ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกิดใหม่เป็นลูกอนุในจวนแม่ทัพ

    ลำดับตอนที่ #6 : เหตุเกิดเพราะสุราเพียงหนึ่งจอก

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 67


    ในยามค่ำคืนที่เงียบสงัดของจวนแม่ทัพ เสียงฮัมเพลงของอวี้เหมยดังมาเบาๆ ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย เพลงที่นางร้องที่คุ้นเคย ทำให้บรรยากาศในลานเรือนเล็กนั้นเต็มไปด้วยความเหงาและความคิดถึงอย่างไร้จุดหมาย นางนั่งบนเก้าอี้ไม้ มองดวงดาวที่พราวอยู่บนฟ้าและคิดถึงชีวิตในอดีตของตน ที่เต็มไปด้วยการทำงานหนัก การกู้เงินและการช่วยเหลือผู้คน แต่ตอนนี้กลับอยู่ในร่างของบุตรสาวในจวนแม่ทัพอย่างไร้ตัวตน

    เสียงฝีเท้าที่ดังเข้ามาทำให้ความคิดของนางสะดุด เม่ยหลัน สาวใช้คนสนิทของอวี้เหมยเดินเข้ามาใกล้ พร้อมกับใบหน้าที่แสดงถึงความห่วงใย "คุณหนูเจ้าคะ ดึกแล้วเจ้าค่ะ ควรจะเข้านอนได้แล้วนะเจ้าคะ" เสียงของเม่ยหลันแผ่วเบา แต่กลับมีน้ำหนักอยู่ในคำพูด

    อวี้เหมยมองเม่ยหลันด้วยความอ่อนใจ "แต่ข้ายังไม่ง่วงเลยนะ เม่ยหลัน"

    เม่ยหลันยังคงยืนอยู่ ไม่ยอมจากไปด้วยความกังวล "คุณหนูเจ้าคะ..."

    “แต่ข้ายังมีเรื่องให้คิดอีกมาก” อวี้เหมยถอนหายใจ แต่ในใจกลับมีความอยากดื่ม สุราจะช่วยให้จิตใจนางสงบลงได้บ้าง

    เม่ยหลันมองเจ้านายของนางด้วยความเข้าใจ แต่ก็ยังคงยืนอยู่ ไม่ยอมจากไป

    ในขณะเดียวกัน ชายหนุ่มที่ได้ยินเสียงเพลงของอวี้เหมยก่อนหน้านี้คือคุณชายเหอ เขาเป็นคนที่เดินทางมากับอวี้เหวินฉางในวันนี้ ขณะนี้เขายืนอยู่ที่มุมหนึ่งของลาน น้ำเสียงของอวี้เหมยทำให้เขาเกิดความสนใจขึ้น เขาไม่คาดคิดว่าจะมีคนที่กล้าแสดงออกเช่นนี้

    อวี้เหมยลุกเดินไปนั่งพิงต้นไม้ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจู่ๆ นางก็เกิดความรู้สึกอยากจะดื่มอะไรขึ้นมา "เม่ยหลัน ข้าคิดว่าอยากดื่มสักหน่อย เจ้ามีสุราไหม?"

    เม่ยหลันตกใจและส่ายหัว "คุณหนูเจ้าคะ ท่านยังไม่ปักปิ่นเลยนะเจ้าคะ! จะดื่มสุราได้อย่างไร"

    อวี้เหมยยิ้มอย่างมั่นใจ "อา... ใช่ ข้ายังไม่ปักปิ่น แต่ข้าต้องการแค่แก้วสองแก้วเท่านั้น เพื่อให้จิตใจข้าสงบลง"

    เม่ยหลันรู้สึกหนักใจ เพราะเธอไม่สามารถปฏิเสธคำขอของคุณหนูได้ “แต่ว่า..”

    อวี้เหมยเริ่มใช้น้ำเสียงอ้อนวอน “เม่ยหลัน เจ้าก็รู้ว่าข้าแค่ต้องการอะไรบางอย่างเพื่อให้จิตใจข้าสงบลง แล้วเจ้าก็จะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้”

    เม่ยหลันมองคุณหนูของตนที่แสดงความแน่วแน่ สุดท้ายเธอก็ไม่อาจปฏิเสธได้ “ก็ได้เจ้าค่ะ ข้าจะไปหาสุราให้ท่าน แต่ท่านต้องให้สัญญาว่าดื่มแค่หนึ่งจอกพอนะเจ้าคะ”

    “ข้าสัญญา” อวี้เหมยยิ้มกว้างอย่างมีความสุข และเมื่อเม่ยหลันเดินออกไปเพื่อไปหาสุรา อวี้เหมยก็เอนหลังพิงต้นไม้และเริ่มคิดถึงเรื่องราวในอดีต

    'ในชีวิตที่แล้ว ข้าดื่มมากกว่านี้เป็นร้อยเท่า' นางคิด

    ขณะนั้นเอง คุณชายเหอซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลก็ได้ยินการสนทนานั้น เขาไม่คาดคิดว่าจะมีบุตรสาวของแม่ทัพที่มีความกล้าหาญและเปิดเผยเช่นนี้ เขาเดินออกมาเพื่อหาความสงบให้กับความคิดของตัวเอง แต่กลับได้ยินเสียงของอวี้เหมยซึ่งทำให้เขาสนใจยิ่งขึ้น

    อวี้เหมยซึ่งยังคงนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ รู้สึกถึงบางอย่างแปลกประหลาดในอากาศ แต่เมื่อเธอหันไปมองก็ไม่เห็นใคร นางจึงกลับไปคิดถึงเรื่องอื่น

    ไม่นาน เม่ยหลันกลับมา พร้อมกับขวดสุราขนาดเล็กในมือ "คุณหนูเจ้าคะ ข้าหาได้จากในห้องเก็บของ ข้าขอเตือนท่านอีกครั้งว่าการดื่มสุรามันไม่ดี"

    “ข้าจะดื่มแค่สักแก้วเท่านั้น” อวี้เหมยรับขวดสุรามาและยิ้มให้กับเม่ยหลัน "เพียงเพื่อให้รู้สึกดีขึ้นเท่านั้น"

    เม่ยหลันยิ้มบางๆ แต่ในใจรู้สึกไม่สบายใจ เธอรู้ดีว่าคุณหนูของเธอมีความเข้มแข็งและมีความสามารถ แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธความจริงที่ว่าสุราอาจนำมาซึ่งปัญหาได้

    เมื่ออวี้เหมยเปิดขวดสุราและเทมันลงในถ้วยเล็ก เธอก็รู้สึกตื่นเต้นและหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน ชีวิตในอดีตของนางที่เต็มไปด้วยความกังวลและความทุกข์ทรมาน ราวกับมันกลับเข้ามาในใจของนางอีกครั้ง

    อวี้เหมยจิบสุราไปเพียงแค่แก้วเดียว แต่ความร้อนของสุราก็เข้ามาในร่างกายของนางอย่างรวดเร็ว นางรู้สึกถึงความร้อนที่พุ่งขึ้นมาจากภายใน

    "แค่กๆ แค่ก" ทำให้ต้องไอออกมาเป็นระยะ เม่ยหลันเห็นอาการของนางจึงรีบลูบหลังให้ "คุณหนูเจ้าคะ เป็นอย่างไรบ้าง!"

    “ข้าขอน้ำ...หน่อย” อวี้เหมยเอ่ยออกไปด้วยเสียงอ่อนแรง ขณะที่เม่ยหลันรีบวิ่งไปหาน้ำให้ นางรู้สึกว่าความรู้สึกมึนๆ ของสุรานั้นเริ่มเข้ามาทำให้หัวของนางเบลอไปหมด

    "เดี๋ยวข้าจะหาน้ำมาให้เจ้าคะ!"เม่ยหลันรีบวิ่งไปทันที

    ในขณะที่เม่ยหลันออกไป อวี้เหมยที่เหลืออยู่คนเดียวเริ่มรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถนั่งอยู่ในที่นั้นได้อีกต่อไป นางพยายามลุกขึ้นยืน แต่เท้ากลับโซซัดโซเซเหมือนกิ่งไม้ที่ถูกลมพัดแรง เมื่อมองไปข้างหน้าแล้วอวี้เหมยก็ไม่สามารถทรงตัวได้ดีเท่าที่ควร

    นางเดินไปข้างหน้าและสะดุดเข้ากับก้อนหินเล็กๆ ที่อยู่ใต้พื้น เมื่อร่างของนางล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น

    อวี้เหมยเริ่มต่อว่าก้อนหิน “เจ้าก้อนหินบ้า! ทำไมถึงอยู่ตรงนี้! มาขว้างทางข้าทำไม!” น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่ในขณะเดียวกันความรู้สึกสะเทือนใจเริ่มเข้ามาในจิตใจ

    เพียงแค่ความรู้สึกในวินาทีนั้นทำให้นางเริ่มร้องไห้ อวี้เหมยได้ยินเสียงของตัวเองที่กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ พยายามจะสู้กับความเศร้าในใจที่ท่วมท้น แม้จะมีเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นอยู่มากมาย แต่กลับไม่สามารถทำใจให้สงบได้

    ในขณะนั้นเอง คุณชายเหอซึ่งยืนอยู่ห่างออกไปได้ยินเสียงนั้น และเมื่อเขาเห็นอวี้เหมยที่ล้มอยู่กับพื้นกำลังด่าก้อนหินอยู่ด้วยอาการโวยวาย เขาก็เผลอหัวเราะออกมา

    เสียงหัวเราะของเขาทำให้อวี้เหมยหันไปมอง โดยที่ยังคงมีน้ำตาคลอในดวงตา นางเอียงคอไปทางเสียงหัวเราะอย่างสงสัย “เจ้าหัวเราะอะไร!” เสียงของนางแสดงถึงความไม่พอใจ แต่ในใจกลับมีความขัดแย้งระหว่างความเศร้าและความตลกขบขัน อวี้เหมยเดินไปตามเสียงหัวเราะที่ได้ยิน ไม่รู้ว่าเป็นใครกัน

     จนในที่สุดเมื่อถึงจุดที่เห็นเป็นรูปเป็นร่าง นางได้ยื่นมือไปข้างหน้าแล้วจับที่หน้าของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า “เจ้าเป็นใครกัน?” นางถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย ขณะที่ยื่นหน้าไปมองใกล้ๆ อย่างไร้ความระมัดระวัง

    เมื่อเห็นชัดเจนขึ้น นางก็เกิดอาการตกใจ “อ๋อ! ที่แท้ก็พ่อหนุ่มรูปหล่อนี่เอง!” นางพูดออกมาอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง ทำให้คุณชายเหอรู้สึกอึ้งไปชั่วขณะ

    ใบหน้าของเขาเริ่มมีสีแดงเล็กน้อยจากการถูกมองอย่างใกล้ชิด และมีความแปลกใจอยู่ในดวงตา “เจ้า...”

    อวี้เหมยยิ้มกว้าง แสดงถึงความร่าเริงในตัวตนที่แท้จริง “สนใจไปดื่มต่อกับพี่สาวไหม? พี่สาวจะเลี้ยงเอง”

    คำพูดของนางทำให้คุณชายเหอตกใจและหลุดหัวเราะออกมาอีกครั้ง เขายิ้มอย่างยอมรับ “เจ้าจะเลี้ยงข้าหรือ? หืม?”

    “แน่นอน! พี่สาวพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว” อวี้เหมยรู้สึกตื่นเต้น นางพยายามทำให้บรรยากาศนั้นเบาสบายขึ้น นางรู้สึกถึงความชอบใจที่ได้รับการตอบรับจากชายหนุ่มที่นางมองว่าสนุกสนาน

    “แต่เจ้าแน่ใจนะว่าหลังจากดื่มแล้วจะยังสามารถเดินได้?” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ยิ้มแย้ม ท่าทางของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย

    “แน่นอน! ข้าไม่ใช่คนอ่อนแอ!” อวี้เหมยยืนยันด้วยความมั่นใจ ขณะยักไหล่ “ข้าแค่ยังไม่ชินก็เท่านั้น ไม่ต้องกังวลไป”

    คุณชายเหอมองนางอย่างมีความสนใจ “ถ้าอย่างนั้น ข้าจะตามไปดื่มกับเจ้าก็แล้วกัน”

    อวี้เหมยกระโดดดีใจ “ไปกันเถอะ! พี่สาวเพิ่งเคยเจอคนที่สนุกแบบเจ้า!” นางก็พาเขาไปนั่งที่เดิมที่นางนั่ง ซึ่งยังมีขวดสุราวางอยู่

    ในระหว่างที่นางเล่าไปเรื่อยๆ เสียงของนางเริ่มเบาลง และนางรู้สึกว่าตนเองกำลังอ่อนแรงลงโดยไม่รู้ตัว สุดท้ายอวี้เหมยก็เผลอหลับไปที่นั่น โดยที่ยังอยู่ในวงสนทนากับคุณชายเหอ

    คุณชายเหอเห็นอวี้เหมยนั่งอยู่ตรงหน้าและพยายามประคองตัวเองอย่างยากลำบาก จึงต้องยิ้มออกมาให้กับภาพที่เห็น

    ในที่สุด เม่ยหลันกลับมาพบอวี้เหมยที่หลับอยู่ นางรู้สึกตกใจเล็กน้อย “คุณหนู! ท่านหลับไปแล้วเหรอ?” เม่ยหลันเข้าไปใกล้และทำท่าจะเรียกนางตื่น

    “ปล่อยให้นางนอนไปเถอะ” คุณชายเหอพูดเสียงเบา

    เม่ยหลันรู้สึกขอบคุณที่คุณชายตรงหน้าที่ช่วยดูคุณหนูของนางแต่ก็ยังรู้สึกว่าชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน “ขอบคุณมากคุณชาย ที่ช่วยดูแลคุณหนูของข้า”

    “ไม่เป็นไร” เขาตอบ

    นางจึงรีบเข้าไปประคองอวี้เหมยให้ลุกขึ้น “คุณหนู! ข้าต้องพาท่านกลับห้อง” น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความเป็นห่วง

    อวี้เหมยยังคงหลับอยู่ ไม่รู้สึกตัวเมื่อต้องลุกขึ้น เม่ยหลันพยายามประคองนางให้นั่งตัวตรง แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล นางจึงตัดสินใจใช้แรงทั้งหมดที่มีเพื่อพาคุณหนูของนางกลับเรือน

    ทันใดนั้น เขาย่อตัวลงและอุ้มนางขึ้นอย่างเบามือ ในอ้อมแขนอย่างแผ่วเบา ปราศจากความรุนแรงหรือความคิดที่จะทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจ 

    ทำให้เม่ยหลันรู้สึกประหลาดใจ “คุณชาย! ท่านไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้” นางพูดด้วยน้ำเสียงรีบร้อน

    “ไม่เป็นไร” คุณชายเหอตอบให้เม่ยหลัน “นำทางไปที” เขาอุ้มนางด้วยความระมัดระวัง โดยที่ไม่ทำให้นางรู้สึกไม่สบายตัว

    'ดูเหมือนว่าเจ้าจะเบากว่าที่ข้าคิด' เขาคิดในใจอย่างเล่นๆ ขณะที่เดินไปยังเรือนของอวี้เหมย สัมผัสอ่อนโยนของอวี้เหมยทำให้เขารู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไม่ได้รู้สึกมานาน

    อวี้เหมยรู้สึกตัวเล็กน้อยเมื่อถูกยกขึ้น แต่ก็ไม่สามารถเปิดตาได้ และในใจกลับรู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่มผู้นี้


    -----------------------------------------------------------

    สวัสดีค่ะทุกคนมาลุ้นกันว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร ติดตามได้ในตอนต่อไป....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×