ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พระชายาอ้วนขององค์ชายสาม

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4: จัดการวางแผนใช้ชีวิต

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 67


    “ไม่อยู่?” ซูเฟยหรงรู้สึกสับสนและผิดหวัง “ไปไหนแล้วจะกลับมาเมื่อไหร่?” นางถามด้วยความหวังว่าอาจจะมีโอกาสได้พบเขาและจะคุยกันให้รู้เรื่อง

    หยางเซียงอึกอักเล็กน้อย ก่อนที่จะเอ่ยตอบ “องค์ชายสามเดินทางไปชายแดนตั้งแต่เมื่อสามวันก่อนแล้วเพคะ”

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซูเฟยหรงตกตะลึงไปชั่วขณะ ความรู้สึกที่เตรียมตัวไปพบองค์ชายสามกลับกลายเป็นความผิดหวัง นางอุตส่าห์ตัดสินใจที่จะพูดคุยและขอหย่า แต่กลับพบว่าอีกฝ่ายไม่อยู่เสียอย่างนั้น

    “ทำไมถึงไม่มีใครบอกข้าก่อนหน้านี้?” นางพูดด้วยเสียงที่แสดงถึงความไม่พอใจ นางรู้สึกโกรธที่บิดาและทุกคนในตำหนักไม่ได้บอกนางเกี่ยวกับการเดินทางขององค์ชายสาม 

    “ขอโทษเพคะพระชายา” หยางเซียงกล่าวเสียงอ่อน “บ่าวก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าองค์ชายจะออกเดินกระทันหันเช่นนี้”

    ซูเฟยหรงถอนหายใจ ความรู้สึกสับสนในใจของนางแปรเปลี่ยนไปเป็นความอ่อนแอ แม้ว่านางจะตัดสินใจเด็ดขาด แต่เมื่อไม่สามารถพบเขาได้ นางกลับรู้สึกหมดหนทางและไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป

    “เอาอย่างนี้ดีกว่า” นางตัดสินใจใหม่ “ถ้าข้าไม่สามารถพบเขาในตอนนี้ ข้าจะเตรียมทุกอย่างให้พร้อม เพื่อให้เขาเข้าใจว่าข้าต้องการหย่า” นางคิดในใจอย่างแน่วแน่

    หยางเซียงมองดูพระชายาด้วยความเห็นใจ “ถ้าพระชายาต้องการให้บ่าวช่วยอะไรก็บอกได้เลยนะเพคะ”

    ซูเฟยหรงได้ยินคำพูดของหยางเซียงแล้วรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องดำเนินการให้เด็ดขาด นางจึงเอ่ยขึ้นว่า “ถ้างั้น หยางเซียง ไปเรียกพ่อบ้านมาพบข้าที่นี่ทีสิ”

    "เพคะ" หยางเซียงพยักหน้าและรีบไปตามคำสั่ง

    ไม่นานนักพ่อบ้านก็ก้าวเข้ามาในห้องด้วยท่าทางสุภาพและเคร่งขรึม “มีอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ พระชายา?”

    ซูเฟยหรงมองพ่อบ้านตรง ๆ พร้อมกับถามด้วยเสียงที่แสดงถึงความกังวล “ข้าได้ยินว่าองค์ชายเดินทางไปชายแดน แล้วองค์ชายสามจะกลับมาเมื่อไหร่?”

    พ่อบ้านหยุดคิดครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยตอบ “เรื่องนั้น ข้าน้อยไก็ไม่ทราบเช่นกัน” เสียงของเขามีความอ่อนน้อมแต่ก็เต็มไปด้วยความสุภาพและเคารพ

    “ไม่รู้?” ซูเฟยหรงรู้สึกผิดหวังอีกครั้ง เมื่อได้ยินคำตอบนั้น นางตระหนักว่าในชีวิตนี้นางไม่อาจควบคุมเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างที่หวัง และความไม่แน่นอนนี้ทำให้นางรู้สึกอึดอัดใจ

    “พ่อบ้าน” นางพูดต่ออย่างเด็ดเดี่ยว “ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะขอหย่า”

    หยางเซียงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เมื่อได้ยินคำพูดของซูเฟยหรงเกี่ยวกับการขอหย่าก็ตกใจอย่างมาก ใบหน้าของนางซีดลงเล็กน้อย “พระชายา! ท่านพูดเจ้าคะ? การหย่าร้างนั้นเป็นเรื่องใหญ่และอาจจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของท่าน”

    ซูเฟยหรงหันไปมองหยางเซียงด้วยความมุ่งมั่น “ข้าชื่อเสียงหรือ? ข้ามีด้วยรึ”

    หยางเซียงส่ายหน้า “แต่พระชายา... องค์ชายสามเป็นคนที่มีอำนาจ และการขอหย่าจากเขาอาจจะทำให้เกิดปัญหามากมาย ไม่เพียงแค่กับท่าน แต่ยังส่งผลถึงครอบครัวของท่านด้วย”

    “ข้ารู้” ซูเฟยหรงตอบเสียงแผ่ว

    พ่อบ้านทำหน้าตกใจเล็กน้อย “พระชายา… การหย่าร้างเป็นเรื่องใหญ่ และจะต้องมีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน”

    “ข้าพิจารณาแล้ว!” ซูเฟยหรงพูดเสียงแข็ง “หากองค์ชายสามกลับมาแล้ว ข้าจะบอกเขาให้ชัดเจนว่าข้าต้องการหย่า”

    พ่อบ้านมองซูเฟยหรงด้วยความเข้าใจและมีน้ำใจ “พระชายา เรื่องนี้อาจจะดีกว่าถ้ารอให้องค์ชายกลับมาก่อนดีไหมพ่ะย่ะค่ะ? ถึงแม้ข้าน้อยจะรู้ว่าองค์ชายก็ทรงไม่พอใจกับการแต่งงานในครั้งนี้ แต่การขอหย่าก็เป็นเรื่องใหญ่และต้องมีการพิจารณาอย่างละเอียด”

    ซูเฟยหรงรู้สึกว่าความคิดนั้นไร้เหตุผล เพราะเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับนาง “ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะหย่า”

    “ข้าน้อยเข้าใจ” พ่อบ้านเอ่ยด้วยเสียงอ่อนน้อม “แต่หากพระชายาจะตัดสินใจในเรื่องนี้ ข้าน้อยว่าพระชายาควรเขียนจดหมายไปยังองค์ชายดีกว่า”

    ซูเฟยหรงคิดทบทวน ก่อนจะพยักหน้า “ถ้าเช่นนั้น ข้าจะเขียนจดหมายเดี๋ยวนี่”

    “หยางเซียง” ซูเฟยหรงกล่าว “เตรียมพู่กันและกระดาษให้ข้าที”

    หลังจากนั้นไม่นาน หยางเซียงก็จัดเตรียมอุปกรณ์ให้ ซูเฟยหรงนั่งลงที่โต๊ะและเริ่มเขียนจดหมายด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

    ----

    ข้าหวังว่าองค์ชายจะสบายดีในระหว่างการเดินทาง หากท่านได้รับจดหมายฉบับนี้ ข้าต้องการแจ้งให้ทราบถึงความรู้สึกของข้าต่อการแต่งงานนี้

    ข้ารู้สึกว่าเราไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีนัก และการแต่งงานนี้เกิดขึ้นจากความบังคับใจของบิดาข้า ข้าตระหนักดีว่าชีวิตที่อยู่ในตำหนักนี้จะต้องเต็มไปด้วยความทุกข์ หากไม่มีความรักและความเข้าใจซึ่งกันและกัน 

    "ข้าต้องการที่จะหย่า หวังว่าจะได้หนังสือหย่าโดยเร็ว" ในบรรทัดสุดท้ายก็นางเขียนความต้องการอย่างตรงไปตรงมา

    ซูเฟยหรงอ่านจดหมายที่เขียนขึ้นอย่างละเอียด และรู้สึกได้ถึงความมุ่งมั่นในคำพูดของตนเอง ในใจของนางเต็มไปด้วยความหวังว่าจะได้พบคำตอบที่นางต้องการจากองค์ชายสาม

    "รบกวนพ่อบ้านส่งจดหมายของข้าไปให้องค์ชายด้วย" ซูเฟยหรงเอ่ยพร้อมกับยื่นจดหมายไปให้

     ซูเฟยหรงรู้สึกว่าตนได้ก้าวแรกสู่การเปลี่ยนแปลงในชีวิตและเป็นการแสดงออกถึงความเข้มแข็งในตัวนางเอง แม้ว่าหนทางข้างหน้าอาจจะยากลำบาก แต่หัวใจของนางกลับมั่นคงและแน่วแน่ในการเลือกทางเดินของตัวเอง

    "พ่ะย่ะค่ะ" ก่อนที่พ่อบ้านจะเดินออกจากห้อง ซูเฟยหรงตัดสินใจถามในสิ่งที่เธอค้างคาใจ “พ่อบ้านเดี๋ยวก่อน! ข้าขอสอบถาม”

    พ่อบ้านหยุดก้าวและหันมามองนางด้วยความสนใจ “พระชายามีเรื่องใดที่ต้องการสอบถาม?”

    “เรื่องสินเดิมของข้า ข้าต้องการให้ท่านช่วยเอาสินเดิมทั้งหมดของข้ามาให้ข้าที่นี่ด้วย” นางพูดขึ้นในเมื่อจะหย่าก็ต้องเอาสินเดิมกลับมาสิ

    พ่อบ้านทำหน้างง “พระชายาจะเอาสินเดิมมาทำไมพ่ะย่ะค่ะ?” เขารอฟังคำตอบด้วยความสงสัย

    ซูเฟยหรงนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ “ข้าไม่จำเป็นต้องบอกท่านหรอก แต่ของของข้า ข้าชอบที่จะเก็บเอาไว้เอง”

    พ่อบ้านถอนหายใจเล็กน้อย “เข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยจะให้คนขนมาให้" เจาคิดถึงคำพูดที่องค์ชายสามได้สั่งเอาไว้ว่า หากพระชายาอยากทำอะไรก็ให้ทำไป

    “ขอบคุณมาก ข้าจะรอ” ซูเฟยหรงกล่าวด้วยความรู้สึกขอบคุณในใจ นางรู้ว่าการมีสินเดิมไว้จะช่วยให้เธอมีความมั่นคงมากขึ้นในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเช่นนี้

    เมื่อพ่อบ้านออกจากห้องไป ซูเฟยหรงรู้สึกว่าตนเองกำลังเริ่มสร้างชีวิตใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมายรออยู่ แต่ความมุ่งมั่นในใจของนางกลับเพิ่มมากขึ้น และการมีสินเดิมไว้จะทำให้นางสามารถตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างมีอิสระมากขึ้น

    “ข้าจะไม่ยอมให้ชีวิตของข้าถูกกำหนดโดยผู้อื่นหรอก” นางพึมพำกับตัวเองในใจ พร้อมกับรู้สึกว่าตนกำลังก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดในชีวิตของตนเอง

     

    -----------------------------------------------------------

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้จนถึงตอนนี้นะคะ! ถ้าชอบตอนนี้และอยากเป็นกำลังใจให้นักเขียน สามารถส่งของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ได้เลยนะคะ ขอบคุณทุกการสนับสนุนมาก ๆ เลยค่ะ ^-^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×