ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกิดใหม่เป็นลูกอนุในจวนแม่ทัพ

    ลำดับตอนที่ #8 : สถานการณ์ที่ชายแดนไม่สู้ดี

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 67


    เมื่อคุณชายเหอเดินเข้ามาถึงห้องหนังสือของอวี้เหวินฉาง เขารับรู้ถึงบรรยากาศที่เคร่งเครียดแปลกประหลาดได้ทันที ภายในห้องถูกปกคลุมด้วยความเงียบงัน ไม่มีเสียงพูดคุยหรือการต้อนรับเหมือนทุกครั้งที่มาถึง อวี้เหวินฉางนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน จ้องมองเอกสารบางอย่างด้วยสีหน้าเคร่งขรึมผิดปกติ ริมฝีปากของเขาขมวดแน่น สายตาที่จ้องมองกระดาษในมือเหมือนกำลังอ่านข้อความที่นำพาไปสู่เรื่องราวบางอย่างที่ยากจะเข้าใจ

    “เจ้าได้รับข่าวอะไรมาอีก?” คุณชายเหอเอ่ยถามขณะก้าวเข้าไปใกล้

    อวี้เหวินฉางไม่ตอบทันที เขาเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมามองครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปยังเอกสารที่อยู่ในมือ ความลังเลปรากฏบนใบหน้าของเขา มือของเขาจับกระดาษไว้แน่นขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะค่อยๆ ยื่นส่งมันให้คุณชายเหอ

    "เจ้าอ่านดูเองเถอะ ข้าคิดว่ามันอาจเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าที่เราคิด" อวี้เหวินฉางพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล

    คุณชายเหอรับเอกสารนั้นมาด้วยความสงสัย และเมื่อเขาเริ่มอ่าน คำในจดหมายนั้นยิ่งทำให้เขารู้สึกถึงความกดดันที่หนักหน่วง

    "การเคลื่อนไหวของพวกนั้นเร็วเกินกว่าที่คาดคิด... ชายแดนทิศเหนือกำลังถูกเฝ้าระวัง... ศัตรูอาจเตรียมโจมตีเร็วๆ นี้..." ข้อความในเอกสารระบุถึงความเคลื่อนไหวของศัตรูที่อยู่เหนือความคาดหมาย พวกเขาเตรียมกำลังรบและเสบียงเป็นอย่างดี การโจมตีอาจเกิดขึ้นทุกเมื่อ

    แต่สิ่งที่ทำให้คุณชายเหอหยุดชะงักไม่ใช่เพียงแค่ข้อมูลทางการทหาร ข้อความที่ซ่อนอยู่ในบรรทัดสุดท้ายของจดหมายสร้างความสับสนและลึกลับมากกว่า

    "ศัตรูภายในอาจไม่ใช่คนที่เราคิด... จับตาดูผู้ที่อยู่ใกล้ตัว..."

    เขาหรี่ตามองข้อความนั้นแล้วหันกลับไปหาอวี้เหวินฉาง “นี่มันหมายความว่าอะไร? เจ้าสงสัยว่าใคร?”

    อวี้เหวินฉางเงียบไปสักครู่ก่อนที่จะถอนหายใจยาว “ข้าก็ไม่แน่ใจ แต่มีบางอย่างผิดปกติ ทุกการเคลื่อนไหวของศัตรูเหมือนมีใครบางคนคอยบงการจากภายใน มันเหมือนว่าพวกเขารู้ทุกย่างก้าวของเรา ทั้งที่ข้อมูลเหล่านั้นควรจะเป็นความลับ”

    คุณชายเหอเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล การที่ฝ่ายศัตรูรู้ความเคลื่อนไหวของพวกเขาอย่างละเอียดขนาดนี้บ่งบอกได้ถึงการหักหลังจากคนใน “เจ้าคิดว่า...มีคนทรยศ?”

    อวี้เหวินฉางพยักหน้าเบาๆ “ข้าไม่แน่ใจว่าใคร แต่เราต้องระวังตัวให้มาก ข้อมูลนี้บอกว่าเราอาจมีศัตรูอยู่ใกล้ๆ ตัวเราเอง”

    คุณชายเหอขมวดคิ้วลึกยิ่งขึ้น เสียงหัวใจของเขาเต้นหนักหน่วงขึ้น “เช่นนั้น...แผนที่เราคิดไว้ ข้ากลัวว่ามันจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว"

    ความเงียบเข้าปกคลุมห้องอีกครั้ง ทั้งสองต่างจมอยู่ในความคิดที่หนักอึ้ง ขณะที่ปริศนาของศัตรูที่ซ่อนเร้นอยู่ใกล้ๆ ทำให้ทั้งคู่เริ่มไม่แน่ใจในทุกคนที่อยู่รอบข้าง

    "ตอนนี้เรามีเพียงข้อมูลนี้ ข้าจะหาทางสืบเรื่องนี้ต่อไป" อวี้เหวินฉางเอ่ยขึ้นมาเสียงเบา “แต่เจ้าก็ต้องระวังตัวเองด้วย เหอ...ตอนนี้เราไม่สามารถไว้ใจใครได้แม้แต่คนเดียว”

    คุณชายเหอพยักหน้าอย่างช้าๆ เขารู้ว่าสถานการณ์นี้อันตรายเพียงใด ทั้งศัตรูที่อยู่ไกล และศัตรูที่อาจซ่อนตัวอยู่ในเงามืด ทั้งสองรู้ดีว่าความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจทำให้ทุกอย่างพังทลาย

    คุณชายเหอก้มลงมองกระดาษในมืออีกครั้ง ใจของเขาเต้นหนักหน่วง สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่บรรทัดสุดท้ายของจดหมายที่สื่อถึงความลึกลับซับซ้อน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อพวกเขามากกว่าศัตรูที่อยู่ตรงหน้า ความเงียบในห้องหนังสือทำให้บรรยากาศอึดอัดและเต็มไปด้วยความระแวง

    อวี้เหวินฉางลุกขึ้นจากโต๊ะ เขาเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปยังความมืดมิดที่ปกคลุมด้านนอก “เราจะทำอย่างไรต่อไป?” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหนักใจ

    คุณชายเหอเดินตามไปยืนข้างๆ ก่อนจะเอ่ยตอบ “เราต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับก่อน อย่าให้ใครรู้ว่าเรารู้เรื่องนี้แล้ว เราจำเป็นต้องหาคนที่เชื่อถือได้ และเริ่มสืบสวนจากภายใน”

    อวี้เหวินฉางพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ ข้าก็คิดเช่นนั้น ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่เราจำเป็นต้องหาวิธีสืบสวนโดยไม่ให้ใครระแคะระคาย”

    คุณชายเหอมองออกไปยังความเงียบสงบของค่ำคืนนี้ แต่ในใจของเขากลับเต็มไปด้วยความไม่สงบ การสืบสวนจากภายในนั้นยากยิ่งกว่าการต่อสู้กับศัตรูภายนอก เพราะไม่มีใครรู้ได้เลยว่าคนทรยศซ่อนตัวอยู่ที่ใด และความลับนี้จะนำพาไปสู่เรื่องราวแบบไหน

    “เจ้าได้ส่งคนไปที่ชายแดนแล้วหรือยัง?” คุณชายเหอถามขึ้น

    อวี้เหวินฉางพยักหน้า “ข้าได้ส่งข่าวไปแล้ว แต่เราไม่รู้ว่าข้อมูลที่ส่งไปจะปลอดภัยหรือไม่ ข้ากังวลว่าศัตรูจะรู้แผนของเราก่อนที่จะมีการเคลื่อนไหว”

    คุณชายเหอถอนหายใจ “เราต้องหาแผนสำรองไว้ ข้าจะให้คนของข้าเตรียมตัว แต่ข้าก็กลัวว่าจะไม่พอถ้าสถานการณ์เลวร้ายจริงๆ”

    ทั้งสองเงียบลงอีกครั้ง ความตึงเครียดในบรรยากาศทำให้ทั้งคู่รู้สึกได้ว่าปัญหานี้มีความลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม อวี้เหวินฉางหันกลับมาที่โต๊ะอีกครั้ง ก่อนจะหยิบแผนที่ออกมาและวางบนโต๊ะ

    “เจ้าเห็นตรงนี้หรือไม่?” เขาชี้ไปที่จุดหนึ่งบนแผนที่ “นี่คือเส้นทางลำเลียงเสบียงที่เราวางแผนจะใช้ ข้าเพิ่งได้รับข่าวว่ามีการเคลื่อนไหวของกลุ่มกองกำลังเล็กๆ แถวนี้ มันอาจเป็นความบังเอิญหรือไม่ก็อาจเป็นสัญญาณว่าพวกเขารู้แผนการของเราแล้ว”

    คุณชายเหอมองตามจุดที่อวี้เหวินฉางชี้ให้ดู เขาขมวดคิ้ว “เราต้องระวังเป็นพิเศษในการเคลื่อนพล ถ้าข้อมูลรั่วไหลจริงๆ มันจะทำให้เราเสียหายอย่างใหญ่หลวง” เขามองหน้าอวี้เหวินฉาง “ข้าจะส่งคนของข้าไปเฝ้าระวังเส้นทางนี้ด้วย แต่เจ้าต้องทำให้ทุกคนในจวนนี้สงบ ข้าไม่อยากให้ใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจนกว่าเราจะจับตัวคนทรยศได้”

    อวี้เหวินฉางพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “ข้าจะทำตามที่เจ้าว่า ข้าไม่อยากให้เกิดความสับสนในจวน หรือให้ใครสงสัย”

    ขณะที่ทั้งสองกำลังวางแผนอยู่นั้น ความกังวลใจในใจของพวกเขาก็เพิ่มมากขึ้นทุกขณะ ไม่มีอะไรแน่นอนอีกต่อไปแล้วในสถานการณ์นี้ ทั้งศัตรูที่อยู่ภายนอก และศัตรูที่อาจแฝงตัวอยู่ภายใน... ทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของปริศนาอันซับซ้อนที่กำลังจะคลี่คลาย

    ---

    ที่ชายแดนอันหนาวเย็นและเงียบสงัด อวี้กงหลาง แม่ทัพผู้แข็งแกร่งและเป็นบิดาของอวี้เหวินฉาง ยืนมองออกไปยังทิวเขาที่ทอดยาวสุดสายตา ความกังวลในใจของเขาเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ แม้ภายนอกเขาจะดูสงบนิ่งดั่งภูผา แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยความคิดหลากหลายเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ยากจะควบคุม

    ตั้งแต่ข่าวล่าสุดที่ส่งมาถึง ทำให้เขารู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติในแนวหลัง การลำเลียงเสบียงที่สำคัญสำหรับการสนับสนุนทัพหน้าอาจถูกขัดขวาง และความเคลื่อนไหวของศัตรูในระยะหลังๆ ก็ดูแปลกขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่สามารถไว้วางใจใครได้ในตอนนี้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าศัตรูจะแทรกซึมเข้ามาลึกแค่ไหน

    “ท่านแม่ทัพ” เสียงเรียกขานดังขึ้นจากด้านหลัง เป็นหนึ่งในขุนพลคนสนิทของเขาที่เข้ามารายงาน “พวกเราพบการเคลื่อนไหวของกองกำลังไม่ทราบสังกัดบริเวณป่าทางตะวันตก ต้องการให้ข้าส่งคนไปสืบดูหรือไม่?”

    อวี้กงหลางนิ่งคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ “ส่งหน่วยลาดตระเวนของเจ้าไปสืบดู แต่อย่าให้พวกเขาเปิดเผยตัว”

    ขุนพลคนนั้นรับคำสั่งแล้วรีบออกไปดำเนินการ แต่ความกังวลในใจของอวี้กงหลางก็ยังคงไม่หายไป เขานึกถึงจดหมายที่ส่งมาจากจวนของเขาในเมืองหลวง ถึงแม้ว่าเขาจะเชื่อมั่นในตัวอวี้เหวินฉาง ลูกชายคนโตของเขา แต่สถานการณ์ในเมืองหลวงก็ไม่แน่นอนเช่นกัน

    เขาก้าวไปที่โต๊ะในกระโจม สายตาของเขาจับจ้องไปที่แผนที่บนโต๊ะที่เต็มไปด้วยจุดยุทธศาสตร์ต่างๆ รอบชายแดน เขารู้ว่าศัตรูนั้นฉลาด และพวกมันอาจรู้ถึงแผนการของพวกเขาแล้ว หากการลำเลียงเสบียงถูกตัดขาด ทัพของเขาจะตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างมาก

    ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าของคนที่คุ้นเคยดังขึ้นที่หน้ากระโจม “ท่านแม่ทัพ ข้ามีข่าวด่วน”

    อวี้กงหลางเงยหน้าขึ้นมอง เป็นรองแม่ทัพเจียงที่เข้ามาด้วยสีหน้าจริงจัง “พูดมา”

    “หน่วยลาดตระเวนของเราพบว่ามีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายเคลื่อนไหวอยู่ไม่ไกลจากแนวลำเลียงเสบียง ข้าว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ศัตรูอาจพยายามตัดเส้นทางเสบียงของเรา”

    คำพูดนี้ยิ่งทำให้อวี้กงหลางหนักใจมากขึ้น เขาหันกลับไปมองแผนที่บนโต๊ะอีกครั้ง นิ้วของเขาลากไปตามเส้นทางที่ลำเลียงเสบียงผ่าน “เราต้องเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ ข้าจะส่งคนของเราไปคุ้มกันเส้นทางนี้ แต่อย่าให้ใครรู้มากเกินไป”

    “ท่านแม่ทัพ” รองแม่ทัพเจียงเอ่ยขึ้นอีกครั้งอย่างลังเล “ท่านคิดว่าคนในของเราจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่?”

    อวี้กงหลางนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงแฝงความเครียด “ข้าไม่แน่ใจ แต่ก็ห้ามประมาท ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ข้าจะไม่ปล่อยให้มันลอยนวล”

    รองแม่ทัพเจียงพยักหน้ารับคำสั่ง ก่อนจะออกไปเตรียมการตามที่แม่ทัพสั่ง แต่ในใจของอวี้กงหลางยังคงเคร่งเครียด แม้เขาจะวางแผนการป้องกันอย่างรัดกุม แต่สิ่งที่เขากังวลที่สุดในตอนนี้คือ คนทรยศอาจอยู่ใกล้กว่าที่เขาคิด...


    -----------------------------------------------------------

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้จนถึงตอนนี้นะคะ! ถ้าชอบตอนนี้และอยากเป็นกำลังใจให้นักเขียน สามารถส่งของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ได้เลยนะคะ ขอบคุณทุกการสนับสนุนมาก ๆ เลยค่ะ ^-^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×