ตอนที่ 49 : EP.47 ป่วนโรงเตี๊ยม
Game of Creation ภาค ประกาศิตเทพมารแสวงพ่าย
EP.47 ป่วนโรงเตี๊ยม
อำนาจ ทรัพย์สิน กลิ่นหอม ยอดสุรา โฉมงาม ทุกสิ่งพรั่งพร้อมภายในห้องหรูหรา หีบสมบัติมากมายเปิดอ้าออกอวดทองคำและสิ่งมีค่า กลิ่นกำยานชวนเคลิบเคลิ้มผ่อนคลายปลุกเร้าราคะให้ลุกโชน สุราเลิศรสทั่วแผ่นดินล้วนแต่ตั้งเรียงรายรอใช้จอมคนได้ลิ้มลอง บนที่นอนยังมีสตรีเลอค่าเปลือยกายอวดสัดส่วนที่ต้องตาต้องใจบุรุษเพศ วีรบุรุษยากฝ่าด่านหญิงงาม จอมคนผู้ยิ่งใหญ่อย่างตั๋งโต๊ะเองก็ยากที่จะหนีพ้นความเย้ายวนของอิสตรีนามเตียวเสี้ยน เมื่อไฟราคะคุกรุ่นมันจึงแสยะยิ้มอย่างอิ่มเอมแล้วขึ้นไปร่วมเสพสังวาสกับนางอย่างสุดเหวี่ยง โดยหารู้ไม่ว่าทั้งหมดเป็นเพียงภาพมายาที่หลอนประสาทเขาอยู่เท่านั้น
จารึกแรกกำเนิดพลังแห่งกลิ่น หลอนประสาทสร้างภาพลวง!
เตียวเสี้ยนเบือนหน้าออกเพราะไม่ต้องการเห็นร่างเปลือยของตั๋งโต๊ะ นางเดินออกห่างจากเตียงสะบัดสองมือเพื่อปิดหน้าต่างทั้งหมด ก่อนจะทรุดลงนั่งบนตั่งรินน้ำชาหอมกรุ่นดื่มอย่างใจเย็น หากไม่ใช่เพราะต้องอำเนินตามแผนการที่ซันซั่งเทียนตกลงกับลิโป้เอาไว้ นางคงใช้โอกาสนี้สังหารตั๋งโต๊ะด้วยกรงเล็บหทัยทิพย์หยกพิมานไปแล้ว นางรับปากกับกระบี่สีชาดผู้เป็นปู่ว่าจะช่วยอ้องอุ้นกำจัดตั๋งโต๊ะ ทันทีที่เขาตายนางก็จะได้รับซึ่งอิสระ...ที่นางต้องการ
“ตอนนี้ท่านอยู่ที่ใด?”นางถอยหายใจเมื่อนึกถึงยอดชายในดวงใจ
ท่ามกลางรังสีฆ่าฟันอันคุกรุ่นของเหล่าชาวยุทธ์ฝ่ายธรรมะและอธรรม ซันซั่งเทียนยังคงนั่งอย่างใจเย็นที่โต๊ะตรงกลางโรงเตี๊ยมร้อยเมฆา ผู้มาใหม่ท่าทางไม่ธรรมดาท่วงท่าองอาจไร้ความกริ่งเกรงใดๆ การแต่งกายก็เหมือนคนชั้นสูงจากตระกูลใหญ่ที่มากไปด้วยอำนาจ จำเพราะป้ายหยกเนื้องามชิ้นโตที่สลักคำว่าแสวงพ่ายก็มีค่ามหาศาลแล้ว ดังนั้นเหล่าชาวยุทธ์ทั้งหลายจึงไม่ใครคิดจะบุ่มบ่ามทำอะไรออกไป พวกเขาเพียงกระซิบกระซาบกันและสังเกตการณ์เท่านั้น
“เสี่ยวเอ้อ” ซันซั่งเทียนกล่าวขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับใช้สายตาเย็นชามองไปยังคนที่ตัวสั่นงันหงกอยู่ริมประตู ชายคนนั้นลึกลี้ลุกรนอยู่ชั่วขระก่อนจะตัดสินใจวิ่งเข้ามาหาเขาทั้งที่ยังกล้าๆกลัวๆ “ขอน้ำชาที่ดีที่สุดหนึ่งกา พร้อมผลไม้ที่ดีที่สุดหนึ่งจาน”
“แต่ว่านายท่าน สถานการณ์ในตอนนี้มัน..”เสี่ยวเอ้อพูดพร้อมกับเหลียวมองรอบๆบริเวณ
“ไม่ต้องไปสนใจ ข้ารับรองความปลอดภัยให้เจ้าได้”ซันซั่งเทียนตอบอย่างไม่ยี่หราต่อสิ่งใด เสี่ยวเอ้อคนนั้นพยักหน้ารับคำแบบไม่ค่อยมั่นใจนัก ก่อนจะวิ่งออกไปจัดหาทุกสิ่งตามที่บอก
“เจ้าเด็กอวดดี”มือดาบวัยกลางคนผมเผ้ารุงรังผู้หนึ่ง รู้สึกเหมือนถูกถ่มน้ำลายรดหน้าเมื่อได้ฟังคำพูดดังกล่าว มันเกร็งกำลังซัดดาบแฝงพลังวัตรออกไปหมายปลิดชีวิตเสี่ยวเอ้อดับความอหังการของชายหนุ่ม
ฟ้าว! เสียงดาบพุ่งแหวกอากาศดังขึ้น มันไล่หลังเสี่ยวเอ้อใกล้เข้าทุกขณะโดยที่เหยื่อไม่ทันรู้สึกตัว เหล่าชาวยุทธ์ต่างจดจ้องไปที่ชายแปลกหน้าผู้มาใหม่ซึ่งเขาทำท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อนใดๆ เสี้ยววินาทีที่ดาบจะถึงตัวซันซั่งเทียนก็ใช้มือขยี้ถ้วยชาบนโต๊ะจนแตกเป็นชิ้นๆ เขาซัดมันออกไปสามชิ้นพร้อมๆกัน ชิ้นหนึ่งพุ่งด้วยความเร็วสูงกระแทกดาบจนเปลี่ยนวิถีพุ่งไปปักเสา อีกชิ้นพุ่งทะกลางหัวเข่ามือดาบผู้นั้นจนหัวเข่าแตกเลือดสาดกระเซ็น ต้องทรุดกายลงในท่าคุกเข่าอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง และชิ้นสุดท้ายพุ่งเสียบกลางหน้าผากพลังวัตรที่อัดแน่นอยู่กระจายออกทำลายระบบการทำงานของร่างกาย ปลิดชีวิตของผู้โง่เขลาโดยที่ดูจากภายนอกแล้วไม่มีอะไรผิดปกติ
ไม่ทันได้รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถูกสังหาร!
“เกิดอะไรขึ้น?” เหล่าชาวยุทธ์ผู้ด้อยวรยุทธ์มองตามการกระทำดังกล่าวไม่ทัน จึงได้ร้องโวยวายขึ้นท่ามกลางชาวยุทธ์สี่สิบคนที่กำลังตกใจ มีเพียงแม่ชีเฒ่า นักพรตชรา ผู้เฒ่าพรรคมารและคนลึกลับอีกสองเท่านั้นที่พอจะดูออก พวกเขาไม่พูดจาใดๆเพียงสงบท่าทีลงแล้วครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่าง ชาวยุทธ์ที่อยู่ใกล้ๆศพเข้าไปตรวจสอบก่อนจะมีบางคนดึงชิ้นส่วนของถ้วยชาออกจากหน้าผาก ทุกคนมองสิ่งนั้นด้วยความประหลาดใจเพราะมันคือเศษถ้วยชาของโรงเตี๊ยมแห่งนี้นั่นเอง ส่วนผู้ที่ลงมือก็ไม่มีท่าทีสนใจใดๆ เพียงนั่งรออาหารที่ตนสั่งเอาไว้ด้วยความใจเย็น
“ได้แล้วครับนายท่าน” เสี่ยวเอ้อที่รอดตายหวุดหวิดอย่างไม่รู้ตัว เดินเข้ามาวางจานผลไม้กับกาน้ำชาด้วยท่าทีกล้าๆกลัวๆ ครั้นเห็นถ้วยที่แตกอยู่ก็ตกใจรีบทำความสะอาด “ขออภัยนายท่าน ข้าไม่คิดว่าถ้วยชาของโต๊ะนี้จะแตกหักเสียหาย”
“ไม่เป็นไร ข้าทำมันแตกเองล่ะ...เมื่อครู่นี้เอง”ซันซั่งเทียนเน้นท้ายประโยคราวกับต้องการประกาศให้คนอื่นรับรู้ จะได้ไม่มีใครกล้ามารบกวนเขาอีก เท่านั้นเองเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นทั่วทั้งโรงเตี๊ยม จากที่เป็นจุดสนใจของคนอื่นอยู่เวลานี้ยิ่งโดดเด่นมากขึ้นไปอีก ชายหนุ่มลอบลอบสังเกตสีหน้าของทุกคนพร้อมกับบ่นอยู่ในใจ”นี่เราทำเกินไปหรือเปล่านะ?”
“ยอดยุทธ์ถือกำเนิดในรุ่นเยาว์ ข้านักพรตฮัวเหลยผู้อาวุโสตำหนักจักรวาลขอชื่นชมท่านจากใจ” นักพรตเฒ่าผู้เดินทางวิถีทางแห่งเต๋ากล่าวขึ้น
ซันซั่งเทียนคลี่ยิ้มบางๆ ก่อนจะซัดถ้วยน้ำชาที่พึ่งรินไว้เกือบเต็มไปยังนักพรตเฒ่าผู้นั้น ฮัวเหลยผู้มากประสบการณ์รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายต้องการทดสอบตน เพราะพลังที่แฝงมาแม้ว่าจะรุนแรงแต่กลับไร้ไอสังหาร เมื่ออีกฝ่ายไร้เจตนาเข่นฆ่าฮัวเหลยจึงรับไมตรีด้วยการตอบโต้พอเป็นพิธี เพลงกระบี่สองสัณฐานจักรวาลเปล่งอานุภาพทั้งที่กระบี่ยังอยู่ในฝัก เพื่อรั้งให้ถ้วยน้ำชามาถึงมืออย่างราบรื่นพร้อมลดทอนพลังที่แฝงมาลงไป
“ขอบคุณที่เลี้ยงน้ำชาถ้วยนี้”นักพรตฮัวเหลยกล่าวก่อนจะยกมันขึ้นดื่ม
“เพลงกระบี่เมื่อครู่นี่มัน....ท่านคงเกี่ยวข้องกับนักพรตคนนั้นสินะ” ซันซั่งเทียนเปรยขึ้น
“จอมยุทธ์หนุ่มท่านนี้หมายถึงผู้ใด?”นักพรตฮัวเหลยปรากฏสีหน้าใคร่รู้ไม่น้อย
“ข้าก็ไม่รู้จักชื่อด้วยสิ เพียงแค่รู้สึกว่าเพลงกระบี่ของท่านกับเขาเหมือนกัน ข้าเคยเจอเขาตอนที่เขากับแม่ชีอีกคนช่วยเหลือหลวงจีนเท่าประมือกับเตียวก๊ก” ชายหนุ่มตอบพร้อมกับนึกถึงเรื่องเมื่อหลายปีก่อน
“ท่านผู้นั้นคือศิษย์พี่ของข้าเอง และเป็นเจ้าสำนักจักรวาลที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับทีนี่”นักพรตฮัวเหลยตอบ”แต่เวลานี้ท่านกำลังจะล้างมือจากยุทธภพแล้ว”
“ล้างมือ?”ซันซั่งเทียนทวนคำพลางคิดตาม “แสงไฟจำนวนมากบนเขาคือการเตรียมงานที่ว่านั่นสินะ”
“ถูกแล้ว”ฮัวเหลยตอบ”ดูท่าท่านจะผ่านมาทางนี้โดยที่ไม่รู้อะไรเลย หากท่านไม่รังเกียจข้าขอเชิญท่านเข้าร่วมงานนี้”
ฉลาด!ซันซั่งเทียนคิดในใจ เพราะดูจากเมื่อครู่พวกเขากำลังจะเปิดสึกกับฝ่ายอธรรม หากสามารถชวนเขาที่จัดการมือดาบอย่างง่ายดายให้เป็นมิตร ฝ่ายอธรรมก็คงไม่กล้าลงมือบุ่มบ่ามใดๆ
“ข้ากำลังว่างอยู่พอดี เอาเป็นว่าตกลงก็แล้วกัน” เขาตอบเสียงราบเรียบพลางปรายตาของคนของฝ่ายอธรรม พวกเขากำลังกระซิบกระซาบกันอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพากันเดินออกจากร้านไปจนหมด ซันซั่งเทียนยิ้มบางๆพลางดื่มน้ำชาต่อ
“เห็นว่าท่านเคยเข้าร่วมเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน มิทราบว่านามของท่านจอมยุทธ์คือ?” คราวนี้แม่ชีเฒ่าเป็นฝ่ายเอ่ยคำถามกับเขา
“น่าเบื่อ”เขาลอบถอยหายใจเบาๆจนไม่มีใครทันสังเกต “ซั่งเทียน” เขาตอบเสียงเรียบๆ
“โลกนี้ช่างกว้างใหญ่ ยอดฝีมือระดับนี้พวกเรากลับไม่เคยได้ยินชื่อ ข้ามีนามว่าฉางเจินรองเจ้าสำนักอารามหยกขาว”นางกล่าวแนะนำตัว
“นักพรตกับแม่ชีก็บอกชื่อเรียบร้อย แล้วท่านที่อยู่บนขื่อล่ะ มีนามว่าอะไร?” ซันซั่งเทียนพูดขึ้น ทุกคนที่เหลืออยู่ภายในโรงเตี๊ยมจึงพากันแหงนหน้าขึ้นไปมอง คนลึกลับรู้ตัวว่าไม่อาจหลบซ่อนจึงกระโดดลงมาเพื่อเปิดเผยตัว
“ข้าไม่อยากเปิดเผยตัว ถึงได้หลบซ่อนไม่คาดมาก่อนเลยว่าท่านจะร้ายกาจถึงเพียงนี้” ชายลึกลับกล่าว เขาเป็นหนุ่มหน้าตาจัดว่าดี ท่วงท่าสง่าร่างกายแข็งแรงสมส่วน อยู่ในชุดเหมือนชาวยุทธ์ธรรมดาทั่วๆไป หากแต่แววตาของเขาเป็นประกายเต็มไปด้วยความสามารถ
“ชมเกินไป...แล้วอีกท่านไม่คิดจะปรากฏตัวเลยหรือ?” น้ำเสียงของเน้นย้ำคล้ายกำลังบังคับอีกฝ่าย คราวนี้เป็นอิสตรีรูปร่างอรชรหน้าจาหมดจดงดงาม อยู่ในชุดดำทะมัดทะแมงคล้ายกับมือสังหาร นางดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจนักที่ถูกจับได้ “หืม...แม่นางเชี่ยวชาญวิชาพิษสินะ”
“เจ้ารู้ได้ยังไง?” นางสะดุ้งเมื่อถูกล่วงรู้ความลับของตน
“ข้าเคยศึกษาวิชาพิษมาก่อน กลิ่นจางๆบนตัวของแม่นางน่าจะมีส่วนผสมของพิษจากงูและแมงป่อง”เขาเหยียดรอยยิ้ม เมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่เขาทุ่มเทฝึกวิชาพิษ ถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะถูกจารึกแห่งแกนกลางสลายไปหมดแล้วก็ตาม
“งูกับแมงป่อง คนของสำนักตรีพิษ” แม่ชีฉางเจินอุทานพลางชักกระบี่ออกมาเตรียมป้องกันตัว หญิงสาวลึกลับเห็นดังนั้นจึงรีบซัดฝ่ามือทำลายหน้าต่างแล้วหนีไป นางไม่วายหันมามองซันซั่งเทียนด้วยสายตาอาฆาต
“ผู้หญิงนี่ดุจริงๆ ไม่เห็นเหมือน..”ซันซั่งเทียนชะงัก เมื่อภาพใบหน้าของเตียวเสี้ยนแวบขึ้นมาในห้วงแห่งความคิดจนตัวเขาเองก็ยังแปลกไป
“สหายเก่งกาจยิ่งนัก กลิ่นของพิษที่จางมากยังรับรู้ได้ ข้าจูล่งของนับถือ” ชายหนุ่มลึกลับเปิดเผยตัวตน และนั่นทำให้ซันซั่งเทียนเลิกคิ้วสูงมองอีกฝ่ายทันที
ดูท่าเรื่องสนุกคงจะตามมาในไม่ช้า...
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

Flghtlngl Flghtlngl Flghtlngl Flghtlngl
Flghtlngl Flghtlngl Flghtlngl Flghtlngl
Flghtlngl Flghtlngl Flghtlngl Flghtlngl
ผมเองก็ไม่เคยอ่านนิยาย ช ช
แต่ความรู้สึกผม ซันซั่งเทียนถึงแม้จะไม่มีความรู้สึกด้านความรัก แต่ทำไมถึงดูสนใจแต่ผู้ชาย
ไม่ว่าจะช่วยเหลือ หลงเอ๋อ เยี่ยจิ้นกว่าง หยางซีหลาง ดูทุ่มเทมาก
ในขณะที่ผูเว่ย์ดูอ่อนโยน จริงใจ และรับซันซั่งเทียนได้ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพใด
ซึ่งถ้าหากขาดความอบอุ่นครอบครัว และต้องการคนที่รักชอบตนเองอย่างจริงใจ
ก็น่าจะโน้มเอียงมาทางผูเว่ย์บ้าง อย่างน้อยในลักษณะที่ให้ความช่วยเหลือมากกว่านี้
กลับไปแสวงหาจากคนอื่น
นอกจากนี้ ธรรมชาติคน ถึงแม้จะไม่มีความรักได้ แต่ผมว่าการรู้สุึกชอบเพศตรงข้าม
ที่หน้าตาดี เป็นเรื่องธรรมดา เหมือนเราชอบของแต่ไม่ได้รัก
แล้วการบรรยายความรู้สึกระหว่างเดินเรื่องกับผู้ชายด้วยกันจะละเอียด
และมีตัวละครฝ่ายชายเข้ามาสนิทเรื่อยๆ
ส่วนตัวละครผู้หญิง ถึงแม้จะมีแค่คนเดียวที่ถือได้ว่าใกล้ชิด กลับห้วนๆ
ทำให้อ่านแล้วคิดนะครับ
ไม่ต้องมีฉาก 18+ ก็ได้ แต่กับตัวละครหญิงน่าจะมีความละเอียดมากขึ้น
แล้วหากสามารถกลับมีความรู้สีกรักได้ ก็อาจมีฉากบ้าง เพราะผมมองว่า
การมีความรัก มีความสัมพันธ์ ระหว่างชาย หญิง เป็นเรื่องธรรมชาติ
ถ้านิยายไหน เวลาในเรื่องนานพอ แล้วตัวเอกไม่ชอบใครเลยซิแปลก
อย่าโกรธนะครับ เป็นมุมมองจากคนอ่านคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามอ่านครับ
ปล ตกลงเปลี่ยนชื่อพระเอกเป็นซั่งเทียนแล้วเหรอครับ
แนะนำให้อ่าน เรื่อง พยักราชซ่อนเล็บ ของเยี่ยกวนเลยครับ เรื่องการเมือง เรื่องสงคราม เรื่องความรัก ดูจะสมดุลกันมากเลย
อีกอย่างคงเป็นนิยายของหวงอี้ เกือบทุกเรื่องจะมีบทรักๆ ที่หวาบหวาม เอามาดูเป็นแนวทางได้ ที่แนะนำเป็นนิยายจีนก็เพราะว่า จะได้รู้เรื่องประเพณีบางอย่างมาด้วยนะครับ อาจทำให้นิยายเรื่องนี้สนุกมากขึ้นก็ได้