ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You Are The Light สัมผัสรักแวมไพร์เจ้าเสน่ห์

    ลำดับตอนที่ #12 : ดูแล

    • อัปเดตล่าสุด 2 มิ.ย. 61






         
        ดูแล

         "ระวัง" 
         เสียงปริศนาเมื่อกี้ทำให้ฉันชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวเข้าห้องไป เอ๊ะ! นี่มันน้ำอะไรเนี่ยทำไมมาเปียกอยู่ที่นี้ที่เดียวล่ะ ฉันยืนมองมันอยู่นานก่อนจะก้มลงไปดูใกล้ๆ เพื่อความแน่ใจ เพราะเมื่อกี้ฉันเกือบจะเหยียบมันเข้าไปแล้ว
         นะ...นี่มันน้ำมันนี่นา 
         O_O เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ ถ้าไม่ได้เสียงปริศนานั่นช่วยไว้ล่ะก็ ป่านนี้ก้นฉันคงจูบกับพื้นเป็นที่เรียบร้อย ใครกันที่มาทำน้ำมันหกแถวนี้แล้วไม่เช็ด ทำไม่ไม่มีความรอบคอบเอาซะเลย นี่ถ้าเป็นคนอื่นหรือเป็นอาจารย์ป่านนี้ไม่นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นแล้วเหรอ ฉันยืนมองน้ำมันที่พื้นอยู่สักพักก่อนจะตาเบิกกว้างอย่างตกใจเมื่อนึกถึงคนที่เอามันมาเทราดไว้ที่นี่
         ระ...หรือว่าคนที่ทำจะเป็นริชกับยัยเอ็มเค ต้องใช่แน่ๆ เลยทำไมใจร้ายกันนักนะ ฉันไปทำอะไรให้พวกนั้นนักหนาเหรอถึงมาทำกับฉันแบบนี้ ฉันก็มีหัวใจนะ จริงอย่างที่นิชาบอกจริงๆ ด้วยว่าจะทำอะไรต้องระวังให้มากกว่าเดิม แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้นี่นา พูดแล้วน้ำตาก็ไหล T_T
         ทำไมต้องมากลั่นแกล้งกันขนาดนี้ด้วย นี่มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลยนะ สามารถทำให้ฉันสมองไหลได้เลยนะนั่นนะถ้าหากล้มผิดท่าขึ้นมา
         เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี้เสียงนั่นเป็นเสียงของใคร เขาร้องเตือนฉันเหรอหรือว่าฉันหูฝาดไปเอง ฉันมองซ้ายมองขวาเพื่อที่จะหาเจ้าของเสียง แต่กลับไม่พบใครที่อยู่แถวนี้เลยนอกจากฉันแค่คนเดียว
         แต่ช่างเถอะ อย่างน้อยก็เพราะเสียงนั่นที่ทำให้ฉันไม่เป็นอะไร ฉันเดินไปหยิบทิชชู่มาเช็ดน้ำมันที่พื้นเพราะไม่อยากให้เพื่อนคนอื่นๆ มาลื่นหัวแตกเอาได้ และฉันก็คิดว่าตอนนี้ริชกับเอ็มเคจะต้องแอบมองฉันจากที่ไหนสักที่แน่ๆ และก็คงจะผิดหวังที่แผนของเธอไม่เป็นไปตามที่คิด
         ฉันไม่ได้คิดที่จะใส่ร้ายสองคนนั้นหรอกนะ แต่มันก็อดคิดไม่ได้ว่าเธอกำลังวางแผนเพื่อกลั่นแกล้งฉันอยู่ เอาเถอะ! ฉันจะถือซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลย และจะไม่พูดถึงมันด้วย ถือว่าหายกันกับเรื่องวันนี้ที่เพื่อนของฉันพูดให้พวกเธอก็แล้วกัน
         ฉันเองก็ไม่ได้โลกสวยอย่างที่ลิลลี่บอกหรอกนะ เพียงแต่ฉันมันเป็นคนรักสันโดษ ไม่ชอบมีเรื่องกับใคร อยู่อย่างสงบได้ก็ควรจะอยู่ไม่ใช่เหรอ เป็นมนุษย์โลกด้วยกันต้องรักกันสิจะมาฆ่าแกงกันทำไม

         ตอนนี้ในห้องมีแค่ฉันคนเดียวที่นั่งอยู่ที่ของตัวเอง แล้วมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง เพื่อนของฉันตอนนี้ยังทำธุระของตัวเองยังไม่เสร็จฉันเลยขอขึ้นมาก่อน ถึงว่าล่ะทำไมวันนี้รู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดี เพราะมันจะเกิดเรื่องเมื่อกี้ขึ้นนี่เอง
         ใจร้ายจริงๆ เลยนะทั้งริชและเอ็มเคเลย ฉันไม่ได้อยากจะเก็บเรื่องนี้มาคิดเพื่อมาบันทอนจิตใจหรอกนะ แต่มันก็อดที่จะคิดไม่ได้ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นอะไรแต่มันก็อดที่จะโกรธสองคนนั้นไม่ได้
         ฉันก็คนเหมือนกันมาทำแบบนี้มันก็เกินไปหน่อย ฉันคิดว่าบางทีตัวเองอาจจะไม่เหมาะกับที่นี่ก็ได้มั้ง หรือฉันควรจะบอกให้พ่อมารับฉันกลับดี ถ้าเกิดเรื่องแบบวันนี้ขึ้นอีกฉันจะทำยังไง ฉันอาจจะไม่มีโอกาสมานั่งหายใจเล่นแบบนี้ก็ได้ใครจะไปรู้
         "กี๊...กี๊...กี๊"
         เสียงของสัตว์อะไรบางอย่างดังมาจากต้นไม้ตรงข้ามหน้าต่างที่ฉันนั่งอยู่ และมันจะเป็นสัตว์อะไรไปไม่ได้นอกจาก.....ค้างคาว!
         "เซอร์คัส" เสียงปริศนาเมื่อกี้ ใช่แล้ว! ต้องเป็นเขาแน่ๆ ฉันจำเสียงของเขาได้ เพียงแต่ไม่คิดว่าเขาจะโผล่มาที่นี่ เพราะนี่มันกลางวันแสกๆ เลย แถมผู้คนยังพลุกพล่านอีกด้วย
         ใครจะไปคิดล่ะว่าจะเป็นเขา ทีแรกก็นึกว่าตัวเองจำผิดเพราะค้างคาวก็มีลักษณะเหมือนกัน แต่ที่แตกต่างกันคือสี จะมีค้างคาวตัวไหนบ้างที่มีสีเทาอ่อน นอกจากค้างคาวที่เป็นแวมไพร์อย่างเขาได้
         พรึบ! พรึบ! พรึบ!
         เซอร์คัสบินมาเกาะอยู่ขอบหน้าต่าง เขาไม่ได้กลายร่างเป็นมนุษย์ ตอนนี้เขาอยู่ในร่างค้างคาว อาจจะเป็นเพราะว่าถ้าอยู่ในร่างของมนุษย์คนที่เดินผ่านไปผ่านมาอาจจะตกใจก็ได้ที่มีคนหล่ออย่างเขามาอยู่ในห้อง
         "ทำไมไม่กลายร่างเป็นมนุษย์ล่ะคะ?" ฉันถามเขาออกไป เพราะการที่เขาอยู่ในร่างค้างคาวแบบนี้ฉันไม่ค่อยชินเท่าไหร่น่ะสิ มันเหมือนว่าฉันกำลังพูดอยู่คนเดียว
         "คุณก็น่าจะรู้นะสาวน้อยว่าสัตว์ที่ออกหากินในเวลากลางคืนน่ะช่วงกลางวันสายตาไม่ดีหรอก ผมก็เลยเลือกที่จะอยู่แบบนี้ดีกว่า" มันก็จริงแฮะ แต่ทำไมเขาถึงรู้ล่ะว่ามีน้ำมันราดอยู่ที่หน้าห้อง
         "แล้วทำไมคุณถึงรู้....."
         "น้ำมันน่ะเหรอ?"
         "(-_-) (_ _) (-_-) (_ _)"
         "ผมอ่านความคิดของคนอื่นออกนะสาวน้อย ผมเห็นคุณทะเลาะกันก็เลยเป็นห่วง เพราะผมล่วงรู้ถึงแผนการร้ายกาจของพวกนั้น"
         คำว่า 'เป็นห่วง' ของเซอร์ทำให้ฉันหน้าแดงขึ้นมาทันทีเลย นี่เขาจะสังเกตเห็นมั้ยนะ แสดงว่าเขาก็ต้องมาเฝ้าดูฉันตั้งแต่ตอนเช้าแล้วงั้นสิถึงได้รู้ว่าพวกฉันทะเลาะกันน่ะ รู้สึกเขินขึ้นมายังไงไม่รู้แฮะ เหมือนตัวเองมีองครักษ์อยู่ข้างกายเลย แลดูเหมือนเจ้าหญิงขึ้นมาเลยเนอะ
         "เพื่อนคุณก็คงจะเป็นกังวลไม่น้อยเลยทีเดียว"
         "เรื่องนั้นจีรู้ค่ะ"
         ทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะว่าเพื่อนของฉันทุกคนเป็นห่วงฉันมากแค่ไหน ยิ่งฉันเป็นคนไม่ค่อยชอบมีเรื่องกับใครด้วยแล้ว และมักจะปล่อยให้คนอื่นรังแกตลอด มันเลยทำให้เพื่อนๆ วิตกกังวลอยู่ไม่น้อย จะมีเพื่อนสักกี่คนที่แสนดีกับเราแบบนี้ หายได้ยากมากเลยนะ ฉันโชคดีจริงๆ เลยที่ได้มารู้จักกับนิชา ลิลลี่ และหว่าหวา
         "ต่อไปนี้ผมคงต้องมาดูแลคุณที่นี่แล้วสินะ"
         "จะมาดูแลจีที่นี่ในฐานะอะไรล่ะคะคุณเป็นแวมไพร์นะ" ฉันตกใจกับคำพูดของเซอร์คัสที่บอกว่าจะมาดูแลฉัน มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเขาเป็นแวมไพร์ และแวมไพร์จะมาอยู่รวมกันกับมนุษย์ได้ยังไง เขากำลังคิดอะไรของเขาอยู่กันแน่เนี่ย
         "เซอร์ไพรส์"
         ตึก! ตึก! ตึก!
         เสียงฝีเท้าของใครบางคนที่กำลังเดินเข้ามาในห้องนี้ทำให้ทั้งฉันและเซอร์คัสหยุดเรื่องพูดเอาไว้เท่านั้น เพราะไม่อยากให้ใครสงสัยเอาได้ว่าฉันกำลังคุยกับใคร และค้างคาวตัวนี้มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงด้วย
         "เดี๋ยวก่อนค่ะ..." เมื่อเห็นว่าเซอร์คัสกำลังจะบินออกไปฉันก็เรียกเขาเอาไว้ซะก่อน เพราะเรายังคุยกันไม่ทันรู้เรื่องเลย เรื่องที่เขาจะมาดูแลฉันเขาพูดจริงหรือพูดเล่นกันแน่ และจะมาดูแลฉันได้ยังไง เขายังพูดไม่เคลียร์เลยนะจะหนีกันไปอย่างนี้เลยเหรอ
         "แล้วเจอกันสาวน้อย...จุ๊บ"
         :x
         ซะ...เซอร์คัสแอบฉวยโอกาสหอมแก้มฉันแล้วบินหนีไปเฉยเลย ฉันยังไม่ได้ถามคำถามที่ตัวเองอยากรู้เลยนะ เขามาทำให้ฉันอยากรู้แล้วก็จากไปแบบนี้ได้ยังไงกัน ทำตัวแบบนี้น่าโกรธจริงๆ เลย
         'เซอร์ไพรส์' งั้นเหรอ?
         คงได้เซอร์ไพรส์สมใจแน่ยัยจีละดาเอ๊ย คนอย่างเซอร์คัส เอ๊ย! ไม่ใช่สิ แวมไพร์อย่างเซอร์ถ้าได้พูดคำว่าเซอร์ไพรส์แล้วล่ะก็ เกินคำบรรยายจริงๆ ไม่อยากจะคิดเลยว่าเขากำลังคิดที่จะทำอะไรกันแน่ แต่ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมานะที่เขาบอกว่าจะมาดูแลฉันอ่ะ และฉันก็เชื่อว่าเขาจะต้องทำมันได้อย่างที่พูดเอาไว้แน่ๆ

    วันต่อมา
    ณ.มหาวิทยาลัย A 
         โอ๊ย! ตื่นเต้นจังเลย เซอร์คัสไม่ยอมบอกเซอร์ไพรส์ของเขาให้ฉันรู้เลยอ่ะ บอกแค่ว่ามาถึงมหาวิทยาลัยแล้วจะรู้เอง อดใจรอไม่ไวแล้วเนี่ย อยากรู้มากๆ เลยว่าเขาจะทำอะไร เพราะดูท่าทางของเขาเมื่อวานดูจะเป็นห่วงฉันมากเลยนะ
         ฉันไม่ได้คิดไปเองนะ เพราะตอนเย็นตอนฉันกลับไปถึงบ้านก็เห็นเซอร์คัสยืนรอฉันอยู่ที่ระเบียงพร้อมกับใบหน้าแสนซีเรียสของเขา อีกอย่างเขายังยืนยันเสียงหนักแน่นอีกด้วยว่าจะไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายฉันได้อีกถ้ามีเขาอยู่ใกล้ๆ
         ความอบอุ่นและความปลอดภัยแผ่ซ่านมาที่ตัวฉันทันทีที่เขาพูดประโยคนั้นออกมา ฉันคิดว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้รู้จักกับเขา เพราะถ้าไม่ได้เขาเมื่อวานที่ช่วยฉันเอาไว้ฉันคงไม่ได้มีชีวิตมายืนพูดอยู่ตรงนี้หรอก ดีไม่ดีอาจจะกลายเป็นผีไปเหมือนเขาก็ได้
         O_O นะ...นี่มันอะไรกันโต๊ะฉันทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ เดินเข้ามาในห้องก็เห็นขยะเต็มโต๊ะฉันไปหมดเลย มีทั้งเศษขนมปัง แก้วน้ำหวาน ขนมเค้กที่กินเหลือ ฉันอิ่มแล้วนะไม่ต้องมาใจดีแบ่งปันให้ฉันก็ได้
         แล้วฉันจะนั่งเรียนยังไงเนี่ย คงไม่ต้องบอกหรอกนะว่าคนที่ทำเป็นใคร นี่จะไม่เลิกรังควานกันจริงๆ ใช่มั้ย หรือต้องให้ฉันทำตัวเป็นนางร้ายพวกนั้นถึงจะยอมเลิกราจากฉันได้
         "เกิดอะไรขึ้นนะ?" ลิลลี่เดินเข้ามาหลังฉัน แล้วทำหน้าตกใจทันทีเลย ก็โต๊ะฉันเละซะขนาดนี้นี่นาไม่ตกใจก็บ้าแล้ว ดีนะที่ไม่มีหนูมาแทะอะไรแถวนี้ ฉันได้แต่ถอนหายใจกับการมาเรียนของตัวเองวันนี้ มันเป็นวันที่ซวยของฉันอีกวันสินะ ต้องทำใจแล้วล่ะมีศัตรูแบบนี้ อดทนอีกหน่อยแล้วกันเดี๋ยวมันก็จะผ่านไปเองแหละ
         "อยากรู้ก็ต้องไปถามคนทำสิ" ประโยคนี้ฉันไม่ได้เป็นคนพูดนะ เพราะคนที่พูดเดินไปที่โต๊ะริชกับเอ็มเคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฉันเป็นคนโดนกระทำยังไม่ได้โกรธเท่ากับนิชาเลย
         ตุ๊บบบบบ!
         นิชาทุบโต๊ะของริชซะเสียงดังเชียว สองคนนั้นสะดุ้งโหยงเลยล่ะ มันก็แหงอยู่แล้วสิ ใครๆ ก็กลัวนิชากันทั้งนั้น และฉันก็รู้ด้วยว่าริชกับเอ็มเคก็กลัว เธอมองหน้านิชาอย่างตกใจเหมือนเห็นมัจจุราชมายืนอยู่ตรงหน้า บอกเลยว่าตอนนี้นิชาเป็นมากกว่ามัจจุราชซะอีก เวลาที่เธอโกรธน่ากลัวมากจนไม่กล้าพูดด้วยเลยล่ะ
         "มาทุบโต๊ะพวกฉันทำไมไม่ทราบ" ริชยังมาทำใจดีสู้เสื้ออีกนะ ฉันน่ะรู้ว่ายัยนี่กลัวจนหัวหด ถ้ายัยริชกลัวก็อย่าไปพูดถึงยัยเอ็มเคเลยตัวเหลือเท่าขี้มดแล้วเนี่ย
         แต่บอกเลยนะว่าฉันไม่ได้สงสารพวกนั้นหรอก ฉันสงสารตัวเองมากกว่าที่ต้องมาโดนรังแกแบบนี้ ถ้าไม่ได้นิชาคอยช่วยก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะอยู่จนถึงวันจบหรือเปล่า
         "คาบไปทิ้งซะ" บอกได้คำเดียวว่าแร๊งส์ นิชาบอกให้พวกนั้นคาบขยะที่โต๊ะฉันไปทิ้ง อะไรจะปานนั้น นี่ฉันเริ่มกลัวเพื่อนตัวเองแล้วนะเนี่ย นางมารร้ายตัวไหนเข้าสิงเพื่อนฉันกัน ฉันที่ยืนอยู่ข้างๆ ยังสยองไปด้วยเลย แล้วคนที่มีเรื่องกับนิชาไม่ใช่ฉี่ราดไปแล้วเหรอ
         "ริช ยัยนิชาว่าเธอเป็นหมาอ่ะ" >>> เอ็มเค
         "=_=;" >>> ริช
         ฉันคิดว่าเอ็มเคต้องปัญญาอ่อนแน่ๆ เลย อยู่ๆ ไปโบ๊ยให้เพื่อนตัวเองรับแทนซะงั้น ฉันคิดว่าตอนนี้ริชคงกำลังอยากจะฉีกเอ็มเคออกมาเป็นชิ้นๆ แน่ ที่จริงแล้วนิชาก็ไม่ได้ว่าให้แค่ริชคนเดียวนะ เธอว่าให้คนที่ทำแหละ อีกอย่างนิชาเองก็ไม่ได้เอ่ยถึงหมาด้วย นั่นก็เท่ากับว่าเอ็มเคพูดให้เพื่อนตัวเองเฉยเลย น่าดีใจเนอะที่มีเพื่อนแบบนี้ รักกันซะเหลือเกิน (ประชดนะคะ)
         "เธอด้วยเอ็มเค" เอ็มเคเหวอไปเลย นิชานี่สุดยอดจริงๆ ที่สามารถกำราบคนพวกนี้ได้อยู่มัด ถ้าไม่แน่จริงอย่าคิดลองดีกับเพื่อนฉันคนนี้ดีกว่า เพราะเพื่อนฉันไม่ได้มาเล่นๆ นาจางานนี้ นางพกความโหดมาเต็มกระเป๋าเลย
         "ฉันไม่ได้ทำ"
         แหม! ริชเธอยังกล้าพูดเนอะว่าตัวเองไม่ได้ทำ เพราะคนในห้องไม่มีใครที่มีเรื่องกับฉันเลยสักคน ถ้าเธอไม่ได้ทำแล้วหมาตัวไหนมันทำ ที่จริงก็อยากจะพูดแบบนี้หรอกนะ แต่ก็ไม่กล้าเพราะถ้าพูดออกไปเรื่องมันคงไม่จบแค่นี้แน่ ดีไม่ดีอาจถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันขึ้นมาก็ได้
         "ฉันรู้ว่าพวกเธอทำ" สงสัยลิลลี่จะอดไม่ได้หลังจากยืนดูเหตุการณ์อยู่นาน ถึงยัยนี่จะชอบแขวะฉันแต่ก็ปกป้องฉันตลอดเลยนะ เพราะงี้ไงฉันถึงรักเพื่อนฉันทุกคน นี่สิถึงเรียกว่ามิตรภาพของจริง ไม่ได้ฉาบไว้ด้วยคำว่าจอมปลอม การที่มีเพื่อนที่ดีก็เท่ากับว่าตัวเองเหมือนถูกหวยเลยนะ เพราะเพื่อนจะอยู่กับเราไปจนวันตายเลย
         "ไหนล่ะหลักฐาน?" เอ็มเคพูดขึ้นมาบ้าง
         ที่จริงพวกฉันก็ไม่มีหลักฐานหรอก และการที่มาต่อว่าสองคนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเท่าไหร่ด้วย การที่จะกล่าวหาใครเราต้องมีหลักฐานเพื่อมายืนยันด้วย ไม่อย่างนั้นเราก็จะเอาผิดคนกับร้ายไม่ได้ เหมือนอย่างในกรณีของฉันไง
         "..." เงียบทำไมล่ะ สู้เขาสิคะคุณเพื่อนสู้เขา เพราะถ้าไม่ยอมพูดอะไรบ้างเลยก็จะเข้าทางริชกับเอ็มเคหมดเลยนะ อย่างยอมแพ้นะ เพราะงานนี้ฉันเองก็ไม่ยอมเหมือนกัน มันหลายครั้งแล้วที่ตัวเองโดนแบบนี้
         - อย่าแพ้เขานะ นะ นะ เพราะฉันเชียร์อยู่ อยู่ อยู่ -
         "หลักฐานก็ไม่มีอย่าปรักปรำกันดีกว่านิชา" ฉันตาไม่ฝาดแน่ริชยิ้มเยาะเย้ยนิชาอ่ะ ช่างกล้าบ้าดีเดือดอะไรถึงป่านนี้ ไม่กลัวตายหรือไงนะ ถ้าฉันเป็นเธอฉันจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาดเลย เพราะไม่อยากตายก่อนวัยอันควร
         "ฉันรู้ว่าเธอทำริช ถ้าไม่ใช่ฝีมือเธอแล้วจะใครล่ะ?" และครั้งนี้ดูเหมือนหว่าหวาเองก็คงจะไม่ยอมเหมือนกัน เธอเดินเข้าไปผลักไหล่ริชก่อนจะพูดโพล่งขึ้นมาเสียงดัง
         "นี่ยัยหว่าหวาเธอคิดว่ามีแต่คนชอบยัยจีมากนักหรือไง อาจจะมีคนเกลียดยัยจีก็ได้ที่ชอบทำตัวเป็นแม่พระ"
         ฉะ...ฉันเนี่ยนะทำตัวเป็นแม่พระ นี่ฉันเป็นคนดีก็ผิดเหรอเนี่ย ต้องให้ฉันทำตัวเป็นนางมารร้ายใช่มั้ยถึงจะถูกใจคุณเธอสองคน อีกอย่างฉันก็ไม่ใช่แม่พระอะไรด้วย แค่ฉันไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวเองเท่านั้นเอง ทุกคนก็ต้องทำเหมือนฉันไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่อย่างนั้นจะอยู่ด้วยกันได้ยังไง
         ตึก! ตึก! ตึก!
         เสียงฝีเท้าของใครบางคนกำลังเดินมาห้องนี้ทำให้สงครามระหว่างเราจบลงแค่นั้น เพราะคนที่เดินมาเป็นคนที่เราไม่กล้าที่จะส่งเสียงพูดคุยกันอีกเลย
         "อาจารย์คงจะมาแล้ว ฉันว่าเธอควรจะกลับไปนั่งที่เธอดีกว่านะนิชา เอาไว้ถ้ามีหลักฐานว่าฉันเป็นคนทำเมื่อไหร่แล้วฉันจะยอมรับ"
         ช่างเถอะ! ต่อให้พูดยังไงริชกับเอ็มเคก็คงไม่ยอมรับอยู่ดี งั้นก็ให้เรื่องมันจบแบบนี้น่ะดีแล้ว โดนมาเยอะแล้วนี่นา โดนอีกหน่อยจะเป็นไรไปล่ะ สตรองมาได้ถึงขนาดนี้ก็ถือว่าเก่งแค่ไหนแล้วจีละดา
         "(+_+)" สายตาอำมหิตของนิชา 
         "คุยอะไรกันอยู่จ๊ะนั่งที่ได้แล้ว อาจารย์มีเรื่องจะมาแจ้งให้ทราบ"
         "..." และพวกฉันก็เดินไปนั่งที่อย่างเลี่ยงไม่ได้
         "อ้าว! จีละดาทำไมโต๊ะเธอถึงได้..." อาจารย์มองมาที่โต๊ะฉัน แล้วทำหน้าอย่างกับเห็นกองขยะเท่าภูเขา มันก็แน่ล่ะสิ นี่ก็แทบล้นไปถึงโต๊ะของนิชาด้วยนะนั่นน่ะ แต่ก็นั่นแหละ ฉันไม่ใช่คนขี้ฟ้อง อีกอย่างฉันก็ยังไม่มีหลักฐานที่จะมาเอาผิดคนที่ทำได้ ก็คงต้องปล่อยให้เรื่องนี้มันจบลงแค่นี้ล่ะ
         "อ้อ! ของจีเองค่ะพอดีเมื่อวานลืมเก็บไปทิ้งขอโทษด้วยนะคะ" ฉันก้มหัวให้อาจารย์เล็กน้อย แล้วเดินไปเก็บขยะที่โต๊ะตัวเองพร้อมกับเพื่อนทั้งสามคนที่ทำหน้าไม่พอใจกับการกระทำของฉัน มันช่วยไม่ได้นี่นา ฉันไม่ได้อยากจะเป็นแม่พระอย่างที่ริชพูดหรอกนะ เพียงแต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมามีเรื่องกันไม่ใช่เหรอ
         "เอาล่ะจ๊ะอาจารย์มีเรื่องจะมาบอก ห้อง BTF1 จะมีผู้คอยดูแลมาดูแลความเรียบร้อยภายในห้องของเรานะจ๊ะ และจะมาดูแลเด็กๆ ในห้องด้วย"
         ฟึบบบบ!
         ลิลลี่ยกมือขึ้นมาทันทีที่อาจารย์พูดจบ เหมือนเธอจะสงสัยเป็นอย่างมากว่าทำไมถึงต้องมีคนมาคอยดูแลเราด้วย ทั้งๆ ที่พวกเราก็อายุจะขึ้นเลขสองแล้ว การที่มีคนมาดูแลแบบนี้มันเหมือนว่าเราเป็นเด็กที่ไม่รู้จักโตเลยนะ
         "ว่าไงจ๊ะลิลลี่"
         "ทำไมต้องมีคนคอยดูแลด้วยคะพวกเราก็ดูแลกันได้นี่นา"
         "คืออย่างนี้นะจ๊ะ ท่านอธิการบดีออกนโยบายใหม่ให้แต่ล่ะห้องมีคนดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยของเด็กๆ ทุกคนจ๊ะ หรือเรียกอีกอย่างก็คือบอดี้การ์ดนั่นเอง จะได้ไม่เกิดเรื่องทะเลาะกันในห้องหรือแกล้งเพื่อนในห้องไงจ๊ะ"
         ฟึบบบบ!
         คราวนี้เป็นนิชาที่ยกมือขึ้นแสดงความคิดเห็น ดูเหมือนว่าเธอจะรอโอกาสที่จะได้พูดใส่ริชและเอ็มเคอย่างเต็มที่เลยนะ ที่จริงมันก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ฉันแค่คิดเอาเองน่ะ
         "ว่าไงจ๊ะนิชา"
         "หนูเห็นด้วยค่ะอาจารย์ อาจจะมีคนคิดไม่ดีอยู่ก็ได้" ฉันเห็นว่านิชาเหลือบหางตาไปมองริชด้วยล่ะ สงสัยจะเป็นอย่างที่ฉันคิดจริงๆ สินะ นิชาตั้งใจจะพูดกระทบริชจริงๆ ด้วย
         "ใครคะอาจารย์ผู้ชายหรือผู้หญิง?" ดี๊ด๊าเชียวเอ็มเค ไม่เห็นเหมือนเมื่อกี้เลยที่ทำท่าทางหาเรื่องกันอยู่ตลอดเวลา เชื่อเหอะไม่มีผู้ชายคนไหนอยากได้เธอเป็นแฟนแน่ๆ พวกขี้อิจฉา
         "ผู้ชายจ๊ะ"
         "รีบแนะนำสิคะพวกหนูอยากเห็นแล้ว" ริชดูจะไม่สนใจสายตาของนิชาที่ส่งไปให้เธอเลยนะ ดูเหมือนว่าเรื่องผู้ชายจะมาก่อนเสมอ
         "โอเคจ๊ะ" อาจารย์เดินออกไปเพื่อที่จะไปเรียกใครคนหนึ่งให้เข้ามา "เชิญค่ะ"
         อาจารย์ผายมือเพื่อเชื้อเชิญบอดี้การ์ดคนใหม่ของห้องเข้ามาแนะนำตัว สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ประตูเพื่อที่จะดูว่าคนที่จะมาเป็นบอดี้การ์ดให้เราเป็นใคร ทีแรกฉันก็ไม่ได้สนใจหรอกนะ เพราะไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่สามารถช่วยฉันจากคนอย่างริชได้หรอก แต่ตอนนี้จะไม่ให้ฉันไม่สนใจไม่ได้แล้วเพราะคนที่เดินเข้ามาเป็นคนที่ฉันรู้จัก รู้จักดีซะด้วย
         ตึก! ตึก! ตึก!
         "สวัสดีครับ"
         O_O
         นะ...นี่มัน ซะ...เซอร์คัสนี่หว่า

      

    -ฝากเพจอีกสักที-

    เพื่อการติดตามที่สะดวกและรวดเร็ว
    คลิกที่ลิงก์ข้างล่างเลยงับ \(^O^)/
    V
    V
    V






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×