คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : คืนวันที่โศกเศร้าเสียใจ
ซูหรงเดินอย่างเหม่อลอยไปยังห้องครัว ดวงตาของนางแดงก่ำจากการร้องไห้หนัก นางรู้ดีว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของครอบครัวตลอดไป แต่ในใจกลับรู้สึกหวาดกลัวว่าหากลูกชายของนางต้องจากไปเช่นเดียวกับสามี นางจะเหลือสิ่งใดไว้ยึดเหนี่ยวอีก
เมื่อเดินมาถึงห้องครัว ซูเหม่ยหลินกำลังตระเตรียมอาหาร นางใช้เวลาหั่นผักและจัดเตรียมข้าวต้มด้วยท่าทางที่ดูสงบ ซูหรงเฝ้ามองการกระทำของลูกสาวเงียบๆ ไม่เอ่ยอะไร แต่ในใจนางกลับเต็มไปด้วยคำถามและความสับสน
"ท่านแม่ นั่งพักเถอะ ข้าจะจัดการเอง" ซูเหม่ยหลินพูดขึ้นโดยไม่หันไปมอง นางรู้ดีว่ามารดาคงจะไม่มีอารมณ์จะทำอาหารในวันนี้
ซูหรงยืนนิ่งอยู่อีกครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าอย่างอ่อนแรง นางเดินไปนั่งที่ม้านั่งเล็กๆ มองลูกสาวที่กำลังทำอาหารด้วยความสงบเยือกเย็น ซูเหม่ยหลินทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น แต่ในใจนางก็รู้ว่าซูหรงยังคงหวั่นไหว
ความเงียบระหว่างสองแม่ลูกดูเหมือนจะกินเวลายาวนาน ซูเหม่ยหลินหั่นผักและปรุงอาหารอย่างตั้งใจ พลางรวบรวมความกล้าพูดออกมา “ท่านแม่... ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเหม่ยอี้ และครอบครัวเรา”
ซูหรงมองหน้าลูกสาวพลางขบกรามแน่น นางรู้สึกเจ็บปวดและกลัวไปพร้อมๆ กัน “หลินเอ๋อร์ เจ้าเป็นเพียงสตรี จะให้ไปเผชิญอันตรายอย่างนั้นได้อย่างไร? หากเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับเจ้า แม่จะทำใจได้อย่างไร?”
ซูเหม่ยหลินมองมารดาด้วยสายตาแน่วแน่ นางยื่นมือไปจับมือของซูหรงเบาๆ “แม่ ข้าสัญญาว่าข้าจะกลับมา ข้ามีความสามารถในการต่อสู้ ข้าจะดูแลตัวเองได้ และข้าจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ครอบครัวเราปลอดภัย เหม่ยอี้ยังมีอนาคตที่ดีรออยู่ เขาไม่ควรต้องแบกรับภาระนี้”
ซูหรงจับมือของซูเหม่ยหลินแน่น น้ำตาไหลลงอาบแก้ม “แต่ข้าไม่อยากสูญเสียเจ้าไปอีกคน... ข้าไม่อยากเสียใครอีกแล้ว หลินเอ๋อร์…”
ซูเหม่ยหลินปลอบใจด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “ท่านแม่ ข้าเข้าใจดี ข้าจะทำให้ดีที่สุด ข้าจะปกป้องตัวเองเพื่อท่านแม่และเหม่ยอี้ ข้ารู้ว่าท่านแม่กลัว แต่ข้าจะไม่ปล่อยให้สิ่งใดพรากครอบครัวของเราไป”
ซูหรงถอนหายใจยาว ความเจ็บปวดที่กดดันอยู่ภายในใจค่อยๆ บรรเทาลงจากคำสัญญาของลูกสาว นางรู้ว่าสิ่งที่หลินเอ๋อร์ตัดสินใจทำทั้งหมดนั้นเป็นเพราะความรักและความหวังดีต่อครอบครัว
"ถ้าเช่นนั้น... แม่จะเชื่อเจ้า แม่จะเชื่อว่าหลินเอ๋อร์จะสามารถกลับมาอย่างปลอดภัย" นางเอ่ยขึ้นด้วยเสียงสั่นเครือ ก่อนจะกอดลูกสาวไว้แน่น ราวกับพยายามเก็บความทรงจำของลูกสาวในอ้อมแขนนี้ให้คงอยู่
ซูเหม่ยหลินกอดมารดาตอบแน่นพลางคิดในใจว่า ไม่ว่ายากลำบากแค่ไหน นางจะทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวนี้อยู่รอดและปลอดภัย
บรรยากาศในมื้ออาหารนั้นเต็มไปด้วยความเงียบงัน มีเพียงเสียงตะเกียบกระทบถ้วยเบาๆ ที่ดังแว่วเป็นระยะ ซูหรงนั่งตัดเนื้อปลานุ่มๆ ให้ลูกๆ อย่างเงียบเชียบ นางคอยยิ้มอ่อนให้ซูเหม่ยหลินและซูเหม่ยอี้ ทว่าในแววตานั้นยังคงมีความกังวลและความเศร้าหมองที่ยากจะซ่อน
ซูเหม่ยหลินเงยหน้าขึ้นสบตากับมารดาแล้วส่งยิ้มบางๆ พลางกล่าวเบาๆ เพื่อทำให้บรรยากาศผ่อนคลายขึ้น “ท่านแม่... ท่านไม่ต้องห่วงมากไปหรอกนะ ทุกอย่างจะต้องผ่านพ้นไปได้”
ซูหรงฝืนยิ้มแล้วพยักหน้า นางตอบเสียงสั่นเบาๆ “ข้ารู้... แม่ก็แค่... กลัวว่าลูกทั้งสองจะลำบาก”
ซูเหม่ยอี้พยายามทำตัวให้ดูเข้มแข็ง แม้จะยังเด็กแต่เขาก็เข้าใจถึงความหนักหน่วงที่พี่สาวและมารดาต้องแบกรับ “ท่านแม่ ข้าสัญญาว่าข้าจะตั้งใจศึกษาเล่าเรียนให้มาก จะได้เป็นขุนนางมีตำแหน่งสูงเพื่อจะได้ดูแลพวกท่าน”
ซูหรงฟังคำพูดของลูกชายก็รู้สึกปลาบปลื้มใจ นางเอื้อมมือไปลูบศีรษะซูเหม่ยอี้เบาๆ “เจ้าทำได้ดีแล้ว เหม่ยอี้ แม่เชื่อว่าเจ้าจะต้องประสบความสำเร็จในสิ่งที่หวัง”
เมื่อพูดจบ บรรยากาศในห้องก็กลับมาเงียบอีกครั้ง ทั้งสามคนต่างทานอาหารกันต่อ แต่ละคนต่างมีความคิดและความกังวลในใจของตนเอง ซูเหม่ยหลินยกถ้วยข้าวขึ้นมาแล้วตักอาหารเข้าปากช้าๆ นางตั้งใจจะจำความรู้สึกในวันนี้ไว้ในใจให้มั่น เพราะหลังจากนี้นางรู้ดีว่าจะต้องเผชิญกับการต่อสู้อีกมากมาย
ซูหรงจึงเฝ้ามองลูกๆ ด้วยความรักและห่วงใย นางทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้สมบูรณ์ที่สุด แม้จะยังเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น แต่ความเชื่อมั่นในตัวลูกสาวก็ทำให้นางเข้มแข็งขึ้นเล็กน้อย
เมื่อทานอาหารเสร็จ ซูเหม่ยหลินและซูเหม่ยอี้ก็ช่วยกันเก็บจานและล้างถ้วยชาม ซูหรงมองดูภาพนั้นด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ แม้จะมีความเศร้าซ่อนอยู่ แต่หัวใจของนางก็รู้สึกอบอุ่น เมื่อรู้ว่าลูกๆ ของนางต่างรักและปกป้องกันอย่างเต็มใจ
ตกดึก ท่ามกลางความมืดและเสียงลมพัดแผ่วเบา ซูเหม่ยหลินตื่นขึ้นด้วยเสียงสะอื้นเบาๆ ที่เล็ดลอดออกมาจากห้องมารดา เสียงนั้นชวนให้ใจนางหนักอึ้งขึ้นทุกขณะ นางจึงค่อยๆ ลุกจากที่นอนแล้วเดินไปยังหน้าห้องของซูหรง
เมื่อมาถึงหน้าห้อง นางหยุดนิ่ง ก่อนจะนั่งลงช้าๆ พลางเงี่ยหูฟังเสียงสะอื้นแผ่วๆ ที่ดังอยู่ภายใน ใจของนางรู้สึกปวดร้าวที่เห็นมารดาต้องทนทุกข์กับความกังวลและความกลัวที่ไม่อาจบรรเทาได้
ซูเหม่ยหลินยกมือขึ้นกอดเข่าของตนเอง นั่งฟังเสียงสะอื้นของมารดาอย่างเงียบเชียบ นางอยากจะเปิดประตูเข้าไปปลอบโยน อยากจะบอกว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ในตอนนี้นางก็ยังไม่แน่ใจว่าจะรับมือกับทุกอย่างได้อย่างไร
เวลาผ่านไปช้าๆ ในความเงียบงัน ซูเหม่ยหลินหลับตาและตั้งสติ นางคิดในใจว่าไม่ว่ามารดาจะรู้สึกเช่นไร นางต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องครอบครัวนี้ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม นางจะหาทางออกจากสถานการณ์นี้ให้ได้
"ท่านแม่ ข้าสัญญาว่าจะกลับมาแน่นอน…" นางพึมพำเบาๆ แต่หนักแน่นกับตัวเอง คล้ายเป็นคำสาบานในยามราตรีอันเงียบสงบ
หลังจากวันนั้น ซูหรงยังคงมีแววตากังวลอยู่เสมอ แต่พยายามทำตัวเข้มแข็งให้สมกับเป็นหัวหน้าครอบครัว ซูเหม่ยหลินเห็นเช่นนั้นก็ยิ่งตั้งใจมากขึ้นในการฝึกฝนตัวเองทุกเช้าโดยไม่ยอมลดละ นางใช้เวลาทุกวันในการออกกำลังกาย ฝึกท่าทางป้องกันตัว และปรับสภาพร่างกายให้คุ้นเคยกับการทำงานหนัก เพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงที่จะมาถึง แม้ว่าจะยังไม่รู้วันหรือเวลาแน่ชัด
ซูเหม่ยอี้ ผู้เป็นน้องชาย เห็นพี่สาวออกไปฝึกเช้าจรดค่ำทุกวันก็รู้สึกทั้งหนักใจและสงสัยในเวลาเดียวกัน เขาเฝ้าถามพี่สาวว่าเหตุใดถึงต้องทำอะไรหนักขนาดนั้น แต่ซูเหม่ยหลินก็มักจะเลี่ยงคำตอบ และพูดแค่ว่าเป็นเรื่องของฝึกร่างกายให้แข็งแรงเท่านั้น
เมื่อถึงวันหนึ่งที่ท้องฟ้าโปร่งใส ซูเหม่ยหลินตัดสินใจพาน้องชายออกไปนอกหมู่บ้านเพื่อล่าสมุนไพร นางคิดว่าแม้จะยังไม่ถึงกำหนดเรียกตัว แต่การเตรียมตัวล่วงหน้าไว้จะช่วยให้นางพร้อมเมื่อต้องออกเดินทางจริงๆ
ทั้งคู่เดินลัดเลาะไปตามทางเล็กๆ ที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ เสียงนกกาเรียกหากันไปมาทำให้บรรยากาศสดชื่น พวกเขาหยุดพักใต้ร่มไม้ใหญ่แห่งหนึ่ง ซูเหม่ยอี้นั่งลงมองไปรอบๆ พลางถอนหายใจ “ข้ารู้สึกแปลกๆ ช่วงนี้พี่มักจะออกไปข้างนอกทุกวัน แล้วก็ดูแข็งแรงขึ้นมากเลย ข้าเองก็อยากแข็งแรงเหมือนพี่บ้าง แต่ข้ารู้สึกว่ามันยากเหลือเกิน”
ซูเหม่ยหลินยิ้มและหันไปตบไหล่น้องชายเบาๆ “ข้าเชื่อว่าเจ้าทำได้ แค่ฝึกฝนตัวเองไปเรื่อยๆ วันละนิดละหน่อยก็พอ อย่างวันนี้เราลองฝึกเก็บสมุนไพรและจำลักษณะของพืชพรรณให้ดี สมุนไพรบางชนิดมีประโยชน์มากในการฟื้นฟูร่างกาย”
ซูเหม่ยอี้ยิ้มและพยักหน้า นางเดินตามพี่สาวพร้อมฟังคำแนะนำเกี่ยวกับสมุนไพรชนิดต่างๆ อย่างตั้งใจ ท่ามกลางการเดินสำรวจป่า ซูเหม่ยหลินแอบดูน้องชายแล้วรู้สึกยินดีที่เขามีความกระตือรือร้น แม้ร่างกายเขาจะอ่อนแอ แต่นางเชื่อว่าการฝึกเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้เขาได้ดูแลตัวเองมากขึ้น
เมื่อกลับถึงบ้าน ซูเหม่ยหลินและซูเหม่ยอี้แบ่งสมุนไพรออกเป็นหมวดหมู่และจัดเตรียมอย่างเรียบร้อย ซูหรงเฝ้ามองลูกๆ ของนางทำงานร่วมกันด้วยความภูมิใจ แต่ในใจกลับแฝงด้วยความเศร้าเมื่อนึกถึงวันข้างหน้า หากลูกสาวต้องออกไปรับใช้กองทัพจริงๆ นางจะอยู่โดยปราศจากความช่วยเหลือได้หรือไม่
ช่วงเวลาเช่นนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับความสงบสุขที่ยังคงอยู่ในหมู่บ้าน แต่เสียงลือเกี่ยวกับการเกณฑ์คนก็เริ่มแพร่กระจาย ข่าวลือเหล่านี้ยิ่งทำให้ซูเหม่ยหลินมั่นใจว่า การเตรียมตัวและฝึกฝนของนางนั้นไม่ได้เสียเปล่า
-----------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้จนถึงตอนนี้นะคะ! ถ้าชอบตอนนี้และอยากเป็นกำลังใจให้นักเขียน สามารถส่งของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ได้เลยนะคะ ขอบคุณทุกการสนับสนุนมาก ๆ เลยค่ะ ^-^
ความคิดเห็น