คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : ตอนที่ 20: โมโหจนหันหลังกลับ
ซูเหวินจิ้งมองลูกชายทั้งสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาเห็นแววตาของพวกเขาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและคาดหวัง สองพี่น้องต่างก็แสดงท่าทีอยากรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างมาก ความกระวนกระวายของพวกเขาทำให้เขาครุ่นคิดถึงสิ่งที่ได้ยินมา
"หึ... ดูเหมือนเจ้าทั้งสองจะอยากรู้อะไรหลายอย่างนะ" ซูเหวินจิ้งเอ่ยด้วยเสียงเรียบๆ ราวกับกำลังพิจารณาสิ่งที่อยู่ในใจ แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยความคิดที่ซับซ้อน "เช่นนั้น พวกเจ้าก็ไปเถอะ หากจะไปสอบถามเรื่องนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร"
ซูเหวินเหอและซูเฟยเฉินแลกสายตากัน
"ขอบคุณท่านพ่อขอรับ" ซูเหวินเหอเอ่ยด้วยความเคารพ ขณะที่ซูเฟยเฉินก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว
"ข้าจะไปเตรียมรถม้าเดี๋ยวนี้ขอรับ" ซูเฟยเฉินรีบพูด ก่อนจะเดินออกไปทันทีเพื่อจัดการเรื่องการเดินทาง
ซูเหวินจิ้งมองตามลูกชายทั้งสองไปอย่างนิ่งเฉย ก่อนจะหันกลับไปคิดถึงคำพูดขององค์ชายใหญ่และการออกแบบของซูเฟยหรง เขาก็รู้สึกถึงความแปลกประหลาดในใจ
"ซูเฟยหรง... เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?" เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจไปยังจวนองค์ชายสาม
ซูเหวินจิ้งและซูเหวินเหอก็เดินขึ้นรถม้าไปพร้อมกัน แต่ซูเฟยเฉินนั้นกลับขอขี่ม้าตามทางไปเอง เขารู้สึกว่าไม่อยากนั่งนิ่งๆ ในรถม้า และบางครั้งก็ชอบความรู้สึกของการขี่ม้าตามลำพังเพื่อคิดอะไรเงียบๆ ด้วยตัวเอง
"ท่านพี่... ข้าขอขี่ม้าเองดีกว่า" ซูเฟยเฉินเอ่ยขณะกำลังจะขึ้นรถม้า
ซูเหวินเหอหันไปมองน้องชายแล้วพยักหน้า "เจ้าก็ทำตามใจเถอะ ข้าไม่ว่าอะไร"
ซูเฟยเฉินยิ้มให้แล้วเดินไปทางม้าของตนเองก่อนจะขึ้นม้าพร้อมกับขับออกไปจากจวน ซูเหวินเหอก็หันไปบอกบ่าวรับใช้ให้ไปขึ้นรถม้าและเดินทางไปกับเขา
การเดินทางในวันนี้เป็นการเดินทางที่เงียบสงบ ซูเหวินเหอกับซูเฟยเฉินแต่ละคนต่างคิดในใจเกี่ยวกับเรื่องที่เพิ่งได้ยินมาเกี่ยวกับซูเฟยหรง และในขณะเดียวกันก็คิดถึงสิ่งที่พวกเขาต้องทำต่อไป
เมื่อมาถึงจวนองค์ชายสาม พ่อบ้านที่ยืนอยู่หน้าประตูจวนก็รีบเดินออกมาเพื่อทักทายและต้อนรับแขกที่มาถึง ด้วยท่าทางสุภาพและมีมารยาท พ่อบ้านยิ้มให้ก่อนจะเอ่ยถามอย่างเป็นทางการ "ท่านเสนาบดีซูมาหาพระชายารึขอรับ?"
ซูเหวินเหอและซูเฟยเฉินที่เดินตามกันมา พยักหน้าเล็กน้อยและตอบด้วยท่าทางสงบ "ข้ามาหาพระชายา ข้ามีเรื่องต้องพูดคุยกับพระนาง" ซูเหวินเหอเอ่ยออกไปพร้อมกับมองไปที่พ่อบ้าน
พ่อบ้านพยักหน้ารับแล้วกล่าวด้วยเสียงสุภาพ "เชิญท่านตามข้ามาเลยขอรับ ข้าจะพาท่านไปยังห้องรับแขกที่พระชายาอยู่"พ่อบ้านกล่าวพลางยิ้มให้ ก่อนที่จะหันหลังเดินนำทางไป
ระหว่างทางเดินผ่านสวนที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ซูเหวินเหอและซูเฟยเฉินก็มองเห็นการจัดการภายในจวนที่เรียบร้อยและเงียบสงบ ทั้งสองพี่น้องต่างก็สงสัยในใจ
เมื่อพ่อบ้านเข้ามาแจ้งว่า "พระชายาขอรับ มีคนมาพบท่าน" ซูเฟยหรงก็ชะงักเล็กน้อยจากการวาดแบบร้านที่กำลังทำอยู่ มือที่ถือแท่งถ่านชะงักกลางอากาศ ก่อนที่นางจะตั้งสติและวางลงอย่างระมัดระวัง แล้วหันไปมองพ่อบ้าน "ใครกัน?"
พ่อบ้านตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ "ท่านเสนาบดีซูและคุณชายทั้งสองขอเข้าพบขอรับ"
คำว่า "ท่านเสนาบดีซู" ทำให้ซูเฟยหรงรู้สึกสะดุดใจเล็กน้อย แม้ว่านางจะไม่สนใจมากนัก แต่การที่เขามาที่จวนองค์ชายสาม มันก็เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา นางนึกสงสัยว่าจะเป็นเรื่องอะไร แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีตกใจอะไร ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะจัดการให้เด็ดขาดไปเลย
"พระชายา..." หยางเซียงเอ่ยอย่างกังวล
"เชิญเข้ามาเถอะ" ซูเฟยหรงตอบไปด้วยท่าทีสงบและยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับยกมือเชิญให้พ่อบ้านพาท่านเสนาบดีและลูกชายทั้งสองเข้ามาในห้องรับแขก
ไม่นานนัก ซูเหวินจิ้งก็เดินเข้ามาพร้อมกับลูกชายทั้งสองคน ซูเหวินเหอและซูเฟยเฉิน พวกเขาทั้งสามคนเดินเข้ามาภายในห้อง โดยที่ซูเฟยหรงนั่งนิ่งๆ ให้หยางเซียงไปรอข้างนอก
"ท่านเสนาบดี กับคุณชายทั้งสอง มาเยี่ยมข้าถึงที่นี่เชียวหรือ?" ซูเฟยหรงเอ่ยถามด้วยท่าทางผ่อนคลาย แต่ในใจยังคงรู้สึกสงสัยว่าพวกเขามาเรื่องใดกัน
"เจ้าเหตุใดจึงเรียกพวกเราแบบนี้ล่ะ?" ซูเหวินเหอเอ่ยอย่างไม่พอใจ
"ไม่ใช่ว่าโบราณว่าเอาไว้หรอกรึ ว่าลูกสาวที่แต่งออกไปก็เหมือนน้ำที่สาดออกไปนะ แล้วก็ตอนนี้ข้าเป็นพระชายาองค์ชายสาม รักษามารยาทด้วย" นางเอ่ยอย่างช้าๆไม่รีบแต่ชัดเจนทุกคำ
คำพูดของซูเฟยหรงทำให้ห้องรับแขกตกอยู่ในความเงียบกึกก้อง ท่ามกลางสายตาของซูเหวินเหอและซูเฟยเฉินที่เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี ซูเฟยหรงไม่ได้หลบสายตาของท่านเสนาบดีที่ตอนนี้ใบหน้าหมองคล้ำขึ้นเพราะความโกรธ ปากของเขาอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับหยุดลง
"เจ้าพูดอะไรนะ? เจ้าพูดกับข้าแบบนี้ได้ยังไง?" ซูเหวินจิ้งเอ่ยด้วยเสียงแข็งกร้าว ใบหน้าบิดเบี้ยวจากความโมโห
"ถ้าไม่ใช่เพราะข้าเจ้าจะได้เป็นถึงพระชายารึ?! มีหัวคิดเสียบ้าง!"
ซูเฟยหรงไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด นางยกมือขึ้นอย่างสงบเพื่อยกถ้วยน้ำชาไปดื่ม ก่อนจะวางลงแล้วพูดกลับไปอย่างเย็นชา "ข้าจำได้ว่าข้าข้าไม่เคยอยากเป็นพระชายาเลย และข้าก็ไม่จำเป็นต้องเรียกท่านว่า 'พ่อ' ในเมื่อท่านไม่เคยสนใจข้าเลยแม้แต่น้อย"
ซูเหวินจิ้งรู้สึกเจ็บปวดจากคำพูดนั้น แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาหรี่ตามองลูกสาวอย่างไม่พอใจ "เจ้ากล้าพูดแบบนี้กับข้าได้ยังไง? ข้าคือคนที่ให้กำเนิดเจ้านะ!"
ซูเฟยหรงไม่ยอมให้คำพูดนั้นส่งผลต่อนางแม้แต่น้อย นางยิ้มบางๆ โดยที่แววตาของนางไม่สะทกสะท้าน "จริงอยู่ที่ท่านเป็นคนให้กำเนิดข้า แต่ข้าไม่ได้รับการเลี้ยงดูจากท่าน สิ่งที่ท่านให้มาเพียงแค่ชีวิตเพียงเท่านั้น แต่ไม่ได้ให้ความรักหรือการดูแลใดๆ ท่านเห็นแค่ว่าใครมีประโยชน์กับตัวเองมากกว่าก็เท่านั้น หรือไม่จริง"
คำพูดของนางทำให้บรรยากาศในห้องยิ่งทวีความตึงเครียด ซูเหวินเหอที่ยืนอยู่ข้างๆ รู้สึกอึดอัด แต่ก็ไม่กล้าออกหน้าเพื่อพูดอะไร ขณะที่ซูเฟยเฉินก็ทำแค่ยืนดูการสนทนาระหว่างพ่อลูกอย่างเงียบๆ โดยไม่ได้พูดออกมา เพราะเขาก็รู้ว่าท่านพ่อเป็นคนแบบไหน
ซูเหวินจิ้งกัดฟันแน่น เขาพยายามกลบความโกรธที่มีในใจ แต่ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเสียงของลูกสาวที่พูดออกมาเจ็บแสบไม่น้อย "ดี! หากเจ้าคิดอย่างนั้น ข้าก็ไม่จำเป็นต้องมายืนฟังคำพูดของเจ้าอีกต่อไป ต่อจากนี้ไปเจ้าจะตายร้ายดียังไงข้าก็ไม่สน" เขาหันไปทางลูกชายทั้งสอง "กลับ!"
ซูเฟยเฉินขมวดคิ้ว มองไปที่พี่สาวที่ยืนอยู่และเห็นการกระทำของท่านพ่อ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ขณะที่ซูเหวินเหอก็แค่หลุบตาลงไปเงียบๆ
ซูเฟยเฉินที่เห็นท่านพ่อโมโหจนต้องเดินออกจากห้องไป รีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่พยายามอ่อนโยน "ท่านพ่อใจเย็นๆก่อน ท่านพี่พูดกับท่านพ่อแบบนี้ได้ยังไง?" เขาหันไปมองพี่สาวที่ยืนอยู่โดยไม่แสดงท่าทีอะไร และรู้สึกว่าในใจของท่านพ่อคงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ยังต้องการให้ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกัน
"ข้าพูดไม่ผิดเสียหน่อย" นางเอ่ยพลางหยักไหล่
แต่ซูเหวินจิ้งไม่ฟังเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่พูดอะไรอีก ซูเฟยหรงไม่ได้ตามไปหรือแสดงความรู้สึกอะไร นางเพียงแค่หันไปมองน้องชายที่ยังยืนอยู่ข้างๆ
ซูเฟยเฉินลังเลอยู่เล็กน้อย แต่ในที่สุดเขาก็ยิ้มบางๆ แล้วพูดขึ้น "ข้าแค่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่านถึงทำเช่นนี้กับท่านพ่อ ท่านพ่อก็แค่ต้องการรู้ว่าท่านเป็นอย่างไงบ้าง.."
ซูเฟยหรงตอบกลับด้วยน้ำเสียงสงบ "เขาไม่ได้มาหาข้าเพราะห่วงใยข้าหรอก แต่เพราะเขากำลังคิดถึงผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่า" นางยิ้มเล็กน้อย "และการที่เขามาที่นี่ก็ไม่ใช่การแสดงความรัก แต่เป็นการพยายามควบคุมข้าในรูปแบบที่เขาคิดว่าจะได้ผล"
ซูเฟยเฉินมองพี่สาวของตนอย่างเงียบๆ เขายังไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมด แต่ในหัวใจลึกๆ ก็เริ่มเกิดความสงสัยในตัวพี่สาว ว่านางเปลี่ยนไปขนาดนี้ได้ยังไง เหมือนเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
ซูเฟยหรงหันไปมองน้องชายของตน นางยิ้มบางๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ "เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ตอนนี้ข้าสบายดี" นางยิ้มให้น้องชายอย่างขมขื่น "ถ้าเขามาหาเพราะหวังดีจริงๆก็ดี" แต่ตอนนี้ซูเฟยหรงคนนั้นไม่อยู่แล้ว...
คำพูดของซูเฟยหรงทำให้ซูเฟยเฉินรู้สึกแปลกใจ นางไม่ได้แสดงอาการโกรธหรือเศร้าเสียใจ แต่ท่าทางของนางกลับแฝงไปด้วยความเย็นชา และดวงตาที่จ้องมองไปที่ท่านพ่อก็ทำให้เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ลึกๆ
ซูเฟยเฉินรู้สึกอึดอัดและลำบากใจ เขามองไปที่พี่สาวของตนแล้วกล่าว "ท่านพี่ ข้าขอโทษนะ ข้ารู้ว่าเราไม่สามารถกลับไปแก้ไขอดีตได้ แต่ว่าท่านพ่อยังคงเป็นท่านพ่อของเรา" เขาหยุดพูดไปเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจพูดต่อ "ข้าหวังว่าอย่างน้อยท่านพ่อเจ้าเข้าใจในสักวัน"
นางไม่ได้เก็บคำพูดพวกนั้นมาคิด ก่อนจะยิ้มออกมา "หากมีคำถามอะไรอีก ก็พูดมาเถอะ ข้าจะบอกเจ้า"
"อ๋อ! จริงด้วย คือว่าเห็นว่าท่านเป็นคนคิดแผนแก้ไขปัญหาภัยแล้ง? เป็นท่านจริงๆรึ?"
ซูเฟยหรงนั่งเงียบ ๆ ใบหน้ายังคงนิ่งเฉย แม้ว่าภายในใจจะรู้สึกตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย แต่นางก็ยังคงรักษาท่าทีเย็นชาเอาไว้ "ใช่ ข้าเป็นคนคิดค้นมันเอง" นางตอบสั้น ๆ โดยไม่แสดงอาการตกใจหรือยินดีอะไร เพราะในใจของนางการที่มีคนมาถามถึงเรื่องนี้ก็แค่การยืนยันก็เท่านั้น
ซูเฟยเฉินขมวดคิ้ว "แต่ท่านพี่ ท่านรู้หรือไม่ว่าเรื่องนี้มันใหญ่หลวงแค่ไหน หากการออกแบบนี้ผิดพลาด ผลที่ตามมาจะเป็นเรื่องที่ยากเกินจะแก้ไข"
ซูเฟยหรงยิ้มเล็กน้อย "ข้าเข้าใจดี... แต่หากไม่ลอง ก็จะไม่มีทางรู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่ อีกอย่างข้าก็มั่นใจว่ามันจะสำเร็จ" นางเอ่ยอย่างมั่นคง
-----------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้จนถึงตอนนี้นะคะ! ถ้าชอบตอนนี้และอยากเป็นกำลังใจให้นักเขียน สามารถส่งของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ได้เลยนะคะ ขอบคุณทุกการสนับสนุนมาก ๆ เลยค่ะ ^-^
ความคิดเห็น