คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : PLAYBOY LOVER 04 | {100 %}
04
O_O เฮือก!!!
จะพูดอะไรไม่ปรึกษากันก่อนเลย ฉันมองหน้าเขาอึ้งไม่รู้จะพูดอะไรออกไป คือมันพูดไม่ออกอ่ะ ทั้งตกใจทั้งเขิน เรื่องแบบนี้ฉันเคยเจอมาจนมันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วที่มีคนมาสารภาพรักแบบนี้
แต่ทำไมตอนนี้ฉันถึงได้ใจเต้นแรงกับผู้ชายตรงหน้าได้นะ
ฉันจู่โจมพี่เวลล์แบบค่อยเป็นค่อยไป แต่เอสกับมาจู่โจมฉันแบบที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัวเลย เราไม่ได้รู้จักกันถึงต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ หรือว่ามันอาจจะเป็นกรรมตามสนองฉันก็ได้ที่ไปตามตื๊อพี่เวลล์โดยที่เขาไม่สนใจแบบนี้อ่ะ
“เป็นไรอ่ะเธอ” เสียงของเอสดึงสติฉันกลับมาก่อนจะหันไปจ้องเขาอย่างเอาเรื่อง บอกไปแล้วว่าไม่อยากหวั่นไหว เพราะงั้นฉันจะต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
“ฉันเองก็มีเรื่องอยากบอกนายเหมือนกัน”
ฉันกอดอกยิ้มกรุ้มกริ่มไปให้คนตรงหน้า ทำให้เขาขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย ฉันน่ะร้ายกว่าที่ทุกคนคิด คนอย่างวิวาห์ไม่ยอมให้ใครมาทำเรื่องแบบนี้ได้หรอก เพราะฉันจะทำมันได้แค่คนเดียวเท่านั้น
“ฉันมีแฟนแล้ว”
“แฟนปะ ไม่ใช่ผัว ฉันไม่ได้ซีเรียส” คนตรงหน้ายักไหล่กลับมาอย่างไม่ใส่ใจ ทำเอาฉันอึ้งไปเลย
ไม่เคยเจอใครที่เป็นเหมือนเขามาก่อน ร้ายกว่าฉันอีกอ่ะ ฉันว่าฉันร้ายแล้วนะแต่เขาร้ายกว่าฉันอีก ก้มหัวคารวะให้เลย แต่ถึงยังไงฉันก็ไม่เปลี่ยนใจไปจากพี่เวลล์หรอกนะ ถึงแม้ว่าตัวเองจะหัวใจเต้นแรงกับคนนี้ก็ตาม พี่เวลล์สำคัญที่สุดสำหรับฉันแล้วตอนนี้
“แฟนฉันหวงฉันมาก”
“ฉันก็หวงเธอมากเหมือนกัน” หมดคำพูดไปเลยฉัน ผู้ชายอะไรดื้อด้านชะมัด ถ้าพี่เวลล์เป็นเหมือนเอสก็คงดีสินะ ฉันคงไม่ต้องเหนื่อยวิ่งไล่ตามเขาแบบนี้
“ฉะ...ฉันไม่พูดกับนายแล้ว” ฉันสะบัดหน้าหนีเพราะไม่อยากจะเสวนากับเขา คนอย่างเขาดูก็รู้ได้ไม่ยากว่าพูดอะไรไปก็คงไม่ฟังที่พูดหรอก เพราะโหงวเฮ้งแบบนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าพ่อแม่ไม่รัก
หลังจากเลิกคลาสฉันก็ลากมีมี่ออกจากห้องทันที เพราะไม่อยากอยู่กับเอสและไม่อยากให้เขาตามฉันเจอด้วย เขาน่ากลัวมาก จนฉันรับมือแทบไม่ทันแน่ะ
แต่ก็เท่านั้นเพราะเขาเดินตามฉันออกมาติดๆเลย พร้อมกับเอื้อมมือมาคว้าข้อมือฉันเอาไว้อย่างถือวิสาสะ ทำให้ฉันต้องหันหน้าไปมองเขาอย่างไม่พอใจที่เขามาทำลุ่มล่ามกับฉันแบบนี้
ฉันสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของคนตรงหน้า ถอยหลังให้ห่างจากเขาอีกเท่าตัว ส่วนเขาก็แค่ยักคิ้วให้แล้วถามกลับมาอย่างไม่ใส่ใจในท่าทีของฉันสักนิด
“ไปไหนอ่ะเธอ?”
“ยุ่ง”
“เดี๋ยวไปส่ง”
“ธุระ?”
“เออ!”
“แฟนมารับ” ฉันตอบกลับไปแทบจะทันที เขาดูจะเหวอไปนิดหน่อยที่ฉันตอบแบบนั้น
ฉันไม่ชอบให้เขามาตามแบบนี้ มันดูอึดอัดยังไงชอบกล เพิ่งเข้าใจพี่เวลล์ก็วันนี้นี่แหละ แต่ฉันก็มีขอบเขตนะไม่ได้ทำอะไรประเจิดประเจ้ออย่างที่เอสทำกับฉันเหมือนตอนอยู่ในห้อง
“วิวาห์แกไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ เห็นเมื่อเช้านี้บ่นอยู่ว่าตามตื๊อพี่เวลล์ไม่สำเร็จ เค้าตอบตกลงเป็นแฟนกับแกแล้วเหรอ?”
เออ!ยัยเพื่อนรักก็ไม่ได้ช่วยอะไรฉันเลย ไหนจะมาหางานให้ฉันอีก ดูหน้าของเอสตอนนี้สิยิ้มร่าอย่างกับดีใจที่ถูกรางวัลที่หนึ่งอย่างนั้นล่ะ ฉันไม่น่าพลาดไปเป็นเพื่อนกับยัยนี่เลย ไม่เคยช่วยอะไรฉันได้สักอย่าง ดีแต่ทำให้ปวดหัวไปวันๆ
“เพื่อนเธอยังไม่มีแฟน?” คราวนี้เอสหันไปถามมีมี่แทนเฉยเลย
“ยังหรอก เพื่อนฉันกำลังตามจีบพี่เวลล์ที่เป็นนายแบบในเครือของPrinceอยู่น่ะ นี่ก็ตามจีบมาสองปีกว่าแล้วนะแต่ก็ไม่เห็นวี่แววว่าเค้าจะตอบรับกลับมาเลย” ถ้าจะบอกละเอียดขนาดนั้น ทำไมไม่บอกประวัติฉันไปด้วยเลยล่ะ เขาจะได้รู้รวดเดียวจบ ยัยเพื่อนคนนี้มันทั้งบ้าทั้งเซ่อสิ้นดี ฉันทนคบกับมันไปได้ยังไงนะ ไม่เห็นหน้าฉันเลยหรือไงที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่เนี่ย
“ถึงกับโกหกฉันเลยเหรอ?” เอสเอามือล้วงกระเป๋าเดินเข้ามาใกล้ฉัน แต่ฉันก็เลือกที่จะถอยหนี เพราะกลัวว่าเขาจะทำเหมือนตอนที่อยู่ในห้อง
“เอาตรงๆเลยก็ได้ ฉันไม่ชอบนายจบปะ?”
“ไม่จบ!”
เขาเองก็สวนกลับมาทันทีทันใดที่ฉันพูดจบประโยค มันจะอะไรกันนักกันหนา ผู้หญิงเขาไม่เล่นด้วยก็ไปหาคนอื่นสิ จะมาอะไรกับคนอย่างฉัน ฉันเองก็ไม่ได้สวยเลอค่าอะไรขนาดนั้นนะ ทำไมตอแยกับฉันไม่เลิกสักที ไม่เคยเจอผู้ชายแบบเขาเลยจริงๆ ให้ตายสิ
“เออ!นั่นมันก็เรื่องของนาย” พูดจบฉันก็หันหลังเพื่อเดินออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด โดยไม่เรียกมีมี่ให้เดินมาด้วยกันด้วยซ้ำ ฉันยังเคืองไม่หายที่เธอเล่นไปบอกคนอื่นเรื่องของฉันขนาดนั้น
หมับ!
ยังไม่ทันจะได้ก้าวไปไหนมือหนาของเอสก็คว้าเข้าที่เอวของฉันก่อนจะดึงให้เข้าไปประชิดตัวเขา ด้วยแรงที่เขามีมากกว่าฉันทำให้ฉันเซไปซบที่อกแกร่งของเขาเข้าอย่างพอดิบพอดี กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆจากตัวเขาทำให้ใจฉันเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง ไหนจะอ้อมกอดที่เขากอดฉันเอาไว้อีกล่ะ
นอกจากพี่เวลล์แล้วก็ไม่เคยมีใครได้มากอดฉันแบบนี้เลยนะ เขาก้มลงมากระซิบที่ข้างหูฉันแผ่วเบา มันใกล้มากจนลมหายใจของเขารินลดที่ต้นคอฉัน
“ถ้าคิดว่าจะหยุดฉันได้เธอคิดผิดแล้วล่ะที่รัก”
“ชื่อวิวาห์ไม่ได้ชื่อที่รัก”
“อีกไม่นานเธอคงได้เป็นที่รักของฉัน” พูดจบเอสก็ก้มลงมาขบเม้มเบาๆที่ซอกคอฉัน แต่นั่นมันก็ทำให้ฉันเจ็บจนต้องผลักเขาออก มันรู้สึกเจ็บจี๊ดๆยังไงไม่รู้ อธิบายไม่ถูกเพราะฉันเองก็ไม่ค่อยถนัดกับเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่
“นะ...นายทำอะไรของนาย” ฉันยกมือขึ้นลูบที่ต้นคอที่โดนเขาทำอะไรบางอย่างเอาไว้ แต่เขากลับยิ้มร่าอย่างคนอารมณ์ดี จนดูเหมือนคนบ้าไปแล้ว
“แสดงความเป็นเจ้าของ”
เจ้าของอะไรของเขากัน ฉันเริ่มจะโมโหแล้วนะ ทำไมต้องมาทำลุ่มล่ามถึงเนื้อถึงตัวกันขนาดนี้ด้วย อีกอย่างนี่มันก็ในมหาวิทยาลัย ทำอะไรไม่ให้เกรียติสถาบัน
“แฟนจอมปลอมเธอจะได้รู้ว่าเธอมีเจ้าของแล้ว”
“...” ฉันกำลังอึ้งในสิ่งที่เอสพูด อยากจะด่าเขากลับไปนะแต่รู้สึกว่าลิ้นมันแข็งไปหมดจนพูดไม่ออก ได้แต่ยืนมองเขาอยู่อย่างนั้น
“แล้วเจอกันที่รัก” พูดจบเขาก็เดินไปเลย ทิ้งเอาไว้เพียงคำพูดสองแง่สองง่าม ใครเป็นที่รักของเขา คนอย่างฉันต้องเป็นพี่เวลล์คนเดียวเท่านั้นที่จะมาเป็นที่รักของฉันได้ คนอื่นไม่มีสิทธิ์นั้น
“วิวาห์แกโอเคนะ” มีมี่ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าฉันยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงใดๆทั้งสิ้น
“อะ...อื้อ”
“สรุปแกจะไปหาพี่เวลล์ปะเนี่ย?”
พี่เวลล์?...
ใช่แล้ว วันนี้ฉันต้องไปง้อพี่เวลล์นี่นา ลืมไปสนิทเลยเพราะไอ้บ้าเอสคนเดียวแท้ๆ ทำให้สติฉันกระเจิดกระเจิงไปหมด นี่ถ้าฉันไปแล้วไม่เจอพี่เวลล์ล่ะก็นะ ฉันจะตามไปลากคอไอ้บ้านั่นมาสังเวยแทบเท้าฉันเลยคอยดู
ฉันไม่น่าเล่นกับเขาด้วยเลย เรื่องแบบนี้เห็นๆกันอยู่ว่ามาแบบไม่จริงใจ ดูก็รู้ว่าเป็นคนทะเล้นแค่ไหน นิสัยเหมือนพี่เวลล์ไม่มีผิด
แต่เอสดีกว่าหน่อยคือเขาไม่ได้เมินฉันเหมือนอย่างที่พี่เวลล์เมิน แต่แล้วไงฉันรักของฉันอ่ะ เรื่องแบบนี้มันให้อภัยกันได้อยู่แล้ว ฉันไม่ซีเรียส ตราบใดที่พี่เวลล์ยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน
ฉันก็ยังพอมีลุ้นอยู่บ้างว่าสักวันเขาอาจจะหันมามองฉันบ้างก็ได้
ที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะพี่เวลล์มีงานเดินแบบอยู่ที่นี่ยังไงล่ะ และที่ฉันรู้ก็เพราะฉันติดตามเขามาตลอดและค่อนข้างที่จะสนิทกับผู้จัดการส่วนตัวของเขาด้วย
ก็เลยไม่แปลกที่ฉันจะรู้ความเคลื่อนไหวของพี่เวลล์จริงไหม ไม่มีเรื่องไหนที่เกี่ยวข้องกับพี่เวลล์แล้วฉันไม่รู้
เรียกได้ว่าฉันเป็นยิ่งกว่าสตอล์กเกอร์ซะอีก
ฉันเดินเข้าไปถามพนักงานต้อนรับว่างานจัดอยู่ที่ไหนก่อนจะกดลิฟต์ไปตามหาพี่เวลล์ทันที เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปมากกว่านี้ พอมาถึงหน้างานฉันนี่แทบทำตัวไม่ถูก
คือเข้าใจป่ะว่างานเขาจัดอลังการมาก มีแต่ดารา เซเลบคนดังมากมาย
แล้วฉันล่ะ?
ฉันเป็นใคร?
มาทำอะไรที่นี่?
คนอื่นแต่งตัวอย่างสวยหรู แต่ฉันกับใส่แค่ชุดนักศึกษามายืนเอ๋ออยู่หน้างาน ฉันลืมคิดเรื่องนี้ไปได้ยังไงนะ รู้งี้ซื้อชุดอยู่ที่ห้างฯใกล้โรงแรมมาก็ดีหรอก
“น้องวิวาห์”
ฉันหันกลับไปมองที่มาของเสียง ก็เห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งแต่งตัวดูภูมิฐานมายืนยิ้มให้ฉัน และฉันก็รู้จักเขาคนนี้ดีซะด้วย อีกอย่างเราก็ค่อนข้างจะสนิทกันอีกต่างหาก
“พี่โพล” ฉันวิ่งเข้าไปกอดแขนคนตรงหน้าทันที เพราะที่นี่ไม่มีคนที่ฉันรู้จักเลยนอกจากเขา แถมบัตรเข้างานฉันก็ไม่มีด้วย มาที่นี่ไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยนะ
พี่โพลเป็นเป็นผู้จัดการส่วนตัวของพี่เวลล์ เขาทั้งใจดีและอ่อนโยนกับฉันมาก เขาทำเหมือนว่าฉันเป็นน้องสาวของเขาเลยล่ะ อีกอย่างพี่โพลก็หล่อมากด้วย เขาไม่น่าจะมาเป็นผู้จัดการเลยด้วยซ้ำ ระดับเขาแล้วฉันว่านายแบบบางคนยังต้องชิดซ้ายเลย คิดดูสิว่าผู้ชายคนนี้หล่อแค่ไหน แต่ถึงยังไงก็ไม่มีใครหล่อสู้พี่เวลล์ของฉันได้อยู่ดีนั่นแหละ
“ไงเรา?”
พี่โพลลูบผมฉันอย่างเอ็นดู ทำให้ฉันสามารถอ้อนเขาได้เหมือนอย่างที่ผ่านมา ฉันกอดแขนพี่โพลเอาไว้แน่นเพื่อต้องการออดอ้อนให้เขาพาเข้าไปในงานด้วย เพราะดูจากสภาพฉันแล้วคงเข้าไปไม่ได้แหงๆเลย
“พาฉันเข้าไปหน่อยสิคะ”
“แต่งตัวแบบนี้มาจะเข้าไปได้ยังไง”
พี่โพลมองสำรวจฉันตั้งหัวจรดเท้า ก่อนจะมองหน้าฉันแล้วส่งยิ้มบางมาให้เหมือนอย่างทุกทีที่เขาเคยทำ ทันทำให้ฉันคิดถึงใครคนหนึ่งขึ้นมา คนที่ฉันไม่สามารถได้ยินเสียงของเขา หรือได้เจอเขาอีกตลอดชีวิตนี้ เขาเป็นคนที่ฉันรักมากคนหนึ่ง คนที่ออกตัวปกป้องฉันตลอดเวลาที่ฉันเจอกับปัญหา แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว เขาไม่ได้อยู่กับฉันแล้ว เขาจากฉันไปตลอดกาล ไม่มีวันหวนกลับมา
“พาฉันไปที่ห้องแต่งตัวของพี่เวลล์ก็ได้ค่ะ”
“อะไรนะ?” พี่โพลถึงกลับทำหน้าตกใจที่ได้ยินฉันพูดแบบนั้น เหมือนว่าไม่พอใจที่ฉันพูดอะไรแบบนั้นออกไป
อันที่จริงเขาก็รู้นะว่าฉันชอบพี่เวลล์ และทุกครั้งก็เป็นเขานี่แหละที่คอยบอกฉันตลอดเวลาว่าพี่เวลล์ทำอะไรที่ไหนยังไง แต่ทำไมวันนี้เขาถึงต้องทำหน้าแบบนี้ด้วย
“คือ...ฉันตั้งใจมาหาพี่เวลล์น่ะค่ะ” พี่โพลเงียบไปสักพักก่อนจะพยักหน้ารับ แววตาของเขาดูเปลี่ยนไปเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
แต่ช่างเถอะ!ตอนนี้ฉันอยากเจอพี่เวลล์มากที่สุด
ไม่อยากคิดเรื่องอื่นอีกแล้ว
“ตามพี่มาสิ”
พี่โพลพาฉันเดินลัดเลาะมาจนถึงหน้าห้องห้องหนึ่งที่หน้าห้องแขวนป้ายไว้ว่า ‘WELL’ พอมายืนอยู่หน้าห้องเขาฉันก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาเลย ไม่รู้ว่าจะง้อเขาด้วยวิธีไหนดี เสือผู้หญิงอย่างเขาต้องง้อแบบไหนนะถึงจะหายงอน
‘ไม่เห็นจะยากเลยแกก็ไปถวายตัวให้เค้าสิ’
คำพูดของมีมี่แล่นเข้ามาในหัวฉันทันที จะให้ฉันเอาตัวเข้าแลกอย่างนั้นนะเหรอ ฉันว่ามันไม่คุ้มเอาซะเลย คนอย่างพี่เวลล์มีเหรอว่าเขาจะรับผิดชอบ เขาไม่พลาดท่าเสียทีผู้หญิงใจง่ายหรอกนะบอกเลย
ฉันส่ายหัวไปมาเพื่อให้ความคิดบ้าๆของมีมี่ออกจากหัวฉัน ฉันจะไม่มีวันยอมเอาตัวเข้าแลกเพียงเพื่อให้ผู้ชายอย่างพี่เวลล์หายโกรธหรอก มันต้องมีวิธีที่ดีกว่านั้น
“เป็นอะไรหรือเปล่าวิวาห์” พี่โพลที่เห็นว่าฉันเอาแต่ส่ายหัวไปมาก็ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง สีหน้าของเขาดูตกใจมากกับการกระทำของฉัน
“เปล่าค่ะ พี่โพลจะเข้าไปด้วยกันไหมคะ?”
“พอดีพี่ต้องไปจัดการงานข้างนอกต่อ วิวาห์เข้าไปคนเดียวเถอะ” พี่โพลลูบผมฉันก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้ฉันยืนอยู่หน้าห้องคนเดียว
ทางสะดวกแล้ว ฉันก็ถามเขาไปอย่างนั้นเองแหละ ไม่ได้อยากให้เข้าไปด้วยกันเลยสักนิด มันเป็นมารยาทอ่ะเข้าใจเปล่า
ฉันเปิดประตูเข้าไปอย่างเงียบเชียบ เพราะกลัวว่าพี่เวลล์จะรู้ตัวว่าฉันแอบเข้ามา แล้วเดี๋ยวจะโดนไล่ตะเพิดอีก
ฉันจัดการล็อคประตูให้เรียบร้อย เพราะไม่อยากให้ใครเข้ามาเป็นก้างขวางคอเวลาที่ฉันง้อเขาอยู่ในห้องแบบนี้ อีกอย่างฉันก็อยากอยู่กับพี่เวลล์แค่สองคนเท่านั้นด้วย
แต่พอได้เดินเข้ามาฉันกลับต้องตกตะลึง เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าฉันคนนี้เขาหล่อกระชากใจฉันเลย หล่อแบบไม่ลืมหูลืมตา หล่อแบบประหาร หล่อจนต้องร้องขอชีวิต หล่อแบบวัวตายควายล้มกันเลยทีเดียว ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาเปรียบเทียบความหล่อของเขาได้อีกแล้ว
ปกติพี่เวลล์ก็หล่ออยู่แล้วอ่ะนะ แต่นี่สวมเขาชุดสูทผูกไทอยากกับเจ้าชายแน่ะ แบบว่าลิมิเต็ดอิดิชั่นอะไรประมาณนี้ น้อยคนนะจะได้เห็นเขาในระยะประชิด ฉันนี่มันโชคดีสุดๆไปเลย
หมับ!
“เฮ้ย!”
ไม่รู้ว่ามีอะไรดลใจทำให้ฉันใจกล้าหน้าด้านเดินเข้าไปสวมกอดเขาจากทางด้านหลัง ที่จริงแล้วฉันก็ด้านมานานแล้วแหละ กลิ่นของเขายังละมุมน่าหลงใหลเหมือนเดิม อยากกอดเขาเอาไว้แบบนี้ตลอดเลย
ไม่รู้ทำไมฉันถึงรักพี่เวลล์มากมายขนาดนี้ เขาไล่ก็แล้วด่าว่าก็แล้วฉันนี่มันมีความอดทนสูงจริงๆเลย
แต่ก็นั่นแหละความรักทำให้เรายอมทำได้ทุกอย่าง ฉันไปไหนไม่ได้แล้วล่ะ ฉันรักและหลงผู้ชายตรงหน้าคนนี้มาก
เขาทำให้ฉันคลั่งไม่สามารถหันไปมองผู้ชายคนอื่นได้อีกแล้ว
พี่เวลล์หันกลับมาพอเห็นฉันเท่านั้นล่ะ เขาก็รีบสะบัดตัวหนีออกจากอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของฉัน นี่เขาเห็นฉันเป็นอะไรเนี่ยทำไมต้องทำร้ายจิตใจกันขนาดนี้ด้วย
พี่เวลล์มองหน้าฉันอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ฉันเองก็มองเขากลับไปเช่นกัน อยากจะรู้นักว่าเขาเห็นฉันอยู่ในห้องแบบนี้แล้วจะทำยังไง แต่ไม่นานนักหรอกมาดเย็นชาก็เข้ามาประทับร่างเขาเหมือนเดิม
เขาไม่สนใจฉันด้วยซ้ำว่าเข้ามาอยู่ในห้องเขาได้ยังไง คนอะไรจะเย็นชา เมินเฉยได้มากมายขนาดนี้กัน ไม่อยากเชื่อเลย ฉันเข้ามาในห้องได้แล้วอย่างน้อยก็ต้องหาวิธีง้อเขาก่อนแล้วกัน
“เจอกันอีกแล้วนะคะพี่เวลล์”
ฉันยิ้มทักทายคนตรงหน้าอย่างอารมณ์ดี แต่ผิดกับอีกฝ่ายที่ตวัดหางตามามองฉันอย่างเกรี้ยวโกรธ บอกได้เลยว่าตอนนี้ฉันเหมือนอยู่กลางสมรภูมิรบยังไงยังงั้นเลย น่ากลัวชะมัด
“เข้ามาทำไม?” และนี่ก็เป็นคำถามเดิมที่เขามักใช้ถามฉันเวลาที่ฉันแอบเข้ามาห้องเขาแบบนี้ ช่วยไม่ได้นี่นาไม่อยากล็อกห้องเองทำไมอ่ะ “ฉันเคยบอกเธอหลายครั้งแล้วไม่ใช่ไงว่าฉันไม่อยากได้เธอ แค่นี้ยังไม่เข้าใจอีกเหรอจะทำตัวไม่มีค่าไปถึงไหน?”
“...” เจ็บจนพูดไม่ออกเลย
ฉันรู้มาตั้งนานแล้วว่าพี่เวลล์ไม่ได้ต้องการฉัน แต่ไอ้การที่ฉันตามเขาแค่นี้มันทำให้เขารำคาญขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันไม่เคยไปก้าวก่ายงานหรือเรื่องส่วนตัวของเขาเลยสักครั้ง แล้วนี่อะไรเพิ่งเจอหน้ากันก็ต่อว่าใส่กันเลย
นี่เขายังเห็นว่าฉันเป็นคนหรือเปล่า หรือเห็นว่าฉันเป็นหมาตัวหนึ่งที่อยากจะด่าอะไรก็ได้แล้วฟังที่เขาพูดไม่ออกอย่างนั้นเหรอ
“ออกไปได้แล้ว”
พี่เวลล์โบกมือไล่ฉันอย่างกับหมูกับหมา เรื่องอะไรฉันจะออกไปให้โง่ ฉันไม่ได้โง่นะที่จะยอมทำตามคำพูดของเขา ที่มาที่นี่ก็เพราะจะมาง้อเขาถ้ากลับไปเรื่องของเราก็ไม่เคลียร์สักทีนะสิ ฉันเจ็บแต่ฉันก็ทนได้ ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของเราหรอก ฉันเชื่ออย่างนั้น
“ฉันแค่อยากจะมาขอโทษพี่เรื่องที่ฉันตามพี่ไปเมื่อวานนะค่ะ” ฉันยกมือไหว้คนตรงหน้า ทำให้เขาตกใจรีบปัดมือฉันทิ้งทันที เขาคงไม่อยากให้ใครมาไหว้ล่ะสิ โดยเฉพาะคนอย่างฉัน “ส่วนเรื่องในลิฟต์ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดทำร้ายจิตใจพี่เลยนะ”
“...” พี่เวลล์ไม่ยอมพูดอะไร เขามองหน้าฉันด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ทำให้ฉันไม่รู้เลยว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่
“อย่าโกรธฉันเลยนะคะ”
ฉันก้มหน้ามองมือตัวเอง ฉันสำนึกผิดจริงๆนะ ฉันไม่ได้อยากให้คำพูดของตัวเองทำร้ายคนที่ฉันรักเลย ฉันไม่รู้จริงๆว่าพี่เวลล์จะมีปมเรื่องความรักมาก่อน แค่เห็นสีหน้าของเขาเมื่อวานฉันก็พอเดาออกแล้วล่ะว่าทำไมเขาถึงได้กลายมาเป็นคลาสโนว่าแบบนี้ได้
พี่เวลล์จับปลายคางฉันขึ้นเพื่อให้มองหน้าสบตากับเขา ใบหน้าของเขาตอนนี้ปรากฏรอยยิ้มที่อ่อนโยนออกมาก่อนจะเปลี่ยนมาแสยะยิ้มที่มุมปากแทน แต่ก็ถือว่านี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่เขาทำกับฉันแบบนี้ รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกแฮะ
“ฉันไม่ได้โกรธเธอ”
“...”
ฉันได้แต่กระพริบตาปริบๆมองหน้าคนตรงหน้าว่าเขาจะพูดอะไรต่อจากนี้ แต่ประโยคถัดมาของเขาก็ทำให้ฉันแทบล้มทั้งยืน ไม่คิดว่าเขาจะรู้สึกกับฉันแบบนี้มาตลอด
“ฉันเกลียดเธอเลยต่างหาก”
-100 %-
-ทำร้ายกันเข้าไป-
วิวาห์นางไม่ได้สะทกสะท้านเลยขอบอก
เพราะนางโดนมาเยอะกว่านี้ ไม่ว่าจะโดนด่า โดนไล่นางก็ยังอยู่ยงคงกระพัน
แต่งมาถึงตอนนี้ก็อยากให้อิพี่เวลล์ตามตื๊อวิวาห์บ้างจัง มีใครเห็นด้วยบ้าง
ขอเสียงโหน่ยยยยยย 555555555555555555555
อยากให้เค้ามาอัพให้อ่านบ่อยๆ ก็ต้องเม้นท์เป็นกำลังใจให้กันหน่อยจิพวกเธอ
เม้นท์เท่าที่ใจรีดเดอร์มีต่อพี่เวลล์กับน้องวิวาห์เลยงับ
เม้นท์เยอะ กำลังใจแยะ เดี๋ยวรีบมาอัพให้เยย
REDD : คลิก https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1523796
WELL : คลิก https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1523796
-ฝากเพจอีกสักที-
ความคิดเห็น