ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกิดใหม่เป็นลูกอนุในจวนแม่ทัพ

    ลำดับตอนที่ #3 : ทำความเข้าใจสถานการณ์

    • อัปเดตล่าสุด 9 ต.ค. 67


    "แล้วอวี้เหวินฉางกับอวี้เหวินฉี... พวกเขาปฏิบัติกับข้าอย่างไร?" เธอถามต่อ นัยน์ตาเป็นประกายด้วยความระมัดระวัง

    เม่ยหลันนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนตอบด้วยความลังเล “คุณชายใหญ่อวี้เหวินฉางเป็นคนเคร่งครัด เอ่อ...คุณชายใหญ่ไม่ค่อยสนใจท่านนัก ส่วนคุณชายรองอวี้เหวินฉี...เป็นคนสุภาพ แต่เขามักจะยุ่งอยู่กับงานในราชสำนัก ไม่ได้มาเยี่ยมเยียนท่านบ่อยนักเจ้าค่ะ”

    หลี่ซือหนี่พยักหน้าเบาๆ เข้าใจแล้วว่าสถานการณ์ของเธอไม่ง่าย ทั้งฮูหยินใหญ่และบุตรชายคงไม่ให้ความสนใจเธอเท่าไหร่ และแม้บุตรคนรองจะสุภาพ แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่จะช่วยเหลือเธอได้มากนัก

    "ก็ดี..." เธอพึมพำกับตัวเอง นี่อาจจะเป็นโอกาสของเธอ หากพวกเขาไม่ใส่ใจเธอมากนัก เธอก็อาจจะเริ่มต้นแผนของตัวเองได้โดยไม่ถูกจับตามอง

    หลี่ซือหนี่สูดหายใจลึกๆ พลางมองออกไปที่หน้าต่าง ภูเขาและทุ่งหญ้าในที่ห่างไกลดูเงียบสงบ แต่ในจวนแห่งนี้ เธอรู้สึกถึงการต่อสู้ที่ไม่สิ้นสุด การต่อสู้ทางอำนาจในครอบครัวใหญ่ที่เธอจะต้องเข้าไปมีบทบาท

    "ถ้าอย่างนั้น…" เธอพูดเสียงแผ่วเบา "ข้าจะสร้างอำนาจของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่าจะต้องเริ่มจากศูนย์ก็ตาม"

    เธอยิ้มมุมปากเล็กๆ ในหัวใจของเธอ ความเข้มแข็งและความเจ้าเล่ห์ที่เคยมีในฐานะเจ้าแม่เงินกู้เริ่มกลับมาอีกครั้ง ในโลกใบนี้ เธอจะไม่เป็นแค่ลูกอนุที่ถูกละเลย เธอจะสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นในทางใดก็ตาม

    ---

    ค่ำคืนนั้น หลี่ซือหนี่เริ่มวางแผนการแรกของเธอ เธอรู้ดีว่าการฟื้นฟูร่างกายเป็นเรื่องสำคัญ แต่สิ่งที่เธอต้องการมากกว่านั้นคือข้อมูล ข้อมูลเกี่ยวกับจวนแม่ทัพ การเมืองในราชสำนัก และที่สำคัญที่สุดคือการหาหนทางในการสร้างเครือข่ายของตัวเองในโลกใบใหม่นี้

    “ถ้าฉันเคยทำได้ในโลกเดิม ฉันก็ทำได้ในโลกนี้เช่นกัน…” เธอพูดกับตัวเองด้วยแววตาที่มุ่งมั่น

    รุ่งเช้าวันต่อมา แสงอาทิตย์อ่อนๆ ส่องผ่านหน้าต่างที่ปิดไม่สนิท หลี่ซือหนี่ตื่นขึ้นมาพร้อมความรู้สึกที่สดชื่นขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าร่างกายจะยังอ่อนแอ แต่จิตใจของเธอกลับกระตือรือร้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังจากความสับสนและความตื่นตระหนกเมื่อวาน ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าควรเริ่มต้นที่ไหน

    "วันนี้เป็นวันแรกของการเริ่มแผน..." เธอพึมพำพลางยิ้มมุมปาก การที่ใครๆ ไม่ใส่ใจเธอถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ เพราะเธอจะสามารถขยับตัวได้โดยไม่ถูกจับตามอง

    เมื่อเม่ยหลันนำอาหารเช้ามาให้ หลี่ซือหนี่จ้องมองถาดอาหารที่เรียบง่าย เธอไม่ได้รังเกียจมัน แม้อาหารในโลกนี้จะต่างจากชีวิตเจ้าแม่เงินกู้ที่เคยลิ้มรสอาหารระดับหรูในร้านแพงๆ แต่เธอกลับเข้าใจดีว่า เธออยู่ในตำแหน่งที่ต่ำต้อยกว่าในอดีตมากนัก ดังนั้นต้องเริ่มจากสิ่งเล็กๆ

    หลังจากกินอาหาร หลี่ซือหนี่มองไปยังเม่ยหลันซึ่งกำลังเก็บจานไป สาวใช้คนนี้ดูเหมือนจะซื่อสัตย์ต่อเธอ นั่นเป็นข้อได้เปรียบสำคัญในสถานการณ์เช่นนี้ เธอตัดสินใจเริ่มจากการใช้นางเป็นมือขวาในการรวบรวมข้อมูลภายในจวนแห่งนี้

    "เม่ยหลัน" หลี่ซือหนี่เรียกเบาๆ น้ำเสียงของเธอดูเรียบสงบแต่จริงจัง "ข้าอยากให้เจ้าช่วยหาข่าวคราวเกี่ยวกับในจวนนี้ โดยเฉพาะเกี่ยวกับพี่น้องของข้าและฮูหยินใหญ่"

    เม่ยหลันมองคุณหนูของนางด้วยความงุนงงเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้าอย่างว่าง่าย "เจ้าค่ะ คุณหนู ข้าจะหาทางสืบข่าวมาให้ท่าน"

    หลี่ซือหนี่ยิ้มเล็กๆ "ดี... ข้าอยากรู้ว่าฮูหยินใหญ่กับพี่น้องข้ากำลังวางแผนอะไรกันบ้าง และใครในจวนที่สามารถเชื่อถือได้"

    เม่ยหลันพยักหน้าอีกครั้งก่อนจะออกจากห้อง หลี่ซือหนี่มองตามสาวใช้ของเธอไป พลางคิดว่านี่เป็นเพียงก้าวแรกในแผนที่เธอวางไว้ ตอนนี้เธอมีความต้องการที่จะรู้จักศัตรูของเธอมากขึ้น และสร้างเครือข่ายอำนาจที่เป็นของเธอเอง

    ---

    วันนั้นเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ หลี่ซือหนี่พยายามฟื้นฟูร่างกายตัวเองด้วยการออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่ร่างกายจะอำนวย เธอไม่เคยเป็นคนที่นั่งนิ่งเฉยได้ง่ายๆ ในฐานะเจ้าแม่เงินกู้ในโลกเดิม เธอเคยต้องทำงานหนักเพื่อความสำเร็จ ดังนั้นการที่ต้องเริ่มใหม่จากศูนย์เช่นนี้ ไม่ได้ทำให้เธอหวาดหวั่น แต่กลับเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เธอรู้สึกท้าทาย

    เมื่อบ่ายเริ่มคล้อย เม่ยหลันกลับมาพร้อมกับข่าวสารบางอย่างที่เธอได้สืบมาจากคนใช้ในจวน

    "คุณหนู..." เม่ยหลันเริ่มรายงาน "ข้าได้ข่าวมาว่าฮูหยินใหญ่กำลังจะจัดงานเลี้ยงที่เรือนใหญ่ในเร็วๆ นี้ โดยเชิญขุนนางและข้าราชการที่มีชื่อเสียงมาร่วมงาน ดูเหมือนคุณชายใหญ่จะมีบทบาทสำคัญในงานนี้ เพราะเขาเพิ่งกลับจากชายแดน"

    หลี่ซือหนี่พยักหน้าเบาๆ "อวี้เหวินฉางกลับมาแล้ว..." เธอทวนคำในใจ ชายคนนี้เป็นท่านรองแม่ทัพ มีอำนาจในจวนไม่น้อย และหากเขาเพิ่งกลับมาจากชายแดน นั่นหมายความว่าเขาอาจจะนำข่าวคราวที่สำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการทหารมาด้วย งานเลี้ยงที่กำลังจะเกิดขึ้นจึงไม่ใช่แค่งานสังสรรค์ธรรมดา แต่น่าจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ทางการเมืองที่สำคัญ

    "กลับมาคนเดียวหรือ?"หลี่ซือหนี่เอ่ยถามขึ้น

    "เจ้าคะ เห็นว่าท่านแม่ทัพไม่ได้กลับมาด้วย"เม่ยหลันพยักหน้าแล้วตอบตามที่รู้

    “อ๋อ..แล้วข่าวของพี่ชายคนรองล่ะ?” หลี่ซือหนี่ถามต่อด้วยความสนใจ

    “คุณชายรองอวี้เหวินฉี ข้าได้ยินว่าท่านกำลังเตรียมตัวสำหรับการสอบตำแหน่งใหม่ในราชสำนักเจ้าค่ะ น่าจะเป็นโอกาสใหญ่สำหรับท่านในฐานะบัณฑิต” เม่ยหลันตอบ

    “สอบตำแหน่งใหม่...” หลี่ซือหนี่พยักหน้า นั่นหมายความว่าอวี้เหวินฉีกำลังจะก้าวขึ้นสู่อำนาจที่สูงขึ้นอีกขั้น ในขณะที่อวี้เหวินฉางเป็นนักรบผู้เก่งกาจ ทางอวี้เหวินฉีก็เป็นมันสมองทางราชการ เห็นได้ชัดว่าฮูหยินใหญ่คงไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาที่จะปล่อยให้บุตรทั้งสองของนางพลาดโอกาสในการก้าวขึ้นสู่อำนาจอย่างแน่นอน

    หลี่ซือหนี่รู้แล้วว่าศัตรูของเธอไม่ได้ธรรมดาเลย ฮูหยินใหญ่และลูกชายทั้งสองกำลังขับเคลื่อนแผนการเพื่อสร้างอำนาจในจวนและในราชสำนักไปพร้อมกัน

    "ดีมาก เม่ยหลัน ข้าเข้าใจสถานการณ์มากขึ้นแล้ว" หลี่ซือหนี่พูดด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ “ต่อจากนี้ไป ข้าต้องการให้เจ้าคอยจับตาดูทุกความเคลื่อนไหวในจวน โดยเฉพาะงานเลี้ยงที่จะเกิดขึ้นนี้ ข้าต้องรู้ว่าฮูหยินใหญ่และบุตรของนางกำลังคิดจะทำอะไร”

    เม่ยหลันพยักหน้า "เจ้าค่ะ คุณหนู ข้าจะทำตามที่ท่านสั่ง"

    เมื่อสาวใช้เดินออกไป หลี่ซือหนี่หันมามองตัวเองในกระจกทองเหลืองที่ตั้งอยู่ใกล้เตียง เธอเห็นเงาสะท้อนของหญิงสาวที่อ่อนแอและไร้อำนาจ แต่ภายในหัวของเธอมีแผนการและเล่ห์เหลี่ยมมากมายรอเวลาที่จะถูกนำมาใช้

    “ฉันเคยสร้างอาณาจักรของตัวเองมาแล้วในโลกเดิม และฉันจะทำมันอีกครั้งในโลกนี้” หลี่ซือหนี่พูดกับเงาในกระจก “ต่อให้ต้องเริ่มจากการเป็นลูกอนุที่ถูกลืม ฉันก็จะขึ้นไปยืนในจุดที่สูงที่สุดได้อีกครั้ง…และคราวนี้ ฉันจะไม่ให้ใครหยุดฉันได้”

    ความมุ่งมั่นในดวงตาของเธอเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี เมื่อแผนของเธอเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง หลี่ซือหนี่รู้ว่าเธอไม่สามารถไว้ใจใครในจวนนี้ได้มากนัก แต่เม่ยหลันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และสิ่งที่เธอต้องการมากกว่าคือเครือข่ายของคนที่ซื่อสัตย์ ซึ่งจะช่วยเธอขับเคลื่อนแผนการไปข้างหน้า

    โลกนี้อาจแตกต่างจากโลกเดิม แต่เกมแห่งอำนาจไม่เคยเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้นางเข้าใจดีเลย...

    หลังจากที่เม่ยหลันออกไป หลี่ซือหนี่นั่งคิดทบทวนเกี่ยวกับข้อมูลที่เพิ่งได้รับ เธอเข้าใจดีว่าหากต้องการเอาชนะศัตรูที่มีอำนาจเหนือกว่า อย่างฮูหยินใหญ่และพี่น้องต่างมารดา เธอจะต้องสร้างเครือข่ายของตัวเองขึ้นมาให้เร็วที่สุด การพึ่งพาสาวใช้คนเดียวคงไม่เพียงพอ เธอต้องหาพันธมิตรหรืออย่างน้อยก็หาวิธีที่จะให้พวกเขาประมาทเธอ

    "งานเลี้ยงของฮูหยินใหญ่..." เธอพึมพำกับตัวเอง ความคิดเริ่มชัดเจนขึ้น นี่อาจเป็นโอกาสแรกที่เธอจะได้เห็นหน้าศัตรูชัดๆ และเรียนรู้วิธีที่พวกเขาเคลื่อนไหวในสังคม เธอต้องหาทางเข้าไปร่วมในงานนั้น ไม่ว่าฮูหยินใหญ่จะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม

    หลี่ซือหนี่มองร่างตัวเองในกระจกอีกครั้ง เธอรู้ดีว่าตอนนี้เธอยังดูอ่อนแอ ร่างกายผอมแห้งจากการเจ็บป่วย แต่สิ่งที่สำคัญคือเธอไม่อาจปล่อยให้ความอ่อนแอทางร่างกายมาขวางทางการสร้างอำนาจ

    "ก่อนอื่นข้าต้องเปลี่ยนภาพลักษณ์ตัวเอง..." เธอพูดกับเงาสะท้อนนั้น "แม้จะยังไม่สามารถฟื้นฟูร่างกายได้เต็มที่ แต่ข้าต้องเริ่มจากปรับรูปลักษณ์ภายนอก อย่างน้อยก็ไม่ให้ใครเห็นว่าข้าอ่อนแอ"

    หนึ่งวันก่อนงานเลี้ยง หลี่ซือหนี่เรียกเม่ยหลันมาพบ

    "เม่ยหลัน ข้าต้องการให้เจ้าหาชุดที่เหมาะสมกับงานเลี้ยงในเรือนใหญ่ให้ข้าที" เธอออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นกว่าเดิม

    เม่ยหลันขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย “แต่ว่า คุณหนู... ท่านไม่เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงมาก่อน และฮูหยินใหญ่ก็ไม่ได้เชิญท่าน...” นางตอบด้วยความระมัดระวัง

    “ไม่เป็นไร ข้าจะไปเอง” หลี่ซือหนี่กล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ “เจ้าหาชุดให้ข้า ข้าไม่สนใจว่าพวกเขาจะเชิญหรือไม่ แต่ข้าจะไม่ยอมให้นั่งอยู่เงียบๆ ในเรือนนี้อีกต่อไปเรื่อยๆหรอก”

    เม่ยหลันดูตกใจ แต่เมื่อเห็นความแน่วแน่ในดวงตาของคุณหนู นางก็ไม่กล้าขัดขืน "เจ้าค่ะ ข้าน้อยจะไปหาชุดที่ดีที่สุดให้ท่าน"

     

    -----------------------------------------------------------

    สวัสดีค่ะทุกคนมาลุ้นกันว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร ติดตามได้ในตอนต่อไป....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×