ตอนที่ 55 : EP.53 พี่ชายและน้องชาย
Game of Creation ภาค ประกาศิตเทพมารแสวงพ่าย
EP.53 พี่ชายและน้องชาย
ร่างกายของมนุษย์สามารถทำการฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนที่เกิดความเสียหายได้ จะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับขนาดของบาดแผลและความสมบูรณ์พร้อมของร่างกาย รวมถึงวิธีการรักษาและตัวยาที่ใช้ในการรักษา บางแผลใช้เวลาเพียงไม่กี่วันแต่บางครั้งกลับเนิ่นนานนับปี หลายหนยังคงมีรอยแผลเป็นเหลือทิ้งเอาไว้ประจานตนเองบนร่างกาย นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกคนจะยกเว้นก็แต่เพียงผู้ครอบครองจารึกแรกกำเนิดแห่งแกนกลาง
‘แกนกลาง’จัดเป็นสิ้นส่วนของจารึกแรกกำเนิดที่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจหลัก พลังของมันเรียกได้ว่าล้ำลึกพิสดารสุดขั้ว สามารถดูดกลืนช่วงชิงพลังชีวิตผู้อื่นมาเพิ่มให้แก่ตนเอง ทั้งยังถ่ายเทพลังชีวิตที่กักเก็บเอาไว้ให้แก่ผู้อื่นได้ดั่งใจ ไม่เพียงแต่จะหนุนเสริมต่อเติมอายุขัยยังช่วยบรรเทาโรคภัยให้เบาบางลง แผลเป็นใดๆไม่อาจหลงเหลือหากเขาไม่ต้องการ ผู้ครอบครองจารึกส่วนนี้หากฝึกฝนตนเองให้ดี เขาอาจมีชีวิตยืนยาวตราบชั่วกัปชั่วกัลป์
ราตรีนี้ซันซั่งเทียนได้พบหน้าคนที่เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะได้พบเจอในยุคสมัยนี้ เขาจำแห่งความสูญเสียในสงครามครั้งนั้นได้ดี กองทัพมิวแทนท์ของรัฐบาลโลกบุกโจมตีฐานที่มั่นฝ่ายกบฏ บิดามารดาของเขาคือผู้นำที่แข็งแกร่งผู้ครอบจารึกแห่งแผ่นดินไหวและพายุฝน ปฐวีมีน้องชายอีกคนแต่อายุของทั้งคู่ห่างกันเกือบสิบปี แม้ว่า ไอแซก จะเป็นบุตรคนรองของสองนักปฏิวัติระดับโลก แต่เขากลับไม่อาจกลายเป็นมิวแทนท์เหมือนพ่อแม่และพี่ชาย ซ้ำร่างกายยังไม่สามารถรองรับพลังของจารึกแรกกำเนิด ตัวเขาในตอนนั้นจึงรับหน้าที่ดูแลน้องชายตลอดเวลานับตั้งแต่ลืมตาดูโลก ช่วงที่ฐานทัพฝ่ายกบฏถูกรัฐบาลโลกโจมตี ปฐวีได้ถูกจับไปทดลองฝังจารึกแห่งแกนกลาง เมื่อหลบหนีออกมาเขาก็รับทราบข่าวร้ายถึงความย่อยยับของฐานบัญชาการ นับจากนั้นหัวใจของเขาก็ค่อยๆเย็นชาและแข็งกระด้างมากขึ้นเรื่อยๆ
ความผิดหวังทำให้เขาเลือกเดินอยู่ระหว่างความดีและความชั่ว ความเหงาและเดียวดายทำให้เขาพยายามหาครอบครัวด้วยวิธีการที่ผิดๆ ความรักและคิดถึงน้องชายทำให้เขาให้ความสำคัญกับสหายเพศชายมากกว่าอิสตรี ถึงกระนั้นสิ่งที่ได้รับมากลับไม่อาจทดแทนความรู้สึกภายในใจ ชายหนุ่มจึงเว้นระยะห่างมากขึ้นๆหลังทุ่มเทช่วยเหลือ ท้ายที่สุดคนเหล่านั้นก็ไม่ต่างไปจากของเล่นที่พอปฐวีเบื่อแล้วก็ปล่อยไปให้มีชีวิตตามยถากรรม แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกย่อมมีเวลาแห่งการสิ้นสุดในตัวของมันเองเสมอ
กลิ่นหอมของสมุนไพรหลายชนิดตลบอบอวลไปทั่วบ่อน้ำพุร้อนบนเขา น้ำในบ่ออุ่นกำลังดีเพราะพลังจารึกแรกกำเนิดแห่งน้ำพุ สมุนไพรทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีสรรพคุณเสริมสร้างและฟื้นฟูบาดแผล แม้ว่าพลังของจารึกแห่งแกนกลางจะสามารถเยียวยาได้ทุกโรคภัย ทว่าชายหนุ่มก็ยังไม่วางใจนักผิดกับตอนช่วยเหลือคนอื่นๆลิบลับ เขารู้ดีว่าร่างกายของน้องชายไม่อาจรองรับพลังของจารึกแรกกำเนิดได้มากพอ จึงต้องอาศัยการรักษาแบบธรรมดาควบคู่ไปด้วย
“ตื่นแล้วหรอ”ปฐวีที่ยามนี้ใช้ชื่อซันซั่งเทียนเอ่ยถามด้วยความห่วงใย
เด็กหนุ่มวัย 16 ปี ผิวกายขาวหน้าตาน่ารักปากแดงระเรื่อค่อยๆเงยหน้ามองเขาอย่างประหลาดใจ ในดวงตานั้นมีความหวาดกลัวแฝงอยู่ไม่น้อย ร่างสันทัดถอยไปด้านหลังจนชนกับขอบบ่อตัวสั่นเทาไม่ยอมพูดจาใดๆ
“ไม่ต้องกลัวนะ...พี่ไม่ทำอะไรนายหรอก”ซันซั่งเทียนปลอบประโลม
--“ร่างกายบอบช้ำ อวัยวะภายในถูกทำร้ายหลายแห่ง สิ่งนั้นรักษาได้ง่าย แต่ว่าสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างผิดปกติ ความทรงจำทั้งหมดถูกลบเลือนหายไป เดิมทีสิ่งเหล่านี้สามารถใช้จารึกแห่งแกนกลางรักษาได้ น่าเสียดายร่างของของเขาไม่สามารถรองรับพลังของนายได้มากพอที่จะฟื้นฟูความทรงจำ”--
“หากเป็นกุยแกหรือซีหลาง ฉันสามารถตัดใจลงมือได้ แต่เขา...ฉันทำไม่ได้จริงๆ”เขาพูด พร้อมกับดวงตาเปี่ยมด้วยความคับแค้น “เดิมทีคิดจะช่วยเหลือทั้งตระกูลอ้วน ตระกูลโจและตระกูลซุน แต่ดูเหมือนว่าตระกูลซุนจะหาเรื่องใส่ตัวซะแล้ว”
ความเกรี้ยวกราดก่อเกิดไอสังหาร เด็กหนุ่มในบ่อน้ำพลันบังเกิดท่าทีตระหนกและหวาดกลัว ซันซั่งเทียนกระโจนลงบ่อน้ำโอบกอดให้น้องชายคลายกังวล เขาค่อยๆสะกดรังสีการฆ่าฟันให้เบาบางลงแล้วลูบศีรษะน้องชายเบาๆ “อย่ากลัว...พี่อยู่นี่แล้วไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ไม่มีใครทำอันตรายนายได้อีกแล้ว”
เวลานี้น้องชายของเขาเสมือนหนึ่งเด็กทารกไร้เดียงสา แม้ว่าร่างกายจะสมบูรณ์พร้อมสมวัยทว่าสมองยังคงเหมือนกับเด็ก ขนมและผลไม้รสเลิศดูจะกลายมาเป็นของโปรดของเขาอย่างรวดเร็ว ซันซั่งเทียนปล่อยให้ไกอาดูแลความปลอดภัยส่วนตัวเองเข้าเมืองหาซื้อข้างของต่างๆ ทั้งนมแพะเนื้อสัตว์และผักสด เต็นท์สนามโลกอนาคตสองหลังตั้งอยู่ข้างบ่อน้ำที่มีพลังของจารึกแห่งน้ำพุร้อน เต็นท์หนึ่งมีตู้เย็นและเครื่องครัวพร้อมสรรพ อีกเต้นมีฟูกและผ้าห่มผืนใหญ่พร้อมเสื้อผ้าครบครัน ซันซั่งเทียนใช้เวลาเกือบสามเดือนในการทำให้ไอแซกเลิกกลัวและหันมาวางใจในตัวเขา
อาหารทุกมื้อผลไม้ทุกลูกนมทุกแก้วเขาลงมือคัดสรรและปรุงมันด้วยตัวเอง ทุกๆวันซันซั่งเทียนจะใช้พลังของจารึกแห่งแกนกลางค่อยๆปรับสมดุลอย่างช้าๆ โครงสร้างร่างกายของไอแซกเริ่มเปลี่ยนไปเป็นแบบที่เหมาะแก่การฝึกยุทธ์ วิธีนี้แม้จะล่าช้ากว่าแต่กลับส่งผลดีต่อร่างกายมากกว่าวิธีปกติที่เขาเคยใช้กับคนอื่น ส่วนสมองเองก็เริ่มมีการพัฒนามากขึ้นการพูดการจาเริ่มดีขึ้น จากสมองเด็กทารกกลายเป็นเด็กวัย 12 ปีอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากไอแซกไม่สามารถรองรับพลังของจารึกได้มากพอ จึงไม่อาจถ่ายเทพลังชีวิตให้เหมือนคนอื่นๆได้ หากให้ฝึกฝนเองคงยากที่จะมีวรยุทธ์ไว้ป้องกันตัวในเร็ววัน นับตั้งแต่คิดค้นวิชาใหม่และออกจากตำหนักจักรวาล เวลาผ่านมาแล้วเกือบสี่เดือนสุดยอดวิชาที่เคยเป็นเพียงเรื่องลวงกลับกลายมาเป็นความจริงในที่สุด ซันซั่นเทียนสอนเขาให้ฝึกเคล็ดเทวะวิชาอมตะนิรันดร ยอดวิชาแขนงนี้ผู้ฝึกสามารถดูดพลังวัตรพร้อมกับพลังชีวิตของผู้ที่ตนเองสัมผัสได้ นอกจากจะนำมาย่อยสลายเพิ่มพูนพลังตนเองแล้วยังใช้ย้อนกลับทำร้ายอีกฝ่ายได้ ด้านกระบวนท่าเองก็เปรียบเสมือนการยืมหอกสนองคืนผู้ใช้ เหมาะทั้งรุกและรับนับว่าเป็นยอดวิชาสมบูรณ์แบบ
ซันซั่งเทียนเปลี่ยนชื่อให้น้องชายจากไอแซก เป็นเสี๋ยนเมิ่งเพื่อให้เข้ากับยุคสมัย เขาพร่ำสอนกลยุทธ์พร้อมกับชี้แนะแนวทางทุกวันผิดกับคนที่แล้วๆมา ล่วงเข้าเดือนที่ 5 หากวัดกันที่ฝีมือไม่นับพลังของจารึกแรกกำเนิด ดูเหมือนว่าคนๆนี้จะเก่งกาจยิ่งกว่าสิบศักดิ์สิทธิ์เกาะโศกศัลย์เสียอีก ป้ายทองประกาศิตโศกศัลย์ทรงห้าเหลี่ยมร้อยเชือกประดับทับทิมเม็ดงาม ถูกผูกห้อยเข้ากับสายรัดเอวดูราวกับเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง ป้ายคำสั่งนี้มีอยู่ที่กุยแกแผ่นหนึ่ง ทหารฝ่ายตั๋งโต๊ะล้วนรู้จักที่มาของมันดีทุกคน ส่วนทหารกองทัพกวนตงล้วนเคยได้ยินคำร่ำลือเกี่ยวกับมัน
“กองซุนจ้านรบกับอ้วนเสี้ยวที่แม่น้ำพวนโห้ ท้ายสุดตั๋งโต๊ะกลับอ้างราชโองการสั่งสงบศึก เพราะเกรงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะมีอำนาจมากเกินไป”ซันซั่งเทียนเปรยขึ้นลอยๆระหว่างมองดูการเคลื่อนทัพบนต้นไม้สูงโดยมี
--“ขบวนทัพของตระกูลซุนกำลังเคลื่อนพลไปรวมกัน ซุนเกี๋ยนรับคำสั่งอ้วนสุดให้โจมตีเล่าเปียว ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์แล้วชีวิตของผู้นำทัพครั้งนี้คงใกล้มอดดับแล้ว”--
“เดิมทีฉันคิดจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์ให้คนอย่างซุนเกี๋ยนมีชีวิตยืนยาวกว่าเดิมอีกสักหน่อยแต่ดูท่าให้เขาตายไปเสียน่าจะเหมาะที่สุดแล้ว”ชายหนุ่มกล่าวแผ่วเบาพร้อมกับขยี้หัวน้องชายด้วยความเอ็นดู รังสีสังหารพวยพุ่งออกจากดวงตาอันเกรี้ยวกราด เสี๋ยนเมิ่งที่ผ่านการฝึกวรยุทธ์และฟื้นฟูสมองมานานสามารถทนต่อไอสังหารได้อย่างง่ายดาย”เจ้าพอใจไหมเสี๋ยนเมิ่ง”
“ครับพี่”เด็กหนุ่มพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ทุกสิ่งที่เป็นความสุขของพี่ชายเขาย่อมยินดี เวลานี้เขาไม่ต่างอะไรกับมือสังหารเปี่ยมวรยุทธ์ที่ทำตัวไร้เดียงสาเลยสักนิด
--“จากการตรวจร่ายกายและส่วนสมอง ดูเหมือนว่าเสี๋ยนเมิ่งจะมีความสามารถพิเศษ ประสาทสัมผัสทั้งห้าละเอียดลออกว่านายซะอีก เขาสามารถแยกมิตรและศัตรูได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพลังของจารึก แต่เขากลับได้รับนิสัยแย่ๆของนายมาเต็มๆ ชีวิตของคนที่ได้เป็นคนพิเศษช่างไร้ค่าไม่ต่างอะไรจากเศษธุลี”--
“แล้วไง?”ซันซั่งเทียนไหวไหล่ไม่ใส่ใจ
“ยุ่งอะไรด้วยครับ”เสี๋ยนเมิ่งเบ้ปากใส่ไกอาพร้อมกับสะบัดหน้าหนี
--“แค่ตัวแสบคนเดียวก็ดูแลลำบากมากแล้ว นี่เพิ่มมาอีกหนึ่งตายแน่ฉัน!”--
“เอาน่า...ถ้าถึงเวลานั้น เดี๋ยวฉันจะจับส่งโรงงานแยกชิ้นส่วนเศษเหล็กเอง”ซันซั่งเทียนขำขันพอใจ ไกอาพลันล่องหนหายไปเพราะงอนสองแสบ
“เราควรเริ่มจากอะไรครับ?”เสี๋ยนเมิ่งกล่าวถาม พลางมองพี่ชายตาใสแป๋ว
ฆ่าซุนเกี๋ยน!
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คุๆๆ คุ้นๆดีแหะ
ปล.ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆครับ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 5 มิถุนายน 2558 / 03:03
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 5 มิถุนายน 2558 / 03:03