คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3: เผชิญหน้ากับการตัดสินใจ
รุ่งเช้า ซูเฟยหรง ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกอ่อนล้า ดวงตาของนางบวมช้ำจากการร้องไห้อย่างหนักเมื่อคืน น้ำตาที่หลั่งไหลไม่ใช่เพียงเพราะความเจ็บปวดทางกาย แต่ยังมาจากความสับสนและความสิ้นหวังที่ถาโถมเข้ามาในใจ
นางค่อย ๆ ลืมตาขึ้น มองไปรอบ ๆ ห้องหอที่เงียบสงัด นางยังคงนอนอยู่บนเตียงสีแดงที่ปูด้วยผ้าไหมหรูหรา ทุกสิ่งยังคงเหมือนเดิม แต่ภายในจิตใจของนางแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง
ซูเฟยหรงลุกขึ้นช้า ๆ มองเห็นเงาของตนเองในกระจกทองเหลืองที่ตั้งอยู่ริมเตียง ใบหน้าที่นางเห็นไม่ใช่ใบหน้าเดิมของตนเอง หญิงสาวในกระจกนั้นมีรูปร่างอวบอ้วน ใบหน้ากลมและบวมไปจากการร้องไห้จนแทบจำไม่ได้ นางขมวดคิ้วเล็กน้อย สัมผัสแขนของตัวเองที่ใหญ่ขึ้นกว่าที่เคยเป็น และอดไม่ได้ที่จะคิดถึงชีวิตเดิมของตนเอง—ชีวิตที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและความแข็งแกร่ง แต่มันกลับหายไปทั้งหมดในร่างนี้
"นี่มันเรื่องอะไรกัน?" นางพูดกับตัวเองเบา ๆ
ซูเฟยหรงพยายามรวบรวมความคิด นางยังจำได้ถึงเหตุการณ์ที่ตื่นขึ้นมาในร่างนี้ และเหตุการณ์เมื่อคืนที่ทำให้นางทั้งหวาดกลัวและสับสน การถูกทำร้ายอย่างไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ทันใดนั้นความทรงจำเมื่อวานที่องค์ชายสามบังคับข่มเหงนางก็ผุดขึ้นมาในหัว
ดวงตาของนางฉายแววขุ่นเคืองและปวดร้าว ภาพของหลี่หยางเจี้ยน ชายผู้เป็นสามีที่ไม่เคยปรารถนานาง หรือแม้แต่ชายที่นางไม่ได้ปรารถนาเช่นกัน ช่างไร้ความเมตตาและโหดร้าย ความโกรธที่ก่อตัวขึ้นในใจทำให้นางอยากจะลุกขึ้นยืน แต่ด้วยความเจ็บปวดที่ยังคงหลงเหลืออยู่จากการถูกรังแก นางจึงทำได้เพียงนั่งกอดตัวเองเงียบ ๆ
เสียงเคาะประตูเบา ๆ ดังขึ้นจากภายนอก ซูเฟยหรงสะดุ้งเล็กน้อย นางเช็ดน้ำตาและปรับตัวให้สงบ แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความปั่นป่วน
“พระชายาเพคะ... บ่าวนำอาหารเช้ามาให้เพคะ” เสียง หยางเซียง สาวใช้ที่ดูอ่อนน้อมดังเข้ามาจากด้านนอก
ซูเฟยหรงไม่ได้ตอบทันที นางนั่งเงียบสักครู่ก่อนจะหันมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง พยายามฝืนยิ้มบาง ๆ และปรับท่าทีให้สงบ ก่อนจะเอ่ยอนุญาต
“เข้ามาเถอะ”
หยางเซียงเปิดประตูอย่างเบามือ นำถาดอาหารเช้าเข้ามาวางไว้บนโต๊ะ ไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาเมื่อเห็นดวงตาที่บวมแดงของคุณหนูของตน นางเพียงแต่อยู่เงียบ ๆ และรอคำสั่ง
“ออกไปก่อน” ซูเฟยหรงสั่งเบา ๆ นางไม่อยากให้ใครเห็นความอ่อนแอในตอนนี้
หยางเซียงพยักหน้าแล้วรีบเดินออกไปทันที ซูเฟยหรงหันกลับไปมองอาหารบนโต๊ะ แต่ในใจกลับไม่มีแม้แต่ความอยากอาหาร นางได้แต่ทอดถอนหายใจยาว ขณะที่สมองของนางยังคงหมุนเวียนไปกับความสับสนของชะตากรรมที่นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นในชีวิต
ซูเฟยหรงนั่งอยู่เงียบ ๆ มองดูอาหารที่จัดวางอยู่บนโต๊ะ อาหารเช้าถูกจัดแต่งอย่างสวยงาม มีข้าวสวยร้อน ๆ ไข่ต้มและซุปหมูที่หอมกรุ่น แต่ในใจของนางกลับเต็มไปด้วยความไม่อยากรับประทาน
แต่เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูอีกครั้ง ความคิดของนางก็หยุดชะงัก
“พระชายา ขอโทษที่รบกวนอีกครั้งเพคะ บ่าวนำน้ำเช็ดตัวมาให้เพคะ” เสียงหยางเซียงดังขึ้นอีกครั้ง
“เข้ามาเถอะ” ซูเฟยหรงตอบด้วยเสียงที่เบาลง ขณะนี้นางรู้สึกเหนื่อยล้ามากเกินกว่าจะมีอารมณ์โกรธหรือเสียใจอีกต่อไป
หยางเซียงเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับน้ำและผ้าเช็ดตัวที่สะอาด นางยิ้มให้ซูเฟยหรงแม้จะเห็นสภาพของนางที่น่าเวทนา สาวใช้ก้าวเข้ามาใกล้ และวางผ้าเช็ดตัวลงข้าง ๆ ถาดอาหาร
“พระชายา มีอะไรให้บ่าวช่วยบอกได้เลยนะเพคะ” หยางเซียงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ซูเฟยหรงมองนางด้วยความซาบซึ้งในใจ นางรู้ว่าหยางเซียงเป็นสาวใช้ที่ซื่อสัตย์และใส่ใจนางเสมอ นางส่ายหน้าไปมาเพื่อลบความคิดและความรู้สึกเศร้าหมองที่มีอยู่
“อืม..” นางกล่าวเสียงเบา
“พระชายา อย่าลืมว่าบ่าวอยู่ข้าง ๆ เสมอนะเพคะ” หยางเซียงยิ้มและเริ่มจัดระเบียบสิ่งของบนโต๊ะให้เรียบร้อยขึ้น
ซูเฟยหรงมองดูนางทำงานด้วยความรู้สึกอบอุ่นเล็กน้อย แต่นางก็ยังไม่สามารถลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนที่ผ่านมาได้ คำพูดและการกระทำของหลี่หยางเจี้ยนยังคงติดอยู่ในใจของนางเหมือนเงาที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
เมื่อหยางเซียงจัดของเรียบร้อยแล้ว นางก็หันกลับมาที่ซูเฟยหรงอีกครั้ง “พระชายาเพคะ วันนี้จะไปเข้าเฝ้าองค์ชายสามหรือไม่เพคะ?”
“ไม่รู้สิ” ซูเฟยหรงตอบพลางขมวดคิ้ว
ซูเฟยหรงถอนหายใจ เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ นางจึงตัดสินใจต้องทำให้ดีที่สุดในสถานการณ์ที่แย่เช่นนี้ ถ้านางต้องใช้ชีวิตในร่างนี้ให้อยู่รอดและมีความสุข นางจะต้องหาวิธีที่จะเปลี่ยนแปลงมันให้ได้
“จริงสิ ถ้ามีใครมาขอพบ ให้บอกว่า... ข้ายังไม่พร้อมพบใคร” นางกล่าวอย่างมั่นใจ
“เพคะ” หยางเซียงพยักหน้าและถอยออกไปจากห้อง ทิ้งให้นางอยู่ตามลำพังอีกครั้ง
เมื่อประตูปิดลง ซูเฟยหรงเริ่มรู้สึกถึงความว่างเปล่าในห้อง นางยืนขึ้นและเดินไปที่หน้าต่าง มองดูท้องฟ้าสดใสในยามเช้า เสียงนกร้องดังแว่วมาในอากาศ
“ต้องมีทางออก” นางพูดกับตัวเองเบา ๆ ขณะที่มองออกไปที่ทิวทัศน์เบื้องหน้า ในใจของนางมีความมุ่งมั่นที่จะไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา และนางจะต้องหาวิธีทำให้ชีวิตนี้ดีขึ้นให้ได้
ซูเฟยหรงใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องหอเป็นเวลาสามวัน โดยมี หยางเซียง คอยดูแลนางอย่างใกล้ชิด ในช่วงเวลานั้นนางได้ใช้เวลาในการปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่และพยายามทำความเข้าใจเกี่ยวกับร่างนี้มากขึ้น
ในช่วงเวลาที่อยู่ในห้อง ซูเฟยหรงเริ่มรู้จักและเข้าใจถึงความเป็นมาเป็นไปของชีวิตในร่างใหม่ ในความเป็นจริงนางเป็นลูกสาวของ ซูเจี้ยน เจ้ากรมพระคลังผู้มีอำนาจในราชสำนัก บิดาของนางมีตำแหน่งที่สูงส่งและได้รับการเคารพนับถือในวงการ แต่สำหรับซูเฟยหรงแล้ว การถูกบังคับให้แต่งงานกับ องค์ชายสาม เป็นสิ่งที่นางไม่เคยคิดฝันว่าจะเกิดขึ้น
“ทำไมถึงต้องให้ข้าต้องแต่งงานกับเขาด้วย?” นางคิดในใจขณะนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง พลางนึกถึงใบหน้าขององค์ชายที่มีท่าทางเย็นชาและจองหอง นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธและแค้นเคือง เพราะการแต่งงานนี้ไม่เพียงแต่ทำลายความฝันของร่างเดิ แต่ยังทำให้นางต้องใช้ชีวิตในสภาพที่นางไม่เคยปรารถนา
“พระชายาเพคะ” เสียงหยางเซียงเรียกนางกลับมาจากความคิด
“บ่าวทำซุปข้าวโพดอ่อนและเนื้อไก่ให้เพื่อให้พระชายาได้รับสารอาหารที่เพียงพอ” หยางเซียงยิ้มให้กำลังใจ นางค่อย ๆ ยกถาดอาหารมาให้นาง
ซูเฟยหรงมองดูอาหารที่จัดไว้อย่างน่ารับประทาน แต่ก็ยังรู้สึกไม่มีอารมณ์ที่จะรับประทาน นางเพียงส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะตั้งใจคิดว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป
ในช่วงสามวันที่ผ่านมา ซูเฟยหรงได้ใช้เวลานั่งคิดทบทวนเกี่ยวกับชีวิตใหม่ที่นางได้รับ นางเริ่มวางแผนและตั้งใจว่าจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับโลกใหม่ที่เธอต้องอยู่ รวมถึงการทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของตัวเอง โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับองค์ชายสามที่นางต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
“ข้าจะไม่ยอมแพ้ ข้าต้องหาทางแก้ไขทุกอย่าง” นางพูดกับตัวเองอีกครั้ง แม้ว่าจะยังไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไร แต่ซูเฟยหรงรู้ว่าตนต้องไม่ยอมจำนนต่อชะตากรรมและจะต้องต่อสู้เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง
นางรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่นางต้องแสดงความเข้มแข็งและยืนหยัดในสิ่งที่นางต้องการ จิตใจที่ร้อนรนและแน่วแน่ทำให้นางตัดสินใจว่า “จะขอหย่า”
“หยางเซียง” นางเรียกสาวใช้ที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด “เจ้าช่วยข้าเปลี่ยนชุดให้หน่อย ข้าจะไปพบองค์ชายสาม”
หยางเซียงขมวดคิ้ว เมื่อได้ยินคำขอของพระชายา “พระชายาเพคะ เอ่อ… องค์ชายสามไม่อยู่เพคะ”
“ไม่อยู่?” ซูเฟยหรงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ไม่คิดจะยอมแพ้ “แล้วรู้หรือว่าไปไหน?”
-----------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้จนถึงตอนนี้นะคะ! ถ้าชอบตอนนี้และอยากเป็นกำลังใจให้นักเขียน สามารถส่งของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ได้เลยนะคะ ขอบคุณทุกการสนับสนุนมาก ๆ เลยค่ะ ^-^
ความคิดเห็น