คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2: เธอเกิดใหม่ในโลกจีนโบราณ
หลังจากที่แสงสว่างสุดท้ายดับไป เซี่ยเหม่ยหลิงรู้สึกเหมือนดวงจิตของเธอถูกพัดพาไปยังที่แห่งหนึ่ง มันเป็นความรู้สึกแปลกประหลาด ร่างกายของเธอเบาหวิว และทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวดูเงียบสงบ ไร้ซึ่งความเร่งรีบและความกังวลที่เธอเคยเผชิญในชีวิตเก่า
เธอพยายามลืมตาขึ้น แต่พบว่าทุกอย่างเบลอและพร่ามัว เธอไม่สามารถขยับตัวได้ ราวกับว่าร่างกายของเธอไม่ได้เป็นของเธออีกต่อไป เสียงบางอย่างเริ่มเข้ามาในโสตประสาทของเธอ เป็นเสียงคนพูดกันเบาๆ แต่เธอไม่เข้าใจในทันทีว่าพวกเขากำลังพูดอะไร
ความรู้สึกหนาวเย็นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย และเมื่อเธอเริ่มรู้สึกถึงการสัมผัสจากพื้นผิวที่แปลกประหลาด เธอก็รู้ทันทีว่าเธอไม่ได้อยู่ในห้องทำงานที่ทันสมัยของเธออีกต่อไป ทุกสิ่งทุกอย่างดูแปลกตา ราวกับเธอหลุดเข้าไปในอีกยุคหนึ่ง
เสียงฝีเท้าแผ่วเบาเริ่มเข้ามาใกล้ และทันใดนั้นเธอก็รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่มาจากใครบางคนที่พยายามเรียกชื่อของเธอ "เหม่ยหลิง... น้องเหม่ยหลิง เจ้ายังไม่ตื่นอีกหรือ?"
เสียงนั้นนุ่มนวลและเต็มไปด้วยความห่วงใย แต่มันเป็นภาษาที่เซี่ยเหม่ยหลิงไม่ได้ใช้มานานแล้ว — เป็นภาษาจีนโบราณที่เธอเคยเรียนตอนเด็กๆ และไม่คาดคิดว่าจะได้ยินอีกครั้ง
'น้องเหม่ยหลิง?' เซี่ยเหม่ยหลิงรู้สึกงุนงงและพยายามขยับตัวไปยังแหล่งที่มาของเสียงนั้น รู้สึกว่าร่างกายของเธอเริ่มตอบสนองช้าๆ เมื่อเธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างเต็มที่ ภาพเบื้องหน้าของเธอค่อยๆ ชัดเจนขึ้น
ที่ตรงหน้าของเธอมีเด็กหนุ่มวัยประมาณสิบเจ็ดปี กำลังจ้องมองเธอด้วยความห่วงใย ใบหน้าของเขามีเส้นผมสีดำยาวบางๆ ที่ปิดหน้าผาก เขาสวมเสื้อผ้าที่ดูเก่าๆ แต่สะอาดสะอ้าน มีความรู้สึกอ่อนโยนในแววตา
"เจ้าตื่นแล้ว!" เด็กหนุ่มพูดด้วยความโล่งอก "ข้าคิดว่าเจ้าป่วยหนักจนขยับตัวไม่ได้เสียอีก" เขานั่งลงข้างเตียงพร้อมยื่นมือมาแตะหน้าผากของเธอเพื่อดูว่าเธอยังมีไข้หรือไม่
เซี่ยเหม่ยหลิงมองเด็กหนุ่มคนนั้นด้วยความงุนงง 'เขาเป็นใครกัน?' เธอสงสัยในใจ เมื่อหันไปมองรอบๆ ห้อง เธอก็พบว่าตัวเองอยู่ในกระท่อมเล็กๆ ที่ดูเรียบง่าย ผนังทำจากไม้เก่าๆ และเครื่องเรือนมีเพียงไม่กี่ชิ้น เธออยู่บนเตียงที่ทำจากไม้หยาบๆ มีผ้าห่มบางๆ คลุมตัวเธอไว้
'ที่นี่คือที่ไหน?' เธอเริ่มตื่นตระหนกในใจเมื่อรู้ว่าสถานที่ที่เธออยู่แตกต่างจากชีวิตเก่าของเธออย่างสิ้นเชิง ไม่มีเทคโนโลยี ไม่มีเครื่องใช้สมัยใหม่ มันเหมือนกับโลกที่หลุดออกมาจากประวัติศาสตร์จีนโบราณ
เมื่อหันกลับมาที่เด็กหนุ่ม เซี่ยเหม่ยหลิงพยายามถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า "ข้า... ข้าอยู่ที่ไหน?" เสียงของเธอฟังดูแปลกสำหรับเธอเอง มันเบาและอ่อนล้า ราวกับเธอไม่ได้ใช้เสียงนี้มานาน
เด็กหนุ่มมองเธอด้วยความงุนงง "เจ้าพูดอะไรน่ะ? ที่นี่ก็ห้องของเจ้าอย่างไรเล่า?" เขายิ้มเล็กๆ พร้อมพูดอย่างอ่อนโยน
"ข้า... ไม่เข้าใจ" เซี่ยเหม่ยหลิงรู้สึกงุนงงกับสถานการณ์ เธอพยายามเรียบเรียงความคิดของตัวเองให้ชัดเจน 'ข้าตายไปแล้ว... แล้วข้ามาที่นี่ได้อย่างไร?' เธอสงสัยในใจ
เด็กหนุ่มมองเธอด้วยความเป็นห่วง "น้องเล็ก เจ้าป่วยหนักมาหลายวัน ข้ากับพี่ใหญ่เฝ้าเจ้าอยู่ตลอดเวลา แต่โชคดีที่อาการของเจ้าเริ่มดีขึ้นในวันนี้ ข้าได้แต่หวังว่าเจ้าจะฟื้นตัวไวๆ และกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง"
'เหม่ยหลิง... น้องเล็ก...' ชื่อนั้นซ้ำในหัวของเธอ เธอเริ่มรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ชื่อของเธอเพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นชื่อที่ถูกเรียกโดยคนอื่นๆ รอบตัวเธอ
ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าเธอได้ตายไปแล้วในโลกเก่าของเธอ และบัดนี้ เธอได้เกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่มีชื่อเดียวกัน แต่เธอไม่ได้เป็นพนักงานออฟฟิศที่ทำงานหนักอีกต่อไป เธอเป็นหญิงสาวในหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่งในโลกจีนโบราณ
'นี่คือชีวิตใหม่ของข้าหรือ?' เซี่ยเหม่ยหลิงคิดในใจ ความตกตะลึงเริ่มจางหายไปช้าๆ แทนที่ด้วยความสับสนและคำถามมากมายเกี่ยวกับชีวิตใหม่ของเธอ
"ข้า..." เธอเริ่มพูดอีกครั้ง แต่หยุดกลางคันเมื่อเธอพยายามรวบรวมความคิด "แล้วข้า... อาศัยอยู่กับใครที่นี่?" เธอถามด้วยความลังเล
"จะอยู่กับใครกัน? ก็ต้องข้ากับพี่ใหญ่ของเจ้าไงล่ะ" เด็กหนุ่มตอบอย่างง่ายดาย "พวกเราสามคนพี่น้องเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้าลืมไปแล้วหรือ?"
เซี่ยเหม่ยหลิงพยายามเก็บข้อมูลใหม่เข้ามาในสมองของเธอ 'พี่ชายสองคน... ข้าคงต้องเริ่มทำความเข้าใจกับชีวิตใหม่นี้ให้ได้' เธอคิดพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ
"พี่ใหญ่ไปทำงานในทุ่งนาอยู่ ข้าเองก็จะไปช่วยเขาเดี๋ยวนี้ เจ้าพักผ่อนต่อไปก่อนเถอะ อ๋อส่วนโจ็กข้าอุ่นไว้ให้แล้วอย่าลืมไปกินล่ะ" เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้อง ทิ้งให้เซี่ยเหม่ยหลิงอยู่คนเดียวในห้องเงียบๆ
"ดะ...เดี๋ยว..เฮ้อ" เซี่ยเหม่ยหลิงนอนลงอีกครั้ง ขณะที่ความคิดของเธอเต็มไปด้วยคำถามต่างๆ เกี่ยวกับชีวิตใหม่ที่เธอต้องเผชิญ เธอจะทำอย่างไรต่อไป? ชีวิตในโลกนี้จะเป็นอย่างไร? ความสงบสุขที่เธอตามหาอยู่ที่นี่หรือเปล่า?
แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้แน่ๆ คือเธอได้รับโอกาสใหม่ในชีวิต และเธอจะไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป
เซี่ยเหม่ยหลิงนอนลงอย่างเชื่อฟัง ตามที่พี่ชายแนะนำ เธอพยายามปล่อยให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เสียงนกร้องและลมพัดเบาๆ เข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและหลับไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเวลาผ่านไป เธอไม่แน่ใจว่าหลับไปนานแค่ไหน แต่เสียงของสัตว์เลี้ยงและเสียงคนในหมู่บ้านเริ่มชัดเจนขึ้น พร้อมกับกลิ่นหอมของโจ๊กที่ลอยมาในอากาศ มันทำให้เธอตื่นขึ้นอีกครั้งและรู้สึกหิว
เซี่ยเหม่ยหลิงค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียง เธอมองไปรอบๆ ห้องที่ตอนนี้เริ่มมีแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาเต็มที่ เธอเห็นว่าห้องที่เธอพักอยู่มีบรรยากาศเรียบง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน มีเพียงเตียงไม้เรียบๆ กับโต๊ะเล็กๆ ที่วางอยู่ด้านข้าง
เธอเดินออกมาจากห้อง เข้าไปในส่วนที่เปิดโล่งของกระท่อม และเห็นว่าข้างนอกมีแสงแดดส่องลงมาอย่างอบอุ่น เธอหายใจเข้าลึกๆ เพื่อรับรู้ถึงกลิ่นอายของธรรมชาติที่สดชื่น รู้สึกถึงความสงบและความสุขที่ไม่เคยสัมผัสได้ในชีวิตเก่า
ถึงแม้ที่นี่จะดูเก่าและโทรมไปหน่อยแต่กลับรู้สึกดีจริงๆ
"น้องเหม่ยหลิง!?" เสียงที่คุ้นเคยของพี่ใหญ่แซ่เซี่ยดังขึ้น ทำให้เธอตื่นจากภวังค์ เธอหันไปมองเห็นพี่ชายสองคนของเธอเดินเข้ามาในบ้าน พี่ใหญ่ของเธอ ชื่อเซี่ยหยวน เป็นชายหนุ่มที่สูงใหญ่และมีบุคลิกหนักแน่น ขณะที่พี่รองชื่อเซี่ยเฉิงมีใบหน้าอ่อนโยน และดูอบอุ่น
ทั้งสองคนมองไปที่น้องสาวของพวกเขาอย่างเป็นห่วง พี่ใหญ่เดินเข้ามาใกล้และกล่าวด้วยเสียงนุ่มนวล “เหม่ยหลิง เจ้ารู้สึกดีขึ้นหรือยัง?”
“ข้ารู้สึกดีขึ้นแล้ว ขอบคุณที่เป็นห่วงเจ้าคะ” เธอตอบอย่างเขินอาย
ส่วนเซี่ยเฉิงหายไปที่ครัว ทำให้เซี่ยเหม่ยหลิงได้มีเวลาสังเกตพี่ใหญ่ของเธอ เซี่ยหยวนดูแลน้องสาวอย่างใกล้ชิด เขาค่อยๆ นั่งลงข้างๆ เธอและถามด้วยความห่วงใย “เจ้ารู้สึกเจ็บปวดตรงไหนอีกไหม? ข้าจะพาเจ้าไปหาหมอหากยังรู้สึกไม่ดี”
“ไม่...ข้าไม่เจ็บปวดตรงไหนแล้ว ข้าแค่รู้สึกอ่อนเพลียเท่านั้น” เซี่ยเหม่ยหลิงตอบ พลางยิ้มให้พี่ชาย “พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวล”
เซี่ยหยวนยิ้มตอบ “เจ้าคือคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตพวกเรา ข้ากับพี่รองของเจ้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้าอยู่แล้ว”
เซี่ยเหม่ยหลิงรู้สึกอบอุ่นในใจที่ได้รับความรักและการดูแลจากพี่ชายสองคน แม้ว่าเธอจะเพิ่งมาอยู่ที่นี่ แต่ก็รู้สึกเหมือนมีครอบครัวที่รักและห่วงใยเธออย่างแท้จริง
---
“อาหารพร้อมแล้ว!” เสียงเซี่ยเฉิงดังมาจากครัว ทำให้เซี่ยเหม่ยหลิงหันไปมอง เธอเห็นพี่รองถือถ้วยข้าวต้มที่มีควันอบอวลมาทางเธอ
“ดูสิ ข้าวต้มร้อนๆ หอมๆ มันดีต่อสุขภาพนะ” เซี่ยเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี
เมื่อเซี่ยเฉิงวางถ้วยข้าวต้มลงบนโต๊ะ ข้าวต้มที่อยู่ในถ้วยมีสีขาวนวล รู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมของข้าวที่ถูกปรุงให้สุกอย่างดี “ลองชิมดูนะ” เซี่ยเฉิงพูดพลางยิ้ม
เซี่ยเหม่ยหลิงนั่งลงที่โต๊ะและยกถ้วยข้าวต้มขึ้นมาชิม เธอสังเกตเห็นว่าข้าวต้มมีเนื้อสัตว์หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ รวมถึงผักสดและสมุนไพรที่ดูน่าทาน “มันอร่อยมากเลย!” เธออุทานด้วยความตื่นเต้น
เซี่ยหยวนยิ้มอย่างพอใจ “ดีใจที่เจ้าไม่รู้สึกเบื่อหน่ายกับอาหารของพวกเรา ข้าหวังว่ามันจะช่วยให้เจ้าแข็งแรงขึ้น เจ้าต้องกินเยอะๆล่ะ”
"พวกพี่ก็กินด้วยสิ" เซี่ยเหม่ยหลิงเอ่ยขึ้นเมื่อนางเห็นบรรดาพี่ชายเอาแต่จ้องนาง
"น้องเล็กเป็นห่วงพี่รองหรือ? ช่างน่าดีใจยิ่งนัก น้องรักของพี่" เซี่ยเฉิงเอ่ยพลางทำสีหน้าตื่นตันใจ
ในระหว่างที่พวกเขาทานข้าวกันอย่างมีความสุข เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยทำให้บรรยากาศในบ้านอบอุ่นขึ้นมาก พี่ชายทั้งสองคนเล่าเรื่องราวการทำงานในทุ่งนาให้ฟัง ขณะที่เซี่ยเหม่ยหลิงฟังด้วยความสนใจและรู้สึกมีส่วนร่วมในชีวิตของพวกเขา
“เมื่อวานนี้พวกข้าเจอหมูป่าที่หลงเข้ามาในทุ่งนา ข้ากับพี่รองของเจ้าต้องวิ่งไล่มัน!” เซี่ยหยวนเล่าเสียงตื่นเต้น
“จริงเหรอ? แล้วพวกพี่จับมันได้หรือเปล่า?” เซี่ยเหม่ยหลิงถามอย่างสนใจ
“ไม่ทันนะสิ! มันวิ่งหนีเร็วมาก ข้าทำได้แค่แค่ดูมันวิ่งหนีไป” เซี่ยเฉิงพูดพลางหัวเราะ
“หวังว่าครั้งหน้าเราจะจับมันได้!” เซี่ยหยวนพูดด้วยความมุ่งมั่น “ถ้าเราได้หมูป่ามา ข้าสัญญาว่าจะทำอาหารอร่อยๆ ให้เจ้ากิน”
เซี่ยเหม่ยหลิงรู้สึกตื่นเต้นกับความคิดนั้น “ข้ารอคอยมันเลย!” เธอตอบด้วยรอยยิ้ม
หลังจากที่พวกเขาทานอาหารเสร็จ เซี่ยเหม่ยหลิงก็เริ่มช่วยทำความสะอาดโต๊ะ และพี่ชายทั้งสองคนก็มีส่วนร่วมช่วยงานบ้านกันอย่างสนุกสนาน
“น้องเหม่ยหลิง” เซี่ยหยวนพูดอย่างจริงจัง “พรุ่งนี้ข้าจะเข้าไปในเมือง เจ้าอยากได้อะไรหรือไม่ พี่ใหญ่จะซื้อมาให้”
“ตลาด?” เซี่ยเหม่ยหลิงถามด้วยความสนใจ
-----------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้จนถึงตอนนี้นะคะ! ถ้าชอบตอนนี้และอยากเป็นกำลังใจให้นักเขียน สามารถส่งของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ได้เลยนะคะ ขอบคุณทุกการสนับสนุนมาก ๆ เลยค่ะ ^-^
ความคิดเห็น