ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุมิติมาเป็นแม่นางน้อย

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 8: ค้นพบขุมสมบัติ

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 67


    เมื่อเซี่ยเฉิงตรวจดูบริเวณกับดักทั้งหมดแล้วไม่พบร่องรอยของสัตว์ที่ติดกับดัก จึงตัดสินใจเดินกลับไปหาพี่ใหญ่ที่ยังคงเก็บผักอยู่ในสวน

    เขาเดินกลับไปพร้อมกับดอกไม้สีแดงสดที่เก็บมาฝากน้องสาว ระหว่างทางกลับในยามเย็นที่มีลมพัดเบาๆ สวนผักเงียบสงบ แต่กลิ่นหอมของดินและพืชผักทำให้เซี่ยเฉิงรู้สึกสบายใจ เขาเห็นพี่ใหญ่ก้มหน้าก้มตาเก็บผักในตะกร้าอย่างขยันขันแข็ง

    “พี่ใหญ่! ข้ากลับมาแล้ว” เซี่ยเฉิงเรียกพลางเดินเข้าไปใกล้

    เซี่ยหยวนเงยหน้าขึ้นมองน้องชาย ยิ้มบางๆ เมื่อเห็นน้องชายกลับมาอย่างปลอดภัย “เป็นยังไงบ้าง มีอะไรติดกับดักหรือเปล่า?”

    “ไม่มีเลยขอรับ” เซี่ยเฉิงตอบพลางถอนหายใจ “แต่ข้าเก็บดอกไม้สวยๆ มาฝากน้องสาว เรากลับกันเถอะ”

    เซี่ยหยวนพยักหน้าแล้วมองดอกไม้ในมือของน้องชาย พลางยิ้มบางๆ

    พี่น้องทั้งสองช่วยกันรวบรวมผักที่เหลือใส่ตะกร้า เตรียมจะหอบกลับไปที่บ้าน ขณะที่พวกเขาเดินเคียงข้างกันกลับบ้าน เซี่ยหยวนกับเซี่ยเฉิงต่างพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทั้งเรื่องที่ผักขายหมด และคำสั่งซื้อใหม่จากร้านอาหาร

    “พรุ่งนี้เราคงต้องตื่นเช้าไปเก็บผักเพิ่มให้มากกว่านี้นะ พี่ใหญ่” เซี่ยเฉิงเอ่ยเสียงเรียบ

    เซี่ยหยวนพยักหน้า “ใช่แล้ว คงต้องรีบมาเก็บแต่เช้ามือจะได้ไปส่งทันกำหนด”

    ในขณะที่พวกเขาเดินเข้าบ้าน เสียงหัวเราะและความอบอุ่นของครอบครัวนี้ก็เริ่มขึ้น ความรักและความห่วงใยในกันและกันช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับบ้านเล็กๆ แห่งนี้

    เมื่อกลับมาถึงบ้าน เซี่ยหยวนและเซี่ยเฉิงเห็นน้องสาวนั่งอยู่ที่ลานบ้าน กำลังถอนหญ้าเล็กๆ ด้วยความตั้งอกตั้งใจ แม้จะดูเป็นงานง่ายๆ แต่ใบหน้าของนางกลับเต็มไปด้วยความสนุกสนานและสมาธิ ทุกครั้งที่ถอนหญ้าขึ้นมา นางก็ยิ้มพลางพึมพำอะไรบางอย่างราวกับกำลังสนทนากับตัวเอง

    เซี่ยหยวนวางตะกร้าผักลง แล้วเดินเข้าไปยิ้มเอ็นดู “น้องสาวกำลังทำอะไรอยู่?”

    นางเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายทั้งสองแล้วยิ้มกว้าง “พี่ใหญ่ พี่รอง กลับมาแล้วเหนื่อยรึไม่เจ้าคะ” นางเอ่ย

    เซี่ยเฉิงยิ้มแล้วพูดแซวว่า “ดูสิ ขยันจริงๆ เจ้านี่”

    นางยิ้มพร้อมกับพยักหน้า เซี่ยเฉิงหยิบดอกไม้สีแดงสดที่เก็บมาให้ส่งให้นาง “ดอกไม้สวยๆ สำหรับเจ้า พี่รองเก็บมาให้ด้วยความตั้งใจเลยนะ”

    นางรับดอกไม้ พลางชื่นชมความงามของมันอย่างถนอม “ขอบคุณพี่รอง ข้าจะหาที่เก็บไว้ให้ดี”

    นางถือดอกไม้ที่พี่รองเก็บมาให้ มองดูอย่างละเอียดด้วยความสนใจอีกครั้ง ก่อนจะเงยหน้าถามด้วยความตื่นเต้น "พี่รอง ท่านไปเก็บมาจากที่ไหนหรือเจ้าคะ?"

    เซี่ยเฉิงที่เห็นท่าทางของน้องสาวก็ยิ้มแล้วตอบว่า "บนภูเขาไง เจ้าชอบหรือไม่?"

    "ชอบสิ! ชอบมากเลย" นางรีบพยักหน้าตอบด้วยรอยยิ้ม "ช่วยพาข้าไปดูหน่อยได้ไหมเจ้าคะ?"

    "ถ้าเจ้าชอบวันหลังข้าจะเก็บมาให้เจ้าอีกก็แล้วกัน" เซี่ยเฉิงเอ่ย แต่เซี่ยเหม่ยหลิงที่ได้ยินเข้าก็เอ่ยถามขึ้น 

    "พี่รอง หรือว่า....ดอกไม้พวกนี้มีมากเลยหรือ?" เซี่ยเหม่ยหลิงถามขึ้นอย่างกระตือรือร้น

    เซี่ยเฉิงยิ้มขำกับความกระตือรือร้นของน้องสาว "แน่นอนสิบนนั้นเป็นทุ่งดอกไม้เลยนะ มีเยอะมาก"

    คำพูดนั้นทำให้นางดีใจยิ่งขึ้น เพราะดอกไม้ที่อยู่ในมือนางไม่ใช่เพียงดอกไม้สวยงามเท่านั้น แต่เป็นดอก "ฉั่งฉิง" ซึ่งเป็นสมุนไพรสำคัญในยา นางรู้ดีว่าฉั่งฉิงมีคุณสมบัติช่วยรักษาและฟื้นฟูร่างกายได้มากมาย ดังนั้นการได้รู้ว่ามีทุ่งดอกไม้อยู่บนภูเขาก็เท่ากับเจอขุมทรัพย์ที่มีค่ายิ่งนัก

    นางมองหน้าพี่รองด้วยความดีใจ "พี่รอง พรุ่งนี้พาข้าไปดูทีนะเจ้าคะ!"

    เซี่ยเฉิงที่ยังไม่เข้าใจความสำคัญของดอกไม้เหล่านี้ก็หัวเราะ "เจ้าดูตื่นเต้นจริงๆนะ แต่ถ้าเจ้าอยากไป ข้าก็จะพาไปเอง น้องสาวคนเก่งของข้าจะได้สมใจ"

    นางพยักหน้าแรงด้วยรอยยิ้มกว้าง ในใจนึกถึงโอกาสที่จะใช้สมุนไพรเหล่านี้ในการช่วยเหลือครอบครัว

    พี่ใหญ่เซี่ยหยวนเดินมาพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย มองสองพี่น้องนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น "พวกเจ้าคุยอะไรกันอยู่หรือ ดูเหมือนจะสนุกเชียวนะ?"

    เซี่ยเฉิงหัวเราะพลางยกดอกไม้สีแดงขึ้นให้พี่ใหญ่ดู "น้องสาวชอบดอกไม้นี้ ข้าเลยบอกว่าเดี๋ยวจะพาไปดูนะขอรับ"

    พี่ใหญ่ยิ้มออกมาพลางเอื้อมมือลูบศีรษะนางด้วยความเอ็นดู "ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ข้าจะไปด้วย จะไปหาที่วางกับดักใหม่ด้วย"

    นางพยักหน้าตอบอย่างกระตือรือร้น "ขอบคุณเจ้าค่ะพี่ใหญ่ ข้าอยากเห็นทุ่งดอกไม้นั้นมากจริงๆ!"

    เซี่ยเฉิงยิ้มกว้าง พลางตบไหล่พี่ใหญ่เบาๆ "งั้นก็ตกลงตามนี้นะพี่ใหญ่ เราจะไปพร้อมกันทั้งหมด พี่ใหญ่ว่าดีไหม?"

    เซี่ยหยวนพยักหน้ารับ "ดี เจ้าไปพักผ่อนเสีย แล้วพรุ่งนี้หลังจากไปส่งผักพวกเราจะไปด้วยกัน"

    นางมองพี่ชายทั้งสองด้วยความซาบซึ้งใจที่ได้รับการดูแลและเอาใจใส่ แล้วจึงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง 

    ปู่จางเดินเข้ามาทางประตูบ้านพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น ท่ามกลางสายตายินดีของสามพี่น้องที่ต่างเรียกชื่อท่านด้วยความเคารพ "ท่านปู่จาง!" พวกเขาร้องเรียกพร้อมกัน ขณะที่เซี่ยหยวนรีบลุกไปเชิญท่านนั่งที่เก้าอี้ในลานบ้าน

    "วันนี้ลมดี ปู่เลยแวะมาดูพวกเจ้า ไม่ได้มานาน สบายดีกันไหม?" ปู่จางเอ่ยเสียงทุ้มพลางมองพวกเขาด้วยความเอ็นดู

    "สบายดีเจ้าค่ะ ปู่จาง" นางตอบอย่างนอบน้อม ยิ้มสดใสขณะที่เซี่ยเฉิงช่วยรินน้ำชาให้ท่านปู่ "ท่านอุตส่าห์มาเยี่ยมพวกเราอีก ขอบคุณจริงๆ นะขอรับ"

    ปู่จางมองดูเซี่ยเหม่ยหลิงที่นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยรอยยิ้มอบอุ่น "เจ้าร่าเริงขึ้นเยอะเลยนะ เห็นได้ชัดว่าเจ้ามีชีวิตชีวาขึ้นมาก อาการป่วยของเจ้าดูเหมือนจะดีขึ้นมากแล้ว"

    เซี่ยเหม่ยหลิงยิ้มตอบด้วยความรู้สึกดีใจ "ขอบคุณท่านปู่จางเจ้าค่ะ ข้าดีขึ้นมากแล้วเจ้าคะ แต่พวกพี่ใหญ่ยังทำเหมือนข้าป่วย..."

    ปู่จางยิ้มและพยักหน้า "ดีใจที่เจ้าฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว แต่เด็กน้อย อย่าลืมว่าพี่ๆ ของเจ้าทำแบบนี้เพราะห่วงใยเจ้า พวกเขาแค่ต้องการให้เจ้ามีสุขภาพแข็งแรงที่สุด"

    เซี่ยเหม่ยหลิงพยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่ก็ยังมีความไม่พอใจเล็กน้อย "ข้าก็อยากช่วยพวกเขาทำงานบ้าง แต่พี่ใหญ่มักจะห้ามข้าเสมอ บอกว่าข้ายังอ่อนแออยู่"

    ปู่จางหัวเราะเบาๆ "นั่นเพราะพวกเขารู้ว่าเจ้ายังต้องการเวลาฟื้นฟูร่างกาย อย่าไปเคืองพวกเขาเลยนะ" นางยิ้มออกมาอย่างจริงใจ

    "ใช่ท่าปู่จางพูดถูก" เซี่ยเฉิงเอ่ยอย่างเห็นด้วย

    ปู่จางหัวเราะอย่างพอใจ "พวกเจ้าสามคนขยันขันแข็งดี มีอะไรก็พยายามช่วยเหลือตัวเอง ไม่เคยขอร้องใครให้ลำบากใจ น่าชื่นใจจริงๆ" แล้วท่านหันไปทางเซี่ยหยวน พลางตบบ่าหนักๆ ด้วยความภาคภูมิใจ "เจ้าดูแลน้องๆ ได้ดีมาก หยวนเอ๋อร์ ข้าภูมิใจในตัวเจ้า"

    เซี่ยหยวนพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน "ข้าขอบคุณปู่จางที่คอยช่วยเหลือพวกเรา หากไม่มีท่าน พวกเราก็คงลำบากกว่านี้มาก"

    ปู่จางหัวเราะอย่างเอ็นดู 

    "พวกเจ้าตั้งใจเช่นนี้ ข้าเชื่อว่าคงจะได้อยู่ดีกินดีขึ้นไปอีก" ปู่จางลูบหัวพวกเขาด้วยความเอ็นดู "ไม่ต้องเกรงใจที่จะมาหาข้า หากมีสิ่งใดต้องการความช่วยเหลือ อย่าลังเลที่จะบอกข้าเชียว"

    คำพูดนี้ทำให้สามพี่น้องรู้สึกอบอุ่นในใจ และรู้สึกซาบซึ้งในความเมตตาของปู่จางที่เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่คนสำคัญในชีวิตของพวกเขา

    "ท่านปู่จางนำผักกลับไปกินด้วยนะขอรับ" เซี่ยหยวนเอ่ยขณะเลือกผักให้ปู่จางกลับไปกินด้วย

    "ไม่ต้องหรอก เจ้าเก็บเอาไว้ขายดีกว่า" ปู่จางเอ่ยปฎิเสธ

    เซี่ยหยวนยิ้มอ่อนโยนและยืนยันเสียงหนักแน่น "พวกเรามีผักพอแล้วขอรับปู่จาง ท่านไม่ต้องเกรงใจเลย ถือว่าเป็นการตอบแทนที่ท่านช่วยเหลือพวกเรามาตลอด ให้ท่านรับไว้เถอะ"

    ปู่จางฟังแล้วก็หัวเราะเบาๆ "พวกเจ้านี่นะ ช่างมีน้ำใจจริงๆ แต่ข้าก็ไม่อยากทำให้พวกเจ้าต้องลำบากหรอก เก็บผักไว้ขายเพื่อใช้จ่ายเถิด"

    เซี่ยเฉิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เสริมขึ้น "ท่านปู่จาง ท่านรับไปเถอะนะ ข้าจะได้รู้สึกดีใจที่ได้ตอบแทนบ้าง ยังไงท่านก็เป็นผู้ใหญ่ที่พวกเรานับถือที่สุด"

    ปู่จางมองดูแววตาแน่วแน่ของสองพี่น้องแล้วก็ถอนใจ ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างยอมแพ้ "เอาล่ะ เอาล่ะ หากพวกเจ้าอยากให้ข้าเช่นนั้น ข้าจะรับไว้ก็แล้วกัน ขอบคุณมากนะ"

    นางที่นั่งฟังอยู่ก็ยิ้มปลื้มใจ นึกขอบคุณปู่จางที่คอยเป็นที่พึ่งและที่ปรึกษาให้ครอบครัวมาตลอด เธอจึงเอ่ยขึ้นเบาๆ ด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจ "ข้าดีใจเหลือเกินที่พวกเรามีท่านปู่จางคอยอยู่ใกล้ๆ เช่นนี้"

    ปู่จางฟังแล้วตบบ่าของนางอย่างเอ็นดู "เด็กดี เจ้าก็ต้องดูแลพี่ๆ ของเจ้าด้วยนะ ครอบครัวต้องคอยประคองกันไป ข้าจะคอยช่วยเท่าที่จะทำได้เสมอ"

    บรรยากาศอบอุ่นค่อยๆ แผ่ไปทั่วลานบ้าน ขณะที่ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลง เซี่ยหยวนและเซี่ยเฉิงลุกขึ้นไปเตรียมผักที่ปู่จางจะนำกลับไป ทั้งสามคนยิ้มให้กันอย่างเป็นสุขในขณะส่งปู่จางเดินกลับบ้าน

     

    -----------------------------------------------------------

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้จนถึงตอนนี้นะคะ! ถ้าชอบตอนนี้และอยากเป็นกำลังใจให้นักเขียน สามารถส่งของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ได้เลยนะคะ ขอบคุณทุกการสนับสนุนมาก ๆ เลยค่ะ ^-^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×