ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พระชายาอ้วนขององค์ชายสาม

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5: แอบออกจากจวน

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 67


    ไม่นานนัก พ่อบ้านก็เดินเข้ามาพร้อมกับบ่าวชายคนหนึ่งที่ยกหีบสินเดิมของซูเฟยหรงเข้าไปในห้องโถงของเรือน หีบใหญ่ถูกตกแต่งอย่างงดงาม ด้วยลวดลายทองคำที่สะท้อนแสงไฟ สร้างความสนใจให้กับทุกคนที่อยู่ในห้อง

    “พระชายา นี่คือสินเดิมที่ท่านขอให้ข้าน้อยนำมาให้” พ่อบ้านเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ ขณะที่บ่าวชายวางหีบลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง

    ซูเฟยหรงรู้สึกตื่นเต้นและคาดหวังในใจ “ขอบใจท่านมาก” นางกล่าวเสียงเบา แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ นางมองไปที่หีบและเห็นว่ามันเต็มไปด้วยข้าวของที่มีคุณค่า ทั้งเครื่องประดับและสิ่งของต่าง ๆ ที่นางสะสมมาตั้งแต่อดีต

    “พระชายา ท่านต้องการให้ข้าช่วยเปิดดูหรือไม่?” หยางเซียงถามด้วยความห่วงใย

    “ไม่ต้องหรอก ข้าอยากจะเปิดดูเอง” ซูเฟยหรงตอบ และเริ่มเปิดหีบด้วยมือของตนเอง ภายในนั้นเต็มไปด้วยเครื่องประดับหลากหลายสีสัน ที่เคยเป็นทรัพย์สมบัติของนาง นางรู้สึกถึงความอบอุ่นในใจเมื่อเห็นสิ่งที่เคยเป็นของตัวเอง

    “พระชายา ข้าขอแนะนำให้ท่านเก็บของเหล่านี้ไว้อย่างระมัดระวัง” พ่อบ้านกล่าว 

    “ข้ารู้ ขอบคุณ” นางตอบ พร้อมกับนึกในใจว่าการมีของเหล่านี้อยู่กับตัวจะช่วยให้ความมั่นใจของนางเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ก้าวที่นางต้องเผชิญ

    “หากมีอะไรที่ท่านต้องการให้ข้าช่วยเหลือเพิ่มเติม ท่านก็เพียงแค่เรียกข้าน้อย” พ่อบ้านกล่าวก่อนจะหมุนตัวออกจากห้องไป

    ซูเฟยหรงนั่งอยู่ในห้องโถงพร้อมกับหยางเซียง สายตาของนางเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “ข้าคิดว่าเราควรเริ่มลงทุนทำธุรกิจ” นางเอ่ยขึ้นอย่างกระตือรือร้น “ข้าไม่สามารถนั่งอยู่ในนี้เฉย ๆ ได้อีกต่อไป ข้าจะออกไปสำรวจตลาดและดูว่ามีโอกาสไหนบ้าง”

    หยางเซียงทำหน้าตกใจ “พระชายา! ท่านไม่ควรออกไปข้างนอกตอนนี้นะเพคะ มันอันตรายและท่านยังเป็นพระชายา คงไม่เหมาะที่จะเดินไปมาในเมือง”

    “ข้าจะออกไปแค่ไม่นาน ไม่ต้องห่วงหรอก” ซูเฟยหรงตอบ พร้อมกับยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม “ข้าจะแอบออกไป หาอะไรสนุก ๆ ดูบ้าง”

    “แต่ว่า...” หยางเซียงเริ่มลังเล ไม่รู้จะพูดยังไง “หากองค์ชายสามรู้เข้ามันจะไม่ดีนะเพคะ”

    “องค์ชายสามไม่อยู่ที่นี่ ข้าก็แค่ใช้โอกาสนี้ไปสำรวจโลกภายนอก” ซูเฟยหรงกล่าวอย่างแน่วแน่ 

    “พระชายา... แต่ว่าถ้า..” หยางเซียงพูด แต่เห็นความตั้งใจในดวงตาของซูเฟยหรง นางรู้ว่าคงจะไม่มีทางห้ามนางได้ “เฮ้อ ถ้าท่านต้องการไป ข้าก็จะไปกับท่านด้วย”

    “ไม่ต้อง!” ซูเฟยหรงรีบตอบ “ข้าจะไปคนเดียว และข้าจะต้องทำให้แน่ใจว่าข้าไม่ให้ใครเห็นข้าออกไป อีกอย่างเจ้ามีหน้าที่สำคัญคือเฝ้าสมบัติพวกนี้เอาไว้”

    หยางเซียงยังคงรู้สึกไม่สบายใจ “แต่ถ้าท่านเกิดมีปัญหาขึ้นมาจะทำยังไง?”

    “ข้าจะระมัดระวัง” นางพูดอย่างมั่นใจ “แค่ไปดูตลาดเท่านั้น”

    ในที่สุด หยางเซียงยอมจำนน “ถ้าท่านจะไปจริง ๆ ข้าจะเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมให้ท่าน เพื่อที่ท่านจะได้ไม่เป็นที่สังเกต”

    ซูเฟยหรงยิ้มอย่างดีใจ “ขอบใจเจ้ามาก หยางเซียง! ข้าจะซื้อขนมมาฝากเจ้าด้วย”

    หลังจากนั้น หยางเซียงก็เริ่มเตรียมเสื้อผ้าให้ซูเฟยหรง ในใจนางทั้งกังวลและเป็นห่วง แต่ก็รู้ว่าการสนับสนุนความฝันของพระชายาก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน

    หยางเซียงเตรียมเสื้อผ้าของซูเฟยหรงเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หนักใจ “ถ้าเช่นนั้น ข้าจะให้ญาติที่ไว้ใจได้พาพระชายาไปก็แล้วกัน เพื่อความปลอดภัยของท่าน”

    “ญาติของเจ้า?” ซูเฟยหรงถามด้วยความสนใจ “ใครกัน?”

    “เป็นพี่ชายของบ่าวเอง เขาทำงานเป็นคนขับรถม้าในจวน และเขาเป็นคนซื่อสัตย์ จะไม่เปิดเผยเรื่องนี้แน่นอน” หยางเซียงอธิบาย

    “ฟังดูดี” ซูเฟยหรงตอบด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นก็เอาตามที่เจ้าว่าแล้วกัน”

    “แต่ขอให้พระชายาระวังตัวให้มากนะเจ้าคะ” หยางเซียงยังคงเตือน “หากมีใครเห็นเข้ามันอาจทำให้เกิดปัญหาได้”

    “ข้าเข้าใจ” ซูเฟยหรงตอบ “ข้าจะระมัดระวังและจะไม่ให้ใครรู้ว่าเป็นข้า”

    หลังจากนั้นไม่นาน หยางเซียงก็พาพี่ชายของนางเข้ามาในห้องเพื่อแนะนำให้ซูเฟยหรงรู้จัก “นี่คือหยางอี้ พี่ชายบ่าว เขาจะเป็นคนพาท่านไปเจ้าคะ”

    ไป๋อี้มีท่าทางสุภาพคุกเข่าลงพลางคำนับ “ทูลพระชายา ข้าน้อยหยางอี้พ่ะย่ะค่ะ"

    "เจ้าลุกขึ้นเถอะ" ซูเฟยหรงเอ่ย

    หยางเซียงก็เอ่ยบอกพี่ชายถึงเหตุผลที่ตามเขามาให้ได้รู้ เขาลังเลที่จะทำแต่ก็ยอมตกลง

    "ขอให้พระชายาวางใจ บ่าวจะดูแลท่านอย่างดีที่สุดพ่ะย่ะค่ะ”

    “ขอบใจเจ้ามาก” ซูเฟยหรงกล่าวอย่างจริงใจ 

    “เมื่อพระชายาพร้อมแล้ว บ่าวจะพาพระชายาออกไปทางด้านหลังพ่ะย่ะค่ะ” ไป๋อี้บอก

    “เจ้ารอข้าสักครู่” ซูเฟยหรงพูด ก่อนที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เข้ากับบทบาทของหญิงสาวทั่วไปในตลาด

    ในขณะที่นางเตรียมตัว หยางเซียงยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยความห่วงใย “ขอให้พระชายาระวังตัวให้มาก ๆ นะเพคะ”

    “ข้าจะระมัดระวังเอง” ซูเฟยหรงตอบ และเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว นางก็ออกจากห้องโถงไปพร้อมกับไป๋อี้ ใจของนางเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นที่จะได้สัมผัสกับโลกภายนอกเป็นครั้งแรกในฐานะซูเฟยหรง

    นางเดินไปตามทางที่ไป๋อี้นำทาง พวกเขาเดินผ่านสวนของจวน จนมาถึงประตูที่เปิดออกสู่ถนนใหญ่ ซูเฟยหรงมองไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นตา เห็นผู้คนเดินไปมา เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยทำให้รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ออกมาจากเรือนนานหลายวัน

    "อ๋อเจ้าพูดแบบธรรมดาดีกว่า 

    "พ่ะย่....เอ่อขอรับ คุณหนู?" หยางอี้เอ่ยอย่างลังเล

    "ดีมาก" ซูเฟยหรงเอ่ย

    “ทางนี้ขอรับ” หยางอี้กล่าวและเริ่มเดินนำทาง

    ซูเฟยหรงเดินตามหยางอี้อย่างระมัดระวัง ขณะก้าวเท้าออกจากประตูจวน ความตื่นเต้นผสมกับความกลัวทำให้หัวใจของนางเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ มันเป็นครั้งแรกที่นางได้สัมผัสโลกภายนอกในฐานะซูเฟยหรง และนางรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในฝัน

    ตลาดที่อยู่เบื้องหน้าเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เสียงตะโกนเรียกลูกค้าของพ่อค้าแม่ขาย เสียงเด็กๆ วิ่งเล่นและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน สีสันของผ้าและของกินเรียงรายอยู่เต็มไปหมด ซูเฟยหรงไม่เคยเห็นบรรยากาศแบบนี้มาก่อน นางรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกใหม่

    “คุณหนู ระวังด้วยขอรับ” หยางอี้เตือน เมื่อเห็นนางตั้งใจมองไปรอบ ๆ จนลืมระวังตัว

    ซูเฟยหรงพยักหน้า “ข้ารู้แล้ว ข้าจะระวัง”

    ในขณะที่พวกเขาเดินผ่านตลาด ซูเฟยหรงรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนธรรมดา ไม่มีใครรู้จักนาง นางหยุดที่ร้านขายผลไม้และเริ่มเลือกชมผลไม้อย่างสนุกสนาน จนกระทั่งได้ยินเสียงพูดคุยที่ทำให้หูของนางตั้งขึ้น

    “ได้ยินไหม? องค์ชายสามได้แต่งงานแล้วนะ” เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้น

    “ใช่! แต่งงานกับลูกสาวของเสนาบดีกรมพระคลังเลยนะ!” สหายอีกคนหนึ่งตอบ

    "แต่เห็นว่าองค์ชายสามไม่พอใจจนหนีไปชายแดนทันทีที่เสร็จพิธีเลยนิ" หญิงสาวอีกคนก็เอ่ย ซูเฟยหรงรู้สึกเหมือนโดนตบหน้า 

    ซูเฟยหรงส่ายหน้าไปม่และตัดสินใจว่าจะใช้เวลานี้ให้คุ้มค่า นางหยิบผลไม้มาหนึ่งชิ้นและยิ้มให้กับแม่ค้า “ขอซื้อผลไม้นี้เจ้าค่ะ”

    “ได้เลย ห้าอีแปะ” แม่ค้าเอ่ย

    “นี่เจ้าค่ะ” ซูเฟยหรงหยิบเหรียญตำลึงจากกระเป๋าและส่งให้แม่ค้า ขณะที่กำลังทำธุรกรรมอยู่นั้น นางรู้สึกว่ามีใครบางคนจ้องมองมาที่นาง

    นางหันไปมองเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดสีดำยืนอยู่ไม่ไกล ทำให้ใจของนางตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม “หยางอี้… ข้ารู้สึกเหมือนมีคนแอบตาม” นางพูดเสียงสั่น

     หยางอี้ก็รีบมองรอบๆเขาเริ่มกลัวขึ้นมาแล้วถ้ามีใครจ้องเล่นงานพระชายาขึ้นมาเขาตายแน่

    ในขณะที่พวกเขาเดินออกจากร้านผลไม้ ชายหนุ่มในชุดสีดำก้าวตามไป “พระชายา!” เขาตะโกนเสียงดัง ทำให้ผู้คนหันมามอง

    ซูเฟยหรงใจหายวูบ “เราต้องไปที่นี่!” นางพูดและดึงหยางอี้วิ่งไปในทิศทางที่ตรงข้าม ขณะที่เสียงตามหลังดังขึ้นเรื่อย ๆ

    “อย่าหนีนะ!” เสียงนั้นดังขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยว ทำให้ซูเฟยหรงรู้สึกเหมือนโลกกำลังพังทลาย

    พวกเขาวิ่งไปตามตรอกซอกซอย หัวใจของซูเฟยหรงเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมา ในขณะที่หยางอี้พยายามนำทางให้นางออกไปจากตลาดให้เร็วที่สุด ถึงแม้ในใจจะกลัวก็ตาม แต่เขารับปากน้องสาวว่าจะปกป้องพระชายาแล้วเขาต้องทำให้ดี

    “ทางนี้ขอรับ!” หยางอี้พูด ขณะที่ทั้งคู่ซ่อนตัวอยู่หลังร้านขายของเก่า ๆ

    “เป็นใครกันแน่…” ซูเฟยหรงพูดด้วยเสียงสั่น “ขืนถูกจับได้ขึ้นมาซวยแน่” ถึงแม่จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายที่ตามมาเป็นใครกันแน่

    "เจ้าเห็นไหมว่าเป็นใคร ที่ตามมา?" ซูเฟยหรงก็หันไปถามหยางอี้

    “เอ่อ บ่าวไม่เห็นหน้าขอรับ” หยางอี้กล่าวและมองไปยังทางที่พวกเขาวิ่งมาอย่างหอบเหนื่อย

    เสียงเท้าหนักของชายหนุ่มในชุดสีดำเข้ามาใกล้ นางรู้สึกเหมือนเวลาหยุดนิ่ง แต่จิตใจของนางกลับเร่าร้อน ซูเฟยหรงคิดในใจ ขณะก้มหน้าและขอพรให้ไม่ให้เขาเห็นพวกเขา

    เสียงของเขาใกล้เข้ามา และในขณะที่นางคิดว่าจะต้องทำยังไงต่อไป เสียงของชายหนุ่มในชุดดำเข้ามาใกล้ พวกเขาทั้งคู่ก็ภาวนาให้อีกฝ่ายหาไม่เจอ

     

    -----------------------------------------------------------

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้จนถึงตอนนี้นะคะ! ถ้าชอบตอนนี้และอยากเป็นกำลังใจให้นักเขียน สามารถส่งของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ได้เลยนะคะ ขอบคุณทุกการสนับสนุนมาก ๆ เลยค่ะ ^-^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×