ตอนที่ 4 : มหาสงคราม
เพียงได้ยินเสียงฝีเท้าของม้าศึก องค์หญิงเจิงหนิงก็กระโดดขึ้นหลังม้าควบออกไปโดยเร็วไว ม้าศึกขององค์หญิงผู้นำทัพหยุดเผชิญหน้ากับ แม่ทัพเผยหมง
"ข้าได้ข่าวมาว่าแม่ทัพ ผางซอได้สิ้นชีพเสียแล้ว ข้าเพียงแค่อยากจะมาเจรจากับท่านดีๆ หากท่านรักชีวิต คิดจะเปลี่ยนใจก็ยังทันนะ ฮ่าๆๆๆ"
"ข้าด้วยเกิยติของแม่ทัพคนใหม่ จะไม่ยอมทำให้แม่ทัพผางซอ ต้องผิดหวังอย่างแน่นอน"
แม่ทัพเผยหมงถึงกลับไม่อยากเชื่อสายตา คนที่ตนคิดว่าจะเป็นบุรุษรูปงามผู้นั้น แต่เมื่อลั่นวาจาออกมากลับกลายเป็นเสียงของสตรี แต่ก็ต้องชื่นชมในความกล้าหาญของนางมาก
"นับว่าแม่นางช่างกล้าหาญยิ่งนัก คิดจะสู้กับแม่ทัพที่มีฉายา ว่า นักฆ่าเทพประทาน อย่างข้า ฮ่าๆๆ ข้าขอทราบนามท่านผู้กล้าก่อนประชันฝีมือจะได้มั้ย"
"ข้ามีนามว่า แม่ทัพเจิงหนิงและคิดว่าเราควรจบสนทนาการเพียงเท่านี้ หากทัพท่านพร้อมเมื่อไรก็จงเคลื่อนมาเถิด"
ม้าทั้งสองที่ตรงนั้นแยกย้ายกัน เมื่อสองทัพเคลื่อนเข้าสู่สรมรภูมินองเลือด ความสูญเสียย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ถึงแม้ฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายชนะก็ตามที
การนำทัพกลับมาด้วยชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของเจิงหนิงในครั้งนี้ กลับไม่ทำให้ท่าานาแม่ทัพคนใหม่เจิงหนิงผู้เป็นแม่ทัพรู้สึกภาคภูมิใจแต่อย่างใด นางกลับรู้สึกผิดและสงสารผู้กล้าที่สละชีพไปนับร้อยคน
เมื่อกองทัพกลับมาสู่บ้านเมือง ก็ต้องมีงานเลี้ยงฉลองชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ ให้ประจักษ์เป็นมิ่งขวัญกำลังใจ วันนี้ทุกคนต่างเปรมปรีดิ์มีความสุขอิ่มหน่ำสำราญ
จอกสุรายกขึ้นอย่างดุเดือด ใบหน้างามของท่านแม่ทัพมีน้ำตาไหลสองแก้มใส ยี่ผางมาเห็นเข้ารีบเข้าไปแย้งจอกสุราจากมือนาง
"ท่านแม่ทัพมิสมควรทำเช่นนี้นะ ท่านเป็นสตรีไม่สมควรดื่มสุรา"
"ยี่ผางข้าเสียพระทัยยิ่งนัก ที่ไม่สามารถรักษาอีกร้อยชีวิตไว้ไม่ได้"
ยี่ผางนั่งปลอบประโลมนางอยู่สักครู่ องค์ชายรองในไทเฮาบิดาบุญธรรมก็เข้ามา ยี่ผางจึงขอตัวออกไป
"พ่อภาคภูมิใจในตัวเจ้ายิ่งหนักเจิงหนิง และพ่อก็คิดแล้วว่า วัยของเจ้าสมควรที่จะออกเรือน มีคนมาคอยดูแลเจ้าเสียที"
"เพ่ค่ะ ท่านพ่อ"
เจิงหนิงไม่ได้สนใจเรื่องออกเรือนแต่อย่างใด แตนางไม่อยากแต่งแล้วออกไปจากวังหลวง เพราะหน้าที่และความผูกพันธ์ ทำให้นางต้องใช้สติปัญญาเร่งหาทางออกในเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
