจะเก็บอาการไม่อยู่เหมือนกัน รู้สึกยังไงก็แสดงออกอย่างนั้นมันเลยรู้ทันผมตลอดเลยไง
         "ถ้าให้ฉันเดานะสาวน้อยของแกคงทำแกหงุดหงิดมาล่ะสิ สงสัยเธอคงไปเดินควงแขนผู้ชายแล้วแกไปเจอเข้าใช่มั้ย?"
         นั่นไง เห็นมั้ยมันอ่านออกทุกสถานการณ์ แล้วใครจะไปบอกล่ะว่ามันเป็นความจริง ไม่งั้นผมเสียฟอร์มหมด ผมหันไปมองทางอื่นเพราะไม่อยากให้มันสงสัยมากไปกว่านี้ แต่คิดว่าการที่ทำแบบนี้คงจะเป็นความคิดที่ผิดมหันต์
         "ไม่ตอบแบบนี้แปลว่าใช่"
         "ไม่ใช่!!! ที่ฉันกลับเร็วเพราะนัดเมทัลเอาไว้" ผมเอาเมทัลมาอ้างเพราะไม่อยากให้มันซักไซ้มากกว่านี้ เดี๋ยวผมอาจจะเผลอบอกความจริงกับมันไป มันยิ่งชอบตามตื๊ออยู่ด้วย
         "แน่ใจ๊?" เสียงสูงอีก
         "เออ! มีอะไรสงสัยอีกมั้ย"
         "สงสัยอะไรกันฉันก็แค่ถามดู"
         ผมนี่เหนื่อยกับพี่ชายตัวเองจริงๆ ไปนอนเอาแรงดีกว่า แล้วค่อยคิดว่าจะเอายังไงกับจีละดาดีกลับการเผชิญหน้ากับเธอ ถ้าผมไปหาเธอคืนนี้เธอคงไม่ยอมคุยกับผมแน่ๆ เพราะเล่นไปสัญญากับเธอว่าจะปกป้องเธอแต่กลับช่วยเธอเอาไว้ไม่ได้ รอให้เธอหายโกรธผมก่อนแล้วกัน แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่ชอบเห็นรอยยิ้มของเธอที่ยิ้มให้คนอื่นเหมือนอย่างวันนี้
         ผมคิดว่าตัวเองคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ ถ้าไม่อยากเสียสาวน้อยที่น่ารักของผมไป เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงทนไม่ได้ ผมจะอยู่ได้ยังไงหากต้องเห็นว่าคนที่ผมรักไปรักกับคนอื่น
         เอาล่ะ! ผมตัดสินใจแล้วว่าพรุ่งนี้ผมจะเริ่มต้นใหม่ ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอคืนมา ไม่ว่าต้องทำยังไงผมก็ยินดีที่จะทำ
    [SERCUS : SAID END]

     

    -ฝากเพจอีกสักที-

    เพื่อการติดตามที่สะดวกและรวดเร็ว
    คลิกที่ลิงก์ข้างล่างเลยงับ \(^O^)/
    V
    V
    V








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×