ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พระชายาอ้วนขององค์ชายสาม

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 6: สิ่งของที่คุ้นตา

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 67


    แต่เมื่อหันไปมองในที่สุด ก็ต้องอึ้งไปเล็กน้อยเพราะพบว่าเป็นน้องชายของตนเอง ซูเฟยเฉิน ที่กำลังยืนอยู่ไม่ไกล สีหน้าของเขาผสมระหว่างความห่วงใยและความตกใจ

    "พี่ ทำไมท่านถึงออกมาเดินข้างนอกคนเดียวเช่นนี้?" ซูเฟยเฉินถามเสียงกังวล ขณะรีบเข้ามาหานาง “ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าเห็นท่าน ข้าก็ตกใจรีบตามมาเลย!” หยางอี้ก็โล่งอกที่ไม่ใช้คนร้าย

    ซูเฟยหรงยิ้มบาง ๆ พลางแสร้งทำเป็นไม่สะทกสะท้าน “เจ้าอย่ามาทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไปเลย ข้าแค่ออกมาเดินเล่นดูโลกข้างนอกสักหน่อยเท่านั้นเอง”

    "แต่อันตรายมากนะพี่รอง ท่านเป็นถึงพระชายา จะออกมาคนเดียวโดยไม่มีขบวนคุ้มกันไม่ได้" ซูเฟยเฉินส่ายหน้า พลางมองพี่สาวอย่างตำหนิเล็กน้อย

    ซูเฟยหรงยิ้มขำเมื่อเห็นน้องชายทำท่าทางเคร่งขรึมเช่นนี้ นางโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “เจ้าอย่ากังวลไป อีกอย่างข้าไม่ได้มาคนเดียวสักหน่อย ข้าออกมาแค่ชั่วคราว ไม่นานก็กลับแล้ว แต่ไหน ๆ ก็มาแล้ว เจ้าช่วยข้าดูสิว่าสินค้าที่นี่มีอะไรน่าสนใจบ้าง”

    ซูเฟยเฉินถอนหายใจเบา ๆ แต่ยอมตามใจพี่สาว เขาเฝ้าดูอยู่ข้าง ๆ ขณะที่ซูเฟยหรงตื่นตาตื่นใจกับรอบข้าง ซูเฟยเฉินก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “พี่ ท่านสนใจอะไรพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

    “ข้าคิดว่ามันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของอะไรบางอย่างที่น่าสนใจนะสิ” ซูเฟยหรงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์  โดยมีซูเฟยเฉินยืนมองพี่สาวด้วยสายตาสงสัย แต่อดตื่นเต้นตามไม่ได้

    ซูเฟยเฉินถอนหายใจยาว ขณะยอมช่วยพี่สาวตามที่นางต้องการ ถึงจะรู้สึกไม่เห็นด้วยกับความคิดแปลกๆ ของพี่สาวบ่อยครั้ง แต่เขาก็ยังทำตามคำขอของนางโดยไม่อิดออด

    "แล้วเจ้ามาทำอะไรแถวนี้ล่ะ?" ซูเฟยหรงหันมาถามด้วยสีหน้าสนใจ

    "ข้าพึ่งกลับจากการฝึกนอกเมือง วันนี้ตั้งใจจะแวะมาซื้อของฝากให้ท่านพ่อท่านแม่ก่อนจะกลับจวนพอดี" ซูเฟยเฉินตอบ เขายิ้มบางๆ ขณะที่เล่าให้ฟัง "พอเห็นท่าน ข้าก็เลยต้องตามมาให้แน่ใจว่าท่านปลอดภัย"

    ซูเฟยหรงยิ้มพลางพูดแหย่ "เจ้าเป็นห่วงข้าถึงขนาดนี้เชียวหรือ? หรือเพราะกลัวว่าข้าจะทำอะไรแปลกๆ อีก?"

    ซูเฟยเฉินหัวเราะเล็กน้อย "ท่านเดาถูกแล้ว ข้าก็แค่กลัวว่าท่านจะทำอะไรที่ทำให้ทุกคนปวดหัวกันน่ะสิ"

    พี่น้องทั้งสองต่างหัวเราะกันเบาๆ อย่างสนิทสนม ซูเฟยหรงรู้สึกอบอุ่นที่มีน้องชายคอยห่วงใยเช่นนี้ และเป็นคนเดียวที่เป็นห่วงนาง

    ซูเฟยเฉินมองพี่สาวด้วยสายตาห่วงใย ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเบา "ท่านไม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่ไหม? ข้าได้ยินว่าองค์ชายสามเดินทางไปชายแดนตั้งแต่วันรุ่งขึ้นหลังจากพิธีแต่งงาน ทิ้งท่านไว้เช่นนี้…ข้าอดเป็นห่วงไม่ได้"

    ซูเฟยหรงชะงักไปเล็กน้อย แต่ยังคงรักษารอยยิ้มบางบนใบหน้า “เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก ข้าไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น อีกอย่าง ข้าก็มีเรื่องต้องคิดและวางแผนอยู่ พักนี้ได้อยู่เงียบๆ จัดการเรื่องของตัวเองก็ดีเหมือนกัน”

    ซูเฟยเฉินพยักหน้า แต่ยังคงมีสีหน้าห่วงใยอยู่ "ถ้ามีอะไรที่ท่านต้องการหรือถ้าใครทำให้ท่านลำบากใจ บอกข้าได้ทันทีนะ ข้ายินดีช่วยเสมอ"

    ซูเฟยหรงยิ้มอ่อนโยนและยื่นมือไปแตะไหล่น้องชายอย่างปลอบโยน "เจ้าคงจะเหนื่อยกับการฝึกมาไม่น้อย รีบกลับจวนไปพักผ่อนเถอะ ส่วนข้า…จะเดินเล่นสักหน่อย ไม่ต้องห่วง ข้ารู้จักดูแลตัวเองดี"

    ซูเฟยเฉินลังเลเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยชวน "ท่านพี่ หากท่านไม่รีบกลับ จะไปหาท่านพ่อด้วยกันไหม? ท่านพ่อก็เป็นห่วงท่านมากเช่นกัน"

    ซูเฟยหรงได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหน้าอย่างเด็ดขาด สีหน้าของนางนิ่งเฉียบ “ไม่ล่ะ ข้าไม่มีเรื่องอะไรจะพูดกับท่านพ่อ อีกอย่าง…” นางเว้นวรรคเล็กน้อย หยิบของที่เพิ่งซื้อมามองอย่างตั้งใจ “ตอนนี้ข้ามีเรื่องอื่นที่ต้องจัดการ อีกอย่างข้าไม่อยากไปเจอคนที่นั่น...”

    ซูเฟยเฉินมองพี่สาวอย่างเข้าใจ แม้ในใจเขาจะรู้สึกเห็นใจนางอยู่ลึกๆ ที่ต้องเผชิญความกดดันจากทั้งการแต่งงานและคำสั่งจากบิดา เขารู้ดีว่าพี่สาวของเขาไม่ใช่คนที่จะอ่อนแอต่อสิ่งใด และหากนางตัดสินใจเช่นนี้ ก็แปลว่านางมีแผนบางอย่างอยู่ในใจแล้ว

    “ถ้าเช่นนั้น ข้าจะไม่บังคับท่าน แต่หากท่านต้องการอะไร ข้าพร้อมช่วยเหลือทุกเมื่อ” ซูเฟยเฉินกล่าวก่อนจะโค้งคำนับลาพี่สาวอีกครั้ง

    ซูเฟยเฉินลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นพี่สาวยืนกรานเช่นนั้น จึงพยักหน้าและกล่าวลา ก่อนจะจากไปโดยไม่ลืมหันกลับมามองนางอีกครั้งอย่างห่วงใย

    ซูเฟยหรงมองตามน้องชายที่เดินจากไป  ขณะที่ในใจเริ่มก่อร่างแผนการบางอย่างเกี่ยวกับธุรกิจของตนเองเพื่อให้ชีวิตของนางเปลี่ยนไปในแบบที่ต้องการ นี่คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

    เมื่อน้องชายจากไปแล้ว ซูเฟยหรงยิ้มบางๆ นางคิดไปถึงอนาคตที่กำลังจะเปลี่ยนแปลง เมื่อในใจเริ่มมีแผนการใหญ่ที่ค่อยๆ ก่อตัว

    ---

    นางก็พาหยางอี้ที่เดินตามมาอย่างเงียบๆเดินเที่ยวชมตลาดต่อไปด้วยความระแวดระวังพลางๆ บรรยากาศระหว่างความสุขและความสงสัยปะปนกัน ทั้งหมดต่างรับรู้ว่าอิสระครั้งนี้ แม้มีเรื่องลึกลับบางอย่างแอบแฝงอยู่ แต่ก็ยังเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นและแปลกใหม่กว่าที่พวกเขาเคยพบเจอ

    ซูเฟยหรงเดินเลียบไปตามถนนในตลาดจนกระทั่งมาถึงร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ในมุมเงียบสงบ สายตาของนางสะดุดกับสินค้าหลากหลายบนชั้นวางหน้าร้าน ดูแตกต่างจากแผงขายของทั่วไปที่นางเดินผ่านมาตลอดทาง ที่นี่มีของแปลกตาที่คุ้นเคยกับนางอย่างไม่น่าเชื่อ ตั้งแต่เครื่องแก้วสีสันสดใส ผ้าลายแปลกตา จนถึงข้าวของโลหะที่มาจากแดนตะวันตก นางแทบไม่เชื่อสายตาว่ามีร้านค้าซึ่งนำเข้าสินค้าต่างแดนมาขายในตลาดเล็ก ๆ แห่งนี้

    นางก้าวเข้าไปในร้านด้วยความตื่นเต้น หยิบจับข้าวของดูทีละชิ้น ดวงตาเป็นประกายเมื่อเห็นขวดแก้วสวยงามและกล่องเหล็กขนาดเล็กที่มีลวดลายละเอียดซับซ้อน

    “นี่ขวดเก็บน้ำมันหอมจากตะวันตกหรือ?” นางพึมพำกับตัวเอง

    เจ้าของร้านเห็นนางให้ความสนใจอย่างมากก็เดินเข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้ม “คุณหนูสนใจสิ่งใดเป็นพิเศษหรือขอรับ สินค้าทุกชิ้นที่นี่นำเข้าจากตะวันตก ข้าเดินทางไปนำมาด้วยตนเองเลย”

    ซูเฟยหรงเบิกตากว้างด้วยความแปลกใจ “เจ้าหมายความว่าเจ้าค้าขายสินค้าต่างแดนพวกนี้ งั้นหรือ?” นางถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

    เจ้าของร้านพยักหน้าอย่างภูมิใจ “ใช่แล้วขอรับ ข้าเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่กล้าเดินทางไกลเพื่อค้าขายสินค้าจากแดนไกล ซึ่งการเดินทางไม่ง่ายเลย แต่ผลตอบแทนก็คุ้มค่ามาก”

    ซูเฟยหรงเหลียวมองสินค้าบนชั้นวางอีกครั้ง พลางคิดคำนวณในใจ นางรู้ดีว่าแต่ละชิ้นมีมูลค่าสูงในหมู่ชนชั้นสูงที่อยากสะสมของแปลกใหม่จากต่างแดน นางเองก็ไม่เคยเห็นใครในเมืองหลวงที่มีร้านค้าหรือสินค้าระดับนี้ การลงทุนในสินค้าที่มีเอกลักษณ์อาจเป็นธุรกิจที่ดีสำหรับนางในการเริ่มต้น

    “เช่นนั้น ข้าสามารถซื้อสินค้าบางชิ้นได้ไหม หรือมีข้อเสนออะไรสำหรับข้า หากข้าสนใจซื้อเป็นจำนวนมาก?” นางเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มที่แฝงความมุ่งมั่นในแววตา

    เจ้าของร้านนิ่งคิดเล็กน้อยก่อนตอบ “ย่อมได้อยู่แล้วขอรับ หากคุณหนูสนใจเป็นลูกค้าประจำ ข้าจะให้ราคาพิเศษ เพราะสินค้าบางชิ้นมีเพียงไม่กี่ชิ้นในเมืองนี้เท่านั้น ข้าสามารถจัดหาเพิ่มได้ในอนาคตหากคุณหนูต้องการ”

    ซูเฟยหรงยิ้มอย่างพึงพอใจ นางตกลงใจจะเริ่มต้นทำธุรกิจเล็ก ๆ โดยใช้สินค้าจากร้านนี้เป็นจุดเริ่มต้น นางอาจเริ่มต้นด้วยการขายให้กลุ่มขุนนางและบรรดาสตรีสูงศักดิ์ในวังหลวง ซึ่งกำลังสนใจสินค้าต่างแดนพวกนี้อยู่แล้ว

    ระหว่างที่พูดคุยกับเจ้าของร้าน หยางอี้ที่ติดตามมาจากด้านหลังแสดงสีหน้าทั้งกลัวและตื่นเต้น เขามองซูเฟยหรงด้วยความกังวลและเอ่ยเสียงแผ่ว “คุณหนูหากมีผู้ใดจับได้ว่าท่านออกมาเช่นนี้ คงเป็นเรื่องใหญ่นะขอรับ รีบกลับกันเถอะ”

    ซูเฟยหรงหัวเราะเบาๆ “ไม่ต้องห่วงหรอก”

    พูดจบ นางก็หันกลับไปจับจองสินค้าต่อ พลางวางแผนธุรกิจที่ค่อยๆ ก่อเป็นรูปร่างอยู่ในใจ นี่อาจเป็นการเริ่มต้นที่น่าตื่นเต้นสำหรับนาง ทั้งยังเป็นทางให้หลุดพ้นจากกรอบของพระชายาผู้ถูกเมินเฉย

     

     

     

    ขณะที่ซูเฟยหรงกำลังเพลิดเพลินกับการเลือกชมสินค้า สายตาของนางก็สะดุดเข้ากับถุงเมล็ดสีน้ำตาลเข้มที่วางอยู่มุมหนึ่งของชั้นไม้ ใบหน้าของนางฉายแววตื่นเต้นขึ้นมาทันที

     

    -----------------------------------------------------------

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้จนถึงตอนนี้นะคะ! ถ้าชอบตอนนี้และอยากเป็นกำลังใจให้นักเขียน สามารถส่งของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ได้เลยนะคะ ขอบคุณทุกการสนับสนุนมาก ๆ เลยค่ะ ^-^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×