ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พระชายาอ้วนขององค์ชายสาม

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 7: เมล็ดกาแฟ

    • อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 67


    ซูเฟยหรงเดินไปตามร้านที่เต็มไปด้วยของแปลกใหม่ จนกระทั่งสายตาของนางสะดุดเข้ากับถุงเล็กๆ ที่บรรจุเมล็ดสีดำแวววาว นางไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง นี่มันเมล็ดกาแฟชัดๆ!

    “นี่คืออะไร?” นางอุทานด้วยความตื่นเต้น เดินเข้าไปใกล้กว่าเดิมเพื่อพิจารณา “เมล็ดกาแฟอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอ?”

    "คุณหนูรู้จักสิ่งนี้ด้วยหรือขอรับ?" เจ้าของร้านเดินเข้ามาถาม

    "ก็พอรู้จัก มันคือเมล็ดกาแฟใช่ไหม?" นางแกล้งถามทั้งที่จริงๆแล้วนางรู้จักดีเลยล่ะ

    เจ้าของร้านยิ้มกว้าง “ใช่แล้วขอรับ คุณหนู เมล็ดกาแฟนี้มาจากแดนตะวันตกอันห่างไกล! ข้ายังมีอีกหลายถุงในโกดังนะขอรับ”

    “จริงหรือ!” นางตบมือด้วยความดีใจ “เจ้ามีเมล็ดกาแฟจำนวนเท่าไหร่? ข้าต้องการทั้งหมด!” น้ำเสียงของนางเปล่งประกายไปด้วยความหวัง

    เจ้าของร้านขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะตอบด้วยความสัตย์จริง “อ้อ แต่ขอเตือนคุณหนูไว้ก่อน เมล็ดกาแฟนี้อาจจะไม่ได้รสชาติดีอย่างที่คุณหนูคิดนะขอรับ ข้าลองชิมดูแล้วพบว่ามันขมและฝาดมากเลย”

    ซูเฟยหรงขมวดคิ้ว “ขม? ไม่ต้องห่วงข้าเอาทั้งหมด!” ขมอย่างไร? นี่ข้าไม่ได้ดื่มกาแฟมานานแค่ไหนแล้ว นางนึกถึงความรู้สึกที่ได้ดื่มกาแฟหอมกรุ่นในช่วงชีวิตก่อนหน้านี้ ความทรงจำอันหวานชื่นทำให้ใจนางกระตุ้นขึ้น

    “ข้าขอถามอีกครั้ง คุณหนูแน่ใจแล้วหรือว่าอยากจะได้มันทั้งหมด?” เจ้าของร้านเอ่ยเสียงแผ่ว แต่ในใจกลับรู้สึกตื่นเต้น เพราะอาจมีโอกาสทำกำไรจากการขายได้

    “ข้าแน่ใจ!” ซูเฟยหรงตอบเสียงแข็ง ไม่ยอมถอยหลัง “ข้าจะลองทำให้มันอร่อยเอง!”

    เห็นท่าทีมั่นใจของนาง เจ้าของร้านจึงยิ้มกว้าง “ถ้าเช่นนั้น ข้าจะจัดการให้คุณหนูขอรับ”

    นางมองไปยังเมล็ดกาแฟที่ตั้งอยู่เบื้องหน้า พลางจินตนาการถึงการสร้างสรรค์เครื่องดื่มที่ไม่เพียงแค่ชวนให้ดื่ม แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกมีชีวิตชีวา

    ซูเฟยหรงมองเมล็ดกาแฟในถุงด้วยความตื่นเต้น แล้วหันไปถามเจ้าของร้าน “ข้าอยากเอากลับไปก่อนหนึ่งถุง ส่วนที่เหลือฝากไว้ที่นี่ก่อนได้ไหม?”

    เจ้าของร้านพยักหน้า “ได้เลยขอรับ ข้าจะเก็บส่วนที่เหลือเอาไว้ให้ขอรับ”

    ซูเฟยหรงหันไปหาเจ้าของร้านอีกครั้ง “ทั้งหมดนี้ราคาเท่าไหร่?”

    เจ้าของร้านยิ้มและยกมือขึ้นคิด “สำหรับเมล็ดกาแฟทั้งหมดที่คุณหนูต้องการ รวมแล้วเป็นแปดร้อยตำลึงขอรับ”

    ซูเฟยหรงหยิบตั๋วเงินออกมาและยิ้ม “นี่ แปดร้อยตำลึงตามที่ตกลงกัน” นางส่งเงินให้เจ้าของร้านด้วยมือที่สั่นนิดๆ เพราะความตื่นเต้น

    เจ้าของร้านรับเงินและหยิบถุงเมล็ดกาแฟส่งให้ซูเฟยหรงอีกครั้ง “ขอให้คุณหนูโชคดีขอรับ”

    "เอาไว้ข้าจะมาใหม่" นางก็เอ่ยลาเจ้าของร้าน ส่วนหยางอี้ก็นำถุงเมล็ดกาแฟมาถือเอง

    "อ๋อ!" นางก็หันไปหาเจ้าของร้านอีกครั้ง

    ซูเฟยหรงยิ้มอย่างมั่นใจ ขับเคลื่อนความคิดของนางไปข้างหน้า “ข้าอยากถามท่านว่า สนใจทำธุรกิจกับข้าหรือไม่?”

    เจ้าของร้านเลิกคิ้วมองนางด้วยความสงสัย “หมายความว่ายังไงขอรับ?”

    “ข้าสังเกตว่าร้านของท่านไม่มีลูกค้าเลย” นางกล่าวอย่างชัดเจน “ถ้าเป็นแบบนี้อีกไม่นานคงต้องปิดร้าน ไม่สู้มาร่วมมือกับข้าดีกว่าหรือ? ข้ามีแผนที่จะให้ร้านนี้ดีกว่าเดิม”

    เจ้าของร้านยิ้มเล็กน้อย แต่ยังดูลังเล “ท่านหมายถึงจะให้ข้าเอาสินค้าของข้าไปขายที่อื่น?”

    “ไม่ใช่!” ซูเฟยหรงตอบด้วยเสียงหนักแน่น “ข้าจะนำสินค้าของท่านไปใช้ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มลูกค้าให้กับร้านของท่าน”

    “แต่อาจจะมีความเสี่ยงนะขอรับ” เจ้าของร้านยังไม่มั่นใจ “ถ้าความคิดนี้ไม่สำเร็จ ข้าจะขาดทุนไปมาก”

    “ข้าเข้าใจ” นางตอบ “แต่ถ้าหากสำเร็จ ท่านจะได้ประโยชน์มากมาย”

    นางเดินไปหาสินค้าในร้าน พร้อมหยิบยกเมล็ดกาแฟขึ้นมา “นี่คือโอกาส! คนในเมืองนี้ยังไม่รู้จักรสชาติกาแฟที่แท้จริง ถ้าข้าและท่านร่วมมือกัน เราสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ได้”

    เจ้าของร้านเริ่มมีสีหน้าเปลี่ยนไป “.....”

    “ค่อยๆ คิดดูนะ” ซูเฟยหรงกล่าว “ถ้าท่านสนใจ วันพรุ่งนี้ข้าจะกลับมา และเราจะหารือกันให้ละเอียดอีกครั้ง” นางเชื่อว่าการเสนอความร่วมมือจะทำให้ร้านนี้มีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง โดยไม่ทันสังเกตสีหน้าของหยางอี้ที่ทำท่าจะร้องไห้เขาคิดในใจ 'พรุ่งนี้ก็ต้องมาอีกแล้วรึ'

    “ขอบคุณคุณหนูสำหรับข้อเสนอ” เจ้าของร้านเริ่มรู้สึกถึงความหวัง เขาไม่ค่อยมีโอกาสในการลงทุนหรือปรับปรุงร้านที่สามารถทำให้มีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง

    “ข้าเชื่อว่ามันจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับทั้งสองฝ่าย” นางกล่าวอย่างมั่นใจ “ถ้าท่านต้องการที่จะร่วมมือ ข้าจะทำให้มันเกิดขึ้นจริง”

    เจ้าของร้านพยักหน้าด้วยความหวัง “ข้าจะรอคอยคุณหนูวันพรุ่งนี้”

    ซูเฟยหรงยิ้มให้เขา “แล้วพบกันใหม่!” แล้วนางก็เดินออกจากร้านไปอย่างอารมณ์ดี เตรียมพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองในแบบที่นางต้องการ

    ขณะที่หัวใจของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความหวัง ความคิดถึงการสร้างสรรค์เครื่องดื่มใหม่ๆ ทำให้นางรู้สึกว่าชีวิตนี้มีความหมายอีกครั้ง

    “ข้าจะทำให้ทุกคนรู้ว่ากาแฟคืออะไร!” ซูเฟยหรงพูดเสียงดังด้วยความมั่นใจ ก่อนที่ทั้งสองจะหายไปในความวุ่นวายของตลาดที่เต็มไปด้วยผู้คนและเสียงพูดคุย

    นางเริ่มรู้สึกว่า ชีวิตของนางในร่างนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย และซูเฟยหรงก็ไม่ยอมให้โอกาสนี้หลุดมือไปง่ายๆ!

    "คุณหนูจะไปไหนต่อหรือไม่ขอรับ?" หยางอี้เอ่ยถาม

    "ไม่ล่ะ กลับก่อนดีกว่า" ซูเฟยหรงเอ่ยอย่างอารมณ์ดี

    ซูเฟยหรงนั่งอยู่ในรถม้าสีดำอย่างเงียบๆ ขณะที่รถม้าค่อยๆ เคลื่อนตัวไปตามถนนที่เงียบสงบ นางรู้สึกตื่นเต้นกับแผนการใหม่ที่เกิดขึ้นในหัว นางจินตนาการถึงอนาคตที่มีร้านค้าที่คึกคักและเต็มไปด้วยลูกค้า ความมุ่งมั่นที่เกิดขึ้นทำให้นางมีแรงผลักดันในการดำเนินชีวิตต่อไป

    เมื่อรถม้าหยุดลงที่ด้านหลังจวนองค์ชาย ซูเฟยหรงมองออกไปเห็นเพียงแค่สวนเล็กๆ ที่เงียบสงบ บรรยากาศไม่ค่อยมีคนสัญจรไปมา จึงทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเข้ามาอย่างไม่เป็นที่สังเกต นางจึงเปิดประตูรถม้าและก้าวลงมาอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการพบเจอกับใคร

    โชคดีที่เรือนของนางนั้นค่อนข้างเงียบสงบ ไม่มีใครอยู่รอบข้าง นางจึงรู้สึกโล่งใจที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นการกลับมาของตน “หยางอี้ ช่วยข้าขนถุงนี้ตามข้ามาด้วย” นางสั่งการ เขาพยักหน้าและช่วยนางขนถุงเข้าไปในห้อง

    เมื่อเข้ามาถึงภายในห้อง ซูเฟยหรงปิดประตูให้แน่น 

    “หยางเซียง!” นางเรียกเสียงเบา

     หยางเซียงก็เดินเข้ามาหา “พระชายา! ท่านกลับมาแล้ว” นางดูมีสีหน้าที่เปล่งประกายจากความโล่งใจเมื่อเห็นพระชายากลับมาอย่างปลอดภัย

    หยางอี้ก็วางถุงเมล็ดกาแฟลง นางมองไปที่ถุงกาแฟที่มีความฝันใหม่ของนางซุกซ่อนอยู่ข้างใน

    “ตอนนี้ ข้าจะต้องวางแผนทำธุรกิจ” นางคิดในใจ ความตั้งใจของนางเริ่มแน่วแน่มากขึ้น 

    หลังจากที่หยางอี้วางถุงเมล็ดกาแฟลงบนโต๊ะแล้ว เขาก็รู้สึกว่าถึงเวลาที่เขาควรจะขอตัวกลับไปทำงานที่จวนของตน “พระชายา ข้าน้อยขอตัวก่อนนะขอรับ” เขาเอ่ยด้วยความเกรงใจ

    ซูเฟยหรงพยักหน้า “อืม พรุ่งนี้เวลาเดิมนะ” นางตอบด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความมั่นใจ หยางอี้แอบยิ้ม เพราะเขารู้ดีว่านางมีความมุ่งมั่นในการทำสิ่งใหม่ๆ แม้ว่ามันจะมีความเสี่ยง แต่เขาก็ไม่สามารถขัดขวางความตั้งใจของนางได้

    “ขอรับ” เขาตอบรับด้วยน้ำเสียงเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้อง ปิดประตูเบาๆ ตามหลัง

    เมื่อหยางเซียงเห็นซูเฟยหรงกลับมาอย่างปลอดภัย นางก็ถามด้วยความเป็นห่วง “พระชายา เป็นยังไงบ้าง? ไม่มีใครจับได้ใช่ไหม?” น้ำเสียงของเธอแสดงถึงความวิตกกังวล

    ซูเฟยหรงยิ้มให้กับหยางเซียงเพื่อปลอบใจ “ไม่ต้องห่วงหรอก ข้าแค่...บังเอิญเจอน้องชายเท่านั้น” นางตอบเสียงเบาๆ แต่อัดแน่นไปด้วยความสุขที่ได้ออกไปใช้ชีวิตนอกจวน

    เมื่อหยางเซียงได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก “ข้าคิดว่าท่านจะมีปัญหาเสียแล้ว พระชายา หากมีใครรู้เรื่อง ก็อาจเป็นเรื่องใหญ่ได้”

    “ข้ารู้ดี ข้าจึงระมัดระวัง” ซูเฟยหรงกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

    "ว่าแต่ เมื่อครู่นี้พระชายาหมายความว่า...." หยางเซียงนึกถึงสิ่งที่พระชายากับชับกับน้องชายเมื่อครู่ก็ถามขึ้น

    ทันใดนั้น เสียงของพ่อบ้านดังขึ้นจากทางประตู “พระชายา” เสียงเขาสุภาพแต่มีน้ำหนักของความสำคัญ “ข้าน้อยมีเรื่องจะต้องแจ้งท่าน”

    ซูเฟยหรงและหยางเซียงหันไปมองที่ประตูอย่างพร้อมเพรียง

    "เข้ามา" ซูเฟยหรงเอ่ย

    พ่อบ้านที่ได้รับอนุญาติให้เข้ามาได้ก็เดินเข้ามาในห้องอย่างระมัดระวัง “มีเรื่องใดหรือ?” ซูเฟยหรงถามด้วยความสงสัย

     

    -----------------------------------------------------------

    สวัสดีค่ะทุกคนมาลุ้นกันว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร ติดตามได้ในตอนต่อไป....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×