คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : มีเรื่องจนได้
มีเรื่องจนได้
แสงแดดยามเช้าลอดผ่านกระจกประตูระเบียงมากระทบตาฉันทำให้ต้องจำใจลุกขึ้นมา เช้าแล้วเหรอเนี่ย รู้สึกเหมือนเพิ่งนอนยังไงยังงั้นเลย จริงสิวันนี้วันจันทร์นี่นา ไปอาบน้ำดีกว่าเดี๋ยวนิชากับเจคอปจะมารับไม่อยากให้สองคนนั้นรอเดี๋ยวมันดูไม่ดี เพราะทั้งสองจะต้องมารับมาส่งอย่างกับเป็นคนขับรถส่วนตัวของฉัน ถ้าจะให้มารอมันคงจะดูไม่เหมาะ
วันนี้เซอร์คัสไม่ได้มาหาฉันเลย แต่ก็ดีแล้วล่ะเพราะถ้าเขามาหาทั้งเช้าทั้งเย็นฉันคงทำตัวไม่ถูกน่าดู เมื่อวานเขาก็ทำให้ฉันแทบไปต่อไม่ถูกเมื่อถูกเขาจู่โจมขโมยจูบของฉันไปอีกครั้ง แค่คิดถึงเรื่องจูบก็รู้สึกเขินขึ้นมาแล้วอ่ะ ทำไมฉันถึงเป็นไปได้ขนาดนี้นะ ไม่เข้าใจตัวเองเลย ดันไปหวั่นไหวกับแวมไพร์ซะได้
ยอมรับเลยว่าเมื่อวานเซอร์คัสทำให้ฉันประทับใจมาก ถ้าไม่มีเขาฉันคงไม่ได้ไปที่สวยๆ แบบนั้น และไม่มีวันได้เห็นวิวแบบนั้นด้วยว่าบนโลกใบนี้ของเขาจะมีอะไรที่น่าอัศจรรย์ขนาดนั้น และสิ่งหนึ่งที่ฉันไม่อยากเชื่อเลยคือการที่ตัวเองได้รู้จักกับแวมไพร์ และไม่คิดด้วยซ้ำว่าบนโลกของเราจะมีผีดูดเลือดได้ เพราะนี่มันยุคสมัยไหนแล้ว เทคโนโลยีก้าวหน้าไปถึงดาวอังคารแล้วยังจะมีเรื่องเหนือธรรมชาติแบบนี้อยู่ได้
มหาวิทยาลัย A
และนี่ก็เป็นอีกวันที่ฉันต้องเจอสายตาพิฆาตของริชกับเอ็มเค นี่มันก็ผ่านมานานแล้วนะยัยสองคนนั้นยังไม่เลิกเกลียดฉันอีกเหรอเนี่ย ฉันคิดว่าตัวเองไม่เคยไปทำอะไรให้ยัยพวกนั้นเจ็บแค้นเคืองโกรธเลยนะ ไม่รู้จะอะไรนักหนาอยู่ห้องเดียวแท้ๆ ฉันเองก็อยากจะคุยกับพวกเธอนะแต่ก็ไม่กล้า เห็นสายตาที่มองมาที่ฉันแล้วเหมือนกับนางร้ายในละครไม่มีผิดเลย ใครจะกล้าเข้าไปทักกันล่ะ
แล้วนี่ฉันต้องทนนั่งอึดอัดกับสายตาพวกนั้นอีกนานแค่ไหนกันนะ ไม่อยากมาเรียนแล้วอ่ะ จะขอพ่อให้ส่งตัวฉันกลับตอนนี้ยังจะทันอยู่มั้ย บ้านเมืองที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ที่ฉันเคยอยู่มาก่อน มันเลยทำให้ฉันเริ่มมองที่นี่ในด้านลบขึ้นมาแล้วสิ
น่าเบื่อจังที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ นี่ถ้าเซอร์คัสอยู่เขาคงพาฉันไปเที่ยวในที่สวยๆ แล้ว เอ๊ะ! แล้วทำไมฉันต้องนึกถึงเซอร์คัสขึ้นมาด้วยล่ะ ในหัวฉันตอนนี้ทำไมมีแต่เขาเต็มไปหมดเลย
นี่เขากำลังทำอะไรกับสมองของฉันเนี่ย ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะฉันไม่อยากคิดถึงเขา แค่นี้ก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับชีวิตตัวเองยังไงแล้ว ฉันนั่งถอนหายใจกับเรื่องที่อยู่ในหัวของตัวเองตอนนี้โดยลืมไปเลยว่ายังมีอีกสามชีวิตที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉันด้วย
"เป็นไรหรือเปล่าจี ฉันเห็นเธอนั่งถอนหายใจหลายรอบแล้วนะ" นิชาช่างเป็นคนสายตาดีจังแฮะ สงสัยคงมองฉันอยู่ตลอดเวลาแหงๆ
"เปล่าๆ" ฉันรีบตอบปฏิเสธทันทีทั้งที่มันไม่ทันแล้ว เพราะหน้าของฉันตอนนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ามีเรื่องอะไรในใจ
"เปล่าอะไรยัยโลกสวย ฉันเห็นเธอมองยัยริชกับยัยเอ็มเคแล้วถอนหายใจบอกมาดีกว่า" จะเป็นใครไปไม่ได้ที่แขวะฉันนอกจากลิลลี่ แต่ก็เข้าใจเธอนะที่พูดแบบนี้เพราะเป็นห่วงฉัน
ฉันนั่งถอนหายใจอีกรอบเพราะไม่รู้ว่าจะบอกเพื่อนยังไงดี เรื่องของเซอร์คัสก็บอกไม่ได้ นี่อึดอัดมากเลยนะ อยากจะระบายให้ใครฟังมากๆ เลย บางทีมันอาจทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นก็ได้
"พวกนั้นทำอะไรเธอเหรอจี?" พอหว่าหวาถามคำถามนี้ออกมานิชานี่ถึงกลับจับมือฉันแน่นเลย ดูเหมือนเธอจะเป็นห่วงฉันมากเกินเบอร์ไปแล้วนะ ฉันยังไม่ตายจ๊ะไม่ต้องห่วงขนาดนั้นก็ได้มั้ง
"เดี๋ยวฉันจัดการให้" นิชานี่ช่างกล้าหาญมาก คงไม่แปลกหรอกเพราะแฟนของนิชา 'คอปบา' เป็นถึงหัวหน้าชมรมคาราเต้เชียวนะ เธอไม่จำเป็นต้องออกโรงเองเลย แค่บอกแฟนแค่นี้ก็ไม่มีใครกล้ามาทำอะไรเธอแล้ว
"ไม่มีอะไรหรอก เที่ยงแล้วไปกินข้าวกันเถอะ" ฉันเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงริชกับเอ็มเค แค่เห็นสายตาของพวกนั้นก็แย่แล้ว อย่าให้ต้องเอาเรื่องของเธอมาพูดเลยนะเพราะมันจะทำให้วันนี้ฉันกินข้าวไม่อร่อย อีกอย่างฉันก็ไม่อยากทำให้เพื่อนไม่สบายใจไปด้วย ไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นทุกข์กับฉัน
"เธอนี่โลกสวยตลอด"
"ถ้าไม่มีอะไรก็ดีแล้วอย่าไปยุ่งกับพวกนั้นจะดีกว่าปวดหัวเสียเปล่าๆ"
มันก็จริงอย่างที่นิชาพูดนะ แค่ฉันนึกถึงหน้ายัยพวกนั้นก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว ถ้ามีเรื่องกันล่ะก็อยู่ไม่สุขแน่งานนี้ อย่างน้อยตอนนี้ทั้งริชและเอ็มเคก็ไม่ได้มาหาเรื่องฉันหรือพูดจาแย่ๆ ใส่แล้วล่ะ จะมีก็แต่สายตาที่มองมาเพื่อบ่งบอกว่าเจ้าตัวไม่ชอบฉันมากแค่ไหน
"พูดอะไรให้พวกฉันยะฉันได้ยินนะ" หูดีนักนะริช บางทีคุณเธออาจจะหูดีกว่าหมาหลายสายพันธุ์ก็ได้ เพราะนั่งอยู่ห่างกันมากแต่กลับได้ยินสิ่งที่พวกฉันพูดเนี่ย
นึกว่าจะไม่มีเรื่องแล้วเชียว คอยดูสิว่าเรื่องไม่จบแค่นี้แน่ เพราะพวกเธอตั้งท่าอยากมีเรื่องกับพวกฉันมานานแล้ว พอมีโอกาสก็หาเรื่องทันที นี่ฉันก็แปลกใจพวกนี้นะว่าทำไมถึงอยากจะมีเรื่องกันนัก อยู่ดีๆ ไม่เป็นหรือไง แบบต่างคนต่างอยู่ไรงี้ หรือพวกเธอเป็นพวกสมาธิสั้นอยู่เฉยไม่ได้เหรอถึงต้องคอยมาหาเรื่องคนอื่นอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ อีกอย่างเมื่อกี้พวกฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรให้เธอเลยนะทำไมต้องร้อนตัวขนาดนี้ด้วย
"ใช่! กำลังนินทาพวกฉันอยู่ใช่มั้ย?" กลองแต๊ะก็มาจ้าาา เอ็มเคสหายของริช กลัวจะไม่ได้มีเรื่องสินะ นี่ก็เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียว วันนี้ฉันไม่อยากมีเรื่องถ้าเรื่องมันจบลงง่ายๆ ก็น่าจะดีสำหรับฉัน ไม่รู้ทำไมวันนี้ฉันถึงรู้สึกไม่ค่อยดียังไงไม่รู้ เหมือนจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับตัวเองเลย
"ขอโทษนะ"
"นี่จีเธอไปขอโทษพวกนั้นทำไมเราไม่ได้ทำอย่างที่พวกนั้นกล่าวหาสักหน่อย" ลิลลี่ก็ช่างปากหาเรื่องจริงๆ ที่ฉันขอโทษก็เพราะไม่อยากมีเรื่องต่างหาก แค่พูดคำว่าขอโทษมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอยู่แล้ว
"ยัยลิลลี่เน่าก็เห็นๆ กันอยู่ว่าเธอนินทาพวกฉัน"
ริชทุบโต๊ะเสียงดังก่อนจะชี้หน้าลิลลี่อย่างหาเรื่อง ว่าแล้วเชียวว่าเรื่องต้องไม่จบแค่นี้ ทำไมเพื่อนฉันถึงได้อยากมีเรื่องกับคนพวกนี้ก็ไม่รู้ ไม่เหนื่อยหรือไงที่ต้องมาต่อปากต่อคำกัน แค่คิดก็เหนื่อยแทนแล้ว
"ฉันไม่อยากนินทาพวกเธอให้ปวดสมองหรอกแค่ได้ยินเสียงนะยังกับเปรตมาร้องขอส่วนบุญ" นี่ไม่คิดจะเลิกทะเลาะกันใช่มั้ย ที่เรื่องมันเป็นแบบนี้ก็คงจะโทษใครไม่ได้หรอกนอกจากตัวของฉันเอง
"กรี๊ดดดดด" >>> ริช เอ็มเค
ว่าแล้วเชียวว่าเรื่องต้องไม่จบง่ายๆ ทำตัวอย่างกับเด็กๆ ไปได้อายุสิบเก้าปีกันแล้วนะ ฉันทนคบกับยัยพวกนี่มาได้ยังไงเนี่ย อยากจะบ้าตายจริงๆ เลย หัดมองโลกในแง่ดีบ้างสิ ทำแบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะได้เป็นเพื่อนกันล่ะ เราอยู่ห้องเดียวกันก็ต้องสามัคคีกันไว้สิ นี่อะไรมีเรื่องกันเฉยเลย นี่ถ้าฉันกลับประเทศตอนนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจนะว่าทำไม ก็เพราะโดนไล่ออกไง ไม่ใช่ลาออกเองด้วย
"พอได้แล้ว!!!"
นิชาโพล่งขึ้นมาด้วยเสียงที่ทรงอำนาจมาก ทำให้ทั้งลิลลี่และริชต่างพากับเงียบกริบไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่นิชากันหมดเลย พอนิชาพูดมาแบบนี้รับรองได้เลยว่าเรื่องจะต้องจบภายในไม่เกินห้านาทีอย่างแน่นอน
"พวกฉันไม่ได้พูดให้เธอ โอเคมั้ย?"
"ยัยลิลลี่เน่าพูดชื่อพวกฉันสองคนจะไม่ได้พูดให้พวกฉันได้ยังไง เธออย่าบอกนะว่าพูดให้คนที่อยู่ในห้องนี้" ริชเองก็คงจะไม่ยอมเหมือนกัน แต่ฉันรู้ว่าเธอกลัวนิชา กลัวมากซะด้วยแหละ แต่ก็ไม่อยากยอมแพ้ลิลลี่เหมือนกัน
"..."
อ้าว! ทำไมนิชาเงียบไปล่ะ แต่มันก็จริงอย่างที่ริชพูดนะก็ลิลลี่เอ่ยชื่อพวกนั้นก่อนนี่นา แต่เรื่องทั้งหมดก็เป็นเพราะฉัน ถ้าฉันไม่ถอนหายใจก็คงไม่มีเรื่องแบบนี้หรอก เพื่อนก็คงไม่ต้องมาเป็นห่วงฉันจนเรียกชื่อสองคนนั้นขึ้นมาแบบนี้ ฉันนี่มันชอบหาเรื่องให้คนอื่นต้องเดือดร้อนจริงๆ เลย
"นี่ทุกคน หยุดทะเลาะกันได้แล้ว" ตอนนี้ทุกคนหันมามองฉันเป็นตาเดียวเลยไม่เว้นแม้แต่นิชา "ริช เอ็มเคจีต้องขอโทษด้วยนะเรื่องทั้งหมดมันเป็นความผิดของจีเองอย่าไปว่าให้ลิลลี่เลยนะ" ฉันไม่อยากให้เรื่องไปกันใหญ่เลยรีบพูดขึ้นมาเพื่อให้เรื่องมันจบๆ ไป
"จีเธอรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังพูดอะไรออกมา"
นิชาหันมามองหน้าฉันก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมเธอถึงทำหน้าแบบนั้น ฉันแค่ไม่อยากมีเรื่องเท่านั้นเอง เธอน่าจะดีใจนะที่ฉันลุกขึ้นมาพูดบ้าง ไม่ใช่อะไรก็ให้เพื่อนออกโรงปกป้องตลอดอ่ะ ฉันไม่อยากอ่อนแอในสายตาของคนอื่นอีกแล้วนะ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดเหอะ เราเลี่ยงมันไม่ได้อยู่แล้วนี่นา
"เราได้เจอกันแน่ยัยจีละดา" ริชพูดจบก็ส่งยิ้มเหยียดมาให้ฉันก่อนจะเดินออกจากห้องไปตามด้วยเอ็มเค กลายเป็นว่าสงครามเมื่อกี้สงบลงแล้ว
ริชก็พูดแปลกยังไงเราก็ต้องได้เจอกันอยู่แล้วสิก็เรียนห้องเดียวกันนี่นา เอ๊ะ! หรือว่าจะหมายความเป็นอย่างอื่น เออ! ช่างเหอะ ตอนนี้ไม่อยากรับรู้อะไรแล้ว เอาเป็นว่าใครอยากจะทำอะไรก็ทำ ฉันมาที่นี่เพื่อมาเรียนไม่ได้มาหาเรื่องทะเลาะกับใคร ฉันคิดว่าริชเองก็คงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงหรอก เพราะเธอก็ดูเหมือนไม่ได้ร้ายกาจอะไรขนาดนั้น อาจจะแค่เป็นเด็กขี้อิจฉาก็เท่านั้นแหละ
"เธอไม่น่าพูดแบบนั้นเลยนะจี" ยังอยู่อีกเหรอหว่าหวา ฉันก็นึกว่าเธอแอบไปกินข้าวคนเดียวซะอีก ไม่เห็นมีส่วนร่วมด้วยเลย
"ทำไมเหรอ?" ตอนนี้ทั้งนิชา ลิลลี่ หว่าหวา ต่างพากันทำหน้าเครียดจังเลย ทำอย่างกับว่าไม่ได้เข้าห้องน้ำมาสามอาทิตย์งั้นล่ะ
"ต่อไปนี้ชีวิตเธอคงวุ่นวายกว่านี้แน่ยัยโลกสวย"
"ขนาดนั้นเลยเหรอ" ตกใจนะเนี่ยที่เพื่อนๆ พูดขึ้นมาแบบนี้ มันจะมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นกับฉันอย่างนั้นเหรอ ไม่หรอกมั้งริชคงไม่กล้าทำอะไรขนาดนั้นหรอก หรือว่าจะกล้า? แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เห็นว่าเธอจะทำอะไรรุนแรงมากกว่าการมองมาด้วยสายตาเย้ยหยันเลยนะ
"ไปกินข้าวกันเถอะ" นิชาพูดขึ้นเพื่อจบเรื่องที่เราคุยกับเมื่อกี้ คงไม่อยากให้ฉันคิดมากสินะ นิชาก็เป็นคนแบบนี้แหละ มีอะไรก็มักจะปิดเงียบไม่ยอมบอกฉันให้รู้เพราะไม่อยากให้ฉันเป็นห่วง
ตอนนี้ลิลลี่และหว่าหวาเดินนำหน้าฉันกับนิชาไปก่อนเพื่อที่จะไปจองโต๊ะไว้ เพราะตอนเที่ยงที่โรงอาหารคนเยอะอย่างกับมดแตกรังออกมาแน่ะ คงเหลือแต่ฉันกับนิชาที่เดินมาด้วยกัน นิชาไม่ยอมพูดอะไรกับฉันสักคำแถมหน้าก็ยังดูวิตกกังวลมากด้วย ฉันนี่รู้สึกอึดอัดจังเลยแฮะกับสถานการณ์แบบนี้
หมับบบบบ!
อุ้ย! ตกใจหมด อยู่กันเงียบๆ นึกว่ามีมือผีที่ไหนมาจับข้อมือฉันที่แท้ก็นิชานี่เอง เมื่อกี้เห็นเงียบมาตลอดทาง บทอยากจะพูดก็เล่นงี้เลยเหรอ ฉันมองหน้านิชาอย่างงุนงงเพราะไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรตั้งแต่อยู่ในห้องแล้ว แต่ที่รู้แน่ๆ คือที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้จะต้องเป็นเรื่องของริชกับเอ็มเคแน่
"มีอะไรเหรอ?"
"ต่อไปนี้ก็ระวังตัวด้วย ไม่ว่าจะเดินนั่งกินหรือทำอะไรก็แล้วแต่เธอต้องระวังให้มากกว่าเดิมเข้าใจมั้ย" นิชาเอ่ยเสียงเครียด นี่ก็ยิ่งทำให้ฉันเครียดเข้าไปใหญ่ แต่ไม่อยากทำให้เธอไม่สบายใจเลยพยักหน้าตอบเธอไปแบบนั้น ที่จริงฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจความหมายที่นิชาสื่อกับฉันหรอกนะ แต่จะพยายามเข้าใจแล้วกัน
"อะ...อืม"
ตอนนี้ฉันกับนิชายืนกุมมือกันอยู่อย่างกับพระเอกนางเอกแน่ะ แต่คำพูดของนิชากลับทำให้ฉันกลัว นี่ฉันกำลังตกอยู่ในอันตรายงั้นเหรอ ฉันไม่ได้จะไปรบกับหน่วย FBI สักหน่อย ทำไมตอนนี้รอบตัวฉันถึงได้น่ากลัวอย่างน่าประหลาดล่ะ แล้วนี่ฉันจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขยังไงเนี่ย ในเมื่อรอบตัวของฉันตอนนี้มีแต่อันตรายเต็มไปหมด เหมือนตัวเองหลงเข้าไปในหนังฆาตกรโหดอย่างนั้นแหละ
ฉันแยกออกมาจากเพื่อนๆ เพื่อที่จะไปเข้าห้องน้ำ และรอเรียนวิชาต่อไป ทีแรกนิชาก็ไม่ยอมให้ฉันมาคนเดียวแบบนี้หรอก ฉันก็เลยให้เหตุผลไปว่าอยู่ที่ห้องคงไม่มีใครกล้ามาทำอะไรหรอก ก็มันห้องเรียนนี่นาใครจะกล้าทำอะไรล่ะ จริงมั้ย? อีกอย่างฉันเองก็ไม่ได้คิดว่าริชจะกล้ามาทำอะไรฉันอยู่ที่นี่หรอกนะ เพราะที่นี่มีกฎระเบียบและมีอาจารย์อยู่หลายคน ถ้าเธอกล้าทำอะไรที่มันร้ายแรงเธอก็คงจะอยู่ที่นี่ไม่ได้เหมือนกัน
ไม่ใช่ว่าฉันประมาณหรือทำเป็นเก่งนะ แต่ฉันคิดดีแล้วว่าริชไม่กล้ามาทำอะไรฉันอย่างแน่นอน ถึงเธอกล้าที่จะทำฉันก็ไม่อยากให้เพื่อนต้องมาเดือดร้อนด้วย ฉันเป็นคนสร้างเรื่องนี้เอง เพราะงั้นคนที่ต้องจัดการกับปัญหานี้ก็คงจะต้องเป็นฉัน
ฟังแล้วดูเหมือนว่าตัวเองจะออกไปรบยังไงยังงั้นแหละ แต่ก็ไม่แน่หรอกถ้าเดินไม่ระวังอาจจะถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตีก็ได้ ฉันเปล่าอินในเรื่องหนังที่ตัวเองเพิ่งดูมานะ แค่คิดขึ้นมาเท่านั้นว่าเราจะต้องระวังตัว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีศัตรูก็เถอะ อันตรายรอบตัวมีอยู่รอบตัวเราทุกที่ทุกเวลานี่นา
-ฝากเพจอีกสักที-
ความคิดเห็น