ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยอดดวงใจแม่ทัพทมิฬ

    ลำดับตอนที่ #4 : โดนอันธพาลมาหาเรื่อง

    • อัปเดตล่าสุด 9 ต.ค. 67


    เมื่อไป่หลินกลับจากบ้านของเด็กชาย เธอรู้สึกมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น นางเดินกลับอย่างมั่นใจ ท่ามกลางบรรยากาศของหมู่บ้านที่เงียบสงบ แต่เมื่อใกล้ถึงทางออกของหมู่บ้าน กลับพบว่ามีกลุ่มชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งยืนขวางอยู่ที่ทางเดิน พวกเขาทั้งหมดมีท่าทางไม่ดี และแววตาที่เต็มไปด้วยความก้าวร้าว

    “เฮ้! น้องสาว ทำไมเจ้าถึงกลับบ้านคนเดียว?” หนึ่งในชายหนุ่มที่ดูมีอำนาจที่สุดในกลุ่มพูดขึ้นด้วยเสียงหยาบคาย

    ไป่หลินรู้สึกเย็นวาบในใจ แต่เธอพยายามควบคุมอารมณ์ให้สงบ “ข้าไม่ใช่น้องสาวของเจ้าเสียหน่อย ไปให้พ้นทาง!” นางตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

    ชายหนุ่มหัวหน้ากลุ่มยิ้มเย้ย “ทำไมเจ้าถึงไม่สนใจพวกเรา? พวกเราจะมอบความสนุกสนานให้เจ้าซะหน่อย” เขาพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ ๆ และทำท่าจะยิ้มอย่างมีเลศนัย

    ไป่หลินกัดฟันแน่น นางไม่กลัวพวกเขา และในหัวของนางเต็มไปด้วยความมั่นใจจากการฝึกฝนในอดีต เมื่อเห็นท่าทีที่ไม่ดีของพวกเขา นางจึงเตรียมตัวต่อสู้โดยทันที “อย่าหาว่าข้าไม่เตือน”

    “อ้อ! นี่เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นนักสู้หรือ? เจ้าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แบบนี้จะสู้พวกเราได้ยังไง?” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างดูถูก

    ไป่หลินรู้ว่าเธอไม่สามารถกลัวพวกเขาได้ นางรวบรวมพลังและทำการโจมตีแรกด้วยความรวดเร็ว เธอพุ่งเข้าไปที่ชายหนุ่มคนแรกด้วยหมัดที่เต็มไปด้วยพลัง โดยใช้ประโยชน์จากความสามารถที่นางมี

    “โอ้!” ชายหนุ่มถูกหมัดเข้าที่ใบหน้า ทันทีที่เขาเซถลาไปข้างหลัง นางไม่รอช้า คว้าเอาไม้ที่วางอยู่ข้างทางขึ้นมาในทันที

    “ยังมีใครอีกไหม?” นางถามเสียงเข้ม พร้อมตั้งท่าเพื่อเตรียมต่อสู้

    กลุ่มอันธพาลดูตกใจและเริ่มถอยหลัง แต่หัวหน้ากลุ่มไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เขาสั่งให้เพื่อน ๆ รุมโจมตี “จัดการนาง!” เขาตะโกนด้วยเสียงเข้ม

    ชายหนุ่มคนอื่น ๆ พุ่งเข้ามา แต่ไป่หลินไม่ให้พวกเขาเข้ามาใกล้ เธอหมุนตัวไปมา ใช้ไม้ฟาดไปที่ชายคนหนึ่งที่พยายามเข้ามาจับเธอ และทำให้เขาหงายหลังล้มลงไปอย่างรวดเร็ว

    ไป่หลินรู้สึกกระฉับกระเฉงมากขึ้น ขณะที่หัวใจของนางเต้นรัว แต่พลังที่มีในอดีตช่วยให้ความกลัวหายไป นางรู้ว่านี่คือการต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเองและไม่ให้ใครมารังแกเธอ

    “นางผู้หญิงบ้า!” ชายหนุ่มคนหนึ่งตะโกนขณะพยายามเข้ามาจากด้านหลัง เขากำลังจะโจมตีด้วยกำปั้น แต่ไป่หลินหันกลับไปทันเวลา ใช้ไม้กระแทกเข้าที่ข้อศอกของเขาอย่างแรง

    “อ๊าก!” เขากรีดร้องและปล่อยให้ไม้หลุดมือไป นางไม่ให้โอกาสเขาได้พักหายใจ ก่อนจะเตะเข้าที่หน้าอกของเขา ทำให้เขาเซถลาไปข้างหลังเช่นกัน

    เมื่อเธอจัดการกับชายคนแรก ๆ ได้ กลุ่มอันธพาลก็เริ่มมีความหวาดกลัว ทุกคนต่างมองหน้ากันอย่างไม่แน่ใจ “นี่มันเป็นไปไม่ได้!” ชายหนุ่มหัวหน้าเริ่มรู้สึกตกใจ

    ไป่หลินไม่รอช้าและเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว โดยใช้ทุกทักษะที่เธอมี เธอเดินเข้าไปหาอีกสองคนที่ยังคงยืนอยู่ข้าง ๆ เธอใช้ไม้ฟาดพวกเขาทีละคน ทำให้พวกเขาไม่สามารถตอบโต้ได้

    “ข้าบอกแล้วไงอย่ามาใกล้ข้า!” เธอตะโกนขณะที่ตีไม้เข้าไปที่มือของชายคนหนึ่งอย่างแรง ทำให้เขาปล่อยให้ไม้ของตัวเองหลุดมือ

    เมื่อจัดการกับชายหนุ่มในกลุ่มไปได้หลายคน พวกเขาก็เริ่มรู้สึกหวาดกลัวอย่างชัดเจน และในที่สุด หัวหน้ากลุ่มที่ดูมั่นใจในตอนแรกก็ต้องถอยหลังและเริ่มก้าวถอย “รีบหนีกันเถอะเราไม่ควรยุ่งกับนาง!”

    “อย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีก!” ไป่หลินตะโกนขับไล่พวกเขาอย่างเต็มที่ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความมั่นใจ และร่างกายของนางก็สั่นเล็กน้อยจากความตื่นเต้น

    กลุ่มอันธพาลที่รู้สึกตึงเครียดเริ่มถอยร่นออกไปเรื่อย ๆ จนในที่สุด พวกเขาก็หันหลังและวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว หัวหน้ากลุ่มมองกลับมาอย่างไม่เชื่อสายตา แต่ไม่กล้าเดินกลับมาทำเรื่องยุ่งอีก

    เมื่อแน่ใจว่าพวกเขาไม่กลับมาอีกไป่หลินหายใจออกอย่างโล่งใจ มือของนางสั่นเล็กน้อยจากความตื่นเต้นและแรงกดดันที่ผ่านไป นางยืนอยู่กลางถนนมองไปที่กลุ่มอันธพาลที่หนีไปแล้ว ความรู้สึกอิสระจากการเอาชนะทำให้นางมีความสุขอย่างลึกซึ้งในใจ

    “ดูเหมือนว่าร่างนี้จะสามารถทำได้มากกว่าที่คิด” ไป่หลินยิ้มให้กับตัวเอง ก่อนจะเก็บอุปกรณ์ที่อยู่ในมือและเดินต่อไปบ้านอย่างมุ่งมั่น

    “ข้าจะต้องดูแลครอบครัวและสร้างชีวิตที่ดีในโลกนี้” นางคิดในใจ พร้อมกับยิ้มให้กับความท้าทายที่นางเผชิญ และยืนยันว่าตัวเองจะไม่ยอมแพ้ต่อสิ่งใดในอนาคต

    เมื่อไป่หลินเดินกลับไปยังหมู่บ้านต้าซาน แสงแดดที่ส่องผ่านต้นไม้ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น แต่แรงกดดันจากการต่อสู้เมื่อครู่ทำให้ร่างกายของนางรู้สึกหมดเรี่ยวแรงไปในทันที นางนั่งลงข้างทางเพื่อพักหายใจ ก่อนที่จะยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อที่เริ่มซึมออกมาจากหน้าผาก

    “ข้าต้องฝึกหนักกว่าที่เคย” นางคิดในใจ ขณะที่มองไปยังท้องฟ้าสีฟ้าใสที่ไร้เมฆ ฝันของนางในชาติที่แล้วเกี่ยวกับการเป็นนักรบที่เก่งกล้าทำให้หัวใจของนางเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ “ไม่เพียงแต่เพื่อความแข็งแกร่งของตนเอง แต่ยังเพื่อปกป้องคนที่ข้ารัก”

    การต่อสู้เมื่อครู่ทำให้เธอรู้ว่าร่างนี้ยังต้องการการฝึกฝนเพิ่มเติม แม้ว่าเธอจะมีประสบการณ์ในฐานะทหารจากชีวิตที่แล้ว แต่วิธีการต่อสู้ในที่นี้กลับแตกต่างออกไป การเคลื่อนไหวและความแข็งแกร่งของร่างกายยังคงต้องปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น นางรู้ดีว่าหากต้องการดูแลซูเหม่ยอี้และมารดาให้ดีขึ้น เธอจะต้องมีความสามารถมากกว่าที่เป็นอยู่

    “หลังจากนี้ ข้าจะออกไปฝึกในป่าที่อยู่รอบนอกหมู่บ้านทุกวันให้เร็วกว่าเดิม” ไป่หลินพูดกับตัวเอง เธอพยายามตั้งใจให้มั่นคงและมองไปยังอนาคตที่เต็มไปด้วยความหวัง แม้จะมีอุปสรรคมากมายรออยู่ แต่ความมุ่งมั่นและความรักในครอบครัวจะเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เธอไม่ยอมแพ้

    เมื่อเดินไปถึงหมู่บ้าน เธอเห็นมารดานั่งอยู่ที่สนามหน้าบ้าน กำลังปรุงอาหารอยู่ ชายหนุ่มผู้เป็นเพื่อนบ้านยิ้มให้และช่วยหิ้วของมาจากตลาด นางรู้สึกอบอุ่นในใจเมื่อเห็นความรักและการสนับสนุนจากคนรอบข้าง

    “กลับมาแล้วหรือ? วันนี้เจออะไรน่าสนใจหรือเปล่า?” มารดาถาม ขณะที่เธอเห็นไป่หลินเดินเข้ามา

    “ข้าก็แค่ไปเก็บสมุนไพรเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจ” ไป่หลินตอบด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าในใจจะมีความตึงเครียดจากการต่อสู้ แต่เธอก็ไม่ต้องการให้มารดาต้องเป็นห่วง

    “ดีแล้วที่เจ้าไม่ไปไหนไกล ระวังตัวด้วยนะ ลูกสาวของแม่” มารดากล่าวด้วยความห่วงใย ทำให้ไป่หลินรู้สึกอบอุ่นในใจ

    “ข้ารู้เจ้าค่ะท่านแม่” นางตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ก่อนที่จะช่วยมารดาปรุงอาหาร และในขณะที่ทำงานร่วมกัน นางก็ได้ใช้เวลาแบ่งปันเรื่องราวในชีวิตประจำวัน

    แต่ในใจของไป่หลิน ความคิดเกี่ยวกับการฝึกฝนและการสร้างความแข็งแกร่งยังคงวนเวียนอยู่ เธอรู้ดีว่าเธอต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อันตรายที่ยังคงซุ่มซ่อนอยู่ในความเงียบสงบของชนบทนี้

    ในวันถัดไป หลังจากช่วยมารดาเสร็จ ไป่หลินจึงตัดสินใจเดินทางไปยังป่าที่อยู่รอบนอกหมู่บ้าน นางพกพาอุปกรณ์ฝึกฝนที่เรียบง่ายไปกับเธอ พร้อมกับความตั้งใจที่จะพัฒนาทักษะการต่อสู้และความแข็งแกร่งให้ดียิ่งขึ้น

    “ต้องฝึกหนักอีกแล้วสินะ” ไป่หลินพูดกับตัวเอง พร้อมกับเดินเข้าสู่ป่า ด้วยความมุ่งมั่นและความหวังใหม่ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองและครอบครัวไปในทางที่ดีขึ้น

    ในวันถัดมา หลังจากที่ไป่หลินเตรียมตัวออกไปฝึกฝนเช่นเคย น้องชายซูเหม่ยอี้ก็เดินเข้ามาหานางด้วยสีหน้าสงสัย ขณะที่นางกำลังผูกเชือกรองเท้าอยู่ที่หน้าบ้าน

    “พี่ไปไหนอีกแล้วหรือ?” เขาถามด้วยเสียงที่แสดงถึงความกังวลใจ น้องชายของนางยังคงมีอาการอ่อนแอและไม่สามารถทำกิจกรรมหนักได้มากนัก แต่ในวันนี้เขาดูมีความตั้งใจที่จะไปกับนาง

    “ข้าไปเก็บสมุนไพรเหมือนเดิมน่ะ” ไป่หลินตอบพลางยิ้ม “แต่วันนี้ข้าอาจจะใช้เวลามากขึ้นหน่อย เพราะจะไปฝึกด้วย”

    “ฝึกอะไร?” ซูเหม่ยอี้ถามเสียงสูงขึ้น พลางขมวดคิ้ว “พี่จะไปทำอะไรในป่า? ข้าก็ไปด้วยได้ไหม?”

    ไป่หลินรู้สึกใจอ่อนเมื่อเห็นความตั้งใจของน้องชาย “เจ้าจะไม่ต้องทำอะไรหนักหนาสาหัสหรอก ข้าแค่จะออกไปฝึกการเคลื่อนไหวและการต่อสู้เล็กน้อย”

    “แต่ข้าก็อยากไป!” เขายืนยันเสียงดัง แม้จะรู้ว่าเขาไม่อาจทำได้เท่าพี่สาว แต่ความปรารถนาที่อยากออกไปข้างนอกด้วย

    “ถ้าอย่างนั้น...ก็ได้” ไป่หลินยอมแพ้ในที่สุด “แต่เจ้าต้องระวังตัวและไม่ไปทำอะไรที่เกินตัวนะ”

    เมื่อทั้งคู่ออกเดินทางไปที่ป่า ซูเหม่ยอี้เดินตามไปด้วยความตื่นเต้น แม้เขาจะมีร่างกายที่อ่อนแอ แต่การได้อยู่เคียงข้างพี่สาวทำให้เขารู้สึกมีพลังและมั่นใจ

     

    -----------------------------------------------------------

    สวัสดีค่ะทุกคนมาลุ้นกันว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร ติดตามได้ในตอนต่อไป....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×